นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พวกเขาเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ที่คาดการณ์ว่าจะได้พบคนที่ตามหาอยู่ด้านในนั้น ตลอดทางล้วนมีชาวบ้านมายืนมองดูเป็นระยะ เนื่องจากเป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีแขกมาเยือนยังที่แห่งนี้
“พี่ชาย บ้านผู้ใหญ่ไปทางไหนหรือ” อาเซี่ยอาสาถามชายคนหนึ่งที่มายืนมองดูรถม้าพวกเขาด้วยเช่นกัน
“ไปตามทางนี้ได้เลย ไม่นานเดี๋ยวก็จะถึงบ้านผู้ใหญ่โจวแล้ว” เขาชี้ไปที่ถนนเส้นกลางหมู่บ้าน
“ขอบคุณมากพี่ชาย”
อาเซี่ยบังคับม้าคู่ใจนำทางไปตามที่ชายคนเมื่อครู่ได้บอกเอาไว้ โชคดีที่เส้นทางไม่ซับซ้อนจึงเดินทางมาถึงบ้านผู้เป็นใหญ่ในหมู่บ้านแห่งนี้ได้โดยง่าย
“ข้ามาพบผู้ใหญ่บ้านโจว” เขาตะโกนให้คนที่อยู่ภายในเรือนได้ยิน
“ผู้ใดกัน” ชายร่างผอมไม่สูงมากนักแต่ดูน่าเคารพนับถือเดินออกมาจากด้านในตัวบ้านขนาดกลาง
ไป๋อี้โยวไม่ตอบสิ่งใดออกไป มือหนาเพียงหยิบป้ายประจำตัวให้คนสูงวัยดูเท่านั้น ผู้ใหญ่บ้านโจวก็รีบตะลีตะลานเร่งต้อนรับเขาเข้าไปภายในเรือนทันที
“เชิญเข้ามาด้านในก่อนขอรับใต้เท้า”
“มิต้องมากพิธีไป ข้าไม่ได้มาอย่างเป็นทางการมากนัก” เขาตอบราบเรียบ
“เช่นนั้นใต้เท้าต้องการสิ่งใดหรือขอรับถึงได้เดินทางมายังถิ่นทุรกันดารด้วยตนเองเช่นนี้”
“ข้ามาตามหาคน เมื่อ 18 ปีที่แล้วหมู่บ้านแห่งนี้ได้มีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือไม่” ชายหนุ่มไม่พูดสิ่งใดมากมายแต่กลับเข้าเรื่องสำคัญเลยทันที
“18 ปีที่แล้วหรือขอรับ” ผู้ใหญ่บ้านโจวคิดอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นดวงตาของคนสูงวัยก็ได้เบิกกว้างขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เพราะหากกล่าวถึง 18 ปีที่แล้วนั้น มันเป็นปีที่พระโอรสองค์รองของฮ่องเต้องค์ก่อนได้หายตัวไป มิแน่ก็อาจจะสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็เป็นได้ เขามองชายหนุ่มผู้มีตำแหน่งสูงส่งเล็กน้อย คาดการณ์ว่าเขาคงมาเพื่อตามหาคนผู้นั้นเป็นแน่ มิเช่นนั้นคงไม่ออกตามหาด้วยตนเองเช่นนี้
“เวลานั้นมีการปราบกบฏที่ชายแดน บ้านเมืองไม่สงบสุข พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาๆ ที่รักตัวกลัวตาย คนทั้งหมู่บ้านจึงได้พากันอพยพไปยังเมืองเฉียว นี่เป็นไปมิได้เลยขอรับ ที่จะมีคนกล้ากลับมายังหมู่บ้าน”
“อพยพไปยังเมืองเฉียวงั้นหรือ”
“แล้วระหว่างทางมีใครหายไปบ้างหรือไม่เจ้าคะ” หญิงสาวที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้น
“คนหายหรือ..แน่นอนว่าย่อมต้องมี สงครามมักทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน แต่เรื่องมันก็นานมากแล้ว ข้าจำแทบมิได้เลยขอรับว่าครอบครัวใดมีผู้สูญหายหรือไม่”
“จำไม่ได้เลยหรือ” เยว่ซินถามย้ำอีกครั้ง
“มิแน่ว่าพวกท่านอาจมาเสียเที่ยวแล้ว” ชายสูงวัยเอ่ยตัดเยื่อใยไม่เหลือแม้แต่ความหวังให้พวกเขา
ไป๋อี้โยวสบตาหญิงสาวผู้เป็นหมอดูเล็กน้อย “เช่นนั้นเราขอพักที่นี่ในคืนนี้ก่อนออกเดินทางกลับแล้วกันนะผู้ใหญ่บ้านโจว”
“ได้ขอรับๆ เช่นนั้นพวกท่านพักผ่อนตามสบายเถอะ”
เมื่อชายสูงวัยหายไปลับสายตาแล้ว หญิงสาวผู้มีหน้าที่ดูดวงจึงส่งสายตาให้ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ออกไปเจรจากันที่ด้านนอก
“เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร”
นางยกมือกอดอก “ท่านมิเห็นท่าทางของผู้ใหญ่บ้านหรือ ข้าว่าเขาต้องมีอะไรปิดบังเราแน่ๆ”
“แน่ใจหรือ เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้าถึงยามอู่ในวันพรุ่งนี้เท่านั้น”
“ได้! ตกลงเจ้าค่ะ” เยว่ซินพูดอย่างท้าทาย
หญิงสาวแสร้งทำเป็นเดินเล่นไปรอบหมู่บ้านราวกับสตรีในเมืองหลวงที่มิเคยพบเห็นท้องไร่ทุ่งนา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้วเธอกำลังปรึกษาบางอย่างกับหานฉีโดยใช้วิธีสื่อสารทางจิต
“เจ้าว่าหัวหน้าหมู่บ้านผู้นั้นแปลกๆ หรือไม่ ใยข้าจึงรู้สึกว่าเขากำลังปิดบังบางสิ่งอยู่” ร่างบางนึกถึงท่าทางการหลบสายตาของคนสูงวัยขณะกำลังพูดถึงผู้สูญหาย
“แปลกอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ เหยียนเหยานางไปสอบถามวิญญาณในหมู่บ้านแห่งนี้มาเมื่อครู่ ความว่าครานั้นชาวบ้านแถบนี้ทั้งหมดอพยพไปเมืองเฉียวจริงๆ แต่ทว่าพวกเขาออกไปได้มินานนัก ก็มีชายหญิงคู่หนึ่งย้อนกลับมายังหมู่บ้านแห่งนี้”
“มีคนย้อนกลับมาหรือ เช่นนั้นหมายความว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นคนของหมู่บ้านแห่งนี้”
“ใช่แล้ว พวกเขาเล่าว่าผู้เป็นชายได้รับบาดเจ็บสาหัสเชียวล่ะ แต่เมื่อรักษาตัวจนดีขึ้นเล็กน้อยแล้วพวกเขาก็เร่งหนีออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ก่อนที่จะเริ่มมีการปะทะระหว่างทหารและกบฏเริ่นจื่อ”
“ถ้าผู้เป็นชายบาดเจ็บ เช่นนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเป็นคนที่เราตามหาก็ได้ นั่นหมายความว่าหากเรารู้ว่าหญิงชาวบ้านผู้นั้นเป็นใครชื่อแซ่อะไรก็อาจตามหาชายผู้นั้นพบน่ะสิ” เยว่ซินเอ่ยอย่างตื่นเต้นราวกับจะได้พบครอบครัวของตนเอง
“ใช่แล้ว” หานฉีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ดรุณีน้อยวัยปักปิ่นที่ยังเป็นมนุษย์และหานฉีผู้เป็นวิญญาณเดินสำรวจหมู่บ้านแห่งนี้ไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ลานกลางหมู่บ้านที่ดูเหมือนกำลังมีการชุมนุมของเหล่าเด็กน้อยอยู่
“ทำอะไรกันหรือ”
“แข่งคัดอักษรประจำเดือนขอรับ หากผู้ใดได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ จะได้รับรางวัลจากผู้ใหญ่บ้านขอรับ”
“คัดอักษรอย่างนั้นหรือ” หญิงสาวสบตาหานฉีอย่างแปลกใจในคำตอบของเด็กชาย อย่าว่าแต่เด็กยากจนในเมืองที่เจริญแล้วเลย เด็กในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้อ่านออกเขียนได้ช่างน่าเหลือเชื่อ!
ครั้นพระอาทิตย์ลาลับจากท้องนภา อากาศก็หนาวเย็นขึ้นทันใด ร่างเล็กที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนานั้นพลิกไปมาด้วยมีเรื่องให้ต้องขบคิดจึงไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ร่างบางลอบมองสาวใช้ที่ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงก่อนจะย่องออกไปด้านนอกอย่างเงียบเชียบราวกับแมวขโมย
“จะไปไหนหรือ”
ร่างบางชะงักทันควันเพราะเสียงที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังนั้นช่างเย็นเยียบผิดปกติ นางได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้เป็นผีร้ายอีกเลย หญิงสาวสูดหายใจเข้าไปลึกๆ จนเต็มปอดก่อนจะทำใจแข็งหันกลับไปมองดูช้าๆ แต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะเสียงเรียกนั้นมิใช่ใครอื่นไกลแต่เป็นหัวหน้าองครักษ์ไป๋จอมจับผิดนั่นเอง “ตกใจหมด”
“คิดจะหนีหรือ”
“ข้ามิได้คิดหนีเสียหน่อย เพียงแค่อยากออกมาคิดอะไรด้านนอกเท่านั้น” ใบหน้าหวานยับยู่ยี่เล็กน้อย
“อ้อ!..เช่นนี้นี่เอง”
“แล้วท่านมาทำอะไรที่ตรงนี้เจ้าคะ มิใช่ว่า....มาจับตาดูข้าหรอกนะ” นัยน์ตาดอกท้อหรี่ลงอย่างจับผิด
“ข้าแค่บังเอิญผ่านมาทางนี้เท่านั้น”
“อ้อออ....เป็นเช่นนี้นี่เอง” นางจงใจล้อเลียนคำพูดของเขา
หญิงสาวเดินนำชายหนุ่มออกมาที่ด้านนอก “ใต้เท้าได้เบาะแสอะไรบ้างหรือไม่เจ้าคะ”
“ชาวบ้านที่นี่รู้หนังสือ เจ้าคิดเห็นเช่นไร” เขาสังเกตท่าทีหญิงสาวด้านข้าง
“ข้าก็สงสัยเช่นกันเจ้าค่ะ โดยปกติแล้วถิ่นทุรกันดารเช่นนี้หายากนักที่จะมีผู้รู้หนังสือ ต่อให้พออ่านออกเขียนได้อยู่บ้าง แต่ก็มิน่าเขียนกันได้คล่องแคล่วเช่นนี้”
“ข้าอยากให้คนของใต้เท้าตรวจสอบผู้ใหญ่บ้านโจวเสียหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าสงสัยว่าเขาน่าจะมีสิ่งใดปกปิดอยู่เป็นแน่”
“ผู้ใหญ่บ้านโจวหรือ” เขาครุ่นคิด “เช่นนั้นข้าจะให้คนไปตรวจสอบ” ไป๋อี้โยวเป่านกหวีดที่คนทั่วไปไม่อาจได้ยินเสียง มีเพียงคนของเขาเท่านั้นที่สามารถได้ยินเสียงหวีดหวิวลอยไปตามสายลม ทันใดนั้นก็ได้มีเงาสายหนึ่งพุ่งตรงลงมาด้านหน้าที่พวกเขายืนอยู่อย่างรวดเร็ว คนผู้นั้นสวมชุดดำพลางเอาไว้อย่างมิดชิดจนมองดูไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่
“ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้านโจว” สิ้นเสียงคำสั่งของไป๋อี้โยว คนผู้นั้นก็ไม่รอช้าใดๆ รีบไปทำตามความต้องการของผู้เป็นนายเสียประเดี๋ยวนั้น