นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
ผู้แต่ง
หัตถ์หทัย
เรื่องย่อ
‘ไป๋อี้โยว’ หัวหน้าองครักษ์ประจำตัวฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หลิน
ได้รับคำสั่งให้ออกตามหาชินอ๋องผู้เป็นอนุชาอันเป็นที่รักยิ่งของฮ่องเต้
“หากเจ้าดูดวงแม่นจริง เช่นนั้นเจ้าบอกได้หรือไม่เล่าว่าคนที่ข้าตามหาอยู่ที่ใด”
‘เยว่ซิน’ หมอดูที่ร่ำลือกันว่าแม่นอย่างกับตาเห็น แท้จริงแล้วนั้นนางไม่ได้ดูดวงเป็นแต่อย่างใด หากแต่นางมีสัมผัสสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่มี ทั้งยังมีบริวารผีทั้งหลายที่คอยสอดแนมเรื่องราวชาวเมืองมาให้นางต่างหากล่ะ
“คิดมิถึงว่าท่านองครักษ์ผู้เกรียงไกรก็เป็นทาสแมวกับเขาด้วย”
°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°°
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งตัวละครและสถานที่ต่างๆเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน
“แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ” หญิงสาวค่อนข้างตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของผู้เป็นบิดา เพราะนี่อาจหมายความว่าเขาคือคนที่ตามหา
“18 ปีก่อน นางช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ทั้งยังรักษาจนหายดี แต่กระนั้นกลับน่าเสียดายที่ข้ามิอาจจำเรื่องราวเกี่ยวกับตนเองได้เลย ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาการปราบกบฏ อี้เหยาและพี่ชายที่อายุห่างกันหลายปีได้พลัดหลงกับบิดามารดา จึงพากันหนีภัยไปอยู่เมืองใกล้เคียงแทน โดยที่ข้าก็ได้ติดตามพวกเขาไปด้วย พวกเราอาศัยอยู่ในเรือนหลังเล็กๆ ด้วยความใกล้ชิดและนิสัยอ่อนโยนของนางจึงทำให้คนตกหลุมรักได้ไม่ยากเลย มินานข้าและแม่ของเจ้าก็ได้ตบแต่งกันอย่างเงียบๆ” เขาเหม่อมองไปด้านนอก
“ต่อมาพวกท่านก็กลับไปยังหมู่บ้านหลังเขาแห่งนั้น”
“ใช่แล้ว ปีนั้นเกิดเหตุมากมาย คราแรกคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตสงบสุขกับภรรยาไปจนแก่เฒ่าที่นั่น แต่มิคิดเลยว่าโจวอี้เยว่นางจะมีความคิดไม่บริสุทธิ์กับข้า”
“โจวอี้เยว่ น้องสาวของท่านแม่ใช่หรือไม่เจ้าคะ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า “นางเป็นฝาแฝดของมารดาเจ้า”
“ฝาแฝด!” คิ้วสวยขมวดยุ่ง
“พวกนางเหมือนกันมาก บางคราข้ายังแยกแทบมิออกว่าใครเป็นใคร แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็พบความแตกต่างของสองพี่น้องฝาแฝด สิ่งนั้นก็คือนิสัยส่วนตัว คนพี่มีนิสัยอ่อนโยน จิตใจนางช่างดีเยี่ยมเหมาะสมกับหน้าตาอันสวยงาม” เขายิ้มเมื่อนึกถึงผู้เป็นที่รัก
‘อ่อนโยนหรือ? ผู้หญิงคนนั้นทุบตีข้าแทบทุกวัน’
“เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ท่านจึงพามารดาข้ามาสร้างครอบครัวที่เมืองนี้ แล้วเหตุใดลูกจึงมิเคยรู้เลยเจ้าคะ ว่าเรามีญาติอยู่ทางนั้นด้วย”
“สตรีจิตใจดำอำมหิต! นางลอบวางยาพิษพี่สาวฝาแฝด แต่เจ้ากลับต้องมารับเคราะห์แทน นับแต่นั้นมาร่างกายก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ จากนั้นท่านลุงของเจ้า เขาก็มิเคยย่างกายมาที่นี่อีกเลย ส่วนมารดาเจ้าก็มิยินยอมกลับบ้านเกิดอีกเลย ข้าจึงพลอยต้องผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับท่านแม่ยายไปด้วย”
“มิยินยอมกลับบ้านเกิด นี่มันผิดวิสัยของคนจิตใจดีไปหน่อยกระมัง ท่านพ่อมิระแคะระคายอะไรเลยหรือเจ้าคะ”
“คราแรกข้าก็คิดแต่มานึกดูแล้ว บางทีด้วยความรักที่นางมอบให้เจ้าอาจมากล้นจนเกินกว่าจะทำตัวเป็นแม่พระต่อไปได้อีก อี้เหยาจึงเลือกที่จะตัดขาดการติดต่อกับคนทางโน้นเสีย”
‘ความรักที่มีให้ข้าอยากนั้นหรือ น่าขันนัก!’นางนึกสมเพชชะตาชีวิตตนเองอยู่ภายในใจ
“แล้วพวกท่านเคยรู้หรือไม่ว่าแฝดน้องของท่านแม่ผู้นั้นได้ผูกคอตายหนีความผิดไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
เขาส่ายศีรษะเบาๆทั้งมิรู้ว่าควรยินดีหรือเสียใจกับข่าวคราวนี้ “นางไม่มีชีวิตอยู่แล้วหรือ"
เยว่ซินถอนหายใจอย่างปลงตก “ดูท่าระหว่างเราคงต้องมีเรื่องมากมายที่ต้องพูดคุยกัน ก่อนอื่นเลยข้าคงต้องกล่าวตามจริงว่า ภรรยาของท่านพ่อนั้นเปรียบเสมือนปีศาจร้ายของข้าและเสี่ยวหยาง”
“เจ้า!” เขามองบุตรีคนตัวด้วยสายตาผิดหวังผสมปนเปไปด้วยความสงสัย
“ตกใจใช่หรือไม่เจ้าคะ” นางยิ้มเยาะ “ภรรยาผู้มีจิตใจอ่อนโยนของท่านเวลานั้นมักเอาแต่ทำร้ายร่างกายของลูก สิ่งที่นางทำกับบุตรีเช่นข้ามิต่างจากทาสชั้นต่ำ เงินทองที่ท่านหามาได้ มิเคยถูกนำมาเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง”
“นี่มันอะไรกัน” หรงเซินเสียงสั่นเครือ
“เรื่องราวในยามนั้นล้วนมีคนทั่วทั้งหมู่บ้านเป็นพยาน ท่านพ่อมิแปลกใจหรือว่าท่านแม่ผู้มีจิตใจอ่อนโยนจะทุบตีบุตรแท้ๆ ของตนได้อย่างไร และที่สำคัญด้วยความรักอันลึกซึ้งของพวกท่าน นางจะทำใจทิ้งคนรักไปหาผู้อื่นได้จริงหรือ ทุกสิ่งนั้นมีเหตุผลเดียวคือนางมิใช่มารดาผู้ให้กำเนิดข้า!”
“นางจะมิใช่มารดาเจ้าได้อย่างไร ทั้งหน้าตา ท่าทาง น้ำเสียง แม้กระทั่งฝีมือการทำอาหารนั้นยังคงเหมือนเดิมมิมีผิดเพี้ยน” เขาลุกขึ้นเดินวนไปมาเพื่อใช้ความคิด
“ท่านพ่อบอกเองมิใช่หรือ ว่าบางคราท่านก็แยกมิออกระหว่างแฝดพี่และแฝดน้อง”
เขาสบตาบุตรสาว “หมายความว่านางคือโจวอี้เยว่อย่างนั้นหรือ!”
“ข้าก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ หลังจากนำเรื่องเล่าของทุกคนมาเชื่อมโยงแล้ว ข้ายังพบสิ่งหนึ่งที่ทุกท่านกล่าวตรงกัน นั่นคือมารดาของข้ามีจิตใจอ่อนโยน” นางเว้นระยะ “ซึ่งมันต่างจากที่ข้าและเสี่ยวหยางได้พบเจอ”
“เช่นนั้นโจวอี้เหยาตัวจริงอยู่ที่ใดกัน” เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
“และมีอีกอย่างที่น่าสงสัย นั่นคือผู้ใหญ่บ้านโจวยืนยันว่าอี้เยว่ผูกคอตายไปแล้ว หากท่านแม่ตัวปลอมคืออี้เยว่ เช่นนั้นใครกันเล่าที่ผูกคอตาย หรือนี่จะเป็นแผนการของนางกันเจ้าคะ”
“น้องภรรยาผู้นี้เป็นคนเจ้าเล่ห์มากแผนการยิ่งนัก ข้าจะต้องให้บทลงโทษที่สาสมแก่นาง” หรงเซิน กล่าวเสียงเข้ม
“เช่นนั้นเราคงต้องตามหาตัวการให้พบเสียก่อน”
คนต่างวัยแต่เป้าหมายเดียวกันเริ่มวางแผนการออกตามหาผู้เป็นที่รัก ทั้งยังเตรียมแผนลงโทษคนที่ทำร้ายครอบครัวพวกเขามาโดยตลอด ดังนั้นค่ำคืนนี้จวบจนรุ่งสางพ่อลูกคู่นี้ก็ยังมิได้หยุดพักการปรึกษาหารือเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิต
“ท่านพ่อเจ้าคะ ที่จริงแล้วข้ายังมีอีกเรื่องที่เห็นสมควรจะต้องแจ้งให้ท่านทราบ” เสียงดรุณีวัยสะพรั่งเอ่ยอยากจริงจังทั้งที่เริ่มง่วงเต็มทีแล้ว
“ยังมีอีกหรือ”
“เจ้าค่ะ ที่จริงแล้วเป้าหมายของผู้ว่าจ้างคนนี้ คือการออกตามหาชินอ๋อง พระอนุชาของหลินฮ่องเต้”
ชายวัยกลางคนรู้สึกตาสว่างขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยเพราะเขาก็เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาบ้างพอสมควร คิดมิถึงว่าบุตรสาวจะได้รับการจ้างงานที่สำคัญยิ่ง “เช่นนั้นพบเขาหรือไม่”
“คราแรกมิพบเจ้าค่ะ แต่ทว่าตอนนี้พบแล้ว”
“พบแล้ว เช่นนั้นเขาอยู่ที่ใดหรือ” คิ้วหนาขมวดพันกันยุ่ง
“ตรงหน้าข้านี่อย่างไร ท่านพ่อคือพระอนุชาที่พวกเขาออกตามหากันถึง 18 ปี”
“ข้าหรือ! เจ้าล้อเล่นแล้ว” เขาเดินหนีบุตรสาว
“ข้าพูดจริงนะเจ้าคะ ผู้ใหญ่บ้านโจวเก็บหยกพกประจำตัวของท่านเอาไว้ เมื่อได้นำให้หัวหน้าองครักษ์ไป๋ดู เขาก็ให้การยืนยันทันทีว่าสิ่งนี้คือของแท้แน่นอน”
“แต่ข้าจำสิ่งใดมิได้ มิแน่ว่าข้าอาจไปหยิบฉวยของผู้อื่นมาก็ได้” เขานึกถึงหยกสีเขียวมรกตก้อนนั้น ที่ได้นำให้พี่ภรรยานำไปขายเอาเงินมาจุนเจือครอบครัวยามที่หลบซ่อนภัยสงครามครานั้น คิดมิถึงว่าเขามิได้นำมันไปแลกเงิน แต่กลับเก็บเอาไว้กับตัวมาโดยตลอด