นางมีสัมผัสสวรรค์สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ จึงเปิดสำนักดูดวงโดยมีบริวารผีเป็นหน่วยสอดแนม ในที่สุดสำนักดูดวงของนางก็มีชื่อเสียงขจรไปไกล
จีน,ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,นางเอกเก่ง,อนาคต,อดีต,จีนโบราณ,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อีกฟากหนึ่งที่ชั้นสองของโรงเตี๊ยมขนาดกลางในเมืองเฉินซาน นกพิราบสื่อสารตัวสีเทาอ่อน บริเวณขาถูกผูกข้อความลับใบเล็กๆ เอาไว้
“เพียงเลือดหนึ่งหยดสามารถชี้ตัวผู้เป็นเจ้าของได้” น้ำเสียงทุ้มอ่านแผ่วเบา
ไป๋อี้โยวได้ฟังเรื่องราวของแม่หมอเยว่ผู้เป็นหมอดูจากการไปสืบของสายลับเงา พบว่าแท้จริงแล้วเรื่องราวที่มาของนางนั้นช่างคล้ายคลึงกับสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านโจวเล่า ดูท่าสิ่งที่เขาคิดจะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่องจริง เหตุที่เขาส่งคนไปสืบดูนั้น ด้วยเพราะท่าทีแปลกๆ ของนาง ทั้งยังดูเหมือนว่ามีบางสิ่งให้คิดอยู่ในใจตลอดเวลาราวกับคนคิดไม่ตก ช่างผิดกับขาไปอย่างสิ้นเชิง
รถม้าคันใหญ่เคลื่อนตัวออกจากโรงเตี๊ยม ทุกย่างก้าวล้วนมีรอยเท้าของม้าลากเหยียบย่ำลงบนหิมะขาวมุ่งหน้าไปยังสำนักดูดวงอันดับหนึ่งในขณะนี้
“มิพบใครเฝ้าประตูเลยขอรับ” อาเซี่ยมองดูความผิดปกติจากบ้านเรือนผู้มีเงินทั่วไป
“เข้าไปกันเถอะ นางรอเราอยู่แล้ว”
เป็นดั่งที่ชายหนุ่มว่า บัดนี้เจ้าของเรือนได้รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเดินทางมาที่นี่ในเร็ววันเป็นอย่างแน่ แต่ที่มิเห็นว่าไม่มีใครเฝ้าประตูเรือน ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้รักษาความปลอดภัยของนาง คนธรรมดาทั่วไปมิอาจพบได้ คงจะมีแค่ผู้ติดต่อวิญญาณได้เช่นนางเท่านั้นที่มองเห็น
“มาแล้วหรือ” มือเรียวรินน้ำสีใสลงในถ้วยชาลายแปลกตา แล้วยื่นให้ผู้ที่นางกำลังเฝ้ารอ
“แม่หมอเยว่ช่างเก่งกาจยิ่งนัก ถึงกับรู้ว่าข้าจะมา เช่นนั้นเจ้าคงรู้ใช่หรือไม่ว่าข้ามาด้วยเหตุใด” เขานั่งลงตรงข้ามหญิงสาว
เสียงหวานหัวเรากังวาน “ข้าเพียงแค่เดาเท่านั้นเจ้าค่ะ อย่าได้เยินยอว่าเป็นผู้วิเศษอะไรนั่นเลย”
“เช่นนั้นข้าก็จะมิมากความ ที่มาวันนี้เพียงเพราะต้องการพิสูจน์เท่านั้น”
“พิสูจน์อะไรเจ้าคะ” ร่างบางทำเป็นเฉไฉ
“ข้าคิดว่าเจ้าคงตรวจสอบเสียก่อนข้าจะมาอีกกระมัง หากเดามิผิด คงรู้แน่ชัดแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเรามาพิสูจน์เพื่อยืนยันว่าบิดาของเจ้าคือพระอนุชาจริงหรือไม่” เขาสบตานางอย่างจริงจัง
เยว่ซินมีท่าทีลังเล ภายในใจของนางรู้ดีว่าบิดานั้นอยากใช้ชีวิตที่สงบสุขอยู่ที่นี่ เพียงแต่ด้วยชาติกำเนิดที่แท้จริงก็เป็นสิ่งที่ท่านพ่อโหยหาเช่นกัน และหากคาดการณ์มิผิดเมื่อท่านพ่อกลับบ้านเกิดจะต้องมีข่าวใหญ่อย่างแน่นอน โจวอี้เยว่ที่อยู่เมืองหลวงจะมิรับรู้เชียวหรือ คนเช่นนางจะต้องปรากฏตัวเพื่อหาผลประโยชน์เป็นแน่
“เช่นนั้นใต้เท้าคงต้องถามความสมัครใจของบิดาข้าเองเถอะเจ้าค่ะ”
ผู้มาใหม่สวมผ้าเนื้อดี ทั้งหน้าตาผิวพรรณก็เหนือสามัญทั่วไป เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว ไป๋อี้โยวจึงพบว่าเขามีส่วนคล้ายคลึงฮ่องเต้หลินซีเหว่ยอยู่มากโขทีเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างสมเกียรติ
“คารวะชินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
หรงเซินชะงักไปเล็กน้อย “ใต้เท้าทำเช่นนี้ข้าคงรับมิไหว ได้โปรดทำตัวตามสบายเถอะ”
“กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าจำกระไรมิได้ ใต้เท้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้าคือคนที่ท่านตามหา”
“เช่นนั้นข้าจึงนำสิ่งนี้มาพิสูจน์อย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ” มือหนายื่นหยกสีเขียวมรกตส่งให้คนตรงหน้า
“เพียงแค่หยกอันเดียวจะสามารถบอกอะไรได้เล่าใต้เท้า” เยว่ซินเดินเข้าไปพิจารณาอย่างสงสัย
“เพียงแค่นำเลือดหยดลงไปบนหยกพกนี้ ความจริงก็จะปรากฏ”
มือหนาวางหยกชิ้นสำคัญนั้นลงบนโต๊ะ เข็มเงินเล่มน้อยถูกแทงเข้าไปในปลายนิ้วนุ่ม พลันเลือดสีสดก็หยดลงบนกลางหยกพอดิบพอดี ทันใดนั้นเองระหว่างที่ทุกคนกำลังเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลง ตัวอักษรที่ไม่เคยมีอยู่กลับปรากฏขึ้นมาทีละตัว ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“หลินเจาเจิน” เสียงหวานเอ่ยขึ้น
ไป๋อี้โยวยิ้มอย่างยินดี เมื่อพบว่าคนที่ตามหามานาน บัดนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“เช่นนั้นกระหม่อมจะอารักขาพระองค์กลับเข้าวังหลวงด้วยตนเอง”
“ใต้เท้า ข้าคิดว่าเรารอให้ท่านพ่อความทรงจำกลับมาก่อนดีหรือไม่ ข้าเกรงว่า...” เยว่ซินอดรู้สึกกังวลไม่ได้ เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้มิใช่ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการกลับคืนบ้านเก่าของบิดา สถานที่ที่เรียกว่าวังหลวงเช่นนั้นจะง่ายขนาดนั้นเลยหรือ อย่างน้อยหากความทรงจำกลับมาก็ยังพอทำอะไรได้มากกว่านี้
องครักษ์หนุ่มผู้คุ้นเคยกับธรรมเนียมในวังหลวงเป็นอย่างดี ย่อมเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวเป็นกังวล จึงมิคิดคัดค้านความต้องการของนาง
“เช่นนั้นเราต้องรีบทำให้ความทรงจำของพระองค์กลับมาให้ไวที่สุด ส่วนเรื่องที่กระหม่อมพบพระอนุชาแล้วจะถูกเก็บเป็นความลับ และเพื่อความปลอดภัยของพวกท่านข้าจะให้คนมาคุ้มครองดูแลเป็นการลับ”
“ขอบคุณใต้เท้าที่เข้าใจเจ้าค่ะ”
หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้มีหมอผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาในคราบผู้ดูดวง เยว่ซินจึงให้พวกเขาใช้เส้นทางลับด้านหลังเพื่อมิให้คนนอกสงสัย นางทำราวกับมิมีสิ่งใดเกิดขึ้น ทั้งยังเปิดสำนักไปตามปกติ เพียงแต่รับลูกค้าให้น้อยลงเสียหน่อย เพื่อเตรียมตัวเข้าวังหลวงในไม่ช้านี้
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านหมอ ความทรงจำของท่านพ่อยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่”
“โชคดีที่ร่างกายแข็งแรงมาก ข้าจะลองฝังเข็มลงบนจุดสำคัญ มิแน่ว่าความทรงจำของเขาอาจกลับมาบางส่วน” หมอวัยกลางคนอธิบายให้คนรุ่นลูกฟังอย่างใจเย็น
“แค่บางส่วนเองหรือเจ้าคะ”
“ใช่แล้วล่ะ แต่หากได้อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย หรือได้ฟังเรื่องเล่าของตนเองจากคนใกล้ชิด มิแน่ว่าความทรงจำก็อาจกลับมาทั้งหมด” เขาเตรียมอุปกรณ์ฝังเข็มที่อยู่ในกล่องปฐมพยาบาลส่วนตัว
ร่างบางไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ถอยออกมายืนอยู่ข้างองครักษ์หนุ่มที่เฝ้ามองดูการรักษาอยู่เงียบๆ ตรงมุมห้อง ต่างคนต่างไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่ครึ่งคำ ด้วยกลัวว่าจะรบกวนหมอผู้เก่งกาจที่เขาออกไปเสาะหามาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคนผู้นี้ได้ปลีกวิเวกเร้นกายอยู่ในหุบเขามาหลายปีแล้ว แม้แต่คนในราชวงศ์ก็ยังเชิญตัวเขามาไม่ได้ มิรู้ว่าองครักษ์ผู้นี้ไปพาเขามาได้อย่างไร
“เสร็จเรียบร้อย เช่นนั้นอีกสามวันข้าจะมาใหม่”
“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ” มือบางรีบยื่นถุงเงินให้คนอายุมากกว่า เพื่อแสดงน้ำใจตามธรรมเนียมปฏิบัติ
“ข้ารับไว้มิได้ๆ ขอเพียงท่านอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้ก็พอ” เขายิ้มอย่างตื่นเต้น
“สัญญา?” หญิงสาวหันไปมองคนตรงมุมห้องอย่างไม่เข้าใจ
“อาเซี่ยส่งท่านหมอกลับเรือน”
“หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ” นางมองแขกที่ทำตัวราวกับเป็นเจ้าบ้านเดินไปนั่งยังห้องโถงอย่างคุ้นเคย ทั้งยังรินน้ำชาส่งให้นางราวกับเป็นผู้มาเยือน
“หมอผู้นี้เก่งกาจเป็นอย่างมาก ข้าเชื่อว่าเขามีวิธีทำให้พระอนุชาความทรงจำกลับมาได้อย่างครบถ้วนแน่นอน” เขาสูดดมกลิ่นเย้ายวนที่ลอยขึ้นมาจากถ้วยลายครามด้วยความหลงใหล แต่ช่างน่าเสียดายที่ชาชนิดนี้มีอยู่เพียงเรือนนี้หลังเดียวเท่านั้น
“แล้วอย่างไรต่อเล่า”
“เมื่อภรรยาตายจากไป เขาก็จมอยู่กับความทุกข์ ซ่อนตัวอยู่หุบเขา มิออกมาพบปะผู้คนอีกเลย สาเหตุมาจากก่อนหน้านี้เขาได้ผิดใจกับนาง แต่ทว่าโชคร้ายนางหนีไปปรโลกเสียก่อน จึงมิทันได้ปรับความเข้าใจ ดังนั้นข้าจึงให้สัญญาไว้ว่าแม่หมอเยว่จะช่วยติดต่อวิญญาณของฮูหยินให้หลังจากรักษาคนผู้หนึ่งจนหายดี”
ร่างบางโพล่งขึ้นอย่างโมโห “แล้วท่านรู้หรือว่าข้าจะติดต่อฮูหยินให้เขาได้”
“มิใช่ว่าเจ้าพูดคุยกับวิญญาณได้หรอกหรือ”
“ท่าน!” เยว่ซินสะกดความตื่นตกใจเอาไว้
‘เจ้าจอมจับผิดนี่รู้ความลับจนได้สินะ’