ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"เจ้าฉะ เจ้าได้อันใดมา แล้วนั่นปี่รึ?" โททวีเอ่ยถามน้องชายคนที่ ๖ ที่พึ่งเดินมาถึง ในมือของอีกฝ่ายถือกระบอกไม้ไผ่ยาวประมาณครึ่งแขนทั้งยังมีรูเจาะอยู่เต็มไปหมดมาหนึ่งเลา ดูคล้ายปี่แต่ก็มิน่าใช่
"ข้าไปดูกู่ฉินมา เสียงของมันไพเราะสมคำร่ำลือยิ่งนัก น่าทว่าเสียดายที่มันแพงเกินไป ข้าจึงได้เจ้าสิ่งนี้มาแทน เห็นพ่อค้ากล่าวว่าเป็นเครื่องดนตรีอีกชนิดของเมืองแผ่นดินใหญ่ จริงๆ ข้าก็มิค่อยอยากได้เท่าใดนักเพราะมันคล้ายๆ ปี่ซึ่งข้ามีอยู่หนึ่งเลาแล้วที่เรือน แต่ไหนๆ ก็มาแล้วข้าจึงได้ซื้อมันมาเก็บไว้สักเลา" ฉะตอบพี่ชายคนที่ ๒ พร้อมก้มมองขลุ่ยในมือ ตนยังมิได้ลองเป่าเพราะคิดว่าจะลองเอาไปฝึกซ้อมที่เรือนเสียก่อนแล้วค่อยเอาออกมาเป่าให้พี่น้องได้ฟัง
"นี่ขนาดมิค่อยอยากได้หนา ท่านยังหลอกใช้เงินข้าได้อย่างหน้ามิอาย เงินข้ายิ่งมีน้อยๆ แต่ยามนี้มิมีอีกแล้ว!" อัฐตัดพ้อออกมา คราวแรกก็เจ้าเอกาทศคราวต่อมาก็พี่ชายคนที่ ๖ เหตุใดตนจึงต้องโดนรังแกอยู่ร่ำไปด้วยเล่า!
"ก็เงินข้ามิพอ ให้ข้ายืมเงินเจ้าเสียหน่อยจะเป็นอันใด ไว้ข้าเล่นดนตรีให้เจ้าฟังเป็นการไถ่โทษดีหรือไม่" ฉะเอ่ยกับน้องชายคนที่ ๘ ซึ่งกำลังยืนหน้าบึ้งตึงอยู่
"ไม่!" อัฐหันหน้าหนีอย่างแง่งอน ก่อนจะได้กลิ่นหอมโชยมา พอตนหันไปมองก็เห็นว่าเป็นน้องชายคนเล็กที่ยื่นขนมหอมๆ มาให้
"พี่อัฐ ท่านลองทานดู ขนมอร่อยนัก" ลำเภาจันทร์เอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๘ พร้อมกับยื่นขนมไปตรงหน้า อีกฝ่ายเป็นพี่ชายที่ไม่ทันคนทั้งที่ตัวก็ใหญ่กว่าพวกเขาพี่น้อง เขาจึงอดรู้สึกเห็นใจมิได้
"ฮือออ เจ้าเภา เจ้าดีที่สุดเลย ข้ารักเจ้า" ว่าแล้วอัฐก็กระโดดสวมกอดน้องชายคนเล็กทันที ก่อนจะถูไถใบหน้าของตนเข้ากับแก้มกลมๆ นุ่มๆ ไปมา ในหมู่พี่น้อง น้องชายผู้นี้ดีกับตนที่สุดแล้ว น่ารักที่สุด
"...." ลำเภาจันทร์ยืนนิ่งให้พี่ชายคนที่ ๘ สวมกอดโดยมิได้พูดอันใด เมื่อเห็นว่าพี่ชายหยิบขนมที่เขายื่นให้ไปกินแล้ว มือเล็กก็หยิบขนมชิ้นใหม่เข้าปากตัวเองต่อ ก่อนจะเหลือบตากลมขึ้นมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีส้มเข้มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนด้านหลังมีเสียงของพี่ๆ ทะเลาะกันอยู่เป็นระยะๆ แลดูวุ่นวายแต่ก็มีสีสันและความครึกครื้น
...จะว่าไปการที่มีพี่น้องมันดีจังเลยนะ
"ท่านพี่ กลับเรือนกันเถิดขอรับ" ลำเภาจันทร์หันไปเอ่ยกับพี่ชายทั้งสี่คนพร้อมแย้มยิ้มบางๆ ดวงตากลมที่มักเรียบนิ่ง คราวนี้กลับมีประกายที่พบเห็นได้ยากออกมา ช่างดูสดใสและอ่อนโยนยิ่งนัก
เขาจะปกป้องครอบครัวของเขาเอง!
๔ ปีผ่านไป
เช้าวันหนึ่ง ลำเภาจันทร์เตรียมตัวที่จะออกไปล่าสัตว์เพื่อหาเงินช่วยที่บ้านดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา แม้จะช่วยไม่ได้มาก แต่ก็แบ่งเบาภาระท่านพ่อและท่านแม่ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ห้องของลำเภาจันทร์อยู่ท้ายสุดเพราะเป็นน้องคนเล็ก ดังนั้นในระหว่างที่เดินออกจากเรือนจึงต้องผ่านห้องนอนของพี่ๆ และส่วนอื่นๆของเรือน
ห้องของท่านพี่เอกาทศอยู่ข้างห้องของลำเภาจันทร์ ถัดมาคือห้องของทศรักษ์พี่ชายคนที่ ๑๐ ในห้องของอีกฝ่ายมีเสียงของเบญจและนวรัตน์ พี่ชายคนที่ ๕ และคนที่ ๙ ดังอยู่ คาดว่าน่าจะเล่นแต่งตัวกันตามประสาเด็กรักสวยรักงาม
"ท่านพี่เบญจ ท่านลองสวมสร้อยของข้าดีหรือไม่ขอรับ มันดูเข้ากับท่านยิ่งนัก" [นวรัตน์]
"ข้าเห็นด้วยหนา มันดูเหมาะกับท่านพี่ยิ่ง" [ทศรักษ์]
"เช่นนั้นรึ ถ้าเช่นนั้นข้าจะลองสวมดูก็ได้ อืออ ก็ใช้ได้นะ ดูเหมาะสมกับข้าดี" [เบญจ]
"ท่านพี่เบญจสวมใส่อันใดก็งดงามทั้งนั้น ข้าอิจฉายิ่งนัก อ๊ะ! น้องทศรักษ์ กำไลคู่นั้นแพงมากเลยมิใช่หรือ" [นวรัตน์]
"ใช่ ข้าเห็นว่ามันสวยดีจึงซื้อมาใส่เล่นแก้เบื่อ" [ทศรักษ์]
"...." ลำเภาจันทร์มิได้สนใจเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมา แต่พอเดินไปอีกสักพักก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงดนตรีแปลกๆ ดังมาจากห้องนอนของพี่ฉะ พี่ชายคนที่ ๖ คาดว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังซ้อมเครื่องดนตรีที่พึ่งได้มาใหม่เมื่อมันก่อน คราวนี้เป็นกลองยาว
พอเดินไปเรื่อยๆ เขาก็พบห้องนอนห้องหนึ่งที่ถูกเปิดประตูทิ้งไว้ มันคือห้องนอนของพี่จตุรงค์พี่ชายคนที่ ๔ พอลำเภาจันทร์มองเข้าไปก็เห็นว่าด้านในมีพี่เอกศึกพี่ชายคนที่ ๑ กำลังพยายามลากพี่ชายเจ้าของห้องให้ลงจากเตียงอย่างยากลำบากเพราะขนาดตัวของพี่จตุรงค์นั้นใหญ่กว่ามาก
"เจ้า ๔ ลุกขึ้นมาจากเตียงเดี๋ยวนี้ นอนกินบ้านกินเมืองเช่นนี้ได้อย่างไร!"
"ฮืมม ท่านพี่เอกศึก ข้าจะนอนต่อขอรับ ครอกก"
"เจ้า ๔ !!"
พอเดินผ่านห้องครัวลำเภาจันทร์ก็เห็นท่านแม่กำลังพูดคุยกับท่านน้าหญิงผู้หนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดนางคือแม่ของแทนคุณ นางมักจะมาบ่นถึงผัวของนางให้ท่านแม่ฟังอยู่บ่อยๆ
"เจ้าเนี่ยช่างโชคดีเสียจริงเลยหนา มีชีวิตคู่ก็ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างน่าอิจฉา" ฉันทาเอ่ยด้วยท่าทีน้อยใจ "สามีของข้าแต่งผู้อื่นเข้าเรือนอีกแล้ว แถมอีนั่นยังทำตัวเป็นใหญ่เพราะเป็นที่โปรดปรานของคุณพี่ ข้าเจ็บใจมิอยากเห็นหน้านางจึงได้หนีมาหาเจ้าเช่นนี้อย่างไรเล่า ข้าละอิจฉาเจ้ายิ่งนักที่มีสามีรักเจ้าเพียงผู้เดียว"
"เฮ้อ ชีวิตคู่ของข้าก็ใช่ว่าจะง่ายดาย ยามก่อนมีลูกยากแต่พอมีก็ตั้ง ๑๒ คน พวกเราทั้งคู่ลำบากกันมิน้อย" นางพราหมณีเอ่ยกับสหายของนางด้วยสีหน้าเศร้าหมอง มิว่าผู้ใดต่างก็มีปัญหาของตนเองกันทั้งนั้น อย่างนางก็มีลูกมากเสียจนแทบเลี้ยงดูมิไหว ส่วนสหายของนางสามีก็มิคิดสนใจความรู้สึกของคู่ชีวิตเลยแม้แต่น้อย
"เฮ่อ สิ่งเดียวที่ทำให้ตำแหน่งเมียหลวงของข้ามั่นคง เห็นจะเป็นพ่อแทนคุณบุตรชายคนโตของข้าและคุณพี่นั่นแล"
ลำเภาจันทร์เดินต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงสวนข้างเรือนก็เห็นว่าพี่โททวี พี่อัฐและพี่เอกาทศกำลังฝึกซ้อมดาบไม้กันอยู่
"เจ้าเตี้ย! เจ้ามาดวลดาบกับข้ากัน หากข้าแพ้ ข้าจะเลี้ยงขนมเจ้า ๒ กระทงเลย!" โททวีรีบวิ่งไปขวางหน้าน้องชายคนเล็กของตนก่อนจะยื่นดาบไม้อีกอันให้เพื่อมาดวลดาบด้วยกัน
"...." ลำเภาจันทร์ก้มมองดาบไม้ที่พี่ชายคนที่ ๒ ยื่นมาให้นิ่งๆ จะว่าไปก็เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจดี เพราะดวลครั้งเดียวได้ขนมตั้ง ๒ กระทง เขาไม่ได้เห็นแก่กินหรอกนะ แต่ถ้าได้กินขนมหลังจากการล่าสัตว์ มันก็คงจะหายเหนื่อยไม่น้อยก็เท่านั้น คิดได้ดังนั้นมือเรียวสวยของเด็กชายตัวน้อยวัยเกือบ ๑๐ ปีก็คว้าดาบไม้จากมือของพี่ชายคนที่ ๒ มาถือ "ก็ได้ขอรับ"
"ดีเลย! เช่นนั้นมาดวลกันตรงนี้" โททวีดึงแขนน้องชายให้เดินไปทางที่พวกตนฝึกกันคราวแรก เจ้าอัฐนั่งหอบนั่งบ่นอยู่เพราะเหนื่อยล้า ส่วนเจ้าเอกาทศที่เห็นน้องชายคนเล็กกำลังเดินมาก็ทำหน้าดีใจรีบวิ่งเข้ามาหาทันที
"น้องเภา น้องจะเข้าป่าอีกแล้วหรือ" เอกาทศเอ่ยถามน้องชายสุดน่ารักของตน ก่อนจะเข้าไปปัดมือพี่ชายคนที่ ๒ ให้ปล่อยแขนเล็กของน้องชายออกเสีย โททวีมีท่าทีมิพอใจเล็กน้อย แต่ก็มิได้เอาความอันใดเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเจ้านี่หลงและหวงเจ้าเตี้ยมากเพียงใด
"ขอรับ ข้ากะจะเอาขนมจากพี่โททวีก่อนแล้วค่อยเข้าไป" ลำเภาจันทร์เอ่ยตอบพี่ชายคนที่ ๑๑
เรื่องการล่าสัตว์ของตนนั้นมิมีใครล่วงรู้แม้กระทั่งท่านพ่อและท่านแม่ เพราะลำเภาจันทร์นั้นเมื่อล่าสัตว์ได้และทำการขายเสร็จก็จะแอบนำเบี้ยไปไว้ในห้องนอนของท่านพ่อท่านแม่ในตอนที่มิมีผู้ใดอยู่ เพราะหากถูกจับได้คงมิพ้นถูกสอบปากคำและถูกถามว่าเหตุใดเด็กอายุ ๑๐ ปีจึงล่าสัตว์ขายได้เช่นนี้
ส่วนวิธีการขายนั้น ลำเภาจันทร์ใช้วิธีการปลอมแปลงกายให้ดูมีอายุมากขึ้น ซึ่งมันเป็นทักษะอย่างหนึ่งของนักฆ่าในองค์กรที่ต้องร่ำเรียนมา
"หึ มั่นใจเช่นนี้ถือว่าดียิ่ง มาเถิด เดี๋ยวพี่ชายผู้นี้จะสั่งสอนเจ้าเอง ให้เจ้าได้รู้ถึงความสามารถของข้า" โททวีเอ่ยด้วยความมั่นใจเพราะในหมู่พี่น้องตนนั้นเก่งวิชาดาบที่สุด อีกทั้งตนไปดวลดาบกับเจ้าแทนคุณและสหายของมันมาหลายครั้ง และเกือบทุกครั้งก็ชนะมาเสียด้วย
"เจ้าเภา! พี่โททวีเก่งกาจมากเลยหนา ล่อหลอกเจ้าด้วยขนมเช่นนี้คงต้องการดวลดาบกับเจ้านานๆ เป็นแน่!!" อัฐเอ่ยเตือนน้องชายคนเล็กหลังจากที่ตนหายเหนื่อยหอบจากการฝึกดาบ ตนถูกพี่ชายคนที่ ๒ ล่อลวงให้มาเป็นคู่ซ้อมหลายต่อหลายครั้ง จนจำได้ขึ้นใจแล้วว่ามิควรเชื่อคำพูดของพี่ชายผู้นี้!!
"เจ้าอัฐ เจ้ากล้าเอ่ยเช่นนั้นได้เยี่ยงไร เจ้าอ่อนหัดจะมาโทษข้ารึ" โททวีกอดอกก่อนจะทำหน้ากวนประสาทไปทางน้องชายคนที่ ๘
"เหอะ! เจ้าเภา จัดการพี่โททวีให้หนักๆเลย! หากเจ้าชนะ ข้าจะซื้อขนมที่เจ้าชื่นชอบให้เจ้ากินทั้งอาทิตย์" อัฐที่เห็นหน้ากวนประสาทของพี่ชายคนที่ ๒ ก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปเอ่ยกับน้องชายคนเล็กด้วยความโมโห
"...๒ กระทงต่อวัน" ลำเภาจันทร์เอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๘ เสียงนิ่ง พออีกฝ่ายได้ยินก็ชะงักแล้วหายโกรธทันที
"สะ ๒ กระทงเลยหรือ ๑ กระทงได้หรือไม่" อัฐเอ่ยกับน้องชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงติดขัด และคิดว่าตนพลาดแล้ว
"๒ กระทงขอรับ" ลำเภาจันทร์เอ่ยเสียงนิ่งตามเดิม
"ก ก็ได้ ๒ ก็ ๒ ฮึ! เจ้ากินจนแก้มจะเหมือนพี่จตุรงค์อยู่แล้วหนา เหตุใดจึงได้มีแต่คนรังแกข้า" อัฐงอนเดินหนีไปนั่งใต้ต้นไม้ใกล้ๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรตนก็อยากรอดูการดวลของพี่ชายคนที่ ๒ และน้องชายคนเล็กอยู่ดี
มินานเอกาทศก็เดินตามมานั่งข้างๆ เพื่อรอให้กำลังใจน้องชายสุดน่ารักของตน
"เรามาเริ่มกันเถอะเจ้าเตี้ย" โททวีจับดาบด้วยมือข้างเดียวก่อนจะหันปลายดาบไม้ไปทางน้องชายคนเล็กของตน
"...ขอรับ" ลำเภาจันทร์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกก่อนจะสะบัดดาบไม้ให้เกิดเสียงดังพึ่บเพื่อทดสอบน้ำหนักและการต้านลม
"เช่นนั้นก็เริ่มได้!" โททวีเอ่ยจบก็เหวี่ยงดาบไม้ไปปะทะกับดาบไม้ของน้องชายคนเล็ก แต่ยังมิทันได้ตั้งตัวดาบไม้ในมือของตนก็หลุดออกไปเสียแล้วจากการโจมตีสวนกลับในกระบวนท่าเดียวของน้องคนเล็ก ซึ่งดาบไม้ของโททวีได้หมุนไปตกตรงหน้าของเจ้าอัฐและเจ้าเอกาทศพอดี
ทั้งสามคนตกตะลึงเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก รู้ตัวอีกทีก็ยามที่น้องชายคนเล็กวางดาบแล้วเอ่ยบางอย่างก่อนจะเตรียมเดินเข้าป่าไป
"อย่าลืมขนม ๔ กระทงของข้าละขอรับ"
"? ?! !?! เจ้าเตี้ย!! เมื่อกี้มินับ เจ้ากลับมาดวลกับข้าใหม่เสียก่อน!" โททวีร้องตามหลังเมื่อได้สติ ตนคิดว่าเมื่อกี้ตนต้องจับดาบมิมั่นคงแน่ๆ มันจึงได้หลุดออกจากมือของตนเช่นนั้น และสิ่งหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นภายในใจของโททวีก็คือความตื่นเต้น ตนรู้สึกสนุกที่ได้ดวลดาบกับน้องชายตัวเตี้ยครั้งนี้!!
"มิอยากเชื่อเลยว่าพี่โททวีจะแพ้ เช่นนั้นข้าก็ต้องซื้อขนมให้เจ้าเภา ๒ กระทงตลอดหนึ่งอาทิตย์เลยสินะ" อัฐเอ่ยด้วยท่าทางเหม่อลอยข้างๆ น้องชายคนที่ ๑๑ ที่ทำสีหน้าดีใจต่างกับตนลิบลับ
"เย่!! น้องชายของข้าชนะโว้ย!!! น้องเภาของข้าเก่งที่สุด!!" เอกาทศลุกขึ้นมากระโดดดีใจ ก่อนจะหันไปทำหน้าเยาะเย้ยใส่พี่ชายคนที่ ๒ ที่พ่ายแพ้ต่อน้องชายสุดน่ารักของตน เหอะก็มิเท่าไหร่ น้องชายของข้าเก่งที่สุดอยู่แล้ว!!
ตกเย็น
ลำเภาจันทร์กำลังเดินกลับเรือนของตน วันนี้เขาล่าเสือตัวใหญ่ได้จึงอยากรีบกลับไปอาบน้ำและนอนพักเสียหน่อย เพราะเหนื่อยล้ามิน้อย
"จ เจ้าเภา" ตรีไตรเอ่ยเรียกน้องชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงมิมั่นใจปนขลาดกลัวก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปหาทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ และเมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายแล้วก็รีบยื่นของบางสิ่งให้ทันที "ท ท่านป้าอู๋หมิงฝากมาให้เจ้า"
"...." ลำเภาจันทร์ก้มมองกล่องไม้ลวดลายสวยงามที่พี่ชายคนที่ ๓ ยื่นมาให้ จมูกเล็กได้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมา ดมแล้วคงเป็นขนมหวานจึงไม่รอช้าที่จะยื่นมือออกไปรับกล่องไม้มาถือไว้ "ฝากขอบคุณท่านป้าอู๋หมิงด้วยขอรับ"
"ด ได้ อ เอออ ท ท่านป้าฝากข้ามาบอกเจ้าด้วยว่าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือนางไว้เมื่อวันก่อน ท่านป้ากำลังตั้งครรภ์หากล้มลงไปมิแน่ว่าอาจเป็นอันตรายได้" ตรีไตรเอ่ยไปก้มหน้าไปมิกล้ามองใบหน้าของน้องชายคนเล็กตรงๆ และเมื่อได้กล่าวทุกอย่างหมดแล้ว ตรีไตรก็อยากที่จะรีบวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดนัก เพราะบรรยากาศรอบตัวของน้องชายตนผู้นี้ดูน่ากลัวยิ่ง!
"...ขอรับ" ลำเภาจันทร์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะนึกไปถึงเมื่อวานที่ตนนั้นได้ช่วยเหลือมารดาของอู๋ซือสหายสนิทของแทนคุณเอาไว้ได้ก่อนจะเข้าป่าไปล่าสัตว์ เขาเลิกสนใจแล้วเปิดฝากล่องไม้เพื่อดูว่ามันคือขนมอะไร ปรากฏว่ามันคือขนมโก๋ ขนมของคนจีนสมัยโบราณ เขาหยิบมันขึ้นมาหนึ่งชิ้นก่อนจะยื่นให้พี่ชายคนที่ ๓ "มิต้องกลัวข้าขนาดนั้นก็ได้ขอรับ ข้ามิกินท่านดอก"
"..อ อึด อืม" ตรีไตรได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้ง ก่อนจะรีบรับขนมที่น้องชายยื่นมาให้แล้วรีบวิ่งหนีไปทันที "ข ข้าไปช่วยท่านแม่ที่โรงครัวก่อนหนา!"
"...." ลำเภาจันทร์มองตามหลังพี่ชายคนที่ ๓ ที่มีนิสัยขี้แยและขี้กลัวอย่างเงียบๆ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ และนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาเคยหลอกอีกฝ่ายว่าหากมิหยุดร้องไห้ ผีจะมากินลิ้นของอีกฝ่าย คิดแล้วก็ได้แต่ถอนใจ เฮ่ออ! เขาไม่น่าหลอกพี่ชายขี้ขลาดคนนี้เลย
"ก็เจ้าชอบทำหน้าน่ากลัวเช่นไรเล่า เจ้าตรีไตรจึงได้กลัวเจ้าอยู่ร่ำไป อะนี่ กินให้แก้มเจ้าแตกไปเลย" โททวียื่นขนมน่ากิน ๒ กระทงไปให้น้องชายคนเล็กตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในยามเช้า
"ส่วนนี่ของข้า" อัฐยื่นขนมที่ตนเองซื้อมาให้น้องชายอีก ๒ กระทง
"...." ลำเภาจันทร์มองขนมที่เต็มไม้เต็มมืออย่างพอใจ ก่อนจะยกยิ้มบางๆ ให้พี่ๆ อย่างอ่อนโยน
"ขนมเต็มไม้เต็มมือเลยนะน้องเภา อะนี่ ส่วนของข้า จะให้เจ้าพวกนี้ซื้อให้น้องแค่ ๒ คนมันก็กระไรอยู่ แต่ข้าไปซื้อร้านเปิดใหม่มาให้เจ้าเลยหนา หวังว่าเจ้าจะชอบ" เอกาทศยื่นกระทงใบตาลซึ่งด้านในมีฝอยทองสีเหลืองอร่ามดูน่าทานอยู่เต็มไปหมด
"ขอบคุณพวกท่านมากขอรับ" ลำเภาจันทร์อมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะรับขนมฝอยทองมาจากพี่ชายคนที่ ๑๑
"มีขนมเยอะเชียวหนาเจ้าเภา เจ้ากินหมดนี่จะมิกินข้าวเย็นแล้วหรือ" ฉะแซวน้องชายคนเล็กที่พอกลับมาก็มีพี่ชายเอาขนมมาให้จนถือมิไหว
"กินได้สิขอรับ" ลำเภาจันทร์เอ่ยตอบพี่ชายคนที่ ๖ พร้อมรอยยิ้มที่แต่งแต้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปที่แคร่ไม้เพื่อนั่งลงทานขนมดีๆ "พวกพี่มานั่งทานด้วยกันเถิดขอรับ"
"ได้ เช่นนั้นข้าก็มิเกรงใจแล้วนะ" โททวีเดินเข้าไปนั่งข้างๆ น้องชายคนเล็กก่อนจะหยิบขนมโก๋ที่ดูน่ากินขึ้นมากัดกินคำใหญ่
"เหอะ ควรเกรงใจน้องเภาเสียหน่อยเถอะ น้องเภาอุตส่าห์แบ่งให้" เอกาทศเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดประชดก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ น้องชายอีกฝั่งแล้วหยิบขนมกินเป็นเพื่อน แม้ว่าตนจะมิค่อยชอบของหวานเท่าใดก็ตาม
ไม่นานพี่ชายคนที่ ๖ และคนที่ ๘ ก็มาร่วมกินด้วย กินขนมกันไปก็หัวเราะหยอกล้อกันไป ดูเป็นบรรยากาศยามเย็นที่ครื้นเครงและสนุกสนานมิน้อย
"...." ลำเภาจันทร์มองเหล่าพี่ชายระหว่างทานขนมหลายอย่างตรงหน้าอย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกอบอุ่นมากจริงๆ ที่ได้อยู่กับพวกเขา เขามีความสุขมากที่ได้มีพี่น้องเหมือนคนอื่นๆ จนไม่อยากให้ความสุขนี้หายไปไหนเลย
TBC