ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กรรรรร!!
โฮกกก!!!
เสียงขู่คำรามของฝูงหมาป่าดังกึกก้องสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพงไพรจนเหล่ามวลวิหคแตกตื่นบินว่อนหนีกระเจิงด้วยความตกใจ พวกหมาป่าล้อมรอบกายของยักษ์หนุ่มพร้อมจะจู่โจมเป้าหมาย นัยน์ตาสีอ่อนดุร้ายของพวกมันจับจ้องไปที่เหยื่อชิ้นโตตรงหน้าอย่างหิวโหย ปากยาวเต็มไปด้วยซี่ฟันแหลมคมแยกเขี้ยวข่มขู่และมีน้ำลายไหลย้อยอย่างน่ารังเกียจ
หมาป่าฝูงนี้ดูอารมณ์ดุร้ายกว่าปกติอยู่มากเพราะกลิ่นคาวเลือดจากยักษ์บุรุษผู้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายทว่าร่างกายกำยำกลับเต็มไปด้วยเลือด
"...." พญารามสูรเหลือบมองฝูงหมาป่าตรงหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น ตนมิได้เกรงกลัวแม้รู้ว่าสภาพร่างกายของตัวเองในยามนี้มิเหมาะที่จะประมือกับฝูงหมาป่ามากถึง ๑๐ ตัวเท่าใดนัก มิว่าอย่างไรตนก็มิยอมทิ้งชีวิตที่นี่เพราะนครยักษ์ของตนยังมิมีผู้สืบบัลลังก์ หากตนตายไปทั่วทั้งดินแดนยักษ์และดินแดนอื่นคงได้เกิดความโกลาหลเป็นแน่
พญารามสูรมองไปรอบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่ แต่ดูเหมือนว่าทางรอดของตนนั้นจะมีอยู่เพียงน้อยนิดจนแทบจะมิมีอยู่เลย ทางเดียวที่จะรอดไปได้คือตนต้องพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อร่ายคาถาเคลื่อนย้ายพาตัวเองหนีออกไป ทว่าเพลากระชั้นชิดเช่นนี้ตนเกรงว่าจะมิทันการเสียก่อน
กรรรร!!
หมาป่าตัวหนึ่งที่น่าจะเป็นจ่าฝูงทำท่าเตรียมจะกระโจนเข้าใส่ยักษ์บุรุษร่างใหญ่ซึ่งกำลังจะเป็นอาหารรสเลิศของมันและลูกฝูง
พญารามสูรจ้องหมาป่าตัวนั้นด้วยสายตามืดมิดมิเกรงกลัว ริมฝีปากหยักสวดพึมพำคาถาบางอย่างด้วยจิตใจที่นิ่งสงบและเยือกเย็นกว่าเดิม
พึ่บ!!
แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งกระโดดลงมาจากต้นไม้พร้อมตวัดมีดสั้นด้ามเล็กๆ ปาดเข้าที่คอของหมาป่าจ่าฝูงจนมันล้มลงตายในพริบตา
พญารามสูรเห็นเช่นนั้นก็ตกตะลึง ยิ่งผู้สังหารหมาป่าจ่าฝูงเมื่อครู่ดูจะมีอายุแค่ ๑๐ ปีเท่านั้น หนำซ้ำยังเป็นเพียงเด็กมนุษย์แต่กลับสังหารหมาป่าที่ตัวใหญ่กว่าตนเองได้อย่างมิหวาดกลัวเลยสักนิด
"....หากอยากตายก็เข้ามา" ลำเภาจันทร์เอ่ยกับฝูงหมาป่าตัวที่เหลือด้วยน้ำเสียงเรียบเยียบเย็น เขาเคยบอกไปหรือยังว่าในโลกก่อน การปล่อยเด็กที่อยู่ในสังกัดทิ้งไว้ในป่าซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ดุร้ายมากมายเป็นหนึ่งในวิชาการฝึกเด็กๆ เพื่อเป็นนักฆ่าขององค์กร และเขาเป็นหนึ่งในเด็กที่รอดมาได้ ดังนั้นแค่ฝูงหมาป่ามิกี่สิบตัวย่อมมิคณามือของเขาที่เข้าป่าล่าสัตว์มาตลอดอยู่แล้ว
กรรรร!!!!
โฮกกก!!!!
หมาป่าทั้ง ๙ ตัวเมื่อเห็นจ่าฝูงของพวกมันตายลงก็มองไปที่ผู้มาใหม่ด้วยสายตาโกรธแค้น เสียงขู่คำรามอย่างกราดเกรี้ยวดังก้องไปทั่วก่อนทุกตัวจะกระโจนเข้าใส่เด็กมนุษย์ในคราเดียวพร้อมอ้าปากแยกเขี้ยวคมหวังฉีกกระชากร่างเนื้อของเด็กน้อยออกเป็นชิ้นๆ
"ร ระวัง!" พญารามสูรเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ พยายามเค้นเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อเอาตัวไปบังเด็กน้อยผู้นั้นเอาไว้ แม้กายจะบาดเจ็บหนัก แต่หากตนสามารถทนได้อีกสักนิดแล้วร่ายคาถาหนีไปก็ยังพอจะมีทางรอดอยู่บ้าง
แต่แล้วเรื่องมิคาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเด็กน้อยผู้นั้นเบี่ยงตัวหลบและกำจัดหมาป่าทั้งเก้าตัวที่เหลือได้อย่างง่ายดายในเวลาอันรวดเร็ว
"...."
"...."
พญารามสูรมองเด็กมนุษย์ตัวน้อยที่ร่างกายโชกไปด้วยเลือดของหมาป่าด้วยความประหลาดใจปนตกตะลึง ตนมิคิดเลยว่าเด็กน้อยมนุษย์ซึ่งมีอายุเพียง ๑๐ ปีจะสามารถสังหารฝูงหมาป่าที่ดุร้ายได้ทั้งหมด
"....ท่านคงเป็นยักษ์ ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ก็ควรกลับไปเมืองยักษ์ของท่านเสีย" ลำเภาจันทร์เอ่ยกับยักษ์ตรงหน้าที่กำลังมองมาอย่างตะลึงงัน ก่อนเขาจะหันหลังเตรียมเดินจากไปเพื่อหาลำธารชำระล้างร่างกายและหาเสบียงต่อ หากกลับไปหาพี่ชายในสภาพเช่นนี้เหล่าพี่ๆ ของเขาคงได้แตกตื่นกันเป็นแน่
"เจ้า เดี๋ยวก่อน" พญารามสูรเอ่ยรั้งเด็กน้อยเอาไว้
"...ข้ามิใจดีกับยักษ์ที่มิรู้ที่มาที่ไปและมิรู้ว่าจะจับตนกินเพื่อฟื้นพละกำลังหรือไม่หรอกหนา" ลำเภาจันทร์กล่าวกับพญายักษ์ด้วยน้ำเสียงที่มิแสดงความรู้สึกใดๆ นัยน์ตากลมยังคงเรียบนิ่ง ทำเพียงเหลือบมองอย่างมิแยแสเท่านั้น
"ข ข้ามิได้คิดจะกินเจ้า ข้าเพียงแค่อยากถามว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บตรงที่ใดบ้างหรือไม่" พญารามสูรรีบอธิบายเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังเข้าใจตนผิด มิคิดเลยว่าเด็กน้อยจะระมัดระวังตัวมากถึงเพียงนี้ และแม้จะหวาดระแวงตนแต่ก็ยังยอมเข้ามาช่วยเหลือ ช่างเป็นเด็กน้อยที่ใจดีเสียจริง แน่นอนว่าหากตนกินเด็กน้อยตรงหน้าย่อมสามารถฟื้นพละกำลังที่สูญเสียไปได้มากทีเดียว เพียงแต่พญารามสูรมิได้ใจทรามถึงขนาดคิดจะทำร้ายผู้มีพระคุณ จึงมิมีเรื่องเช่นนั้นอยู่ในหัวตั้งแต่แรก
"...ข้ามิได้รับบาดเจ็บตรงที่ใด เป็นห่วงตัวท่านเองก่อนเถิด สภาพเช่นนี้หากข้ากลัวว่าจะเป็นภัยต่อตัวข้า ข้าก็สามารถเชือดสังหารท่านได้ในคราเดียว" ลำเภาจันทร์ขู่อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"หากเจ้าคิดจะทำเช่นนั้นคงลงมือทำไปเสียนานแล้วมิใช่หรือ" พญารามสูรตอบเด็กน้อยที่ยืนอยู่ท่ามกลางศพของฝูงหมาป่าก่อนจะยกยิ้มมุมปากที่มีเขี้ยวคมขึ้นอย่างเย้าหยอก ถึงอย่างนั้นดูจากความสามารถของเด็กน้อยเมื่อครู่แล้ว หากอีกฝ่ายหวังปลิดชีพตนจริงๆ ก็คงมิใช่เรื่องยากอันใด
"...." ลำเภาจันทร์มองยักษ์ร่างใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัสอย่างเฉยชา ก่อนจะเดินเลี่ยงจากไปอย่างมิสนใจใยดี เดินอยู่สักพักก็เห็นลำธาร ลำเภาจันทร์ไม่รอช้ารีบเดินลงไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวขจัดกลิ่นคาวเลือดและคราบเลือดที่อยู่บนตัวจนหมด หลังจากอาบน้ำอยู่สักพัก ร่างเล็กก็ขึ้นจากลำธารแล้วเดินไปหาผลไม้ไว้เป็นเสบียงต่อ
ตอนอยู่ในองค์กรนักฆ่าลำเภาจันทร์เคยฝึกวิชาเอาตัวรอดในป่า เขารู้ดีว่าเสบียงอาหารสำคัญมากเพียงใด เขาจึงต้องรีบหาอาหารและรีบกลับไปหาพี่ๆ เพราะยามนี้เขาก็ออกมานานมากแล้ว หากพวกพี่ชายพากันออกตามหาเขาแล้วหลงป่าหรือพลัดหลงกันคงมิพ้นเกิดความวุ่นวายแน่
ลำเภาจันทร์เดินต่อไปได้สักพักหนึ่งก็พบต้นแอปเปิ้ลป่าซึ่งกำลังออกผลสุกงอมอยู่เต็มต้น พอมองไปด้านข้างใกล้ๆ ลำธารที่เขาเพิ่งใช้ล้างเนื้อล้างตัวเมื่อครู่ ก็เห็นว่ามีดงกล้วยอยู่หลายดง และหนึ่งในต้นกล้วยเหล่านั้นมีเครือกล้วยที่กำลังออกผลสุกพอดี
พึ่บ พึ่บ พึ่บ
"...." ลำเภาจันทร์หันไปมองที่พุ่มไม้เมื่อรู้สึกถึงการสั่นไหวเล็กน้อย เขาคิดว่าป่าแถวนี้น่าจะอุดมสมบูรณ์พอควรเพราะอยู่ใกล้ลุ่มแม่น้ำและยังเป็นป่าลึก ทำให้ชาวบ้านเข้ามาหาของป่าได้ลำบาก เขาค่อยๆ ย่องไปที่พุ่มไม้นั้น ทันทีที่รู้ว่ามีตัวอะไร มีดสั้นทั้งสองด้ามก็ถูกปาเข้าที่กลางหน้าผากของกระต่ายป่าทั้งสองตัวอย่างแม่นยำ หลังจากนั้นลำเภาจันทร์ก็วางพวกมันไว้บนใบตองแล้วหันไปปีนเก็บลูกแอปเปิ้ลไปให้พี่ๆ เมื่อได้ปริมาณมากจนเป็นที่พอใจเขาก็เดินไปตัดเครือกล้วยที่เห็นก่อนหน้านี้มาเตรียมไว้ และเอาเถาวัลย์มาสานเป็นตะกร้าง่ายๆ จากนั้นลำเภาจันทร์ก็รีบขนเสบียงทั้งหมดกลับไปหาพวกพี่ชายที่น้ำตกทันที
อีกด้านหนึ่ง
พญารามสูรกุมหน้าท้องที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์และพยายามเดินไปนั่งพักที่โคนต้นไม้ซึ่งอยู่ห่างไกลมากพอสมควรจากซากสัตว์ดุร้ายที่เด็กน้อยตัวเล็กพึ่งสังหารไป
เผ่าพันธุ์ยักษ์และเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นต่างเป็นปรปักษ์กันมาเนิ่นนาน ตนมิคาดคิดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์เช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มนุษย์ช่วยเหลือตน และบาดแผลบนร่างก็มาจากน้ำมือของพวกมนุษย์ทั้งสิ้น แต่พญารามสูรสามารถแยกแยะมิตรศัตรูได้ มิได้เหมารวมเช่นยักษ์ตนอื่นๆ ว่ามนุษย์นั้นต่างล้วนโลภมากกันทุกคน
ส่วนเผ่าพันธุ์มนุษย์เองก็กล่าวโทษเผ่าพันธุ์ยักษ์ว่าทั้งดุร้ายและเลวทราม แต่หากต่างฝ่ายต่างอยู่มีหรือที่เผ่าพันธุ์ของตนจะคิดเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ของอีกฝ่าย เผ่าพันธุ์ยักษ์ก็มีชีวิตจิตใจ หากต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตนก็มิใช่เรื่องแปลกอันใดมิใช่หรือ? ใครจะยอมให้ผู้อื่นมากดขี่ได้
ตุ้บ!!
พญารามสูรสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะมองสิ่งที่อยู่ๆ ก็ถูกโยนมาตรงหน้า มันคือกระต่ายป่า ๒ ตัวและห่อใบตอง ๑ ห่อที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพร
"...." ลำเภาจันทร์จ้องมองยักษ์ร่างใหญ่ด้วยสายตาเย็นชาปนไม่สบอารมณ์ จะให้เขาเพิกเฉยก็ดูจะใจร้ายเกินไป ในเมื่อช่วยแล้วเขาก็ควรช่วยให้ถึงที่สุด เอาเป็นว่าเขาให้กระต่ายป่าสองตัวที่ล่าได้กับห่อสมุนไพรที่เก็บมาระหว่างทางก็แล้วกัน อยู่ในป่าลึกเช่นนี้อาจจะมีสัตว์ป่าดุร้ายโผล่ออกมาอีก
"ขอบใจเจ้ามาก" พญารามสูรยกมุมปากหนายิ้มอย่างโง่งมให้กับเด็กน้อยตัวขาวตรงหน้า นัยน์ตาคมกริบซ่อนความรู้สึกตะลึงพรึงเพริดเอาไว้เมื่อได้เห็นรูปโฉมของอีกฝ่ายชัดๆ ว่าน่ารักมากเพียงใดหลังจากเด็กน้อยตัวเล็กไปล้างเนื้อล้างตัวมาจนสะอาดสะอ้านแล้ว ช่างน่ารักเสียจนตนทำตัวมิถูกเมื่อนึกถึงยามที่เด็กน้อยผู้น่าทะนุถนอมตรงหน้าสังหารฝูงหมาป่าเมื่อมินานนี้ แม้แววตาของคนตัวเล็กจะเรียบนิ่งและเย็นชา ทว่ามันกลับแฝงไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนอย่างที่พญายักษ์มิเคยได้รับมาก่อน ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่แข็งแกร่งมายาวนานสั่นไหวโดยมิทราบสาเหตุ ตนทั้งรู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
"...." ลำเภาจันทร์พยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับว่าไม่เป็นไร นัยน์ตากลมโตสีนิลที่ยังคงเรียบนิ่งแอบสำรวจอีกฝ่ายเงียบๆ แม้ยามนี้ใบหน้าของยักษ์หนุ่มจะเต็มไปด้วยเลือดแต่ก็ไม่อาจปกปิดโครงหน้าอันหล่อเหลาคมคายเอาไว้ได้ นัยน์ตาสีเทาเหล็กดูดุดันและมีเสน่ห์ ยิ่งผิวกายหยาบสีแทนยิ่งเสริมความดิบเถื่อนให้กับร่างกายใหญ่โตบึกบึน ทั้งกลิ่นอายอำนาจบารมีที่แผ่ออกมาอยู่ตลอดเวลาทำให้ยักษ์ตรงหน้าแลดูน่ากลัวและน่าเกรงขามยิ่งนัก ...ช่างเป็นยักษ์ที่เขาไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยเลย
แต่ในเมื่อได้ให้กระต่ายป่ากับห่อสมุนไพรไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรให้เขาต้องอยู่ต่อ ลำเภาจันทร์จึงเดินจากไปโดยมิสนใจสายตาที่พญายักษ์กำลังมองมาเลยสักนิด
พญารามสูรมองตามแผ่นหลังของเด็กน้อยน่ารักที่เดินจากไปเงียบๆ จนลับตา ก่อนจะก้มลงมองกระต่ายป่าซึ่งต่างอวบอ้วนและน่ากินทั้งสองตัว กระต่ายป่าสองตัวนี้มิใช่ตัวเล็กๆ ตนมิคิดเลยว่าเด็กน้อยที่ตัวเล็กและบอบบางเช่นนั้นจะยกมันได้ แถมตนยังเห็นอีกฝ่ายแบกผลไม้มากมายเอาไว้ด้านหลัง ช่างเป็นเด็กที่แข็งแรงและน่าสนใจเสียจริง
เนื่องจากมิมีอะไรตกถึงท้องพญารามสูรมานานแรมเดือนแล้วตั้งแต่ปะทะกับมนุษย์กลุ่มนั้น พญายักษ์ผู้หิวโหยจึงฉีกกระต่ายป่าตัวอวบอ้วนออกเป็นชิ้นๆ และกัดกินจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว แม้จะมิอิ่มแต่ก็สามารถฟื้นพละกำลังของตนได้มากทีเดียว จากนั้นพญารามสูรจึงมองห่อใบตองห่อใหญ่ ก่อนจะเปิดนำสมุนไพรที่ได้จากเด็กน้อยตัวเล็กมาขยี้เพื่อทาบาดแผลของตนด้วยน้ำหนักมือที่มิเบานัก หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อย นัยน์ตาสีเทาเหล็กก็เหลือบขึ้นมองท้องฟ้าซึ่งกำลังมืดมิดลงอย่างเงียบๆ
แม้บรรยากาศในป่ายามพลบค่ำจะวังเวงมาก มีเสียงวิหคและเสียงสัตว์ร้ายร้องระงมเป็นระยะๆ แต่ทว่าในหัวและในใจของพญายักษ์ยามนี้กลับเอาแต่นึกถึงใบหน้าน่ารักและแววตาที่เหมือนดั่งลูกนกซึ่งพร้อมจะใช้ปากเล็กๆ จิกตนอยู่ตลอดเวลาเอาเสียได้ หึ หึ ช่างน่ารักเสียจริง
"ข้าอยากเจอเจ้าอีกครั้งยิ่งนัก เด็กน้อย ข้ายังมิรู้จักนามของเจ้าเลย"
TBC