ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ผู้แต่ง
Jring.
เรื่องย่อ
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์
น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี
หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์
จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก
"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"
เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง
ถ้าทำตัวดีล่ะนะ
พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
พึบ!!
ตุลย์เหวี่ยงดาบไม้เล่มหนาที่ถืออยู่ปัดป้องได้อย่างทันท่วงที แต่ทว่าก็ต้องตกตะลึงให้กับเรี่ยวแรงของเด็กน้อยมนุษย์ ที่แทบจะทำให้นายทหารยักษ์ตัวใหญ่มิสามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
การปะทะกันของลำเภาจันทร์และครูฝึกผู้นามว่าตุลย์พาให้เหล่าพี่ชายที่กำลังตั้งใจฝึกดาบกันอย่างขะมักเขม้นหันมาให้ความสนใจ
ก่อนทุกคนจะอ้าปากค้าง รีบวิ่งเข้าไปล้อมวงมุงดูการประลองของน้องชายคนเล็ก
"อึบ!"ลำเภาจันทร์เหวี่ยงตัวเหยียดไปที่ดาบไม้ของอีกฝ่ายแล้วกระโดดตีลังกาเพื่อกลับไปยืนตั้งหลักอย่างสวยงาม ในใจคิดว่าสมแล้วที่อีกฝ่ายเป็นถึงยักษ์ทหารที่ฝึกฝนมาอย่างดี การตอบสนองเร็วมากพละกำลังเองก็มีเหลือล้น ถ้าหากว่าลำเภาจันทร์ต้องต่อสู้กับยักษ์ทหารตรงๆ เด็กมนุษย์ธรรมดาอย่างเขาไม่อาจสามารถทำได้ง่ายอย่างแน่นอน
นี่เป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้สรีระร่างกายรวมถึงจุดอ่อนของเผ่ายักษ์ เพราะในอนาคตข้างหน้ามันจะเป็นประโยชน์ให้เขาไม่มากก็น้อย
คิดได้ดังนั้นลำเภาจันทร์จึงกระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง โดยพยายามหาจุดอ่อนให้ได้ แต่ทว่านายทหารยักษ์ตุลย์เองก็มิเปิดโอกาสให้คมดาบไม้ของเด็กน้อยโดนผิวกายหยาบได้เลยเช่นกัน ด้วยเพราะที่เป็นทหารและฝึกฝนมาอย่างหนักจึงสามารถปัดป้องดาบของเด็กน้อยมนุษย์ได้อย่างดี และสามารถตั้งรับได้เกือบทุกกระบวนท่า แม้ว่าวิถีดาบจะแปลกประหลาดมากและมิคุ้นเคยเลยก็ตาม
นายทหารตุลย์อดตกตะลึงให้กับความรวดเร็วในการเหวี่ยงดาบของอีกฝ่ายมิน้อย เพราะตุลย์นั้นสามารถปัดป้องดาบที่เหวี่ยงมาได้อย่างเฉียดฉิวเพียงเท่านั้น หากว่าตรงนี้เป็นยักษาธรรมดาแล้วละก็ ก็คงเสียท่าให้กับพระโอรสองค์สุดท้องได้มิยากแน่
ตุลย์ทั้งแปลกใจทั้งอึ้งตะลึงในเวลาเดียวกัน ไม่ต่างจากศวุตย์หรือขุนทัพหน่อยที่ ๒ และฌานสหายของตนที่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ
ใบหน้าเนียนใสน่ารัก ทั้งยังฉายแววงดงามล้มเมืองเช่นนี้ ใครจะคิดเล่าว่าจะสามารถแกว่งดาบได้รวดเร็ว มั่นคง รุนแรง เช่นนี้!
การประลองของทั้งคู่สลับกับรุกสลับกับรับเป็นเวลานาน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าพี่ชายที่มารวมตัวกันเชียร์ ด้วยเพราะพวกเขามิคิดว่าน้องชายคนเล็กจะสามารถปะทะกับนายทหารตัวใหญ่ได้
"เจ้าเภาเก่งกาจยิ่งนัก ข้ามิเคยเห็นมาก่อนเลย"จตุรงค์เอ่ยกับพี่น้องของตนที่พากันยืนออดูการประลองของน้องชายคนเล็กสุดด้วยความตื่นตาตื่นใจ
"นั่นสิเจ้า ๔ ข้าเองก็มิเคยพบเห็นเช่นกัน"เอกศึกผู้เป็นพี่ชายคนโตพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อวานที่น้องชายคนเล็กได้ทำร้ายน้องชายคนที่ ๕ และคนที่ ๑๐ จนเขาเองก็อดนึกมิได้ว่าหากน้องชายผู้นี้โกรธขึ้นมาจริงๆ ผลจะออกมาเป็นเช่นไร
"ข้ามิคิดทำให้เจ้าเภาโกรธแน่"อัฐลูบแขนตัวเองอย่างขนลุกก่อนจะตัวสั่นงึกๆ ขึ้นมาดื้อๆ
"น้องเภาสู้ๆ! ชนะให้ได้นะ!!"เอกาทศมิสนใจสิ่งอื่นใดทั้งนั้น เอาแต่แหกปากร้องเชียร์น้องชายที่น่ารักของตนเองสุดเสียง เพราะต้องการเป็นกำลังใจให้
"เหอะ คิดจะเก่งไปเสียหมดทุกอย่างเลยหรืออย่างไร"สัตภัณฑ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงติดประชดประชัน ก่อนจะเชิดหน้าหนีด้วยความหมั่นไส้
"ช่วยมิได้ล่ะนะ หากอิจฉาเจ้าก็ต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้เสียแล้ว"โททวีเอ่ยกับน้องชายคนที่ ๗ แต่สายตากับจ้องมองวิชาดาบของน้องชายคนเล็กอย่างตื่นเต้น เพราะมันทั้งงดงาม มั่นคง รวดเร็ว และแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน จนตนเองก็อดที่จะอยากประลองด้วยมิได้ ข้างในมันตื่นเต้นไปหมด
ครั้งก่อนที่เคยประลองกันแล้วดาบของตนหลุดมือ โททวีคิดมาตลอดว่าตนนั้นคงจับดาบไว้มิแน่น แต่พอมาตอนนี้ ตนกับรับรู้แล้วว่าน้องชายคนเล็กของตนนั้นคือของจริง
เวลาล่วงเลยผ่านไปการประลองของทั้งคู่ก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และมิมีทีถ้าว่าจะหยุดลงเลยสักนิด จนกระทั่งดวงตะวันอยู่กลางศีรษะ
"พะ พระโอรสเภาพ่ะย่ะค่ะ ย..ยามนี้ทรงเที่ยงวันแล้ว พักผ่อนกันก่อนเถิดหนาพ่ะย่ะค่ะ"ตุลย์เอ่ยด้วยลมหายใจที่หอบถี่ เนื่องจากปะทะกันกับพระโอรสองค์เล็กมานานหลายเพลาแล้ว
ตุลย์รู้สึกว่า ตั้งแต่ฝึกฝนมาตนเองยังมิเคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้มาก่อน เนื่องด้วยเพราะสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของนายทหารยักษ์ตุลย์คือการขยับตัวที่เชื่องช้า แม้มันจะทรงพลังมากถึงกระนั้นหากโจมตีมิโดนก็มิเป็นผลต่อการต่อสู้อยู่ดี ดังนั้นกว่าตุลย์จะสามารถปัดป้องดาบที่รวดเร็วของพระโอรสเภาได้ในแต่ละครั้ง มันจึงมิง่ายเอาเสียเลย และพระโอรสลำเภาจันทร์เองก็ใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานตนได้เป็นอย่างดี️
ในใจของนายทหารยักษ์ตุลย์รู้สึกหัวเราะมิได้ร้องไห้มิออก เพราะนอกจากตุลย์จะต้องพยายามสกัดดาบของเด็กน้อยมนุษย์ตรงหน้าไว้แล้ว ทหารตุลย์เองยังต้องพยายามมิให้เด็กน้อยของผู้เป็นราชาบาดเจ็บอีกด้วย มิเช่นนั้นตนตายแน่!
"...อืม"ลำเภาจันทร์พยักหน้าเบาๆ ก่อนเรียวแขนเล็กจะลดดาบไม้ในมือลง โพรงจมูกเล็กทั้งสองข้างหอบหายใจถี่มิแพ้กัน เพียงแต่ลำเภาจันทร์กับสามารถควบคุมจังหวะลมหายใจได้ดีกว่าอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น
ในใจคิดว่าสมแล้วที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นเผ่าพันธุ์ยักษ์ ทักษะของอีกฝ่ายสมดั่งที่ฝึกทหารมายาวนานเป็นร้อยปี การที่เขาซึ่งเป็นเด็กมนุษย์ตัวน้อยๆ จะเอาชนะยักษ์ทหารได้นั้น ดูมิง่ายเอาเสียเลย
และหลังจากที่ทั้งคู่ตกลงที่จะหยุดพักการประลองลง ลำเภาจันทร์ก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นหญ้าเพื่อพักหายใจ เนื่องเพราะพละกำลังของยักษาตนหนึ่งและเด็กน้อยมนุษย์คนหนึ่งนั้นแตกต่างกันมาก แม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาตลอด แต่ทว่าจะเทียบเท่ากับยักษาตรงหน้าที่มีอายุขัยมากกว่าเขาได้เช่นไร
"น้องเภาเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหรือไม่?"เอกาทศรีบวิ่งเข้าไปดูน้องชายของตนด้วยความเป็นห่วง
เหล่าพี่ชายที่เห็นว่าน้องชายคนเล็กทรุดลงไปนั่งกับพื้นเช่นนั้นต่างก็รีบวิ่งเข้าไปดูน้องชายคนเล็กทันทีว่าเป็นเช่นไรบ้างยามนี้
"อะนี่ น้ำ"โททวียื่นขันน้ำเย็นให้น้องชายคนเล็กของตน เพื่อให้น้องชายได้ดื่มดับกระหาย
"เจ้าเภา เจ้าสุดยอดยิ่งนัก สู้กับผู้ใหญ่ได้อย่างสูสีเลย"อัฐเอ่ยชื่นชมน้องชายคนสุดท้องด้วยท่าทางตื่นเต้น พร้อมกับใช้ใบไม้ใบใหญ่แถวนั้นพัดลมให้น้องชายคนเล็กไปด้วย
"...ขอบพระคุณขอรับ"ลำเภาจันทร์รับขันน้ำเย็นมาจากพี่ชายคนที่ ๒ ก่อนจะยกขึ้นจิบเพื่อดับกระหายและคลายร้อน
เหล่าพี่ชายส่วนใหญ่ต่างพากันชื่นชมลำเภาจันทร์ไม่หยุดปาก ท่ามกลางสายตาทั้ง ๓ คู่ของครูฝึกที่มองมาอย่างพึงพอใจและชื่นชมเช่นกัน สมแล้วที่เป็นมนุษย์ที่ฝ่าบาททรงพึงพอใจ
จากนั้นมินานแม่นมยักษ์ผู้นามว่าบานชื่น ก็มาเอ่ยเรียกเหล่าพระโอรสทั้งหลายไปทานสำรับยามเที่ยงต่อ
TBC