ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

นาย๑๒ - 17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นาย๑๒

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL

รายละเอียด

นาย๑๒ โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

ผู้แต่ง

Jring.

เรื่องย่อ

เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน 


เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์

น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี



หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์

จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก

 

"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"



เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง

ถ้าทำตัวดีล่ะนะ



พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

สารบัญ

นาย๑๒-1. โลกใบใหม่,นาย๑๒-2 ตลาดท่าจันทคาม,นาย๑๒-3. การเติบโต,นาย๑๒-4 ผู้ใดมาเกี้ยวน้องเภาของข้า!,นาย๑๒-5 ท่านพ่อโดนยึดเกวียน,นาย๑๒-6 โดนทิ้งอีกครั้งก็พบเจอเข้ากับยักษา,นาย๑๒-7 กลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย,นาย๑๒-8 คิดเลี้ยงไว้กินหรือไร,นาย๑๒-9 ล่อลวงเข้าเมืองยักษ์,นาย๑๒-10 ห้องนอนข้างกัน,นาย๑๒-11 สับสน,นาย๑๒-12 เรียกพี่รามสูร,นาย๑๒-13. คงมิพอใจข้ามากสิหนา,นาย๑๒-14 เข้าใจข้าผิดแล้ว,นาย๑๒-15 ยาอายุวัฒนะ,นาย๑๒-16 ประลอง,นาย๑๒-17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน,นาย๑๒-18 รักษา,นาย๑๒-19 รักษา 2,นาย๑๒-20 ข้าจะเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-21 แอบเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-22 รักษานาค,นาย๑๒-23 สหายคนแรก,นาย๑๒-24 สงคราม,นาย๑๒-25 เริ่มทำยา,นาย๑๒-26 บรรยากาศแปลกๆ,นาย๑๒-27 แข่งขี่ม้ายิงธนู,นาย๑๒-28 สายตาหน้าขยะแขยง,นาย๑๒-29 หลอกล่อพี่ชายคนที่ ๓,นาย๑๒-30 พี่กล้วข้ามากเลยหรือ,นาย๑๒-31 โดนจับตัวไป,นาย๑๒-32 รู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน,นาย๑๒-33 เริ่มปรุงยา,นาย๑๒-34 แปรผัน,นาย๑๒-35 ดวลชิงบันลังก์ 1,นาย๑๒-36 ดวลชิงบันลังก์ 2,นาย๑๒-37 เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย,นาย๑๒-38 ลำเภาจันทร์เข้าครัว,นาย๑๒-39 รักต่างเผ่าพันธุ์,นาย๑๒-40 ผลไม้ที่กินมาตลอดคือผลไม้วิเศษ,นาย๑๒-41 ปลามงคล,นาย๑๒-42 ชวนพี่ชายทานอาหาร,นาย๑๒-43 อร่อยที่สุดเท่าที่เลยทำ,นาย๑๒-44 แอบออกนอกวัง,นาย๑๒-45 อันธพาลแห่งนคร,นาย๑๒-46 ทูล (ฟ้อง) เสด็จพ่อ,นาย๑๒-47 มียักษ์มาสู่ขอพระโอรสลำเภาจันทร์,นาย๑๒-48 รู้ทันแผนทำให้พี่น้องแตกคอ,นาย๑๒-49 มนุษย์ที่ถูกขัง,นาย๑๒-50 นางยักษ์,นาย๑๒-๕๑. แผนการหลบหนี

เนื้อหา

17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน

ตัดมาทางฝั่งของเบญจ ที่กำลังเรียนรู้มารยาทอยู่ในห้องโถงของหอพัก

"ใช้มิได้เลยเพคะ เอาใหม่"มาดามไมซี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มงวด นัยน์ตาเฉี่ยวคมของสตรีชนชั้นสูงวัยกลางคนจับจ้องมองเด็กน้อยมนุษย์ทั้ง ๔ คนด้วยสายตาพิจารณา



"อันใดกัน มันก็แค่การเดินมิใช่หรือ"ทศรักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดมิพอใจและเย่อหยิ่ง หัวคิ้วทั้งคู่ขมวดเข้าหากันแน่นเพราะนี่มันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็มิรู้ที่ตนต้องเดินใหม่!



"แม้จะเป็นเพียงการเดิน แต่ทว่าความสง่างามนั้นก็ต้องมาเป็นอันดับ ๑ เพคะ พวกท่านมีศักดิ์เป็นถึงพระโอรสของฝ่าบาท ทรงจะทำตัวขายหน้าให้ฝ่าบาทได้หรือ? "มาดามไมซี่เอ่ยเสียงข่มเพื่อหวังสั่งสอน ดวงตาเฉี่ยวมองดุตักเตือนที่อีกฝ่ายแสดงกิริยาเย่อหยิ่งจองหองออกมา



"มาดามขอรับ พวกเราฝึกการเดินมาสักพักแล้ว ขอพักสักนิดได้หรือไม่"นวรัตน์ขอร้องสตรีวัยกลางคนตรงหน้า ที่เสด็จพ่อทรงจ้างให้มาสั่งสอนมารยาทแก่พวกเขา"เมื่อวันก่อน ท่านพี่เบญจ และน้องทศรักษ์ได้รับบาดเจ็บ หากฝืนฝึกต่อเกรงว่า.."



"นั้นสิ ให้พวกเราพักกันสักหน่อยเถอะ พวกเราเป็นถึงบุตรชายของเสด็จพ่อ ท่านกล้าสอนสั่งพวกเราหนักหนาเช่นนี้เลยรึ?"เบญจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ มือทั้งสองข้างเท้าสะเอวเสียจนมารยาทมิงามเอาเสียเลย



"จ เจ้าเบญจ อย่าเอ่ยวาจาเช่นนั้นสิ มิดีเลยหนา"ตรีไตรเอ่ยเตือนน้องชายคนที่ ๕ เพราะเห็นว่าสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยมิสมควรเอ่ยกับผู้ใหญ่ยิ่งนัก 



"…เห็นทีหม่อมฉันคงต้องสอนมารยาทเรื่องการพูดคุยให้พระโอรสด้วยแล้วเพคะ ฝ่าบาททรงให้หม่อมฉันมาสอนมารยาทแก่พวกท่าน ก็คงเพราะนิสัยเช่นนี้กระมัง"มาดามไมซี่เอ่ยกับเหล่าเด็กน้อยมนุษย์ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงหน่ายใจ ก่อนสักพักจะเชิดหน้าขึ้นแล้วกล่าวสั่งต่อ"พักยังมิได้เพคะ จนกว่าพวกท่านทุกคนจะเดินได้งดงามและสง่ายิ่งกว่านี้"



"...ข ขอรับ"นวรัตน์เอ่ยเสียงเศร้าพร้อมกับก้มหน้าลง ต่างจากเบญจและทศรักษ์ที่กัดฟันแน่นด้วยความมิพอใจ กว่าพวกเขาจะได้พักทานมื้อเที่ยง เวลาก็เลยไปเสียนานแล้ว 



"ข้ามิชอบนางเลย"เบญจเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมิพอใจในขณะที่กำลังนั่งทานสำรับอยู่บนโต๊ะอาหารกับพี่น้องทั้ง ๓ คน ใบหน้าเนียนที่เริ่มฉายแววสะสวยร้ายๆ บูดบึ้ง ก่อนจะใช้มือหยิบข้าวเข้าปากคำใหญ่เพราะหิวโหย



"นั้นสิพี่เบญจ พวกเราโดยเจ้าเภาทำร้ายมาแท้ๆ เหตุใดจึงได้มิเห็นใจกันเลย"ทศรักษ์เอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๕ ด้วยน้ำเสียงมิพอใจเช่นกัน ก่อนนัยน์ตาเย่อหยิ่งคมสวยจะมองบาดแผลที่เรียวแขนอย่างแค้นเคือง



"จะว่าไปแล้ว น้องเภามิมาร่ำเรียนกับพวกเราด้วยหรือขอรับ?"นวรัตน์เอ่ยถามพี่น้องของตนบ้าง ด้วยเพราะมิคิดว่าน้องชายคนเล็กที่มีร่างกายบอกบางอ้อนแอ้น จะสามารถเรียนฟันดาบกับพี่น้องบุรุษคนอื่นๆ ได้ 



"เหอะ! จะอะไร มันเป็นลูกรักของเสด็จพ่อนี้ จะว่าไปแล้วข้าไปฟ้องเสด็จพ่อดีกว่า เจ้าทศรักษ์เจ้าไปกับข้าด้วย เสด็จพ่อต้องเกลียดมันแน่ถ้ารู้ว่ามันทำร้ายพี่น้องของตัวเอง! ถึงตอนนั้นข้าจะสมน้ำหน้ามันให้ดู!"เบญจหันไปเอ่ยกับน้องชายคนสนิทพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ



"พ พวกเจ้า ทำเช่นนั้นจะดีหรือ"ตรีไตรมิเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะหากพวกเขาไปฟ้องเสด็จพ่อ ตรีไตรก็มิรู้เลยว่าทั้งคู่จะไปเอ่ยกลับดำเป็นขาวหรือไม่ เพราะตนเป็นถึงพี่ชายคนที่ ๓ แม้จะขี้ขลาด แต่ทว่าก็ต้องเอ่ยตักเตือนน้องชายทั้ง ๒ คนเอาไว้



"เจ้ามิต้องมายุ่ง กินเงียบๆไปเสีย"ทศรักษ์เอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๓ ด้วยน้ำเสียงมิพอใจ พร้อมตวาดหางตามองไปอย่างเย่อหยิ่งดูถูก ก่อนจะหันไปยิ้มเห็นด้วยกับพี่ชายคนที่ ๕ "ท่านพี่เบญจข้าเห็นด้วย เจ้าเภาทำร้ายพวกเราถึงเพียงนี้ จะปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาไปได้หรืออย่างไร?"



"ดีมาก แล้วเจ้าล่ะนวรัตน์ เจ้าคิดเห็นเช่นไร"เบญจหันไปเอ่ยถามน้องชายคนที่ ๙ ที่กำลังนั่งทานสำรับอย่างเรียบร้อยอยู่อีกฝั่ง



"ข้าคิดว่า เสด็จพ่อต้องยุติธรรมแน่นอนขอรับท่านพี่เบญจ"นวรัตน์เอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๕ ด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะก้มลงทานอาหารตรงหน้าต่อด้วยท่าทางอ่อนช้อยงดงาม



เวลาร่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งยามเย็น ลำเภาจันทร์ก็ก้าวเดินเพื่อกลับห้องบรรทมของตัวเองหลังจากที่ดวลกับนายทหารยักษ์ตุลย์จนชนะแล้ว

อันที่จริง กว่าลำเภาจันทร์จะชนะมาได้ก็มิง่ายเอาเสียเลย เพราะพละกำลังของเด็กมนุษย์และเผ่ายักษ์ต่างกันมาก ที่ชนะมาได้ก็เป็นเพราะลำเภาจันทร์ใช้อาวุธที่ตัวเองถนัดก็เท่านั้น

มีดสั้น คืออาวุธที่เหมาะแก่การลอบสังหารมากที่สุด ปลายมีดที่สั้นมากทำให้การปัดป้องของนายทหารยักษ์เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น บวกกับความเร็วที่นายทหารยักษ์ตุลย์ตามแทบมิทัน มันจึงทำให้ลำเภาจันทร์เอาชนะมาได้โดยง่ายกว่าที่คิด

อีกอย่างพวกเขาเองก็มิได้ดวลแบบหมายจะเอาชีวิต ทั้งฝ่ายของนายทหารยักษ์ตุลย์เองก็จะเป็นคนที่ระมัดระวังตนเป็นพิเศษ จึงทำให้มีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด สาเหตุก็เพราะอีกฝ่ายมิได้อยากทำร้ายจนเขาได้รับบาดเจ็บมีบาดแผล ดังนั้นสิ่งที่คมดาบไม้ของอีกฝ่ายจะเล็งใส่จึงเป็นมีดสั้นคมของลำเภาจันทร์เสียมากกว่า

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลำเภาจันทร์มั่นใจหลังจากที่ได้ดวลกับนายทหารยักษ์ตุลย์คือ สรีระร่างกายของเผ่ายักษ์นั้นมิได้แตกต่างไปจากมนุษย์เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่จะอึดและถึกกว่าเพียงเท่านั้น

ทว่าหากลำเภาจันทร์ต้องต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ยักษ์สักตนด้วยจริงๆละก็ เขาเกรงว่าตัวเองต้องเสียกำลังไปมากแน่สำหรับการปะทะกันตรงๆกับยักษาหนึ่งตน

ดังนั้นเขาจึงควรรีบหาวิธีการป้องกันตัวที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

เช่น เข็มฝังจุด อาวุธที่เขาใช้ลอบสังหารและไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง

มันจะสามารถช่วยย่นระยะเวลาในการปะทะกันได้มากถ้าหากว่าเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ การฝั่งจุดสกัดหรือจุดอัมพาตเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ลำเภาจันทร์ถนัด ยิ่งได้ใช้ร่วมกับยาพิษการสังหารยักษาสักตนก็คงมิใช่เรื่องยากอันใดแล้ว

เพียงแต่ลำเภาจันทร์เองก็มิค่อยแน่ใจว่าอวัยวะต่างๆของเผ่าพันธุ์ยักษาจะเหมือนกับมนุษย์หรือไม่ เพราะหากว่าเส้นเลือดต่างกัน การฝังจุดก็ย่อมต้องแตกต่างออกไป เห็นทีเขาคงต้องหาหนูมาทดลองซะแล้ว



"เจ้าคิดจะเดินไปและปล่อยกลิ่นอายน่ากลัวออกมาเช่นนี้จริงๆหรือ?"พญารามสูรเอ่ยแซวเด็กน้อยตัวเล็กด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่เอ็นดู แต่ทว่านัยน์ตาคมเข้มสีเหล็กกล้า กับจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยสายตาอบอุ่นเสียเต็มประดา"วันนี้ดูเจ้าอารมณ์ดีมิน้อย ชอบการประลองวันนี้มากเลยสิหนา"

พญารามสูรเอ่ยถามเสียงทุ้มพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน วันนี้ตนมาทันดูการประลองรอบหลังของเด็กน้อยตัวเล็กพอดี และตนก็รับรู้แล้วว่าคนตัวเล็กชื่นชอบการต่อสู้มากเพียงใด

ทั้งยังมีพละกำลังกายมากมายเสียจนสามารถต่อสู้กับยักษาที่ฝึกมาแล้วได้อีกด้วย

ช่างมิธรรมดาเอาเสียเลย หึหึ



"....ขนมของวันนี้?"ลำเภาจันทร์เหลือบสายตามองไปที่พญายักษ์ข้างกายที่เดินมาขนาดข้างตั้งแต่ยามใดก็มิรู้ ก่อนจะเอ่ยถามถึงขนมหวานเพราะว่านี้ก็เย็นมากแล้ว แต่ทว่าเขากับยังมิได้ทานขนมในส่วนของวันนี้เลย



"อยู่ที่โต๊ะทานอาหาร เจ้าตามข้ามาสิ ปกติข้ามิเคยเห็นเจ้าทานข้าวเย็นเลยหนา มิหน้าจึงได้ผอมบางเช่นนี้"พญารามสูรเอ่ยด้วยรอยยิ้มขบขันในช่วงแรก ก่อนแววตาคมหล่อเหลาจะเจ้าเล่ห์ขึ้น แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความป็นห่วงเป็นใยในประโยคหลัง"วันนี้เจ้าอยู่ทานข้าวเย็นพร้อมข้าเสียหน่อยเถิด ประลองมาทั้งวันคงเหนื่อยล้ามิน้อย"



"อืม"ลำเภาจันทร์พยักหน้าตกลงเบาๆ วันนี้เขาเองก็ใช้พลังงานไปเยอะมากจริงๆ ถ้าให้อาบน้ำแล้วนอนเลยคงมิไหวแน่ๆ



แต่ในขณะที่ลำเภาจันทร์และพญายักษ์จะเดินไปที่ห้องโถงสำหรับทานอาหารด้วยกัน ก็ได้มีเสียงสองเสียงดังร้องเรียกขึ้นมาเสียก่อน ซึ่งจะเป็นใครไปมิได้เลยถ้าไม่ใช่พี่น้องน่ารำคาญทั้ง ๒ คนของลำเภาจันทร์



"เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ! รอพวกเราก่อน!"





TBC