ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

นาย๑๒ - 21 แอบเข้าป่าต้องห้าม โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นาย๑๒

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL

รายละเอียด

ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

ผู้แต่ง

Jring.

เรื่องย่อ

เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน 


เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์

น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี



หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์

จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก

 

"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"



เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง

ถ้าทำตัวดีล่ะนะ



พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

สารบัญ

นาย๑๒-1. โลกใบใหม่,นาย๑๒-2 ตลาดท่าจันทคาม,นาย๑๒-3. การเติบโต,นาย๑๒-4 ผู้ใดมาเกี้ยวน้องเภาของข้า!,นาย๑๒-5 ท่านพ่อโดนยึดเกวียน,นาย๑๒-6 โดนทิ้งอีกครั้งก็พบเจอเข้ากับยักษา,นาย๑๒-7 กลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย,นาย๑๒-8 คิดเลี้ยงไว้กินหรือไร,นาย๑๒-9 ล่อลวงเข้าเมืองยักษ์,นาย๑๒-10 ห้องนอนข้างกัน,นาย๑๒-11 สับสน,นาย๑๒-12 เรียกพี่รามสูร,นาย๑๒-13. คงมิพอใจข้ามากสิหนา,นาย๑๒-14 เข้าใจข้าผิดแล้ว,นาย๑๒-15 ยาอายุวัฒนะ,นาย๑๒-16 ประลอง,นาย๑๒-17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน,นาย๑๒-18 รักษา,นาย๑๒-19 รักษา 2,นาย๑๒-20 ข้าจะเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-21 แอบเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-22 รักษานาค,นาย๑๒-23 สหายคนแรก,นาย๑๒-24 สงคราม,นาย๑๒-25 เริ่มทำยา,นาย๑๒-26 บรรยากาศแปลกๆ,นาย๑๒-27 แข่งขี่ม้ายิงธนู,นาย๑๒-28 สายตาหน้าขยะแขยง,นาย๑๒-29 หลอกล่อพี่ชายคนที่ ๓,นาย๑๒-30 พี่กล้วข้ามากเลยหรือ,นาย๑๒-31 โดนจับตัวไป,นาย๑๒-32 รู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน,นาย๑๒-33 เริ่มปรุงยา,นาย๑๒-34 แปรผัน,นาย๑๒-35 ดวลชิงบันลังก์ 1,นาย๑๒-36 ดวลชิงบันลังก์ 2,นาย๑๒-37 เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย,นาย๑๒-38 ลำเภาจันทร์เข้าครัว,นาย๑๒-39 รักต่างเผ่าพันธุ์,นาย๑๒-40 ผลไม้ที่กินมาตลอดคือผลไม้วิเศษ,นาย๑๒-41 ปลามงคล,นาย๑๒-42 ชวนพี่ชายทานอาหาร,นาย๑๒-43 อร่อยที่สุดเท่าที่เลยทำ,นาย๑๒-44 แอบออกนอกวัง,นาย๑๒-45 อันธพาลแห่งนคร,นาย๑๒-46 ทูล (ฟ้อง) เสด็จพ่อ,นาย๑๒-47 มียักษ์มาสู่ขอพระโอรสลำเภาจันทร์,นาย๑๒-48 รู้ทันแผนทำให้พี่น้องแตกคอ,นาย๑๒-49 มนุษย์ที่ถูกขัง,นาย๑๒-50 นางยักษ์,นาย๑๒-๕๑. แผนการหลบหนี

เนื้อหา

21 แอบเข้าป่าต้องห้าม

วันต่อมา

แม้พญายักษ์จะกล่าวเช่นนั้น แต่คิดหรือว่าเขาจะยอมเชื่อฟังอีกฝ่ายดีๆ หลังจากแต่งตัวเสร็จ เขาก็ให้สาวใช้ทั้งสองนางออกไปดูแลคนไข้ที่ตอนนี้กำลังนอนโทรมและกำลังแช่น้ำสมุนไพรอยู่ ขุนทัพหน่อยที่ ๒ จำเป็นต้องแช่น้ำอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้รับยาฆ่าไข่ปรสิต เพราะงั้นพวกนางจึงต้องหมั่นเติมยาและต้มน้ำให้อุ่นอยู่ตลอด 

มิเช่นนั้นฤทธิ์ยาจะมิเป็นผล



หลังจากอยู่ในวังยักษ์มา ๒ ปี ลำเภาจันทร์ก็ได้รู้จักเส้นทางหลบซ่อนตัวที่มากขึ้น ด้วยสัญชาตญาณของนักฆ่าที่มีติดตัวอยู่ก่อนแล้ว การลักลอบไปที่ใดสักที่ภายในวัง โดยที่มิโดนจับได้จึงง่ายดายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

ป่าต้องห้ามอยู่ทางฝั่งตะวันตกของวัง ดังนั้นมันจึงเป็นถิ่นของสุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ ที่เป็นคนดูแลทิศทางฝั่งนั้น เส้นทางจะต้องลัดเลาะผ่านเขตหวงห้ามที่พญายักษ์ห้ามเหล่าพี่ๆของเขาเข้าไป

แต่ทว่าระหว่างที่ลำเภาจันทร์กำลังจะถึงชายป่า เขาก็ดันเผลอไปได้ยินเสียงร้องที่สุดแสนจะทรมานของใครเข้าเสียก่อน เมื่อเดินไปตามเสียงก็เห็นกลุ่มของสุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ และเหล่าทหารลูกสมุนกำลังจับมนุษย์ผู้หนึ่งฉีกเป็นชิ้นๆและกินสดๆอย่างหิวโหย

ข้างๆกันมีกองโครงกระดูกที่วางสุมเป็นเนิน คาดว่าพวกมันคงฆ่ามนุษย์กินไปหลายคนแล้ว ทั้งกลิ่นคาวเลือดทั้งกินเหม็นสาบ มันทำให้เขาที่ไม่ได้คลุกคลีกับกลิ่นพวกนี้มานานถึงกับเบี่ยงหน้าหนี



"พวกมนุษย์นี้โง่จริงๆเลยพ่ะย่ะค่ะ แส่หาที่ตายกันจริงๆ อยู่ดินแดนของตัวเองไม่อยู่ ดันอยากมาอยู่ในท้องของพวกเรา ฮ่าๆๆ"



"ฮ้าฮ้าฮ้า กูก็คิดเช่นเดียวกับมึงอ้ายวิภา พวกมันมิรู้เลยหรือไงว่าเนื้อพวกมันอร่อยล้ำเลิศเพียงใด"ยักษ์ทหารผู้พี่เอ่ยกับน้องชายด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติเพราะพึ่งกินอิ่ม



"...หึ ก็คิดแส่หาเรื่อง อย่างเข้ามาขโมยทรัพย์สินในดินแดนของกูเอง ช่วยมิได้"สุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ ยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดจนดูโหดเหี้ยม ดวงตาคมลึกลับฉายแววพึงพอใจก่อนจะนึกไปถึงเด็กน้อยตัวขาวผู้หนึ่ง จนเผลอใช้ลิ้นหนาเลียเขี้ยวคมอย่างหยาบโลย"ใกล้จะถึงเวลาที่กูจะได้กินเจ้าเด็กผู้มีกลิ่นกายเย้ายวนผู้นั้นแล้ว หึหึ"



พึบ!



ลำเภาจันทร์ตกใจ รีบหลบเข้าหลังต้นไม้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตวาดตามองมาทางฝั่งตน โชคดีที่เขาหลบได้ทัน มิเช่นนั้นคงแย่แน่



"พระองค์ทรงกำลังหมายถึงพระโอรสองค์เล็กสุดใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กลิ่นกายหอมเย้ายวนทั้งยังรูปร่างงดงาม น่าเสียดายที่มิอาจเติมโตขึ้นมาให้พระองค์ได้ชมเชย"



"...."ลำเภาจันทร์รีบวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้โดยมิทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ ในใจนึกตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่พวกมันเอ่ยถึง แต่ทว่าเขาก็ยังคงรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างใจเย็น

พระโอรสองค์เล็กสุด? พวกมันหมายถึงเขาใช่หรือไม่

แรงจูงใจล่ะ? หรือพวกมันแค่ต้องการจะจับเขากินเพียงเท่านั้น

ลำเภาจันทร์หนีมาหยุดอยู่ชายป่าต้องห้าม ก่อนจะเข้าไปในนั้นด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนก 

หาที่พักทำใจก่อนแล้วกัน



ลำเภาจันทร์หยุดนั่งพักที่ขอนไม้ ก่อนจะเรียบเรียงทุกสิ่งที่รู้มา คราวแรกก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายประสงค์ไม่ดี แต่พอมาได้ยินกับหูมันก็อดรู้สึกตื่นตระหนกไม่ได้เช่นกัน

สัญชาตญาณของเขามันบอกว่าต้องมีเรื่องอะไรที่มากกว่านี้เป็นแน่ และนั่นย่อมมิใช่เรื่องดี ทั้งยังอาจเกี่ยวพันกับชีวิตของเขา รวมถึงพี่ๆของเขาอีกด้วย



"ต้องรีบทำให้พวกเขาย้ายมาอยู่ทางฝั่งของพญารามสูร"ลำเภาจันทร์เอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ถ้ากำลังของพวกมันมีน้องลง ทุกอย่างก็คงจะง่ายขึ้นมาก

เมื่อสติกลับมา จิตใจของเขาก็เริ่มสงบ

"ต้องเร่งทำยาฆ่าไข่ปรสิต"ลำเภาจันทร์มุ่งมั่นที่จะทำงานนี้มากขึ้น ก่อนจะมองไปรอบๆป่าต้องห้ามที่เขาไม่เคยเข้ามาเลยสักครั้ง

ในตอนนี้ยังคงเป็นเวลากลางวันอยู่ แต่ด้านในป่ากลับมืดมัวเสียจนชวนวังเวง ทั้งอากาศยังชื้นเย็นไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าดูแปลกประหลาดสูงใหญ่ ใบไม้มีหลากสีสัน แม้จะดูน่ากล้วแต่ก็อดชื่นชมสิ่งแปลกใหม่ที่น่ามหัศจรรย์นี้มิได้จริงๆ



"ดูท่าป่าจะกว้างมิน้อย ทั้งพญายักษ์ยังเตือนนักว่าอันตรายนักหนา คงต้องทำสัญลักษณ์ทิ้งเอาไว้แล้ว"ลำเภาจันทร์หยิบกริชเล่มงามขึ้นมา มันเป็นของขวัญวันเกิดที่พญายักษ์ให้มาเมื่อยามเขามีอายุคบ ๑๒ ปี 

ตัวโลหะชั้นดีถูกหลอมและถูกตีจนโค้งมนงดงาม ด้ามจับไม่เล็กไม่ใหญ่ถนัดมือ น้ำหนักเบา ทั้งดีไซน์ยังเรียบหรู สันด้านฝังด้วยมรกตน้ำดีเม็ดใส ๑ เม็ด

เป็นของขวัญชิ้นที่ถูกใจที่สุด ส่วนมีดสั้นด้ามเก่า เขาเองก็เก็บไว้ในหีบอย่างดี เพราะเป็นของชิ้นแรกที่ท่านพ่อเป็นคนซื้อให้ 



ลำเภาจันทร์ใช้มีดสั้นทำสัญลักษณ์บนใบไม้ใกล้ๆ มันเป็นลัญลักษณ์ที่มีเขาแค่คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจและมองออก หากคนอื่นหรือยักษ์ตนอื่นมาเห็น ก็อาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงใบไม้ที่แตกแล้วเท่านั้น หรือไม่ก็โดนแมลงตัวเล็กตัวน้อยกัด



"พืชที่นี่แปลกจริงๆ"ลำเภาจันทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนตกตะลึง ระหว่างทางที่เดิน หากมีสมุนไพรที่พอรู้จักก็จะเก็บใส่กระเป๋าผ้าที่เขาพกมาด้วยเพื่อนำไปศึกษาต่อในห้องบรรทม 

โชคดีที่เขาอ่านหนังสือรวบรวมสมุนไพรและพืชมีพิษมามากมาย จึงทำให้รู้ว่าพืชชนิดใดคืออันใดบ้าง

ด้วยความฝันตอนเด็กๆของลำเภาจันทร์คือการอยากเป็นหมอ แม้จะอยู่ในองค์กรนักฆ่า แต่ศาสตร์ที่เขาร่ำเรียนส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นศาสตร์รักษาเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยสมุนไพร อุปกรณ์ทันสมัย จนลามไปถึงโรคหายากและพิษต่างๆที่เขาพอจะสามารถเติมเต็มความฝันนั้นได้

แม้จะไม่ได้เป็นหมอจริงๆ แต่ความสามารถของเขาในทางด้านนี้ก็ดูถูกมิได้เลยเช่นกัน



ลำเภาจันทร์เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มากนัก เขาพยายามเดินอ้อมเพื่อไม่ให้เข้าไปในป่าเขตชั้นใน ในป่าต้องห้ามมีสัตว์ดุร้ายที่เขาไม่เคยพบเห็นอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะงั้นเขาเลยไม่ค่อยอยากเสี่ยงเท่าไหร่

เก็บสมุนไพรไปก็คอยระแวดระวังรอบๆข้างไปด้วย สถานที่ภายในป่าต้องห้ามค่อนข้างชื้น เพราะงั้นเขาจึงค่อนข้างระวังเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานโผล่ออกมาทำร้ายตัวเอง



"สมุนไพรเยอะจริงๆ เจ้าไม้พุ้มพวกนี้มีชื่อว่ากลึงกล่อมสินะ เท่าที่อ่านมามันสามารถขับพิษภายใน แก้น้ำเหลืองน้ำหนองได้ด้วย น่าจะสามารถใช้ทำยาฆ่าไข่ปรสิตได้"



เมื่อได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ ลำเภาจันทร์จึงเดินเก็บสมุนไพรเพลิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะทำสัญลักษณ์ระหว่างทางเอาไว้เช่นกัน

มีบ้างที่ผ่านสัตว์แปลกๆ เช่น ระมาด ที่มีรูปร่างคล้ายแรด และมีเกล็ดมีหงอนยาวอยู่บนปาก

สัตว์ชนิดนี้เขาจำได้ว่าหายากมาก ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในชายป่าด้วย โชคดีที่ตอนนี้มันไม่ได้มีอารมณ์ดุร้าย เมื่อมันเห็นเขามันก็แค่มองนิ่งๆและหันไปกินหญ้าต่อเพียงเท่านั้น 



ผ่านไปอีกสักพักเขาก็เห็น งายไส สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายม้าแต่ลำตัวอ้วนป้อมหัวใหญ่ พวกมันอยู่กันเป็นฝูงประมาณ 10 ตัวเห็นจะได้ โดยปกติพวกมันมีนิสัยรักสงบ แต่หากมีอะไรมารบกวน พวกมันก็จะวิ่งเข้าใส่และเหยียบจนถึงแก่ชีวิตได้เลยเช่นกัน

เพราะงั้นเมื่อเห็นพวกมัน เขาจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปอีกทางแทน 

ที่ชายป่าต้องห้าม เขาเคยอ่านมาว่าน้อยนักที่จะมีสัตว์ล่าเนื้อออกมาในตอนกลางวัน ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะมาเดินสำรวจ



เดินต่อไปอีก เขาก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลเบาๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นลำธาร เขาจึงได้เดินตามเสียงสายน้ำไปเพราะเขาเองก็หวังที่จะใช้น้ำล้างสมุนไพรที่เก็บมาด้วยอยู่พอดี 

แต่ไม่คาดคิดว่า ในลำธารเขาจะเห็นสิ่งมีชีวิตที่ครึ่งล่างเป็นงู ครึ่งบนเป็นคนนอนสลบอยู่



"น นาค?"







TBC