ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วันต่อมา
แม้พญายักษ์จะกล่าวเช่นนั้น แต่คิดหรือว่าเขาจะยอมเชื่อฟังอีกฝ่ายดีๆ หลังจากแต่งตัวเสร็จ เขาก็ให้สาวใช้ทั้งสองนางออกไปดูแลคนไข้ที่ตอนนี้กำลังนอนโทรมและกำลังแช่น้ำสมุนไพรอยู่ ขุนทัพหน่อยที่ ๒ จำเป็นต้องแช่น้ำอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้รับยาฆ่าไข่ปรสิต เพราะงั้นพวกนางจึงต้องหมั่นเติมยาและต้มน้ำให้อุ่นอยู่ตลอด
มิเช่นนั้นฤทธิ์ยาจะมิเป็นผล
หลังจากอยู่ในวังยักษ์มา ๒ ปี ลำเภาจันทร์ก็ได้รู้จักเส้นทางหลบซ่อนตัวที่มากขึ้น ด้วยสัญชาตญาณของนักฆ่าที่มีติดตัวอยู่ก่อนแล้ว การลักลอบไปที่ใดสักที่ภายในวัง โดยที่มิโดนจับได้จึงง่ายดายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
ป่าต้องห้ามอยู่ทางฝั่งตะวันตกของวัง ดังนั้นมันจึงเป็นถิ่นของสุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ ที่เป็นคนดูแลทิศทางฝั่งนั้น เส้นทางจะต้องลัดเลาะผ่านเขตหวงห้ามที่พญายักษ์ห้ามเหล่าพี่ๆของเขาเข้าไป
แต่ทว่าระหว่างที่ลำเภาจันทร์กำลังจะถึงชายป่า เขาก็ดันเผลอไปได้ยินเสียงร้องที่สุดแสนจะทรมานของใครเข้าเสียก่อน เมื่อเดินไปตามเสียงก็เห็นกลุ่มของสุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ และเหล่าทหารลูกสมุนกำลังจับมนุษย์ผู้หนึ่งฉีกเป็นชิ้นๆและกินสดๆอย่างหิวโหย
ข้างๆกันมีกองโครงกระดูกที่วางสุมเป็นเนิน คาดว่าพวกมันคงฆ่ามนุษย์กินไปหลายคนแล้ว ทั้งกลิ่นคาวเลือดทั้งกินเหม็นสาบ มันทำให้เขาที่ไม่ได้คลุกคลีกับกลิ่นพวกนี้มานานถึงกับเบี่ยงหน้าหนี
"พวกมนุษย์นี้โง่จริงๆเลยพ่ะย่ะค่ะ แส่หาที่ตายกันจริงๆ อยู่ดินแดนของตัวเองไม่อยู่ ดันอยากมาอยู่ในท้องของพวกเรา ฮ่าๆๆ"
"ฮ้าฮ้าฮ้า กูก็คิดเช่นเดียวกับมึงอ้ายวิภา พวกมันมิรู้เลยหรือไงว่าเนื้อพวกมันอร่อยล้ำเลิศเพียงใด"ยักษ์ทหารผู้พี่เอ่ยกับน้องชายด้วยน้ำเสียงปลื้มปิติเพราะพึ่งกินอิ่ม
"...หึ ก็คิดแส่หาเรื่อง อย่างเข้ามาขโมยทรัพย์สินในดินแดนของกูเอง ช่วยมิได้"สุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ ยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดจนดูโหดเหี้ยม ดวงตาคมลึกลับฉายแววพึงพอใจก่อนจะนึกไปถึงเด็กน้อยตัวขาวผู้หนึ่ง จนเผลอใช้ลิ้นหนาเลียเขี้ยวคมอย่างหยาบโลย"ใกล้จะถึงเวลาที่กูจะได้กินเจ้าเด็กผู้มีกลิ่นกายเย้ายวนผู้นั้นแล้ว หึหึ"
พึบ!
ลำเภาจันทร์ตกใจ รีบหลบเข้าหลังต้นไม้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตวาดตามองมาทางฝั่งตน โชคดีที่เขาหลบได้ทัน มิเช่นนั้นคงแย่แน่
"พระองค์ทรงกำลังหมายถึงพระโอรสองค์เล็กสุดใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กลิ่นกายหอมเย้ายวนทั้งยังรูปร่างงดงาม น่าเสียดายที่มิอาจเติมโตขึ้นมาให้พระองค์ได้ชมเชย"
"...."ลำเภาจันทร์รีบวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้โดยมิทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ ในใจนึกตื่นตระหนกกับเรื่องราวที่พวกมันเอ่ยถึง แต่ทว่าเขาก็ยังคงรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างใจเย็น
พระโอรสองค์เล็กสุด? พวกมันหมายถึงเขาใช่หรือไม่
แรงจูงใจล่ะ? หรือพวกมันแค่ต้องการจะจับเขากินเพียงเท่านั้น
ลำเภาจันทร์หนีมาหยุดอยู่ชายป่าต้องห้าม ก่อนจะเข้าไปในนั้นด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนก
หาที่พักทำใจก่อนแล้วกัน
ลำเภาจันทร์หยุดนั่งพักที่ขอนไม้ ก่อนจะเรียบเรียงทุกสิ่งที่รู้มา คราวแรกก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายประสงค์ไม่ดี แต่พอมาได้ยินกับหูมันก็อดรู้สึกตื่นตระหนกไม่ได้เช่นกัน
สัญชาตญาณของเขามันบอกว่าต้องมีเรื่องอะไรที่มากกว่านี้เป็นแน่ และนั่นย่อมมิใช่เรื่องดี ทั้งยังอาจเกี่ยวพันกับชีวิตของเขา รวมถึงพี่ๆของเขาอีกด้วย
"ต้องรีบทำให้พวกเขาย้ายมาอยู่ทางฝั่งของพญารามสูร"ลำเภาจันทร์เอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ถ้ากำลังของพวกมันมีน้องลง ทุกอย่างก็คงจะง่ายขึ้นมาก
เมื่อสติกลับมา จิตใจของเขาก็เริ่มสงบ
"ต้องเร่งทำยาฆ่าไข่ปรสิต"ลำเภาจันทร์มุ่งมั่นที่จะทำงานนี้มากขึ้น ก่อนจะมองไปรอบๆป่าต้องห้ามที่เขาไม่เคยเข้ามาเลยสักครั้ง
ในตอนนี้ยังคงเป็นเวลากลางวันอยู่ แต่ด้านในป่ากลับมืดมัวเสียจนชวนวังเวง ทั้งอากาศยังชื้นเย็นไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าดูแปลกประหลาดสูงใหญ่ ใบไม้มีหลากสีสัน แม้จะดูน่ากล้วแต่ก็อดชื่นชมสิ่งแปลกใหม่ที่น่ามหัศจรรย์นี้มิได้จริงๆ
"ดูท่าป่าจะกว้างมิน้อย ทั้งพญายักษ์ยังเตือนนักว่าอันตรายนักหนา คงต้องทำสัญลักษณ์ทิ้งเอาไว้แล้ว"ลำเภาจันทร์หยิบกริชเล่มงามขึ้นมา มันเป็นของขวัญวันเกิดที่พญายักษ์ให้มาเมื่อยามเขามีอายุคบ ๑๒ ปี
ตัวโลหะชั้นดีถูกหลอมและถูกตีจนโค้งมนงดงาม ด้ามจับไม่เล็กไม่ใหญ่ถนัดมือ น้ำหนักเบา ทั้งดีไซน์ยังเรียบหรู สันด้านฝังด้วยมรกตน้ำดีเม็ดใส ๑ เม็ด
เป็นของขวัญชิ้นที่ถูกใจที่สุด ส่วนมีดสั้นด้ามเก่า เขาเองก็เก็บไว้ในหีบอย่างดี เพราะเป็นของชิ้นแรกที่ท่านพ่อเป็นคนซื้อให้
ลำเภาจันทร์ใช้มีดสั้นทำสัญลักษณ์บนใบไม้ใกล้ๆ มันเป็นลัญลักษณ์ที่มีเขาแค่คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจและมองออก หากคนอื่นหรือยักษ์ตนอื่นมาเห็น ก็อาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงใบไม้ที่แตกแล้วเท่านั้น หรือไม่ก็โดนแมลงตัวเล็กตัวน้อยกัด
"พืชที่นี่แปลกจริงๆ"ลำเภาจันทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนตกตะลึง ระหว่างทางที่เดิน หากมีสมุนไพรที่พอรู้จักก็จะเก็บใส่กระเป๋าผ้าที่เขาพกมาด้วยเพื่อนำไปศึกษาต่อในห้องบรรทม
โชคดีที่เขาอ่านหนังสือรวบรวมสมุนไพรและพืชมีพิษมามากมาย จึงทำให้รู้ว่าพืชชนิดใดคืออันใดบ้าง
ด้วยความฝันตอนเด็กๆของลำเภาจันทร์คือการอยากเป็นหมอ แม้จะอยู่ในองค์กรนักฆ่า แต่ศาสตร์ที่เขาร่ำเรียนส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นศาสตร์รักษาเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยสมุนไพร อุปกรณ์ทันสมัย จนลามไปถึงโรคหายากและพิษต่างๆที่เขาพอจะสามารถเติมเต็มความฝันนั้นได้
แม้จะไม่ได้เป็นหมอจริงๆ แต่ความสามารถของเขาในทางด้านนี้ก็ดูถูกมิได้เลยเช่นกัน
ลำเภาจันทร์เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มากนัก เขาพยายามเดินอ้อมเพื่อไม่ให้เข้าไปในป่าเขตชั้นใน ในป่าต้องห้ามมีสัตว์ดุร้ายที่เขาไม่เคยพบเห็นอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะงั้นเขาเลยไม่ค่อยอยากเสี่ยงเท่าไหร่
เก็บสมุนไพรไปก็คอยระแวดระวังรอบๆข้างไปด้วย สถานที่ภายในป่าต้องห้ามค่อนข้างชื้น เพราะงั้นเขาจึงค่อนข้างระวังเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานโผล่ออกมาทำร้ายตัวเอง
"สมุนไพรเยอะจริงๆ เจ้าไม้พุ้มพวกนี้มีชื่อว่ากลึงกล่อมสินะ เท่าที่อ่านมามันสามารถขับพิษภายใน แก้น้ำเหลืองน้ำหนองได้ด้วย น่าจะสามารถใช้ทำยาฆ่าไข่ปรสิตได้"
เมื่อได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ ลำเภาจันทร์จึงเดินเก็บสมุนไพรเพลิน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะทำสัญลักษณ์ระหว่างทางเอาไว้เช่นกัน
มีบ้างที่ผ่านสัตว์แปลกๆ เช่น ระมาด ที่มีรูปร่างคล้ายแรด และมีเกล็ดมีหงอนยาวอยู่บนปาก
สัตว์ชนิดนี้เขาจำได้ว่าหายากมาก ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในชายป่าด้วย โชคดีที่ตอนนี้มันไม่ได้มีอารมณ์ดุร้าย เมื่อมันเห็นเขามันก็แค่มองนิ่งๆและหันไปกินหญ้าต่อเพียงเท่านั้น
ผ่านไปอีกสักพักเขาก็เห็น งายไส สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายม้าแต่ลำตัวอ้วนป้อมหัวใหญ่ พวกมันอยู่กันเป็นฝูงประมาณ 10 ตัวเห็นจะได้ โดยปกติพวกมันมีนิสัยรักสงบ แต่หากมีอะไรมารบกวน พวกมันก็จะวิ่งเข้าใส่และเหยียบจนถึงแก่ชีวิตได้เลยเช่นกัน
เพราะงั้นเมื่อเห็นพวกมัน เขาจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปอีกทางแทน
ที่ชายป่าต้องห้าม เขาเคยอ่านมาว่าน้อยนักที่จะมีสัตว์ล่าเนื้อออกมาในตอนกลางวัน ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะมาเดินสำรวจ
เดินต่อไปอีก เขาก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลเบาๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นลำธาร เขาจึงได้เดินตามเสียงสายน้ำไปเพราะเขาเองก็หวังที่จะใช้น้ำล้างสมุนไพรที่เก็บมาด้วยอยู่พอดี
แต่ไม่คาดคิดว่า ในลำธารเขาจะเห็นสิ่งมีชีวิตที่ครึ่งล่างเป็นงู ครึ่งบนเป็นคนนอนสลบอยู่
"น นาค?"
TBC