ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

นาย๑๒ - 24 สงคราม โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นาย๑๒

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL

รายละเอียด

นาย๑๒ โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

ผู้แต่ง

Jring.

เรื่องย่อ

เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน 


เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์

น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี



หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์

จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก

 

"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"



เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง

ถ้าทำตัวดีล่ะนะ



พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

สารบัญ

นาย๑๒-1. โลกใบใหม่,นาย๑๒-2 ตลาดท่าจันทคาม,นาย๑๒-3. การเติบโต,นาย๑๒-4 ผู้ใดมาเกี้ยวน้องเภาของข้า!,นาย๑๒-5 ท่านพ่อโดนยึดเกวียน,นาย๑๒-6 โดนทิ้งอีกครั้งก็พบเจอเข้ากับยักษา,นาย๑๒-7 กลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย,นาย๑๒-8 คิดเลี้ยงไว้กินหรือไร,นาย๑๒-9 ล่อลวงเข้าเมืองยักษ์,นาย๑๒-10 ห้องนอนข้างกัน,นาย๑๒-11 สับสน,นาย๑๒-12 เรียกพี่รามสูร,นาย๑๒-13. คงมิพอใจข้ามากสิหนา,นาย๑๒-14 เข้าใจข้าผิดแล้ว,นาย๑๒-15 ยาอายุวัฒนะ,นาย๑๒-16 ประลอง,นาย๑๒-17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน,นาย๑๒-18 รักษา,นาย๑๒-19 รักษา 2,นาย๑๒-20 ข้าจะเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-21 แอบเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-22 รักษานาค,นาย๑๒-23 สหายคนแรก,นาย๑๒-24 สงคราม,นาย๑๒-25 เริ่มทำยา,นาย๑๒-26 บรรยากาศแปลกๆ,นาย๑๒-27 แข่งขี่ม้ายิงธนู,นาย๑๒-28 สายตาหน้าขยะแขยง,นาย๑๒-29 หลอกล่อพี่ชายคนที่ ๓,นาย๑๒-30 พี่กล้วข้ามากเลยหรือ,นาย๑๒-31 โดนจับตัวไป,นาย๑๒-32 รู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน,นาย๑๒-33 เริ่มปรุงยา,นาย๑๒-34 แปรผัน,นาย๑๒-35 ดวลชิงบันลังก์ 1,นาย๑๒-36 ดวลชิงบันลังก์ 2,นาย๑๒-37 เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย,นาย๑๒-38 ลำเภาจันทร์เข้าครัว,นาย๑๒-39 รักต่างเผ่าพันธุ์,นาย๑๒-40 ผลไม้ที่กินมาตลอดคือผลไม้วิเศษ,นาย๑๒-41 ปลามงคล,นาย๑๒-42 ชวนพี่ชายทานอาหาร,นาย๑๒-43 อร่อยที่สุดเท่าที่เลยทำ,นาย๑๒-44 แอบออกนอกวัง,นาย๑๒-45 อันธพาลแห่งนคร,นาย๑๒-46 ทูล (ฟ้อง) เสด็จพ่อ,นาย๑๒-47 มียักษ์มาสู่ขอพระโอรสลำเภาจันทร์,นาย๑๒-48 รู้ทันแผนทำให้พี่น้องแตกคอ,นาย๑๒-49 มนุษย์ที่ถูกขัง,นาย๑๒-50 นางยักษ์,นาย๑๒-๕๑. แผนการหลบหนี

เนื้อหา

24 สงคราม

"พ่อลำเภา!! เจ้าหายตัวไปที่ใดมา!!!" พญารามสูรในร่างอสุราตัวใหญ่ร้องคำรามลั่น นัยน์ตาคมสีเหล็กกล้าดุดันหันขวับ มองคนตัวเล็กผู้มีใบหน้างดงามน่ารักที่ตนตามหา ก่อนพญายักษาตัวใหญ่จะรีบกระโจนเข้าไปสวมกอดเด็กน้อยของตนจนจมอกในทันที "เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านั้นเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด เหตุใดเจ้าจึงมิฟังข้า เหตุใดเจ้าจึงได้ดื้อรั้นเช่นนี้"




"...." ลำเภาจันทร์เหลือบตาขึ้นมองพญารามสูรเงียบๆ เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงเขามากจริงๆ กายใหญ่ของพญาอสุราสั่นไหวไม่หยุด ทั้งยังกอดเขาแน่นมากราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป




"มิทำเช่นนี้อีกแล้วหนา หากเจ้าจะไปที่ใดข้าจะไปด้วย ข้าจะมิเอ่ยห้ามเจ้าอีกแล้ว" พญายักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ




ย้อนกลับไปหลังจากที่ภูตเงามาเอ่ยรายงานว่าคนตัวเล็กหายตัวไป พญารามสูรก็แทบจะบ้าคลั่งในทันที ในใจทั้งหวาดกลัวว่าเด็กน้อยของตนจะเป็นอันตราย ทั้งเป็นห่วงจนใจจะขาด จึงรีบสั่งกองกำลังทหารให้ออกตามหา จนทั่วทั้งวังวุ่นวายไปหมด 




"เจ้าก็รู้ว่าพวกมันกำลังคิดเล่นงานข้า หากพวกมันจับตัวเจ้าไปแล้วข้าจะทำเช่นไร อีกทั้งเมื่อมินานมานี้ ข้าก็พึ่งจะได้ยินมาว่าพวกมันมีแผนการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเจ้าและพี่ชายของเจ้า หากเจ้าเป็นอันใดขึ้นมา ข้าคงมิอาจให้อภัยตัวเองเป็นแน่" พญารามสูรพึ่งจะรู้สึกกลัวก็วันนี้ เรื่องเข้าป่าต้องห้ามนั้น ด้วยฝีมือของเด็กน้อย ตนเชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอนอยู่แล้วแม้ว่ามันจะอันตรายมาก ทว่าหากบอกกัน อย่างน้อยพญายักษ์ก็ยังคงพอตามเข้ามาดูแลได้ แต่ยามนี้สถานการณ์ภายในวังดูมิค่อยเป็นใจนัก ตนจึงได้เอ่ยห้ามปรามเพราะมันอันตรายเกินไป 




พญารามสูรห่วงหน้าพะวงหลัง รู้สึกมืดแปดด้านมิรู้ว่าควรจะตามหาคนตัวเล็กที่ไหน ศัตรูเองก็คล้ายจะมิได้เกี่ยวข้อง พญายักษ์จึงได้รีบเข้ามาหาในป่าเพราะเป็นสถานที่ที่ครั้งล่าสุด อีกฝ่ายเคยเอ่ยว่าต้องการเข้ามา




"พี่ชายรึ?" ลำเภาจันทร์ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ก่อนเข้าป่าในตอนที่ได้ยินว่าพวกมันต้องการจะทำร้ายเขา เขายังพอไม่คิดอะไรมาก แต่หากพวกมันคิดจะแตะต้องครอบครัวของเขาละก็ เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกมันไปอย่างแน่นอน




"พ่อลำเภา" พญารามสูรเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกเศร้าใจที่เด็กน้อยมิสนใจตนเลย แต่กลับสนใจประโยคที่เจ้าตัวให้ความสำคัญมากกว่า




พี่ชาย ...เด็กน้อยของตนรักพี่ชายของตัวเองมากจริงๆ




นัยน์ตาคมมองสำรวจคนน่ารักใจร้ายที่ทั้งหนีตน ทั้งมิสนใจตนว่าบาดเจ็บตรงที่ใดหรือไม่ ก่อนจะขมวดคิ้วพรึ่บทันทีเมื่อสังเกตเห็นมุมปากที่มีคราบเลือดติดอยู่




"เจ้าบาดเจ็บมารึ! สัตว์ป่าทำร้ายเจ้าหรือ!? หรือว่าผู้ใดทำร้ายเจ้า!?" พญาอสุราเลือดขึ้นหน้า เพราะเมื่อตนหายตกใจและดีใจที่ได้เจอคนตัวเล็ก ก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายนั้นดูอ่อนล้ามาก ทั้งชุดก็ยังเปียกปอนไปหมด




"...มิมีอันใด ข้าเพียงหกล้มเท่านั้น และเพราะวิ่งมาข้าจึงได้อ่อนเพลีย" ลำเภาจันทร์ผลักอกพญายักษ์ออก เมื่อเขารู้สึกว่ายอมปล่อยให้ยักษาเจ้าเล่ห์กอดเขามานานแล้ว โดยปกติลำเภาจันทร์มิค่อยให้ผู้ใดมาแตะเนื้อต้องตัวนัก แต่ครั้งนี้ที่ยอมเพราะเขาแอบรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงมากก็เท่านั้น




"...เจ้ามิเป็นอันใดก็ดีแล้ว" พญารามสูรมิซักไซ้ ถ้าคนตัวเล็กอยากบอกก็คงจะบอกตนเอง ทั้งตอนนี้อีกฝ่ายก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ตนจึงมิอยากทำให้เจ้าตัวอึดอัด "เช่นนั้นพวกเรากลับวังกันเถิด"




"อื้ม"










ณ เขตตะวันตกยามเย็น 


"ในวังวันนี้วุ่นวายอะไร" น้ำเสียงเหี้ยมเย็นชาลึกลับเอ่ยถามลูกน้องที่พึ่งเดินเข้ามา มือหนาของสุทัศน์ หรือที่ยามนี้ดำรงตำแหน่งเป็นขุนพลหน่วย ๑ ถือจอกสุราไว้ ข้างกายมียักษ์หนุ่มรูปงามมากมายรายล้อมคอยเอาใจ และที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะก็มีหมอมืดภายใต้ผ้าคลุมกำลังนั่งคอยอยู่




"เรียนฝ่าบาท ในวังวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีองค์ชายองค์หนึ่งหายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ แต่เรื่องเงียบลงแล้ว คาดว่าคงกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ" วิภูเอ่ยรายงานผู้เป็นนาย




"...." สุทัศน์เงียบนิ่งก่อนจะยกจอกสุราขึ้นจิบอย่างเย็นชา แววตาลึกลับไม่อาจคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่




"เรียนฝ่าบาท เมื่อคืนก่อนกระหม่อมได้อ่านตำราแล้วเจอการปรุงยาอายุวัฒนะในคืนเดือนดับพ่ะย่ะค่ะ หากปรุงยาในคืนที่ไร้พระจันทร์ ประสิทธิภาพจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก ๕ ส่วนเลยพ่ะย่ะค่ะ เท่ากับว่าจะสามารถต่ออายุขัยได้อีก ๑,๕๐๐ ปี ฝ่าบาททรงคิดเห็นว่าเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ" หมอมืดเอ่ยรายงานยักษ์ตรงหน้า




"วันใด" เสียงทุ้มเหี้ยมเอ่ยถาม




"อีกสามวันจะเป็นวันจันทร์เดือนดับพ่ะย่ะค่ะ" หมอมืดเอ่ยตอบ




"ดี เช่นนั้นเริ่มแผนการซะ" สุทัศน์ยกยิ้มมุมปาก แววตาลึกลับดูมืดมนจนดูน่าขนลุก




"พ่ะย่ะค่ะ!/พ่ะย่ะค่ะ"












ณ ห้องบรรทมของพระโอรสองค์สุดท้อง


"องค์ชายลำเภาเพคะ พวกหม่อมฉันตกใจกันมากเลยหนาเพคะ เมื่อว่ารู้ว่าพระองค์หายตัวไป ช่างดียิ่งนักที่พระองค์ทรงปลอดภัยกลับมาเพคะ" เปรมเอ่ยกับพระโอรสของนาง แม้ครั้งนี้จะมิใช่ครั้งแรกที่องค์ชายของนางดื้อซนหนีพวกนางออกไปเที่ยวเล่นคนเดียว แต่ทว่าพวกนางเองก็อดรู้สึกผิดที่ทำหน้าที่ของตนเองได้มิดีพอเช่นกัน




"องค์ชายเพคะ หลังจากนี้หากองค์ชายต้องการจะไปที่ใด อย่างน้อยๆ ช่วยบอกพวกหม่อมฉันไว้สักนิดได้หรือไม่เพคะ" ผ่องเอ่ยอ้อนวอนองค์ชายของนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


แม้ทั้งนางและสหายจะเป็นยักษ์และถูกสั่งการให้มาจับตามองและดูแลพระโอรสผู้นี้ แต่ทว่าก็ปฏิเสธมิได้เลยว่าตนกับสหายนั้นเอ็นดูพระโอรสองค์เล็กผู้นี้มากเพียงใด 




พระองค์มักจะแบ่งบันขนมที่ทรงโปรดปรานนักหนาให้พวกนางอยู่บ่อยครั้ง และมิเคยจิกกัดหรือบังคับให้พวกนางทำสิ่งอันใดเลย แม้จะซนไปบ้างตามประสา แต่ก็มิเคยทำนิสัยหรือกิริยาที่ก้าวร้าวเลยแม้แต่น้อย 


ดังนั้นพระโอรสผู้นี้ จึงทำให้ทั้งนางและสหายรู้สึกรักและเอ็นดูมาก จนอยากจะดูแลพระองค์ด้วยความเคารพและซื่อสัตย์ตลอดไป




"...ก็ได้" ลำเภาจันทร์ยอมตกปากรับคำสาวใช้ทั้งสองเสียงเบา เพราะเขาเองก็เข้าใจว่าพวกนางอาจจะโดนพญาอสุราลงโทษเอาได้ หากว่าละเลยต่อหน้าที่  อีกทั้งถ้าแค่บอก มันก็คงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว




ซึ่งในระหว่างที่สาวใช้ทั้งสองกำลังสาละวนอยู่กับการหวีผมและแต่งตัวก่อนเข้านอนให้องค์ชายของพวกนางอยู่นั้น ลำเภาจันทร์ก็ได้ทำการแยกสมุนไพรสำหรับทำยาฆ่าไข่ปรสิตไปด้วย 




ตอนนี้เรื่องราวภายในวัง พญารามสูรได้บอกเขามาแล้วว่ามียักษาหลายตนที่ถูกควบคุมด้วยปรสิต ถ้าหากกำจัดพวกมันได้ นั่นก็หมายความว่ากำลังของฝ่ายพญายักษ์เองจะมีมากขึ้น




และหากจัดการกับศัตรูจนเสร็จสิ้น ภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเขาและพี่ๆ ก็จะหายไปด้วยเช่นกัน




ฉะนั้นแล้วรีบทำเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะเหตุการณ์ในยามเช้าและสิ่งที่ได้ยินมาก่อนเข้าป่า 


มันก็ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจมิดียิ่งนัก
















ณ ห้องทรงงานของพญารามสูร


"ฝ่าบาท! ทรงเกิดปัญหาขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ!" ฌานนายทหารซึ่งเป็นลูกน้องของศวุตย์หรือขุนทัพหน่วยที่ ๒  เปิดประตูเข้ามาภายในห้องของผู้ที่อยู่ตำแหน่งสูงสุด ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วเอ่ยรายงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




"มีเรื่องอันใด" พญารามสูรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น เพราะรู้สึกสังหรณ์ใจมิดี




"ทางเขตทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีกองกำลังจากนครโลกาเข้าบุกประตูชายแดนอย่างกะทันหันพ่ะย่ะค่ะ!" ฌานเอ่ยรายงานผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก่อนจะเหงื่อตกเมื่อต้องรับแรงสังหารซึ่งเกิดจากโทสะของผู้เป็นราชาตรงๆ




"...พวกมันเริ่มแล้วสินะ เช่นนั้นเจ้านำพลทหาร ๑๐,๐๐๐ นายยกทัพไปจัดการซะ" พญารามสูรเอ่ยสั่งเสียงเหี้ยม นัยน์ตาคมสีเหล็กกล้าดุดันฉายแววอำมหิตออกมาจนมิอาจห้ามไหว "โค่นราชวงศ์ของพวกมัน"




"พ่ะย่ะค่ะ!!" ฌานโค้งคำนับ ก่อนจะรีบออกไปทำหน้าที่ของตนอย่างเร่งรีบ 


เวลานี้หัวหน้าหน่วยของตนพักรักษาตนอยู่ หน้าที่นำกำลังพลจึงตกเป็นของพวกตนซึ่งมีตำแหน่งสูงรองลงมา และตนเองก็สัญญาว่าจะทำมันให้ดีด้วยเช่นกัน




"หึ" เสียงหัวเราะราบเรียบจากพญายักษ์ดังออกมา แววตาฆ่าฟันฉายชัดขึ้นมาครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระจกข้างผนังห้อง "ไปตามผู้อื่นมาประชุม"




'พ พ่ะย่ะค่ะ!' ภูตเงาตัวน้อยที่หลบตัวอยู่หลังกระจกตอบรับเสียงสั่น ก่อนจะรีบลอยไปเรียกยักษาตนอื่น เพื่อให้มาประชุมเรื่องสำคัญทันที!




หลังจากที่ภูตเงาไปแล้ว พญารามสูรก็นิ่งคิดถึงแผนการทุกอย่าง 




องครักษ์ลับรายงานตนอยู่ตลอดเรื่องสถานการณ์และแผนการของอีกฝ่าย เมื่อหลายวันก่อนตนได้รับแจ้งมาว่าน้องชายต่างมารดาได้ร่วมสุมหัววางแผนโค่นบัลลังก์ของตนกับเจ้าเมืองข้างเคียง เรื่องนี้ทำให้พญายักษ์โกรธมาก 




หลังจากที่รู้ว่าพวกมันได้ลักลอบสุมกองกำลัง และวางแผนอะไรไว้ พญารามสูรเองก็วางแผนเตรียมกำลังพลเพื่อจัดการกับพวกมันด้วยเช่นกัน




เมืองโลกาที่พวกมันเอามาเป็นฉากบังหน้า แท้จริงแล้วมันก็แค่ต้องการใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และให้อีกเมืองที่มีชื่อว่า พยัคฆ์ฟ้า เข้ามาตลบหลังด้วยจำนวนทหารที่มากกว่าเท่านั้น ถ้าเป็นไปตามแผนของพวกมัน ฝ่ายของตนคงจะเสียหายหนักมิน้อย 




ในเมื่อพวกมันสองเมืองรนหาที่ตาย เช่นนั้นตนก็คงต้องขยายอาณาเขตการปกครองให้กว้างใหญ่ขึ้นมาเสียหน่อยแล้ว




ใบหน้าหล่อเหลาคมสันของพญายักษ์มืดครึ้มขึ้นมาหลายส่วน รอบกายแผ่กลิ่นอายโหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัวออกมามิหยุด 
















TBC