ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

นาย๑๒ - 26 บรรยากาศแปลกๆ โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นาย๑๒

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL

รายละเอียด

ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

ผู้แต่ง

Jring.

เรื่องย่อ

เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน 


เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์

น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี



หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์

จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก

 

"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"



เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง

ถ้าทำตัวดีล่ะนะ



พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

สารบัญ

นาย๑๒-1. โลกใบใหม่,นาย๑๒-2 ตลาดท่าจันทคาม,นาย๑๒-3. การเติบโต,นาย๑๒-4 ผู้ใดมาเกี้ยวน้องเภาของข้า!,นาย๑๒-5 ท่านพ่อโดนยึดเกวียน,นาย๑๒-6 โดนทิ้งอีกครั้งก็พบเจอเข้ากับยักษา,นาย๑๒-7 กลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย,นาย๑๒-8 คิดเลี้ยงไว้กินหรือไร,นาย๑๒-9 ล่อลวงเข้าเมืองยักษ์,นาย๑๒-10 ห้องนอนข้างกัน,นาย๑๒-11 สับสน,นาย๑๒-12 เรียกพี่รามสูร,นาย๑๒-13. คงมิพอใจข้ามากสิหนา,นาย๑๒-14 เข้าใจข้าผิดแล้ว,นาย๑๒-15 ยาอายุวัฒนะ,นาย๑๒-16 ประลอง,นาย๑๒-17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน,นาย๑๒-18 รักษา,นาย๑๒-19 รักษา 2,นาย๑๒-20 ข้าจะเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-21 แอบเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-22 รักษานาค,นาย๑๒-23 สหายคนแรก,นาย๑๒-24 สงคราม,นาย๑๒-25 เริ่มทำยา,นาย๑๒-26 บรรยากาศแปลกๆ,นาย๑๒-27 แข่งขี่ม้ายิงธนู,นาย๑๒-28 สายตาหน้าขยะแขยง,นาย๑๒-29 หลอกล่อพี่ชายคนที่ ๓,นาย๑๒-30 พี่กล้วข้ามากเลยหรือ,นาย๑๒-31 โดนจับตัวไป,นาย๑๒-32 รู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน,นาย๑๒-33 เริ่มปรุงยา,นาย๑๒-34 แปรผัน,นาย๑๒-35 ดวลชิงบันลังก์ 1,นาย๑๒-36 ดวลชิงบันลังก์ 2,นาย๑๒-37 เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย,นาย๑๒-38 ลำเภาจันทร์เข้าครัว,นาย๑๒-39 รักต่างเผ่าพันธุ์,นาย๑๒-40 ผลไม้ที่กินมาตลอดคือผลไม้วิเศษ,นาย๑๒-41 ปลามงคล,นาย๑๒-42 ชวนพี่ชายทานอาหาร,นาย๑๒-43 อร่อยที่สุดเท่าที่เลยทำ,นาย๑๒-44 แอบออกนอกวัง,นาย๑๒-45 อันธพาลแห่งนคร,นาย๑๒-46 ทูล (ฟ้อง) เสด็จพ่อ,นาย๑๒-47 มียักษ์มาสู่ขอพระโอรสลำเภาจันทร์,นาย๑๒-48 รู้ทันแผนทำให้พี่น้องแตกคอ,นาย๑๒-49 มนุษย์ที่ถูกขัง,นาย๑๒-50 นางยักษ์,นาย๑๒-๕๑. แผนการหลบหนี

เนื้อหา

26 บรรยากาศแปลกๆ

เวลาผ่านไปครึ่งค่อนวันในที่สุดการทำยาฆ่าไข่ปรสิตก็เสร็จสิ้น ลำเภาจันทร์ที่ลืมไปว่าตัวเองยังไม่ได้รับประทานมื้อเช้ารู้จึงสึกเหนื่อยล้ายิ่งนัก




"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ยาฆ่าไข่ปรสิตพวกนี้สามารถฆ่าตัวปรสิตได้ด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ เพราะสมุนไพรหายากช่างมีน้อยนิด และพวกเราเองก็มิมีผู้ใดที่เชี่ยวชาญการฝังเข็มเช่นพระองค์เลยพ่ะย่ะค่ะ" อรัณย์เอ่ยเสียงเครียด แม้ว่าจะดีใจที่ทำยาสำเร็จแล้วก็ตาม 




"ได้ แต่ย่อมมีขั้นตอน ยาฆ่าไข่ปรสิตจะมีประสิทธิภาพกับไข่ปรสิตมากกว่า เพียงแค่เม็ดเดียวก็สามารถฆ่าไข่ทั้งหมดได้แล้ว แต่หากจะฆ่าตัวปรสิตโดยมิฝังเข็มไล่พวกมันก็ยังมีอีกวิธีนอกจากการใช้สมุนไพรหายาก นั่นคือให้ผู้ที่โดนรับประทานยาเม็ดนี้เช้าเย็นติดต่อกัน ๑ อาทิตย์ ระหว่างนั้นก็แช่น้ำต้มต้นคงคาเดือดทุกวัน ปรสิตจะไหลออกมาจากทวารทั้ง ๕ เมื่อถึงยามนั้น ให้รีบคีบพวกมันเก็บใส่ถังเอาไว้ อย่าให้พวกมันไปแฝงในร่างผู้ใดได้ แม้ปรสิตที่ออกมาใหม่ๆ จะเข้าร่างกายของพวกเจ้าได้ยาก แต่ทว่าไม่ใช่กับสัตว์ นอกจากนี้อาการของผู้รับการรักษา อาจจะรุนแรงกว่าการรักษาปกติเป็น ๒ เท่า" ลำเภาจันทร์อธิบายออกมายาวเหยียด ทั้งยังจดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้อีกฝ่าย "หลังจากนี้ก็ฝากเจ้าด้วย ข้าจะไปพักแล้ว"




"ขอบพระทัยองค์ชายมากพ่ะย่ะค่ะที่ช่วยเหลือ" อรัณย์และช่อแก้วโค้งตัวคำนับ ก่อนจะเป็นหญิงสาวที่เดินออกไปส่งพระโอรส




และเมื่อลำเภาจันทร์เดินออกมาจากหอคอยแพทย์ เขาก็ตั้งใจว่าจะไปรับประทานมื้อเที่ยงกับเหล่าพี่ชายที่เรือนพักฝั่งตะวันออกเสียหน่อย ช่วงนี้เจอแต่เรื่องเครียด จนแทบไม่มีเวลาไปหาพี่ๆ เลยสักครั้ง




ด้านหลังของเขาเอง ก็มีสาวใช้ทั้งสองคอยติดตามดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ด้วยพวกนางเป็นกังวลว่าองค์ชายของพวกนางจะประชวรพระวาโย (เป็นลม) เพราะพวกนางยังมิเห็นองค์ชายเสวยพระกระยาหารเช้าเลย เป็นความผิดของพวกนางเองที่มิได้เตือนให้องค์ชายเสวยเพราะทุกคนต่างก็ทำยากันจนเพลิน




เมื่อมาถึงเรือนพักทางฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นที่อยู่ของกลุ่มพี่ชาย ลำเภาจันทร์ก็ให้สาวใช้ทั้งสองไปพัก ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มพี่ๆ ที่ตอนนี้กำลังซ้อมดาบกันอยู่ในสนามหญ้า วันนี้ไม่มีครูฝึก แต่ทว่าพวกเขาก็ยังคงขยันฝึกฝนตัวเองมากๆ




"น้องเภา! เจ้ามาหาพี่เสียที พี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก เมื่อวานพี่ไปหาเจ้าที่ห้องเมื่อยามบ่ายอ่อนๆ แต่กลับมิพบเจ้าเลย" เอกาทศรีบวิ่งไปหาน้องชายที่น่ารักของตนทันที ก่อนดวงตาขวางๆ ที่เหมือนหาเรื่องอยู่ตลอดเวลาจะมองสำรวจว่าน้องชายของตนว่าเป็นเช่นไรบ้าง "น้องดูอ่อนเพลียนัก ไปทำอันใดมาหรือ ถึงได้ดูเหนื่อยล้าเช่นนี้?"




เอกาทศยกฝ่ามือที่เริ่มหยาบกร้านจากการซ้อมทักษะการต่อสู้และดาบขึ้นมาลูบหัวน้องชายที่ตัวเล็กกว่าตนอย่างเป็นห่วง




"เจ้าตัวเล็ก" โททวีเดินเข้าไปหาน้องชายด้วยรอยยิ้มกวนๆ พร้อมกับพาดดาบไม้ที่พึ่งใช้ซ้อมไว้ที่ไหล่ "กินมื้อเที่ยงมาหรือยัง"




"ยังเลยขอรับ ข้ากะว่าจะมาทานพร้อมพวกท่าน" ลำเภาจันทร์เอ่ยตอบพี่ชายที่เวลานี้ก็ยังคงตัวสูงกว่าเขา ทั้งยังมีร่างกายที่ดูแข็งแรงมากจากการฝึกซ้อม และแม้ว่าจะมีอายุเพียงแค่ ๑๒ ปี แต่พวกเขาก็มีใบหน้าที่โดดเด่นกันคนละแบบอย่างชัดเจน




"เช่นนั้นก็ดีเลย ไปกินข้าวกันเถอะ ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว!" อัฐที่เดินมาอยู่ด้านหลังน้องชายคนเล็กได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีทันที




ลำเภาจันทร์มองสำรวจพี่ชายคนที่ ๘ ที่ตัวสูงใหญ่กว่าพี่น้องทุกคน แต่กลับซื่อตรงและซื่อบื้อมากที่สุด เมื่อนึกถึงอะไรตลกๆ เช่นนั้น ริมฝีปากสีหวานจึงแย้มยิ้มออกมาน้อยๆ "พี่ฉะล่ะขอรับ เหตุใดข้าจึงมิเห็นเขาเลย"




"เขาได้อาจารย์ฝึกซ้อมเครื่องดนตรีที่ถูกใจเข้าน่ะ คงจะยังไม่ออกมาเล่นกับพวกเราเร็วๆ นี้แน่" เอกาทศเอ่ยตอบน้องชาย ก่อนจะจับจูงมือเล็กเพื่อพาไปที่ห้องโถงสำหรับรับประทานอาหารในเรือนพักของพวกตน "พวกเราไปรับสำรับกันก่อนเถอะ เจ้าควรกินให้เยอะๆ จะได้ตัวโตๆ เหมือนพวกเราเช่นไรเล่า"




"...." ลำเภาจันทร์เดินตามแรงจูงของพี่ชายคนที่ ๑๑ ไปอย่างว่าง่าย โดยด้านหลังเองก็มีพี่ชายคนที่ ๒ และคนที่ ๘ เดินตามมาติดๆ




เมื่อเข้ามาในห้องโถงสำหรับรับประทานอาหาร ลำเภาจันทร์ก็เห็นว่ามีพี่ชายอยู่หลายคนกำลังนั่งรอเพื่อทานมื้อเที่ยง




"เจ้า ๑๒ วันนี้เจ้ามารับประทานข้าวที่นี่หรือ เช่นนั้นแม่นมขอรับ ฝากท่านจัดโต๊ะให้น้องชายของข้าด้วยหนาขอรับ" เอกศึกที่นั่งอยู่หัวโต๊ะหันไปเอ่ยกับแม่นมบานชื่นอย่างนอบน้อม




"ได้เพคะ" บานชื่นโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะรีบออกไปจัดสำรับอาหารสำหรับพระโอรสองค์โปรดของผู้เป็นราชาทันที ดูจากท่าทางของพระโอรสแล้ว คงจะยังมิรู้แน่ว่าฝ่าบาททรงออกไปสู้รบทำศึกสงครามตั้งแต่เมื่อคืน นางควรจะบอกพระโอรสลำเภาดีไหมหนอ




ลำเภาจันทร์เดินไปนั่งที่ประจำของตัวเองที่อยู่ท้ายโต๊ะเพราะมีอายุน้อยที่สุด โดยข้างๆ ก็มีท่านพี่เอกาทศและพี่โททวีซึ่งเปลี่ยนมานั่งใกล้ๆ คอยชวนพูดคุย




"เจ้าเภา เหอะ! เห็นหน้าซะที หลังจากรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จ พวกเรามาดวลธนูกัน หากผู้ใดแพ้จะต้องเป็นทาสของคนผู้นั้น อ้อ! แต่ถ้าเจ้ากลัว จะปฏิเสธไปก็ได้นะ" สัตภัณฑ์กอดอกและเอ่ยด้วยน้ำเสียงแดกดันกับน้องชายน่าชังของตน ในใจคิดว่าครั้งนี้ตนจะต้องชนะได้อย่างแน่นอน เพราะตนไปฝึกเรียนธนูกับทหารของวังมาเองเลย หากตนเก่งกว่าเจ้าน้องชายผู้นี้ คนที่เสด็จพ่อจะตามใจก็ต้องเป็นตนอย่างแน่นอน ถึงยามนั้นตนก็จะได้ห้องเก็บธนูมาเป็นของตัวเองเสียที หึหึหึ




"...ได้" ลำเภาจันทร์ตอบรับพี่ชายคนที่ ๗  ที่เขายอมรับคำท้าไม่ใช่ว่ากลัวหรืออะไร เพียงแต่เขาแค่ต้องการหาอะไรทำฆ่าเวลาเท่านั้น




"ดี!" สัตภัณฑ์ยิ้มพอใจในคำตอบของน้องชายน่าชัง พร้อมกับเฝ้ารอการดวลในไม่ช้านี้อย่างใจจดใจจ่อ "ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าอับอายให้ได้"




"เป็นเจ้าน่ะสิที่จะต้องอับอาย น้องเภาของข้ามิแพ้คนเช่นเจ้าอย่างแน่นอน" เอกาทศเอ่ยกับพี่ชายคนที่ ๗ ด้วยน้ำเสียงยียวนปนหาเรื่อง "หากเจ้าแพ้ข้าก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าน้องเภาจะใช้ให้เจ้าทำอันใด"




"เจ้า! คอยดูเถอะ เดี๋ยวจะได้รู้ว่าการหัวเราะทีหลังมันดังกว่า" สัตภัณฑ์สะบัดหน้าหนี




โททวีและเอกาทศส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายใจ ทั้งที่สัตภัณฑ์เป็นคนเอ่ยหาเรื่องก่อนแท้ๆ แต่กลับพูดเหมือนตัวเองโดนรังแกไปเสียได้




"น้องลำเภาจันทร์ เครื่องประดับทับทิมของเจ้า ช่างเข้ากับเจ้ามากจริงๆ" นวรัตน์เอ่ยชมน้องชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมแย้มยิ้มอ่อนหวาน




"...ขอบคุณขอรับ" ลำเภาจันทร์เอ่ยตอบพี่ชายคนที่ ๙ เสียงนิ่ง โดยมิใส่ใจสายตาที่กำลังจับจ้องเครื่องประดับของเขาราวกับว่าอยากจะเอาไปเป็นของตัวเอง




เบญจและทศรักษ์ที่ในตอนแรกทำเป็นไม่สนใจน้องชายผู้นี้ หันไปมองสำรวจอีกฝ่ายทันที ก่อนจะมองด้วยสายตาอิจฉาริษยาอย่างไม่อาจปิดบัง ทั้งเครื่องนุ่งห่มที่ถูกสั่งตัดมาอย่างประณีตและงดงาม หรือจะเครื่องประดับราคาแพงที่หรูหรากว่าที่พวกตนมีหลายเท่า เท่านี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าน้องชายผู้นี้เป็นที่รักของเสด็จพ่อมากเพียงใด ช่างเป็นดั่งที่พวกตนคิดไว้คราวแรกมิมีผิด! 




ทั้งคู่คันปากอยากจะเอ่ยจิกกัดน้องชายคนเล็กผู้นี้เสียสักประโยค สองประโยค ทว่าสำรับอาหารก็ถูกยกขึ้นโต๊ะมาเสียก่อน ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ! ครั้งนี้เจ้ารอดตัวไป!




"...." ลำเภาจันทร์ไม่สนใจสายตาของพี่ๆ บางคนที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตร เขาเข้าใจดีว่าจิตใจของมนุษย์มีหลากหลาย ขอแค่ไม่มาวุ่นวายกับเขามากจนเกินไป เขาก็ไม่คิดถือสาคนที่ทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้




แต่ทว่าวันนี้บรรยากาศภายในวังดูแปลกพิลึก ทั้งยังเงียบและวังเวงผิดปกติ ดูเหมือนว่าเขาคงต้องหาเวลาไปไถ่ถามภูตเงาเสียหน่อยแล้ว












TBC