ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

นาย๑๒ - 31 โดนจับตัวไป โดย Jring. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นาย๑๒

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL

รายละเอียด

ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

ผู้แต่ง

Jring.

เรื่องย่อ

เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน 


เขาเป็นน้องเล็กสุดที่มีชื่อว่า ลำเภาจันทร์

น่าแปลกที่พวกเขาทั้ง ๑๒ คนนั้นเป็นบุรุษทั้งๆที่ตามเนื้อหาแล้วควรเป็นสตรี



หลังจากที่โดนท่านพ่อและท่านแม่ทอดทิ้งไว้ในป่า ลำเภาจันทร์ก็บังเอิญเดินไปพบเข้ากับพญายักษ์

จากวันนั้นคนงามก็โดนพญายักษาตัวใหญ่ไล่ตามวอแวไม่เลิก

 

"ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย"



เอาเถอะ ยังไงเสียเด็กๆทั้ง ๑๑ คนที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าเขาแค่ ๑ หรือ ๒ วิ แต่เขาที่มีจิตวิญญาณที่โตกว่าจะดูแลไม่ให้สูญเสียลูกตาเหมือนกับเนื้อเรื่องในวรรณคดีเอง

ถ้าทำตัวดีล่ะนะ



พญารามสูร×ลำเภาจันทร์

สารบัญ

นาย๑๒-1. โลกใบใหม่,นาย๑๒-2 ตลาดท่าจันทคาม,นาย๑๒-3. การเติบโต,นาย๑๒-4 ผู้ใดมาเกี้ยวน้องเภาของข้า!,นาย๑๒-5 ท่านพ่อโดนยึดเกวียน,นาย๑๒-6 โดนทิ้งอีกครั้งก็พบเจอเข้ากับยักษา,นาย๑๒-7 กลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย,นาย๑๒-8 คิดเลี้ยงไว้กินหรือไร,นาย๑๒-9 ล่อลวงเข้าเมืองยักษ์,นาย๑๒-10 ห้องนอนข้างกัน,นาย๑๒-11 สับสน,นาย๑๒-12 เรียกพี่รามสูร,นาย๑๒-13. คงมิพอใจข้ามากสิหนา,นาย๑๒-14 เข้าใจข้าผิดแล้ว,นาย๑๒-15 ยาอายุวัฒนะ,นาย๑๒-16 ประลอง,นาย๑๒-17 ไปฟ้องเสด็จพ่อกัน,นาย๑๒-18 รักษา,นาย๑๒-19 รักษา 2,นาย๑๒-20 ข้าจะเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-21 แอบเข้าป่าต้องห้าม,นาย๑๒-22 รักษานาค,นาย๑๒-23 สหายคนแรก,นาย๑๒-24 สงคราม,นาย๑๒-25 เริ่มทำยา,นาย๑๒-26 บรรยากาศแปลกๆ,นาย๑๒-27 แข่งขี่ม้ายิงธนู,นาย๑๒-28 สายตาหน้าขยะแขยง,นาย๑๒-29 หลอกล่อพี่ชายคนที่ ๓,นาย๑๒-30 พี่กล้วข้ามากเลยหรือ,นาย๑๒-31 โดนจับตัวไป,นาย๑๒-32 รู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน,นาย๑๒-33 เริ่มปรุงยา,นาย๑๒-34 แปรผัน,นาย๑๒-35 ดวลชิงบันลังก์ 1,นาย๑๒-36 ดวลชิงบันลังก์ 2,นาย๑๒-37 เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย,นาย๑๒-38 ลำเภาจันทร์เข้าครัว,นาย๑๒-39 รักต่างเผ่าพันธุ์,นาย๑๒-40 ผลไม้ที่กินมาตลอดคือผลไม้วิเศษ,นาย๑๒-41 ปลามงคล,นาย๑๒-42 ชวนพี่ชายทานอาหาร,นาย๑๒-43 อร่อยที่สุดเท่าที่เลยทำ,นาย๑๒-44 แอบออกนอกวัง,นาย๑๒-45 อันธพาลแห่งนคร,นาย๑๒-46 ทูล (ฟ้อง) เสด็จพ่อ,นาย๑๒-47 มียักษ์มาสู่ขอพระโอรสลำเภาจันทร์,นาย๑๒-48 รู้ทันแผนทำให้พี่น้องแตกคอ,นาย๑๒-49 มนุษย์ที่ถูกขัง,นาย๑๒-50 นางยักษ์,นาย๑๒-๕๑. แผนการหลบหนี

เนื้อหา

31 โดนจับตัวไป

ลำเภาจันทร์พลันตกอยู่ในภวังค์เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีต ตอนนั้นเขาถูกพ่อแม่แท้ๆ ขายให้กับองค์กรนักฆ่าทั้งที่เขามีอายุเพียง ๔ ขวบเท่านั้น เขาจำได้ดีว่ามันน่ากลัวมาก มีชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวหลายคนมารุมล้อมคอยจับตาดูเด็กๆ ที่พวกเขาซื้อมา




ในวันแรกที่เขาถูกขายนั้น เขาจำได้ว่ามีเด็กชายคนหนึ่งก็โดนป้าแท้ๆ ของตนเองนำมาขายด้วยเช่นเดียวกัน พ่อและแม่ของเด็กคนนั้นประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต คนเป็นป้าจึงนำหลานมาขายเพื่อเอาเงินไปเล่นการพนัน และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยงดู




เด็กคนนั้นชื่อว่าไม้ตรี มีอายุมากกว่าเขาถึง ๓ ปี ในหมู่เด็กที่ถูกขายเขาเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดเพียงคนเดียว นั่นจึงทำให้ไม่ค่อยมีเด็กคนไหนอยากจะเข้าใกล้ รวมถึงเหล่าผู้ใหญ่ในองค์กรเองก็คิดว่าเขาจะไม่รอดจากการทดสอบอย่างแน่นอน จะมีก็แต่ไม้ตรีที่คอยมาพูดคุยและเล่นด้วย อีกฝ่ายตั้งตัวเป็นพี่ชายของเขา โดยที่เขาเองก็ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบรับอะไร 




ไม้ตรีเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักสดใสมาก ช่างสมดั่งที่พ่อแม่คอยมอบความรักให้เจ้าตัวมาตลอด เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่แม้อีกฝ่ายจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย แต่พี่ชายผู้นี้ก็มักจะยังคงคิดบวกอยู่เสมอ ทั้งยังคอยส่งยิ้มให้กำลังใจเขาเรื่อยมา




น่าเสียดายที่ผู้นำองค์กรคนเก่าช่างชั่วช้า เห็นชีวิตคนเป็นแค่มดปลวก อยู่ๆ ก็จัดภารกิจให้เด็กในรุ่นของเขาไล่ฆ่ากันเอง ทั้งที่รุ่นผ่านๆ มาไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้เลยสักครั้ง




ในตอนนั้นเขาและพี่ชายตกใจมาก แต่ก็เป็นพี่ชายของเขาเองที่คอยปลอบโยน




'ไม่ต้องกลัวนะเทาเภา พี่ชายคนนี้จะดูแลนายเอง เพราะพี่ชายของนายเป็นคนที่เก่งที่สุดในรุ่นยังไงล่ะ เพราะงั้น นายไม่ต้องกลัวนะ'




'...พี่ครับ'




ทว่าเขาโชคไม่ดีเลย เพราะพี่ชายที่เขาเห็นเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวได้เอาตัวเองมาปกป้องเขาจากเด็กคนหนึ่งที่ลั่นปืนมาทางเขาจนเสียชีวิต 




ตอนนั้นเขาทั้งเสียใจทั้งโกรธมาก และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่มือเขาของเปื้อนเลือด! ในหมู่เด็กรุ่นนั้นมีแค่เขาที่รอดชีวิต เด็กอายุ ๕ ขวบที่ใครๆ ต่างก็มองว่าอ่อนแอและคงตายเป็นคนแรก แต่ยามนั้นกลับยืนนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชาท่ามกลางกองศพของเด็กๆ คนอื่นมากมาย




"...พี่" ลำเภาจันทร์มองพี่ชายคนที่ ๓ ด้วยแววตาสั่นไหว ดวงตากลมโตคล้ายจะมีหยดน้ำตาไหลออกมา แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ไหล เพราะเขาพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้




แม้ลำเภาจันทร์จะไม่แน่ใจว่าตรีไตรใช่พี่ชายที่แสนกล้าหาญคนนั้นหรือไม่ เพราะนิสัยช่างต่างกันเหลือเกิน แต่เขาก็ดีใจที่ได้เป็นพี่น้องกับอีกฝ่าย ได้เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน






'เทาเภา ..พี่ดีใจจริงๆ นะที่มีนายเป็นน้องชาย หากชาติหน้ามีจริง พี่อยากจะ อยากจะเป็นพี่ชายของนายอีกครั้ง ...ดูแลตัวเองดีๆ นะน้องพี่'




'ฮึก พี่! พี่ครับ! อย่า!! อย่าทิ้งผมไป!!!'






ลำเภาจันทร์เหม่อลอย ในหัวคิดถึงแต่เรื่องราวในอดีตที่ไม่ค่อยน่าจดจำนัก ก่อนความเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลียจะทำให้เขาเข้าสู่นิทราไปในที่สุด










วันถัดมาในช่วงเที่ยงของวัน ลำเภาจันทร์ก็ได้มาดวลดาบกับพี่ชายคนที่ ๒ และคนที่ ๑๑ ที่สนามหญ้าหน้าเรือนพักตามปกติ




"เฮ่อออ ไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้เลย เจ้าเก่งมากจริงๆ เจ้าตัวเล็ก" โททวีเอ่ยพร้อมกับเช็ดเหงื่อที่กรอบหน้าตัวเองไปด้วย ฝึกมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ทว่าน้องชายคนเล็กของตนก็มิมีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลงเลยสักนิด ทั้งที่ต้องดวลดาบกับตนและเจ้าเอกาทศพร้อมกันแท้ๆ




ทว่าพวกตนก็รับรู้ได้ว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งหลังจากที่ได้ดวลดาบกับน้องชายผู้นี้ ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยกว่าตอนที่ฝึกกับครูฝึกอยู่มาก เพราะเจ้าน้องชายคนเล็กมักจะมีท่วงท่าแปลกๆ ที่มีประสิทธิภาพมาให้พวกเขารับมืออยู่เสมอ อีกทั้งพละกำลังและจังหวะในการโจมตีก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาจับทางมิได้เลยสักครั้ง




"น้องเภาของข้าสุดยอดที่สุด" เอกาทศเอ่ยทั้งๆ ที่นอนหอบอยู่บนพื้น




"...." ลำเภาจันทร์มองพี่ชายทั้งสองคนที่พากันหมดสภาพจากการฝึกหนัก ด้วยฝีมือของโททวีและเอกาทศในตอนนี้ เขาเชื่อว่าอย่างน้อยพวกเขาก็ยังพอดูแลตัวเองได้บ้างแล้วในอนาคต




และหากว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นหมั่นฝึกฝนต่อไป ภายภาคหน้าเมื่อต้องออกจากเมืองยักษ์ พวกเขาก็จะสามารถเป็นทหารในตำแหน่งดีๆ ได้แน่นอน




"พวกเจ้า!! เจ้า ๒! เจ้า ๑๑! เจ้า ๑๒! แย่แล้ว!" เอกศึกวิ่งหน้าตื่นมาหากลุ่มน้องชายที่สนามหญ้า เสียงร้องของเขาทำให้ทั้งสามคนหันไปมองอย่างพร้อมเพรียง




"พี่เอก ท่านมีเรื่องอันใดรึ วิ่งหน้าตื่นมาเชียว" โททวีเอ่ยถามพี่ชายอย่างสงสัย ยิ่งเห็นสีหน้าที่ดูร้อนรนกระวนกระวาย โททวีก็ยิ่งอยากรู้เรื่องเร็วๆ จนรอให้พี่ชายหายเหนื่อยไม่ไหว "รีบๆ เอ่ยสิ"




"แฮ่ก แฮ่ก พี่น้อง พี่น้องของเราหายตัวไป!" เอกศึกเอ่ยออกมาเสียงดังหลังจากที่ปรับลมหายใจได้แล้ว สีหน้ายังคงมีแต่ความแตกตื่นและร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด




"อันใดนะ?!/เกิดอะไรขึ้น?" โททวีและเอกาทศถามขึ้นพร้อมกัน ต่างจากลำเภาจันทร์ที่ยามนี้ขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวล




"เมื่อช่วงเช้าในตอนที่ข้ากับเจ้า ๓ และเจ้า ๔ กำลังนั่งอ่านตำราในห้องสมุดของเรือนพัก อยู่ๆ แม่นมบานชื่นก็ได้มาแจ้งแก่ข้าว่าเจ้า ๕ เจ้า ๙ และเจ้า ๑๐ หายไป  ตอนนั้นข้าคิดว่าพวกเขาคงมิอยากร่ำเรียนมารยาทจึงได้แอบหนี แต่ทว่าพอออกตามหาข้าก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เพราะเจ้า ๓ กับเจ้า ๔ ที่ช่วยข้าตามหาก็หายตัวไปด้วย พอข้าไปดูที่ห้องเครื่องดนตรีก็มิเห็นเจ้า ๖ อยู่เลย ทั้งเจ้า ๘ ที่ปกติมักอยู่ที่สังเวียนมวยก็มิอยู่เช่นกัน ยามนี้น่าจะเหลือเพียงแค่พวกเราเท่านั้น" เอกศึกกล่าวอธิบายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ออกมายาวเหยียด เขาทั้งเป็นห่วงน้องชาย ทั้งยังกลัวว่าจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกน้องๆ




"เป็นไปมิได้ พวกเขาจะหายไปได้ยั...." โททวียังเอ่ยไม่ทันจบ ทั่วทั้งบริเวณก็มีหมอกควันสีขาวปกคลุมโดยมิทราบสาเหตุ และนั่นก็ทำให้ดวงตาของพวกเขาเริ่มพร่ามัวและสูญเสียความรู้สึกตัวไป




"!!?" ลำเภาจันทร์ไหวตัวทัน รีบยกถุงสมุนไพรที่มีฤทธิ์กันยาสลบขึ้นมาสูดดมเล็กน้อยก่อนจะเก็บมันกลับลงไปอย่างแนบเนียน ดวงตากลมโตสีนิลพยายามเหลือบมองรอบข้างหาสิ่งผิดปกติ แต่ทว่าก็เห็นเพียงหมอกหนาเท่านั้น




เขาทำเป็นหมดแรงยืนมิไหวตามพี่ชายที่ตอนนี้ล้มพับไปแล้ว ก่อนจะค่อยๆ แสร้งหมดสติไปในที่สุด หลังจากหมอกยาสลบสลายไปจนหมด ก็ปรากฏยักษ์รูปร่างใหญ่โต ๔-๕ ตนยืนอยู่ล้อมรอบ




"หมดเสียที เจ้าเด็กมนุษย์พวกนี้มีจำนวนเยอะจริงๆ" วิภูอดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อยมิได้ พวกเขาตามจับเด็กมนุษย์มาตั้งแต่เช้าแล้ว จนยามนี้เข้าบ่ายกว่าก็พึ่งจะเสร็จ




"เอาเถอะ รีบเก็บใส่โหลแก้วแล้วเอาไปให้ฝ่าบาทของพวกเรากัน" วิภาผู้เป็นน้องชายเอ่ย โหลแก้วที่ว่าคือของวิเศษที่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้ นายเหนือหัวของพวกตนได้มันมาอย่างยากลำบากนัก




หลังจากที่พวกเขาใช้โหลแก้วดูดร่างของเด็กมนุษย์ทั้ง ๔ คนจนครบ พวกเขาก็เร่งเดินทางไปสถานที่หนึ่งทันทีด้วยสีหน้าพึงพอใจ โดยมิรู้เลยว่ามีดวงตาสีเลือดคู่หนึ่งกำลังเฝ้ามองดูอยู่ ในแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอำมหิต แรงสังหาร และแรงกดดันราวกับว่าสามารถลงมือฆ่ายักษ์พวกนั้นได้ไม่ยาก










TBC