ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
"...." ลำเภาจันทร์แอบลืมตาขึ้นมาสังเกตการณ์เงียบๆ เขาได้ยินทุกอย่างที่พวกมันเอ่ย ตอนนี้เขากับพี่ชายทุกคนที่ยังนอนไม่ได้สติถูกกักขังอยู่ในภาชนะที่คล้ายโหลแก้วขนาดใหญ่
ยาสลบที่พวกมันใช้มิได้มีผลข้างเคียงต่อมนุษย์ ทว่ามันมีฤทธิ์รุนแรงจนทำให้ผู้สูดดมหลับใหลได้นานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว โชคดีที่เขามักเตรียมการและตื่นตัวอยู่เสมอ มิเช่นนั้นเขาเองก็คงไม่อาจฝืนความง่วงงุนนี้ได้
ตอนนี้เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรด้านนอกได้เลย คาดว่าพวกมันคงเก็บโหลแก้วที่ขังพวกเขาพี่น้องเอาไว้ในถุงอะไรสักอย่าง ยังดีที่เขาพอจะได้ยินเสียงพวกมันคุยกันอยู่บ้าง
"น่าเสียดายยิ่งนัก พระโอรสองค์สุดท้องทรงฉายแววงดงามล่มเมืองตั้งแต่พระเยาว์ ต้องทรงมีพระชันษาสั้นเช่นนี้" วิภาเอ่ยกับพี่ชายอย่างแสนเสียดาย
"นั่นสิวะ หากทรงเติบใหญ่ขึ้นมาให้ฝ่าบาทของพวกเราได้ทรงเชยชม คงได้ประสูติพระโอรสและพระธิดาที่ทรงพระสิริโฉมงดงามมาให้พวกเราได้กระชุ่มกระชวยหัวใจเป็นแน่" วิภูกล่าวตอบน้องชาย ก่อนจะเอ่ยอย่างขี้เล่นด้วยน้ำเสียงหยาบโลนว่า "แต่ถ้าฝ่าบาททรงมิโปรดปราน กูก็ว่าจะเอามาเองว่ะ ของดีเช่นนี้ใครจะพลาดวะ กลิ่นพระวรกายแหม หอมบริสุทธิ์ฉิบหาย"
"อย่างนั้นท่านพี่คงต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะยาอายุวัฒนะมีค่ากว่าพระชนมชีพของพระองค์ลำเภามากนัก" วิภาเอ่ยหยอกพี่ชายทีเล่นทีจริง
"..!!?" ลำเภาจันทร์ที่แอบฟังอยู่เบิกตากว้างเมื่อรู้จุดมุ่งหมายของพวกมัน หลังจากต้องทนฟังวาจาหยาบโลนมาสักพัก
"เฮ่ออ! กูก็ได้แต่หวังว่าเมื่อทำยาอายุวัฒนะเสร็จแล้ว ฝ่าบาทจะทรงยอมแบ่งปันเนื้อเจ้าเด็กมนุษย์พวกนี้มาให้เรากินสักนิด"
"นั่นสินะท่านพี่ ข้าเองก็อยากกินด้วยเช่นกัน ข้ามิได้ลิ้มลองเนื้อเด็กมนุษย์มายาวนานหลายร้อยปีแล้ว"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า วันนี้พวกเราสร้างผลงานชิ้นใหญ่ กูจะลองขอฝ่าบาทดู"
"ขอให้พวกเราด้วยได้หรือไม่ขอรับท่านวิภู" ยักษ์ทหารชั้นผู้น้อยที่ติดตามมาร่วมภารกิจเอ่ยถามผู้มียศใหญ่กว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ได้สิวะ เด็กตั้ง ๑๒ คน ฝ่าบาทเสวยมิหมดหรอก"
"ขอบพระคุณขอรับท่านวิภู/ ขอบพระคุณขอรับ/ ขอบพระคุณท่านวิภูขอรับ" ยักษ์ทหารชั้นผู้น้อยทั้ง ๓ ตนเอ่ยออกมาพร้อมกันอย่างปีติยินดี
ลำเภาจันทร์แน่นิ่งครุ่นคิดประมวลผลต่อสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ทำไมพวกมันถึงได้รู้เรื่องยาอายุวัฒนะ? และปกติการจะนำดวงตาไปใช้ทำยาอายุวัฒนะได้ จะต้องรอจนกว่าพวกเขาอายุครบ ๑๖ ปีก่อนมิใช่หรือ? แล้วทำไมพวกมันถึงได้เร่งรีบนักทั้งที่พวกเขาพี่น้องก็ยังมีอายุเพียงแค่ ๑๒ ปี? ทั้งผู้ลงมือยังมิใช่พญารามสูร แต่เป็นน้องชายของอีกฝ่ายที่กระเหี้ยนกระหือรือเกินเหตุ
...ทว่าเมื่อใคร่ครวญให้ดี มันก็คงมิแปลกอันใดที่คนโลภเช่นพวกมันจะสืบรู้ว่าสามารถใช้ดวงตาของพวกเขาทำยาอายุวัฒนะได้ สิ่งที่เขาข้องใจก็คือ พวกมันมีวิธีที่จะทำยาอายุวัฒนะได้แล้วหรือ แล้วการทำยาอายุวัฒนะของพวกมันจะเลวร้ายยิ่งกว่าการใช้แค่ดวงตาอย่างเดียวหรือไม่?
"...." ตอนนี้ลำเภาจันทร์เข้าใจแล้วว่าทำไมสุทัศน์ถึงมุ่งเป้ามาที่พวกเขาพี่น้อง เพราะถ้าพวกมันได้ยาอายุวัฒนะ บัลลังก์ที่พวกมันต้องการก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ทั้งความได้เปรียบเรื่องอายุขัย ทั้งตอนนี้พญายักษ์ยังต้องออกไปสู้รบ เมื่อกลับมาก็คงเหลือพละกำลังที่จะต่อกรกับพวกมันมิมาก ยิ่งมิต้องพูดถึงอำนาจของเหล่าขุนนางที่พวกมันรวมหัวกันเลย
'...ชีวิตในวังช่างวุ่นวายเหลือเกิน หลังจบเรื่องนี้ ถ้ายังมีอันตรายแบบนี้อีก เขาจะพาพี่ๆ หนีออกไปแล้วจริงๆ'
จากนั้นไม่นานลำเภาจันทร์ก็รู้สึกว่าพวกมันกำลังขี่ม้าไปที่ใดที่หนึ่ง จนผ่านไปครู่ใหญ่ๆ การเคลื่อนไหวของม้าก็หยุดลง เขาสัมผัสได้ว่าตนและพี่ชายถูกพาเข้าไปในสิ่งก่อสร้างซึ่งดูเหมือนพวกมันจะให้การเคารพอยู่มาก เพราะไม่มีเสียงพูดคุยเลยสักนิดต่างจากตอนที่เดินทางมา
"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมทรงได้ตัวพระโอรสมาครบทุกพระองค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ" เสียงวิภูเอ่ยกับผู้เป็นนายเหนือหัวอย่างเคร่งขรึม
"...ดี นำพวกเขามาให้ข้าดู" สุทัศน์สั่งด้วยน้ำเสียงทุ้มเหี้ยมเจือความพึงพอใจ ดวงตาคมลึกลับฉายแววความมักใหญ่ใฝ่สูงชัดเจน ทั้งแผ่กลิ่นอายเย็นเยือกทั่วร่างจนน่าขนลุก
ลำเภาจันทร์ได้ยินเช่นนั้นก็รีบแกล้งหมดสติ โดยยังรับรู้อยู่ตลอดว่าพวกมันกำลังเปิดห่อผ้าจนมีแสงสว่างส่องเข้ามา ก่อนจะเคลื่อนย้ายโหลแก้วไปให้อีกคน
สุทัศน์หรือขุนพลหน่วย ๑ มองโหลแก้วในมือหยาบกร้านของตัวเองด้วยสีหน้าพอใจ ริมฝีปากหยักซึ่งมีเขี้ยวคมอยู่คู่หนึ่งยกยิ้มเมื่อคิดว่าแผนการของตนในครั้งนี้ ช่างดำเนินไปได้ด้วยดีนัก
"คราวนี้พวกมึงทำได้ดีมาก หลังจากใช้วิญญาณของพวกเขาทำพิธีปรุงยาอายุวัฒนะเสร็จ กูจะให้ร่างกับพวกมึงตนละคน" สุทัศน์เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาของตัวเองอย่างใจดี ทั้งคู่รับใช้ตนมานาน ตนย่อมต้องให้รางวัลตอบแทนบ้างเพื่อซื้อความภักดี
"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!/ขอบพระทัยพ่ะยะ่ค่ะ" วิภูและวิภาเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
"ออกไปได้แล้ว พวกมึงจงเฝ้าระวังนอกคฤหาสน์ไว้ให้กู อย่าให้ผู้ใดมารบกวนกูกับหมอมืดเด็ดขาด" สุทัศน์สั่งลูกน้องทั้งสองด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาเจ้าเล่ห์ยังคงปรากฏรอยยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา
"รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ!!" วิภูและวิภาคำนับก่อนจะพากันเดินออกไปทำหน้าที่
หลังจากพวกลูกน้องตนสนิทพ้นสายตา สุทัศน์ก็นั่งพินิจพิเคราะห์เด็กมนุษย์ในโหลแก้วทีละคนอย่างเงียบๆ จนบรรยากาศภายในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความวังเวง
"งดงามเสียจริงเลยหนาเจ้าลำเภา ช่างน่าเสียดายยิ่งนักที่ข้ามิมีโอกาสได้เชยชมเจ้า ทั้งใบหน้าและแววตาช่างถูกใจข้าเสียจริง ...แต่ชีวิตของเจ้าที่สั้นอยู่แล้ว จะสั้นลงอีกสักนิดก็คงมิเป็นอันใดหรอกหนา เอาวิญญาณของเจ้าและพี่ๆ มาทำประโยชน์ให้ข้าเสียดีกว่า แม้เจ้าจะมิอยู่ แต่ข้าก็จะใช้ชีวิตให้มีความสุขเผื่อเจ้าเอง โดยข้าจะกินร่างของเจ้าเพื่อที่พวกเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอย่างไรเล่า" รอยยิ้มโรคจิตเผยออกมาในขณะที่สุทัศน์เอ่ย ทว่าแววตาที่ลึกลับซับซ้อนนั้นกลับซ่อนความรักและความหลงใหลเอาไว้ไม่มิด และการที่สุทัศน์ต้องเอ่ยเช่นนี้ ก็เพื่อพยายามย้ำเตือนตัวเองมิให้สับสน
อำนาจและความมั่งคั่งต่างหากที่ตนใฝ่ฝันหามาโดยตลอด นี่อาจเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความพึงพอใจเพียงชั่วครู่เท่านั้น ตนจะมิยอมให้ความรู้สึกมาทำให้แผนการทุกอย่างที่ตนทำมาต้องล้มเหลวเป็นอันขาด เมื่อมีอำนาจทุกอย่างในโลกนี้ก็จะตกเป็นของตนทันที ตนอยากสร้างเมืองยักษ์ที่ไร้กฎเกณฑ์ อยากทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ชายผู้นั้นสร้างขึ้นมา และอยากช่วงชิงสิ่งที่มันควรจะเป็นของตนกลับคืน!
"...." ลำเภาจันทร์รู้สึกขนลุกกับสิ่งที่อีกฝ่ายรำพันออกมา แม้จะมิเห็นสีหน้าและแววตา แต่ทว่าน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นก็ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบเลยสักนิด
"คืนนี้จะเป็นคืนที่ข้าได้ครอบครองทุกอย่าง" สุทัศน์ยกยิ้มอำมหิต ใบหน้าครึ่งบนมืดมิดดูลึกลับซับซ้อนน่าหวาดหวั่น ทั้งยังแผ่กลิ่นอายน่าสะอิดสะเอียนออกมาจนทั่วห้อง
TBC