ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
ณ ลานประลองของนครอัสดง
ในยามวิกาลสถานที่แห่งนี้ช่างดูวังเวงและน่ากลัวยิ่งนัก มีเพียงคบเพลิงที่ถูกจุดไว้รอบลานซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว้างขวาง ทว่าผู้ชมทุกที่นั่งสามารถมองเห็นได้ทั่วทุกมุม
รอบลานประลองมียักษ์รูปร่างใหญ่โตจำนวนมากนั่งสงบเสงี่ยมมิกล้าส่งเสียงรบกวน โดยมียักษ์หนุ่มตนหนึ่งถูกจับมัดไว้กับเสาหินกลางลานดูน่าเวทนายิ่ง นัยน์ตาสีเทาดุร้ายคู่นั้นจับจ้องไปที่พญายักษ์ซึ่งกำลังนั่งองอาจอยู่บนบัลลังก์ทองคำที่มีลวดลายสลักงดงาม รอบกายหนาเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน ทั้งใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มก็เรียบนิ่งเยือกเย็นชวนขนหัวลุก
"...." ลำเภาจันทร์ที่ยามนี้อยู่ภายใต้ผ้าคลุมเหลือบมองพญารามสูรที่นั่งห่างออกไปไม่ไกล ก่อนจะสังเกตการณ์รอบๆ ทั่วบริเวณ
หลังจากที่พญายักษ์ปรากฏตัวทุกอย่างดูจะผ่อนคลายลงมาก พวกพี่ชายของเขาถูกพาตัวไปที่ห้องบรรทมของแต่ละคน ส่วนพวกของสุทัศน์หรือขุนพลหน่วยที่ ๑ ยามนี้ได้ถูกฝ่ายของพญายักษ์จับตัวเอาไว้หมดแล้ว เหลือเพียงแค่รอการสอบสวนและตรวจสอบว่าลูกน้องเหล่านั้นถูกบังคับด้วยปรสิตหรือไม่ หากตนใดโดนบังคับก็จะได้รับการยกเว้นโทษตาย
"พ พระโอรสลำเภาจันทร์ ทรงทราบดีอยู่แล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ ว ว่าที่นี่คือเมืองยักษ์" ศวุตย์หรือขุนทัพหน่วยที่ ๒ เอ่ยด้วยน้ำเสียงยำเกรง ตนวางตัวไม่ถูกนักเพราะพระโอรสตรงหน้าได้ช่วยรักษาโรคให้ตนจนหาย แลจนทำให้ศวุตย์ค่อนข้างที่จะชื่นชมและชื่นชอบพระองค์มากจนแอบหวังลึกๆ ว่าในอนาคตจะทำความสนิทสนมให้มากยิ่งขึ้น ทว่าพอความลับเรื่องเผ่าพันธุ์ยักษ์แตกศวุตย์จึงวิตกกังวลว่าพระโอรสอาจจะคิดหลบหนี
แต่แล้วทุกอย่างกลับยังดูปกติมาก พระโอรสที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานดูนิ่งเฉยมิขลาดกลัวเผ่าพันธุ์ยักษ์เลยสักนิด ทั้งยามที่พวกตนมาถึงก็พบว่ามียักษ์ทหารจำนวนหนึ่งถูกสังหารไปแล้ว ศวุตย์มิต้องคาดเดาเลยว่าเป็นฝีมือผู้ใดเพราะตนพอจะรู้มาว่าพระโอรสองค์นี้กำลังทรงศึกษาพืชมีพิษ และทรงมีทักษะการต่อสู้ล้ำลึกด้วย
"อืม" ลำเภาจันทร์ส่งเสียงตอบรับเบาๆ ขณะที่ดวงตากลมโตเรียบนิ่งกำลังจับจ้องทหารตนหนึ่งซึ่งกำลังรายงานเรื่องการก่อกบฏของยักษ์ที่ถูกจับมัดอยู่บนเสาหินอย่างเงียบๆ
"ตั้งแต่เมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ" ศวุตย์ถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ ทั้งยังแอบเหล่มองพระโอรสองค์น้อยภายใต้ผ้าคลุมเป็นระยะๆ เพื่อคอยอารักขา
"ตั้งแต่วันแรกที่มา" ลำเภาจันทร์ตอบโดยไม่ได้ใส่ใจยักษ์ด้านข้างที่ยามนี้ตกตะลึงจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปแล้ว ศวุตย์เบิกตาโตก่อนจะหันไปมองนายเหนือหัวที่ทรงเฝ้าสังเกตพระโอรสองค์เล็กอยู่เป็นระยะด้วยเช่นเดียวกัน
"ฝ่าบาททรงทราบว่าตัวตนของพวกเรามิใช่ความลับใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ" ศวุตย์ถามเพราะนึกได้ว่ายามที่นายเหนือหัวปรากฏตัว พระองค์มิได้ทรงมีท่าทีหวั่นวิตกอันใดๆ ทั้งที่พระโอรสองค์โปรดทรงเห็นพระรูปโฉมแท้จริงของพระองค์แล้ว
"...ใช่"
เมื่อศวุตย์หรือขุนทัพหน่วยที่ ๒ ได้ฟังคำตอบก็ไม่คิดถามเซ้าซี้อะไรอีก เพียงกล่าวขอบคุณที่อีกฝ่ายเคยช่วยรักษาตน"ขอบพระทัยพระโอรสอย่างยิ่งเลยหนาพ่ะย่ะค่ะ ที่ทรงช่วยรักษาโรคของกระหม่อมจนหายดี"
"อื้ม" ใบหน้าน่ารักงดงามพยักหน้าเบาๆภายใต้ผ้าคลุม
"มึงมีอะไรจะเอ่ยหรือสั่งเสียก่อนตายหรือไม่" พญายักษ์เอ่ยขึ้นด้วยสุ้มเสียงทุ้มเย็นชา นัยน์ตาคมเข้มจ้องเขม็งมองยักษ์ที่เคยได้รับโอกาสจากตนมาแล้วหนหนึ่ง
"หึ ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด มึงเกิดมาก็มีราชวงศ์และข้าราชบริพารประเคนทุกอย่างให้ มิว่าจะอำนาจหรือทรัพย์สมบัติ ทุกสิ่งล้วนเป็นมึงที่ได้ครอบครอง แล้วกูล่ะ กูและแม่ต้องยากลำบากอยู่นอกวัง ทนใช้ชีวิตอดๆ อยากๆ พอวันหนึ่งแม่กูป่วย กูมาขอความช่วยเหลือจากพ่อของมึง รู้หรือไม่ว่ากูได้อะไรกลับมา! มันคือการเหยียดหยามและโยนกูออกจากวังอย่างไรเล่า! แม่ของกูต้องป่วยตาย กูต้องทนทุกข์ทรมานกับการโดนกลั่นแกล้งและโดนนินทา! มึงคิดว่าความแค้นนี้มันจะหมดลงไปได้เพียงเพราะความเมตตาเล็กๆ น้อยๆ ของมึงหรือ! ในเมื่อมึงได้กูก็ต้องได้! เพราะกูมีสิทธิ์ กูมีสายเลือดของราชวงศ์เช่นกัน!!!" สุทัศน์ตวาดสุดเสียงด้วยความคับแค้นใจ
"...ได้! ในเมื่อมึงอยากได้เช่นนั้นกูก็จะสนองให้" พญารามสูรเอ่ยเสียงเหี้ยม นัยน์ตาคมยามนี้ไร้ซึ่งความเมตตาใดๆทั้งนั้น "มึงคิดหรือว่ากูได้บัลลังก์และอำนาจมาง่ายดายอย่างที่มึงเอ่ย กษัตริย์องค์ก่อนมีพระธิดาและพระโอรสกี่ตน และยามนี้พวกเขาหายไปที่ใด มึงรู้หรือไม่"
"ก็ถูกยักษ์ชั่วเช่นมึงฆ่าตายไปแล้วอย่างไรเล่า! มึงยังมีหน้ามาถามกูอีก!! ผู้ที่ต้องการอำนาจมิใช่มีเพียงกู! ผู้ที่ชั่วช้าจนลงมือฆ่าพี่น้องของตนเองเพื่อชิงบัลลังก์ก็มิได้มีเพียงกูเช่นกัน!!"
"ไอ้สุทัศน์ มึงคงมิรู้ว่าสายเลือดกษัตริย์แห่งนครอัสดงนั้นจำเป็นต้องสังหารพี่น้องร่วมสายเลือดของตนเพื่อชิงอำนาจและบัลลังก์ นี่เป็นดั่งคำสาปที่ติดราชวงศ์มาเนิ่นนาน หากอยากอยู่จุดสูงสุดก็จำต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถ หาใช่สิ่งที่อยากเป็นก็เป็นได้ไม่ ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่กูจะให้มึงในฐานะสายเลือดกษัตริย์ หากมึงมีความสามารถทุกสิ่งที่มึงไขว่คว้ามายาวนานก็จะตกเป็นของมึง แต่หาไม่แล้วชีวิตที่กูมิคิดอยากช่วงชิงไปจากมึงคงจบอยู่ในลานประลองแห่งนี้เหมือนเช่นพี่น้องร่วมสายเลือดคนอื่นๆ" พญายักษ์เอ่ยเสียงเฉียบขาดพร้อมแววตาเยียบเย็นจนน่าขนลุก "ปล่อยมัน!"
สิ้นเสียงทรงอำนาจของนายเหนือหัวร่างของอดีตขุนพลทหารหน่วย ๑ ก็ถูกปลดจากเสาหินที่ถูกมัดเอาไว้จนร่างร่วงหล่นสู่ลานประลอง พญารามสูรลุกขึ้นจากบัลลังก์ด้วยท่าทางองอาจผึ่งผายพร้อมกับเสียงโห่ร้องเฮจากเหล่าทหารยักษ์โดยรอบ "เลือกอาวุธของมึงเสีย!"
TBC