ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
ยามนี้สภาพร่างกายของสุทัศน์ดูสะบักสะบอมมิน้อย ก่อนการประลองเขาจึงได้รับขวดแก้วใบหนึ่งที่บรรจุน้ำตกวิเศษเพื่อรักษาบาดแผล แม้จะไม่ได้รักษาอาการภายใน แต่พญายักษ์เองก็อ่อนกำลังลงไปมากจากศึงสงครามที่สุทัศน์ก่อขึ้น ดังนั้นมันจึงมิถือเป็นการเอาเปรียบ
อาวุธของพญารามสูรคือดาบสีดำวาวคมกริบขนาดมหึมา ที่มีกลิ่นอายพิเศษจากการถูกใช้งานมานับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งเมื่อดาบอยู่ในมือของพญายักษ์ก็ยิ่งเปล่งประกายบารมีและความน่าเกรงขามให้แก่กัน
ส่วนสุทัศน์เลือกใช้กระบี่ที่เป็นของวิเศษลึกลับ แม้แต่ศวุตย์หรือขุนทัพหน่วยที่ ๒ ที่คอยบอกข้อมูลให้แก่พญารามสูรหรือเขาที่คอยดูอยู่ขอบสนามประลองก็ยังไม่รู้เลยว่าอาวุธชนิดนี้มีความวิเศษอะไรบ้าง และสุทัศน์ได้มันมาอย่างไร
"...มิควรประมาท" ลำเภาจันทร์เอ่ยออกมาขณะที่กำลังมองพวกเขาเริ่มการประลอง
"ใช่พ่ะย่ะค่ะ มิควรประมาทแม้แต่น้อย แม้นายเหนือหัวจะทรงพระปรีชาสามารถมาก ทว่าก็ดูเบาความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายมิได้พ่ะย่ะค่ะ" ศวุตย์มองการประลองตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นานมากแล้วที่ตนมิได้เห็นการประลองของผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ น่าจะตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์เมื่อหลายร้อยปีก่อน
"พระโอรสทรงทราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ว่าแท้ที่จริงแล้วฝ่าบาทมิทรงต้องการครองราชย์เลยสักนิด"
"...." ลำเภาจันทร์เหลือบมองยักษ์ทหารตัวใหญ่ด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะหันสายตาไปมองการประลองตรงหน้าต่อ
"กระหม่อมอยู่กับฝ่าบาทมาตั้งแต่กระหม่อมยังแบเบาะพ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นพระองค์มีพระชนมายุได้ ๓๐ พรรษา ทรงช่วยพี่สาวและกระหม่อมเอาไว้จากบิดาที่จะขายพวกกระหม่อมให้โรงค้าทาส หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็อยู่ในวังมาโดยตลอด กระหม่อมจึงได้ยินเรื่องราวของฝ่าบาทว่าประทับอยู่ในวังอย่างหวาดระแวงมากเพียงใด เพราะพระองค์ต้องทรงระแวดระวังพระเชษฐา (พี่ชาย) พระเชษฐภคินี (พี่สาว) พระอนุชา (น้องชาย) พระขนิษฐา (น้องสาว) ร่วมสายพระโลหิตที่ทรงหวังปลงพระชนม์พระองค์ทุกเมื่อ มิมีวันใดที่ทรงอยู่อย่างสงบสุข อีกทั้งเพราะฝ่าบาททรงสูญเสียพระมารดาไปตั้งแต่พระชนมายุ ๑๐ พรรษา ต่างกับพระธิดาและพระโอรสองค์อื่นๆ ที่มีพระมารดาทรงคอยดูแลและอบรมสั่งสอน พระองค์จึงทรงโดดเดี่ยวมากพ่ะย่ะค่ะ เมื่อกระหม่อมรู้ความจึงเข้าถวายงานรับใช้แทนพี่สาวที่ยามนี้กำลังป่วยอยู่พ่ะย่ะค่ะ" ศวุตย์บอกเล่าพร้อมแววตาหม่นเมื่อรำลึกถึงอดีต
ตนพร้อมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่นายเหนือหัวและยินดีพลีชีพเพื่อแผ่นดินด้วยความจงรักภักดี ที่ฝ่าบาททรงยอมขึ้นครองราชย์ก็เพราะทรงเป็นห่วงความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฎร์ ในสายตาของตนพระองค์ทรงเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง
"...." ลำเภาจันทร์นั่งเงียบจ้องมองไปที่พญารามสูรด้วยแววตาซับซ้อน เขาเข้าใจดีว่าคนที่ถูกหมายหัวจากคนรอบข้างนั้นมันรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว และแย่แค่ไหนเพราะเขาเองก็เคยถูกคนร่วมองค์กรคิดปลิดชีพทุกวันเช่นกัน
การประลองของสายเลือดกษัตริย์ทั้งสองตนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ จนเหล่ายักษ์ทหารที่คอยให้กำลังใจต่างลุ้นกันตัวโก่งแม้จะเชื่อมั่นในพระปรีชาสามารถของผู้ปกครองเมืองก็ตาม
จนในที่สุด
"ถึงแม้จะประมาทอีกฝ่ายมิได้ แต่ทันทีที่ฝ่าบาททรงดึงเครื่องศัสตราวุธคู่กายเล่มนั้นออกมาก็ทราบผลแล้วพ่ะย่ะค่ะว่าการประลองครั้งนี้ผู้ใดคือผู้ชนะ" ศวุตย์เอ่ยด้วยความเคารพเลื่อมใส
ลำเภาจันทร์และศวุตย์มองพญายักษ์ที่กำลังยืนใช้ดาบเล่มใหญ่จี้คอของสุทัศน์ด้วยท่าทีองอาจสง่างาม ขณะที่เหล่ายักษ์ทหารพากันโห่ร้องยินดีรอบลานประลอง ทั้งยังส่งสายตาดูถูกเหยียดหยามไปยังผู้ที่ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของผู้เป็นใหญ่
"ยักษ์ชั่วร้ายจิตใจดำอำมหิตเช่นมึงมิมีสิทธิ์ครองราชย์หรือปกครองผู้ใดทั้งนั้น" พญารามสูรกดเสียงต่ำ นัยน์ตาคมจ้องมองอีกฝ่ายราวกับจะฉีกร่างตรงหน้าเป็นชิ้นๆ
"หึ จะฆ่าก็รีบฆ่า หรือยังขี้ขลาดมิกล้าฆ่ากูเช่นคราก่อน" สุทัศน์ยิ้มมุมปากอย่างไร้สำนึก แววตาดุร้ายเจ้าเล่ห์เหล่มองไปที่เด็กน้อยใต้ผ้าคลุม ในเมื่อไม่สามารถช่วงชิงบัลลังก์จากพญายักษ์มาได้ เช่นนั้นตนก็ขอชิงสิ่งที่มันหวงแหนมากที่สุดมาก็แล้วกัน! กระบี่ที่อยู่ในมือหนาพลันแปรสภาพเป็นหอกเล่มคม ก่อนที่สุทัศน์จะใช้เรี่ยวแรงที่เหลือทั้งหมดขว้างมันไปที่เด็กน้อยมนุษย์โดยมิลังเล "มากับข้าเถอะ!! ไปอยู่ในนรกด้วยกั- !!" ศีรษะของสุทัศน์ร่วงลงจากบ่าอย่างฉับพลัน ส่วนผู้ที่เพิ่งลงมือสังหารไปก็รีบทะยานเพื่อไปปกป้องคนสำคัญของตัวเองทันที
"พ่อลำเภา!!" พญารามสูรใช้ร่างบังคนตัวเล็กเอาไว้จึงถูกหอกแหลมทิ่มแทงเข้าหน้าท้องอย่างจังจนรู้สึกเจ็บปวดมิน้อย "อึก! "
ตั้งแต่เสร็จศึกสงครามจนกระทั่งสิ้นสุดการประลองพญายักษ์ยังมิได้หยุดพักแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงมิแปลกที่พละกำลังของยักษ์อายุราว ๙๐๐ ปีเช่นเขาจะถดถอยลงไปมาก ทั้งยามนี้เขายังบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกจึงไร้เรี่ยวแรงจนแทบยืนมิไหว เหล่ายักษ์ทหารที่อยู่รอบลานประลองเห็นเหตุการณ์ก็ต่างลุกฮือด้วยความตกใจ!
"ฝ่าบาท!!" ศวุตย์หรือขุนทัพหน่วยที่ ๒ ตกตะลึง รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยพยุงนายเหนือหัวของตนทันที
สำเภาจันทร์เองก็ตกใจ เขาไม่คิดว่าพญายักษ์จะเอาร่างเข้ามาบังตัวเองไว้เช่นนี้ ดวงตากลมโตฉายแววซับซ้อนก่อนจะเบิกกว้าง เขารีบกระโดดเข้าไปในลานประลองด้วยอีกคนเพื่อยับยั้งมิให้ฝ่ามือหนาของอีกฝ่ายดึงหอกออกจากหน้าท้อง บ้าหรือไง! จะดึงอาวุธที่แทงตัวเองออกสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ มีหวังได้ตายก่อนได้รักษาแผลกันพอดี นี่อีกฝ่ายรอดชีวิตมาถึงอายุปูนนี้ได้ยังไงกันเนี่ย!
"มีอะไรหรือพ่อลำเภา" พญารามสูรถามเด็กน้อยที่อยู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาจับมือตนเอาไว้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คงเป็นห่วงตนมากเลยสิหนา ช่างน่ารักยิ่งนัก
"อย่าดึงหอกสุ่มสี่สุ่มห้าหากยังมิรู้ว่าโดนอวัยวะสำคัญหรือไม่" ลำเภาจันทร์เอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับทำหน้าดุ
"ข้าเข้าใจแล้ว" พญารามสูรยิ้มเต็มปากเมื่อเห็นท่าทีน่าเอ็นดูของเด็กน้อย แม้ตนจะบาดเจ็บและเสียพละกำลังไปมาก แต่เพียงได้เห็นคนตรงหน้ายังปลอดภัย ตนก็รู้สึกว่าจะหายเป็นปลิดทิ้ง "เจ้าจะเป็นผู้ทำแผลและรักษาแผลให้ข้าจนหายได้หรือไม่?"
"..." ลำเภาจันทร์เงยมองพญายักษ์ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ พร้อมตอบตกลง "ได้"
พญารามสูรฉีกริมฝีปากที่มีเขี้ยวคมกว้างยิ่งขึ้นก่อนจะหันไปสั่งการทหารตนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ "พักเรื่องในวันนี้เพียงเท่านี้ก่อน วันพรุ่งข้าจะจัดการเรื่องที่เหลือและจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด"
"พ่ะย่ะค่ะ!" ศวุตย์รับพระบรมราชโองการ
"เก็บกวาดเสีย!" พญารามสูรเอ่ยจบก็เดินจากไปพร้อมกับเด็กมนุษย์ตัวเล็กของตัวเอง
TBC