ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
ช่วงเวลาแห่งความสงบสุขผ่านพ้นไป ๓ ปี วันนี้พวกเขาพี่น้องทั้ง ๑๒ คนมีอายุครบ ๑๕ ปีแล้ว
ในงานวันเกิดพญารามสูรได้มอบของขวัญที่แต่ละคนอยากได้จนเด็กๆ ทุกคนต่างดีใจกันมาก ส่วนลำเภาจันทร์ที่มิต้องการสิ่งใด พญารามสูรจึงได้มอบกำไลข้อเท้าฝังพลอยเนื้อใสซึ่งตนเห็นว่าเข้ากับคนตัวเล็กมาก ทั้งยังเป็นของวิเศษหายากชิ้นหนึ่งที่ทำให้เหาะเหินเดินอากาศได้ โดยพญารามสูรได้มอบและสวมกำไลข้อเท้านี้ให้ลำเภาจันทร์ด้วยตัวเอง
ยามนี้เด็กน้อยผู้มีใบหน้าหวานน่ารักได้เติบใหญ่เป็นคนงามหน้าหวานหยดย้อย ปากนิดจมูกหน่อยและเป็นที่หมายปองของบุรุษทั้งหลาย เส้นผมสีอ่อนยาวถึงสะโพกกลมพริ้วไหวลู่ไปกับสายลม ดวงตาสวยคมที่มักเย็นชายามนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น ยิ่งประกอบกับขนตางอนยาวเป็นแพก็ยิ่งเสริมให้ดวงตากลมโตคู่นั้นน่ามอง เมื่อรวมกับรูปร่างเพรียวบางเกินสตรี และเอวที่คอดกิ่วจนน่ากลัวว่าร่างงามตรงหน้าจะถูกลมพัดพาไปได้ง่ายๆ ทั้งผิวกายที่ขาวผุดผ่องเป็นยองใยไร้รอยขีดข่วนใดๆ ความงามนี้มิอาจหาผู้ใดเทียบได้แม้แต่นางอัปสรบนสรวงสวรรค์
"พ่อลำเภา แอบมาเก็บผลไม้ของพี่กินอีกแล้วหนา" พญารามสูรเงยหน้าขึ้นมองคนงามที่ตนเฝ้ามองมาโดยตลอดด้วยความเอ็นดูรักใคร่ใส่ใจ
"ท่านพึ่งจะมาหวงเอาป่านนี้หรืออย่างไร" ลำเภาจันทร์เชิดหน้าขึ้นทั้งที่ในมือและกระพุ้งแก้มนุ่มยังมีมะม่วงผลสุกรสหวานอยู่เต็ม คนตัวเล็กรีบกินมะม่วงสีนวลที่เหลืออยู่ในมือจนหมดราวกับกลัวใครมาแย่ง ก่อนที่ร่างเพรียวบางจะค่อยๆ เหาะลงสู่พื้นดิน "ท่านมาหาข้ามีอะไรหรือ?"
"พี่เพียงคิดถึงเจ้าเท่านั้น" พญารามสูรหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อแล้วใช้มันเช็ดแก้มใสให้คนงามอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาคมก้มมองข้อเท้างามที่สวมใส่เครื่องประดับหายาก ก่อนจะเอ่ยเบาๆ แต่ก็ดังพอให้คนตัวเล็กได้ยิน "ดูเจ้าชื่นชอบของชิ้นนี้ที่พี่ให้เจ้ามิน้อย พี่ดีใจยิ่ง"
"??" ลำเภาจันทร์เอียงคอมองพญารามสูรที่ยามนี้อยู่ในร่างมนุษย์ ใบหน้าหล่อเหลาแต่เหนื่อยล้าของอีกฝ่ายดูราวกับชายหนุ่มอายุ ๒๐ ปลายๆ ที่โหมงานหนัก "งานเยอะมากหรือ"
"หึ ถูกเจ้าจับได้เสียแล้ว" พญายักษ์ยิ้มบางก่อนจะเลื่อนฝ่ามือหนาไปกุมมือเรียวเล็กข้างที่เปื้อนผลมะม่วงเอาไว้ แล้วทำการเช็ดคราบน้ำหวานของผลมะม่วงให้อย่างเบามือ "ใช่แล้ว ช่วงนี้มียักษ์ลักลอบค้าขายมนุษย์และเผ่าพันธุ์อื่นเพิ่มขึ้น พวกมันมีจำนวนเยอะมากและทำงานกันเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งยังเก่งเรื่องการแฝงตัวอยู่ในนครต่างๆ ดังนั้นพี่จึงรับมือและหาแหล่งกบดานของพวกมันยากยิ่งนัก"
"พวกมันเข้ามาขายในนครของเราหรือ?" ลำเภาจันทร์ถามด้วยความสงสัย
"มิมากนัก แต่ก็ปล่อยไว้มิได้เพราะมีหลายเผ่าที่เดือดร้อนจากยักษ์เหล่านี้ พี่ในฐานะผู้ปกครองนครซึ่งมีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดจำต้องออกมาดูแลจัดการ" พญารามสูรตอบพร้อมรอยยิ้มขณะมองคนงามที่เผลอเอ่ยออกมาว่านครของเรา ตนดีใจยิ่งนักที่คนตัวเล็กตรงหน้ามองเมืองแห่งนี้เป็นเมืองของตัวเอง
"เป็นราชานี่เหนื่อยน่าดู อย่างนั้นให้ข้าทำอาหารให้ท่านทานดีหรือไม่" ลำเภาจันทร์เอ่ยอย่างอารมณ์ดี หลายเดือนมานี้เขาแก้อาการเบื่อด้วยการเข้าป่าต้องห้ามไปหาวัตถุดิบมาทำอาหารบ่อยๆ และแน่นอนว่าคนชิมย่อมคือยักษ์ตรงหน้าและเหล่าพี่ชายของเขานั่นเอง
"จะ เจ้าจะเข้าครัวหรือ" พญารามสูรยิ้มเจื่อนแต่ถึงกระนั้นก็มิคิดหักหาญน้ำใจคนงาม "เช่นนั้นพี่จะเฝ้ารออาหารรสมือเจ้าหนา หากถึงเวลารับประทานสำรับมื้อเย็นแล้ว เจ้าจะชวนพี่ชายมาร่วมโต๊ะด้วยก็ย่อมได้"
"ตกลง ข้าจะชวนพี่ๆ ของข้ามาด้วย ถ้าเช่นนั้นข้าไปหาวัตถุดิบมาทำอาหารก่อน ท่านเองก็พักผ่อนให้มาก" ลำเภาจันทร์เอ่ยก่อนจะใช้ของวิเศษทะยานขึ้นไปเก็บผลมะม่วงมาสองสามผลเพื่อเป็นเสบียงแล้วเหาะเข้าไปทางป่าต้องห้ามทันที
"....เห็นทีพี่คงต้องชวนศวุตย์มาร่วมรับประทานมื้อนี้ด้วยอีกตนแล้ว" เพราะอาหารรสมือเจ้าช่างตราตรึงใจพี่ยิ่งนัก พญารามสูรคิดต่อในใจพร้อมกับมองร่างงามที่หายเข้าไปในป่าด้วยสายตาอ่อนโยน
ลำเภาจันทร์ทะยานเข้าไปในป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ เขาเข้ามาสำรวจป่าแถบนี้อยู่บ่อยครั้งจนสามารถจดจำเส้นทางได้เกือบทั้งหมด
"วันนี้ใช้ปลาทำอาหารดีกว่า" ลำเภาจันทร์เอ่ยก่อนจะทะยานเข้าไปลึกขึ้นเมื่อจำได้ว่ามีทะเลสาบซึ่งน่าจะต้องมีปลาตัวใหญ่เยอะมากแน่ๆ ทว่าเมื่อไปถึงลำเภาจันทร์กลับเห็นว่ามีนาคหน้าตาคุ้นๆ นอนเกยตื้นอยู่ข้างทะเลสาบ เหตุการณ์นี้จะเหมือนเดจาวูมากถ้าข้างกายของสหายเก่าเขาไม่มีครุฑปีกแดงคอยโอบเอวไว้ ครุฑ? หรือเจ้านกยักษ์ตัวนี้คิดจะจับสหายของเขากิน? มิได้การแล้ว สงสัยอาหารมื้อเย็นนี้คงเป็นเนื้อนก
TBC