ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
ลำเภาจันทร์เหลือบมองลูกน้องทั้ง ๔ ตนของดำรงที่เข้ามารายล้อมเขาไว้ ริมฝีปากสีหวานฉีกยิ้มบางทว่าดวงตายังคงเรียบนิ่งดูน่ากลัว "หมาหมู่เช่นพวกเจ้า เพียงมือเปล่าข้าก็เอาชนะได้"
"ปากดีเช่นนั้นต้องเจอนี่!" ลูกน้องยักษ์ตนที่ ๑ เอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยวแล้วเดินเข้าไปง้างหมัดหวังต่อยหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง ทว่าคนใต้ผ้าคลุมกลับหลบหมัดได้อย่างง่ายดายทั้งยังต่อยสวนกลับจนลูกน้องยักษ์ตนที่ ๑ หน้าหงายจมูกแตก "โอ๊ย! ลูกพี่มันต่อยข้า ข้าเจ็บนัก"
"ไม่ได้เรื่อง!! ข้าบอกให้รีบจับมันไว้อย่างไรเล่า!!!" ดำรงตะคอกใส่ลูกน้องเมื่ออารมณ์โกรธเริ่มครอบงำ
"ขอรับ!" ยักษ์ลูกน้องอีกสามตนขานรับลูกพี่ก่อนจะพากันกลุ้มรุมคนตรงหน้าในระยะประชิดขึ้นทันที
ลำเภาจันทร์ต่อยเข้าที่ท้องของยักษ์ที่พุ่งตัวมาด้านหน้า ก่อนจะเหวี่ยงขาเตะเสยคางยักษ์ด้านหลัง แล้วถีบตัวไปอีกทางเพื่อหลบยักษ์อีกตนที่เข้ามาโจมตี จังหวะนั้นผ้าคลุมที่ปกปิดใบหน้างดงามอยู่จึงหลุดร่วงจากศีรษะแต่เขามิวายใช้สันมือสับหลังคอให้ยักษ์ตนนั้นสลบลงไปจนได้
"จ เจ้า!! เป็นมนุษย์รึ!?" ดำรงชี้นิ้วสั่นๆ ไปที่คนงามตรงหน้า ใบหน้าคมแดงเถือกก่อนจะกุมมือทั้งสองข้างที่อกแล้วเอ่ยเสียงสั่น "เจ้าคงเป็นเด็กมนุษย์ที่พญารามสูรเลี้ยงดูอยู่"
"...." ลำเภาจันทร์มิกล่าวอันใดเพียงมองกลับด้วยสายตาเย็นชา
"ลูกพี่ เอาเช่นไรดีขอรับ" ลูกน้องยักษ์ตนที่ ๑ ที่โดนต่อยจมูกแตกเดินเข้าไปประคองสหายที่นอนสลบอยู่บนพื้นแล้วถามลูกพี่ของตน
"กลับสิวะ!! จะรอให้พญารามสูรออกมาฆ่าหรืออย่างไร" ดำรงตะคอกใส่ลูกน้องเพื่อกลบเกลื่อนความอับอายของตนก่อนจะหันหลังแล้วเดินหนีนำโด่งออกไป ทิ้งให้เหล่าลูกน้องมองตามอย่างงงงวยจากนั้นก็พากันวิ่งตามไปติดๆ
"ลูกพี่ รอพวกเราด้วยขอรับ!!"
ลำเภาจันทร์มองตามกลุ่มยักษ์อันธพาลที่พากันเดินวิ่งจากไปจนลับตา หลังจากนั้นจึงหันไปมองคนที่โดนรังแกเมื่อครู่ "เจ้าเป็นอะไรหรือไม่"
ดนูเงยหน้ามองใบหน้างดงามของมนุษย์ที่ระยะนี้ตนเห็นเกือบทุกวันเพราะอีกฝ่ายใช้เส้นทางที่อยู่แถวเรือนของตนในการเข้าเมือง แต่ถึงอย่างนั้นก็มิมีครั้งใดเลยที่พวกเขาจะทักทายกัน ทำเพียงมองผ่านๆ แล้วเดินจากกันเพียงเท่านั้น ใบหน้าหม่นหมองส่ายไปมาก่อนจะตอบกลับเสียงเบา "ขอบพระคุณองค์ชายมากพ่ะย่ะค่ะที่ช่วยกระหม่อมไว้"
"...มิเป็นไร" ลำเภาจันทร์เงียบไปสักพักแล้วจึงถามต่อ "พวกเขามารังแกเจ้าบ่อยรึ"
"พ่ะย่ะค่ะ เพราะกระหม่อมเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์จึงถูกรังเกียจ" ดนูเอ่ยด้วยท่าทางเหม่อลอย มารดาของตนเป็นมนุษย์ที่ได้พบรักกับท่านพ่อที่ออกเดินทางไปศึกษาวัฒนธรรมต่างๆ ในดินแดนมนุษย์เพื่อหาวิธีต่อยอดให้เผ่าพันธุ์ยักษ์ทันสมัยก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลาจะได้รู้เท่าทันยุทธวิธีของมนุษย์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลายปีก่อนมารดาจากไปด้วยโรคชรา ท่านพ่อยอมรับเรื่องนี้มิได้จึงตรอมใจตายตามท่านแม่ไปในที่สุด ทิ้งให้เขาอยู่เพียงลำพังพร้อมมรดกที่ผู้เป็นบิดาสร้างไว้ซึ่งก็คือทุ่งทานตะวันแถบนี้ทั้งหมด
"ข้าเป็นมนุษย์ และข้ามิเกลียดเจ้า" ลำเภาจันทร์เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขารู้วิชาการแพทย์จึงพอมองออกว่าอีกฝ่ายเสี่ยงจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือไม่ยามนี้ก็อาจจะเป็นไปแล้ว แม้จะมิได้สนิทชิดเชื้อ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้ก็ทำให้เขาอดนึกถึงตัวเองในชีวิตก่อนมิได้ "เรามาเป็นสหายกันดีหรือไม่"
ณ ห้องบรรทมของพระโอรสองค์ที่ ๙
"องค์ชาย ๙ เพคะ วันนี้หม่อมฉันมีเรื่องร้ายแรงมาทูลเพคะ" ละออรีบเดินเข้ามาในห้องบรรทมของผู้ที่ตนดูแลรับใช้ น้ำเสียงที่เอ่ยดูลนลานดั่งกับว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น
"มีเรื่องอันใดอีก น้องเภาเล่นซนอีกแล้วรึ" นวรัตน์เอ่ยถามสาวรับใช้ของตน แม้มือยังคงสางผมของตนเองอย่างประณีตทว่าในหัวกลับเอาแต่นึกถึงเครื่องประดับราคาแพงของใครอีกคนที่เจ้าตัวได้สวมใส่มิซ้ำกันในแต่ละวัน เหตุใดกัน เพราะเหตุใดตนจึงมิได้ของเช่นนั้นบ้าง เหตุใดจึงมิถูกใส่ใจ
"ครั้งนี้มิใช่ทรงเล่นซนธรรมดาแล้วเพคะ เพราะพระโอรสลำเภาจันทร์ทรงแอบหนีออกไปนอกวังเลยเพคะ" ละออป้องปากกระซิบด้วยสีหน้าจริงจัง "หม่อมฉันล่ะมิเข้าใจเลยนะเพคะ พระโอรสลำเภาจันทร์ทรงดื้อซนเช่นนั้นแต่เหตุใดฝ่าบาททรงเอาแต่ตามพระทัยนัก ทั้งที่องค์ชาย ๙ ของหม่อมฉันทั้งงดงาม กิริยามารยาทเป็นเลิศ นิสัยใจคอก็ทั้งเมตตาอ่อนโยนอ่อนหวาน"
"เป็นเรื่องจริงรึที่น้องเภาแอบออกไปเล่นนอกวัง" นวรัตน์เอ่ยถามสาวใช้ของตนซ้ำเพื่อความแน่ใจ ใบหน้าหวานยกยิ้มบางเมื่อกำลังคิดทำเรื่องบางอย่าง
"จริงแท้แน่นอนเพคะ หม่อมฉันเห็นมากับตาเลย" ละออตอบกลับด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่หนักแน่นจริงจัง ก่อนใบหน้าธรรมดาจะหันไปยกยิ้มร้ายเมื่อแผนของนางดูจะสำเร็จ หึ โง่เสียจริง เป็นแค่มนุษย์ไร้ค่าริอ่านหาญกล้ามาอยู่เหนือกู รอก่อนเถอะ มินานกูจะได้อยู่เหนือผู้ใด
"เช่นนั้นก็อันตรายสิ เราต้องรีบไปทูลเสด็จพ่อ หากน้องเภาเป็นอันใดขึ้นมาข้าต้องมิให้อภัยตัวเองแน่" นวรัตน์แสดงสีหน้าร้อนใจออกมาทั้งๆ ที่ในใจเต็มไปด้วยความยินดี คราวนี้ดูสิว่าผู้ครองเมืองจะยังเอ็นดูเด็กมิรู้ความหรือไม่
"เช่นนั้นทรงรีบเสด็จเถอะเพคะ" ละออมีหรือจะไม่สนับสนุนในเมื่อทุกอย่างเป็นแผนของนางทั้งหมด
ณ ห้องทรงงานของพญายักษ์
ก๊อกๆ
พญารามสูรที่กำลังนั่งอ่านรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มยักษ์ที่สร้างปัญหาในช่วงนี้เหลือบตาขึ้นมองประตูบานใหญ่หน้าโต๊ะทำงานสีทึบของตน ปกติหากเป็นคนงามตัวน้อยอีกฝ่ายจะเคาะเพื่อส่งสัญญาณให้แก่ตนแล้วเปิดประตูเข้ามาเลย แต่ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมิใช่คนที่ตนคาดหวัง
"ผู้ใด" น้ำเสียงทุ้มเหี้ยมเอ่ยถามผู้ที่กล้ามารบกวนการทำงานของตน ใบหน้าหล่อเหลายังคงก้มอ่านรายงานในมือคล้ายว่ามิสนใจสิ่งอื่น
"ฝ่าบาท องค์ชาย ๙ เสด็จมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ" นายทหารยักษ์ในร่างมนุษย์ที่ยืนเฝ้าด้านหน้าเปิดประตูเข้ามาทูลรายงานนายเหนือหัว
"ข้ามิว่าง ให้เขากลับไปเสีย" พญารามสูรมีหรือจะสนใจผู้อื่น ในยามนี้แค่งานก็ล้นมือจนมิมีเวลาไปหาคนงามแล้ว ยังจะให้ตนยุ่งด้วยเรื่องไร้สาระอันใดอีก
"แต่องค์ชาย ๙ ตรัสว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับองค์ชาย ๑๒ พ่ะย่ะค่ะ" นายทหารยักษ์เหงื่อตกเมื่อรู้สึกว่านายเหนือหัวของตนทรงเริ่มมิพอพระทัย โดยปกติผู้ที่สามารถเข้าออกห้องทรงงานของฝ่าบาทได้โดยมิต้องทูลขอพระราชานุญาตเห็นทีจะมีเพียงพระโอรสลำเภาจันทร์เท่านั้น สำหรับผู้อื่นจำต้องนัดหมายเอาไว้ หรือไม่ก็เป็นผู้ที่ฝ่าบาททรงรับสั่งให้เข้าเฝ้าเองเพื่อตรัสสั่งงาน การใส่พระทัยและการตามพระทัยพระโอรสลำเภาจันทร์เช่นนี้เป็นที่รับรู้ทั่วกันภายในวัง
"เรื่องอะไร?" พญารามสูรขมวดคิ้วแน่นจนเป็นปม ตนสนใจเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่จึงได้ถามเช่นนั้นออกไป
"กระหม่อมมิทราบพ่ะย่ะค่ะ" นายทหารยักษ์ก้มหน้ามองพื้นทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงความมิพอพระทัยของผู้เป็นใหญ่
"ให้เขาเข้ามา"
"พ่ะย่ะค่ะ"
หลังจากทหารนายออกไปเพียงมินาน นวรัตน์ก็เดินเข้าไปในห้องทรงงานของพญารามสูร ดวงตาที่คล้ายจะใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลามองสำรวจรอบห้องที่ทั้งใหญ่โตและโอ่อ่าด้วยความตื่นเต้น "เสด็จพ่อทรงงานทั้งวัน เหนื่อยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"
"พูดเรื่องที่เจ้ามาวันนี้เสีย" พญายักษ์ตัดบทเข้าเรื่องด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเคร่งขรึมและน่าเกรงขาม
นวรัตน์เริ่มใจคอมิดีเมื่อเห็นท่าทางน่ากลัวของบุรุษที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ภายนอกก็ดูน่ากลัวอยู่แล้วพอใช้น้ำเสียงเช่นนั้นอีกจึงอดเกร็งมิได้จนเผลอเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มเข้าหากัน ใบหน้าหวานก้มมองมือทั้งสองข้างที่กุมไว้ด้านหน้า กิริยาท่าทางในยามนี้ช่างมิต่างจากกระรอกตัวน้อยที่กำลังขลาดกลัว ทว่าพญายักษ์หาได้แยแสไม่ ดวงตาคมยังคงจ้องอ่านรายงานในมือแม้ในใจจะเริ่มทวีความหงุดหงิดเมื่อมนุษย์ในห้องมิรีบเอ่ยเสียที
"คือว่าวันนี้สาวใช้ของกระหม่อมมาแจ้งว่าพบเห็นน้องเภาออกไปซุกซนภายนอกวังพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นกังวลและหวาดกลัวนักว่าน้องเภาจะเป็นอันตรายจึงได้มาทูลเสด็จพ่อ" นวรัตน์เอ่ยพลางแสดงสีหน้าทุกข์ใจในเรื่องนี้มิน้อย ยิ่งเห็นท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวดของบุรุษตรงหน้า ในใจของนวรัตน์ก็อดที่จะรู้สึกพอใจมิได้
"...คนใช้ของเจ้าที่ว่าชื่ออันใด" พญารามสูรเอ่ยถามข้อมูลเพิ่มเติมเนื่องด้วยยังมิเชื่อสนิทใจ
"นางชื่อละออพ่ะย่ะค่ะ" นวรัตน์ยังคงเอ่ยด้วยท่าทางที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์
"...ออกไปเสีย" พญารามสูรมีสีหน้าเยียบเย็นทันทีเมื่อได้ยินชื่อที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา
"ล แล้วเรื่องของน้องเภาล่ะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นห่วงน้องยิ่งนัก" นวรัตน์ยังพยายามเอ่ยเข้าเรื่องของน้องชายอย่างมิลดละ
"ข้าจะจัดการเอง เจ้าไปได้แล้วเสียเวลาทำงานทำการของข้า" พญารามสูรเอ่ยไล่อย่างมิสนใจใยดี ในใจนึกหงุดหงิดยิ่งนักกับท่าทางเสแสร้งของอีกฝ่ายที่เหมือนจะต้องการให้ตนลงโทษคนงามสถานหนัก ทั้งที่คนงามยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อปกป้องพี่ชายเช่นอีกฝ่าย ยอมเสี่ยงแม้กระทั่งการเข้าหาตนทั้งที่ยังมิไว้เนื้อเชื่อใจ แม้จะน่าน้อยใจ แต่พญายักษ์ก็เข้าใจและพยายามใช้เวลาที่ได้อยู่ร่วมกันนี้ทำให้คนงามเชื่อใจตนให้ได้
"เช่นนั้น กระหม่อมขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ" นวรัตน์เอ่ยมิเต็มเสียงด้วยสีหน้าทุกข์ใจ ราวกับว่าเป็นห่วงน้องชายในยามนี้ยิ่งนัก ทว่าพอหันหลังเตรียมเดินออกไป นวรัตน์กลับแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมา ในใจคิดว่าท่าทางเช่นนั้นมันคืออะไร เหตุใดพอได้ยินชื่อสาวใช้ของตนท่าทางของพญายักษ์จึงได้เปลี่ยนไปเช่นนั้น
TBC