ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
วันต่อมา ในที่สุดพญายักษ์ก็กลับมาถึงนครอัสดงทว่าก็เป็นเวลาดึกดื่นมืดค่ำทีเดียว
"ยามนี้พ่อลำเภาคงหลับไปแล้ว" พญารามสูรยืนอยู่หน้าห้องบรรทมของคนงามมาสักพักหนึ่งด้วยความคิดถึงและอยากจะเจอคนตัวเล็กหลังจากมิได้พบหน้ากันเป็นเวลานาน เสียดายที่ยามนี้มิใช่ช่วงเพลาที่เหมาะสม
พญารามสูรยืนชั่งใจตรงนั้นอยู่ครู่ใหญ่ พอจะหันไปทางห้องบรรทมของตนเอง ประตูห้องบรรทมของคนงามก็เปิดออกเสียก่อน
"กลับมาแล้วหรือ?" ลำเภาจันทร์มองพญายักษ์ตรงหน้า เขาพึ่งอ่านหนังสือเสร็จและกำลังเตรียมตัวจะเข้านอน แต่เจ้าภูตเงาในกระจกรายงานเขาว่าอีกฝ่ายมายืนรออยู่ที่หน้าห้องนอนของเขานานแล้ว
"สักพักใหญ่ๆ แล้ว เจ้าเล่ายังมิเข้านอนหรือ" พญารามสูรยิ้มบางทันทีที่ได้พบหน้าคนงาม แววตาที่เดิมเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้ายามนี้กลับมีแต่ความผ่อนคลายอยู่ในนั้น
"ข้ากำลังจะเข้านอน ท่านเองพึ่งกลับมาก็รีบไปพักผ่อนเถิด" ลำเภาจันทร์แอบเป็นห่วงอยู่ลึกๆ มิรู้ว่าการไปทำงานครั้งนี้พญายักษ์มีเวลาพักบ้างหรือเปล่า
"พี่ขอรางวัลได้หรือไม่" พญารามสูรยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นแวบหนึ่ง
"อะไร?" ลำเภาจันทร์เอียงคอทำหน้างง อีกฝ่ายเป็นถึงพญายักษ์ที่มีทุกอย่างในครอบครอง มาขอรางวัลจากเขา เขาจะสามารถให้อะไรได้
พญารามสูรแย้มยิ้มก่อนจะขยับใบหน้าคมคายเข้าไปใกล้ใบหน้างดงามแล้วประทับริมฝีปากหนาที่แก้มนุ่มเบาๆ ก่อนจะผละตัวออก "ฝันดีหนาพ่อลำเภา" หลังจากนั้นก็เดินดุ่มๆ เข้าห้องบรรทมของตัวเองไปด้วยใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คืนนี้ต้องเป็นคืนที่พญารามสูรนอนหลับฝันดีที่สุดเป็นแน่
"...." ลำเภาจันทร์จับแก้มของตัวเองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงไออุ่น ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นก่อนดวงตากลมโตจะเหลือบไปเห็นภูติเงาที่เขินจนตัวบิดเป็นเกลียวในกระจก "มองอะไร รีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
"พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย" ภูติเงาตัวน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊า
"...เดี๋ยวข้าจะบอกให้พญายักษ์ลงโทษเจ้า" ลำเภาจันทร์ขู่ภูติเงาในกระจก
"กระหม่อมไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไปแล้ว" ภูติเงาตัวน้อยรีบลอยหนีหายไปทันที
"...." ลำเภาจันทร์หน้าบึ้งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องบรรทมของตัวเอง
ช่วงกลางดึก ณ เขตทิศตะวันออก
"พี่เบญจ ถึงพวกเราจะนอนมิหลับก็เถอะ แต่ออกมาเดินเล่นแถวนี้มันดูน่ากลัวยังไงมิรู้ ข้าว่าเรากลับกันเถอะ" ทศรักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น พลางกอดแขนพี่ชายคนที่ ๕ เอาไว้แน่น
"ข้าว่ารีบกลับก็ดี ยามราตรีแถวนี้น่ากลัวยิ่งนัก" เบญจพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนหน้านี้ตนนอนมิหลับและนึกได้ว่าตอนกลางวันแถวนี้งามมากจึงคิดที่จะพาน้องชายคนที่ ๑๐ ออกมาเดินชมจันทร์ มิคิดว่าที่นี่ในยามค่ำคืนจะน่ากลัวเช่นนี้
ทั้งสองรีบพากันเดินกลับเรือนพักโดยมิรู้เลยว่าด้านหลังมีนางยักษ์ตนหนึ่งกำลังแอบซุ่มมองทั้งคู่อยู่มิไกล "ในเมื่อกูมิได้ในสิ่งที่กูต้องการ เช่นนั้นกูก็จะทำให้มึงมิสมหวังเช่นกัน ดูสิว่าหากไอ้เด็กมนุษย์ผู้นั้นรู้ว่าพี่ชายของมันตาย มันจะยังอยากอยู่ในเมืองนี้หรือไม่" ละออพึมพำกับตัวเองพร้อมแสยะยิ้มกว้าง สายตามุ่งร้ายมองตรงไปที่เด็กมนุษย์ทั้งคู่อย่างไม่ลดละ วันนี้นางวางแผนมาเป็นอย่างดี แม้จะผิดแผนตรงที่พญารามสูรกลับมาเร็วกว่าที่คิดไว้ ทว่าทหารยามที่เฝ้ารักษาวังในระหว่างที่อีกฝ่ายมิอยู่ก็โดนนางวางยาสลบไปหมดแล้ว ส่วนทหารที่พึ่งกลับมาถึงวังล้วนเหนื่อยล้าจากการเดินทางเป็นเวลานานดังนั้นมีหรือที่จะออกลาดตระเวนไหว
"พี่เบญจ ข้ารู้สึกเหมือนมีอะไรตามมาเลย" ทศรักษ์เอ่ยเสียงสั่น
"ต เตรียมวิ่ง เข้าใจหรือไม่" เบญจกระซิบบอกน้องชายคนที่ ๑๐ ด้วยน้ำเสียงสั่นกลัวมิแพ้กัน
"ข ขอรับ" ทศรักษ์พยักหน้าเบาๆ
"วิ่ง!" หลังเบญจเอ่ยจบ ทั้งคู่ก็รีบออกตัววิ่งไปทางเรือนพักทันทีด้วยความหวาดวิตก ยิ่งได้ยินเสียงวิ่งไล่ตามมาจากด้านหลัง ขนกายของทั้งสองคนก็ลุกพรึ่บจนต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น "มีใครอยู่แถวนี้หรือไม่!! ช่วยพวกเราด้วย!!!"
"ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยพวกเราที!!!" ทศรักษ์ร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนก ทว่าพอใกล้จะถึงเรือนพักร่างบางของพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกกระชากด้วยแรงที่ไม่น้อย "โอ๊ย!!! เจ็บ!"
"ปล่อยพวกเรานะ!!!" เบญจหันไปตะโกนใส่ด้วยความกลัว ก่อนจะตกใจจนตาค้างเมื่อเห็นผู้ที่กระชากร่างตนกับน้องชายเอาไว้ "ย ยักษ์!!!"
"หึ!! พวกมึงจะกลัวอันใด ตอนกูก้มหัวให้พวกมึงยังมีท่าทีจองหองอยู่เลยมิใช่หรือ" ละออเอ่ยเสียงโกรธแค้นก่อนจะง้างมือตบลงบนใบหน้าออกไปทางสวยของทั้งคู่เต็มแรง เพียะ! เพียะ!
"โอ๊ย!!! หน้าข้า! ฮึก! พี่ ข้าเจ็บ ฮึก" ทศรักษ์กุมแก้มข้างที่โดนตบไว้ด้วยมือสั่นเทา ดวงตาสวยปล่อยหยดน้ำตาไหลรินออกมาเมื่อรู้สึกปวดจนทนไม่ไหว
"ทศรักษ์!! อย่าแตะต้องเขา!" แม้เบญจจะเจ็บจนหน้าชาแต่ก็พยายามตะเกียกตะกายไปโอบกอดร่างของน้องชายเอาไว้ "ยักษ์เช่นเจ้ามาทำอันใดที่นี่!! กลับไปยังที่ของเจ้าเสีย!!!"
"หึ! พูดอันใดของเจ้าช่างน่าขันนัก เมืองแห่งนี้คือเมืองยักษ์ดินแดนของยักษา เป็นพวกเจ้าที่มาอาศัยอยู่แดนยักษ์อย่างสุขสบาย แต่กลับทำตัวจองหองใส่เจ้าของดินแดน ช่างน่าตายนัก" ละออเอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจเดียดฉันท์ ดวงตาอาฆาตมาดร้ายจ้องมองไปที่มนุษย์ทั้งสองด้วยความสะใจที่เห็นแววตาตื่นกลัวของพวกมัน "หึ ดีจริงๆ กูอยากลิ้มรสนักว่ารสชาติเนื้อมนุษย์จะเป็นเช่นไร"
"เจ้าคือสาวใช้ของเจ้า ๙!" เบญจชี้ไปที่นางยักษ์ ดวงหน้าที่ออกไปทางสวยเหยเกอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
"อีเด็กตอแหลนั่นน่ะหรือ มิต้องห่วง อีกมิกี่เพลากูก็จะลากมันมาฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วจับมันกลืนลงท้องอย่างเอร็ดอร่อยเช่นกัน" ละออมิคิดเสียเวลาฟังเสียงน่ารำคาญ หลังจากที่เอ่ยจบก็เข้ากระชากร่างของไอ้เด็กมนุษย์ที่ชี้หน้านางทันทีโดยหวังจะฉีกร่างนี้ออกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าไอ้เด็กมนุษย์ที่มันกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่บนพื้น
"พี่เบญจ!!" ทศรักษ์พยายามยันตัวลุกขึ้นเพื่อเข้าไปดึงตัวพี่ชายคนที่ ๕ "ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!! ฮึก! นางยักษ์อัปลักษณ์!! หากจะกินก็กินข้าก่อน!!"
"ไม่!! เจ้ารีบหนีไป!! ข้าจะถ่วงนางไว้ให้นานที่สุด!" เบญจผลักน้องชายคนที่ ๑๐ ให้ออกห่างจากตัวเมื่อเห็นนางยักษ์ด้านข้างง้างมือจะทำร้ายน้องชายอีกครั้ง
ฟิ้ววว!
"รักกันดี!! เช่นนั้นก็ตายไปพร้อมๆ กั-!!! ต ตาข้า!! ใครมันกล้าทำร้ายข้า!!!" ความเจ็บปวดที่อยู่ๆ ก็มีลูกศรปักเข้าตรงนัยน์ตา ทำให้ละออเผลอปล่อยมนุษย์ที่จับตัวไว้แล้วเอามือมากุมดวงตาของตัวเอง
"อย่าได้ริอ่านมาแตะต้องพี่น้องของข้า!! นางยักษ์ชั่ว!!"
TBC