ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
ชาย-ชาย,ไทย,ย้อนยุค,รัก,แฟนตาซี,อ่านสบายๆ,พีเรียดไทย,พระเอกเป็นยักษ์,นายเองเป็นนักฆ่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,นาย๑๒,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นาย๑๒ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง นักฆ่าผู้มีฉายาว่าดอกไม้งามไร้หัวใจ จะหลุดเข้าไปในวรรณคดีที่เพื่อนสาวเอามาให้อ่านได้ "ในเมื่อท่านเป็นยักษ์ ท่านก็ควรกลับเมืองยักษ์ของท่านไปเสีย" #พญารามสูร×ลำเภาจันทร์
เทาเภา นักฆ่าหนุ่มมากความสามารถที่อยู่ๆก็หลุดเข้าไปในวรรณคดีไทยเรื่องที่เพื่อนสาวแนะนำให้อ่าน
"เอาเช่นไรดีกับร่างของนาง" โททวีมองนางยักษ์ที่ร่างกายสะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผลและกำลังนอนสลบอยู่บนพื้น
"ข้าว่านำตัวนางไปแจ้งแก่เจ้าของวังดีหรือไม่ บางทีเขาอาจจะมีวิธีจัดการ" เอกาทศออกความเห็น
"ม มิได้ นางเอ่ยว่าที่นี่คือเมืองยักษ์ ไม่แน่ว่าทุกคนที่นี่อาจเป็นยักษ์ทั้งหมด" เบญจบอกเสียงเบาอย่างไม่หายหวาดกลัว ขณะเอ่ยก็เกาะแขนพี่ชายคนโตเอาไว้ไม่ปล่อย พอมองดูน้องชายคนที่ ๑๐ ก็มีอาการไม่ต่างกันนัก
"เช่นนั้นจับตัวนางแล้วหาที่ซ่อนนางดีกว่า หากยักษ์ตนอื่นรู้ว่าพวกเรารู้เรื่องเมืองยักษ์แล้วจะเกิดอันตรายใดขึ้นก็มิอาจทราบได้" เอกศึกลูบหัวปลอบโยนน้องชายคนที่ ๕ และ ๑๐
"ข้าเห็นด้วยกับความคิดนี้" โททวีพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชายคนโต
"เช่นนั้นเอานางไปไว้ในห้องเก็บธนูของข้า ที่นั่นปลอดภัยแน่นอน" สัตภัณฑ์กล่าวกับพี่น้องทุกคน
"ดี แล้วผู้ใดจะแบกนางไป" เอกาทศถาม หลังจากเอ่ยจบสายตาทุกคู่ก็มองตรงไปที่อัฐ
"เหตุใดต้องเป็นข้าด้วยเล่า!" อัฐโวยวายใส่พี่น้องทุกคนที่มองมา แค่ทำใจสู้กับนางยักษ์จนนางสลบหัวใจก็จะวายตายอยู่แล้ว
"เพราะเจ้ามีพละกำลังมากที่สุดในหมู่พวกเราอย่างไรเล่า เอาเถอะ ถึงจะเป็นนางยักษ์ แต่ขนาดตัวก็มิต่างจากสตรีวัยสาวทั่วไปนัก" เอกาทศเอ่ยโน้มน้าวพี่ชายคนที่ ๘
"...ก็ได้" อัฐเดินเข้าไปยกนางพาดไว้บนไหล่หนาด้วยสีหน้ามิค่อยเต็มใจ ก่อนจะรีบก้าวเดินไปยังจุดหมายในเรือนพักเพราะมิอยากจะแตะต้องตัวนางนานนัก หากเกิดนางฟื้นขึ้นมากลางคันจะทำเช่นไร
ต้องย้อนกลับไปก่อนที่ทุกคนจะออกมาช่วยเบญจและทศรักษ์ไว้ได้ทันท่วงที ตรีไตรหรือพี่ชายคนที่ ๓ สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกจึงบังเอิญเห็นผ่านกระจกหน้าต่างว่าทั้งคู่กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว เมื่อเห็นเช่นนั้นตรีไตรจึงรีบวิ่งไปปลุกพี่น้องทุกคน และพอพวกเขาได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายก็รีบแบ่งคนที่มีวิชาป้องกันตัวออกไปช่วยเหลือทั้งคู่ไว้ โชคดีที่มาได้ทันเพลาไม่อย่างนั้นทั้งเบญจและทศรักษ์อาจต้องเจ็บหนักจนถึงแก่ชีวิตแน่
พอเข้าไปในเรือนพัก ตรีไตรที่หลบอยู่หลังนวรัตน์ก็ตัวสั่นด้วยความกลัว จตุรงค์และฉะที่รออยู่ในเรือนก็เดินเข้าไปสำรวจผู้ที่น้องชายคนที่ ๘ แบกเข้ามาด้วยความสงสัย
"ยักษ์รึ!!" จตุรงค์อุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะยกมือป้อมๆ ขึ้นมาปิดปาก
"หน้าตานางคล้ายสาวใช้ของนวรัตน์นัก" ฉะจับคางวิเคราะห์ใบหน้าของผู้ที่ถูกจับตัว นอกจากเขี้ยวสองข้างที่เป็นเอกลักษณ์ของยักษ์ ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนเดิมมิมีผิด
"ข้ามิคิดเลยว่านางจะเป็นยักษ์" นวรัตน์ปิดปากตัวเองพร้อมมองอย่างมิอยากจะเชื่อสายตา
"เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกัน รีบนำตัวนางไปมัดไว้ที่ห้องเก็บธนูของเจ้า ๗ เสียก่อน เจ้า ๓ และเจ้า ๙ พวกเจ้าพาเจ้า ๕ กับเจ้า ๑๐ ไปทำแผล ส่วนเรื่องทางนี้พวกเราจะจัดการกันเอง" เอกศึกเอ่ยกับน้องๆ
"ข ขอรับ/ขอรับ" ตรีไตรและนวรัตน์พยักหน้ารับคำพี่ชายคนโต ก่อนจะรีบพาเบญจและทศรักษ์เข้าไปทำแผลในห้องนอนเพราะยามนี้แก้มของทั้งคู่ดูบวมแดงน่ากลัวมิน้อย
จากนั้นทุกคนที่เหลือจึงนำตัวนางยักษ์ไปมัดไว้ที่ห้องเก็บธนู
"ลองเค้นถามข้อมูลจากนางดีหรือไม่ บางทีสิ่งที่นางเอ่ยอาจมิใช่ความจริง" เอกาทศเสนอพี่ชายทุกคนที่อยู่ในห้อง
"ข้าว่าก็ดี เพราะเป็นไปได้ที่พวกเราอาจโดนหลอกเข้ามาด้วยเหตุผลบางอย่าง" โททวีเห็นพ้องกับเอกาทศ
ทุกคนในห้องเห็นด้วยเรื่องเค้นถามนาง ทว่าจะรอก็กลัวมิทันการณ์จึงต้องสาดน้ำใส่นางเพื่อให้ฟื้นคืนสติ
"ไอ้พวกมนุษย์ชั้นต่ำ!! ปล่อยข้าประเดี๋ยวนี้!!" ละออโวยวายทันทีหลังจากที่ได้สติคืนมา
"ปากดี แม้เป็นสตรีแต่เดี๋ยวจะโดนเตะปากจนพูดมิได้อีก" เอกาทศขู่ ดวงตาขวางมองไปที่นางอย่างกดดัน
"ใจเย็นก่อนเจ้า ๑๑" เอกศึกเเตะไหล่น้องชายคนที่ ๑๑ เบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับนาง โดยด้านหลังก็มีทั้งโททวีที่จับดาบไม้ไว้แน่นและเจ้าอัฐที่เตรียมสู้อยู่ตลอดเวลา “จริงรึที่ว่าที่นี่คือเมืองยักษ์”
“หึ ทำไมนึกกลัวขึ้นมาหรือไง อาศัยอยู่ในแดนยักษ์มาตั้งกี่ปี พวกเจ้าคิดจริงๆ หรือว่าพญายักษ์ตนนั้นจะมิคิดหวังผลประโยชน์ใดๆ จากการนำตัวพวกเจ้าพี่น้องมาเลี้ยงไว้ในวังยักษ์ หึ ช่างโง่เขลานัก” ละออยิ้มสะใจเมื่อเห็นสีหน้าแปรเปลี่ยนของมนุษย์ทั้งหมดในห้อง
“ผลประโยชน์ที่ว่าคืออันใด?!” โททวีหันปลายดาบไปทางนาง ใบหน้าหล่อเหลาเจ้าเล่ห์ขมวดคิ้วแน่นจนแทบติดกันเมื่อในหัวนึกไปถึงน้องชายคนเล็กที่ยามนี้อยู่ใกล้พญายักษ์ที่อีกฝ่ายพูดถึงมากที่สุด
“แล้วเหตุใดข้าต้องบอกมนุษย์ชั้นต่ำเช่นพวกเจ้าด้วย!” ละออแสยะยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของผู้ถาม
“เล่นลิ้นนักใช่ไหม” เอกาทศเดินเข้าไปต่อยหน้านางอย่างไม่ออมแรงจนฟันของนางหลุดออกมา “บอกมา!!!”
“เอกาทศ ใจเย็นๆ” ฉะเดินเข้าไปจับตัวน้องชายคนที่ ๑๑ เอาไว้ เมื่อเห็นท่าทีที่จะเข้าไปทำร้ายนางอีก
“จะให้ข้าใจเย็นได้เช่นไร! ยามนี้น้องเภาอยู่ใกล้ยักษ์ตนนั้นมาก! หากเขาคิดทำอันใดน้องชายข้า! ข้าจะทำเช่นไร!” เอกาทศโวยวายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าจะรีบไปหาน้องเภา”
“เดี๋ยวก่อน จะทำการบุ่มบ่ามมิได้ เจ้า ๑๒ อาจเกิดอันตรายขึ้นไปอีก “เอกศึกเอ่ยเตือนน้องชายคนที่ ๑๑ แล้วหันไปหานางยักษ์ที่ยามนี้มีสภาพไม่ดีนัก “บอกพวกข้ามาเสียว่าเขาผู้นั้นพาตัวพวกเราพี่น้องมาเลี้ยงไว้ในวังยักษ์ด้วยเหตุผลอันใด”
ละออจ้องมองอย่างเกลียดชังก่อนจะตอบ “ก็เอามาทำยาที่เรียกกันว่ายาอายุวัฒนะเช่นไรเล่า! พวกเจ้าพี่น้องที่เกิดมาพร้อมกัน ๑๒ คน เป็นวัตถุดิบชั้นดีทีเดียว” เอ่ยจบก็แสยะยิ้มกว้าง ดีเหมือนกัน แม้จะมิได้กินเนื้อเจ้าเด็กมนุษย์พวกนี้ แต่หากเจ้าเด็กนั่นรู้ว่าที่นี่เป็นเมืองยักษ์ต้องหนีไปจากยักษาตนนั้นแน่ แค่คิดนางก็รู้สึกสมน้ำหน้าพญายักษ์ตนนั้นแล้ว ใครใช้ให้เขามิเลือกนางเป็นพระมเหสี
ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้นเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากได้ข้อมูลพอสมควรพวกเขาจึงไปรวมตัวเพื่อหารือกัน
“ข้าจะไปตามน้องเภา” เอกาทศร้อนใจและเป็นห่วงน้องชายของตนจนอยู่ไม่สุข ในใจนึกอยากวิ่งไปหาน้องชายที่น่ารักของตนในบัดดลแต่ก็กังวลว่าจะทำให้พญายักษ์ตนนั้นรู้ตัว
“ข้าว่าไปหายามนี้ตอนที่ยังมืดอยู่ก็ดี หากเช้ามาอาจพูดคุยหรือหาวิธีหลบหนีกันได้ยาก” โททวีเอ่ย ในใจลึกๆ ก็แอบเป็นห่วงน้องชายคนเล็กมิต่างกันเพราะเจ้าตัวสนิทกับพญายักษ์ตนนั้นมากที่สุด หากรู้ว่าเขาคนนั้นคือยักษ์คงรู้สึกเสียใจมิน้อย
“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองไปหาเจ้า ๑๒ พวกเราจะคุยกันเรื่องแผนหลบหนีกันก่อน” เอกศึกสรุป
“ตกลง/ได้” โททวีและเอกาทศพยักหน้าก่อนจะรีบเดินออกไปแล้วตรงไปทางห้องนอนของน้องชายคนเล็กทันที
“ทีนี้มาพูดถึงการหลบหนีดีกว่า พวกเจ้ามีผู้ใดรู้บ้างหรือไม่ว่าตอนเข้ามาพวกเราเข้ามาเช่นใด” เอกศึกเอ่ยปากถามน้องทั้งสี่คนก่อนจะได้คำตอบเป็นการส่ายหน้าพร้อมกัน
TBC