คู่โชคชะตาของฉันคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉัน ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแก — ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม
แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์คู่โชคชะตาของฉันคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉัน ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแก — ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม
— ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม —
Genre : Fantasy • Sci-fi • NanoPunk • Action • Coming of age • Adventure
เนื้อหานิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
⚠️ Content Warning ⚠️
การทดลองมนุษย์ , ค้ามนุษย์ , ลักพาตัว , การฆ่าคน , Toxic Relationship , จิตใจที่แตกสลาย
(ถ้ามีอีกมากกว่านี้จะมาอัพเดตนะคะ แต่โดยส่วนมากจะระบุหัวข้อใหญ่ๆในตอนนั้นอยู่แล้วนะคะ อ่านตรงนั้นควบคู่ไปได้ค่ะ)
#อัพเดทคำเตือน : Feb 28 2023
เรื่องย่อ
ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม เด็กชายที่สูญเสียพ่อแม่ไปด้วยเหตุฆาตกรรมยกครัว เขาจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างดี ทั้งเสียงและท่าทางที่แสนไร้เยื่อใยนั้นมันติดอยู่ในหัวเขาไปตลอดกาล ริช ไม่ยอมให้คนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองลอยนวลแน่นอน เขาจะต้องตามหาแล้วมาล้างแค้นในสิ่งที่คนร้ายทำให้ได้
สวัสดีค่ะ ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ พึ่งเขียนแนวออริจินัลครั้งแรกเลย แถมเป็นแฟนตาซีซะด้วย!?! ถ้าชอบก็คอมเม้นกดเลิฟเรื่องนี้ได้นะคะ ขออนุญาตฝากแท็ก #ตราบนานชั่วนิรันดร์ #CodeHaeven ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ช่องทางการติดตามทั้งหมด
ริช ภวินท์ อาร์เจนตัมเดินไปกระแสของลมไป เขาได้สังเกตุมองรอบตัวคือบ้านที่มีหลายหลังไล่เรียงกันและรูปทรงก็ช่างเหลี่ยมคล้ายคลึงกัน ริชกลืนน้ำลายตัวเองแล้วมองรอบๆโดยที่เขาเองก็ยังเดินไปด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว
“แถวนี้มีคนอยู่ไหมนะ…”
คำถามเล็กน้อยที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ตั้งแต่เกิดมาริชไม่เคยเจอใครอื่นนอกจากพ่อแม่เขาเลย อาจจะมีก็ได้แต่ริชก็ใช่ว่าจะได้เจอคนพวกนั้น เด็กน้อยมองไปรอบๆอีกครั้งก็ไม่เจอใครเลยมีแต่บ้านที่รูปทรงคล้ายๆกันที่สำคัญ
มีบ้านเขาหลังเดียวที่ไม่เหมือนคนอื่น…
“ทำไมชั้น2 มีหน้าต่างหมดเลยนะ”
เด็กน้อยครุ่นคิด แต่ก็ยังเดินต่อไปทว่าร่างกายทว่าประสาทสัมผัสริชได้ยินเสียงผู้คนและสายลมก็เคลื่อนไหวพัดทิศทางให้เขา เด็กชายตามกระแสลมที่ว่านั้นไปจนในที่สุดเขาก็ได้มาถึงสวนขนาดใหญ่ที่มีของแปลกตาหลากสีสันมากมายสำหรับริช รวมไปถึงเด็กน้อยที่เหมือนเขา
“นั่นมีคนเหมือนเราด้วย!”
ริชวิ่งไปด้วยความตื่นเต้นตาลุกวาวสดใส ผู้ปกครองที่มานั่งเฝ้าเด็กได้เห็นเด็กชายตาสีสวยแปลกตาคนนี้ถึงมองเป็นตาเดียวกันด้วยความสงสัยพร้อมกับอยากรู้จักไปด้วย
“หนูมากับใครเหรอ?”
เสียงของลุงคนหนึ่งที่อายุวัยกลางคนได้ถามขึ้นมาหลังเห็นเด็กชายตัวน้อยหน้าตาน่ารักกับสีตาที่สวยแปลกตาทั้งสองสีคนละข้าฃแถมตัวเขายังเดินเท้าเปล่ามาด้วย ส่วนริชก็มองอีกฝ่ายที่คิดว่าเรียกตัวเองก็ได้หันไปมองตาแป๋วใส่ ยิ่งไปกว่านั้นคนตรงหน้ามีรูปร่างที่ผิวหนังเหี่ยวย่นลงมาหน่อย เด็กน้อยที่ไม่เคยเจออะไรแบบมานี้มาก่อน ย่อมมองโดยไม่ละสายตา
“เรียกผมเหรอครับ?”
ริชเดินไปใกล้ๆ เด็กน้อยที่เห็นก็เจอผู้ใหญ่ที่หลากหลายเหมือนในหนังสือนิทานที่เขาอ่านเลย มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นจนหุบยิ้มไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ริชจะได้คุยกับคนอื่นนอกจากพ่อแม่และพี่สาวในชุดขาวนาตาชา
“ใช่ หนูชื่ออะไรเหรอหน้าตาน่ารักจังเลย”
“ผมชื่อริชครับ อันนั้นเรียกว่าอะไรเหรอครับ?”
เด็กชายชี้ไปยังอันที่แปลกตาที่เขาเห็นตั้งแต่เดินมาถึงที่นี่ รูปทรงนั้นเหมือนรูและมีคนที่เหมือนตัวเองเข้าไปและโผล่มาอีกที่
“อ๋อ ที่นี่คือสนามเด็กเล่น ส่วนพวกนั้นคือเครื่องเล่นที่เด็กๆชอบเล่นกัน”
“เครื่องเล่นเด็กเหรอ?”
ริชเอียงคองุนงงของเล่นเด็กมันใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ
“ใช่ หนูพึ่งเคยมาเหรอ?”
“อื้ม! วันนี้ผมออกจากบ้านด้วยตัวเองแหล่ะ!”
นัยน์ตาของเด็กชายประกายตื่นเต้นและเขาก็มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรียกว่าเครื่องเล่น เขาไม่รู้จักพวกนี้เลย
“หนูมากับใครเหรอ ผู้ปกครองล่ะ?”
“ผู้ปกครองคืออะไรเหรอครับ?”
“ประมาณว่าพ่อแม่แบบนั้นน่ะ”
“อ๋อ พวกเขาอยู่บ้าน ผมออกมาคนเดียว”
ริชตอบเสียงใสและยิ้มให้คุณลุงตรงหน้า
“ลุงบอลครับ ผมขอเล่นต่ออีกหน่อยได้ไหม”
เสียงเด็กชายตัวเล็กที่เหมือนจะโตกว่าริชหน่อยได้วิ่งมาหาชายวัยกลางคนที่คุยกับริช เขาได้เจอเด็กชายที่มีนัยน์ตาสีเฮเซลนัทแกมเขียวข้างซ้ายและแกมฟ้าข้างฟ้าสวยประหลาด รวมไปถึงสีผมดำสนิทเงางามเหมือนดั่งหินเฮมาไทด์ เด็กชายที่เห็นเขาตาค้างไปความงามที่ไม่สามารถบรรยายได้
“นายเป็นใครเหรอ สีตาสวยมาก”
“ชื่อริชน่ะ”
“นี่หลานลุงเองนะริช เขาชื่อเจย์”
ลุงบอลพูดด้วยความเอ็นดูและแนะนำตัวหลานชายที่เป็นเด็กอัลฟ่าคนเดียวในหมู่บ้านนี้ให้ริชรู้จัก ด้วยความที่ลุงบอลเห็นตัวเด็กชายที่มีตาสองสีสวยกับใบหน้าที่น่ารักโดดเด่นราวกับตุ๊กตา ใครเห็นก็เป็นเอ็นดูที่สำคัญหลานชายที่ชื่อเจย์ไม่ใช่คนที่ทักหาใครก่อนด้วย เรียกได้ว่าเจย์ชอบเขาออกหน้าออกตาเลย
‘อยู่หมู่บ้านนี้มา13ปี พึ่งเคยเจอโอเมก้าสวยแบบนี้ครั้งแรก’
ชายวัยกลางคนมั่นใจมากๆว่าหนูน้อยคนนี้คือโอเมก้าแน่นอน คงจะดีไม่น้อยที่ให้เจย์ หลานชายเขารู้จักกันไว้ก่อน ทว่าก็มีเรื่องแว่บเข้ามาในหัวเขาจำได้ว่าเหมือนจะมีเรื่องของลูกบ้านหนึ่งที่มีลูกชายหน้าตาโดดเด่นเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นริชซึ่งลุงบอลแค่คิดไว้ก่อนเท่านั้น
“ชื่อเจย์เหรอ ชื่อเท่ห์จังเลย” ริชยิ้มให้
“ขอบคุณนะ”
เจ้าของชื่อถึงกับหน้าแดงเมื่อเจอรอยยิ้มของริช เจย์ไม่เคยเจอโอเมก้าที่สวยหวานราวกับตุ๊กตาแบบนี้เลยในชีวิต แม้ไปโรงเรียนเจอเพื่อนมากมายก็ไม่ได้น่าดึงดูดสายตาขนาดนี้
“คือว่านายเรียนที่ไหนเหรอ ฉันเรียนที่โรงเรียนอนุบาลตรีรัตน์น่ะ”
“โรงเรียนเหรอ ไม่ได้เรียนน่ะ”
“เจย์ ลุงว่าน้องริชน่าจะอายุไม่ถึงนะ”
ลุงบอลพูดแทรกและแทนตัวริชว่า ‘น้อง’ ให้หลานชายเขาเพราะดูจากส่วนสูงและการพูดที่ไม่ชัดเท่าไหร่นั้นคงอายุแค่2-3 ขวบ
“งั้นเหรอ ถ้างั้นอายุ 4ขวบเมื่อไหร่มาเรียนที่โรงเรียนเดียวกันนะ พี่เจย์จะดูแลให้”
“4 ขวบเหรอ?”
ริชทวนคำพูด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดอายุเหมือนกับเขาอายุน้อยกว่า เพราะว่าริชอายุ 4ขวบแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะ 5ขวบด้วย ที่สำคัญริชแอบงงงวยมากว่าโรงเรียนที่ว่าคืออะไร ด้วยความที่เขาก็ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน
“อื้ม” ริชตอบกลับเสียงสดใสไป “ถ้าอายุถึงริชจะไปเรียนนะ”
“ฉันจะรอนะ ว่าแต่นายไม่ใส่รองเท้าเหรอ?”
เจย์พูดไปพลางมองเท้าขาวที่เลอะดินทรายของริช
“รองเท้าเหรอ…”
ริชอยากถามอีกครั้งว่า ‘มันคืออะไร’ แต่ทำไมเหมือนเขาไม่ควรถามเลยทำได้แต่ส่งยิ้มหวานเหมือนทุกครั้ง
“ลืมน่ะ…”
“งั้นเหรอ ถ้างั้นพี่เจย์จะให้รองเท้าน้องริชนะ” เจย์ถอดรองเท้าตัวเอง “นั่งสิ เดี๋ยวพี่ใส่ให้นะ”
ริชก็มองตาแป๋วสงสัยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี เท้าขาวของริชได้ถูกมืออัลฟ่าจับซึ่งมันนุ่มนวลรับรู้ได้ถึงการดูแลมาอย่างดีของพ่อแม่ เจย์สารภาพจากใจว่าเขามีความรู้สึกดีๆให้
‘เท้าของริชนุ่มมาก ทำไมมาเดินเท้าเปล่าแบบนี้เนี่ย’
เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้ริชเจอแบบนี้ โอเมก้าที่แสนงดงามราวกับไม่มีอยู่จริงควรได้รับการเอาใส่ใจเหมือนดั่งแก้วที่ถะนุถนอม จากนั้นเขาก็เอารองเท้าใส่ให้ซึ่งมันพอดีกับริชพอดี
“ไหน เดินให้ดูหน่อย”
“เดินเหรอ?”
ถึงไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามที่เจย์ร้องขอมา ซึ่งภาพตอนเดินเพราะไม่ชินการใส่รองเท้าของริช ภวินท์ อาร์เจนตัมนั้นทำให้เจย์และลุงบอลมองด้วยความเอ็นดูให้ มันดูเลิกลั่กไปหมดเหมือนพึ่งเคยใส่ครั้งแรก
“ชอบไหมริช รองเท้านี้น่ะ” เจย์ถาม
“แต่นั่นรองเท้าที่พึ่งซื้อมาไม่ใช่เหรอเจย์”
ลุงบอลทักหลายตัวเองที่ตอนนี้เหมือนจะชอบเขาสุดๆ แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะว่าริชนั้นน่ารักมากจริงๆ ส่วนเจย์นั้นก็หัวเราะตัวเองเล็กน้อยเขาลืมไปเลยว่ารองเท้าคู่นี้พึ่งซื้อมาเอง
“ก็ซื้อใหม่ได้ครับ ผมรู้สึกว่าเขาใส่แล้วเข้ากว่าผมน่ะครับคุณลุง”
“แหม หลานฉันตัวแค่นี้ใจใหญ่เลยเหรอ”
“ก็เขาไม่ใส่รองเท้านี่นา ผมไม่อยากให้เท้าสวยๆนั่นเลอะหรอกครับ”
ไม่อยากจะเชื่อเลยในอนาคตหลายชายอัลฟ่าคนนี้คงชอบใครและเปย์หนักอย่างเห็นได้ชัด แค่ดูตรงนี้ก้รู้แล้ว คนเป็นลุงก็มองว่าที่คู่ครองในอนาคตอย่างนึกฝัน
ริช เป็นโอเมก้าตามเข้าใจของลุงเจย์ด้วยรูปลักษณ์และความงดงามทั้งใบหน้ากับดวงตาอย่างเห็นได้ชัดแบบนั้น เขาแปลกใจมากที่พ่อแม่ไม่ยอมให้ลูกตัวเองออกมาเล่นข้างนอกเลยดูจากเขาแล้ว เหมือนจะสนใจเครื่องเล่นสไลด์เดอร์นั่นพอตัว
ถ้าเขาเป็นคนเดียวกับคนในหมู่บ้านลือกันในช่วงที่มีเพื่อนบ้านใหม่ย้ายมาเรื่องลูกชายบ้านหลังหนึ่ง แถมเป็นครอบครัวที่แปลกมากเขารีโนเวทบ้านไม่ให้ชั้น2 มีหน้าต่างอะไร ดูเป็นบ้านที่ทึบไปหมดเหมือนไม่ต้องการให้ใครมาเห็นหรือเจอเลย ที่สำคัญไม่ยอมให้ลูกออกจากบ้านเพราะคิดว่าน่าจะหวงลูกตัวเองมาก และมีคนเคยเผลอเดินผ่านไปเจอก็พูดตามเหมือนรูปลักษณ์ของริชเป๊ะ
ดวงตาสองสีเฮเซลนัทฟ้าเขียวคนละข้าง
ผมสีดำแวววับสวยเหมือนดั่งหินเฮมาไทด์
ใบหน้าที่สวยงามได้รูป พวงสีตาทั้งสองสียิ่งทำให้เขาน่าดึงดูด
ผิวที่ขาวเนียนเหมือนผ้าไหมสีขาวสะอาด
และน่าจะเป็นโอเมก้า..
จากที่เห็นสภาพเด็กชายที่ชื่อริชคนนี้แล้ว…ก็พอเดาได้ว่าทำไมถึงหวงแต่มันก็ไม่ปกติอยู่ดีที่ทำบ้านผิดหลักหวงจุ้ยแบบนั้น
“เจย์ ฉันชอบรองเท้านี้จังเลย”
ริชเดินมาหาเจย์ ซึ่งลุงบอลก็มองด้วย
“เหรอ ดีจังเลยอยากได้ไหม?”
“ให้เหรอ?”
“ใช่”
“ไม่ดีกว่า ริชไม่เอาน่ะแค่ใส่ให้ก็ดีใจแล้ว”
“ถ้างั้นบ้านนายอยู่ไหนเหรอ เดี๋ยวจะซื้อรองเท้าใหม่ไปให้”
เจย์ยื่นข้อเสนอไปให้ริช ซึ่งเขาตกใจพอตัวเลย
“บ้านริชเหรอ”
“ใช่”
ทำไงดีริชจำบ้านตัวเองไม่ได้แถมวันนี้เขาแอบออกมาเองอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างแต่รู้สึกได้ว่าคงโกรธน่าดู พอคิดไปได้หน่อยหนึ่งท้องฟ้าได้สาดแสงสีส้มมา ดวงอาทิตย์ที่จะลาลับฟ้าไปเรื่อยๆ ภาพในฝันของเขาก็ได้ผุดขึ้นมา
ดวงอาทิตย์สีส้มที่ไหลน้ำออกมาราวกับร้องไห้ ท้องฟ้าและทุกอย่างเป็นสีส้มไปหมดไม่ว่าจะเป็นทะเลและผืนป่า เมืองรอบด้านที่มีแต่แสงสีส้ม…
ริช ภวินท์ อาร์เจนตัมคนนี้สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวแว่บขึ้นมาในใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาคิดว่าถ้าสิ่งตรงหน้าหายไปตัวเองจะไม่สามารถออกมาจากบ้านได้อีกแน่นอน
“คือว่าริชยังไม่อยากกลับน่ะ เจย์เล่นกับริชได้ไหม”
ริชออดอ้อนอีกฝ่าย เพราะเจย์ดูท่าทางเป็นมิตรต่อเขาเสียเหลือเกินทั้งใจดีที่จะซื้อรองเท้าที่เขาไม่รู้จักว่ามันคืออะไร แต่ด้วยท้องฟ้าใกล้เย็นแล้วจะให้เล่นต่อคงดึกถึงเจย์จะเสียดายแต่เขาต้องกลับบ้านแล้ว
“มันเย็นแล้วน่ะ เจย์ต้องกลับบ้านน่ะริช”
“เอ๋ เล่นด้วยกันไม่ได้เหรอ?”
“ริช วันนี้เย็นแล้วน่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเรามาเล่นด้วยกันนะ”
ลุงบอลบอกอีกฝ่ายที่ทำหน้าเสียดายอย่างชัดเจน แล้วเขาก็จะอุ้มหลานทว่าความรู้สึกกดดันน่าแปลกได้แทรกเข้ามาในหัวชายกลางคน ลุงบอลถึงกับเหงื่อตกแล้วเหมือนพะอืดพะอมไปด้วย
'อะไรน่ะ…ฮีทเหรอ?’
แค่การคาดเดาแต่คิดว่าไม่ใช่ เขาได้มองไปยังริชที่ยืนยิ้มร่าเริงพร้อมกับแสงตอนเย็นหันมากระทบพอดี สีนัยน์ตาเฮเซลนัทแกมฟ้าและเขียวคนละข้างได้ส่องประกายชัด ที่ตัดกับผิวขาวและผมสีดำเงาเหมือนดั่งหินเฮมาไทด์ มันช่างงดงามถึงอย่างนั้นลุงเจย์กลับรู้สึกกลัวอย่างไม่เข้าใจทั้งทีริชเป็นโอเมก้าแท้ๆ
รวมไปถึงเด็กๆที่อยู่ในสนามนี้หลายคนที่หยุดเล่นแล้วเดินมาหาริช แน่นอนว่าผู้ปกครองที่อยู่ที่นั่นก็มีสภาพความรู้สึกไม่ต่างจากลุงบอล กดดันและขนลุกราวกับมีอะไรบางอย่างคุกคามพวกเขา
'ฉันไม่ได้เป็นโอเมก้า…ทำไมถึง’
เพราะเขาเป็นแค่เบต้าที่มีน้องชายเป็นโอเมก้าและไปแต่งงานกับอัลฟ่าหนุ่มจนมีหลานชายเป็นอัลฟ่าคนเดียวชื่อ เจย์ และเขาอยู่หมู่บ้านนี้มา 13ปี ใครคนไหนเป็นอัลฟ่า เบต้าหรือโอเมก้าคือรู้หมด ยิ่งหมู่บ้านนี้มีครอบครัวคนเป็นอัลฟ่าเพียง 5ครอบครัวรวมถึงเขา และแรงกดดันที่แสนพะอืดพะอมนี้ ไม่มีอัลฟ่าคนไหนในหมู่บ้านนี้ทำได้เลย ทุกคนในสนามนี้ต่างเข้าใจในทันทีว่า
มันช่างแปลกจนรู้สึกขนลุก…
“ไม่เอาพรุ่งนี้ ฉันอยากเล่นวันนี้กับทุกคน…อุตส่าห์ได้ออกมาข้างนอกแล้วแท้ๆ”
คำพูดที่ออกมาจากปากเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่รู้สึกขวัญผวาจนกดดันนี้
“ทุกคนมาเล่นกับฉันไม่ได้เหรอ?”
เสียงเล็กๆของเด็กชายริช ภวินท์ อาร์เจนตัมทำให้ลุงบอลที่อุ้มหลานอยู่ได้ปล่อยลงมา เด็กชายเจย์ได้เดินไปหาริชที่ใบหน้าเขานิ่งและบรรยากาศรอบตัวที่กดดันนี้ไปหมด
“ได้สิ ฉันจะเล่นต่ออีกหน่อยนะ”
เจย์พูดออกไปแล้วจับมือริชไปเล่นที่สนามเด็กเล่นด้วยกัน ไม่สนใจลุงบอลที่เรียกเขาแต่อย่างใด แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่หลานเขาคนเดียว แต่เด็กคนอื่นที่มีท่าทีจะกลับบ้านก็ปล่อยมือผู้ปกครองมาเล่นกับเด็กชายที่มีตาสองสีสวยคนนี้ด้วยกัน
แม้อยากจะห้ามสักแค่ไหน แต่เมื่อทุกคนได้สบตากับริช ภวินท์ อาร์เจนตัมคนนี้แล้ว ต่างก็หยุดแล้วสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่ทราบสาเหตุนี้ได้ ซึ่งพวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไม
เหมือนทุกอย่างกำลังบอกว่าริช เป็นอัลฟ่าที่ไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยร่างกายที่ผอมบางและไร้เรี่ยวแรงแบบนั้น…
“ฉันเคยเห็นในหนังสือ เรื่องเกมซ่อนแอบล่ะ พวกนายเป็นคนซ่อน ส่วนฉันเป็นคนหานะ”
เด็กชายริช ภวินท์ อาร์เจนตัม เจ้าของนัยน์ตาเฮเซลนัทแกมฟ้าเขียวคนละข้างได้เอ่ยกับเด็กทุกคนในที่แห่งนี้ ซึ่งเด็กเหล่านั้นก็ได้ไปซ่อนตามที่เขาต้องการ
ริชยิ้มร่าเริงและสีตาของเขาก็หยุดเรืองแสงประกายวับ เมื่อเขาจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำเขาก็เอามือปิดตาตัวเองและนับถอยหลังเล่นเกมซ่อนแอบ ในตอนนี้ริชจะไม่ปล่อยช่วงเวลานี้ไปเด็ดขาด
ทว่าผู้ปกครองที่อยู่ที่นั่นหลายคนต่างตกใจและแปลกใจที่บางคนอยากเล่นต่อรวมไปถึงแรงกดดันบางอย่างที่พวกเขาสัมผัสได้ว่า ไม่ควรพูดอะไรออกไปในตอนนี้
'เด็กคนนี้มันอะไรกัน … ‘
ความรู้สึกของผู้ปกครองในหลายๆคนที่คิดเห็นไปในทางเดียวกัน เมื่อเห็นเด็ก
คนที่แปลกประหลาดที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร แถมให้พวกเขารู้สึกได้ถึงบางสิ่ง ถ้าหากต่อต้านแล้วจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา
ในวัยเด็กริชจะดูเหมือนโอเมก้ามากค่ะ แต่ที่จริงเขาเป็นอัลฟ่านะคะ5555 ตอนนี้มีคนโดนกับดัก