คู่โชคชะตาของฉันคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉัน ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแก — ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม

Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์ - ตอนที่ 3 : ดิสแมนเทิล (2) โดย myisodore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย

รายละเอียด

Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์ โดย myisodore  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

คู่โชคชะตาของฉันคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉัน ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแก — ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม

ผู้แต่ง

myisodore

เรื่องย่อ

คู่โชคชะตาของฉัน
คือคนที่ฆ่าครอบครัวของฉัน 

— ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม —



Genre : Fantasy • Sci-fi • NanoPunk • Action • Coming of age • Adventure




เนื้อหานิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 


⚠️ Content Warning ⚠️


การทดลองมนุษย์ , ค้ามนุษย์ , ลักพาตัว , การฆ่าคน , Toxic Relationship , จิตใจที่แตกสลาย


(ถ้ามีอีกมากกว่านี้จะมาอัพเดตนะคะ แต่โดยส่วนมากจะระบุหัวข้อใหญ่ๆในตอนนั้นอยู่แล้วนะคะ อ่านตรงนั้นควบคู่ไปได้ค่ะ)


#อัพเดทคำเตือน : Feb 28 2023




เรื่องย่อ


ริช ภวินท์ อาร์เจนตัม เด็กชายที่สูญเสียพ่อแม่ไปด้วยเหตุฆาตกรรมยกครัว เขาจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างดี ทั้งเสียงและท่าทางที่แสนไร้เยื่อใยนั้นมันติดอยู่ในหัวเขาไปตลอดกาล ริช ไม่ยอมให้คนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองลอยนวลแน่นอน เขาจะต้องตามหาแล้วมาล้างแค้นในสิ่งที่คนร้ายทำให้ได้




สวัสดีค่ะ ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ พึ่งเขียนแนวออริจินัลครั้งแรกเลย แถมเป็นแฟนตาซีซะด้วย!?! ถ้าชอบก็คอมเม้นกดเลิฟเรื่องนี้ได้นะคะ ขออนุญาตฝากแท็ก #ตราบนานชั่วนิรันดร์ #CodeHaeven ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ



ช่องทางการติดตามทั้งหมด

AllMyLink


สารบัญ

Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์-ตอนที่ 1 20ปีก่อน,Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์-ตอนที่ 2 เด็กชายประหลาด (1),Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์-ตอนที่ 2 เด็กชายประหลาด (2),Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์-ตอนที่ 3 : ดิสแมนเทิล (1),Code Heavn; ตราบนานชั่วนิรันดร์-ตอนที่ 3 : ดิสแมนเทิล (2)

เนื้อหา

ตอนที่ 3 : ดิสแมนเทิล (2)

ตอนที่ 3 : ดิสแมนเทิล (2)


หลังจากเหตุการณ์ที่ริช ภวินท์ อาร์เจนตัมได้แอบออกจากบ้านไปนั้นก็ผ่านมาได้ 3 วันแล้ว การใช้ชีวิตของเด็กน้อยก็คงดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพียงแต่ประตูหน้าบ้านที่เด็กชายเคยได้ออกไปนั้น กลับโดนล็อคและมีผ้าม่านปิดตลอดเวลา ราวกับไม่ต้องการให้ริชได้ออกไปอีกครั้งเลย

วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นคือฟลิกก์ อาร์เจนตัมผู้เป็นพ่อของริชได้ขอลางานระยะยาวโดยมีเหตุแจ้งที่ทำงานคือ ดูแลลูกชายจนกว่าจะจบอนุบาล ซึ่งเป็นสวัสดิการของคนที่ทำงานดิสแมนเทิลที่ให้ความสำคัญด้านนี้กับการเจริญเติบโตของบุตรหลาน เพราะหากผู้ใดเป็นบุตรของพวกดิสแมนเทิล ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดเป็นแบบไหน บุคคลากรเหล่านั้นย่อมสำคัญและไม่ควรมองข้าม

เพราะฉะนั้นฟลิกก์เลยลางานได้ ทำให้เขามีเวลาอยู่กับริชเยอะมากขึ้นตั้งแต่ที่ลูกชายตัวน้อยเขาได้แอบแม่หนีออกไปจากบ้าน

“ป่ะป๊า…ริชอยากไปเล่นสนามเด็กเล่นครับ”

เด็กชายตัวน้อยของเขาเดินมาหาแล้วมากอดขาพ่อตัวเอง ซึ่งคำขอพวกนี้มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยิน

“ไม่ได้”

“ริชสัญญาว่าริชจะไม่ดื้อเลยครับ”

“ไม่ได้ ไม่มีใครอยากเจอพวกเราหรอก”

“ทำไมเหรอ เพราะริชเป็นโอเมก้าเหรอ?”

“ใครบอกว่าลูกเป็นโอเมก้า”

“ก็เจย์น่ะ”

“เจย์เหรอ?”

“คนที่ป่ะป๊าทำเขาอ้วกแตกไง”

“อาเจียน…” ฟลิกก์แก้คำสุภาพให้ ซึ่งลูกชายของเขาก็ร้องอ๋อ

“ลูกไม่ได้เป็นโอเมก้านะริช”

วิไลลักษณ์ อาร์เจนตัมผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นหลังจากที่เตรียมอาหารเสร็จและยกเสริฟมาวางที่โต๊ะ กลิ่นอาหารที่เด็กน้อยชอบได้ลอยมาแตะจมูก ริชวิ่งถลาไปที่โต๊ะอาหารและตาวาวเมื่อได้เห็นของที่เขาชอบกิน

“แกงส้ม!!!” ริชพูดเสียงใสและมองแม่ตัวเองด้วยใบหน้าที่มีความสุข

“วันนี้แกงส้มเหรอ” ฟลิกก์เดินมาที่โต๊ะอาหารมองฮาหารที่ภรรยาทำให้

“ค่ะ วันนี้เห็นพริกแกงเหลือฉันเลยทำน่ะค่ะ”

“แม่ครับ ริชกินแกงส้มทุกวันได้ไหม?” 

“ก็อยากทำให้กินทุกวันอยู่นะ ถ้าริชเป็นเด็กดีไม่ออกไปไหน”

“ได้ครับแม่!”

การตะล่อมลูกชายนั้นก็เป็นงานที่คนเป็นแม่ถนัด ซึ่งริชนั้นต้องโดนล่อด้วยของกินที่ชอบถึงเขาจะทำตามที่พวกผู้ใหญ่อย่างพ่อแม่ร้องขอ

ตอนนี้ครอบครัวอาร์เจนตัมได้ใช้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยที่ริชนั้นไม่มีความคิดในเรื่องออกไปอีกเลย เพราะว่าได้กินของที่ชอบในอีกวัน และท้องฟ้าใกล้มืดคนเป็นพ่อแม่ก็อาบน้ำแต่งตัวให้ลูกชายอีกทั้งยังพาไปนอนด้วยกัน ทุกอย่างใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไร

“ป่ะป๊า…ริชไปข้างนอกไม่ได้เหรอ ริชเบื่ออยู่บ้านแล้ว”

ก่อนจะนอนเล่านิทานให้ฟังเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ริชที่ปกติไม่เคยจะพูดอะไรกลับได้ถามขึ้นมา

“ทำไมถึงอยากออกไปข้างนอกล่ะ?”

ฟลิกก์ถามลูกชายตัวเองที่สามวันมานี้ ลูกเขาแต่ก่อนไม่เคยพูดอะไรในทำนองนี้เลยแท้ๆ

“ก็…ริชชอบข้างนอก เหมือนที่ริชฝันเลย”

“ฝันว่าอะไรเหรอจ๊ะ?” วิไลลักษณ์ถาม

“ดวงอาทิตย์สีส้ม แสงสีส้ม…ทะเลสีส้ม ก่อนที่ท้องฟ้าจะไปนอนริชได้เห็นด้วยล่ะ ริชอยากเห็นอีก”

“ท้องฟ้าสีส้ม ลูกเห็นจนเบื่อแล้วไม่ใช่เหรอ?” คนเป็นแม่หยิบสมุดท้องฟ้าสีส้มให้เขา

“ไม่เหมือน…” ริชส่ายหน้า “มันสวยกว่านั้นมาก ริชได้สัมผัสแสงมันด้วยนะครับแม่”

“เลิกคิดได้แล้วริช ตอนนี้ลูกต้องนอนได้แล้วนะ” ฟลิกก์เริ่มทำเสียงดุ

“ไม่เอา ริชไม่ง่วง”

“ริชไม่ดื้อ..”

“ริชเป็นโอเมกัา ป่ะป๊าเลยห้ามไม่ให้ไปข้างนอกเหรอ?”

“ลูกไม่ได้เป็นโอเมก้า แต่ลูกเป็นอัลฟ่านะ”

“ริชไม่ได้เป็นอัลฟ่าสักหน่อย”

“เชื่อเด็กนั่นมากกว่าป๊าอีกเหรอ ฟังนะตัวน้อย…ลูกคืออัลฟ่าและลูกไม่เหมือนอัลฟ่าทั่วไป ลูกพิเศษกว่าเขา”

“ถ้าพิเศษแล้วทำไมริชไม่ไปข้างนอกล่ะ แล้วโรงเรียนคืออะไร”

“ลูกไม่จำเป็นต้องไปรู้จักของพวกนั้น”

“ทำไมเหรอ…เพราะริชเป็นโอเมก้าเหรอ?”

“ไม่เกี่ยวกันเลย นอนได้แล้วนะ”

“ไม่เอา…ริชนอนไม่หลับริชอยากไปข้างนอก”

“ไม่ได้ริช เลิกงอแงและนอนได้แล้วนะ”

“ทำไมถึงไม่ให้ริชออกไปเหรอ เพราะริชใช้พลังเหรอครับ?”

นับวันลูกชายของเขาเริ่มมีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ฟลิกก์ อาร์เจนตัมถอนหายใจเมื่อเห็นลูกชายยิงคำถามที่เจ้าตัวไม่ต้องการที่จะตอบให้กระจ่างเลยสักคำ เจ้าของเรือนผมสีทองได้เอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมนอนถึงอกและลูบหัวอันน้อยๆของเด็กชายที่จ้องตาโดยไม่กระพริบตา เหมือนเฝ้ารอคำตอบจากคนเป็นพ่อตรงหน้า

“นอนเถอะนะ พวกเราไม่เหมือนคนอื่นโดยเฉพาะลูก…”

“ทำไมเหรอครับ…”

“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว พรุ่งนี้ป๊าจะซื้อทรายวิทยาศาสตร์สีฟ้าให้ลูกนะ หลับได้แล้วนะริช”

“ครับ…”

“ห้ามถามนะ ไม่งั้นป๊าจะให้ลูกไปอยู่ห้องใต้บันได อยากได้แบบนั้นเหรอ?”

“ไม่เอา” เด็กชายตอบทันควันทันที

“ดีมาก นอนได้แล้วห้ามถามอะไรเกี่ยวกับข้างนอกอีก เข้าใจไหม?”

“ครับ…”

ริชเสียงอ่อยลงและทำหน้าผิดหวังเมื่อพ่อไม่ตอบเขาในสิ่งที่ได้ถามไปอีกทั้งยังคิดจะลงโทษอีก แต่ก่อนนั้นเด็กชายไม่ได้คิดอะไรเลยหากได้ทำในสิ่งที่ไม่เชื่อฟังพ่อกับแม่จะพาเขาไปขังที่ห้องใต้บันได ทว่า…เมื่อได้ก้าวเท้าออกไปยังประตูนั้นริช ภวินท์ อาร์เจนตัมไม่ลืมทุกช่วงเวลาที่เขาสัมผัสแม้แต่วินาทีเดียว ทั้งสายลม แสงแดด พื้นดินและผู้คน ความกลัวที่จะถูกลงโทษนั้นได้มลายหายไป

ราวกับว่าชีวิตนี้จะน่าเสียดายถ้าเขาไม่ได้เห็นมันอีก…

เด็กชายหลับตาลงและนอนตามที่พ่อแม่บอก เมื่อฟลิกก์กับวิไลลักษณ์เห็นว่านอนหลับสนิทพวกเขาก็ออกไปข้างนอกด้วยกัน และเสียงเดินก็ได้หายไปจนริชได้ลืมตาขึ้นมาเด็กน้อยลงจากที่นอนพร้อมกับเปิดประตูแต่มันก็ล็อคจากด้านนอก

“แย่จัง ลืมไปว่าล็อคจากข้างนอก”

เสียงเล็กพ่นออกมาด้วยความผิดหวัง ก่อนที่ทิ้งตัวลงที่นอนอีกรอบด้วยความเศร้าเสียใจพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยเฮเซลนัทคนละสีฟ้าเขียวของเขา ใบหน้าของเด็กน้อยซุกลงกับหมอนให้ผ้าปลอกหมอนสีสันสดใสซึมซับน้ำตาและเสียงร้องที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยิน เสียงสะอื้นแห่งความเศร้าโศกที่พยายามกลั้นมันไว้ในใต้หมอนนั้นได้เปรอะเปื้อนทุกข์ระทมที่ฝั่งใจเขาไปชั่วชีวิตนี้

อยากไปข้างนอก…อยากเห็นอีกครั้ง…

แสงแดด สายลม ผืนดิน และผู้คน…

ริชอยากเจออีกครั้ง ครั้งเดียวก็ยังดี….

“..ร.. ริช”

เสียงแหบแห้งเรียกชื่อเด็กน้อยออกมาข้างๆเตียง เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเจอหญิงสาวคนเดิมที่ตัวเย็นและอยู่ในชุดขาวเหมือนทุกครั้ง

“พี่นาตา…ชา ฮึก”

“เสีย..จ..ใจเหรอ”

“ผมอยากไปข้างนอก ฮึก ฮือ…ป่ะป๊าไม่รักผม”

“เดี๋ยวก็..ด..ได้ไป..ล..แล้วนะ”

“ตอนไหนเเหรอ พรุ่งนี้เหรอครับหรือ..วันพุธสีเขียว?”

นาตาชาไม่ตอบเด็กชาย มือของเธอก็ค่อยๆยกแขนจากนั้นเสียงประตูได้ปลดล็อคออกมา

“พี่นาตาชาเดี๋ยวป่ะป๊าจะว่าเอา”

ริชเองก็ไม่อยากให้พ่อดุตัวเองมากนัก เด็กน้อยมองหญิงสาวที่หน้าเลอะคราบน้ำตา ทว่าเธอก็สลายหายไปโดยไม่คิดจะบอกอะไร ริชก็ไม่มีความคิดที่จะออกไปจากห้องนี้แม้จะประตูจะปลดล็อคแล้วก็ตามแต่นัยน์ตาคู่สวยของเด็กน้อยก็ประกายอย่างคาดหวังบางอย่าง ถึงจะพูดแบบนั้นริชก็ยังคงเอาหน้าซุกหมอนต่อไป เพราะต่อให้เปิดได้มันก็ใช่ว่าจะได้อย่างที่ใจหวัง



ในอีกด้านหนึ่งของฟลิกก์ อาร์เจนตัมที่ลงจากชั้น2ของบ้านมาข้างล่างพร้อมกับวิไลลักษณ์ภรรยาของเขา ตอนนี้ชายหนุ่มสูงใหญ่ได้มาที่ห้องเด็กเล่นมุมในสุดของบ้าน หญิงสาวมองหลังสามีแล้วขมวดคิ้วเธอเห็นฟลิกก์รื้อของเล่นมากมายที่เก็บไว้อย่างเรียบร้อยในที่ของมันออกมารวมไปถึงสมุดนิทานด้วยเช่นกัน ทุกอย่างนั้นได้มาก่ายกองที่พื้นเป็นจุดเดียว

“เอาออกมาทำไมคะ” วิไลลักษณ์ถาม

“ฉันกำลังดูว่าอันไหนที่ทำให้ริชตั้งคำถามกับมัน ฉันจะเอาไปทิ้งให้หมด”

“ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ แค่ไม่ต้องออกไปก็พอแล้วนี่”

“ไม่ วินนี่…” ฟลิกก์เรียกชื่อเล่นเธอ “ตอนนี้ริชได้ออกไปข้างนอกแล้ว สักวันหนึ่งเขาจะตั้งคำถามมากมายโดยที่เราไม่สามารถห้ามหรือรั้งอะไรได้ เด็กนั่นต้องหลบซ่อนให้นานที่สุดจนกว่ามันจะโตอายุได้ 10ปี”

“ให้ตายสิ คิดมากเกินไปแล้วนะคะ”

“เธอไม่รู้อะไร!” 

ฟลิกก์ขึ้นเสียงแล้วเอาตัวมาชิดใกล้มากพอที่ลมหายใจของเขาได้ปล่อยออกมาจนวิไลลักษณ์สัมผัสได้ แถมยังปล่อยรังสีอัลฟ่าชาติกำเนิดประทุให้วิไลลักษณ์ที่เป็นโอเมก้าแต่กำเนิดไร้การต่อต้านจากภายใต้จิตสำนึกของเธอ

“ริชในตอนนี้ได้ออกไปข้างนอกแล้ว ไม่งั้นฉันจะมาอยู่ในที่ไกลๆแบบนี้ทำไม”

“ค่ะ..”

“อะไรที่ทำให้เขาคิดและสงสัย เราต้องทิ้งให้หมด หนังสือนี่ก็ด้วยคุณพ่อโอเมก้าและอัลฟ่า….” ฟลิกก์ยื่นหนังสือภาพให้วิไลลักษณ์ดู “ริชอ่านมันยัง”

“ยังค่ะ ริชบอกว่าหน้าปกไม่สวยเลยไม่อ่าน”

“เอาไปทิ้ง”

ฟลิกก์โยนมันใส่ภรรยาตัวเอง ซึ่งเธอก็เอาแขนมาป้องกันพอดีทำให้หนังสือภาพขอบแข็งก็หล่นพื้น มือบางก็หยิบขึ้นมา

“นี่ด้วย นี่ก็ด้วย” 

หนุ่มผมทองทำแบบนี้ไปเรื่อยๆซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นของที่ฟลิกก์ซื้อมาด้วยตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นของเล่นและหนังสือนิทานที่เขาโยนมาล้วนเป็นแต่ของที่ระบุเกี่ยวกับอัลฟ่า เบต้าและโอเมก้า วิไลลักษณ์รู้ว่าพวกเขาทั้งสองไม่ควรให้ลูกชายรู้จักพวกนี้ แม้จะเคยอ่านผ่านตาแต่ริชไม่เคยถามอะไร

ทำให้เด็กชายไม่รู้ว่าอัลฟ่า เบต้า โอเมก้าคืออ่ะไร

ระหว่างที่ฟลิกก์กำลังหาของไปทิ้งเสียงออดบ้านดังขึ้นสองสามีภรรยาอาร์เจนตัมได้ยินก็หันไปตามเสียง

“คุณคะ มีคนมากดกริ่งบ้าน..”

“....”

“คุณฟลิกก์…”

วิไลลักษณ์เรียกสามีตน ซึ่งนัยน์ตาสีมรกตชายหนุ่มได้ส่องประกายเหมือนเตรียมพร้อมสู้้อย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าหญิงสาวเองก็ไม่ต่างกัน

“เอาริชลงมาแล้วรีบหนีไป ฉันจะถ่วงเวลาเอง”

“เราจะหนีไปไหนคะ?”

“ไปรอที่หน้าหมู่บ้านให้เร็วที่สุด ฉันเตรียมที่หนีไว้..ทีแรกจะไปอาทิตย์หน้า”

เขาเปิดนาฬิกาข้อมือปลดล็อครหัสผ่าน จอสีฟ้าได้แสดงขึ้นมาตรงหน้าและสั่งให้ยานพนะสำหรับครอบครัวเตรียมจอดที่หน้าหมู่บ้านโดยใช้ระบบซ่อนตัวจากสัญญาณ

“คุณคะ แล้วคนที่มาเป็นพวกนั้นเหรอ”

“ไม่รู้” ฟลิกก์ปิดนาฬิกาและเขาก็เอาอาวุธออกมาจากเข็มขัดรูปนกยูงตรงเสื้ออกก่อนที่มันจะต่อตัวรูปร่างเป็นดาบ “ฉันสัมผัสอะไรไม่ได้ พาลูกหนีไปก่อนเดี๋ยวฉันตามไป”

พอพูดเสร็จภรรยาก็จะขึ้นชั้น 2 เพื่อไปหาลูกชายตัวเองทว่าทั้งสองคู่รักนั้นก็หยุดชะงักเมื่อเห็นลูกชายมายืนรออยู่ที่พักใต้บันได

“ป่ะป๊า แม่ครับทำไมตาประกายล่ะ ไหนบอกว่าจะไม่ใช้พลังไง”

เสียงลูกชายของบ้านเอ่ยขึ้น ริชก็เห็นพ่อเขาถือดาบและดวงตาก็ส่องประกายวับทั้งพ่อแม่ตรงหน้า

“ริช หนูออกมาได้ไง?” วิไลลักษณ์ถามเพราะมั่นใจว่าประตูห้องนอนลูกเธอล็อคอย่างดี

“ก็…ริชนอนไม่หลับ..มันเสียงดังครับ” 

ริชสะดุ้งเขากลัวพ่อแม่ดุเขามาก ที่ออกมาจากห้องเพราะได้ยินเสียงกริ่งบ้านดังไม่หยุด ฟลิกก์ส่งสายตาให้ภรรยาตัวเองเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้หนีไปตอนนี้ ซึ่งเธอก็รับรู้มันได้ดีและยังไม่ทันได้คว้าลูกชายไป ประตูไปจนถึงห้องครัวได้มีการประทุพังทลายทันทีเป็นระนาบเดียวกัน

“แม่มเอ๊ย!”

ฟลิกก์สบถหลังจากที่บ้านเขาโดนทำลายถึงจะเป็นครึ่งหนึ่งแต่ไม่คิดว่าจะเล่นรุนแรงทีแรกแบบนี้ วิไลลักษณ์รีบคว้าลูกชายที่ตกใจขาอ่อนและร้องไห้โฮ

“ขวัญเอ๋ยขวัญมานะริช ไม่เป็นไรนะแม่อยู่นี่แล้ว”

“ฮือ แง”

ริชเอาหน้าซุกอกกอดแม่ตัวเองแน่นเด็กชายตอนนี้กลัวจับใจมากมาย ฟลิกก์ที่กำลังตามหาคนทำลายบ้านตัวเองพร้อมกับสร้างทางให้ลูกกับภรรยาไปได้อย่างไม่โดนอะไรบนฟ้า เพราะเขารู้ว่าพลังของวิไลลักษณ์คือทำให้ทุกอย่างลอยได้รวมถึงตัวเองบินได้ด้วยเช่นกัน

“บินหนีไปไม่ได้หรอกนะ ครอบครัวอาร์เจนตัม”

เสียงที่เพียงแค่พูดทั่วไปแต่สร้างแรงกดดันจนทุกอย่างหยุดนิ่งเหมือนเวลาไม่เดินไปไหน ทุกสายตาจ้องไปทางเดียวกันก็ได้พบกับชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินที่ตัดกับแสงจันทร์สีขาวในยามราตรี นัยน์ตาสีแดงสวยดั่งหินโรโดไนต์ ใบหน้าที่เหมาะกับทรงผมยาวตรงถึงคางของเขา

ริช ภวินท์ อาร์เจนตัมที่กอดแม่อยู่นั้นก็เปรยตามองไปยังชายหนุ่มผมเงิน ที่ดึงดูดสายตาไม่ให้ละไปไหนได้ตรงนั้น

“นั่นใครน่ะ…” ริชพูดขึ้น

“พวกคนไม่ดีน่ะ” ฟลิกก์พูดทันที

“แย่จัง โดนบอกว่าเป็นคนไม่ดีเหรอ?”

ชายหนุ่มผมเงินพูดแล้วมองไปยังเป้าหมายของเขา เด็กชายที่อยู่ในอ้อมอกแม่เมื่อรู้ว่าโดนสบตาเขาก็หันไปทางอื่นทันที ริชไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่สามารถห้ามหัวใจให้หยุดเต้นได้ในตอนนี้มีหลากหลายความรู้สึกเสียเหลือเกิน ความกลัว ระแวงและไม่ปลอดภัยรวมไปถึงความอยากรู้อยากเห็นกับบุคคลแปลกหน้าตรงนั้น

“แกเป็นใคร ฉันจำได้ว่าเราไม่เคยเจอกันนะ” 

ฟลิกก์เอาดาบจอหน้าที่ตวัดก็จะโดนคอทันทีแต่ไม่ได้

สร้างความกลัวให้เขาแต่อย่างใด ในทางกลับกันมันสร้างรอยยิ้มเยาะให้อย่างเดียดฉันท์

มาลิก โฮเนอร์ ดิสแมนเทิลจากองค์กรฟลอซ่าดิโอ” 


To be continued 

ช่วงวันแม่ เราไปเที่ยวทะเลมาค่ะเลยไม่ได้แต่งเลยนะคะ ทีแรกจะตั้งใจอัพเมื่อวันจันทร์แต่เพิ่งนึกได้ว่าหลานมันหยุดเพราะมันชดเชยนะคะ เอาล่ะไปเที่ยวฉ่ำเลย