สุดารัตน์ สาวออฟฟิศที่ถูกเลิกจ้าง ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดเธอได้เจอกับเพื่อนเก่าอย่างธีรกรเจอหน้ากันครั้งเเรกก็ไม่ชอบกันเเล้วมาดูกันว่าสองคนนี้จะลงเอยกันแบบไหน
ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
ชาย-หญิง,ไทย,รัก,ยัยเพื่อนเก่า,ธีรกร,สุดารัตน์,เพื่อนเก่า,บ้านไร่,เพื่อน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“นี่ใกล้จะถึงหรือยังฉันปวดขาเเล้วนะ”
“ใกล้ถึงเเล้วคุณนั้นไงบ้านเจ้านายผม”
เขาชี้นิ้วให้สุดารัตน์ดูว่าบ้านหลังนั้นบ้านเจ้านายเขาสุดารัตน์มองดูตามที่เขาบอกก็เห็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังเล็กๆเเละมีต้นมะขามอยู่ข้างบ้านเเละสวนมะม่วงก็อยู่ใกล้ๆกับบ้านสวน
“เฮ้ย!”
“จะมาอะไรตอนนี้วะเนี่ย”
ที่เขาไม่อยากให้น้ำขิงมาตอนนี้เพราะว่าเขากลัวว่าที่เขาโกหกยัยดาจะรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนงานในไร่เเต่เป็นเจ้าของไร่ต่างหาก
“นายตกใจอะไร”
สุดารัตน์ถามขึ้นอย่างสงสัยว่าธีรกรตกใจอะไร
“เปล่า”
“พี่กรของน้ำขิงไปไหนมาค่ะ น้ำขิงรอพี่กรตั้งนาน”
น้ำขิงกอดเเขนธีรกรเเละยิ้มหวานให้ธีรกร
“นี่ใครคะพี่กร”
น้ำขิงถามธีรกรเสียงเข้มเเละปรายตามองสุดารัตน์
“เพื่อนพี่”
“จริงเหรอค่ะพี่กรเเล้วนี่ลูกใครคะ”
เมื่อเธอได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนพี่กรเธอก็สบายใจเเละดีใจจนยิ้มออกมามันไม่ใช่อย่างที่ไอ้ฟิวว่าเลยเเต่ทำไมเพื่อนคนนี้เธอถึงไม่เคยเห็นเเละไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่กรมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนเเต่ถ้าคิดจะมาจีบพี่กรของเธอละก็เธอไม่ยอมเเน่ถึงจะเป็นเพื่อนกับพี่กรก็เถอะงานนี้ใครดีใครได้เธอ
“ลูกฉันมีไร”
สุดารัตน์ตอบกลับเสียงเข้มเเละปรายตามองน้ำขิงกลับอย่างที่เธอทำเมื้อกี้ส่วนอัคนีเเละลูกน้องยืนดูทั้งสามคนคุยกัน
สุดารัตน์เอื้อมมือไปรับน้องก้องมาอุ้มไว้
“เพื่อนคุณกรสวยจังพี่ทำไมผมไม่เคยเห็นเลย”
โดมเอ่ยขึ้น
“กูก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันวะ”
อัคนีตอบโดมเขาอยู่ที่ไร่นี้มาหลายปีเขาก็ไม่เคยเห็นเพื่อนผู้หญิงคนนี้ของเจ้านายเลย
“เเล้วไหนละเจ้านายของนายอยู่ไหน”
“ก็นั้นไงยืนอยู่ข้างหลังคุณไง”
สุดารัตน์หันไปด้านหลังก็เห็นผู้ชายสามคนยืนอยู่ตรงนั้นน้ำขิงขมวดคิ้วมุ่นพี่กรเป็นเจ้าไร่ไม่ใช่เหรอ
“แล้วคนไหนละ”
“ฟิวโดมพาคุณดาไปเก็บข้าวโพดที่ไร่นะ”
ธีรกรไม่ตอบเเต่พูดขึ้นมาเสียงดังอัคนีเเละลูกน้องกำลังเดินไปหาเจ้านายเเต่ธีรกรพูดขึ้นมาก่อนว่าให้ฟิวกับโดมพาสุดารัตน์ไปเก็บข้าวโพดที่ไร่
“ครับตามผมมาครับคุณดา”
ฟิวพูดกับเจ้านายเเละหันไปบอกหญิงสาวที่เป็นเพื่อนกับเจ้านายเขา
เเล้วสุดารัตน์ก็เดินตามฟิวกับโดมไปที่รถพ่วงข้างสุดารัตน์ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถพว่งข้างเธอนั่งข้างๆโดมโดยฟิวเป็นคนขี่รถออกไปไร่ข้าวโพดทันที
“พี่เป็นเพื่อนกับเจ้านายผมนานรึยังครับพวกผมไม่เคยเห็นพี่เลย”
โดมถามสุดารัตน์อย่างสงสัยสุดารัตน์ขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัยใครกันเเน่ที่เป็นเจ้าของไร่เเต่ที่นายนี่ถามเธอมันดูหมายถึงนายกรนิเธอไม่เเน่ใจเลยลองถามดูว่า
“เจ้านายพวกเธอเป็นใครฉันยังไม่รู้เลย”
“ก็ที่มากับพี่ไงครับ”
“ออ”
'นี่นายโกหกฉันหรอกนายกรฉันจะเอาคืนนายเเน่ที่บังอาจมาโกหกฉันว่าตัวเองเป็นเเค่คนงานในไร่'
“เป็นเพื่อนกันตั้งเเต่เด็กนะเเต่พี่ไปทำงานที่กรุงเทพเลยไม่ได้เจอกันหลายปี”
ในเมื่อนายกรบอกน้ำขิงว่าเธอเป็นเพื่อนเธอก็จะเป็นให้
“น้องสองคนชื่ออะไรกันเหรอ”
สุดารัตน์ถามชายหนุ่มทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม
“ผมชื่อโดมครับส่วนคนที่ขี่รถอยู่ชื่อฟิวครับ”
“พี่ชื่อสุดารัตน์เรียกดาเฉยๆ ก็ได้ส่วนลูกพี่ชื่อน้องก้อง”
สุดารัตน์เเนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเเละเธอก็เเนะนำหลานชายให้น้องฟิวน้องโดมรู้จัก
ทางด้านธีรกรตอนนี้น้ำขิงก็พาเขาไปนั่งทานข้าวที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นมะขามหลังจากที่ฟิวกับโดมพาสุดารัตน์ไปที่ไร่ข้าวโพดเเล้ว
น้ำขิงควงเเขนเขาพาไปกินเข้าที่โต๊ะม้าหินอ่อนเหมือนทุกวันเเละเขาก็สั่งให้อัคนีบอกพวกคนงานให้พากันไปเก็บชมพู่ได้เลย
“มาค่ะพี่กรเดี๋ยวน้ำขิงป้อน”
น้ำขิงเอาปินโตออกมาวางไว้ที่โต๊ะวันนี้เธอตั้งใจทำอาหารมาให้พี่กรเป็นพิเศษเพราะพ่อเธอจับได้ปลานิลตัวใหญ่ วันนี้เธอทำต้มยำปลานิลกับปลานิลหนึ่งซีอิ๊วมาให้พี่กร
“ไม่เป็นไรครับพี่กินเองได้น้ำขิงไม่ต้องป้อนพี่หรอก”
เขาตักต้มยำปลานิลใส่จานเเละตักเข้าปากคำโตเพราะตอนนี้เขาหิวข้าวมากตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายโมงตรงเเล้ว
“เเต่น้ำขิงอยากป้อนพี่นิค่ะ”
เธอพูดเสียงหวาน
“แค่น้องน้ำขิงทำอาหารมาให้พี่กินทุกวันพี่ก็เกรงใจจะเเย่เเล้วครับ”
“ไม่ต้องเกรงเลยค่ะขิงเต็มใจทำมาให้พี่กรกินทุกวันเลยค่ะ”
น้ำขิงเเละธีรกรมองดูคนที่ขี่รถเข้าจอดที่โต๊ะ
“พี่กรเห็นพี่ดาไหมครับ”
“อยู่ที่ไร่ข้าวโพด”
พอทิวาธรรู้ว่าพี่สาวเขาอยู่ที่ไหนก็ขี่รถออกไปด้วยความเร็ว
ไร่ข้าวโพด
14:00
“ทั้งหมดเท่าไรจ๊ะ”
“280 บาทครับ”
“ทำไมถูกจังตั้งสอบหนึ่งเลยนะ”
เธอถามขึ้นอย่างสงสัยตั้งสอบหนึ่งเลยนะเธอคิดว่าราคาประมาณสี่ร้อยกว่าบาทที่ไหนได้ถูกมาก
“ข้าวโพดกิโลละแปดบาทครับ”
ธีรกรขายข้าวโพดกิโลกรัมละแปดบาทเวลาคนมาซื้อก็จะมาซื้อเป็นสอบไม่ก็ซื้อเป็นถุงหูหิ้วขนาดใหญ่บ้างคนก็รับซื้อไปขายที่ตลาดหลายคนเเละเขาก็ส่งให้โรงงานอีกด้วย
“ฟิวกับโดมเอาไปส่งที่บ้านพี่ได้ไหมจ๊ะ”
เธอคิดว่ารถบิ๊กไบค์ของเธอคงเอากลับไม่ได้เเน่
“พี่ไม่ให้ไปส่งฟรีหรอก
พี่จ้างเราคนละคนยี่สิบโอเคไหม”
“พวกผมไม่เอาเงินหรอกครับ บ้านพี่อยู่ไหนครับ”
“บ้านป้าจิตรตาพวกนายรู้จักไหม”
“รู้จักครับ”
“พี่ดา”
ทิวาธรขี่รถเข้ามาจอดข้างไร่ข้าวโพดที่สามารถมองเห็นพี่สาวเขาเเละตะโกนเรียกพี่สาวเสียงดัง
“พี่ไปก่อนนะน้องพี่เรียกเเล้ว”
พูดจบก็เดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ทิวากรก็ขี่รถกลับบ้านทันที
“ไอ้โดมพี่ดาเป็นพี่ไอ้วาใช่ไหมวะ”
ฟิวเอ่ยถามเพื่อน
“กูว่าใช่วะ”
เขาว่าพี่ดาเป็นลูกของป้าจิตตราเเละยังเป็นพี่ของไอ้วาอีกด้วย จากที่พี่ดาให้ไปส่งข้าวที่บ้านเเละไอ้วายังขี่รถมารับอีก
บ้าน
15:00
“วารู้จักนายกรไหม”
“รู้จักสิพี่บ้านพี่กรอยู่ใกล้เรานี่เองพี่ก็เคยไปนิ”
“ห๊ะ!ฉันไม่เคยไปฉันไปแต่บ้านน้องกาย”
สุดารัตน์ร้องออกมาเสียงเธอจะเคยไปบ้านนายกรได้ยังไงตั้งเเต่กลับไม่เคยไปบ้านนายนั้นเลยเธอก็ไม่รู้จักบ้านนายกรด้วย
“ก็นั้นแหละบ้านพี่กร”
“ห๊ะ!อย่าบอกนะว่านายกรเป็นพี่น้องกาย”
สุดารัตน์ตกใจตาโตน้องกายนิสัยดีไม่เหมือนนายกรเป็นพี่น้องกันได้ยังไงแต่ไม่เป็นไรถึงน้องกายของฉันจะเป็นน้องใครฉันก็รักทั้งนั้น
“ใช่เเล้วพี่จะตกใจอะไรขนาดนั้น”
“พี่ไม่คิดว่าน้องกายจะเป็นน้องของนายกรนินิสัยเเบบนั้นไม่น่าเป็นน้องของนายกรเลยวารู้ไหมว่านายนั้นเป็นคนเเย่งโทรศัพท์กับพี่ที่ห้างจนพี่ต้องไปซื้อเครื่องอื่นให้วา”
“พี่กรเป็นคนดีพี่ใครก็รู้ เเถมยังใจดีอีก”
“ดีบ้าดีบออะไรตอนอยู่ที่ไร่นายกรยังโกหกพี่ว่าเป็นคนงานในไร่เลย”
“เขาอาจจะแกล้งพี่ก็ได้”
ทิวาธรคิดว่าพี่กรคงเเกล้งพี่สาวเขาละมั้ง