เมื่อหนุ่มออฟฟิศบังเอิญมาติดอยู่ในลูป 24 ชั่วโมงทุกวัน ทางออกเดียวคือต้องแก้ปัญหาชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กัน แต่จะทำอย่างไรให้ความรักมันคืบหน้า เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็ลืมเรื่องราวของเขาไปทั้งหมด

ศุกร์ที่รัก Friday Again - บทที่ 2 ความผิดพลาด โดย คูคูวายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ไทย,ชาย-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ศุกร์ที่รัก Friday Again

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ไทย,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ศุกร์ที่รัก Friday Again โดย คูคูวายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อหนุ่มออฟฟิศบังเอิญมาติดอยู่ในลูป 24 ชั่วโมงทุกวัน ทางออกเดียวคือต้องแก้ปัญหาชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กัน แต่จะทำอย่างไรให้ความรักมันคืบหน้า เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็ลืมเรื่องราวของเขาไปทั้งหมด

ผู้แต่ง

คูคูวายา

เรื่องย่อ

          กันต์กวินท์ หนุ่มออฟฟิศธรรมดา ๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษ พลาดท่าไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้นอกระบบให้รุ่นพี่ในออฟฟิศ แต่รุ่นพี่คนนี้ชิงลาออกจากบริษัทและติดต่อไม่ได้อีกเลย กันต์จึงต้องซวยถูกแก๊งทวงหนี้ไล่ล่าทุกวัน จนกระทั่งเขาหนีเข้ามาในร้านเหล้าและได้พบกับชายหน้าโหดที่ช่วยเขาไว้ และยังได้มอบนาฬิกาข้อมือประหลาดให้อีกด้วย


          จากวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตของกันต์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเขาตื่นขึ้นแล้วพบว่าตัวเองติดอยู่ในลูปของเวลา ต้องใช้ชีวิตซ้ำ ๆ อยู่ในวันเดิม ๆ และเมื่อครบ 24 ชั่วโมง เวลาก็จะรีเซ็ตกลับไปเริ่มต้นใหม่ นี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ


          ทุกวันกันต์จะต้องหลบหนีจากแก๊งอันธพาลที่ตามทวงหนี้ให้สำเร็จ และสิ่งที่แย่ที่สุดในการติดอยู่ในลูปนี้ก็คือเขาแอบชอบเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถสานความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็จะลืมเรื่องราวของเขาไปจนหมดสิ้น แล้วกันต์จะทำอย่างไรให้ลูปนี้จบลงเสียที มันต้องมีสักทางสิ


สารบัญ

ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 1 ฉันว่าเธอต้องการเวลา,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 2 ความผิดพลาด,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 3 ไม่เสี่ยงก็ไม่รวย,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 4 เดจาวู,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 5 ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 6 ไม่ระวังตัวอีกตามเคย,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 7 ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 8 วันนี้ฉันมีนัดแล้ว,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 9 พรุ่งนี้จะดีขึ้นเอง,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 10 ความลับของดาหลา

เนื้อหา

บทที่ 2 ความผิดพลาด

          เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเมื่อเวลา 6 โมงเช้า กันต์ตกใจตื่นด้วยอาการมึนงงและสับสน เขาคลำหามือถือเพื่อปิดเสียงปลุก วันนี้เป็นวันศุกร์เขาต้องลุกไปทำงาน ชายหนุ่มบังคับตัวเองให้ลงจากเตียง เขามองชุดทำงานของเมื่อวานที่ยังสวมอยู่ ถอดมันแล้วโยนลงในตะกร้าซักผ้า การได้อาบน้ำอุ่นช่วยให้หัวของเขาโล่งขึ้นนิดหน่อย ถ้าได้กาแฟร้อน ๆ สักแก้วก็คงจะดี

          ขณะแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับออกไปทำงาน กันต์รู้สึกว่าท้องของเขาว่างเปล่าจนมันส่งเสียงออกมาฟ้อง ชายหนุ่มลำดับเหตุการณ์เมื่อคืน จำได้ว่านอกจากเบียร์แล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย 

          ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ทำให้เขาออกจากภวังค์ ฉับพลันเรื่องนักเลงทวงหนี้ก็ผุดขึ้นมา เขาพยายามสลัดสิ่งที่อยู่ในหัวออกและเดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง บางทีพวกมันอาจหาทางเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์ได้ บางทีพวกมันอาจจะรู้หมายเลขห้องของเขา แต่เมื่อมองผ่านตาแมวประตูชายหนุ่มก็โล่งใจ

          “อ้าว เฟิร์น มีอะไรหรือเปล่า” เขาเปิดประตูให้หญิงสาว ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยทำให้เธอดูเรียบร้อยน่ารักขึ้น

          “สวัสดีพี่กันต์” เรือนร่างบอบบางทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใส ในมือของเธอถือถ้วยใบเล็ก 

          “เมื่อคืนพี่กันต์น่าจะดื่มหนักคิดว่าเช้านี้คงจะเมาค้าง เฟิร์นทำไข่ลวกมาให้พี่กันต์ แก้เมาค้างได้นะ พี่กันต์ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหมคะ” เธอยิ้มพร้อมกับยื่นถ้วยไข่ลวกให้เขา

          กันต์รับของจากหญิงสาวแล้วยิ้มให้ทันที “อ๋อ ขอบคุณมากนะเฟิร์น กำลังหิวอยู่พอดีเลย”

          เฟิร์นโบกมือให้ชายหนุ่ม พยายามเก็บอาการไม่ยินดียินร้ายแล้วรีบหันหลังเดินกลับ

          กันต์ปิดประตู อดไม่ได้ที่จะลองชิมไข่ลวกของเฟิร์น ความหิวทำให้ไข่ลวกธรรมดา ๆ อร่อยอย่างเหลือเชื่อ เขายกซดจนเกลี้ยงแล้ววางถ้วยลงในอ่างล้าง ยังพอมีเวลาไปร้านกาแฟ

          อากาศยามเช้าสดชื่นและเย็นสบาย แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลงมากระทบกับหยดน้ำค้างบนใบไม้ทำให้เกิดประกายระยิบระยับราวกับอัญมณีเล็ก ๆ เสียงนกร้องเพลงเสนาะหูดังมาจากทุกทิศทางเป็นดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงในยามเช้าเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศโดยรอบ

          ร่างสูงเดินออกจากซอยเข้าสู่ถนนสายหลักมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ทำงานของกันต์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก ยังมีเวลาอีกสิบห้านาทีก่อนจะเริ่มงาน ชายหนุ่มก้าวเข้าไปในร้านกาแฟใต้ตึกของอาคารบริษัท เพื่อนของเขานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมเดิม กันต์ร้องทักทายก่อนเดินไปสั่งกาแฟกับบาริสต้า

          ชายหนุ่มผิวเข้มที่นั่งอยู่ก่อนหันมามอง กรามของเขาเป็นสันคมชัดเจน ทรงผมรับกับใบหน้า คิ้วดกดำหนาทำให้ดวงตาเจ้าเล่ห์ดูโดดเด่น เขาแต่งตัวในชุดทำงานที่ดูเนี้ยบและสะอาดอยู่เสมอ

          “นี่อิทธิ์ นายคงไม่เชื่อแน่ว่าเมื่อวานฉันเจออะไรมาบ้าง” กันต์พูดขณะนั่งลงตรงข้ามเพื่อนของเขา

          อิทธิ์ขมวดคิ้วอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก

          “เมื่อวานหลังเลิกงาน ตอนที่ฉันกลับไปอะพาร์ตเมนต์” กันต์เริ่มขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้

          “ฉันเจอแก๊งทวงหนี้มาดักรออยู่ในซอย มันมาทวงเงินที่ฉันไปเซ็นค้ำประกันให้พี่ชานนท์ พอฉันตอบว่าเงินอะไรไม่มีหรอก พวกมันก็เข้ามากระชากคอเสื้อ ฉันตกใจเลยกัดแขนมัน พอหลุดมาได้ก็รีบวิ่งหนีทันที”

          อิทธิ์เบิกตาเล็กน้อย “กัดแขนเสียอย่างนั้น นี่นายเป็นคนหรือเป็นหมา”

          “ปากเสียแต่เช้า” กันต์ถลึงตา “ฉันไม่รู้จะหนีไปทางไหนก็เลยวิ่งเข้าไปหลบในร้านเหล้า แค่จะหาที่ซ่อนตัวแล้วก็พักหายใจน่ะ แต่ในที่สุดพวกมันก็ตามหาฉันเจอ แล้วเชื่อไหมล่ะ ฉันได้คนแปลกหน้าคนหนึ่งช่วยเอาไว้ เขาต่อยพวกมันจนหนีออกจากร้านแล้วกลับไปนั่งกินเบียร์ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เท่ชะมัด ฉันก็เลยไปขอนั่งกับเขา อ้อ เขาเรียกตัวเองว่านายช่าง"

          “นายช่าง” อิทธิ์โน้มตัวไปข้างหน้าด้วยความสนใจ

          “ใช่ ฉันกับเขากินเบียร์ด้วยกันอยู่นาน แล้วจู่ ๆ เขาก็เอานาฬิกาเรือนนี้ให้ฉัน” กันต์ยื่นแขนซ้ายออกมาเผยให้เห็นนาฬิกาอันแปลกประหลาดบนข้อมือ “นาฬิกาตายน่ะ เข็มไม่ขยับเลย แต่เขาบอกว่ามันยังใช้ได้ดีทีเดียว น่าจะต้องเอาไปเปลี่ยนถ่าน”

          อิทธิ์เพ่งดูนาฬิกาอย่างใกล้ชิด มันเป็นนาฬิกาธรรมดาแต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกอย่างปฏิเสธไม่ได้

          “ฉันว่าเขาคงจะเมาหนัก” อิทธิ์เงยหน้าขึ้นมองกันต์
         
          “เมืองนี้มีแต่คนบ้ากับคนเมาเต็มไปหมด” เขาลงความเห็นสรุป

          กันต์หัวเราะ “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ เช้าวันนี้เขาอาจจะค้นกระเป๋าเสื้อแล้วสงสัยว่านาฬิกาของเขาไปอยู่ที่ไหน และจำไม่ได้ว่าเขาให้ฉันมาได้ยังไง”

          เรื่องราวอันแปลกประหลาดทำให้บรรยากาศยามเช้าสนุกสนาน ขณะที่หนุ่มออฟฟิศทั้งสองกำลังดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟ บทสนทนาก็เข้าสู่หัวข้อที่สำคัญกว่าเรื่องแก๊งทวงหนี้หรือนาฬิกาประหลาด

          “ดาหลา” กันต์เอ่ยขึ้นเบา ๆ ทันทีเมื่อเห็นร่างงามระหงกำลังเดินเข้ามาในร้านกาแฟ 

          ดาหลาเป็นหญิงสาววัย 25 ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ เสน่ห์ของเธอสร้างแรงดึงดูดให้กับสายตาทุกคู่อย่างเหลือเชื่อ ผมที่ดำยาวถึงกลางหลังเป็นประกายเงางาม ผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ใบหน้ารูปไข่ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ดวงตากลมโตของเธอฉายแววลึกลับชวนค้นหา การปรากฏตัวของดาหลาทำให้ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะสว่างไสวเต็มไปด้วยพลังด้านบวก

          เมื่อก้าวเข้ามาใกล้ ดาหลาเห็นสองหนุ่มนั่งอยู่ก่อนจึงยิ้มทักทายเล็กน้อยตามประสาเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศก่อนจะตรงเข้าไปสั่งกาแฟ หญิงสาวพูดคุยกับบาริสต้าอย่างเป็นกันเอง กันต์อดไม่ได้ที่จะแอบมอง เธอทำให้เช้าวันศุกร์สดใสยิ่งกว่าเดิม

          ความมีเสน่ห์ของดาหลาทำให้กันต์รู้สึกประทับใจและอยากรู้เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความรัก ซึ่งยังเป็นคำถามที่เขาต้องหาคำตอบ 

          “เจอยิ้มให้นิดหน่อยถึงกับใจลอยเลยหรือเพื่อน” หนุ่มผิวเข้มล้อเลียนทันทีที่สังเกตเห็นสายตาของเพื่อนมองเหม่อไปยังเรือนร่างระหง

          กันต์กลับมาสู่ความเป็นจริง แก้มของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย “ใช่ เอ้ย ไม่ ฉันจะพูดอะไรเนี่ย ช่างมันเถอะ” เขาพึมพำ พยายามทำตัวให้แนบเนียนที่สุด

          อิทธิ์หัวเราะเบา ๆ “นายนี่นับวันก็ยิ่งเหมือนพวกสตอล์กเกอร์ ฉันว่าถึงเวลาแล้วที่นายต้องไปสารภาพกับเธอตรง ๆ”

          กันต์ถอนหายใจและส่ายหัว “ไม่รู้สิ ฉันยังไม่พร้อม แล้วฉันกับดาหลาก็ยังต้องทำงานร่วมกันอีก ฉันไม่อยากทำให้มันกลายเป็นเรื่องน่าอึดอัด”

          “หรือมันอาจจะเป็นการตัดสินใจดีที่สุดที่นายเคยทำมาทั้งชีวิต” อิทธิ์พยายามเรียกความกล้าให้ “นายไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้ลองทำ”

          ในร้านกาแฟ กันต์พบว่าตัวเองไม่อาจตั้งสติได้อีกต่อไป จิตใจของเขาล่องลอยไปถึงดาหลา อิทธิ์พูดถูก เขาควรตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มเตรียมคำพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่ในหัวคนเดียว วิเคราะห์ทุกคำ ค้นหาว่าคำไหนที่จะทำให้ดาหลาสนใจเขามากที่สุด

          “นายรู้ไหม ดาหลาอยู่ตรงนั้น ยืนอยู่คนเดียวที่เคาน์เตอร์กำลังรอกาแฟ” อิทธิ์พูดเสียงเกือบกระซิบพลางยกกาแฟร้อน ๆ ขึ้นเป่า “โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ ถ้านายชอบเธอจริง ๆ นายควรเดินไปบอกเธอ”

          กันต์มองดูเพื่อนด้วยแววตาสั่นระริก ความไม่แน่ใจปรากฏชัดในดวงตา “แล้วถ้าดาหลาไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันล่ะ เราอาจมองหน้ากันไม่ติดอีกเลย”

          “เพื่อน นายไม่มีทางรู้คำตอบหรอกจนกว่าจะได้ลองทำ เอาสิ ไปเลย ลุกขึ้นเร็ว” 

          เมื่อเห็นดาหลาหยิบแก้วกาแฟแล้วเดินออกจากร้านไปยังลิฟต์ของอาคาร กันต์ก็รวบรวมพลังทั้งหมดลุกจากโต๊ะรีบตามเธอไป เขาเข้าใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาว

          “ดา…ดาหลา” กันต์ร้องเรียก เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

          หญิงสาวหันกลับมา ใบหน้าของเธอดูแปลกใจเล็กน้อย “คะ”

          “ไม่…ไม่รู้ว่ามีใครบอกหรือยัง ดา…ดาหลาน่าจะใส่แว่นตานะ” ความประหม่าทำให้เขาไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป

          “อะไรนะคะ” หญิงสาวเลิกคิ้ว ไม่แน่ใจว่าเพื่อนร่วมงานต้องการจะสื่ออะไร “แว่นตา…ดาหลาก็ใส่อยู่ทุกวันตอนนั่งทำงานหน้าจอ”

          “ขอ…ขอเป็นแว่นให้ดาหลาได้ไหม ถึงไม่ได้อยู่ในใจก็ยังอยู่ในสายตา” ชายหนุ่มพูดโพล่งออกมาในที่สุด

          ดาหลาเกือบสำลักกาแฟ แต่แล้วเธอกลับทำสีหน้าเรียบเฉยอย่างรวดเร็ว “ต้องการจะพูดอะไรกันแน่คะ”

          “ที่หน้าบริษัทมีคาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่บรรยากาศดีมากเลย เคยเห็นใช่ไหมครับ พรุ่ง…พรุ่งนี้เช้าไปกินกาแฟด้วยกันไหม” กันต์เอ่ยปากชวนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง รู้สึกตื่นเต้นเหมือนจะเป็นลม

          ดาหลาหยุดคิดเหมือนพยายามเลือกคำพูด “ขอโทษนะ แต่พรุ่งนี้เช้าคงไม่ได้หรอก พอดีว่าดาหลามีธุระสำคัญกับลูกค้า เป็นงานเร่งด่วนน่ะค่ะ”

          “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” ชายหนุ่มใบหน้าซีดเผือด พยายามซ่อนความผิดหวังและฝืนยิ้ม เสียงของเขาแทบจะเหมือนกระซิบ

          หญิงสาวเบือนหน้าหลบและนิ่งอยู่ครู่หนึ่งกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก ร่างงามระหงเดินขึ้นลิฟต์จากไปทิ้งให้กันต์ยืนทื่อเหมือนท่อนไม้อยู่เพียงลำพัง เสียงหัวเราะอย่างสะใจของอิทธิ์ดังมาจากหน้าร้านกาแฟ ตอนนี้หัวใจของกันต์ดิ่งลงสู่ก้นเหวที่ลึกที่สุด เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าข้อแก้ตัวของดาหลาเป็นวิธีปฏิเสธเขาอย่างสุภาพ

          ‘ขอเป็นแว่นให้ดาหลาได้ไหม ถึงไม่ได้อยู่ในใจก็ยังอยู่ในสายตา’ เขาทวนประโยคซ้ำอีกครั้งในหัว เชยที่สุดที่เคยพูดมาในชีวิต นี่เป็นความผิดพลาด เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เขาคงไม่มีวันกล้าสู้หน้าดาหลาได้อีกตลอดชีวิต ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังประตูโลหะของลิฟต์ที่ปิดอยู่แต่แทบไม่เห็นอะไรเลย เพราะตอนนี้จิตใจของเขาเหม่อลอยไปไกล ความรู้สึกเศร้า เสียใจ และความอับอายท่วมท้นเข้ามาจนแทบจะหายใจไม่ออก มันเหมือนกับวินาทีที่เขาได้ทำให้โลกทั้งใบพังทลายลงไปต่อหน้า

          “เพี้ยะ!” เสียงตบแก้มดังก้องไปทั่วโถงอาคารปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ แก้มของเขาแดงเถือกจากแรงตบ ความรู้สึกชาหน่วงแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า

          “เมื่อวานทำไว้เจ็บแสบมากนะไอ้ลิงวอก” อันธพาลร่างผอมแห้งปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าขณะที่กันต์กำลังยืนเหม่อ ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจ พวกแก๊งทวงหนี้ตามเขามาถึงที่ทำงานแล้ว

          “มายืนเก๊กเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่นี่เอง แกคิดว่าจะหนีฉันพ้นอย่างงั้นเหรอ” เสียงแหบพร่าของมันแสดงออกถึงภัยคุกคาม เบ้าตาซ้ายของไอ้ผอมกลายเป็นสีม่วงเข้มจากแรงหมัดที่นายช่างชกมันเมื่อวาน จากนั้นอันธพาลยักษ์ใหญ่ก็เดินอ้อมเข้ามาทางด้านหลังพร้อมกับเด็กวัยรุ่นย้อมผมแดงอีกคน

          หนุ่มออฟฟิศพยายามสงบสติอารมณ์ หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อรับรู้ถึงอันตราย “ผมว่าเราต้องใจเย็น ๆ กันก่อนนะ มีอะไรค่อย ๆ พูดกันดีกว่า” กันต์พยายามทำเสียงให้หนักแน่นที่สุด “ตอนนี้ผมยังไม่มีเงิน แต่สาบานเลยว่าจะหามาใช้พวกพี่ให้ได้”

          ก่อนที่กันต์จะทันได้วิ่งหนี ลูกน้องทั้งสองคนของไอ้ผอมก็คว้าแขนของเขาไว้แน่น ความตื่นตระหนกแล่นไปทั่วร่างเมื่อตระหนักได้ว่าคราวนี้คงโดนชกแน่

          อันธพาลร่างผอมแห้งยิ้มเยาะใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความอาฆาตแค้น มันคว้าคอเสื้อของกันต์แล้วดึงเข้ามาใกล้ ร่างสูงของชายหนุ่มทำให้มันต้องเขย่งปลายเท้าถึงจะจ้องตาของอีกฝ่ายได้ตรง ๆ “เงินที่ติดหนี้น่ะเอาแน่” เสียงของมันแหบพร่า “แต่แกต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ฉันก่อน”

          “ขอโทษครับพี่ เมื่อวานผมไม่ได้ตั้งใจ” กันต์อ้อนวอน “ผมจะหาเงินมาให้ทั้งหมด ให้เวลาผมหน่อยนะครับ” น้ำเสียงของเขาสั่นด้วยความกลัว “ขอเถอะพี่”

          ไอ้ผอมหัวเราะอย่างเย็นชา “แกพูดว่าขอเถอะ ได้สิ อย่างนี้ต้องจัดให้” มันชกหมัดเข้าไปที่ลิ้นปี่ กันต์รู้สึกจุกจนหายใจไม่ออก “นี่ไงค่าดอกเบี้ย” มันคำรามและชกอีกครั้ง

          อิทธิ์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะที่คนอื่น ๆ เริ่มเข้ามามุงว่าเกิดอะไรขึ้น ตาของกันต์เริ่มพร่ามัวร่างกายของเขายอมแพ้ต่อแรงหมัด เขารู้ว่าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป 

          ชายหนุ่มเจ็บแปลบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่างเมื่อถูกชกเข้าที่ลิ้นปี่อีกครั้ง และอีกครั้ง ความเจ็บปวดและความกลัวปะปนกับอาการคลื่นไส้ ก่อนที่เขาจะหยุดตัวเองได้ กันต์ก็อาเจียนออกมาเต็มหน้าของไอ้ผอม

          มันผละจากเขาด้วยความรังเกียจและตะโกนด่าคำหยาบคาย ลูกน้องของมันก็ปล่อยแขนด้วยเช่นกัน หนุ่มออฟฟิศทรุดตัวลงกับพื้นกุมท้องของเขาไว้แน่นพยายามจะหายใจอีกครั้ง กันต์ได้ยินเสียงชายร่างผอมตะโกนด่าไม่ได้ศัพท์

          ทันใดนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำอาคารก็ปรากฏตัวขึ้น เสียงนกหวีดทำให้ชายอันธพาลทั้งสามคนตกใจรีบวิ่งหนีไป กันต์นอนขดตัวอยู่หน้าลิฟต์อาคาร หายใจไม่ออก ร่างกายของเขาสั่นเทาเพราะอะดรีนาลีนและความเจ็บปวด 

          ชายหนุ่มพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจที่ดาหลาไม่ได้เห็นความอัปยศอดสูและความอ่อนแอของเขา จิตใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความกลัวและอับอาย กันต์รู้ว่าจากนี้ไปเขาต้องระวังตัวให้มากขึ้นเพราะพวกนักเลงคงไม่หยุดง่าย ๆ จนกว่าจะได้เงินของพวกมันคืน