เมื่อหนุ่มออฟฟิศบังเอิญมาติดอยู่ในลูป 24 ชั่วโมงทุกวัน ทางออกเดียวคือต้องแก้ปัญหาชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กัน แต่จะทำอย่างไรให้ความรักมันคืบหน้า เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็ลืมเรื่องราวของเขาไปทั้งหมด

ศุกร์ที่รัก Friday Again - บทที่ 4 เดจาวู โดย คูคูวายา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ไทย,ชาย-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ศุกร์ที่รัก Friday Again

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ไทย,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

เมื่อหนุ่มออฟฟิศบังเอิญมาติดอยู่ในลูป 24 ชั่วโมงทุกวัน ทางออกเดียวคือต้องแก้ปัญหาชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กัน แต่จะทำอย่างไรให้ความรักมันคืบหน้า เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็ลืมเรื่องราวของเขาไปทั้งหมด

ผู้แต่ง

คูคูวายา

เรื่องย่อ

          กันต์กวินท์ หนุ่มออฟฟิศธรรมดา ๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษ พลาดท่าไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้นอกระบบให้รุ่นพี่ในออฟฟิศ แต่รุ่นพี่คนนี้ชิงลาออกจากบริษัทและติดต่อไม่ได้อีกเลย กันต์จึงต้องซวยถูกแก๊งทวงหนี้ไล่ล่าทุกวัน จนกระทั่งเขาหนีเข้ามาในร้านเหล้าและได้พบกับชายหน้าโหดที่ช่วยเขาไว้ และยังได้มอบนาฬิกาข้อมือประหลาดให้อีกด้วย


          จากวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตของกันต์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเขาตื่นขึ้นแล้วพบว่าตัวเองติดอยู่ในลูปของเวลา ต้องใช้ชีวิตซ้ำ ๆ อยู่ในวันเดิม ๆ และเมื่อครบ 24 ชั่วโมง เวลาก็จะรีเซ็ตกลับไปเริ่มต้นใหม่ นี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ


          ทุกวันกันต์จะต้องหลบหนีจากแก๊งอันธพาลที่ตามทวงหนี้ให้สำเร็จ และสิ่งที่แย่ที่สุดในการติดอยู่ในลูปนี้ก็คือเขาแอบชอบเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถสานความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็จะลืมเรื่องราวของเขาไปจนหมดสิ้น แล้วกันต์จะทำอย่างไรให้ลูปนี้จบลงเสียที มันต้องมีสักทางสิ


สารบัญ

ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 1 ฉันว่าเธอต้องการเวลา,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 2 ความผิดพลาด,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 3 ไม่เสี่ยงก็ไม่รวย,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 4 เดจาวู,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 5 ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 6 ไม่ระวังตัวอีกตามเคย,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 7 ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 8 วันนี้ฉันมีนัดแล้ว,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 9 พรุ่งนี้จะดีขึ้นเอง,ศุกร์ที่รัก Friday Again-บทที่ 10 ความลับของดาหลา

เนื้อหา

บทที่ 4 เดจาวู

          กันต์ได้สติอีกครั้งเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลา 6 โมงเช้า ชายหนุ่มลืมตาอย่างมึนงงและพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในอะพาร์ตเมนต์ของเขา ร่างสูงลุกขึ้นนั่งอย่างสับสน เมื่อคืนนี้ภาพตัดนั้นหรือ เขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด

          “ฉันกลับมาที่นี่ได้ยังไง” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองขณะเอามือลูบผม เขาพบว่ายังอยู่ในชุดทำงาน แต่ไม่ใช่ชุดเดียวกับที่เขาสวมเมื่อวาน “หรือว่าเราจะโดนลักหลับ” เขาพูดทีเล่นทีจริง

          นาฬิกายังอยู่บนข้อมือเขา ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเครื่องของเขาหรือไม่ 

          “นึกว่าหน้าจอแตกไปแล้วเสียอีก” เขาร้องด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างแน่นอน กันต์ลากนิ้วไปมาบนหน้าจอ สำรวจสิ่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วนรวมถึงเงินในบัญชีธนาคาร 

          “นี่มันเรื่องอะไรกัน” เขาพูดกับตัวเอง ในหัวมีแต่คำถามผุดขึ้นมาเต็มไปหมด

          ก่อนอื่นเขาต้องไปอาบน้ำเสียก่อน ขณะที่ชายหนุ่มลุกจากเตียง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสบายใจแปลก ๆ เช้านี้ร่างกายเหมือนถูกรีเซ็ตใหม่ อาการเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง คงเป็นเพราะได้นอนหลับสนิท

          หนุ่มร่างสูงยืนอยู่หน้ากระจกโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอว หยดน้ำเกาะพราวอยู่บนตัว เขาสำรวจดูร่างกายทีละส่วน มองหารอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายเมื่อวานนี้แต่กลับไม่พบอะไรเลย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนบนผิวหนังของเขา กันต์ขมวดคิ้ว พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

          ขณะลำดับความคิด ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาสะดุ้งสุดตัวหัวใจเต้นแรง ความตื่นตระหนกจากเหตุการณ์เมื่อวานยังคงฝังอยู่ในใจ ชายหนุ่มค่อย ๆ เดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวังที่สุด เขามองผ่านตาแมวและเห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษายืนรออยู่ เฟิร์นนั่นเอง สองวันแล้วที่เธอมาเคาะประตูห้องเขาตั้งแต่เช้าตรู่ วันนี้มีธุระอะไรอีก

          กันต์เปิดประตู หยดน้ำจากผมเปียกหยดลงบนไหล่ของเขา เฟิร์นทักทายด้วยเสียงใส “สวัสดีพี่กันต์” ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าอกเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม แต่เธอก็รีบตั้งสติ

          “เฟิร์นมีเรียนวันเสาร์ด้วยหรือ” กันต์ร้องถามด้วยความสงสัย เขาเพิ่งจะตระหนักถึงสภาพของตัวเองที่พันแค่ผ้าขนหนู

          “วันเสาร์ที่ไหนกัน” หญิงสาวพูดแย้ง “เมื่อคืนพี่กันต์น่าจะดื่มหนักคิดว่าเช้านี้คงจะเมาค้าง เฟิร์นทำไข่ลวกมาให้พี่กันต์ แก้เมาค้างได้นะ พี่กันต์ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหมคะ” เธอยิ้มพร้อมกับยื่นถ้วยไข่ลวกให้เขา

          ชายหนุ่มขยับผ้าขนหนูให้แน่นขึ้นและมองไข่ลวกด้วยความประหลาดใจก่อนจะยื่นมือไปรับ “ขอบคุณนะ ไข่ลวกที่เฟิร์นทำมาให้เมื่อวานอร่อยดี”

          นักศึกษาสาวขมวดคิ้ว “เดี๋ยวเถอะ เมื่อวานเฟิร์นไม่ได้เอาอะไรมาให้เสียหน่อย พี่กันต์ไปกินของใครมาจำผิดคนหรือเปล่า” เธอทำเสียงค้อนใส่

          สมองของกันต์สับสนไปหมด ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขามองหญิงสาวซึ่งตอนนี้หน้าเริ่มแดงขึ้น ดวงตาของเธอสลับมองไปที่หน้าอกของเขาแล้วกลับมาที่ใบหน้า อากาศเย็น ๆ จากโถงทางเดินทำให้ผิวหนังของชายหนุ่มเริ่มขนลุก

          “ขอถามอะไรหน่อยสิ เฟิร์นรู้ไหมว่าเมื่อคืนนี้พี่กลับมาที่ห้องได้ยังไง” กันต์ถาม น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความไม่แน่ใจ “จำได้ว่าเมื่อคืนนี้พี่นั่งกินเบียร์อยู่ที่ร้านบ็อทเทิลแอนด์บลูส์กับผู้ชายอีกคน เขาเป็นคนพาพี่มาส่งที่นี่หรือเปล่า”

          เฟิร์นหัวเราะเบา ๆ แล้วส่ายหัว “เมื่อคืนเฟิร์นกับพี่กันต์เดินเข้ามาด้วยกัน อย่าบอกนะว่าพี่กันต์จำอะไรไม่ได้ ท่าทางจะเมาหนักกว่าที่เฟิร์นคิดเสียอีก”

          กันต์ขมวดคิ้ว พยายามรวบรวมความทรงจำ “อ้าว เมื่อคืนเฟิร์นเป็นคนพาพี่มาส่งที่ห้องหรอกหรือ”

          เฟิร์นถอนหายใจ “ไม่ได้มาส่งถึงห้อง เฟิร์นหมายถึงเราเดินเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์พร้อมกัน ขึ้นลิฟต์ด้วยกัน พอถึงชั้นสี่เราก็แยกย้าย เฟิร์นไม่ได้เดินมาส่งพี่กันต์ถึงห้องเสียหน่อย”

          ความสับสนของกันต์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น “แล้วเมื่อคืนนี้พี่ดูเป็นยังไงบ้าง” เขาถามโดยหวังว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้น

          “มาคุยกันให้รู้เรื่องดีกว่า” เฟิร์นตอบ ดวงตาของเธอฉายแววเจ้าเล่ห์ “เมื่อคืนนี้นะ หลังจากที่เฟิร์นออกมาจากร้านมินิมาร์ทก็เห็นพี่กันต์ยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าอะพาร์ตเมนต์แต่ไม่ยอมเข้าข้างใน เฟิร์นก็เลยเดินไปแตะไหล่เรียก พี่กันต์น่ะสิตกใจทำหน้าอย่างกับเห็นผี”

          ดวงตาของกันต์เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ “เดี๋ยวก่อนนะเฟิร์น นั่นมันคืนก่อน ไม่ใช่เมื่อคืนนี้” เขาเริ่มพึมพำ “หรือว่าเมื่อคืนนี้พี่เดินกลับมาคนเดียวแล้วเฟิร์นก็มาเจอพี่ตรงหน้าอะพาร์ตเมนต์ที่เดิม แต่พี่เมาหนักมากก็เลยจำอะไรไม่ได้”

          เฟิร์นพยักหน้า “คงจะแบบนั้นแหละ เฟิร์นเห็นพี่เหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลา หนักแล้วนะพี่กันต์ น่าจะเลิกดื่มได้แล้ว”

          กันต์ถอนหายใจ “พี่คงเมาหนักจนจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ขอบคุณมากนะเฟิร์น” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก

          “อ้อ แล้วก็ไข่ลวกน่ะ ทานให้อร่อยนะคะ” เฟิร์นเสียงสั่นเล็กน้อย รอยยิ้มของกันต์ทำให้หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ เธอโบกมือให้ชายหนุ่มก่อนจะหันหลังเดินกลับ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้ว่าหัวใจของเธอจะเต้นแรง

          กันต์ปิดประตู เขาวางไข่ลวกไว้บนโต๊ะ ในหัวมีแต่ความคิดวนเวียนไปมา เขารู้ว่าตัวเองเหนื่อยมากจนหลับคาร้านจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่ว่าความรู้สึกเดจาวูที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ ทั้งหมดมันแปลกอย่างไม่น่าเชื่อ

          ขณะเดียวกันเขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่ถอดวางบนโต๊ะก่อนไปอาบน้ำ ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาพิจารณาอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเข็มของนาฬิกาที่เคยหยุดนิ่งกลับมาเดินอีกครั้ง 

          ชายหนุ่มรีบคว้าโทรศัพท์มือถือมาเทียบเวลาปรากฏว่านาฬิกาบอกเวลาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ แต่สิ่งที่ทำให้เขาผงะอีกครั้งคือปฏิทินในโทรศัพท์บอกว่าวันนี้ยังเป็นวันศุกร์ ไม่ใช่วันเสาร์อย่างที่เขาคิด ทุกอย่างดูสับสนไปหมดเกิดอะไรขึ้นกับเขา หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานคือความฝัน ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก เขายังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด ความโศกเศร้า และรสชาติของน้ำตา แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้ในเมื่อทุกอย่างชี้ให้เห็นว่าวันนี้คือวันศุกร์

          ชายหนุ่มสลัดความคิดออกไปจากหัว ร่างสูงลุกขึ้นและเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง กันต์ส่องดูตัวเองในกระจกพร้อมกับสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงอย่างรวดเร็ว ยีผมเบา ๆ ให้เข้าทรง เขาหยิบรองเท้าหนังสีดำที่ตกอยู่ข้างเตียงมาใส่ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วหนุ่มออฟฟิศก็ออกจากห้องของตัวเอง แต่บรรยากาศเช้านี้กลับพิลึกอย่างไม่น่าเชื่อ ตลอดทางตั้งแต่อะพาร์ตเมนต์จนถึงสถานีรถไฟฟ้า เขาเห็นเดจาวูครั้งแล้วครั้งเล่า 

          แสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างรถไฟฟ้าเข้ามาสะท้อนกับกระจกจนเกิดแสงระยิบระยับ กันต์มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับวันใหม่ รถไฟฟ้าวิ่งผ่านตึกสูงตระหง่าน เสียงประกาศบอกสถานีถัดไปและเสียงเหยียบย่ำของรองเท้าที่เดินเข้าออกจากขบวนรถดังอยู่ตลอดเวลา 

          แม้ว่าบรรยากาศจะดูวุ่นวายและแออัด แต่ชายหนุ่มกลับสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อรถไฟฟ้าเคลื่อนตัวเข้าสู่สถานีปลายทางของเขา กันต์พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป แต่ความรู้สึกเดจาวูก็เข้าครอบงำเขาอีกครั้งและอีกครั้ง ทุกอย่างในเช้าวันนี้ดูคุ้นเคยจนน่าขนลุก เขาคงต้องหาเวลาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายก่อนที่จะเป็นบ้า 

          เมื่อมาถึงที่ทำงานก็เห็นอิทธิ์นั่งอยู่ข้างในร้านกาแฟใต้อาคารบริษัท กันต์สับสนในความรู้สึก ไม่รู้ว่าควรเดินเข้าไปหาอิทธิ์ดีหรือไม่ ความลังเลทำให้เขายืนนิ่งพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทุกอย่างดูคล้ายกับว่าเคยเกิดขึ้นในความทรงจำมาก่อน 

          จนกระทั่งอิทธิ์หันมาเห็นและโบกมือให้เขา กันต์จึงตัดสินใจว่าจะเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ขณะเดียวกันหญิงสาวร่างงามระหงก็เดินเข้ามาทางด้านหลัง ดาหลานั่นเอง เธอสวมชุดทำงานเหมือนเมื่อวาน หรือดูเหมือนเมื่อวานในความทรงจำของเขา ความรู้สึกต่าง ๆ ยังคงชัดเจน ไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาด 

          หัวใจของเขาเต้นราวกับกลอง รายละเอียดทุกอย่างเหมือนเดิมจนน่าตกใจ ดาหลาเดินผ่านเขาตรงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งกาแฟกับบาริสต้า ชายหนุ่มขนลุกไปถึงกลางหลัง ภาพนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร

          กันต์เดินไปนั่งกับอิทธิ์ที่โต๊ะมุมเดิม จิตใจของเขาปั่นป่วน “เป็นอะไรไป” อิทธิ์ร้องทักทาย “ทำหน้าอย่างกับเพิ่งเห็นผีมา”

          กันต์ฝืนยิ้ม “ฉันน่าจะใกล้เป็นบ้าแล้ว” เขาพึมพำ สายตายังจดจ้องไปที่ดาหลาขณะที่เธอกำลังคุยกับบาริสต้า
อิทธิ์เลิกคิ้ว “นี่เพื่อน นายโอเคไหม”

          “ฉันแค่…เจอฝันร้ายมาน่ะ” กันต์พยักหน้าช้า ๆ นั่งลง “ในฝันฉันทะเลาะกับนาย ทะเลาะกันแบบรุนแรงมาก ๆ กลางที่ทำงาน”

          “นายคิดถึงฉันถึงขนาดเก็บเอาไปฝันเลยหรือ” อิทธิ์หัวเราะขณะจิบกาแฟ 

          สายตาของกันต์ยังคงมองไปที่ร่างงามระหงไม่สามารถสลัดความรู้สึกเดจาวูออกไปได้ เขาเคยเห็นภาพนี้มาก่อน และมันกำลังเกิดขึ้นซ้ำ คำถามคือจะเป็นไปได้อย่างไร ชายหนุ่มต้องพิสูจน์บางอย่าง 

          ดาหลาหยิบแก้วกาแฟแล้วก้าวออกจากร้านตรงไปยังลิฟต์อาคาร กันต์ลุกจากโต๊ะเดินตามเธอไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้อิทธิ์นั่งสับสนไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขากำลังจะทำอะไร

          “ดาหลา” กันต์ร้องเรียก น้ำเสียงของเขาจริงจัง 

          หญิงหันกลับมา ใบหน้าของเธอดูแปลกใจเล็กน้อย “คะ”

          “ที่หน้าบริษัทมีคาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่เคยเห็นใช่ไหม บรรยากาศดีมากเลย” เขาหยุดครู่หนึ่งเพื่อเลือกคำพูดต่อไป

          “เห็นดาหลากินกาแฟทุกเช้าก็เลยมาแนะนำดู พรุ่งนี้ไปลองกันไหม” ชายหนุ่มเอ่ยปากชวนเธอ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง รู้สึกตื่นเต้นเหมือนจะเป็นลม

          “ช่วงนี้ดาหลางานยุ่ง ไม่ค่อยว่างเลยค่ะ” เธอตอบอย่างสุภาพก่อนจะเข้าไปในลิฟต์

          เขาถูกดาหลาปฏิเสธอีกครั้ง คล้ายกับในความทรงจำแต่แตกต่างที่รายละเอียด รู้สึกเจ็บน้อยกว่าครั้งแรกโชคดีที่ไม่ได้ออกตัวแรง คงเป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร 

          แล้วหัวใจของกันต์ก็สูบฉีดเลือดอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ ๆ เขาพลันนึกถึงเหตุการณ์ต่อไปที่จะเกิดขึ้น บางสิ่งที่เลวร้ายกำลังมาและมันจะเปลี่ยนให้วันทำงานของเขากลายเป็นนรก โดยไม่ต้องคิดอีกชายหนุ่มก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับดาหลา รีบกดปุ่มไปบนชั้นที่เขาทำงาน ชายหนุ่มกวาดสายตามองออกไปนอกลิฟต์ด้วยจิตใจที่ปั่นป่วน

          และตามที่คาดไว้ ชายอันธพาลสามคนโผล่ออกมาในที่สุด ไอ้ผอม ไอ้ยักษ์ และไอ้เด็กหัวแดง พวกมันเห็นกันต์เข้าไปในลิฟต์จึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วหมายจะหยุดเขาไว้ ชายร่างผอมกัดกรามด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นกันต์ยกแขนขึ้นชูนิ้วกลางอย่างท้าทาย

          ประตูลิฟต์ปิดสนิท ชายหนุ่มทันเห็นใบหน้าของไอ้ผอมที่บิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ รอยช้ำม่วงที่เบ้าตาของมันยังคงเด่นชัด แต่ตอนนี้พวกอันธพาลทำอะไรเขาไม่ได้ กันต์ยิ้มอย่างผู้ชนะ รู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านหลังจากหลบหนีอันตรายมาได้สำเร็จ 

          ตอนนี้เขาอยู่ในลิฟต์กับดาหลาสองต่อสอง เธอมองเขา ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความสงสัย “รู้จักคนพวกนั้นหรือคะ” เธอถามน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

          กันต์ส่ายหัว “ไม่รู้จักครับ” เขาพยายามทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “สงสัยคงจะเป็นคนบ้า”

          ดาหลาพยักหน้าช้า ๆ เธอดูเหมือนจะไม่สบายใจเล็กน้อย “อืม ก็คงอย่างนั้น” 

          กันต์ส่งยิ้มให้เธออย่างมั่นใจ “โชคดีที่เราเข้ามาในลิฟต์ก่อน”

          กันต์ใช้เวลาสักพักเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาหลบหนีเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ เขามีโอกาสจะเปลี่ยนวันนี้ให้กลายเป็นวันที่ดีกว่าเดิม ชายหนุ่มและหญิงสาวยืนเคียงกันอย่างเงียบ ๆ กันต์แอบชำเลืองมองดาหลา เธอยังคงดูสวยดังเช่นทุกวัน

          เมื่อลิฟต์หยุดและประตูเปิดออก กันต์สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้าวออกไปพร้อมดาหลา รู้สึกมั่นใจกว่าเดิม วันนี้เขาจะใช้โอกาสครั้งใหม่ให้ดีที่สุด

          กันต์เริ่มต้นเช้าวันทำงานอย่างร่าเริง รู้สึกถึงความสบายใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูก เขาเหลือบมองที่โต๊ะทำงานของดาหลาเป็นครั้งคราวแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่ที่นั่นก็ตาม คงจะออกไปติดต่องานกับฝ่ายอื่น

          อิทธิ์ผู้ซึ่งถูกทิ้งไว้ที่ร้านกาแฟเดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานของกันต์ “เมื่อกี้นายกับดาหลาพูดอะไรกันตอนอยู่ที่ลิฟต์” น้ำเสียงแสดงถึงความอยากรู้อยากเห็นชัดเจน 

          กันต์กลอกตาเหมือนนึกอะไรบางอย่างแต่ไม่ได้ตอบ อิทธิ์คาดคั้นคำถามเดิมอีกครั้งแต่เพื่อนของเขายังทำหูทวนลม เมื่อไม่ได้คำตอบเขาจึงกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง กันต์พยายามตั้งสมาธิกับงานอีกครั้งแต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบชำเลืองมองไปที่ประตูรอให้ดาหลากลับมาอย่างใจจดใจจ่อ

          โดยที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน คนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดในโลกกลับมายืนอยู่ตรงประตูนั้นแทน หัวใจของเขาหล่นวูบ พวกนักเลงทวงหนี้ตามหาเขาจนเจอ พวกมันไม่ยอมแพ้และกำลังกวาดสายตาไปทั่วออฟฟิศ

          เหมือนเลือดจะสูบฉีดแรงขึ้น กันต์ก้มหมอบลงกับโต๊ะทันทีโดยหวังว่าพวกมันจะไม่เห็นเขาแต่ก็สายเกินไป ชายร่างผอมแห้งเริ่มคุยกับพนักงานคนหนึ่ง อิทธิ์นั่นเอง และจากนั้นอิทธิ์ก็ชี้มาที่โต๊ะทำงานของเขา ชายอันธพาลทั้งสามเดินปรี่เข้ามาในทันที

          หัวใจของกันต์เต้นแรงเขารู้ว่าไม่สามารถหลบเลี่ยงต่อไปได้ ชายหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจที่จะเผชิญกับอันตรายตรงหน้า เขาค่อย ๆ ยืนขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

          “ไอ้ลิงวอก” ชายร่างผอมยิ้มเยาะ ดวงตาของมันฉายแววไปด้วยความอาฆาตพยาบาท “แกคิดว่าจะหนีฉันพ้นอย่างงั้นเหรอ”

          กันต์บังคับตัวเองให้ใจเย็นและหันมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศเพื่อขอความช่วยเหลือ “จะทำอะไรน่ะ นี่ที่ทำงานนะ” เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น

          ไอ้ผอมเริ่มหักข้อนิ้วอย่างน่ากลัว “ทำงานก็ต้องได้เงิน ฉันก็จะมาเอาเงินที่แกติดหนี้อยู่น่ะสิ” เสียงแหบพร่าของมันคำราม “แต่แกต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ฉันก่อน”

          ภาพเดิมฉายซ้ำอีกครั้งต่างกันแค่เวลาและสถานที่ ลูกน้องทั้งสองคนคว้าแขนของหนุ่มออฟฟิศไว้แน่น ไอ้ผอมกระชากคอเสื้อ มันเขย่งปลายเท้าแล้วชกหมัดขวาเข้าตรงลิ้นปี่ กันต์รู้สึกจุกจนหายใจไม่ออก 

          “นี่ไงค่าดอกเบี้ย” มันคำรามและชกอีกครั้ง

          เมื่อดาหลาเดินกลับเข้ามาในออฟฟิศเธอก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์วุ่นวายนี้ทันที “เกิดอะไรขึ้นคะ” เธอร้องถามทุกคน

          กันต์เหลือบตามองดาหลา ใบหน้าของเขายับย่นจากความเจ็บปวด แต่การปรากฏตัวของเธอทำให้ชายหนุ่มมีพลังมากขึ้น เขาจะไม่ยอมให้เธอเห็นว่าอ่อนแอเป็นอันขาด ก่อนที่ไอ้ผอมจะทันได้ชกอีกหมัด หนุ่มออฟฟิศก็ฉวยคอเสื้อไอ้เด็กผมแดงเหวี่ยงมันล้มลงกับพื้นแล้วหันมากัดมือของไอ้ยักษ์ นักเลงตัวโตร้องด้วยความตกใจและปล่อยแขนชายหนุ่ม

          เมื่อกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งกันต์จึงกระโจนเข้าใส่ชายร่างผอมด้วยความคลุ้มคลั่งทันที มหัศจรรย์แห่งอะดรีนาลีน เขาจับแขนของมันเหวี่ยงข้ามโต๊ะทำงานกระเด็นล้มลงนอนกับพื้น ข้าวของเครื่องใช้สำนักงานหล่นกระจัดกระจาย ชายหนุ่มไม่รอช้ากระโดดทับร่างผอมเอาไว้ สองแขนเหวี่ยงหมัดไปยังใบหน้าของนักเลง มันยกแขนขึ้นบังพลางร้องสั่งให้ลูกน้องมาช่วยดึงออกไป 

          ไอ้ตัวโตอ้อมมาด้านหลังกระชากกันต์ออกจากตัวลูกพี่ของมัน หนุ่มออฟฟิศที่กำลังบ้าเลือดไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาลุกขึ้นกอดรัดร่างใหญ่เอาไว้แน่นและกัดใบหูจมเขี้ยวกระชากเศษเนื้อสีแดงติดมากับฟันขาว ๆ ยักษ์ใหญ่แผดเสียงด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มถ่มเศษใบหูลงบนพื้นแล้วหันมาแสยะยิ้มให้ดาหลา เลือดสด ๆ ติดอยู่ที่ปากและสองข้างแก้ม ไอ้เด็กผมแดงยืนลนลานไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

          ทันใดนั้นทีมรักษาความปลอดภัยประจำอาคารที่มาถึงออฟฟิศ ท่ามกลางความวุ่นวาย กันต์ถูกรวบตัวตรึงลงกับพื้นใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว อันธพาลทั้งสามพยายามหลบหนีแต่ถูกขัดขวางไว้ได้ทัน แม้พวกมันจะดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ต้องยอมจำนนต่อกระบองไฟเบอร์ ในที่สุดทั้งหมดจึงถูกควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ

          กันต์นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น หายใจหอบถี่ขณะมองไปรอบ ๆ มีพวกอันธพาลที่ถูกปราบนอนราบอยู่ข้าง ๆ เขาเช่นกัน แม้ว่าครั้งนี้จะเจ็บตัวอีกวัน แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกยินดีอย่างแปลกประหลาด เขาเอาชนะความกลัวที่อยู่ตรงหน้าได้สำเร็จ เขาสู้กับคนทั้งสามคนนี้ได้ แต่ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรต่อไป ชายหนุ่มหันศีรษะเล็กน้อยพยายามมองไปที่ดาหลา เขาเห็นสีหน้าตื่นตกใจและเป็นกังวลของหญิงสาวขณะที่อิทธิ์กำลังใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด ชีวิตของเขากลายเป็นคอนเทนต์ให้กับเพื่อนคนนี้อีกครั้ง