เมื่อหนุ่มออฟฟิศบังเอิญมาติดอยู่ในลูป 24 ชั่วโมงทุกวัน ทางออกเดียวคือต้องแก้ปัญหาชีวิตและความรักไปพร้อม ๆ กัน แต่จะทำอย่างไรให้ความรักมันคืบหน้า เพราะเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็ลืมเรื่องราวของเขาไปทั้งหมด
รัก,แอคชั่น,แฟนตาซี,ไทย,ชาย-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อกันต์และดาหลากลับมาถึงออฟฟิศ ทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับโต๊ะทำงานของตนเอง แต่หญิงสาวยังคงชำเลืองหาชายหนุ่มเป็นระยะ สมาธิของเธอมักหลุดลอยไปที่กันต์บ่อย ๆ บางครั้งเธอก็จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเหม่อลอย เหมือนกำลังชั่งน้ำหนักเพื่อตัดสินใจบางอย่าง
อิทธิ์ที่เห็นเพื่อนกลับมาแล้วจึงรีบเดินเข้าไปหาที่โต๊ะทำงานทันที “นายหายไปไหนมา รู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้มีนักเลงมาตามหานายที่นี่ด้วย” อิทธิ์พูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ” กันต์พยักหน้าตอบอย่างไม่แยแส “และก็รู้อีกว่านายเป็นคนชี้บอกพวกนั้นว่าโต๊ะของฉันอยู่ตรงไหน” ทุกอย่างอยู่ในหัวของเขาทั้งหมด
สองหนุ่มคุยกันบางอย่างด้วยท่าทางเคร่งเครียด ดาหลาสังเกตใบหน้าของกันต์ที่ดูสงบเสงี่ยมและหนักแน่น ไม่เหมือนหนุ่มหน้าจืดคนเดิมที่เคยเห็น เธอแอบมองเขาอยู่นานด้วยความสนใจ ความรู้สึกนี้ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้อาจจะมีอะไรน่าสนใจที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน
“นายไปทำอะไรถึงมีนักเลงมาตามหาถึงที่นี่” อิทธิ์ถามเข้าประเด็น น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความอยากรู้อยากเห็น
“วันนี้ฉันยังไม่ได้บอกนายอีกหรือ” กันต์ตอบโดยที่ตายังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
“ยัง มันมาตามหาถึงที่ทำงาน นายแน่ใจนะว่าจะไม่เป็นไร” อิทธิ์ยังรบเร้าด้วยความสนใจ
“ใช่ มั่นใจสิ แต่ถ้าเกิดวันนี้ฉันเป็นอะไรไป ก็ค่อยเริ่มต้นอีกทีวันใหม่” กันต์ตอบอย่างเป็นปริศนา
อิทธิ์ไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาหมายถึงอะไร “เออ ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลตัวเองด้วย กลัวจะเห็นนายบนพาดหัวข่าววันพรุ่งนี้”
“ถ้าวันพรุ่งนี้มาถึงก็คงดี” กันต์พูดออกมาลอย ๆ
อิทธิ์หยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย “วันนี้คริปโตฯ เป็นยังไงบ้าง”
กันต์ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หันมามองหน้าเพื่อนทันทีด้วยความหงุดหงิดอารมณ์
อิทธิ์พูดแล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย “ตลาดนิ่ง ๆ แบบนี้ถือไปก็ไม่ได้กำไร ทำไมไม่ลองเทรดฟิวเจอร์สดูล่ะ บิตคอยน์ไม่ยอมขึ้นก็ขายชอร์ตมันไปเลย ใช้เลเวอเรจเยอะ ๆ เพิ่มเงินลงทุนขึ้นอีก แทงถูกครั้งเดียวรวยเละเลยนะ”
คำพูดของอิทธิ์ได้ไปสะกิดความทรงจำอันเลวร้ายที่เขาเคยหมดตัวเมื่อหลายวันก่อน ความรู้สึกโกรธและเสียใจยังคงชัดเจน แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ภาพซ้ำของอิทธิ์ทำให้เขาเริ่มตระหนักบางอย่างเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ กันต์เริ่มมองเห็นอิทธิ์ในมุมใหม่ ความสงสัยผุดขึ้นมาเป็นพรวน ไม่แน่ใจว่าอิทธิ์มาตีสนิทกับเขาเพราะอะไร เพราะเห็นว่าเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นเพราะมันทำให้อิทธิ์รู้สึกว่าตัวเองโดดเด่นขึ้นเมื่อได้อยู่กับคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างเขากันแน่
กันต์พยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจ “เอาเถอะ ฉันจะลองคิดดูอีกที ไว้ค่อยจัดการเรื่องนี้ทีหลัง”
อิทธิ์ยิ้มพร้อมตบไหล่เพื่อน “มันต้องแบบนี้สิ ถ้านายต้องการคำแนะนำหรือใครสักคนคุยด้วย ฉันอยู่ที่เดิมนะ”
ในออฟฟิศที่เต็มไปด้วยเสียงพิมพ์งานและการสนทนาที่หลากหลาย ดาหลายังคงชำเลืองหากันต์อยู่เป็นบางครั้ง ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจเดินมาหาเขาถึงโต๊ะทำงาน หญิงสาวหยุดอยู่ตรงหน้าและยิ้มอย่างเป็นกันเอง
“กันต์ งานที่เคยบอกว่าจะคุยด้วย มันคืออะไรหรือคะ” ดาหลาถามด้วยน้ำเสียงใส
กันต์เงยหน้าขึ้นจากงานและมองเธอด้วยความประหลาดใจ เขาคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกออก “อ๋อ ไม่มีอะไร เรื่องนั้นจัดการเรียบร้อยไปแล้วแหละ” เขาตอบ
แต่ดาหลาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “แล้วกันต์ทำอะไรอยู่” เธอชวนคุยต่อ พยายามหาทางรู้จักกันต์ให้มากขึ้น
กันต์ยิ้มเล็กน้อยและตอบ “ก็แค่รายงานประจำเดือนน่ะ ใกล้สิ้นเดือนแล้ว ไม่มีอะไรหรอกครับ”
ดาหลาจึงนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ โต๊ะของกันต์ หันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม นัยน์ตาสีดำเปล่งประกายระยับ ใบหน้าของเธอประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่ดูมีเสน่ห์ ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะทำงานสดใสขึ้น
ดาหลาหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนว่ากันต์จะมีอะไรซ่อนอยู่นะคะ วันนี้ดูเปลี่ยนไปเยอะเลย”
กันต์ยิ้มรับ ถ้าเธอรู้ว่าเมื่อวานเขาเพิ่งถูกแทงจนเกือบตายก็คงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“เมื่อหลายวันก่อนผมได้เจอกับใครคนหนึ่ง แล้วชีวิตผมก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย” เขาตอบโดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงนาฬิกาหรือเรื่องที่ใช้ชีวิตวนลูปทุกวัน
“ใครคะ ผู้ชายหรือผู้หญิง เอ๊ะ หรือว่าคนพิเศษ” ดาหลาถามต่อด้วยความสนใจ
“ผู้ชายน่ะครับ” กันต์หยุดคิดสักครู่ พยายามพูดให้เหมือนคนปกติที่สุด “ตอนนี้เขาหายตัวไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ผมพยายามตามหาแต่ก็ไม่เจอ”
“อ๋อ กันต์ชอบผู้ชายหรือคะ” หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ ดวงตาของเธอฉายแววเป็นประกาย
“เปล่า ๆ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้” ชายหนุ่มส่ายหัว ก่อนจะนึกขึ้นได้
“ดาหลารู้จักใครที่เรียกตัวเองว่านายช่างบ้างไหมครับ เขาเป็นผู้ชายหุ่นหมีร่างกำยำวัยกลางคน เก่งชกต่อย หน้าตาไม่น่าคบแต่ใจดี สวมเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์เก่า ๆ ชอบไปนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียว” ชายหนุ่มอธิบายคนที่เขาตามหาด้วยสีหน้าที่เปี่ยมความหวัง
“ไม่นะ ดาหลาไม่รู้จักคนแบบที่กันต์เล่ามาเลยสักคน” เธอเลิกคิ้วตอบ
“นั่นสิ ขอบคุณมากนะครับ” ชายหนุ่มน้ำเสียงผิดหวัง
ดาหลาเท้าคางบนโต๊ะด้วยมือข้างหนึ่ง เธอเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและใช้มืออีกข้างเล่นกับปลายผมของเธอเบา ๆ ชายหนุ่มหัวใจเต้นตึกตักเมื่อหญิงสาวเอียงตัวเข้ามาใกล้ เขาสังเกตเห็นร่องอกขาวที่เผยออกมาจากชุดชั้นในสีเนื้อ
“แล้วนอกจากคนที่กำลังตามหาอยู่ มีอะไรที่กันต์สนใจเป็นพิเศษอีกไหมคะ” เสียงของเธอดูอ่อนหวานและนุ่มนวลกว่าปกติ
ร่องอกของหญิงสาวทำให้กันต์สับสนกับคำถาม อาการประหม่าเริ่มกลับมาอีกครั้ง เขาพยายามไม่กลืนน้ำลาย ท่าทีของดาหลาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่แน่ใจว่าเธอต้องการอะไร
“ดาหลาหมายถึง กันต์มีแฟนหรือยัง” หญิงสาวยิ้มแววตาเป็นประกายวิบวับ
“ยังไม่มีครับ” กันต์ยิ้มและส่ายหัว ตั้งแต่วันที่โดนทุ่มลงกับพื้นเขาก็ไม่ได้เป็นแฟนกับเฟิร์นอีกเลย
“โอเค ดาหลาอยากรู้แค่นี้แหละ” หญิงสาวยิ้มให้เขาก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
อิทธิ์ที่จับตามองทั้งสองคนอย่างไม่ห่างก็รีบเดินมาหากันต์อีกครั้ง
“เมื่อกี้มันอะไร ดูเหมือนดาหลากำลังนั่งอ่อยนายเลยเพื่อน” อิทธิ์โน้มตัวลงมาพูดด้วยเสียงที่เกือบกระซิบ
กันต์หัวเราะเล็กน้อย “ไม่มีอะไรหรอก”
“แล้ววันนี้นายเป็นอะไรไป ทำไมดูท่าทางแปลก ๆ ตั้งแต่เช้า” อิทธิ์ขมวดคิ้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เรื่องมันยาวน่ะ เมื่อวานฉันเพิ่งเข้าโรงพยาบาล” กันต์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พอฟื้นขึ้นมาก็เหมือนเป็นคนละคนไปเลย”
“นายเข้าโรงพยาบาลตอนไหน” อิทธิ์ถาม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
กันต์หัวเราะเบา ๆ และตอบกลับ “ถ้ารู้นายจะมาเยี่ยมไหมล่ะ”
“แน่นอนสิ” อิทธิ์ตอบอย่างหนักแน่น
“ฉันว่าไม่มาหรอก” กันต์พยายามทำงานต่อไป แต่ในใจย้อนนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาถูกขังอยู่ในสถานีตำรวจโดยไม่มีใครมาเยี่ยมเขาเลยสักคน
อิทธิ์ยืนนิ่งทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก รู้สึกได้ถึงความห่างเหินในน้ำเสียงของเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ถามต่อ กันต์อาจจะเข้าโรงพยาบาลจริง ๆ และน้อยใจที่เขาไม่ไปเยี่ยม ชายหนุ่มจึงได้แต่พยักหน้าเบา ๆ และถอยกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย ทั้งสองกลับไปทำงานตามปกติ แต่ในใจของอิทธิ์ยังคงสงสัยและคิดถึงสิ่งที่กันต์พูดอยู่ตลอดเวลา
บรรยากาศในออฟฟิศก่อนถึงเวลาพักกลางวันเริ่มกลับมามีชีวิตชีวา เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทุกโต๊ะทำงานมีเอกสารกองสุมอยู่ บางคนกำลังพูดคุยทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงรีบร้อน บางคนกำลังมองนาฬิกาบ่อยครั้งเพื่อรอให้ถึงเวลาเที่ยงวัน
ดาหลานั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอ กำลังขมักเขม้นกับงานที่ทำอยู่ แว่นตาสะท้อนแสงจากจอคอมพิวเตอร์ เธอเลื่อนเมาส์และพิมพ์เอกสารอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ เริ่มพูดคุยกันเสียงดังขึ้น เสียงหัวเราะเบา ๆ ลอยออกมาจากกลุ่มเล็ก ๆ ที่มุมหนึ่งของห้อง
อิทธิ์เหลือบมองนาฬิกาบนผนังซึ่งใกล้จะถึงเวลาพักพร้อมกับกวาดตามองไปทั่วออฟฟิศ สังเกตเห็นเพื่อนร่วมงานบางคนเริ่มเก็บงานบนโต๊ะ เขามองกันต์ที่นั่งอย่างสบายใจราวกับมีเวลาว่างทั้งชีวิต เมื่อเวลาพักกลางวันมาถึงทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียง ดาหลาเก็บเอกสารและปิดคอมพิวเตอร์ เธอลุกขึ้นและยิ้มให้กับเพื่อนร่วมงานที่เดินสวนกันไปมา
อิทธิ์ตรงมาหากันต์แล้วตบหลังเขาเบา ๆ “ไปหาอะไรกินกันเถอะเพื่อน” อิทธิ์ชวนอย่างอารมณ์ดี
กันต์ยิ้มแห้ง ๆ “ขอโทษนะอิทธิ์ วันนี้ฉันมีนัดแล้ว” เขาตัดสินใจแน่วแน่ ไม่อยากเป็นเงาให้อิทธิ์อีกต่อไป
อิทธิ์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครคบกับกันต์อีก “ถามจริง นายเนี่ยนะมีนัดกับใคร”
กันต์พยักหน้า เขาหันไปหาดาหลาที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างมั่นใจ “ดาหลา มีคาเฟ่เปิดใหม่ใกล้ ๆ บริษัทนี่เอง อยากไปด้วยกันไหมครับ”
ดาหลาหันมาทันที เธอหยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบรับ “ไปสิ” เธอยิ้มและหันไปบอกลาเพื่อนผู้หญิงเพื่อขอตัวไปกับกันต์
“เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันตอนบ่ายจ้ะ” ดาหลาทำให้เพื่อนทุกคนประหลาดใจ
และคนที่งุงงงกับเรื่องนี้มากที่สุดก็คืออิทธิ์ เขาเคยนึกตลกยุให้กันต์ไปสารภาพรักกับดาหลาเพราะอยากเห็นกันต์ถูกดาหลาปฏิเสธ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมดาหลาถึงไปเดินควงกับผู้ชายคนนี้ได้
ดาหลายิ้มร่าเริงเมื่อเดินเคียงข้างชายหนุ่ม “ได้ยินมาว่าร้านนั้นมีเค้กอร่อยมากด้วย”
กันต์ยิ้มตอบ “ดีเลย ผมก็อยากลองเหมือนกัน” ทั้งสองเดินออกจากออฟฟิศไปด้วยกันอย่างสบายใจ
อิทธิ์มองตามด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นกันต์เริ่มทำตัวเด่นเกินหน้าเขา
คาเฟ่เปิดใหม่ใกล้ ๆ ที่ทำงานตกแต่งด้วยโทนสว่าง ผนังทาสีขาวสะอาดตาประดับด้วยภาพวาดสีสันสดใส ต้นไม้เล็ก ๆ ในกระถางเพิ่มความสดชื่นให้กับร้าน โต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้สีอ่อนจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดใหม่ลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นของขนมอบที่เพิ่งออกจากเตาวางเรียงรายอยู่ในตู้กระจกหน้าร้าน เสียงเครื่องทำกาแฟคลอเคลียกับเสียงเพลงเบา ๆ ทำให้บรรยากาศในร้านยิ่งอบอุ่นและผ่อนคลายมากขึ้น
กันต์และดาหลานั่งที่โต๊ะติดหน้าต่างมองเห็นวิวถนนด้านนอกที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา ลูกคหลายคนนั่งจิบกาแฟและทานขนมอยู่ที่โต๊ะ บ้างก็สนทนาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข บ้างก็นั่งอ่านหนังสือหรือทำงานบนแล็ปท็อปด้วยความตั้งใจ กันต์สั่งกาแฟคาปูชิโน่เย็นและพาสต้า ส่วนดาหลาสั่งอเมริกาโน่ร้อนและเค้กสตรอว์เบอร์รี
“ร้านนี้บรรยากาศดีมากเลยนะคะ” ดาหลากล่าวขณะชิมเค้กสตรอว์เบอร์รี
กันต์ยิ้ม “ใช่ ผมก็ชอบร้านนี้ กาแฟรสชาติดีทีเดียว”
ดาหลายิ้มตอบ “กันต์มาที่นี่บ่อยไหมคะ”
ชายหนุ่มส่ายหัว “ไม่เคยเลย เพิ่งมาครั้งแรกกับดาหลานี่แหละ แต่คิดว่าหลังจากนี้ผมคงต้องมาบ่อย ๆ”
ดาหลาหัวเราะเบา ๆ “อย่าลืมพาดาหลามาด้วยนะคะ”
“ได้สิครับ ทุกวันเลยดีไหม” กันต์ตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
ขณะที่ทั้งคู่กำลังเพลิดเพลินกับการสนทนาและหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้น ๆ ก็มีหญิงสาวเข้ามาในร้าน เป็นผู้หญิงจากฝ่ายการเงินที่เคยขอดาหลาให้แนะนำให้รู้จักกับกันต์ หญิงสาวท่าทางสดใสและมั่นใจ เธอเดินไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ แต่เมื่อเห็นกันต์และดาหลานั่งอยู่ที่โต๊ะเธอจึงก้าวมาหาทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
“อ้าวดาหลา มานานหรือยังจ๊ะ” หญิงสาวทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส
“ก็สักพักแล้ว” ดาหลาตอบด้วยสีหน้าที่คาดไม่ถึง
“ส่วนคนนี้…” สาวการเงินหันไปทางชายหนุ่ม
“นี่กันต์ เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศ กันต์ นี่มินตราจากฝ่ายการเงิน” ดาหลาจึงต้องแนะนำชายหนุ่มให้เธอรู้จักอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“สวัสดีครับมินตรา” ชายหนุ่มยิ้มให้เธออย่างเป็นกันเอง
“เรียกมินเถอะค่ะ มินขอนั่งด้วยนะคะ คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” มินตรานั่งลงข้าง ๆ ดาหลาและเริ่มพูดคุยกับกันต์อย่างสนิทสนม
“ช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้างคะ ได้ยินดาหลาบอกว่ายุ่งมากเลย” มินตรายิ้มและพูดกับชายหนุ่ม
“ยุ่ง” ดาหลาพูดแทรก “ยุ่งมากด้วย”
มินตราหันมามองหน้าดาหลา “งานก็แบบนี้แหละ ดูสิทำงานจนหน้าเครียดหมดแล้ว”
‘แกน่ะสิยัยมินยุ่งไม่เข้าเรื่อง’ ดาหลาคิด รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นมินตราพูดคุยกับกันต์อย่างใกล้ชิด เธอพยายามรักษามารยาท แต่ความไม่พอใจเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนบนใบหน้า
“คุณกันต์นี่ก็หล่อไม่เบาเลยนะคะ” มินตราชมพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “ดาหลานี่โชคดีมากที่ในออฟฟิศมีผู้ชายหล่อ ๆ ด้วย”
“แล้วออฟฟิศการเงินไม่มีผู้ชายหล่อ ๆ แล้วหรือยังไง” ดาหลาพยายามยิ้มแต่ฝืนเก็บความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้
“โอ๊ย ผู้ชายแถวนั้นนะ ถ้าไม่แต่งงานแล้วก็เหลือแต่พวกแก่ ๆ ส่วนที่หล่อ ๆ ก็หันมากินกันเอง” มินตราพูดพร้อมกับเบะปากมองบน
การสนทนาของมินตราเป็นไปอย่างสนุกสนาน ไม่นานเธอกับชายหนุ่มก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ดาหลาแอบบันทึกเบอร์ของกันต์ไว้ ขณะเดียวกันก็มองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เริ่มแสดงความหึงหวงขึ้นมาแต่ต้องพยายามข่มอาการ
“พรุ่งนี้คุณกันต์มีนัดหรือยังคะ ไปทานข้าวกลางวันด้วยกันไหม มินอยากจะชวนไปทานข้าวที่ร้านอาหารเปิดใหม่แถว ๆ นี้” มินตราพูดพร้อมรอยยิ้มกว้าง รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ชายหนุ่มชำเลืองมองดาหลาที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้าเล่นปลายผมตัวเอง “พรุ่งนี้มีนัดกับดาหลาแล้วครับ”
หญิงสาวที่กำลังน้อยใจเงยหน้าขึ้น แก้มเธอแดงระเรื่อ
“อะไร นี่เธอทั้งสองคนกำลังคบกันอยู่หรือเปล่า ฉันมาเป็นมือที่สามหรือยังไงเนี่ย” มินตราถามเข้าประเด็นทันที
“ไม่นะ คือว่า…” ดาหลาพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบ
“ผมแอบชอบดาหลาข้างเดียวน่ะครับ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ” กันต์ตอบพร้อมกับหันไปยิ้มให้ดาหลา “แต่ดาหลาน่าจะคิดกับผมแค่เพื่อนร่วมงาน”
‘นั่นไม่จริงเลย’ ดาหลาพูดในใจ
“อะไรเนี่ยดาหลา มีผู้ชายน่ารักแบบนี้มาแอบชอบทั้งคนแต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอนี่มันโง่มากเลยรู้ตัวไหม” มินตราหันไปตำหนิดาหลา แล้วฉีกยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มอีกครั้ง
“ตัดใจจากดาหลาได้เมื่อไหร่มินรออยู่ที่ฝ่ายการเงินนะคะ” พูดจบมินตราจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้านทันที ไม่ลืมที่จะหันมาฉีกยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย
กันต์และดาหลายังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ในขณะที่ความรู้สึกว้าวุ่นเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของหญิงสาว แต่กันต์กลับพยายามที่จะรักษาระยะห่างความสัมพันธ์ระหว่างเขากับดาหลาไม่ให้ใกล้ชิดจนเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อวันใหม่มาถึงเธอก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง และเขาก็จะกลับไปอยู่ในสถานะแค่เพื่อนร่วมงานดังเดิม