หญิงสาวที่มีอดีตที่ทำให้ไม่สามารถพูดคำพูดออกมาได้อย่างใจ กับชายหนุ่มที่เขาเองก็มีภูมิหลังที่แสนมืดมน แต่กลับเป็นคนที่มีความรู้สึกชัดเจนกว่าคนอื่น เขาจะสามารถคว้าหัวใจของเธอมาได้มั้ย และเธอจะสามารถเปิดใจพูดและเรียกหาเขาได้รึเปล่า?
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,รักมหาลัย,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บ้านเก่าแก่แบบญี่ปุ่นโบราณชั้นเดียว สวนภายในบ้านที่แสนกว้างขวาง น้ำที่ไหลผ่านกระบอกไม้ไผ่กระทบกับ ก้อนหินจนเกิดเสียง ภายในบ้านที่สวยงามนี้ภายนอกกลับไม่มีใครรู้เลยว่ามันคือที่อยู่ของตระกูลอาซากุระแก๊งมาเฟียที่มีอิทธิพลมากที่สุดของอิตาลีในอดีต
ภายในบ้านที่เงียบสงบกลับมีห้องหนึ่งที่มีผู้คนมารวมตัวกันมากที่สุด
"ตอนนี้คาซึมิเป็นยังไงบ้าง"
คำพูดของชายวัยกลางคนที่พูดออกมาอย่างสุขุม หน้าตาที่ขัดกับอายุที่เข้าเลข 4 อย่างน่าเหลือเชื่อ มีลักษณะผมยาวสีขาวและมีสีดำที่ตรงปอยผมด้านหน้าเล็กน้อยมัดรวบผมพอหลวมๆ พาดมาด้านข้างหนึ่งข้าง ดวงตาสีฟ้าอ่อน อาซากุระ โคสุเกะพ่อของคาซึมิถามเรื่องลูกสาวของตนกับลูกน้องที่นั่งอยู่ภายในห้อง ถึงเขาจะมีรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามแต่ก็เป็นคนที่รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใด
"คุณหนูก็ยังคงเหมือนเดิมครับนายท่าน ไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไรเช่นเคย"
ลูโตะ ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำอายุยี่สิบเก้าพูดตอบด้วยเสียงที่นิ่งสงบ เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมสีทองอ่อนกับดวงตาสีน้ำทะเล และมีส่วนสูง178 ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเลยทำให้เขาเป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มสาวเป็นอย่างมาก
"งั้นเหรอ สุขภาพของเธอละ"
"สุขภาพปกติดีครับ เพียงแค่ตอนเช้ามีอาการหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย แต่หมอประจำตัวบอกว่าไม่ส่งผลกับร่างกายจนถึงขนาดเข้าขั้นน่าเป็นห่วงครับ"
ลูโตะรายงานสถานการณ์ที่ทำเป็นประจำทุกวันเสร็จ โคสุเกะก็ทำหน้าเครียดเล็กน้อย บ่งบอกว่าเขารับรู้เรื่องทั้งหมด
"คุณหนูเนี่ยจะกลับมาพูดกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนใช่มั้ยครับ"
"นั่นสิ"
ลูกน้องอีกสองคนที่นั่งอยู่มุมห้องพูดขึ้น พวกเขาเองก็หวังให้คุณหนูที่ตนรับใช้มาตั้งแต่ยังเด็กกลับมาแข็งแรงและพูดคุยกับตัวเองอีกครั้ง เพราะถึงแม้จะได้ชื่อว่ามาเฟียแต่ก็อยู่กันแบบครอบครัวไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจที่เป็นสาเหตุทำให้คาซึมิไม่สามารถพูดคำพูดออกมาได้อย่างใจนึก ครอบครัวที่มีแต่เสียงคึกคักและมีรอยยิ้มกันอยู่เสมอก็ได้หายไป เหลือไว้แต่เพียงความรู้สึกผิดที่วันนั้นไม่สามารถปกป้องนายของตนเอาไว้ได้ ถึงแม้ตัวของโคสุเกะที่เป็นหัวหน้าของแก๊งจะไมได้กล่าวโทษคนในเครือของตัวเอง แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดีว่าหากวันนั้นพวกเขาไม่ประมาท คุณหนูคาซึมิก็คงจะพูดได้เหมือนปกติ และนายหญิงภรรยาของโคสุเกะก็คงจะไม่เสียชีวิตในวันนั้น
"จะว่าไปวันนี้เป็นวันที่คาซึมิต้องไปโรงพยาบาลใหญ่สินะ"
"ครับนายท่าน"
ลูโตะตอบโคสุเกะกลับทันที
ถึงโรงพยาบาลใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลที่ทางเราให้การสนับสนุน และมีคนของทางนี้อยู่ไม่น้อยเพื่อป้องกันความปลอดภัยอยู่เสมอ แต่การเดินทางไปไกลก็น่ารำคาญแฮะ โคสุเกะคิดแล้วก็เดินออกมาจากห้องเพื่อไปอีกห้องหนึ่ง
เมื่อเดินถึงหน้าห้องโคสุเกะก็มีท่าทางยึกยัก ปนลังเลเล็กน้อย สีหน้าที่รู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจเริ่มเผยออกมาเล็กน้อย แต่ไม่ทันได้ยื่นมือออกไป ประตูก็ถูกเปิดออกจนโคสุเกะผงะไปนิดนึง
คนที่เปิดประตูออกมาก็คืออาซากุระ คาซึมิ ลูกสาวของ อาซากุระ โคสุเกะ และเป็นคุณหนูเพียงคนเดียวแห่งแก๊งอาซากุระ เธอมีรูปร่างผอมบางแต่ก็คงความสมส่วนอยู่เล็กน้อย ผมสีขาวยาวจนถึงเอวและดวงตากลมโตสีฟ้ามุกเหมือนดอกเนโมฟีล่า เธอพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์แล้วยื่นไปให้โคสุเกะอ่าน
"พ่อทำอะไรอยู่ตรงนี้เหรอคะ?"
"อ่า พ่อกำลังจะมาเรียกไปโรงพยาบาลน่ะ...."
พูดจบโคสุเกะก็สังเกตเห็นว่าคาซึมิใส่เสื้อเชิ้ดสีขาวแขนยาว กระโปรงดำสั้นถึงต้นขา กับผมที่หวีจนเรียบร้อย
"เตรียมตัวเสร็จแล้วสินะ"
คาซึมิพยักหน้าตอบก่อนจะเดินออกมาจากห้องแล้วจับมือของโคสุเกะ
"ไปกันเถอะค่ะ"
โคสุเกะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินจูงมือคาซึมิไปส่งขึ้นรถที่จอดเตรียมไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อเดินออกไปด้านหน้าก็มีลูโตะคอยยืนเตรียมเปิดประตูรถ
"ฝากด้วยนะ"
โคสุเกะกล่าวกับลูโตะหลังจากคาซึมิขึ้นรถ ลูโตะก็โน้มตัวลงเพื่อแสดงถึงว่าเขาจะคอยดูแลอย่างดีที่สุด
เมื่อถึงโรงพยาบาลคาซึมิก็เข้ารับการตรวจทันที ถึงจะทำเป็นกิจวัตรประจำวันทุกวันแต่ก็เหนื่อยได้ตลอดเลย คาซึมิบ่นพึมพำในใจจนแสดงสีหน้าออกมาจนขนาดหมอยังสังเกตุเห็น
"ฮึ"
หมอที่กำลังตรวจร่างกายนั่งอยู่ข้างหน้าหลุดขำออกมาเล็กน้อยจนคาซึมิสะดุ้ง และยกมือถือขึ้นมา
"หนูแสดงสีหน้าชัดขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"
"ครับ วันนี้แสดงออกมากกว่าปกติ แต่ถึงคุณหนูจะแสดงออกแบบนั้นก็ต้องมาตรวจทุกวันอยู่ดีนะครับ ห้ามขาดการตรวจเด็ดขาดเลย"
คาซึมิพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าร่างกายตัวเองเป็นยังไง แต่ก็เข้าใจว่าคุณพ่อกับทุกคนเองก็เป็นห่วงเพราะแบบนั้นเลยยอมเข้ารักษาทุกวัน ฉันเองก็ไม่อยากทำให้ทุกคนเป็นห่วง ฉันเองก็สมเพชตัวเองอยู่ไม่น้อย แค่พูดยังทำไม่ได้เลย.....
ตรวจเสร็จก็ออกมารอผลตรวจอยู่บริเวณที่นั่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับแขกพิเศษ คาซึมินั่งรอระหว่างที่ลูโตะไปเอาผลการรักษา ระหว่างนั่งรอเธอก็คิดเรื่องนู้นเรื่องนี้จนไม่สังเกตุรอบข้าง เมื่อรู้สึกตัวเธอก็ตกใจกับคที่ยืนอยู่ด้านข้างจนตัวเองนิ่งไปพักนึง คนที่อยู่ด้านข้างเป็นชายหนุ่มที่มีผมสีดำเหมือนท้องฟ้ายามคำคืน กับดวงตาที่เหมือนกับสีของท้องทะเล เขาก้มตัวลงมาเล็กน้อยจนสายตาอยู่ระดับเดียวกัน
"อืม ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ อยากจะรบกวนถามว่าห้องพักของผู้ป่วยฉุกเฉินไปทานไหนน่ะครับ พอดีพึ่งเคยมาโรงพยาบาลนี้ครั้งแรกเลยยังงงๆ อยู่บ้าง"
คาซึมิงงงวยพักนึงก่อนจะคิดว่าถ้าไม่รู้ทางทำไมถึงไม่ถามพยาบาลแถวนี้ แต่เมื่อลองสังเกตด้านหลังก็พบว่าไม่มีคนคอยอยู่ตรงเคาน์เตอร์ น่าจะมีเคสด่วนรึเปล่านะ เธอยกมือถือขึ้นมาเพื่อพิมพ์บอกทาง ระหว่างที่กำลังพิมพ์ชายหนุ่มก็เหมือนจะตกใจเล็กน้อย แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างดึงดูด คาซึมิพิมพ์เสร็จก็ยื่นมือถือให้เขาดู
"ถ้าห้องฉุกเฉินน่าอยู่ด้านในสุดตามทางเดินนี้นะคะ เดินไปสักพักเดี๋ยวก็เจอคุณหมอที่ประจำอยู่แถวนั้น ลองถามอีกทีเพื่อความมั่นใจก็ได้นะคะ"
ถึงเธอจะมาที่ี่เป็นประจำแต่ก็ไม่เคยเดินสำรวจในโรงพยาบาลเลยสักครั้ง ถึงจะไม่มั่นใจแต่ก็เคยได้ยินคุณหมอพูดอยู่บ้างบางครั้ง
เธอสังเกตว่าอีกฝ่ายไม่มีเสียงตอบกลับ เลยเริ่มกังวลว่าตัวเองพิมพ์อธิบายได้รู้เรื่องรึเปล่า จึงพิมพ์ถามเขาไปอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
"คือว่า ฉันพิมพ์ไม่ดีงั้นเหรอคะ?"
"อ่า"
เขาดูนิ่งมากเลย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่เราน่าจะอธิบายพอเข้าใจอยู่รึเปล่านะ
"เปล่าหรอก พอดีฉันตกใจน่ะที่เห็นเธอกดมือถือ มันดูน่าสนใจดีนะ"
น่าสนใจ? ฉันที่คิดว่ามันแปลกประหลาดที่ใช้มือถือในการสื่อสาร แต่เขากลับบอกว่ามันน่าสนใจอย่างนั้นเหรอ คาซึมิเอียงหัวเล็กน้อยแสดงสีหน้างงว่าเขาคนนี้เป็นคนที่แปลกจริงๆ
"พอดีฉันไม่สามารถพูดออกมาได้ เลยใช้มือถือแทนในการสื่อสารน่ะค่ะ แล้วก็มันไม่ได้น่าสนใจหรอกค่ะ"
เธอบอกแบบนั้นพร้อมกับก้มหน้าลงเล็กน้อย สีหน้าเริ่มหม่นหมองลง เขาเห็นท่าทีแบบนั้นของเธอก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยคุยกับผู้หญิงด้วยวิธีแบบนี้มาก่อน เลยกำลังคิดว่าตัวเองพูดอะไรไม่ดีออกไปรึเปล่า ถึงจะคิดไปคิดมามันก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเขาจึงนั่งย่อตัวลงมาแล้วบอกกับเธอ
"เธอ เอ่อ....จะเรียกว่าเธอแบบนี้ก็ดูจะแปลกๆ ฉันชื่อคุโระ อาคิยะ ยินดีที่ได้รู้จัก เธอบอกชื่อได้รึเปล่า?"
"....อาซากุระ คาซึมิค่ะ"
"งั้นเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะคาซึมิ แย่ล่ะสิคงต้องไปแล้วล่ะ ถ้ามีโอกาสฉันขอให้เจอกันอีกนะ ขอตัวก่อน"
เขาลุกขึ้นแล้วก็รีบเดินไป แต่อาคิยะก็หยุดชะงักก่อนจะหันกลับมาพูดบางอย่าง
"สำหรับฉันมันน่าสนใจดีนะ ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่เธอบอกว่าไม่สามารถพูดออกมาได้ งั้นแสดงว่าเธอพูดได้สินะ ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวก็มีวันที่เธอได้มีความสุขจากใจจริงๆ แน่นอน"
พูดจบอาคิยะก็หันกลับไป ความกังวลของเธอก็หายวับไป
น่าแปลก
ทั้งที่เป็นคนที่เพิ่งเคยเจอกันแต่กลับรู้สึกว่าจะพูดคุยด้วยได้อย่างสบายใจ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดอะไรไม่รู้ก็เถอะนะ....เป็นคนที่แปลกจริงๆ เลย อยู่ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ เอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว ฉันยังไม่ทันได้คิด....เอ๊ะ? เขาเรียกฉันว่าอะไรนะ คาซึ คาซึมิงั้นเหรอ?! พึ่งเจอกันแท้ๆ แต่เรียกชื่อกันแบบนี้ ได้ด้วยงั้นเหรอ หรือว่าเป็นปกติของการคุยกันในช่วงวัยนี้รึเปล่านะ
"คุณหนูขอโทษที่ให้รอนานนะครับ พอดีวันนี้คนจะเยอะเป็นพิเศษเลยล่าช้าสักหน่อย"
คาซึมิหันหลังกลับไปก็เห็นลูโตะที่ไปเอาเอกสารการตรวจสุขภาพได้กลับมาแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
"ว่าแต่คนคนนั้นคือใครงั้นเหรอครับ เห็นคุยกับคุณหนูอยู่นาน"
ลูโตะพูดพร้อมกับเหลือบตามองไปที่อาคิยะที่เดินลับไปตามทางเดิน คาซึมิเห็นว่าลูโตะทำท่าเหมือนจะไปลากคอกลับมาแล้วทำเรื่องไม่ดีก็รู้สึกใจไม่ดีจนแสดงออกทางสีหน้า ลูโตะที่สังเกตเห็นจึงได้ผ่อนอารมณ์ลง
"อ่า ขออภัยครับ พอดีความปลอดภัยของคุณหนูเป็นสิ่งสำคัญเลยต้องระวังไว้ให้มาก"
คาซึมิเห็นว่าอารมณ์ลดลงแล้วก็โล่งใจ ถ้าเมื่อกี้ลูโตะเป็นคนใจร้อนล่ะก็คงเกิดเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ผลตรวจที่ได้วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวัน แต่รู้สึกว่าอัตราการเต้นของหัวใจจะถี่กว่าวันอื่นอยู่ประมาณนึง แค่เห็นผลตรวจวันนี้คาซึมิก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปนึกเรื่องอื่นๆ อีก ได้แค่ถอนหายใจเพื่อระบายอารมณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เหมือนจะไม่ดีขึ้นเท่าไหร่แฮะ