ไม้เอกเป็นฮันเตอร์คลาสอัศวิน ที่มีทั้งสกิลของการใช้มานาและดาบเวท ถือเป็นแรงค์S ที่มีเพียงหยิบมือเดียวในโลก แต่เขาต้องมาตายเพราะดันเจี้ยนเบรกนั่น!! แถมดันทะลุมาอยู่ในนิยายวันสิ้นโลก ที่มีแต่ซอมบี้อะนะ!

แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว) - บทแรก New Year New World โดย พลว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,ผจญภัย,ผจญภัย,แฟนตาซี,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,boylove,พลังพิเศษ,เคะแก่,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ต่างโลก,นิยายวาย,ทะลุมิติ,boylove,พลังพิเศษ,เคะแก่

รายละเอียด

แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว) โดย พลว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไม้เอกเป็นฮันเตอร์คลาสอัศวิน ที่มีทั้งสกิลของการใช้มานาและดาบเวท ถือเป็นแรงค์S ที่มีเพียงหยิบมือเดียวในโลก แต่เขาต้องมาตายเพราะดันเจี้ยนเบรกนั่น!! แถมดันทะลุมาอยู่ในนิยายวันสิ้นโลก ที่มีแต่ซอมบี้อะนะ!

ผู้แต่ง

พลว

เรื่องย่อ

 

ไม้เอกเป็นฮันเตอร์คลาสอัศวิน ที่มีทั้งสกิลของการใช้มานาและดาบเวท ถือเป็นแรงค์ S ที่มีเพียงหยิบมือเดียวในโลก แต่เขาต้องมาตายเพราะดันเจี้ยนเบรกบ้านั่น!! ทั้งที่แพลนในวันหยุดเขาคือการนอนอ่านนิยายในตอนจบแท้ ๆ โดนเร่งมาเคลียร์ดันเจี้ยนไม่พอ ไอ้พวกมอนบ้านั่น พอเขาพลาดท่าก็รุมกินซอยจุ๊เขาทันที

ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก

ตื่นขึ้นมาอีกที เขาดันทะลึ่งทะลุมาอยู่ในนิยายที่เขาอ่านก่อนตาย

นิยายที่ไม่มีทางจบไหนรออยู่นอกจาก Bad end

นิยายรักแฟนตาซีวันสิ้นโลก

ที่มีแต่ซอมบี้อะนะ!

หนีมอนเตอร์มาเจอซอมบี้!

พระเจ้าแกล้งเขาอยู่ใช่ไหมเนี่ยยย!

 

“นี่นายเป็นใครกันแน่” พ่อหนุ่มหล่อตัวร้ายทรงเจ้าพ่อมาเฟี* ที่ไหนสักที่เอ่ยถามเหมือนจะฆ่ากันให้ตาย

“แหม ๆ พูดกับคนที่ช่วยหลานคุณแบบนี้ เป็นผู้ปกครองที่ดีจังเลยนะครับ คุณพชร” ไม้เอกตอบกลับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มหวาน แต่ในใจนั้น…

เหี้*แล้ว ทำไมเด็กน้อยน่ารักเหมือนนางฟ้าคนนั้นที่เขาช่วยไว้ถึงกลายเป็นหลานหมาบ้าแบบหมอนี่ได้กัน! สวรรค์ผิดพลาดตรงไหนรึเปล่าครับ!

 

 

ไม้เอก (26) x คุณพชร (30)

พระเอก x นายเอก

 

 

สวัสดีค่า วันนี้พิมาเปิดเรื่องใหม่ล่ะ!

เรื่องนี้จะเน้นแนวแฟนตาซี เลี้ยงเด็ก เอาชีวิตรอด เป็นส่วนใหญ่นะคะ

จะไม่ค่อยมีเลิฟไลน์ หรือซีนหวานเท่าไหร่

(เพราะส่วนมากมีแต่ซีนกัดกันมากกว่า แหะ)

เรื่องนี้จะมีทั้งคู่หลักที่เป็นชายชาย และคู่รองชายหญิงนะคะ

ที่สำคัญคือไม่ต้องกลัวดราม่า! แถมจบดีแน่นอน เพราะนักเขียนสายสุขนิยมค่ะ (ฮา)

ตั้งใจว่าจะเขียนแบบเบาสมองไปด้วย

เอนจอยรี้ดดิ้งนะคะคุณนักอ่านทุกท่าน!

ปล. อย่าลืมอ่านคำเตือนกันด้วยนะคะ🙌

#แผนเอาชีวิตรอดของไม้เอก

ปกชั่วคราว :

ไทโปผลงานจากคุณนักวาด แอคทวิตเตอร์ @MidnightSunSyn

พื้นหลังรูปฟรีจากเว็บ pixabay.com ผลงานของคุณ @Tama66

 

 


 

**คำเตือน** นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายรักชาย มีการใช้คำหยาบ /สบถ ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด การกระทำของตัวละครในเรื่องในบางครั้งอาจมีการทำผิดศีลธรรม กักขัง หน่วงเหนี่ยว การเสียชีวิตของคนหมู่มาก ( ช่วงบรรยายพาทนิยายออริ ) มีการบรรยายถึงศพ /อะไรที่ชวนหยี๋ อธิ การอธิบายลักษณะซอมบี้ การกระทำบางครั้งอาจไม่สมเหตุสมผล แต่นักเขียนจะพยายามหาเหตุผลมารองรับ และเขียนให้มีเหตุผลมากที่สุด(?)

 

 

 



 

เปิดเรื่อง : 07/06/67

จบเรื่อง : XX/XX/XX

 

 

สารบัญ

แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว)-บทนำ 00,แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว)-บทแรก New Year New World ,แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว)-บทสอง ไอ้พวกที่เอาเข็มมาเล่นมันไม่ควรอยู่ดี!,แผนการเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลกของไม้เอก คือการไม่มีแผนยังไงล่ะ! (ปกชั่วคราว)-บทที่สาม โกเล็มซอมบี้1/2

เนื้อหา

บทแรก New Year New World


 

บทแรก

New year New world

 

 

 

ไม้เอกจำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงปีใหม่

 

 

ที่มันไม่ได้ต่างอะไรจากเดิม

 

 

คนที่ทำงานก็ยังคงหัวหมุนกับงานวนไป คนที่ใช้ชีวิตก็ใช้ไป ส่วนเขาที่ตอนแรกก็ใช้ชีวิตสงบสุขในวันหยุดมาทั้งวัน นั่งอ่านนิยายเรื่องโปรด จนทางสมาคมมาแจ้งว่ามีดันเจี้ยนเบรก

 

 

ใช่ ชีวิตอันสงบสุขของเขาจบที่ตรงนั้น

 

ตรงหน้าดันเจี้ยนบ้านั่นนั่นแหละ

 

 

 

ภายในห้องพักสีนวลตา แสงตะวันลอดผ่านม่านผืนหนาตกกระทบหน้าชายหนุ่มบนเตียงตามแบบฉบับของห้องพักในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ เตียงที่ยังคงนุ่ม ไม่มีฝุ่นเหมือนได้รับการทำความสะอาดอยู่ตลอด

 

ร่างบนเตียงนั้นเริ่มขยับตัว เปลือกตากระพริบแผ่วเบา

 

กลิ่นเย็น ๆ เป็นกลิ่นแรกที่ไม้เอกได้กลิ่น ใบหน้าได้รูปคมสันย่นจมูกกับกลิ่นที่ไม่คุ้นชิน ก่อนที่ร่างสูงจะยันกายลุกขึ้นนั่ง พลางส่องสายตาสำรวจสถานที่ที่ไม่คุ้นตา

 

 

ห้องกว้างโทนสีขาวสบายตา เฟอร์นิเจอร์ไม่มากไม่น้อยไปเหมือนโรงพยาบาลสักแห่ง

 

แต่ที่เขาจำได้คือเขาโดนมอนเตอร์ตัวใหญ่รุมทึ้งหน้าเกตบ้านั่นตอนมันเปลี่ยนประเภทพอดี

 

 

ความรู้สึกตอนโดนฉีกกระชากร่างเขายังจำได้ไม่ลืม แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่เป็นอะไรเลยเนี่ยนะ

 

 

มือหนายกขึ้นมาลูบใบหน้าแผ่วเบา

 

 

“เดี๋ยว…” เสียงแหบพร่าดังออกมาจากลำคอเหมือนคนที่ไม่ได้ออกเสียงมานานทำเขาตระหนก แถมใบหน้าเขาที่ไม่สากเท่าเดิม หนวดก็ไม่มี …

 

 

แม้ในใจจะค้านว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็วิ่งไปทางห้องที่คิดว่าเป็นห้องน้ำแล้ว

 

ตอนนี้ดีไซน์ที่นี่จะสะอาดหรือแปลกตาขนาดไหนก็ทำให้เขาอึ้งไม่เท่าใบหน้าที่เขาเห็นในกระจก ใบหน้าที่เหมือนเขาในช่วงยี่สิบต้น ๆ ต่างจากใบหน้าเขาวัยสามสิบปีตามปกติ ความต่างอีกอย่างก็คือนัยตาสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ และปลายผมที่ติดสีน้ำเงินหน่อย ๆ จากเดิมที่ดำล้วนทั้งตาและผม

 

รูปร่างในตอนนี้ของเขาถือว่าอยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี แม้เขาจะแปลกใจว่าเอาสารอาหารมาจากไหนก็ตาม เพราะเท่าที่ลองสำรวจคร่าว ๆ ภายในห้องนี้น่าจะไม่มีคนเข้าออกเป็นเวลานาน แม้จะคล้ายโรงพยาบาลแต่กลับมีกลิ่นที่อับ และกลิ่นยาในอากาศก็เบาบางเสียจนแทบไม่ได้กลิ่น

 

แต่พอเดินไปเปิดม่านออกดู…เขาค่อยรู้สาเหตุ

 

 

ภาพตึกสูง บ้านเรือน หรือแม้แต่ถนนที่เสื่อมสภาพลงจนหักพัง ภาพเถาวัลย์ ต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นตามพื้นที่ว่างจนดูรกร้างทำเขาแทบจะลืมหายใจ

 

และทำให้เขารู้ได้ว่าโลกนี้ไม่ใช่โลกที่เขาเคยอยู่อีกต่อไปแล้ว…

 

 

โดยเฉพาะร่างอะไรบางอย่างที่อยู่บนถนน ที่รูปร่างคล้ายศพเดินได้นั่น

 

ถ้าเขาจำไม่ผิดรูปร่างมันคล้ายอันเดด* ที่เขาเคยเจอในดันเจี้ยนสุสานไม่มีผิด

 

เอาล่ะ ถ้าโลกที่เขาเคยอยู่มันมีดันเจี้ยนโผล่มาจนทำให้คนธรรมดาอเวคได้

 

โลกที่มีซอมบี้มันก็ไม่น่าต่างกันเท่าไหร่หรอก!

 

 

“หน้าต่างสถานะ”

… เงียบ

“ระบบ”

… เงียบอีก

“สถานะ”

… เอาจริงดิ ถ้าไม่มีอีกเขาเริ่มเครียดแล้วนะ

“สเตตัส”

 

ติ้ง!

 

[หน้าต่างสเตตัส

ชื่อ : ไม้เอก (26) [ไม้เอก (36) ]

เลเวล : 15

สกิล : อัสนีสีทมิฬ (S) ,อัคคีสีคราม (S)

สภาพร่างกาย : อ่อนล้า

โจมตี : 15

ว่องไว : 10

ต้านทาน : 35

แต้มพิเศษ : -]

 

โอ้ มีสกิลระดับ S ตั้งสองสกิลเลย

 

แถมร่างนี้มีชื่อกับหน้าตาเหมือนเขาอีก

 

แปลกชะมัด

 

 

แม้จะแคลงใจ แต่อันดับแรกเขาว่าเขาควรออกกำลังกายคร่าว ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้หน่อยดีกว่า ไม่มีใครรู้ว่าซอมบี้จะบุกเข้ามาในห้องที่เขาพักอยู่ตอนไหน หรืออนาคตอันใกล้นี้จะมีอะไร อย่างน้อยเขาก็ต้องมีชีวิตรอด

 

จะเสียชื่อไม้เอกฮันเตอร์สายนักรบเวทย์อันดับหนึ่งไม่ได้สิ

 

 

ถึงมันจะอยู่คนละโลก? คนละมิติ? ก็เถอะนะ

ช่างเถอะ

 

 

 

หลังจากที่เขาวอร์มอัพร่างกายพอประมาณ อย่างการวิ่งรอบห้องพัก และการออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ เวลาก็ล่วงเลยมาช่วงบ่ายแก่ ตามจริงเขาออกกำลังกายพอให้ร่างกายคลายตัวเฉย ๆ นั่นแหละ เวลาวิ่งจะได้ไม่ผิดเส้นและปวดขามาก ประสบการณ์ตรงจากการไปขาพลิกในดันเจี้ยนน่ะ

 

 

มันไม่ตลกซักนิด

 

 

เสื้อผ้าที่พอหาได้ในห้องมีแค่ตัวที่ใส่แล้วไม่พอดีเท่าไหร่นัก เดาว่าร่างนี้คงอยู่ในที่นี่มานานพอสมควร เขาวางชุดไว้ที่เดิม เตรียมเสื้อมาใส่และพันแขนขาไว้ให้หนา อย่างน้อยก็เอาแค่คล่องตัวและมั่นใจว่าพวกซอมบี้ข้างนอกจะกัดไม่เข้าน่ะนะ

 

ที่ขาดไม่ได้คงเป็นการเตรียมตัวสำหรับการสำรวจในช่วงเย็นนี้อย่างการหาอาวุธติดตัวไว้สักหน่อย

 

ยังดีที่มีมีดปอกผลไม้อยู่สองเล่ม

 

มือหนากำชับมีดไว้แน่น ก่อนจะแง้มประตูออกไปอย่างเงียบเชียบ

 

กลิ่นเน่าคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ ทั้งเพดาน ผนัง และพื้นเกลื่อนไปด้วยรอยคราบเลือดเกรอะกรัง มีศพสภาพดูไม่จืดประปรายทุกที่ที่ผ่าน บางห้องมีร่องรอยของการบุกเข้าไป แต่บางห้องก็ไม่มีแม้แต่รอยบุกค้น เช่น ห้องที่เขาตื่นขึ้นมา

 

เหมือนพวกนั้นจะสัมผัสกระแสชีวิตของเขาไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น

 

ไม้เอกที่อยู่ห้องพักกลาง ๆ ไม่สูงมากนัก เขาเดินขึ้นไปสำรวจชั้นบนก่อน ถึงเขาจะไม่รู้ก็เถอะว่าตัดสินใจถูกไหม เพราะในดันเจี้ยนพวกบอสไม่อยู่ดาดฟ้า ก็อยู่ใต้ดิน แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหนของโลก

 

แต่การสำรวจไว้ก็ไม่เสียหายหรอก

 

ครืน น … กึก … ก

 

!

 

ขายาวชะงักตรงทางสามแยกตัวที ก่อนจะพาตัวเองถอยกลับเข้ามาในทางเดิม

 

ไม้เอกยืนนิ่งรอดูสถานการณ์ มือกำมีดปอกผลไม้ไว้แน่น พอเห็นซอมบี้ตัวนึงเดินผ่านไปสักพักแล้วไม่มีตัวอื่น จึงปักมีดลงกลางหัวซอมบี้ตัวนั้นแน่นแล้วตวัดออก มือข้างที่ว่างกำชับด้ามมีดก่อนปาดคอซ้ำอีกครั้ง ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววิ

 

แกร็ก

 

คิ้วเข้มขมวดเน้น นัยน์ตาสีเข้มก้มมองเศษเม็ดสีฟ้าที่หลุดมาจากตรงคอซอมบี้ กลิ้งมาตกตรงแทบเท้า

 

นี่มันเหมือนคอร์มอนสเตอร์ในโลกที่แล้วของเขาไม่มีผิด

 

 

ปากหยักเม้มแน่นก่อนหยิบมีดตวัดปาดเอาสิ่งนั้นออกมาจากคอของร่างซอมบี้ตรงหน้าจนหมด

 

มือหนาหยิบก้อนนั้นขึ้นมาไว้ในมือ ขนาดโดยรวมไม่ใหญ่มาก เท่าประมาณนิ้วโป้งเขาเลย “ไม่กลม… เป็นทรงเหลี่ยม ๆ ไม่มีรูปชัดเจนสินะ…”

 

ถึงจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รวบรวมไว้ก็ไม่สาย บางทีเขาอาจจะได้อะไรดี ๆ ก็ได้หนิ จริงไหม?

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน มหกรรมล้างบางซอมบี้ในโรงพยาบาลก็เกิดขึ้น

 

 

แม้จะไม่มีใครรู้ก็ตาม

 

แต่…

 

จะไม่มีใครรู้จริงหรือ?

 

 

 

 

 

 

แกร็ก

 

เสียงเปิดประตูจากห้องหนึ่งในชั้นบนสุดของโรงพยาบาลดังขึ้น

 

ดาวตากลมโตของเด็กหญิงวัยไม่ถึงสิบขวบดีโผล่แนบออกมาทางประตูด้วยจิตใจที่สั่นกลัว

 

เธอจำได้ว่ากำลังไปเที่ยวกับพวกพี่ตัวโตรอคุณน้าไปทำงานที่ต่างประเทศ

 

แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน

 

 

…มันมืดและน่ากลัวมากเลย ทุกคนหายไปไหนกันหมด…

 

 

ขาเล็กพาร่างออกมาจากห้อง เดินไปตามทางที่มืดสนิท

 

หวังจะหาคนที่ตนรู้จัก

 

แค่สักคนยังดี…

 

“คุณน้า… พี่ตัวโต… ฮึก… อ อยู่ไหนกันค—-”

 

กรี๊ซซ

 

 

เสียงแสบแก้วหูดังขึ้น เด็กเล็กหันไปตามเสียงด้านหลัง พบหนึ่งในพี่ตัวโตที่กำลังตามหาวิ่งมา

 

 

แต่ทำไมแขนพี่เขาเบี้ยว… และตาพี่เขาหายข้างนึงล่ะ…

 

 

กรี๊ซซ!

 

 

พอเข้ามาใกล้ เธอถึงเห็นว่าพี่เขาจำเธอไม่ได้สักนิด

 

แถมยังอ้าปากเหมือนจะกัดเธออย่างไรอย่างนั้น

 

ไม่ทันได้เข้ามาใกล้

 

จู่ ๆ ก็มีใครสักคนมาบังเธอไว้และจัดการพี่ตัวโตไป

 

เด็กเล็กเงยหน้ามองผู้ชายตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า คนนั้นพันแขนเป็นก้อนอะไรสักอย่าง

 

 

“นี่ยัยเปี๊ยก เป็นอะไรรึเปล่า”

 

 

ถ้าไม่ใช่พี่คนนี้ช่วยไว้เธอคงตายไปแล้ว…

 

 

“ฮึก… อ ฮื่อ”

“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวสิ มานี่ ๆ อย่—-”

 

 

ไม่รู้ว่าพี่คนใจดีคนนี้เป็นใคร แต่กอดอุ่นจัง…

 

เหมือนกอดคุณน้าเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ไม้เอกกำลังคิดหนัก

 

ใช่ เขาคิดหนักมาก

 

หลังจากที่สำรวจจนมาถึงชั้นบนสุด เขาเจอเด็กตัวเล็กคนหนึ่ง อายุน่าจะยังไม่ถึงแปดขวบดีด้วยซ้ำ

 

เขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร มีประโยชน์แค่ไหน เพราะในโลกแบบนี้การที่หาอะไรถ่วงตัวเองมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด

 

ถึงจะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าทิ้งเด็กตัวเล็กแค่นี้ไว้ตัวคนเดียวเหมือนกัน

 

 

 

 

เลยหอบเอาเด็กที่หลับในอกนั่นเข้าห้องที่คิดว่าปลอดภัยนี่แหละ

 

เอาเป็นว่ารอเด็กนั่นตื่นก่อนค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน

 

 

 

 

“อึก…”

“หลับสบายเชียวยัยเปี๊ยก” ไม้เอกเอ่ยเสียงทัก เด็กตรงหน้าดูสะดุ้งก่อนหันมาเจอเขา แถมแทนที่จะโล่งใจ กลับถอยไปนั่งมุมห้อง

 

????

 

“ฉันไม่จับเธอกินหรอก …ตัวเปี๊ยกเดียววันนี้ยังไม่อิ่มเลยมั้ง”

 

ยัง ยังนั่งก้มหน้า

เขาพูดแรงไปเหรอ… ให้ตายสิ เขาไม่ค่อยคุยกับเด็ก ทำตัวไม่ถูกเลยอะ

แบบนี้ต้องทำยังไง … อ่าใช่!

 

ต้องให้เลือกว่าจะอยู่คนเดียวหรือไปด้วยกันสินะ! (ไม่ใช่)

 

 

“เอาเป็นว่าถ้าฟื้นแล้วฉันไปล่ะ อยู่คนเดียวไปนะ” ว่าจบก็ลุกขึ้นหันหลังเตรียมออกจากห้อง แต่เหมือนมีมือเล็ก ๆ มาจับปลายนิ้วเขาไว้ “…หือ”

 

“พ พี่ให้หนูไปด้วย…นะ” เด็กนั่นเดินก้มหน้าเต๊าะแต๊ะมาจับมือเขา แถมตาสีทองสว่างนั่นมองกันเหมือนน้ำตาจะร่วงอีก

 

ไม้เอกที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนเหงื่อไหลอาบแผ่นหลัง

 

ทำไมเขารู้สึกเหมือนรังแกเด็กจังเลยล่ะ

 

ต้องชวนคุยไหมนะ แบบว่าละลายพฤติกรรม

 

 

“เธอ … อ่านหนังสือออกไหม”

“อื้อ”

“พูดคำว่า ‘สเตตัส’ แล้วอ่านตรงสกิลให้ฟังหน่อยสิ”

 

เด็กน้อยพยักหน้าจนผมสีฟ้า ๆ ขาว ๆ นั่นเด้งไปมา ก่อนจะเบิกตากว้างกับอากาศ เดาว่าคงตื่นเต้นสินะ

 

 

“มันเขียนว่ามิติอะคุณลุง” พูดไปก็ทำหน้าสงสัยไป แต่…คุณลุง…นี่มัน

 

 

ถึงอายุเก่าเขาจะสามสิบเข้าไปแล้ว แต่ตอนนี้ ในร่างนี้หน้าเขาเพิ่งยี่สิบหกเองนะ ขอซับน้ำตาแปป ฮึก

 

 

“มิติเหรอ” นับว่าเป็นพลังที่จัดว่าเสี่ยงดวงอยู่นะเนี่ย ถ้ามีพื้นที่เยอะก็ดี แต่ถ้าไม่ใช่ก็แย่เลย “อยากเอาชีวิตรอดในโลกนี้หรือเปล่า” เขารู้ว่าความคิดเขาอาจจะน่าอึดอัดหรือใจร้ายไปสักหน่อย แต่โลกตอนนี้มันโหดร้าย เราไม่ควรใจดีจนเกินเหตุ

 

แม้จะใจเจ็บก็เถอะ

 

ไอ้ไม้เอก! ไอ้คนใจร้าย!

 

 

“อื้อ!” เด็กน้อยพยักหน้าทันที ก่อนจะทำหน้าเหมือนจะใจลอย “หนูอยากไปหาคุณน้า หนูต้องเก่งเหมือนคุณลุงสิ!”

“ลองเปิดใช้มิติสิ เดี๋ยวฉันจะช่วยสอนให้” คุณลุงอีกแล้ว… แต่อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็มีใจกับสายตาที่ใช้ได้ล่ะนะ

“โอเค!”

“เลิกเรียกคุณลุงด้วย”

“ได้เลยคุณลุง!”

 

ฮึ่ม

 

 

 

 

 

หลังจากตบตีกันจนเข้ามาในมิติได้ นับว่าพลังของเด็กคนนี้มีเยอะพอสมควร ภายในมิติมีหญ้าเขียวขจีพร้อมกับไม้ยืนต้น และบ้านหลังใหญ่ สายลมพัดแผ่วเบา อากาศปลอดโปร่ง มีสายธารให้เห็นอยู่ลิบ ๆ แถมตอนนี้ยังแค่เริ่มต้น แค่คิดว่าอนาคตเขาจะปั้นเด็กคนนี้ไปได้ไกลขนาดไหนก็ตื่นเต้นแล้ว

 

ไม้เอกเลือกนั่งใต้ต้นไม้ตรวจสอบสิ่งที่เขาสงสัย

 

เมื่อครู่ตอนที่เขาสูดอากาศ เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นอากาศบริสุทธิ์

 

ไม่ใช่แค่อากาศ แต่มันมีบางช่วงทำให้เขานึกถึงพลังปราณ

 

พลังปราณเหมือนกับดันเจี้ยนที่เขาเคยเข้าไปทำภารกิจในยุทธภพ …

 

 

ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ใหญ่ เด็กหญิงที่วิ่งไปสำรวจในบ้านออกมาเห็นก็สงสัย แต่ด้วยความอยากรู้จึงเข้าไปนั่งใกล้ ๆ พลางเลียนแบบด้วยการนั่งขัดสมาธิตามบ้าง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ไม้เอกลืมตาขึ้นมาตอนที่รู้สึกว่ารวบรวมพลังปราณได้เป็นก้อนหนึ่งแล้ว

 

แม้จะเป็นระดับต้นก็เถอะ แต่อย่างน้อยเขาก็มีทางรอดอีกทาง

 

“แต่ทำไมแถวนี้มัน—-”

 

คิ้วเรียวขมวดฉับ เขารู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่าตรงนี้พลังปราณมันเข้มข้นกว่าตอนแรก จนกระทั่งมองไปยังจุดที่ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์เป็นพิเศษนั่นแหละ

 

ผมสีออกฟ้าอ่อนในตอนแรกที่ปล่อยสยายตอนนี้ปลิวสะบัด คิ้วเล็ก ๆ ขมวดแน่น หยีตาบึนปากเหมือนอะไรสักอย่างไม่ได้ดั่งใจ ก่อนจะถอนหายใจอย่างขัดใจแล้วลืมตาขึ้นมานั่นแหละ สถานการณ์โดยรอบถึงจะสงบ

 

พอหันมาเห็นเขาก็ฉีกยิ้มกว้าง “คุณลุงตื่นแล้ว!”

“อืม” ไม้เอกพยักหน้ารับ เด็กนี่คิดว่าเขาหลับซะงั้น ว่าแต่… “เมื่อกี้ขมวดคิ้วซะแน่นเลยนะ”

“เจ้านั่นดื้อมาก!”

“เจ้านั่น?”

“ใช่ ๆๆ รันเห็นคุณลุงนั่งเลยมานั่งด้วย! นั่งไปสักพักรันรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่รู้วิ่งเต็มเลย รันเลยเล่นวิ่งไล่จับพวกนั้นมารวม ๆ กันแหละ!”

 

เดี๋ยวนะ…

เขารู้มาตอนไปทำภารกิจในดันเจี้ยนเกี่ยวกับยุทธภพว่า การจะดูดซับพลังปราณคือการใช้สมาธิดูดซับพลังปราณมากักเก็บไว้ แต่นี่เอ่อ… วิ่งไล่จับ?

 

“ขอฉับดูมือหน่อยสิ” พูดเชิงขออนุญาต พออีกฝ่ายพยักหน้าก็ไปจับข้อมือใช้พลังปราณตรวจสอบทันที

 

จริงด้วย

 

มีพลังปราณอยู่ปริมาณไม่มาก ถึงแม้จะไม่ได้กลมเหมือนปกติทั่วไป มันเหมือนเหวี่ยงไปมาเหมือนวิ่งเล่นไม่มีผิด

 

แต่เป็นแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะเนี่ย

 

เพราะถ้าปล่อยไว้มันจะส่งผลร้ายแรงกับร่างกายได้

 

“ไม่เจ็บเหรอ”

“ไม่ค่อยเจ็บนะลุง”

“หันหลังไป เดี๋ยวฉันจะช่วย” ช่วยนำทางให้เด็กแค่นี้ไม่คณามือหรอก “นั่งสมาธิอีกรอบ แล้วทำตามที่ฉันทำให้ดูนะ ถ้าทำแบบนี้จะไม่เจ็บ”

“ได้เลย!”

“ว่าแต่เธอชื่อรันเหรอ”

“ใช่! รันชื่อรัน คุณลุงชื่ออะไรเหรอ”

“ฉันชื่อไม้เอก …แล้วก็อยู่นิ่ง ๆ อย่าขยับ” เด็กรันที่ว่าหันมาบึนปากใส่เขานิดหน่อยก่อนจะกลับไปนั่งหลังตรงแบบเดิม

 

เออเอาเถอะ เลี้ยงเด็กสักคนมันก็ไม่น่าเบื่อดีเหมือนกัน

 

 

 

 

ผ่านมาราวหลายชั่วโมงหลังจากนั่งบอกวิธีการรวบรวมพลังปราณเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ให้เด็กเล็กวัยยังไม่ถึงสิบขวบไป

 

นับว่าเก่งใช้ได้ เพราะตอนนี้เขาไม่ต้องนั่งพาทำก็ทำเองเป็นแล้ว

 

ถึงแม้จะอากาศเริ่มเย็นแต่อยู่ใต้ต้นไม้แบบนั้น …

ถ้ารวบรวมพลังปราณได้ร่างกายคงแข็งแรงขึ้นแหละ

 

เห็นทีเขาต้องไปหาฝึกมานาควบคู่กับพลังปราณแล้วด้วยสิ

 

อย่างน้อยก็ควรใช้มานาร่วมกับมีดได้ หรือไม่ก็ต้องใช้สกิลให้คล่อง

 

เวลานี้เขาไม่ได้รับผิดชอบแค่ชีวิตของตัวเองด้วย อย่างน้อยก็ต้องเก่งพอที่จะปกป้องคนอื่นได้

 

 

เพราะตอนนี้ไม้เอกยอมรับว่าเขาไม่ได้สบายใจ

 

เขารู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเงียบเกินไป

 

เหมือนความสงบก่อนพายุมาไม่มีผิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภายในบรรยากาศปิดทึบเหมือนใต้ดินสักแห่ง

 

มีแสงสีแดงรูปทรงเหมือนดวงตากำลังลืมขึ้นมาหลังจากหลับไหลอย่างสงบ

มายาวนาน

 

 

ครืน น…

 

‘เจ้าพวกมนุษย์…’

 

 

 

 

Tbc.

 

*อันเดด หมายถึงศพของสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง