"ผมไม่ได้อยากเป็นน้องชายพี่นาย พี่นายพี่ต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น" ความคลั่งรักของน้องชายต่างสายเลือดที่ใช้วิธีการสะกดจิตเปลี่ยนพี่ชายให้มาเป็นแฟนตนเอง ความรักในครั้งนี้จะจบแบบไหน
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,พี่น้อง,สะกดจิต,20+,nc,pwp,มหาวิทยาลัย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นายกลับมานอนห้องตนแต่ว่านอนไม่หลับ กลัวว่าหนึ่งจะไข้ขึ้นช่วงดึก จึงเดินมาวัดไข้ให้หนึ่งอีกรอบ
"ไข้ลดลงแล้วแต่ก็ไว้ใจไม่ได้" นายใช้เครื่องวัดไข้ตรวจอุณหภูมิร่างกายให้หนึ่ง ก็พบว่าไข้ลดลงแล้วกลับมาปกติแล้ว
"พี่นายเข้ามาทำอะไรครับ นอนไม่หลับเหรอ" หนึ่งลืมตาสะลึมสะลือ พยายามมองไปทางเสียงพี่นาย
"หนึ่งหลับต่อเถอะไข้ลดลงแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่ขอนอนเป็นเพื่อนได้ไหม เดี๋ยวหนึ่งจะไข้ขึ้นอีกพี่เป็นห่วง" นายเอาผ้าห่มเตรียมพร้อมมานอนเฝ้าไข้หนึ่ง
"ได้ครับมานอนตรงนี้ข้างๆ หนึ่งได้เลย" หนึ่งขยับจากนอนตรงกลางเป็นนอนริมขวาเผื่อให้พี่นายมีพื้นที่นอนข้างๆ ตน
นายขึ้นไปนอนบนเตียงกับหนึ่งแต่ก็รักษาระยะห่างไว้ด้วยหมอนข้างพอสมควร เพราะกลัวว่าถ้าตนใกล้หนึ่งมากเกินไปจะมีอารมณ์อีก
นายนอนโดยหันหลังให้หนึ่งสักพักนายก็ได้ยินเสียงหนึ่งหนึ่งกรนเบาๆ นายก็วางใจพยายามหลับตานอน แต่ด้วยความที่ว่าหนึ่งไม่สบายจึงนอนดิ้นไปมา
ผ้าห่มที่หนึ่งห่มอยู่ก็หล่นไปกองข้างเตียง ส่วนหมอนข้างที่นายตั้งใจไวกันไม่ตนไปสัมผัสร่างกายของหนึ่งก็ถูกหนึ่งละเมอเอาไปกองไว้ข้างเตียงเช่นกัน
นายที่นอนไม่ค่อยหลับเพราะหนึ่งนอนดิ้นจึงหันกลับมาหนึ่งก็พบว่าหมอนข้างและผ้าห่มของหนึ่งหายไป
ทำให้นายเห็นสภาพหนึ่งสวมชุดนอนกระดุมหลุดลุ่ยจนเห็นหน้าอกขาวของหนึ่ง มองต่ำลงมาก็เห็นหนึ่งสวมกางเกงนอนขาสั้นแก่นกายนูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัดคงเพราะผ้าที่บางและไม่ได้สวมกางเกงใน
นายนอนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่แล้วแบ่งผ้าห่มของตัวเองให้หนึ่งได้ห่มด้วยแล้วก็กลับไปนอนหันหลังต่อทำจิตใจให้สงบ
หนึ่งก็ยังคงนอนดิ้นต่อเขยิบเข้ามานอนใกล้นาย จากนั้นหนึ่งก็ละเมอเอาแขนกอดนายไว้จนแน่น แล้วเอาขาพาดทับขานายไว้ นายพยายามดิ้นหนีแต่หนึ่งยิ่งกอดไว้แน่น
ตอนนี้หัวใจของนายสั่นรัวๆ เหมือนจะระเบิดออกมา สักพักนายสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังดันถูไปมาที่ก้นตนอยู่
(เอ๊ะ! อะไรดันก้นเราหรือว่าจะเป็น อื้อส์) นายรีบเอาปิดปากกลั้นเสียงครางตนไว้ ในขณะที่หนึ่งก็ยังคงนอนดิ้นขยับไปมา
(อื้อส์...หนึ่งได้โปรดอย่าขยับไปมากกว่านี้เลย) แม้รูสวาทของนายจะไม่ได้ถูกสัมผัสโดยตรงแต่ก็รู้สึกได้ถึงแรงเสียดสีเล็กน้อย ก็ทำให้นายรู้สึกเสียวซ่านเป็นอย่างมาก
นายเริ่มทนไม่ไหวมีอารมณ์มากอารมณ์มากขึ้น จึงใช้มีสาวแก่นกายของตนไปด้วยในขณะที่แก่นกายของหนึ่งดันก้นตนถูผ่านไปผ่านมารูสวาทตนเอง
(อื้อส์ อือส์ หนึ่งพี่ใกล้จะเสร็จแล้วได้โปรดช่วยขยับอีกนิด อ่าา) นายช่วยตัวเองจนเสร็จแตกใส่มือตัวเอง สักพักหนึ่งก็นอนเปลี่ยนท่าดิ้นไปทางอื่น นายจึงได้ใช้จังหวะนั้นลุกขึ้นรีบเข้าห้องน้ำล้างมือและทำความสะอาดแก่นกายของตนทันที
นายออกจากห้องน้ำก็มองไปที่หนึ่งที่กำบังหลับอย่างไม่รู้เรื่อง แล้วคิดถึงเรื่องเมื่อสักครู่ที่ตนได้ทำลงไปก็รู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก
นายมองเวลานี่ก็ดึกมากแล้วจึงได้เอาผ้าห่มมาห่อตัวหนึ่งไว้แบบดักแด้หนึ่งจะได้นอนดิ้นไม่ได้และผ้าห่มก็จะได้ไม่หลุดจากตัวหนึ่งด้วย พร้อมกับเอาหมอนข้างมากั้นตรงกลางระหว่างตนกับหนึ่งไว้เหมือนเดิม
"เจ้าตัวดี พอไม่สบายทีไรนอนดิ้นทุกทีเลย หายป่วยไวๆ นะหนึ่ง พี่ไม่อยากเห็นเราป่วยแบบนี้เลย" นายนอนลงบนที่นอนข้างๆ หนึ่งแล้วหลับไป
เช้าวันถัดมาทั้งสองนอนบนเตียงโดยที่เมื่อคืนนายเป็นละเมอโยนหมอนข้างทิ้งแล้วกอดหนึ่งที่ห่มผ้าห่มเป็นดักแด้ตลอดทั้งคืนแทนหมอนข้าง
"เซอร์ไพรส์ลูกรัก แม่กับลุงทัพมาแล้วจ้า" สุดที่รักตั้งใจกะว่าจะมาเซอร์ไพรส์หนึ่งปรกติหนึ่งมักตื่นแต่เช้า แต่วันนี้พอตนมาถึงกลับไม่พบใครสักคน
สุดที่รักจึงได้เคาะห้องหนึ่งแต่เคาะได้สักพัก หนึ่งก็ไม่ออกมา สุดที่รักจึงลองบิดกลอน แล้วพบว่าห้องไม่ได้ล็อกจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา
"คุณทัพดูลูกเราสองคนสิ นอนกอดกันกลมเชียว น่ารักมากเลยนะคะคุณว่าไหม พอน้องหนึ่งกับพี่นายโตแล้วไม่ค่อยได้เห็นรักกันแบบนี้เลย ฉันขอถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนนะคะ" สุดที่รักรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปนายนอนกอดหนึ่งที่ถูกห่มผ้าเป็นดักแด้ไว้ด้วยความเอ็นดู
หนึ่งที่ได้ยินเสียงพูดคุยกันจึงลืมตื่นขึ้นมาพยายามขยับตัวแต่ก็ขยับตัวไม่ได้เพราะถูกพี่นายห่อตนด้วยผ้าห่มไว้เป็นดักแด้
อีกทั้งยังถูกพี่นายที่ตัวใหญ่กว่าตนนอนกอดและก่ายขาไว้แน่น หนึ่งเห็นแม่ตนและลุงทัพหัวเราะกันคิกคักกำลังถ่ายรูปตนกับพี่นายไว้อยู่
"แม่กับลุงทัพมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ มาช่วยแกะพี่นายออกให้ผมก่อน ผมลุกไม่ได้" หนึ่งร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่และลุงทัพพ่อเลี้ยงของตน
"หนึ่งไม่ต้องอายหรอกลูก โตเป็นหนุ่มแล้วยังให้พี่นายนอนกอดอยู่อีก แม่กับลุงทัพไม่ล้อหรอก ฮาฮ่า" ทั้งสองพอเห็นหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
"ไม่ใช่นะครับผมไม่ได้อายสักหน่อย หัวเราะกันจนพอใจแล้วก็ช่วยเอาพี่นายออกจากตัวผมที" ทั้งสองหัวเราะพากันถ่ายรูปจนพอใจ แล้วจึงช่วยแกะนายออกจากหนึ่ง ตอนแรกสุดที่รักปลุกนายหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมตื่น
หนึ่งจึงอธิบายว่าเมื่อคืนตนไม่สบายพี่นายดูแลตนทั้งคืน ปล่อยให้พี่นายได้นอนพักผ่อนต่อขอแค่เอาแขนและขาพี่นายออกให้ตนก็พอ
พอลุงทัพพ่อของนายช่วยเอาแขนและขาของนายออกจากร่างหนึ่ง นายก็ตื่นขึ้นมาแล้วตกใจทันที
"พ่อมาได้ไงเนี่ย แล้วก็น้ารักสวัสดีครับ" นายตื่นมาก็มึนงงตกใจ ไม่คิดว่าพ่อกับน้ารักจะมา
"แหม เจ้านายน้ารักกับพ่อช่วยกันปลุกเอ็งตั้งนานเอ็งไม่ตื่น พอเอาแขนเอาขาออกจากน้องดันหายง่วงเลยนะเจ้านายลูกรัก" เจ้าทัพพ่อของนายแซวนาย
"คือว่าเมื่อคืนหนึ่งไม่สบาย ผมเลยมาเฝ้าไข้น้อง นอนหลับไม่ค่อยสนิทพึ่งจะได้หลับช่วงเช้ามืดนี่เอง"
"น้องหนึ่งอธิบายให้น้ากับพ่อของนายฟังแล้วจ้ะ น้าขอบใจพี่นายมากเลยนะที่ช่วยดูแลน้องทั้งคืนคงเพลียน่าดู ถ้ายังง่วงอยู่พักผ่อนต่อได้เลยจ๋า เดี๋ยวน้าทำกับข้าวเสร็จแล้วจะเข้ามาปลุกอีกที"
"ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมหายง่วงแล้วอยากกินกับข้าวฝีมือน้ารักมากกว่า"
"แหมพี่นายก็ และก็น้องหนึ่งไข้ลดรึยังลูกไปหาหมอไหม" สุดที่รักแสดงสีหน้าเป็นห่วง เอาหลังมือแตะหน้าผากหนึ่ง
"ผมดีขึ้นมากแล้วครับแม่ ชักอยากกินกับข้าวฝีมือแม่แล้วสิครับ" หนึ่งทำหน้าตาอ้อนสุดที่รักแม่ตนเอง
"ทำเป็นปากหวาน งั้นหนึ่งและนายล้างหน้าแปรงฟัน เดี๋ยวแม่จะทำกับข้าวไว้รอ" สุดที่รักและเจ้าทัพเดินออกจากห้องหนึ่งไป ทิ้งหนึ่งและนายให้อยู่กันตามลำพัง
"หนึ่งหายดีจริงเหรอ ไหนพี่ขอจับหน้าผากสิ" นายกำลังยื่นมือไปจับหน้าผากหนึ่ง
"ไม่ต้อง!" หนึ่งปัดมือพี่นายออก
"อะไรเมื่อคืนยังอ้อนพี่อยู่เลย พอตื่นเช้าก็มาหงุดหงิดใส่พี่" นายรู้สึกงุนงงว่าตนทำอะไรให้หนึ่งไม่พอใจ
"ไม่ได้หงุดหงิด แต่ว่าพี่นายช่วยออกไปก่อนได้ไหม หนึ่งขอร้อง"
"ก็ได้ ถ้าปวดหัวอีก หรือไม่ไหวยังไงวันนี้ก็ลาป่วยเถอะ" นายเดินออกจากห้องหนึ่งไป
หนึ่งเอาผ้าห่มออก เผยให้เห็นแก่นกายที่แข็งตั้ง กำลังผงาดไม่ยอมลดลง
"ไอหนึ่งเมื่อคืนฝันบ้าอะไรเนี่ย ดีนะห่มผ้าไว้ทุกคนเลยไม่เห็น แต่ว่าเมื่อคืนในฝันพี่นายเซ็กซี่เป็นบ้า อยากเห็นพี่นายใสชุดพยาบาลจังหรือว่าเราจะสะกดจิตพี่นายอีกครั้งดี ไม่ได้นะหนึ่งถ้าคิดจะเลิกทำก็ต้องเลิกทำให้ได้ รีบไปชักออกก่อนเถอะเดี๋ยวไปกินข้าวช้าทุกคนจะสงสัย'
หนึ่งรีบเดินไปล็อกประตูห้องแล้วรีบเข้าห้องน้ำอย่างเร็วไว หนึ่งใช้มือจับแก่นกายตัวเองรูดขึ้นรูดลง แล้วจินตนาการนึกถึงฝันเมื่อคืนที่ฝันเห็นพี่นายใส่ชุดพยาบาล "อะส์ อ่าา พี่นายตอดผมให้มันแน่นกว่านี้ อ่าา"
ทั้งสี่นั่งรับประทานพูดคุยสัพเพเหระทั่วไปตามภาษาครอบครัว
"ช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ปรกติหนึ่งชอบชวนพี่นายคุยตลอด แต่วันนี้แปลกๆ เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าเพราะยังไม่ค่อยสบายอยู่" สุดที่รักรู้สึกตงิดใจบางอย่าง ว่าทำไมหนึ่งกับนายถึงได้เปลี่ยนไปเวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ทำตัวเหมือนเมื่อก่อน
"ก็วันนี้หนึ่งไม่รู้จะคุยอะไรกับพี่นายนี่นา" หนึ่งตักข้าวใส่ปากเคี้ยวแก้มตุ่ยๆ
"ช่วงนี้พี่นายเป็นไงลูก ขึ้นปีสามแล้วเรียนหนักมากขึ้นไหมลูก" สุดที่รักหันมาถามพี่นายที่กำมองหนึ่งเคี้ยวข้าวอย่างเอ็นดู
"ก็หนักประมาณหนึ่งครับ แต่ว่าเป็นสิ่งที่ผมชอบเวลาเรียนก็สนุกดี" หนึ่งตอบสุดที่รักแต่ไม่ละสายตาแอบมองหนึ่งอยู่ตลอด
"อืมจริงสิเจ้านายเมื่อวานจู่ๆ เจ้าขุนก็โทรมาบอกพ่อว่าอยากมาเยี่ยมพ่อ อยากมาหาเจ้านายและก็อยากทำความรู้จักกับน้ารักและก็หนึ่งด้วย สงสัยเจ้าขุนคงหายโกรธพ่อแล้วสินะ" เจ้าจู่ๆ ก็พูดถึงเจ้าขุน
หนึ่งและนายสบตากันแล้วจ้องมาที่เจ้าทัพพ่อของนาย
"จริงสิน้องหนึ่งลุงเคยบอกเราไปแล้วว่าเจ้านายมีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน เขาอยากมาทำความรู้จักกับเรา พี่เขาชื่อว่าเจ้าขุนหนึ่งจะเรียกว่าพี่ขุนเหมือนพี่นายก็ได้ ทีนี้น้องหนึ่งก็จะได้มีพี่ชายสองคนคอยดูแลเวลามีใครรังแกไม่ต้องกลัว อีกอย่างเจ้าขุนก็หล่อมากพอๆ กับเจ้านายเลยนะ " เจ้าทัพบอกหนึ่งเรื่องเจ้าขุนลูกติดอีกคนของตัวเอง
"ว่าแต่ทำไมพี่ขุนเขาไม่เคยมาหาลุงกับพี่นายเลยสักครั้งแล้วจู่ๆ ก็อยากทำความรู้จักแม่กับผม" หนึ่งถามในสิ่งที่ตนสงสัย
"ก็ตั้งแต่ที่ลุงเลิกกับแม่ของเจ้านายไป ต้องตกลงแบ่งลูกกันแล้วลุงเลือกได้แค่คนเดียวลุงเลยต้องเลือกแค่นายมาคนเดียว เจ้าขุนเขาก็เลยโกรธลุงมาก เวลาลุงไปหาหรือพาเจ้านายไปเยี่ยมแม่ เจ้าขุนก็ไม่เคยออกมาเจอลุงเลยสักครั้ง พึ่งจะเคยโทรหาลุงเมื่อวานเป็นครั้งแรก" ปรกติลุงเจ้าทัพมักคนคุยติดตลก แต่พอพูดถึงเรื่องพี่ขุนลุงเจ้าทัพก็ทำหน้าเศร้า
หนึ่งมองไปทางพี่นายแล้วขอโทษพี่นายในใจที่ตอนแรกไม่ได้ปักใจเชื่อพี่นายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พอได้ยินเรื่องที่ลุงเจ้าทัพเล่าเหมือนกับที่พี่นายเคยพูด หนึ่งจึงได้เชื่อแล้วว่าการที่พี่ขุนเข้าหาตนคือแผนที่พี่ขุนตั้งใจวางไว้เพื่อใช้ตนเป็นเครื่องมือทำลายชีวิตลุงทัพกับพี่นาย
ทั้งสี่เปลี่ยนเรื่องคุยแล้วนั่งรับประทานอาหารต่อจนอิ่มแปล้ จากนั้นหนึ่งและนายก็เรีบอาบน้ำแต่งตัวรีบไปมหาลัยแม้ว่าทั้งคู่จะมีเรียนช่วงบ่าย แต่เพราะไม่อยากอยู่ขัดเวลาที่สุดที่รักกับเจ้าทัพอยู่ด้วยมักจีบกันไปกันมาจนหนึ่งและนายรู้สึกอายแทน
นายและหนึ่งจึงได้นั่งรถไปที่มหาลัยด้วยกัน นายจอดรถเสร็จก็ได้แต่มองใบหน้าหนึ่งที่กำลังครุ่นคิดเหมือนเครียดอะไรบางอย่าง
"หนึ่งนั่งนิ่งตลอดทางเชียว คิดมากเรื่องพี่ขุนเหรอ" นายถามหนึ่งตรงๆ
"ใช่ครับ" หนึ่งตอบพี่นายด้วยสีหน้าที่คิดหนัก
"หนึ่งพี่ขอถามตรงๆ นะ หนึ่งรักพี่ขุนจริงๆ ใช่ไหม"