“เลือกเอาเถอะระหว่างแต่งเข้าไปเป็นอนุ หรือยอมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แล้วรับเงินไปหนึ่งแสนตำลึงทอง”

ข้าสำนึกได้แล้ว - ๙ ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง โดย รอยยิ้มพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ย้อนยุค,จีน,ตลก,แฟนตาซี,เทพเซียน,จีนโบราณ,ขุนนาง,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ข้าสำนึกได้แล้ว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ย้อนยุค,จีน,ตลก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เทพเซียน,จีนโบราณ,ขุนนาง,ย้อนยุค

รายละเอียด

ข้าสำนึกได้แล้ว โดย รอยยิ้มพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เลือกเอาเถอะระหว่างแต่งเข้าไปเป็นอนุ หรือยอมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แล้วรับเงินไปหนึ่งแสนตำลึงทอง”

ผู้แต่ง

รอยยิ้มพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ข้าสำนึกได้แล้ว-๑ ข้าสำนึกผิดแล้ว,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด,ข้าสำนึกได้แล้ว-๓ เข้าใจผิด,ข้าสำนึกได้แล้ว-๔ ไม่อาจดูเบา,ข้าสำนึกได้แล้ว-๕ จับตาดูอย่างใกล้ชิด,ข้าสำนึกได้แล้ว-๖ แทงใจดำ,ข้าสำนึกได้แล้ว-๗ อยู่ยากขึ้นทุกวัน,ข้าสำนึกได้แล้ว-๘ ตั้งต้นชีวิตใหม่,ข้าสำนึกได้แล้ว-๙ ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๐ ไหวพริบเป็นเหตุ,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๑ ข้อสันนิษฐาน,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๒ ถ่องแท้เสียที,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๓ มั่นใจในตัวเองสูง,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๔ ไหน้ำส้มแตก,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๕ มีชั้นเชิง,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๖ ล้างสมอง,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๗ ปรับความเข้าใจ,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๘ ชัดเจน,ข้าสำนึกได้แล้ว-๑๙ พิสูจน์ตัวเอง,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒๐ งานง่ายๆ,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒๑ ความรู้แตกฉาน,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒๒ ปมในใจคลี่คลาย,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒๓ คลอดบุตร,ข้าสำนึกได้แล้ว-๒๔ บทส่งท้าย

เนื้อหา

๙ ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง


บทที่๙ ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง




ครึ่งวันหลังสองนายบ่าววิ่งวุ่นจัดการหาคนงานมาแผ่วถางหญ้า และคนงานหญิงมาทำความสะอาดบ้าน กว่าภายในบ้านจะทำความสะอาดเสร็จก็ล่วงเข้าสู่ยามเซิน[16.00] ข้าวของเครื่องใช้ใดๆก็ยังไม่มีพวกนางจึงตัดสินใจกลับไปพักที่โรงเตี๊ยมอีก1คืน


พอเช้ามาก็เก็บข้าวของอันน้อยนิดบอกคืนห้องพัก ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังร้านขายข้าวสารอาหารแห้ง สั่งซื้อข้าวสารชั้นกลาง2กระสอบ พวกแป้งกับธัญพืชอีก1กระสอบ เครื่องปรุงรสอย่างละ1ไห ให้นำไปส่งที่บ้านหลังใหม่พร้อมกับวางเงินมัดจำไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็มาต่อกันที่ร้านขายของใช้ต่างๆ สั่งซื้อพวกอุปกรณ์ทำครัวกับที่นอนหมอนมุ้งครบชุด ให้นำของทั้งหมดไปที่บ้านหลังใหม่เช่นเดียวกัน แล้วพวกนางก็มาต่อกันที่ร้านขายอาภรณ์ ซื้อชุดสำเร็จของสตรีมาคนละ5ชุดไว้ใช้ผลัดเปลี่ยน เพราะต่อไปพวกนางไม่จำเป็นต้องปลอมเป็นบุรุษ แล้วก็เปลี่ยนจากผงถ่านดำๆมาเป็นสมุนไพรสูตรพิเศษที่ได้มาจากโรงหมอไว้ปกปิดความงามอย่างเดียวก็เพียงพอ


เสร็จจากตรงนั้นก็ไปร้านขายเนื้อหมู ร้านขายผักสด เมื่อได้ของตามที่ต้องการครบถ้วนดีแล้ว สองนายบ่าวแทบจะเดินต่อไม่ไหวจึงได้ว่าจ้างรถม้าให้ไปส่ง


กลับไปถึงบ้าน ได้นั่งพักไม่ทันจะหายเหนื่อย ข้าวของมากมายก็ถูกนำมาส่งในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังตรวจนับข้าวของจนครบถ้วน ฟางเยว่ซินจึงได้จ่ายเงินอีกครึ่งหนึ่งให้แก่คนงานของร้าน จากนั้นก็ขอแรงคนงานชายที่ยังแผ่วถางหญ้าไม่เสร็จมาช่วยกันขนพวกที่เป็นกระสอบไปเก็บไว้ในครัว ส่วนพวกข้าวของอื่นๆเพียงขนเข้ามาวางไว้ในบ้าน ที่เหลือพวกนางจะจัดการต่อเอง


“คุณหนูพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ หน้าซีดไปหมดแล้ว”


“ได้อย่างไรกัน เจ้าก็เหนื่อยไม่แพ้ข้า เจ้าไปเตรียมแป้งทำซาลาเปาเถอะ ประเดี๋ยวข้าแยกของพวกนี้เสร็จจะตามไปช่วยสับเนื้อหมู แล้วหลังจากนั้นเราค่อยมาช่วยกันยกฟูกนอนไปเก็บในห้องดีหรือไม่”


“แต่..”


“ไม่มีแต่ ไปได้แล้ว” เยว่ซินรีบไล่คนสนิทไปในครัว เพราะไม่อยากฟังเสียงค้าน


“ก็ได้เจ้าค่ะ แต่ถ้าคุณหนูเหนื่อยต้องรีบหยุดพัก อย่าได้ฝืนทำต่อเป็นอันขาด”


“รู้แล้วๆ ไปเถอะ”


จูจูสะบัดหน้าจากไปอย่างมีแง่งอน คนอุตส่าห์เป็นห่วงแต่คุณหนูช่างไม่เข้าใจอะไรเลย


ฟางเยว่ซินส่ายหน้าน้อยๆ พอคล้อยหลังคนสนิทไปแล้วนางจึงเผยสีหน้าอ่อนแรงออกมา พลางยืดแข้งยืดขาอย่างไม่สงวนกิริยา กำปั้นน้อยๆทุบไปที่บั้นเอวหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนมาทุบต้นขาไล่ลงไปถึงหัวเข่าทั้งสองข้าง


“ถ้ารู้ว่าท้องแล้วทรมานอย่างนี้ ข้าจะไม่มีวันดื้อรั้นกับท่านแม่เป็นอันขาด เจ้าตัวน้อยเจ้าก็ช่วยสงสารแม่ หากออกมาแล้วก็อย่าดื้อนักเล่า”


ซาลาเปาไส้หมูแน่นๆ กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ได้ถูกแบ่งปันให้แก่คนงานที่มารับจ้างในวันนี้ ทุกคนที่ได้กินต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมาก ทั้งยังกล่าวขอบคุณกันไม่หวาดไม่ไหว หลังกินอิ่มจึงเร่งทำงานให้เสร็จเร็วๆเป็นการตอบแทน


ฟางเยว่ซินกับจูจูไม่ใช่คนบ้ายอ พวกนางเข้าครัวเร่งลงมือนวดแป้งและช่วยกันสับหมู หลังจ่ายค่าแรงเสร็จแล้วก็มอบให้ทุกคนนำกลับไปฝากคนที่บ้าน


วันต่อมาพวกคนงานก็แบกไม้ไผ่มาที่บ้าน ก่อนจะช่วยกันทำเล้าไก่ให้โดยไม่คิดค่าแรง ส่วนพวกผู้หญิงก็ตามสามีมาช่วยกันปรับหน้าดินบริเวณหลังบ้าน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเพาะปลูก อีกทั้งยังใจดีแนะนำวิธีการปลูกรวมถึงการดูแลพืชต่างๆให้ฟังอีกด้วย


สองนายบ่าวก็ไม่ได้หลงคารมใครง่ายๆ พอใกล้จะถึงมื้อเที่ยงจึงขอแรงสตรีมาช่วยกันหุงหาอาหาร ที่ขาดไม่ได้ก็คือซาลาเปาแป้งนุ่มๆทว่าด้านในเป็นไส้ผัก แต่ก็อร่อยไม่ต่างกัน ทุกคนชอบมากเยอยอกันไม่หยุดปาก คนทำก็ยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุข


นับว่าเป็นการเริ่มต้นของมิตรภาพที่ดีที่หากันไม่ได้ง่ายๆ


ทางด้านจวนสกุลฟาง ได้ส่งคนออกตามหาฟางเยว่ซินกันให้วุ่น อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสองสามีภรรยาเสมือนมีกำแพงคั่นกลาง ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตคู่ได้อย่างเดิมอีกแล้ว เพราะท่านเสนาบดีปักใจเชื่อว่าผู้เป็นภรรยาเป็นคนทำให้บุตรีคนโตหายตัวไป กอปรกับคำพูดที่เจ้าของร้านขายเครื่องประดับฝากมาถึงเขา ว่าก่อนที่ฟางเยว่ซินจะหายตัวไปนางได้ไปปรากฏตัวที่ร้าน และเล่าว่าถูกใครบางคนประสงค์ร้าย อาจจะหมายเอาชีวิต จึงมั่นใจเต็มสิบส่วนว่าใช่อย่างที่คิดจริงๆด้วย


ตั้งแต่นั้นมาเขาก็แยกห้องนอนและไม่เคยพูดจาใดๆกับจางเหมยซืออีกเลย ทำให้บรรยากาศรอบด้านอึมครึมเต็มไปด้วยความอึดอัด แม้แต่ฟางลี่อินกับน้องชายที่เป็นถึงบุตรสุดที่รักก็ไม่สามารถเข้าหน้าได้ติด


ทางด้านขุนนางหนุ่มเมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ลำดับแรกคือการเข้าเฝ้าฝ่าบาท จากนั้นจึงได้กลับจวนไปพักผ่อน เพียงวันแรกที่เหยียบย่างเข้าจวนเซี่ย เขาก็ได้ทราบข่าวของสตรีไร้ยางอายจากปากผู้เป็นมารดาแทบจะทันที


“ซินเอ๋อร์หายไป ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง”


เขาเบ้ปากแล้วกล่าวว่า “นางอยากจะไปที่ใดก็เรื่องของนางไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับข้าสักนิด ข้าไม่เสียเวลาไปตามหานางแน่”


หลังจากนั้นเขาก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัว ท่ามกลางความไม่สบายใจของหญิงวัยกลางคน เสร็จแล้วก็เดินทางเข้าวังเป็นครั้งที่สอง เพื่อยื่นหนังสือลาพักร้อนพร้อมแจ้งความประสงค์ขอตรวจสอบรายชื่อคนเข้าออกในเมืองต่างๆ เพื่อใช้สืบหาผู้ต้องสงสัยที่อาจจะลักลอบเข้ามาในแคว้น


โอรสสวรรค์เห็นว่าเรื่องนี้สอดคล้องกับภารกิจที่เจ้ากรมอาญาไปทำมา จึงได้อนุญาตอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวยกย่องสรรเสริญใต้เท้าเซี่ยไปหลายคำ


“ช่างเป็นขุนนางที่ขยันขันแข็ง แม้แต่หยุดงานก็ยังนำงานกลับไปทำที่บ้าน น่าเชื่อถือจริงๆ”