มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
รถกระบะคันเก่าแก่ของพ่อที่แม้ว่ามันจะมีรอยกะเทาะ รอยบุบบ้างแต่มันก็ยังวิ่งได้ดี โดยเฉพาะการวิ่งระยะทางไกล ๆ อย่างนี้ มันก็เป็นเด็กดีไม่มีงอแง แถมคนขับคืออีคิดซึ่งแรก ๆ หวังก็กลัวว่าจะโดนอีผีนี่ลากไปเป็นผีเฝ้าถนน แต่คิดมันกลับขับรถเก่งกว่าที่หวังคิดพากันมาสองพี่น้องถึงบ้านสวนโดยสวัสดิภาพ
และปิดเทอมปีนี้ บ้านของเรามาพร้อมกันทั้งบ้าน แต่ไม่ได้มาอยู่เป็นเดือน ๆ แบบเมื่อก่อนนะ มากันช่วงหยุดวันสงกรานต์น่ะ เพราะไหน ๆ ก็ขายของไม่ดี เพราะตลาดขายส่งมันก็หยุดขายกัน แถมของก็แพงกว่าเดิมเท่าตัว ตาแมวกับยายปลา ก็เลยปรึกษากันว่าหยุดแม่งเลยอาทิตย์นึง
ไอ้จะหนีไปเที่ยวลำพัง กับพี่ชายแค่สองคน สารภาพตรง ๆ อีคิดมันงกเสียดายเงินเพราะปิดเทอมแบบนี้ตอนช่วงเช้าถึงบ่ายช่วยพ่อกับแม่ขายผักตอนเย็นสองพี่น้องก็ไปขายข้าวโพดต้มกันได้เงินเป็นกอบเป็นกำดีนัก ถึงขนาดที่หวังคิดว่าทำไมกูรวยอะไรอย่างนี้หนอ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ อยากซื้ออะไรที่ใช้เงินบันดาลก็ทำได้ทั้งนั้น แต่มีข้อแม้ว่าของนั้นต้องไม่แพงนะ ไอ้หลักร้อยนี่ไม่ต้องคิดอะไร แต่ถ้าเป็นหลักพันหรือหลาย ๆ พันนี่ก็ต้องปรึกษากับคิตตี้มันเหมือนกันไม่อย่างนั้นโดนด่าสามต่อ คือพ่อด่า แม่ด่า แล้วก็จบที่อีคิดด่า และด่าเจ็บ ๆ แสบ ๆ เสียด้วยแต่ที่เจ็บใจที่สุดก็คืออีตอนที่หวังมาด่าตัวเองนี่แหละที่ใช้เงินไม่รู้จักคิด เสียดายเงินที่กว่าจะหามาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์เหนื่อยจะตายไป
"เดี๋ยวอยู่สวนกูสอนมึงขับรถดีไหม?" คิตตี้เสนอ เดี๋ยวนี้มันให้หวัง ให้พ่อกับแม่เรียกมันว่าคิตตี้ และจะว่าไป มันก็เหมาะอยู่ไม่น้อย แมวน้อยสีขาวไม่มีปาก ใส่ชุดอะไรก็น่ารัก เหมือนอีสมคิด เอ่อ อีคิตตี้พี่ชายสุดที่รักที่ จู่ ๆ ผิวของมันก็ผ่องขึ้นมาเหมือนดีเอ็นเอของบรรพบุรุษที่มาจากแม่น้ำฮวงโหเกิดสำแดงผลทำให้ผิวที่เคยด่าง ๆ ดำ ๆ บัดนี้ขาวเนียน ผ่องผุด แล้วคิดถึงมันแต่คิดมันก็หน้าหวาน เวลายิ้มมีเขี้ยวเสน่ห์ซะด้วย แต่หวังนินทาว่าเขี้ยวของมันเหมือนหมาเพราะอีคิดปากหมาด่าเก่ง
"ไม่ขาวขึ้นกูก็จะโยนอีครีมกันแดดทิ้งสิวะ" คิตตี้บอกพร้อมกับครีมกันแดดขวดโตที่เดี๋ยวแม่งก็บีบมาทาแขนเป็นว่าเล่น หรือจะเรียกว่าพอกก็ไม่ผิดเท่าไร
ขับรถแวะพักที่ตลาดซื้อของสดนิด ๆ หน่อยกะเอาไปทำกับข้าวกินที่บ้านสวนด้วยซะเลย พวกของทะเลนั้นคงไม่ต้องซื้อให้โดนด่า ซื้อพวกเนื้อหมู กับผักไป เพราะหลานสาวสุดที่รักออกปากว่าอยากกินหมูกระทะ ป้าปูแกก็พูดแข็งขันว่าแกมีสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด แต่หวังกันเหนียวซื้อน้ำจิ้มหมูกระทะที่เขาทำสำเร็จรูปใส่ขวดไว้แล้วติดมือไปด้วยขวดโต ๆ สองสามขวด เดินเล่นในตลาดได้อะไรติดมือมาอีกนิดหน่อย ทีนี้ก็จะได้ไปบ้านสวนกันยาว ๆ
ถึงบ้านสวนแล้ว ลุงกุ้ง ป้าปู ยืนเท้ากะเอวรอ ส่วนน้าเที่ยงยืนอมยิ้มอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเดินมาคุยด้วยเพราะเป็นคนขี้อาย ซึ่งพวกเราก็ต้องทักทายแกอยู่ดี ขนของลงจากรถ และคุยกันให้หายคิดถึง ตามประสาคนขยัน ลุงกุ้งกับป้าปูก็จะเข้าสวนกันละ หวังกับคิดก็ขอผลัดเสื้อผ้าจะตามทั้งสองคนเข้าสวนด้วย
"ปีนี้มังคุดมันดี๊ดี ทุเรียนเลยน้อย" ป้าปูออกตัว ว่ากันว่าไอ้ต้นไม้พวกนี้เขามักปลูกด้วยกัน แล้วปีไหนต้นอะไรออกดีอีกต้นจะออกน้อย อย่างปีกลายทุเรียนออกเยอะ มังคุดออกน้อย สลับกันไปสลับกันมา
"เรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ?" ป้าปูหันมาถามหลาน ๆ คิตตี้น่ะจบมัธยมหกแล้วและไม่ได้คิดว่าจะเรียนอะไรต่อ อาจจะเรียนจากพวกศูนย์ฝึกอาชีพ แต่หลัก ๆ ก็จะช่วยพ่อแม่ขายผักเต็มตัว ส่วนหวังน่ะมีความคิดฝันที่ใกล้จะเป็นจริงแล้ว หวังอยากเรียนเสริมสวย
เจ๊วิเวียนคือแรงบันดาลใจ และจริง ๆ ตลอดมัธยมห้า วันหยุดเสาร์อาทิตย์ หวังก็จะไปฝึกมือที่ร้านเจ๊วิ เริ่มง่าย ๆ ตั้งแต่สระผมเลย ไดร์ผมหวังก็ไดร์ตรงได้จนสวย ไดร์ได้แน่น และทรงฟาร่าหรือทรงมอส ก็ทำลอนได้สวยแต่เสียตรงยังใช้เวลาค่อนข้างนานยังไม่เป็นที่พอใจของเจ๊วิเวียนเท่าที่ควร ก็ไม่ได้จะฝึกมือบ่อย ๆ นี่นะ อาทิตย์นึงสองหนเท่านั้นเอง
แต่อีกสิ่งที่หวังทำได้ดี๊ดี ดีแบบที่เจ๊วิชมว่าหวังมีพรสวรรค์นั่นก็คือการแต่งหน้า ตั้งแต่ครั้งนั้นที่หวังช่วยเจ๊วิแต่งหน้าตอนเต้นหรีด แค่เขียนคิ้วเจ๊วิก็เห็นแววและหวังก็จีบเจ๊วิขอให้เจ๊วิสอนวิชาแต่งหน้าด้วย
"ก็ไปร้านเจ๊ ไปฝึกมือ ทำผมแต่งหน้าก็ลองทำไป ทำเป็นแล้วเดี๋ยวเจ๊ให้เบี้ยเลี้ยงด้วย" เจ๊วิพูดไปยิ้มไป ซึ่งหวังดีใจอยากจะร้องกรี๊ด คนเราลองมันได้ทำของที่ตัวเองชอบ มันจะเหนื่อยจะท้อหน่อย มันก็มีแรงสู้ ยิ่งได้รับคำชมยิ่งใจฟู หรือถ้าทำยังไม่สำเร็จ แล้วลองสู้ฝึกฝนใหม่ พอมันสำเร็จก็รู้สึกว่าตัวเองฝีมือก้าวหน้าไปอีกขั้น เริ่มจากสระผมที่ดูเหมือนมันจะง่าย แต่ร้านเจ๊วิลูกค้าเยอะ แถมใช้แต่ของดี ๆ บริการก็ดี ๆ และลูกค้าก็ดี ๆ คนแรกที่หวังลองมือก็คือช่างผมในร้านนั่นแหละ ความตื่นตกใจประหม่าทำน้ำเข้าหูจนเขาแทบเป็นหูน้ำหนวก แต่เจ๊วิก็ไม่ได้ตำหนิอะไร แถมปลอบใจให้ค่อย ๆ ทำ และหัวถัดไปก็คือหัวจริงของลูกค้าเลย หวังเกร็งซะเยี่ยวเหนียว แต่มันก็ผ่านไปได้ หวังต้องแอบไปถอนหายใจยาว ๆ ที่หลังร้านเลยทีเดียว
ยิ่งทำเคมีหวังก็ยิ่งรู้สึกว่าสนุกแต่ไอ้ตอนม้วนแกนดัดนี่หวังท้อใจนิด ๆ เจ๊วิก็ให้กำลังใจว่าค่อย ๆ ฝึกไปมันไม่ใช่ของที่จะทำวันเดียวเป็น
โทรศัพท์มือถือที่หวังสะสมเงินซื้อมา นอกจากจะใช้ดูคลิปโป๊ ที่เป็นประโยชน์มาก ๆ ก็คือหวังได้ดูแฟชั่นทรงผมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะซีรีส์เกาหลี หรืองานแฟชั่นโชว์ซึ่งทำผมทรงอลังการ นึกสนุกขึ้นมาหวังก็เอาหัวหุ่นที่ร้านเจ๊วินั่นแหละมาลองทำทรงพิสดารจนเจ๊วิหัวเราะแทบตายแถมยังชมซะด้วยว่าหวังมีแวว
"เชื่อเจ๊อีหวัง ไปเรียนสารพัดช่างก่อน เรียนครึ่งวัน ตอนเย็น ๆ ก็ไปทำงานของหล่อน หรือจะมาทำงานที่ร้านของเจ๊ก็ได้ เรียนให้จบคอร์ส แล้วก็ไปเรียนที่โรงเรียนเสริมสวยที่เขาสอนจริงจังขึ้นมาอีก พอเรามีพื้นฐานมันจะไปเร็ว อย่าคิดว่ามาม้วนผมไดร์ผมกับเจ๊เก่งแล้วจะไม่เรียน เด็กน่ะ เคยเห็นไหม มันยังยืนไม่แข็งเลยแต่วิ่งเก่ง แล้วเป็นยังไง มันก็ล้มเท่านั้น เอาพื้นฐานให้แน่น ผมน่ะทรงมันก็มีพื้นฐานแค่นี้แหละ คราวนี้ก็อยู่ที่หัวคนละว่าจะประยุกต์มันยังไง"
ครั้นอยู่ในสวนกันจนเย็นย่ำ และเมื่อถึงมื้อเย็น หมูกระทะก็เตรียมพร้อมแล้ว ครอบครัวเล็ก ๆ ของเราก็นั่งกินกันไปคุยกันไป อบอุ่นและโคตรมีความสุข แต่ตามประสาคนอยู่บ้านนอกกินกันเอาแค่อิ่มจากนั้นก็จะอาบน้ำเข้านอนพรุ่งนี้แต่เช้ามืดจะได้ลงสวนทำงานกันใหม่
แต่เรื่องมันไม่จบแค่นี้ หวังน่ะต้องแสดงฝีมือและอยากฝึกฝน หลังมื้ออาหาร ก็จัดแจงมาตรงที่ชานบ้านเปิดไฟสว่าง ๆ แล้วก็จัดแจงตัดผมให้ลุงป้าและน้าเสียเลย
"มึงตัดเป็นแน่นา ไม่ใช่พรุ่งนี้ลุงต้องโกนหัวฮิ" ลุงกุ้งพูดล้อ แต่เตรียมตัวนั่งเป็นหัวหุ่นเรียบร้อยแล้ว
"ไอ้หวังมันตัดสวยนาเฮียะ หัวฉันมันก็ตัดให้" แม่ออกตัวและมองหวังที่ตัดผมให้ลุงกุ้งอย่างขมีขมัน ตัดไปเล็งไป แต่ว่ากันซื่อ ๆ ตัดผมใหม่ซะเอี่ยมอ่อง ลุงกุ้งก็หล่อไม่หยอกเหมือนกันนะ จริง ๆ จะหล่อกว่านี้ถ้าลุงกุ้งยอมย้อมผมขาวซึ่งแกว่าเป็นตายร้ายดีแกก็ไม่ยอมเพราะแกว่าแกเหม็นสีย้อมผมได้กลิ่นแล้วปวดหัว
ถึงคิวของป้าปูบ้างเถียงกันอยู่เป็นนานสองนานด้วยว่าแกก็ไว้ผมยาวแล้วรวบเป็นมวยอยู่ชั่วนาตาปี จะเข้าร้านเสริมสวยก็โน่นแหละต้องมีงานใหญ่ ๆ อะไรสักอย่าง ให้ช่างผมเขายีหัวให้
"ลองตัดสั้นดูไหมป้า ไม่ร้อนด้วย" หวังเสนอความเห็นแรก ๆ ป้าปูก็ดูหวั่นใจ แต่ความอยากเอาใจหลาน เอาก็เอาวะ นังหลานก็แสดงฝีมือเสียเต็มที่ ผมทรงบ๊อบง่าย ๆ นี่แหละ แต่พอป้าปูส่องกระจก เจ้าตัวก็ยิ้มไม่หุบ
"เออเบาหัวจังวะ รู้อย่างนี้ตัดผมสั้นตั้งนานแล้วฮิ" ป้าปูพูดไปยิ้มไป ส่องกระจกดูทรงผมของตัวเองในกระจกอย่างครึ้มใจ
และรายสุดท้ายก็คือหัวของน้าเที่ยงรายนี้ได้แต่นั่งอมยิ้ม ส่งยิ้มให้กับป้าปูอยู่ไปมา แกเขินแล้วหน้าแดง และมาอยู่สวนอยู่ไร่แบบนี้หัวเหิงก็ยุ่งขิง ตัดผมให้สั้นเข้าทรงหล่อขึ้นเป็นกองสองกอง ป้าปูมองผัวที่ตัดผมจนหล่อเหลาเหมือนได้ผัวใหม่อีกคนเลยทีเดียว
เสร็จจากการตัดผม ทีนี้ก็ต้องย้อมกันบ้างล่ะ ของลุงกุ้งน่ะย้อมสีดำธรรมชาติ สุดท้ายก็ทนการกดดันจากน้อง ๆ และหลาน ๆ ไม่ได้หวังออกตัวว่ายาย้อมผมสมัยนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นติดหนังหัวเหมือนก่อนอีกแล้วแกถึงยอม ส่วนป้าปูน่ะ ทำสีน้ำตาลอ่อน ๆ แกตื่นเต้นซะไม่มีเพราะแกว่าตั้งแต่เกิดมาเคยทำสีผมแค่หนเดียว แม้แต่ดัดผมแกยังไม่เคยเลย เลยออกจะตื่น และเห่อ ส่วนน้าเที่ยงยังผมดกดำอยู่ตัดผมใหม่ก็เข้าทีดูหล่อขึ้นอีกเป็นกองสองกอง
"น้าเที่ยงอยากลองทำสีผมบ้างไหม ทำสีอ่อนหน่อยจะได้เหมือนอปป้าเกาหลี" หวังล้อและน้าเที่ยงก็อายหน้าแดงอีกแล้ว ได้แต่พูดปฏิเสธพึมพำในลำคอจับใจความไม่ได้ว่าแกพูดอะไร และส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก
คืนนั้นก็ว่ากันดึก กว่าจะสวยจนเสร็จทุกคน แม่น่ะ มองดูหวังมันทำผม ก็อมยิ้มไป ดูเหมือนแม่จะภูมิอกภูมิใจในฝีมือของลูกนักหนา ก็ขนาดหัวแม่ ยังเปลี่ยนได้ทุกอาทิตย์ เคยพลาดขึ้นมา แม่ก็ปลอบใจช่างมือใหม่ว่าเดี๋ยวมันก็ยาว หวังเลยตั้งใจมั่นกับตัวเองว่าจะทำให้ดีที่สุดไม่ให้พลาดได้เลยเชียวล่ะ
อยู่กันจนครบอาทิตย์ ก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที ได้มังคุดลูกเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ขนาดกลับบ้านมาหลายเข่ง เกรงใจจะแย่ จะว่าไปไอ้ลูกโต ๆ ได้ขนาดส่งออกนอกหมด แต่ลูกเล็กลูกใหญ่มันก็หวานเหมือนกันทั้งนั้นแหละ สำคัญคือแดกให้ทันก็แล้วกัน ส่วนทุเรียนก็ได้ลูกเล็ก ๆ มาหลายลูกเหมือนกัน ปีนี้ลุงกุ้งแกว่าแกไม่ค่อยหวังกับทุเรียน ชาวสวนน่ะรู้ตั้งแต่มันออกดอก ดูสภาพอากาศ ดูใบดูลำต้นเขาก็พยากรณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว ข้อดีของทุเรียนที่ออกน้อยก็คือจะหวานอร่อยเป็นพิเศษ
ใจจริง หวังคิดอยากจะเอาทุเรียนไปปอกขายอยู่เหมือนกัน คงขายดิบขายดีเชียวล่ะ แต่เอาไว้ก่อน เพราะอีกไม่นานก็เปิดเทอมแล้วและมันก็คิดถึงน้อง ๆ เพื่อน ๆ ชะมัดโดยเฉพาะอีเมือง ที่หมั่นโทรหากันทุกวัน
"อีเห็ดสด เอาทุเรียนมาฝากกูบ้างเน้อ" เมืองมันทวงของฝากเมื่อหวังคุยอวด
"เอออีเปรตเดี๋ยวแม่แกะใส่กล่องไปให้แดกง่าย ๆ เลยค่ะ ปีนี้ลูกเล็กแต่อร่อย" หวังคุยไปแดกทุเรียนไปด้วย เปิดวิดีโอคอลหากัน เมืองมันเอาแต่กลืนน้ำลายเอื๊อก ๆ เพราะหวังกับอีคิตตี้กินทุเรียนอวดพูโต ๆ
เออจริงสิ แกะทุเรียนไปฝากน้องธเนศด้วยก็คงเข้าที หวังที่ชอบเด็กหนุ่มสุดหล่อ ตามเทียวไล้เทียวขื่อ หยอกเป็นหมาหยอกไก่เชียวล่ะ แต่น้องธเนศสุดหล่อก็ไม่ได้สนใจอะไร อีกัสก็พูดเกินไป น้องเขาก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น เห็นว่าเคยกระทืบคนที่ไปลวนลาม แต่หวังแค่พูดหยอกและซื้อขนมฝากน้องเขาบ่อย ๆ เฉย ๆ รับมั่งไม่รับมั่งหวังก็ไม่รู้ อีกัสแอบเอาไปแดกเองบ่อย ๆ
พูดถึงไอ้คนที่อยากจะให้ มันก็จะมีอีกตัวที่ชอบจะขอแล้วอีเปรตนี่ขอเก่ง ก็คือไอ้ซาลาเปา หรือน้องเปา หนุ่มหมีขาวตัวอวบ ที่ไปยังไงมายังไง มาสนิทกับหวังได้ก็ไม่รู้ อาจเพราะมันเป็นคนเข้ากับคนได้ง่ายล่ะมั้ง เรียกว่าเป็นนักกิจกรรมเลยเชียวล่ะ สนิทกับอีกัสด้วย อีกัสสนิทกับหวังอีกที รู้อีกที มันก็ชอบมานั่งที่โต๊ะกะเทย จนคนเขาล้อว่าน้องเปาต้องเป็นผัวกะเทยสักตัว แถมไอ้หมีตาขีดนี่ก็ไม่ปฏิเสธซะด้วย หวังน่ะแอบกังวลนิด ๆ ว่ามันมาจีบหวังหรือเปล่าเพราะคนที่มันคุยมันล้อด้วยบ่อย ๆ ก็คือหวังกับอีกัส
"กัสมันจีบมึงหรือเปล่าอีเปาน่ะ กูเห็นเทียวไล้เทียวขื่อมึงจัง เช้าถึงเย็นถึง ตัวติดกะมึงเหมือนปลิง" อีเมืองเคยถามเอาตรง ๆ แต่อีกัสปฏิเสธเสียงหนักแน่น
"ว๊ายตายแล้ว หนูไม่เอาอีเปาทำผัวหรอกค่า หุ่นแม่งอย่างกะหมีควาย หนูชอบพี่ติ๊กนักบาสตะหาก ทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ ดาร์ค ทอล แอนด์ แฮนด์ซัม" กัสมันเพ้อ แต่ว่าก็ว่า เรื่องสเปคนี่ก็ว่ากันไม่ได้ ไอ้ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนด์ซัมของอีกัสน่ะ หวังว่าไอ้ติ๊กนี่มันเหมือนคนแขกซาอุอะไรอย่างนี้ หวังไม่ช้อบไม่ชอบ หวังชอบตี๋ ๆ ขาว ๆ หล่อ ๆ แบบน้องธเนศ นั่นตะหาก เรียกว่าถ้าได้เป็นผัว เจ๊หวังจะยอมเปย์ทุกอย่างเลยค่ะ ข้าวโพดก็จะขายมันเช้าเย็น เอาเงินมาเปย์ทุกบาททุกสตางค์ขอให้อ้อนมาให้หวาน ๆ ก็เป็นพอ
หวังก็คิดเพ้อเจ้อไป ดูคลิปโป๊ไป นอนดูข้าง ๆ อีคิตตี้นี่หละ ไม่อายมันหรอก เจอคลิปเก้งจีนตัวนิดเดียว โดนนิโกรล่อ เฉพาะXวยไอ้นิโกรนั่นก็ใหญ่กว่าแขนอีเก้งจีนแล้ว แล้วเสือกร้องแหกปากอย่างกะโดนเชือด อีเปรตนั่นเยไปก็เอามือจิกหัวไป ตีตูดไปจนตูดแดงแจ๋ มันก็เป็นแฟนตาซีนั่นแหละ ดูแล้วตื่นเต้นแต่ถ้าคิดสภาพไปโดนเอง อีหวังตายแน่
"อีดอก มึงว่าอีเหี้ยนี่จะกีแหกตายไหม?" หวังยื่นคลิปไปให้คิตตี้ดู
"ไม่ตายก็คางเหลืองอีห่าแต่เขาแสดงหนังโป๊ คงชินแล้วมั้ง" คิตตี้ออกความเห็นบ้าง
"มึงถ้าโดนเยมันจะเจ็บไหมวะ?" หวังกระซิบกระซาบถาม ยังไงคิตตี้มันก็เป็นพี่แก่กว่าหวังปีนึงแล้วสองพี่น้องก็ไม่ได้มีความลับต่อกันถามกันได้ไม่อายหรอก
"เจ็บสิมึง แต่มันก็เป็นเจ็บปนเสียวน่ะ คืออย่างนี้มันก็ต้องเตรียมตัวไปประมาณหนึ่ง มึงนึกออกมั๊ย อีรูนั่นน่ะมันเคยแต่วันเวย์ วันดีคืนดีมันทูเวย์ขึ้นมา แล้วไม่เตรียมตัว มึงเสือกแถมทองขึ้นมา คราวนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน" คิตตี้ที่ท่าทางมันจะเสียซิงไปแล้วหันมาสอนน้อง จริง ๆ หวังก็เอะใจแหละแต่ไม่เคยถามจริงจัง ถ้าพูดอย่างนี้มึงมีผัวไปแล้วแน่ ๆ อีหอย
"เตรียมตัวยังไงวะ?"
"ล้างตู้เย็นให้สะอาดอีดอก" คิดตี้บอกและอธิบายถึงการล้างตู้เย็นอย่างละเอียดยิบ หวังไปลองทำเอาในวันรุ่งขึ้น มันต้องมีจังหวะมีเทคนิคหน่อย ไม่อย่างนั้นก็เจ็บเหมือนกัน เริ่มจากต้องมีสายชำระดี ๆ ที่ต้องเทสความรุนแรงของน้ำด้วยนะคะ ไม่ใช่ทะลึ่งกดไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้ำอาจระเบิดได้ รวมถึงอุณหภูมิก็สำคัญ ไม่อย่างนั้นหน้าร้อนอย่างนี้ เสือกเปิดน้ำเจอน้ำร้อนลวก ผลคือตูดสุกกันพอดี
กรรมวิธีต่อไปก็คือการสอดใส่ อย่าไปนิยายว่าไอ้นั่นจ่อ ๆ แล้วมันจะเข้าไปได้ง่าย ๆ รูตูดน่ะมันไม่ใช่ปากที่จะมีน้ำลายไว้หล่อลื่น เจลหล่อลื่นจึงสำคัญที่สุด ถ้าใครจะเยแล้วไม่เตรียมมา มึงก็อย่าไปให้มันเอา คนเห็นแก่ตัว จะเยแล้วไม่รักษาความสะอาด ไม่ล้างXวยให้สะอาดนี่ นิสัยเสีย ขอบมันอับ ๆ ต้องล้างให้ดีก่อน
คิตตี้มันสอนจนหวังชักจะทึ่ง คิดมันไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกันนะ แต่อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น เค้นถามมันเยอะ ๆ เดี๋ยวมันด่าเอา และอีกคนที่หวังจะถามได้ค่อนข้างลึกก็คือเจ๊วินี่แหละ เพราะมีผัวเป็นตัวเป็นตน พอถามเรื่องเข้าพระเข้านาง เจ๊วิก็พูดคล้าย ๆ อีคิตตี้นี่แหละ
หวังยังคงมาฝึกมือที่ร้านทำผมของเจ๊วิเวียนวันเสาร์อาทิตย์เหมือนเคย เอามังคุดมาฝากตั้งมากมาย แต่ไม่กล้าเอาทุเรียนมาให้เพราะกลัวขึ้นรถสองแถวมาแล้วเขาด่าโคตรพ่อโคตรแม่ กลับบ้านเอาเย็น ๆ ไปช่วยคิตตี้มันขายข้าวโพดต้มต่อ คนต่อคิวซะยาวเหมือนไม่ใช่แค่รอกินข้าวโพดแต่อยากจะเจอหน้าแม่ค้าคนสวยสองคน
ตั้งแต่เรียนทำผมแต่งหน้ามา คิตตี้มันสวยขึ้นเป็นกองจะฝีมือใครล่ะ ก็ฝีมืออีหวังนี่ไง ผมก็ทำสีทันสมัยแล้วทรงก็เท่สุด ๆ คิดมันเป็นคนหน้าหวานอยู่แล้ว แถมคุยเก่ง เวลาลูกค้ามาซื้อก็ประจี๋ประจ๋อ พอ ๆ กับหวังนั่นแหละ เคยมีลูกค้าเป็นหนุ่มใหญ่ท่าทางเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมาขอเบอร์ของคิตตี้มันด้วยซ้ำไป แต่คิตตี้มันไม่ได้สนใจ เท่านั้นยังไม่พอ ยังหลอกให้เขาซื้อข้าวโพดไปตั้งหลายฝักเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับอีคิตตี้ซะแล้ว
วันประกาศผลสอบมาถึง หวังล่ะแสนดีใจ แกะทุเรียนที่สุกพอดีแถมแช่ตู้เย็นไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใส่กล่องใบใหญ่สุดซะด้วยเพราะที่บ้านกินกันจนเบื่อแล้ว ไปแต่เช้าตรู่ คิดถึงอีเมืองเพื่อนรักเต็มแก่ ตอนนี้ต้องไปโรงเรียนคนเดียวแล้ว สวยด้วยรวยด้วย ไม่เดินให้เมื่อยตุ้ม หวังขึ้นรถไปโรงเรียนซะเลยทั้ง ๆ ที่มันห่างแค่ไม่กี่ป้ายรถเมล์นี่แหละ แต่เป็นรถมอเตอร์ไซค์วินนะ คนขับก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล พี่แห้วลูกน้องของเฮียตี๋ที่โดนเฮียตี๋คุมแจอย่างกะลูกไม่ให้ไปซุกซนจนถูกผู้หญิงหลอกแดกอีก นอกเวลางานก็ให้พี่แห้วมาวิ่งวิน หวังไว้ใจแกเพราะแกเพี้ยน ๆ เปิ่น ๆ แต่ไม่มีพิษภัย ที่สำคัญคือเห็นอีพี่แห้วเป็นคนแก่แดก หวังให้ทุเรียนพูใหญ่ ๆ ไปก็เลยได้นั่งรถฟรี เรื่องมันก็มีด้วยประการฉะนี้
ถึงโต๊ะกะเทย อีเมืองเพื่อนรักโบกมือหย็อย ๆ อยู่ไกล ๆ หวังกอดเพื่อนด้วยความคิดถึงเสียไม่มี แล้วก็รีบทวงทุเรียน ตกลงอีผีนี่คิดถึงเพื่อนหรือคิดถึงทุเรียนกันแน่อีหอกหัก จากนั้นเหล่ากะเทยในโรงเรียนเราก็ค่อย ๆ ทยอยกันมา รวมถึงเจ๊โหน่งกับเจ๊หน่อยที่มากับเขาด้วย คิดแล้วก็ใจหายสนุกด้วยกันมาสองปี จากนี้จะไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ แล้ว
จากการซักถาม เจ๊โหน่งไปเรียนมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ส่วนเจ๊หน่อยคนสวย กำลังเทคฮอร์โมนจะทำนมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเรื่องเรียนแกยังดู ๆ อยู่ว่าจะเรียนที่ไทยหรือจะไปเรียนที่เยอรมันกับพี่ของแกที่โน่น คนรวยก็ดีอย่างนี้แฮะสวยด้วยรวยด้วย แต่แกพูดทีเล่นทีจริงว่า แกจะไปขายกี หวังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเจ๊หน่อยบ้านแกรวยจะตายจะไปขายกีเพื่อ? แต่ถ้าตรงกันข้าม เอาเงินไปเปย์ผู้ชายหวังยังจะเชื่อมากกว่า
ไม่ได้เจอกันนานคุยกันโขมงโฉงเฉง มีแต่คนพูดไม่มีคนฟัง แถมเป็นการพูดที่เจือด้วยกลิ่นทุเรียนเสียด้วย
"อีกัส เอาทุเรียนไปฝากน้องธเนศให้เจ๊หน่อย" หวังเห็นน้องธเนศเดินหลังไว ๆ อีกัสก็รู้ใจ หยิบทุเรียนพูใหญ่ลั่งๆ ที่ห่อกระดาษอย่างดีวิ่งเอาไปให้เพื่อน แต่ไปแค่แปปเดียวอีกัสก็กลับมาพร้อมด้วยทุเรียนที่ยังอยู่ในมือ
"อีธเนศมันแพ้ทุเรียนค่ะเจ๊ มันว่าได้กลิ่นแล้วมันจะอ้วก"
"สัสเรื่องมาก แดกไม่ได้ก็ไม่ต้องแดกอีควาย" อีเมืองที่ไม่ค่อยถูกชะตากับน้องธเนศกัดฟันด่าและยื่นมือไปรับทุเรียนพูใหญ่มา ทำท่าจะแดกไว้ซะเอง
"เอ๊าอีน้องเปา มานี่ ๆ มาแดกทุเรียนนี่มาเจ๊เอามาฝาก" หวังเสียดาย อีหอยเมืองแดกไปสี่เม็ดแล้ว จึงหยิบทุเรียนจากมืออีเมืองมา อีเปายิ้มรับ กล่าวขอบคุณและแดกด้วยทีท่าแสนอร่อย แต่อีเมืองทำปากขมุบขมิบด่า ที่โดนปาดหน้าเค้กซะนี่
"อีเปาทำไมผอมลงเยอะวะเนี่ย?" หวังเห็นมันที่ผอมลงผิดหูผิดตา ก็อดจะทักไม่ได้
"ลดลงสิบโลแล้วเจ๊หวัง เดี๋ยวเปิดเทอมมาเปาจะหล่อให้ดู" อีเปามันพูดไปยิ้มไป ยิ้มจนตาปิด แต่มึงแดกทุเรียนกูอยู่ค่ะ จะเอาที่ไหนมาผอมอีผี เปามันว่ามันต้องทั้งลดอาหาร ทั้งออกกำลังกายอย่างหนัก วันนี้วันชีสเดย์ของมันพอดี มันก็เลยมานั่งอ้อนข้าง ๆ หวังขอแดกทุเรียนอีกและกินไปอีกสองพูใหญ่ ๆ หวังให้กินเพิ่มมันก็ว่าพอแล้ว เพราะแค่นี้มันก็ต้องไปใช้กรรมออกกำลังกายอีกหลายชั่วโมงแน่ ๆ
"แดกไปค่ะ เอ้าให้หมดนี่แหละ คนอื่นมันแดกกันหมดละ ใครช้ากว่านี้ไม่ต้องแดกต้องเดิกมันละ อีเปาแดกให้สมใจแล้วเปิดเทอมมา เอาให้หล่อระเบิดไปเลยนะ" หวังแซว
"เดี๋ยวเปาจะหล่อจนเจ๊หวังจีบเลยแหละ" เปามันล้อกลับ แต่หวังมันก็ไม่รู้ตัวหรอกนะ เพราะคนอยู่กันเยอะ ก็ตอนนั่งกันอยู่นี่อีเปาที่แดกไปมือของมันก็แอบโอบเอวหวังไปด้วย อีหวังก็มัวแต่เม้ามอย เขาจะจกกีมึงอยู่แล้วยังไม่รู้ตัว อีผี!!!