มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
"มึงเรียนหนักมั๊ยล่ะ"
"ก็นิดหน่อย ไปเรียนเอาสังคมมึงล่ะ?"
"จบละทำงานเต็มตัวละค่ะ"
"ทำอะไรบ้างวะ?"
"ก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ทำผมนี่ไง แต่เจ๊วิกำลังขยายกิจการจะเปิดสตูดิโอด้วย ถ่ายพรีเวดดิ้งอะไรพวกนี้ แล้วกูก็เป็นตัวหลักทำหน้าทำผมให้เจ๊วิเค้า รับเป็นจ๊อบ ๆ ไปแต่งานหลักก็อยู่ที่ร้านเสริมสวย"
สองเพื่อนซี้ หวังกับอีเมือง นั่งเม้ามอยกันในร้านไก่ทอดซึ่งตั้งอยู่ในห้างตรงข้ามบ้านของหวังนี่แหละไม่ไปไหนไกลในห้างมันเย็นดี อีเมืองน่ะ มันเรียนมหาวิทยาลัยปีสองเข้าไปแล้ว เรียน ๆ เล่น ๆ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ไปเรียนให้มันครบ เรียนพอให้สอบผ่าน มีเวลาว่างก็เกิดคิดฮอดเพื่อนเก่า นัดแนะกันมากินอะไรแล้วก็เม้ากัน นินทาคนโน้นคนนี้พอให้หายคิดถึง ไม่ว่าจะรุ่นพี่อย่างเจ๊โบ๋เจ๊สมศรี เจ๊โหน่งกับเจ๊หน่อย รุ่นน้องอย่างอีกัส ซึ่งตามไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเปาทั้ง ๆ ที่อีกัสมันเรียนเก่งน่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของรัฐได้ แต่ก็เลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองชลด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือเบื่อบ้าน อยากอยู่ไกลหูไกลตาพ่อกับแม่ของมันและอยากอยู่ใกล้ทะเล
"แล้วผัวมึงล่ะ?" เมืองถามถึงผัวของเพื่อนบ้าง
"ก็ดี" หวังตอบกลาง ๆ จะให้ตอบอย่างไรกันล่ะ คบมาเป็นแฟนกันสองปี มันก็รักกันเรื่อย ๆ เหมือนเดิมนั่นแหละ เปามันก็เสมอต้นเสมอปลาย หวังก็เหมือนกัน
อาจเพราะช่วงคบกันทั้งสองคนมีเวลาให้กันอย่างจำกัด เพราะต่างคนต่างก็เรียนกันอย่างเข้มข้น หวังเรียนเสริมสวยเรียนแต่งหน้าและสนุกกับมันอย่างสุด ๆ แถมผลงานของหวังก็เข้าตาจนเจ๊วิขยายกิจการกลาย ๆ วางตัวให้หวังเป็นหัวเรือหลักของทีมช่างเลยล่ะ
ส่วนเปามันก็ตั้งใจเรียนเพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ได้คณะที่ตัวเองตั้งใจ คือวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งต้องไปเรียนที่ชลบุรีโน่นอีก ในฐานะเมียต๋า หวังก็ดีใจกับเปานักเพราะได้เรียนคณะที่ตั้งอกตั้งใจ เปาชอบเล่นกีฬาชอบเรียน ทีแรกป๊ากับม๊าอยากให้เปาเรียนเป็นมดเป็นหมออะไรโน่น
"เห็นเลือดก็มืออ่อนตีนอ่อน เห็นแผลเล็ก ๆ เค้าเป็นยังลมไปเลย จะไปเป็นหมอได้ยังไง เป็นหมอดูยังน่าจะง่ายกว่า" เปาตอบคำถามเมื่อหวังถามเล่น ๆ
"แล้วมึงเจอกับมันบ่อยป่าวล่ะไปเรียนซะไกลแบบนั้น?" เมืองถามต่อ
"แรก ๆ ก็ไม่ค่อยเจอหรอกมึง เพราะเฟรชชี่อ่ะเนอะ ทำกิจกรรมเอย โน่นนี่นั่นเอย แต่ถ้าว่างเสาร์อาทิตย์เปามันก็ขับรถกลับมานอนที่กรุงเทพฯ ตอนกลางคืนมันก็ขับรถมารับกูไปนอนค้างที่บ้านอาม่ามัน" หวังเล่าไปฉีกไก่กินไป
"ไม่ห่วงหรอยะ เปามันหล่อขนาดนั้น ไปเจอคนหน้าตาดี ๆ แล้วไกลแฟน มันจะเหงาหรือเปล่า ไอ้จีบคนอื่นอาจจะไม่ แต่คนอื่นมาจีบล่ะ น้ำหยดลงหินหินมันยังกร่อนเลยนะคะมึง" เมืองเร้าอีก รับบทนางบ่างช่างยุ ผู้หวังดีประสงค์ร้าย
"ไม่หรอก ถ้าจะมีเมียใหม่ก็เรื่องของมัน" หวังตอบอย่างไม่ยี่หระ ยักไหล่หนึ่งทีเสียด้วย
หวังไม่หึงไม่คิดมากจริงอย่างที่ว่า ไม่ได้แอค จนเมืองมันเบ้ปากเป็นสระอิ และหวังก็ไม่ได้โกหกด้วยนะ หวังเฉย ๆ จริง ๆ ไม่ใช่ไม่รัก ไม่หวง ไม่ห่วง หวังรักเปาเหมือนเดิมรักมากกว่าเดิมอีกด้วยมั้ง แต่หวังมั่นใจในตัวเปาไอ้หมาเด็กมันคลั่งรักหวังจะตาย ก็หวังรักเปาจนหวังไม่มีสายตาไม่มีหัวใจไว้ว่อกแว่กกับใคร เปามันก็คงเหมือนกัน แต่อีคิตตี้มันก็เตือน ๆ ว่ารักใครชอบใครก็ต้องเตรียมใจเผื่อไว้หน่อย
"คนอยู่กินด้วยกันเป็นสิบ ๆ ปี ยังเลิกกันได้ สำมะหาอะไรกับคบกันแค่สองปีกันเล่า บางคนมีลูกด้วยกัน อีผัวไปมีเมียน้อยแล้วเสือกเอาเมียหลวงมาฟ้องหาว่าโกงเงิน ก็ข่าวเพิ่งออกอยู่โต้ง ๆ คนสรรเสริญกันทั้งเมือง ชายแทร่จริง ๆ" สองพี่น้องเม้ากัน คิตตี้แซวอย่างเป็นห่วง
ส่วนหนึ่งที่ทำให้หวังไม่มีเวลาไปคิดมากเรื่องเปาก็คงเป็นเพราะงานใหม่ของหวังมันยุ่งวุ่นวายเหลือเกิน นี่วันนี้ที่ได้มานั่งชิลกินไก่ทอดกับอีเมืองได้ก็เพราะหวังจองคิววันหยุดไว้หรอกนะ ช่างฝีมือดีใครก็อยากจะมาให้แปลงโฉมด้วยเรื่อย ๆ ก็ผมคนเรามันยาวขึ้นตลอดเวลานอกจากอยากไว้ผมยาวนั่นแหละค่อยห่างกัน
แต่ความเป็นผู้หญิงน่ะ ถึงจะไว้ผมยาวก็อดไม่ได้ที่จะมาดูแลผมมาทรีตเม้นต์ มาทำสปา หวังวางยาไว้เยอะไม่ตัดก็ต้องมาบำรุง แล้วจะมาตัดผมกับหวังน่ะก็ไม่ใช่เดินมาแล้วทำได้เลยหรอกนะ ต้องจองคิวค่ะ หวังรับจองไม่มากวันละสี่คนแบบคิวหลวม ๆ เผื่อเวลาว่าง ๆ และเผื่อลูกค้าจรบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งลูกค้าจรก็จะกลายสภาพเป็นลูกค้าประจำในเวลาต่อมา
อีกอย่างที่ได้หยุดวันนี้ก็เพราะเมื่อวานหวังไปโขกหน้าเจ้าสาวซึ่งต้องแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ สแตนด์บายที่โรงแรมโน่น ไปกับช่างเสื้ออีกคน อัดกาแฟขม ๆ เสียเต็มอัตราให้ตามันสว่าง แต่งหน้าแต่งตารอบจริงซึ่งกว่าจะถึงรอบนี้ก็ลองแต่งลองผมกันอยู่สองรอบ ไหนจะถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งด้วย
ทำพิธีเช้าเสร็จ ก็ต่อตอนบ่ายแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยง แล้วก็ต้องอยู่แดกข้าวในงานอีกนะ ไม่อย่างนั้นเจ้าภาพจะงอนเอาไม่ใช่หวังงกกินหรอกนะ หวังน่ะตัวกะเปี๊ยกนึงกินอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็อิ่มจนเปามันว่ากินเหมือนแมวดม
"มองเตงกินเค้าก็อิ่มแล้ว" หวังตอบเอาใจแล้วก็ป้อนอาหารให้เปาเสียเลย
ด้วยอายุเพียงยี่สิบแต่เข้าสู่วัยทำงานแล้ว จะว่าเร็วก็ไม่เร็ว จะว่าช้าก็ไม่ช้า อาจเพราะหวังตอนรู้ความก็ช่วยแม่ขายผักแล้ว โตขึ้นมาหน่อยก็ไปขายข้าวโพดต้มกับคิตตี้ วิญญาณแม่ค้ามันก็เลยอยู่ในสายเลือด อยู่ในเนื้อตัว แต่หวังก็ไม่เคยบ่น หวังสนุกกับมันจะตายเพราะเป็นงานที่รักที่ชอบ ก็กิริยาตอนกำลังแต่งหน้า ตอนกำลังค่อย ๆ ลงรองพื้น คัดเบ้าจากตาตี่ยิบหยีกลายเป็นสวยซึ้งขึ้นมา ปัดมาสคาร่าจนขนตายาวเป็นแพ กะพริบตาทีนึงอย่างกับพัด ตอนกำลังวาดริมฝีปากให้สวยราวกับกระจับ เขียนคิ้วให้สวยราวกับคันศร แก้มอมเลือดอมฝาด และผิวกระจ่างใสราวกับผิวเด็กราวกับใช้เมคอัพบางเบา แท้ที่จริงลงผลิตภัณฑ์เสียห้าหกชั้นเชียวนะ นี่ล่ะที่เค้าว่าเมคอัพโนเมคอัพล่ะ
สไตล์การแต่งหน้าของหวังจะเรียบแต่โก้ น้อยแต่มาก ไฮแฟชั่น ติดแกรมดูดี ดูลูกคุณ ไม่น้อยไปไม่มากไป แต่ถ้าอยากเฟี้ยวฟ้าวหลุดโลกหวังก็เนรมิตให้ได้ ยิ่งทรงผมด้วยล่ะก็ จะเกล้าทรงพิสดารขนาดไหน หวังจัดให้ได้หมดขอให้ใจกล้าพอ ๆ กับช่างเถอะ
หรือยามอยู่ร้านทำผม จะทำสีทำทรงอะไรหวังก็ออกแบบและทำได้ตามใจลูกค้าสั่ง ออกจะเกินที่ลูกค้าคิดหวังเสียด้วยซ้ำ ทุกคนยิ้มอย่างดีใจ ปลื้มใจก็ตอนก่อนเข้ามาในร้าน อาเจ๊หน้าตาเบื่อโลกคนนั้น บอกหวังว่าทำทรงอะไรก็ได้ให้มันสบาย ๆ หัวหน่อย แต่หวังก็จะลองจับรูปกะโหลกลูกค้าลองหวีผมดูแนวผม ลองจับดูลักษณะเส้นผมที่มันคุณภาพดีลื่นเป็นมันเงา หรือสากและแห้งกร้านราวกับไม้ถูพื้น
แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ หลังผ่านมือน้องหวัง จากอาเจ๊ ก็จะกลายเป็นอาหมวย สวยปิ๊ง ดูดี ราวกับเป็นคนละคน ทรงผมมันเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง ๆ นะ เหมือนการแต่งหน้านี่แหละ เผลอ ๆ ได้ผมทรงใหม่ ได้สีใหม่ แกอาจจะหาผัวได้สักคนสองคนก็ได้ใครจะไปรู้
และหวังก็มีรายได้เสริมเสียด้วย เสริมจากการขายผลิตภัณฑ์บำรุงผม ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าซึ่งง่าย ๆ เช่นลิปกลอสบำรุงริมฝีปาก แล้วไม่ใช่ขายแต่ลูกค้าผู้หญิงและเก้งกวางนะ ชายแทร่หวังก็ขายให้เขา
ก็ผู้ชายเดี๋ยวนี้น่ะ ดูแลตัวเองดีจะตาย ลิปกลอสของหวังมีหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นสีธรรมชาติบำรุงริมฝีปาก ไปจนลิปที่ออกสีน้อย ๆ แบบผู้ชายทาได้คุณเก้งแอ๊บแมนทาดี
พวกผลิตภัณฑ์บำรุงผมน่ะมันของร้านเจ๊วิ ขายได้ก็ได้ค่าคอม ส่วนลิปพวกนี้น่ะเป็นของเฮียตี๋
เฮียตี๋แฟนเฮียโจสุดหล่อ ลูกอาอึ้มที่ขายโจ๊กคนนั้นนั่นไง คนที่โคตรรวยทำผลิตภัณฑ์ขายสารพัดน่ะ ให้บังเอิญว่าวันหนึ่งสองผัวเมียมาตัดผมที่ร้านเจ๊วิ เพราะเมื่อเจอหวังพูดคุยกันรู้ว่าหวังมาทำงานอยู่ที่นี่ ก็เลยจะมาอุดหนุนอยากหล่อกับเขาบ้าง
หวังซึ่งตาดี เห็นหน้าเฮียตี๋ที่แม่งจะสามสิบแล้วยังดูดีแถมริมฝีปากยังเจือสีแดงเรื่อ ๆ แบบธรรมชาติ ด้วยความสนิทกันหวังก็เลยถามเสียเลย
"ลิปกลอสเปลี่ยนสีของบริษัทกูเอง คือมันจะเปลี่ยนสีไปตามธรรมชาติความเป็นกรดความเป็นด่าง ค่าพีเอชน่ะมึง คือแต่ละคนมันไม่เหมือนกันใช่ไหมเล่า ทาแล้วมันจะมีสีนิด ๆ แล้วก็บำรุงริมฝีปากด้วยนะ ปากดำปากแห้งเป็นบ๊วยเค็ม ทาอันนี้อันเดียวอยู่ ขนาดม๊ากูไปเที่ยวดูหิมะที่ญี่ปุ่นมา ทาอันนี้อันเดียวอยู่เลย ปากไม่แห้ง สวยน่าจูบ" เฮียตี๋ขายของใหญ่แถมแกยังเอามาทาอวดซะด้วย หวังดูแล้วก็สนอกสนใจเต็มที่
หวังเองก็คนคุ้น ๆ ก็เลยคุยว่าจะขอตัวอย่างไปเทสซึ่งเฮียโจก็จัดให้ชุดใหญ่เลยหนึ่งชุดฟรี ๆ ไม่ใช่จะใจป้ำอะไรหรอกงานอดิเรกของหวังตอนนี้คือถ้าว่าง ๆ อารมณ์ดี ๆ หวังก็จะไลฟ์แต่งหน้าลงโซเชียล แรก ๆ ก็แต่งมันเล่น ๆ สนุก ๆ นี่ล่ะ ต่อมาก็รีวิวเครื่องสำอางไปเลย ไม่ใช่บรรลุคิดเองทำเอง เลียนแบบจากอินฟลูที่เมืองนอก และเมืองไทยบางคน หวังพื้นฐานแต่งหน้าแน่นอยู่แล้ว และหน้าของหวังก็หวานนิด ๆ จากหน้าจืด ๆ ของชายหนุ่ม หวังจัดแจงแต่งเป็นสาวได้สารพัด ชนิด จะสาวเปรี้ยว สาวหวาน สาวเซ็กซี่ เจ๊หวังจัดให้หมด
จนเฮียตี๋ให้หวังเอาลิปมารีวิวนี่ล่ะ แถมแนะนำให้หวังติดตะกร้าด้วยซะเลย ซักซ้อมคุยกันเรื่องระบบตะกร้าและระบบการเงินหลังบ้าน ก็เลยกลายเป็นหนึ่งครั้งต่ออาทิตย์หวังก็จะไลฟ์แต่งหน้าพร้อมกับขายของ จากลิปก็เพิ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งหวังก็เต็มใจนักเพราะผลิตภัณฑ์ของเฮียตี๋น่ะมันดีจริง ๆ เป็นกึ่ง ๆ เวชสำอางอันนี้ที่รู้ไม่ใช่หวังเสือกหรอกนะ แต่เพราะเฮียโจเล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่าแม่ของแกเป็นเภสัชกร การทำผลิตภัณฑ์ก็เลยต้องปลอดภัยด้วย หวังก็เลยใช้อย่างเต็มอกเต็มใจ ราคาแพงหน่อยแต่พอเอื้อมถึงที่สำคัญ ค่าคอมโคตรดีมิน่าล่ะ สองผัวเมียเฮียโจกับเฮียตี๋ถึงรวยเอารวยเอา
ว่ากันตรง ๆ จริง ๆ ด้วยการติดตะกร้าแบบนี้ หวังได้เงินค่าคอมเยอะกว่าไปเป็นช่างทำผมเสียอีก แต่หวังรักการเสริมสวยเสียแล้ว ในเมื่อเราทำหลาย ๆ อย่างได้ในคราวเดียวทางไหนดีหวังก็ทำหมดไม่สนใคร
ใครจะไปคิดว่าเด็กหวังในวันก่อนที่ต้องมาต้มข้าวโพดขายช่วยยายปลาขายผักในตลาด วันนี้กลายเป็นช่างผมคนดัง เป็นอินฟลูสายสกินแคร์และเครื่องสำอาง แต่หวังก็ยังเป็นหวัง ไม่เห่อเหิม ไม่ได้รู้สึกว่าฉันมีฉันมากกว่าคนอื่น หรือเป็นคนดังแต่อย่างใด
ในอายุยี่สิบ งานยิ่งเยอะ หวังยิ่งชอบ นอกจากเงินแล้วก็คือความบันเทิงใจยามได้แต่งแต้มทำผู้หญิงคนหนึ่งให้สวยที่สุดในวันสำคัญในชีวิต
และเมื่อลาจากเมืองเพื่อนรักไปแล้ว หวังก็เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า แต่ไม่ซื้อหรอกนะ เดินเล่น ๆ ดูโน่นดูนี่ แล้วก็ข้ามฟากกลับมาที่บ้าน พ่อกับแม่ไปขายผักตามปกติ อีคิตตี้ก็ไม่อยู่ไปเมืองจันท์โน่น ก็เลยเหลือหวังอยู่บ้านคนเดียว นึกเบื่อขึ้นมาก็เลยเดินไปตลาดดีกว่า หาขนมกินแล้วก็นั่งเล่นที่แผงผักกับแม่เดี๋ยวจะได้กลับบ้านด้วยกัน ระหว่างรอก็ซื้อของกินเผื่อตอนมื้อเย็น ซื้อขนมไว้กินเล่นบ้าง ทักทายคนรู้จักบ้าง ขายผักบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ จนช่วยพ่อกับแม่เก็บแผงแล้วก็กลับบ้านและกินข้าวเย็นด้วยกัน
หัวค่ำสักหน่อย หวังก็เตรียมตัวเปิดโทรศัพท์มือถือ วางมันเป็นตับเพราะไลฟ์หลายช่องทาง พูดทักทายคนที่เข้ามาดู ของที่จะขายของที่จะสาธิตการใช้หวังเตรียมไว้แล้ว หวังมันก็เป็นคนพูดไปเรื่อย เล่าเรื่องตลกโปกฮา นินทาเพื่อน นินทาลูกค้า นี่ก็คือเสน่ห์ในการไลฟ์ของหวัง ยิ่งถ้าคิตตี้มันอยู่บ้าน ตอนไลฟ์ สองพี่น้องคุยกัน เหมือนคณะตลก หวังแต่งหน้าแบบสวยฉ่ำ ลิปเจลตัวใหม่ที่เฮียตี๋ให้หวังมาหวังลองแล้วสวยชะมัด
ยิ่งเมื่อรันเวย์ก่อน สไตล์การแต่งหน้าให้นางแบบเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ หวังก็แต่งได้อย่างนั้น สีรองพื้นขาวกว่าความเป็นจริง หนึ่งถึงสองระดับ คิ้วโก่งเล็กเหมือนผู้หญิงยุคแกสบี้ หรือยุครัชกาลที่แปด คิ้วเรียวยาวบางเฉียบ แก้มแดงเป็นพวง เปล่งปลั่ง สีชมพูเจือไปทางม่วง เปลือกตาสีม่วงไลแลคและจบด้วยริมฝีปากเจ่อ อมม่วงแดงสวยพิศวง จบแล้วก็สวมวิกผมสั้นหยิกดัดลอนสีชมพูอมม่วง และพูดขายและตอบคำถามเอฟซีไปด้วยพลาง ๆ ด่ามั่งชมมั่ง เม้ามั่ง นี่ล่ะหวังล่ะ บางคนเข้ามาดูไม่ซื้อหรอก เข้ามาดูหวังทะเลาะกับลูกค้า มันตลกดี
แต่โทรศัพท์เครื่องพิเศษที่แตกต่างจากเครื่องอื่น เครื่องนี้ไม่ได้ไลฟ์ขายของ แต่เป็นการเปิดวิดีโอคอลซึ่งคนปลายสายเป็นหนุ่มตาตี่หน้ามน ซึ่งนั่งวุ่นวายอยู่หน้าแลบท็อป นาน ๆ ครั้งเขาก็จะหันหน้ามามองหวัง แล้วก็อมยิ้ม โดยไม่ได้พูดจาอะไร ถ้าอยากคุยก็พิมพ์ข้อความเอา เรียกว่ามีหวังเป็นเพื่อนยามทำรายงาน
จนไลฟ์จบ ยอดขายปัง ๆ และเครื่องสุดท้ายก็คือโทรศัพท์ที่วิดีโอคอลคุยกับเปาที่เอาแต่จ้องหน้าหวัง เพราะงานของเปาทำเสร็จแล้ว
"เป็นไงลุคนี้?" หวังถามและมองเงาตัวเองในโทรศัพท์
"สวยค้าบ" เปาตอบไปยิ้มไปคุยบ่นกันอยู่อีกชั่วครู่ จนเปามันหาวนอนนั่นแหละ หวังก็ไล่ให้เปาไปนอน
"ไม่เอายังไม่ค่อยง่วงเท่าไร อยากคุยกับเตงอีกนิด" เปาว่าและหวังก็ไม่คาดคั้น คุยกันไปหวังก็ค่อย ๆ ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางไป จากหน้าที่แต่งจัดจ้านราวกับตุ๊กตาพอซเลน ตอนนี้กลับมาเป็นหวังคนเก่า ที่หน้าเกลี้ยงเกลาบริสุทธิ์
"ดึกแล้วเตงไปนอนนะคะ" หวังว่าเพราะเปาหาวรอบที่สามแล้ว ไอ้ต้าวเปาเด็กอนามัย จากสมัยก่อนที่ต้องอ่านหนังสือถึงดึกดื่น ตอนนี้เป็นเด็กมหาวิทยาลัย แล้วยังเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย ตอนกลางวันเปาต้องเรียนด้วยเล่นกีฬาให้สมกับคณะ ไม่ต้องอ่านหนังสือคร่ำเคร่งแบบตอนก่อนสอบเข้าแบบนั้นอีกแล้วยกเว้นว่าจะสอบ ปกติไม่เกินสี่ทุ่มเปาก็จะนอนเพราะอยากให้โกร๊ตฮอร์โมนมันหลั่งดี ๆ
แต่ถ้าเป็นคืนอย่างวันนี้วันที่หวังจะไลฟ์แต่งหน้าขายของ เปาก็จะคอยดู คอยเป็นกำลังใจให้ หวังไม่ค่อยห่วงเปาเพราะจริง ๆ เปาก็ไม่ได้อยู่ไกลสายตาหวังเท่าไรหรอก สายสืบกรีนแมมบ้า สายลับนาตาชา หวังก็พอจะมี ไม่ใช่อื่นไกล อีกัสนั่นเอง อีผีนี่เสือกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับไอ้ต้าวเปา หวังจึงฝากฝังให้กัสมันเป็นหูเป็นตาคอยดูว่าเปามันจะไปซุกซน นอกลู่นอกทางบ้างหรือเปล่า
"โอ๊ยไม่มีหรอกค่ะหม่อมแม่ อีผีเปาน่ะมันบ้ากีฬา ตอนเย็นเลิกเรียน โน่นค่ะ เขาไปแดกเหล้าปั่น อีผีนี่วิ่งด๊ก ๆๆๆ อยู่ที่สนามบอลโน่น" เล่าไม่เล่าเปล่า อีสิงห์สาวนักสืบถ่ายรูปถ่ายคลิปมาให้หวังเสียด้วย นี่สิอีน้องรัก เดี๋ยวเจ๊จัดลิปกลอสให้มึงชุดใหญ่
จริง ๆ หวังมีรุ่นน้องอีกสองตัวซึ่งสนิทกันแต่ไม่มากเท่าอีกัส หวังก็คอยถามจากอีสองตัวนั้นเพราะกลัวว่าอีกัสซึ่งสนิทกับไอ้ต้าวเปาจะช่วยกันโกหกเพื่อนไม่ให้ถูกเมียด่า เคยจับได้คาหนังคาเขา เพราะมันไปแดกเหล้าปั่นกัน แต่หวังก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ก็มันไปแดกด้วยกันทั้งสี่คนนั่นแหละ แต่เมาแล้วลากผัวกูกลับบ้านดี ๆ ส่งให้ถึงห้องอย่างปลอดภัยโดยไม่ให้มีชะนีหรือเก้งกวางที่ไหนมาวอแวด้วยนะ เกิดแม่รู้ว่าอีผัวเด็กแอบซุกซน แม่จะตีรถไปถลกหนังหัวถึงชลบุรีค่ะ จะตบพวกมึงด้วยข้อหาไม่ดูแลผัวกูให้ดี ๆ
อาจเพราะเปามันไม่ซุกซนแบบนี้หวังก็เลยไม่ต้องห่วงอะไรล่ะมั้ง งานก็เยอะและราบรื่น มีความสนุกท้าทายเป็นระยะ ๆ พอไม่ให้น่าเบื่อ เช่นล่าสุดเจ้าสาวอายุปาเข้าไปห้าสิบสองในขณะที่ผัวเด็กอายุสามสิบเท่านั้น หวังนี่คิดหนักกูจะกระชากอายุคุณป้ายังไงให้ดูอ่อนเยาว์เท่าผัวกันหนอ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี ป้าเขาเปรี้ยวอยู่แล้วไม่อย่างนั้นจะมัดใจผัวที่อายุคราวลูกได้เรอะ
และผัวเด็กของแกก็ออดอ้อนแสนน่ารัก ไม่ใช่ผู้ชายหวังเกาะคุณป้ากินนะ แว่ว ๆ มาว่าเขาก็ฐานะดีเหมือนกัน คุณป้าคนนี้แกอยู่เมืองนอกมาครึ่งชีวิต เลยเปรี้ยว ๆ หน่อย คุยกับหวังถูกคอกันเสียไม่มี
จบงานแต่งที่ฮือฮานี้ หวังก็ยังคงนั่งเล่นที่ล๊อบบี้ของโรงแรม จนโทรศัพท์มีสายเรียกเข้า หวังก็กุลีกุจอลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกไปที่ด้านหน้า ไม่ใช่หวังจะหนีตามผัวใหม่ไปไหนนะคะ ในกระเป๋ามีแต่เครื่องสำอางและอุปกรณ์ทำผมเด้อ
"รอนานเปล่า?" เสียงทุ้ม ๆ มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักและลูกกะตาตี่ ๆ ที่ยิ้มจนปิดเป็นสระอิ
"ไม่นานเลยเตงล่ะขับรถมาจากมหาลัยเหนื่อยเปล่า ไปนั่งพักไปให้เค้าขับให้" หวังว่า หลังจากเปาเอากระเป๋าเดินทางวางให้ที่เบาะหลัง ปิดประตูรถปุ๊บ เปาก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มหวังทันที เพราะคิดถึงเหลือเกินเหลือการ
"ไปละนะ ป้าปูคิดถึงแย่ละ แกว่าแกทำหลนปูไว้ให้เตงด้วย แล้วก็มีทุเรียนสุกกินได้เลยลูกนึง ลุงกุ้งเก็บไว้ให้เตงอีกสามลูกเอาไว้กินที่มหาวิทยาลัย" หวังรายงานจนเปายิ้มแก้มแทบแตก
จังหวะมันดีอะไรอย่างนี้ โรงแรมที่หวังมาแต่งหน้าคือโรงแรมริมทะเลใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยของเปานี่ล่ะ แถมจัดงานก็ตรงกับวันหยุดยาว เปาเรียนเสร็จก็ขับรถมารับหวังที่โรงแรม แล้วก็คุยกันแล้วว่าจะไปนอนค้างที่บ้านสวนเมืองจันท์ สองสามคืนหวังก็ลาพักร้อนกับเจ๊วิเป็นที่เรียบร้อย
เปิดเพลงเบา ๆ คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หวังก็ให้เปาเอนเบาะนอนราบ เปาซึ่งอยู่ในชุดกีฬา และมีกลิ่นเหงื่อคลุ้งออกมานิด ๆ ตอนนี้เพลียจนหลับไปแล้ว หวังก็ขับรถไปเงียบ ๆ เปิดเพลงเบา ๆ เพื่อกล่อมให้เปานอนหลับสบาย จากชลบุรีไปถึงเมืองจันท์ก็อีกไม่ไกล ถนนที่ทอดยาวก็นาน ๆ จะมีรถสวนมาสักคัน หวังเหลือบมองผิวขาวจัด ริมฝีปากสีชมพูเรื่อ ๆ ที่เผยอจนกรนเล็กน้อย ขยับหมอนรองคอของเปาให้กระชับขึ้น และหวังก็ฮำเพลงเบา ๆ อย่างสบายใจไปด้วย
อาม่ากลัวหลานรักไปกลับลำบากก็เลยถอยรถให้ซะเลยหนึ่งคัน หลานของอาม่ามันดีอย่างนี้ คิดถึงจังอยากกอดอยากจูบอยากหอมแก้ม และอยากโดนเยแรง ๆ นี่ครั้งสุดท้ายที่เยกันจนฉ่ำมันก็สองอาทิตย์ที่แล้ว หวังยื่นมือไปเข้าเกียร์รถ แล้วก็อมยิ้มยื่นมือไปจับเกียร์ของเจ้าของรถ
ไอ้เกียร์กระปุกนี่ก็ไวทายาด โดนมือแตะปุ๊บก็ขยายตัวทันที ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังหลับสนิทนี่แหละ หวังเขี่ยปลายนิ้วที่ส่วนปลายจนเห็นมีน้ำซึมออกมาจนเละกางเกงกีฬา
"เตงเล่นไรเนี่ย เสียว" เปาพูดออกมาทั้ง ๆ ที่หลับตาถนนเงียบสนิท แทบจะไม่มีรถสวนมา เข้าเขตเมืองจันทบุรีเรียบร้อยใกล้จะถึงสวนของลุงกุ้งแล้ว หวังนำรถจอดเข้าข้างทาง ฟิล์มที่ปิดรอบรถนั้นสีคล้ำจนแทบจะมองไม่เห็นว่าในรถกำลังทำอะไร แต่ใครที่สอดรู้หน่อย คงแปลกใจที่รถซึ่งจอดนิ่ง มันโยกไหวราวกับเกิดพายุข้างในรถ
รักระยะไกลมันช่างโหดร้าย และเมื่อระยะห่างมันหดเหลือแค่ปลายมือเอื้อม ก็ต้องจัดให้มันสุด ให้มันเสว