มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
"เตง...เตง...เตงจ๋า" เสียงเบาเหมือนกระซิบสั่นน้อย ๆ พร้อมกับมือเล็ก ๆ ที่แตะสัมผัสร่างที่นอนแบ็บอยู่บนเตียงนอนอย่างถนอมเบามือ ราวกับว่าถ้าออกแรงมากกว่านี้สักนิดร่างที่สัมผัสจะบอบช้ำอย่างนั้นทีเดียว
เปาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมามอง พยายามจะยิ้มให้ แต่ด้วยฤทธิ์ยาและพิษไข้ ตาซึ่งก็ตี่อยู่แล้วเผยอได้เพียงแค่นิดเดียวก็กลับไปปิดสนิทเหมือนเดิม
"อีเปามันเมายาน่ะค่ะเจ๊หวัง" เสียงเล็ก ๆ แหลม ๆ พยายามดัดให้คล้ายผู้หญิงบอก
"หรออีกัส นี่เป็นมาตั้งหลายวันไม่ดีขึ้นเลยหรอ?" หวังถามรุ่นน้อง
"ก็มันดื้อให้แดกอะไรก็ไม่แดก เอาแต่นอนแซ่ว จะไปมีแรงได้ยังไงล่ะ" กัสฟ้องและทิ้งตัวลงที่โซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง เพราะเฝ้าอีคนป่วยมาสามวันเข้าไปแล้ว อดหลับอดนอนจนตาดำไปกับมันด้วย
"น่าตี" หวังบ่นเบา ๆ แต่สีหน้าไม่ได้แสดงอาการโกรธขึ้นอะไรสักนิด แต่กลับสงสารชายหนุ่มที่นอนสลบไสลตรงหน้ามากกว่า
"เออเดี๋ยวเจ๊อยู่ดูแลเปามันเอง ขอบใจพวกหล่อนมาก ๆ นะยะ เอ๊าเอาขนมมาฝาก กลับไปพักผ่อนกันเถอะจ๊ะ" หวังบอกรุ่นน้อง ซึ่งมีกัส เพื่อนเก้งสาวของกัสอีกสองคนและเพื่อนนักกีฬาของเปาอีกคนนึง
พอทั้งหมดออกไปจากห้อง หวังก็มองร่างที่นอนแซ่วน้ำตาไหลซึมที่หางตานิด ๆ นึกโทษตัวเองเป็นอันดับหนึ่งและโทษเปาเป็นอันดับสอง
โทษตัวเองที่ไม่มีเวลาให้เปาเลย มัวแต่บ้างาน มัวแต่สนุกกับงานจนลืมคนรัก มองร่างของเปาที่เคยหล่อเหลาอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ แต่ตอนนี้สิ หมองลงไปอย่างกะโดนทำของ ผอมลงจนเห็นไหปลาร้า แถมยังมีหนวดเคราขึ้นครึ้มเพราะไม่ได้โกนหนวดโกนเคราอีกด้วย เปามันเป็นคนหนวดขึ้นเร็วซะด้วยสิ
ส่วนที่โทษเปาก็คือทำไมไม่ดูแลตัวเองดี ๆ กัสมันฟ้องว่ามัวแต่อดหลับอดนอนทำรายงานแล้วยังต้องไปออกกำลังอีก กลับมาก็ทำรายงานดึกดื่น รายงานบ้าบออะไรก็ไม่รู้หวังไม่เข้าใจกับเปาหรอก แต่คนเราพอไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนมันก็ต้องป่วยน่ะสิ กัสมันว่าบางวันตีสามกว่าแล้วไฟในห้องนอนอีเปายังสว่างอยู่เลยก็มี
หวังทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้เยี่ยมคนไข้ข้าง ๆ เปา คิดถึงรอยยิ้มที่มักจะติดอยู่ที่ริมฝีปากของเปาเสมอยามเมื่อเจอหน้ากับหวัง มองผมตรงซื่อซึ่งตอนนี้มันเริ่มยาวจนเป็นรากไทร ปกติเมื่อเปากลับกรุงเทพฯ มารับหวังไปนอนค้างที่บ้านกับอาม่า หวังก็จะจัดการเสริมหล่อ ไม่ยอมให้เปาผมเสียทรงสักนิด แต่นี่อะไร หวังกับเปาไม่ได้เจอกันนานขนาดผมของเปายาวขนาดนี้เชียวหรือนี่
นึกโทษโชคชะตาไปเรื่อย ก็เขาว่ากันว่า ถ้ามีอะไรก่อนจะโทษตัวเอง ก็ลองโทษคนอื่นซะก่อน และโทษคนอื่นหวังก็สงสารเขาอีก หวังก็ขอโทษโชคชะตาก็แล้วกัน
มือของหวังลูบไปที่เส้นผมดำปี๋เบา ๆ อย่างแสนถนอม ไล่มาถึงคิ้วดกหนาหวังก็ใช้นิ้วชี้ไล่จากหัวคิ้วถึงปลายคิ้ว หวังชอบมองดวงตาเล็กตี่ของเปาซึ่งมันมีคิ้วหนาเข้ามาทดแทน
"ชินจัง" หวังเคยล้อกับเปาบ่อย ๆ เพราะเปายามอยู่กับหวังแสนทะลึ่งไม่ผิดกับไอ้เจ้าหนูชินโนะสึเกะไม่มีผิด แก้ผ้าแก้ผ่อน เอาช้างน้อย ไม่สิ เอาช้างแมมมอธ มาไล่หวังจนหวังร้องกรี๊ด ๆ หนีไปรอบห้องสุดท้ายก็โดนไอ้ช้างหื่นจัดการ
ปลายนิ้วไล้เบา ๆ จนถึงปลายจมูกซึ่งโด่งอย่างกะคนเกาหลี ปลายจมูกที่ชอบซุกไปตามเนื้อตัวของหวัง สูดดมลึก ๆ และชมว่าหวังตัวหอม จมูกที่ชอบเอามาจิ้มที่แก้มของหวังบ่อย ๆ เท่าที่มีโอกาส แล้วยังริมฝีปากที่ยามแย้มยิ้ม ฟันขาวที่เรียงตัวเหมือนเมล็ดข้าวโพด แต่ก่อนหวังเคยเห็นรูปตอนเปาเด็ก ๆ ดัดฟันซะด้วย แต่พอถอดเหล็กดัดฟันแล้วเปาก็เป็นผู้ชายที่หวังให้ความเห็นว่าเปาเป็นคนที่ยิ้มสวยที่สุดในโลก ถ้าฟ้าหม่น หรือใครมีเรื่องทุกข์ ลองเปาได้ยิ้มเข้าเท่านั้นแหละ บรรยากาศแย่ ๆ จะหายไปกว่าครึ่งค่อน
เปาไอแค๊ก ๆ พอดี เสียงไอแหบแห้งจนหวังสงสาร เปาปรือตาน้อย ๆ พร้อมกับขยับริมฝีปากที่มันแห้งจนลอกเป็นขุย
"เตงกินน้ำหน่อยนะ" หวังกระซิบ หยิบแก้วน้ำที่หัวเตียงมีช้อนชาแช่อยู่ในนั้นละลายยาละลายเสมหะเอาไว้ด้วย หวังค่อย ๆ หยิบแก้วมาใกล้ ๆ หน้าของเปาใช้ช้อนตักน้ำค่อย ๆ กรอกเข้าปากทีละน้อย มองลูกกระเดือกที่มันขยับขึ้นลงเมื่อเปาค่อย ๆ กลืนน้ำลงคออย่างยากลำบากจนปากของเปาปิดสนิทแสดงถึงอาการของการไม่ต้องการดื่มน้ำแล้ว หวังก็ไปรื้อกระเป๋าของตัวเอง เปิดกระเป๋าใบเล็กซึ่งอัดแน่นด้วยสกินแคร์ต่าง ๆ ได้ลิปบาล์มอย่างดีที่สุด หวังก็หยิบมันออกมา แล้วบรรจงวาดทาไปที่ริมฝีปากของเปาเบา ๆ จนผิวริมฝีปากที่ลอกค่อย ๆ กลับมาชุ่มชื้น
เปายังคงหลับสนิท และหวังก็เหม็นเนื้อเหม็นตัวของตัวเองชะมัด ก็พอเครื่องแตะรันเวย์ ลากกระเป๋ามาพร้อมกับเจ๊หวานจ๋อย ร่ำลากันแล้ว หวังก็รีบเรียกแท็กซี่โบกให้มาส่งถึงชลบุรีกันเลยทีเดียว โดนโขกราคาเสียตั้งแพงหวังก็ไม่บ่นสักคำ ถ้าเป็นปกติน่ะเหรอ แม่ด่าล้างน้ำไปแล้ว
ระหว่างอยู่บนรถ ก็โทรศัพท์ไปบ้าน คุยกับแม่บอกให้แม่หายห่วง และบอกว่าจะไปหาเปาเพราะรู้ว่าเปาไม่สบาย ลำดับต่อมาก็คือโทรศัพท์ไปหาอาม่าของเปา เพราะไม่รู้ว่าอาม่าจะรู้หรือเปล่าว่าเปาป่วย
นั่นไงล่ะ ซื้อหวยก็ถูกสามตัวตรง อาม่าไม่รู้ว่าเปาป่วย เพราะไม่มีคนบอก แต่อาม่าก็บ่นว่าปกติสองสามวันเปาจะโทรไปหาอาม่าสักที แต่นี่ไม่โทรมาเลยอาม่านึกเป็นห่วงอยู่ทีเดียว
"เปาเป็นไข้หวัดน่ะค่ะอาม่า แต่หนูกำลังจะไปหาแล้วพอดีเพิ่งกลับจากทำงานน่ะค่ะ อาม่าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวหนูเจอเปาแล้วหนูโทรหาอาม่าอีกทีค่ะ" หวังรายงาน อาม่าก็ขอบอกขอบใจหวังเป็นการใหญ่ จนรถจอดที่หน้าโรงพยาบาล กัสมารอรับหวังที่หน้าโรงพยาบาลทีเดียวช่วยกันหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโตไปที่ห้องพักซึ่งเปาพักอยู่
ตามประสาลูกคนรวย มีเงินจ่ายก็ได้ห้องพิเศษ และเป็นห้องพิเศษเดี่ยวเสียด้วย เพราะกัสมันว่าจะได้ให้เพื่อน ๆ ผลัดกันมาเฝ้าดูแล เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งเปามันไม่ร่วงและเปาก็คงจะอุ่นใจที่มีเพื่อน ๆ อยู่ข้าง ๆ
หวังรีบโทรกลับหาอาม่า และแม่ รายงานว่ามาถึงโรงพยาบาลของเปาโดยสวัสดิภาพอาการเปาไม่น่าห่วงมาก เมื่อกี้พยาบาลเข้ามาดู หวังซักถามอาการอย่างละเอียด พี่พยาบาลก็แจ้งว่าไม่มีอะไรมาก เป็นพิษไข้เท่านั้น ตอนนี้คือต้องให้คนไข้นอนพักเยอะ ๆ ให้ร่างกายปรับตัว ไม่มีอะไรน่าห่วงถ้าไข้ลดก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลยส่วนอาการนอนสะลึมสะลือเพราะผลจากยา ซึ่งต้องการให้เพื่อให้ได้พักผ่อนมาก ๆ
ได้ยินอย่างนี้ก็ค่อยหมดห่วงหน่อย หวังคิด และเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีเอาเสื้อผ้ามาอย่างนี้ เมื่อกลับมานั่งดูแลเปา เจ้าตัวก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา
"เตง" เปาพูดเสียงแหบ และยื่นมือมาหาให้หวังจับมือทันที หวังจับมือของเปาบีบเสียแรงยังรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ฝ่ามือ และตามเนื้อตัว
"เค้ามาแล้วถึงสนามบินก็รีบมาหาเลย เตงเป็นยังไงบ้าง?"
"ปวดหัว คลื่นไส้ ไอ ปวดตัว กินอะไรก็ไม่ลง" เปาอ้อนน่าสงสารเหมือนหมาน้อย
"เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะคะ แต่ไม่กินอะไรเลยเตงก็จะไม่มีแรง อยากกินอะไรหวาน ๆ หน่อยไหมจะได้มีแรงหน่อย" หวังถามและเดินไปหยิบนมเปรี้ยวซึ่งอุดมด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส เปาก็กินอย่างเอร็ดอร่อย จัดไปสี่ขวดเต็ม ๆ ได้น้ำตาลและความหวาน ดูเปาคึกคักมีแรงขึ้นภายในไม่กี่นาที ที่สำคัญหวังคอยคะยั้นคะยอ แดกมันทีเดียวสี่ขวดไปเลยแม่จ๋า
"ไปทำงานสนุกไหม?" เปาถามและพยายามฝืนยิ้ม
"สนุกกับผีอะไรเล่า เอาแต่ห่วงเตงอ่ะ" หวังรายงานไปตามใจคิด นี่สินะรสชาติของความรับผิดชอบน่ะ อยากจะทำอะไรตามหัวใจ แต่มันก็ทำไม่ได้ ภาระเอย หน้าที่เอยมันค้ำคอ และถ้าเราทำอะไรตามอำเภอใจ ผลที่ได้มันจะกระทบเป็นวงกว้างนัก ผลจากการตามใจตัวเองอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ แต่ก่อนทั้งหวังทั้งเปาแอบหลุดใช้เป็นประจำแต่เมื่อโตขึ้น มีความคิด มีประสบการณ์ขึ้น การยับยั้งชั่งใจก็ค่อย ๆ มากขึ้นตามกาลเวลา
ได้คุณพยาบาลที่ดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจหวังเอาใจเปาเต็มที่และเปาก็กลายสภาพเป็นลูกหมาน้อย คอยอ้อน จะเอาโน่นเอานี่ เพื่อน ๆ มาเยี่ยมก็ด่าและค่อนขอดเอาว่าเปาเป็นหวัดไม่ใช่พิการ ทำอะไรเองบ้างก็ได้ แต่นี่หวังมันก็ยอมตามใจเปาด้วยนั่นแหละ จะแดกข้าว จะอาบน้ำ และทำอะไรอีกสารพัดตามแต่ที่เปามันอยากจะให้คนมาเอาใจหวังก็ตามใจหมด
จนถึงเวลาที่ออกจากโรงพยาบาล กัสขับรถของเปามารับ คอนโดนทันสมัยหรูหราใหญ่โตซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย อาม่าเช่าให้เปาอยู่คนเดียวหนึ่งห้องไม่ต้องแบ่งกับใคร ส่วนกัสกับเพื่อนสาวก็แชร์ห้องอยู่ด้วยกัน เปาเคยนินทาว่าถึงอยู่ตึกเดียวกันแต่คนละชั้น ไม่อย่างนั้นเปาจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะกัสมันชอบเอาเพื่อนมาสังสรรค์ที่ห้องเสียงดังเหมือนงานวัดก็ไม่ปาน ไม่ผิดกับก๊วนกะเทยที่โต๊ะริมสนามเปตอง ที่โรงเรียนตอนมัธยม
เปามันเป็นคนขี้หวง ทั้งหวงห้อง หวงของ และที่อาการหนักที่สุดก็คือหวงเมีย พอกลับมาถึงห้องก็ขลุกอยู่ในห้องด้วยกันแทบทั้งวันจะมีเวลาที่หวังได้หายใจหายคอก็คือตอนลงมาหาอะไรไปประเคนให้พ่อเจ้าประคุณแดก และเมื่อเปาหายดีจากอาการไข้ หวังก็ต้องกลับไปทำงานสักที
"เค้าไม่อยากให้เตงไปเลย" เปามันอ้อนตามเคย ดึงตัวของหวังไปนั่งที่ขอบเตียง หนุนตักเหมือนประท้วงไม่ยอมให้หวังจากไปไหน
"ก็ไปทำงานนี่ ไม่ใช่ไปเที่ยวเล่น นี่ก็ลางานมาตั้งหลายวันแล้ว เตงก็ต้องกลับไปเรียนแล้วเดี๋ยวตามเพื่อนไม่ทันนะเออ" หวังพูดกล่อม ยกมือไปลูบหัวของเบาเหมือนลูบหัวลูกหมา ผมที่เคยยาวถูกตัดสั้นได้รูปทรงแล้ว เปากลับมาหล่อเหลา หนวดเคราถูกโกนจนเกลี้ยงเกลา ที่ขาดคือกล้ามเนื้อที่มันยังไม่กลับมาฟูเหมือนเดิม
"นั่นแหละ ก็ไม่อยากให้ไปอยู่ดี" เปางอแงจนหวังต้องก้มหน้าลงมาหอมแก้มไอ้ต้าวดื้อสี่ห้าทีจนเปาเผยยิ้มออกมาได้
"เดี๋ยวก็จะสอบก็จะใกล้เรียนจบแล้ว อดทนนิดนึง" หวังให้กำลังใจแต่เปาก็ทำหน้าดื้ออีกแล้ว ไอ้ลูกหมานี่
"สอบได้คะแนนดี ๆ เดี๋ยวมีรางวัลให้ด้วยนะ" หวังติดสินบน
"อะไรหรอ?" เปากลับมาเป็นไอ้หมาน้อยอีกรอบ ได้ของรางวัลใครจะไม่ชอบกันเล่า
"ให้ทาย" หวังว่าแต่เปาก็ทายไปสี่ห้าอย่างก็ไม่ถูกสักอย่าง
"ไม่ต้องทายแล้วเค้าซื้อมาแล้ว จริง ๆ ควรจะให้ตอนผลคะแนนออกเนอะ แต่ยังไงเตงก็ได้คะแนนดีอยู่แล้วเพราะฉะนั้นให้เลยดีกว่า" หวังว่าและลุกไปค้นกระเป๋าเดินทางของตัวเอง ครั้นได้ของที่ว่าก็เอาแอบไว้ด้านหลังจนเปาต้องชะเง้อคอแอบมอง
"ปิดตาก่อน" หวังบอกและทิ้งตัวนั่งบนตักของเปา
"ลืมตาได้ แท้แด" หวังพูดพร้อมกับหยิบถุงกระดาษใบเล็ก ๆ ออกมา เล็กจิ๋วเท่ากำปั้นเท่านั้น แต่เปาเห็นแล้วก็ยิ้มแก้มแทบแตก
"ขอบคุณครับ" เปาพูดด้วยสีหน้าที่ชื่นใจ ดีใจที่สุด รับถุงกระดาษใบจิ๋วออกมาและเปิดดูก็เจอกล่องเล็ก ๆ สีดำพอเปิดออกดูก็เจอสร้อยคอ เป็นของแบรนด์เนมซะด้วย น่าจะหลายบาทเชียวแหละ
"สวยมั๊ย" หวังถามเปายิ้มกว้างพยักหน้าสี่ห้าทีแสดงความถึงพอใจ
"เดี๋ยวเค้าใส่ให้" หวังรับสร้อยคอมาใส่มือ แกะตะขอและสวมไปที่คอของเปามันช่างพอดิบพอดี ดูหล่อ ดูเท่ห์ ดูแกรม
"แต่ไม่ต้องใส่ตลอดเวลานะ ตอนไปเล่นกีฬาอย่าใส่ล่ะ เดี๋ยวขาดหรือหล่นหายเสียดายแย่" หวังเตือนและเปาก็เอาแต่อมยิ้ม ยกมือมาลูบที่สร้อยคอ อย่างพึงพอใจแล้วก็หอมแก้มหวังเป็นหลายที
จังหวะที่คิดมันจะกลับกรุงเทพฯ พอดี หวังก็เลยให้คิดแวะมารับเสียเลยเพราะจะอย่างไรก็เป็นทางผ่าน คิตตี้โทรศัพท์มาสองรอบแล้ว ทั้งสองคนมองตากัน เปาทำปากยื่นอย่างแสนงอนรำคาญเสียงโทรศัพท์นัก ส่วนหวังกลั้นยิ้ม
"รีบลงไปได้แล้ว เดี๋ยวอีคิตตี้มันถลกหนังหัวเค้าแล้วขึ้นมาด่าโคตรเหง้าตัวเองเค้าไม่ช่วยนะจ๊ะ" หวังว่าและรีบลุก เปาลากกระเป๋ามาส่ง จนสองพี่น้องเจอกัน คิตตี้บ่นหวังเสียไม่มีว่าจะร่ำลาอะไรกันนักหนา
"เออ ๆ นี่ก็ลงมาแล้วไง บ่นมากเดี๋ยวไม่ให้ของฝากซะเลยอีนี่" หวังพูดได้ผล คิตตี้เงียบปากทันที กระเป๋าเดินทางใบโตถูกนำขึ้นไปบนรถแล้ว และหวังก็เปิดประตูรถเพื่อเตรียมขึ้นไปนั่ง แต่เปาก็รีบเดินมาประชิดกอดหวังซะแนนซุกหน้าไปที่ซอกคอ สูดกลิ่นกายของหวังแรง ๆ แล้วถึงยอมปล่อย
"เดินทางปลอดภัยนะ ถึงบ้านแล้วโทรบอกเค้าด้วย" เปาสั่ง
"เตงก็รีบไปอาบน้ำแล้วไปเรียน ตั้งใจเรียนด้วย" หวังพูดบ้าง
"อีผีรีบไป ลำไยแอนด์แก้วมังกร เม็ดเยอะ อีดอก" คิตตี้พูดกระชาก ๆ จนเปาและหวังมองด้วยหางตา และแอบนินทาในใจ ก็ปากหมาใจดำอย่างนี้ไงเล่า อีคิตตี้มันถึงไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตนซักที
เปายืนมองจนรถที่คิตตี้ขับหายลับไปจากสายตา แล้วเปาก็รีบกลับขึ้นไปบนห้อง อาบน้ำแต่งตัว รีบลงมาหาอะไรหม่ำให้มีแรง พอจะเข้าเรียนเปาก็ยื่นมือมาจับสร้อยคอที่หวังซื้อให้อย่างใจลอย พร้อมกับอมยิ้ม
"มีผัวเด็กมันวอแวแท้วะ" คิตตี้เริ่มบ่นอีกแล้วและหวังก็ปล่อยให้มันบ่นไป เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดไปเอง หวังหยิบโทรศัพท์มาอัปเดตรูป และดูโซเชียล
ข่าวของส้มโอดาราสาวที่ไปเหยียบพรมแดงเมืองคาน เป็นข่าวดังหลายวัน และชื่อของหวังก็เป็นที่โจษจันขึ้นมา เจ๊วิโทรมาแจ้งว่า มีคนจะให้หวังไปแต่งหน้าในงานแต่งงานด้วยจนถึงวันนี้ก็มีเจ้าสาวถึงแปดคนเข้าไปแล้ว
"ข่าวดี เจ๊อัพค่าตัวให้แล้วนะยะ" เจ๊วิพูดและพูดถึงค่าตัวของหวังซึ่งหวังก็ถึงกับตาเหลือก เพราะมันมากกว่าเดิมชนิดไม่เห็นฝุ่น
"ตั้งก็ตั้งแพง ๆ ไปเลย เรามันอัปเกรดแล้วค่ะ" เจ๊วิเวียนว่าและหวังก็เออออไปก่อน
สองพี่น้องคุยเรื่องราวระหว่างที่ไม่เจอกันไปเรื่อย ๆ หัวเราะบ้างด่าทอบ้าง นินทาคนอื่นบ้าง คุยเพลินจนถึงบ้านเลยเชียวล่ะ
แทนที่ถึงบ้านแล้วหวังจะนอนพัก แต่หวังก็รีบอาบน้ำ และไปทำงานต่อ เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยรื้อของออกมา เอาของฝากให้พ่อกับแม่ ซักผ้ากองโต หวังห่วงงาน และคันไม้คันมืออยากทำผมให้ลูกค้าจะแย่แล้ว
เมื่อถึงร้าน เสียงทักทายกิ๊วก๊าว มีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ช่างผม และของฝากชิ้นใหญ่หน่อยมาฝากเจ๊วิเวียนที่หวังเห็นแกเป็นเหมือนพี่สาวแท้ ๆ อีกคน ผ้าพันคอแบรนด์เนม ซึ่งเป็นสีสดใสอย่างที่เจ๊วิเวียนชอบซะด้วย
"ขอบใจมากนะคุณน้อง" เจ๊วิเวียนได้ปุ๊บก็เอามาพันเนื้อพันตัว พันคอ อย่างถูกอกถูกใจเป็นนักหนา หวังเอาแต่อมยิ้ม และจะเล่าเรื่องอะไรไปมากกว่านั้นลูกค้าก็เข้ามาพอดี
"น้องหวัง พี่อยากตัดผมค่ะเอาทรงที่น้องชอบได้เลย" ลูกค้าซึ่งหวังแน่ใจว่าหวังไม่เคยพบเจอกับลูกค้าซึ่งเป็นวัยคุณน้า หน้าตายังสวยและดูบุคลิกดีและเป็นกันเองว่า หวังรับคำ และจัดแจงจนแกเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มพออกพอใจ
"อีน้องลูกหวัง หล่อนเปิดดูไอจีของหล่อนหรือยังยะ?" เจ๊วิเวียนถามและหวังก็ลืมไปสนิทเลย หวังกำลังจะอัพรูปลงไอจีแต่ลืมเสียนี่เพราะเปาเอาแต่กวน กวนไม่หยุด ตูดไม่ได้พัก พอหายอีเปาก็กลับมาเป็นอีเปาจอมหื่น นอกจากเวลาไปอาบน้ำกินข้าว หวังก็โดนอีเปาจัดหนักจนแทบจะกลับไปเป็นไข้อีกรอบ
"คุณพระคุณเจ้า" หวังอุทาน เพราะตกใจกับยอดผู้ติดตามที่มันกระโดดไปหลายหลักรวมถึงเพจ "เจ๊หวังแต่งหน้าทำผม" ซึ่งมันก็พลอยมียอดคนติดตามเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเหมือนกัน
"ดังใหญ่แล้วอีหวังเอ๊ย" เจ๊วิพูดชมและยื่นมือมาโยกหัวหวังเบา ๆ อย่างเอ็นดู
"จะเป็นเซเล็บเซใจกับเขาก็ทีละค่ะ" หวังพูดเล่นจนพากันหัวเราะ แต่หวังไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่ตัวเองหลุดปากพูดจะเป็นจริงในเวลาต่อมา ตีนข้างหนึ่งของหวังได้เหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนเซเลป ดินแดนอินฟลูเรียบร้อยแล้ว
วันหยุดในหลายวันถัดมาหวังก็ไปเยี่ยมอาม่าของเปาที่บ้าน ไม่ใช่แค่พ่อแม่ ลุงกับป้าที่บ้านสวน ซึ่งหวังคิดว่าเป็นญาติ เปาและญาติ ๆ ของเปาหวังก็ถือเป็นญาติเหมือนกัน เอาของฝากไปให้ซึ่งอาม่าก็ได้ผ้าพันคอเหมือนกับเจ๊วินั่นแหละ แต่สีทึม ๆ หน่อย อาม่าก็ชอบใจแม้จะบ่นว่าไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ก็ใช้มือลูบคลำไปมาอย่างพอใจไม่หยุด สารภาพตรง ๆ ว่าค่าตัวที่ไปทำงานที่เมืองคานคราวนี้หวังใช้หมดไปกับการซื้อของฝาก ไม่พอด้วยซ้ำหวังใช้เงินส่วนตัวของตัวเองด้วย แต่หวังไม่สนหรอก ไม่ใช่จะได้มากันบ่อย ๆ
คงจะมีใครบ่นที่หวังไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเองเลยสักอย่างเดียว ทุกอย่างที่ซื้อมาเป็นของคนอื่นหมด อ้ออาจจะมีของตัวเองคือขนมหนึ่งกล่องก็เท่านั้น ความสุขของหวังไม่ใช่เพราะหวังได้รับของจากใคร แต่ความสุขของหวังคือหวังได้เป็นความสุขให้แก่คนอื่น พูดแล้วเหมือนนางเอกละครน้ำเน่า แต่หวังก็คิดอย่างนั้นจริง ๆ หวังชอบรอยยิ้ม หวังรักเสียงหัวเราะ ของคนที่หวังเป็นผู้หยิบยื่นให้เขา
รอยยิ้มพึงพอใจของคนที่ได้ของฝาก รอยยิ้มของเปาที่มีความสุขยามเมื่อหวังอยู่ใกล้ ๆ รอยยิ้มภูมิอกภูมิใจที่หวังเนตรมิตรใครสักคนให้สวยสง่าในแบบที่เขาจะเป็นไปได้ หวังยิ้มตอบมีความสุขไปกับเขา นี่มันนางฟ้าชัด ๆ นางฟ้าของใคร หวังก็ตอบได้แค่ว่า หวังจะเป็นนางฟ้าของเปา ไอ้ต้าวเปาไอ้ต้าวตาขีด ของหวังคนเดียวเท่านั้น เพราะเปาก็เป็นความสุขของหวังเหมือนกัน