มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน

วาสนาของตาตี่ II - 22 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน โดย Chavaroj @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วาสนาของตาตี่ II

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

วาสนาของตาตี่ II โดย Chavaroj  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน

ผู้แต่ง

Chavaroj

เรื่องย่อ

หวังหรือ สมหวัง หรืออีหวัง และถ้าร้ายสักหน่อยก็คือ อีดอกหวัง สุดแต่ว่าคนที่เรียกจะเป็นใคร ซึ่งเป็นนังเอก เป็นอีตัวต้นเรื่องของ วาสนาของตาตี่ภาคสองนี้


แต่สำหรับผัวเด็กสุดหล่อ จะเรียกหวังว่า "เตง" ซึ่งน่าหมั่นไส้จริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้ผัวเด็กที่ว่าก็ช่างคลั่งรักตามอกตามใจและเปย์สุด ๆ ไม่รู้ว่าอีผีนี่มีอะไรดี 

แต่ถ้าอยากจะรู้ก็ต้องลองมาอ่านกัน เรื่องนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในตลาดอ่อนนุช ซึ่งแน่นอนว่าต้องแซ่บ ต้องเสว และต้องฮา แต่จะขอสัปดนกว่าภาคหนึ่งนิดหน่อยเพราะคนแต่งอยากระบายความอึดอัด

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ความรุนแรง และการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม

ผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปีโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

รักคุณผู้อ่านฝากกดติดตามกดหัวใจกดสติ๊กเกอร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยแต่อย่ากดด่ามานะคะ ไรท์หัวใจอ่อนแอ

สารบัญ

วาสนาของตาตี่ II-1 ตาปลายายแมวและครอบครัวสุขสันต์,วาสนาของตาตี่ II-2 ไอดอล,วาสนาของตาตี่ II-3 เพื่อน ๆ พี่ ๆ,วาสนาของตาตี่ II-4 เพื่อน ๆ พี่ ๆ 2,วาสนาของตาตี่ II-5 เพื่อน ๆ พี่ ๆ 3,วาสนาของตาตี่ II-6 ความฝันความหวัง,วาสนาของตาตี่ II-7 ไอ้ต้าวตาขีด,วาสนาของตาตี่ II-8 เชื่อมจิต เชื่อมใจ,วาสนาของตาตี่ II-9 มันเป็นเรื่องของฮอร์โมน,วาสนาของตาตี่ II-10 ไอ้ความคิดถึง,วาสนาของตาตี่ II-11 Sex Education ,วาสนาของตาตี่ II-12 วันนี้ที่รอคอย,วาสนาของตาตี่ II-13 เสียสาวที่สวนหอม,วาสนาของตาตี่ II-14 Holiday ,วาสนาของตาตี่ II-15 Love Distance ,วาสนาของตาตี่ II-16 แล้วทุกอย่างจะดีเอง สาธุ,วาสนาของตาตี่ II-17 ไอ้ต้าวความสุข,วาสนาของตาตี่ II-18 คิตตี้ กับความลับบริษัท,วาสนาของตาตี่ II-19 ไม่รู้จัก ไม่รู้จักเธอ,วาสนาของตาตี่ II-20 ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ 2,วาสนาของตาตี่ II-21 ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ 3,วาสนาของตาตี่ II-22 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน,วาสนาของตาตี่ II-23 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน 2,วาสนาของตาตี่ II-24 ก่อนจะปัง ก็เคยพังมาก่อน 3,วาสนาของตาตี่ II-25 FWB,วาสนาของตาตี่ II-27 FWB 2,วาสนาของตาตี่ II-26 FWB 3,วาสนาของตาตี่ II-28 หนีไม่พ้น,วาสนาของตาตี่ II-30 จุดอิ่มตัว

เนื้อหา

22 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน

โดย  Chavaroj



เมื่อขับรถกลับบ้านสวน คิตตี้ก็กลัวจะหลับใน เพราะเมื่อคืนนอกจากนอนดึกแล้ว ยังนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้าตรู่ เพื่อจะตื่นไปใส่บาตรในตอนเช้า ข้างตลาดอ่อนนุช ตอนเช้า ๆ มีหลวงพี่ หลวงพ่อ เดินรับบาตรกันให้วุ่น ช่างเป็นบรรยากาศอันดีของเมืองไทยเมืองพุทธแท้ ๆ 

"เอาหมูปิ้งกับข้าวเหนียวดำละกันเนอะ" คิตตี้บ่นเพ้อเหมือนพูดกับใครสักคน คนที่คิตตี้ตักบาตรและคิดว่าเขาคงจะได้กิน เพราะคิตตี้กรวดน้ำหลังตักบาตรไปให้เขา

"ก็ของโปรดของพี่ไม่ใช่เหรอ หรือจะเอาโจ๊กด้วย" พูดกับตัวเอง แต่คล้ายคนติงต๊องที่พูดกับลมแล้ง คิตตี้ก็เดินไปหาอาอึ้มที่เมตตาคิตตี้กับอีหวัง ตั้งแต่หัวยังเท่ากำปั้น มากินโจ๊กที่ร้านแก แกก็ตักให้เสียเยอะแยะ ก็ชนิดที่กินหนึ่งชามเลี้ยงได้สองคนนั่นแหละ กินตั้งแต่ตัวเท่าลูกหมาจนตอนนี้โตเป็นสาว กันทีเดียว

"อาอึ้ม เอาโจ๊กพิเศษ สามถุงคร่า" คิตตี้สั่งโจ๊กให้ตัวเอง ให้อีหวัง และอีกถุงเพื่อใส่บาตร จนกลับมาถึงบ้าน ก็เรียกหวังให้มันมากินโจ๊กด้วยกัน

"อุ๊ยโจ๊กร้านอาอึ้มนี่หว่า แหมแกหยุดชายไปตั้งอาทิตย์ มึงกลับมาก็ได้กินเลยน๊า" หวังพูดแล้วก็เทโจ๊กใส่ชามให้ตัวเองกับคิตตี้ด้วย ไหน ๆ มันอุตส่าห์มีแก่ใจซื้อมาฝากก็เทใส่ชามให้มันหน่อย

"ไปไหนล่ะ ไปตั้งอาทิตย์เชียวเรอะ?" คิตตี้ถาม ออกจะสงสัย ก็ตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยเห็นแกปิดร้านไปไหนเลยนอกจากช่วงตรุษจีน วันสงกรานต์แกยังขายเลยเอ๊า งกทั้งแม่ทั้งลูก

"ไปเที่ยว เที่ยวกับยายเจ๊สมใจร้านข้าวมันไก่น่ะ เห็นว่าไปเวียดนามมั้ง" หวังรายงานตามประสาคนห่วงใยสังคม รู้ไปหมดเรื่องของคนในตลาดเนี่ย

"ดีจังได้ไปเที่ยวด้วย" คิตตี้กินไปแล้วก็คิดถึงใบหน้าใจดีของแกที่ปากถึงจะด่าโน่นบ่นนี่แต่ก็ตักโจ๊กและเครื่องให้คิตตี้ใส่ถุงเสียเต็มแปล้ แล้วยังลามมาถามถึงพ่อกับแม่ ถามถึงอีหวัง ด้วยเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันนั่นเชียวซึ่งจะนับก็ใช่และแม้จะห่างมาก ๆ ก็เถอะ

"ไหนมะคืนมึงเป็นไรอารมณ์เสีย เก็บไม้ได้ไม่ถึงเป้าหรอ?" หวังถามแล้วก็กลั้นขำ

"ก็ประมาณนั้น ความลับบริษัท" คิตตี้ตอบและทำหน้าเมินเฉย ส่วนอีหวังก็ไม่ถามอะไรต่อ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้คิตตี้ยิ่งอึดอัดใจ การได้ระบายความไม่สบายใจ ความเซ็ง ความเบื่อน่ะมันถึงจะหาย ต้องเม้าให้หายแน่นอก

"ไม่ถามหน่อยเรอะ?"

"ไม่อ่ะ เดี๋ยวหาว่าน้องสาระแน"

"ดัดจริต" คิตตี้รำคาญ ด่าแม่งเลย

"คืออย่างนี้ มะคืนกูไปแอ่วซาวน่าใช่ไหมเล่า..." คิตตี้ตั้งต้นเล่า หวังมันก็นั่งอมยิ้มไปฟังไป จนถึงอีตอนที่ไอ้เวรนั่นหลับ หวังมันก็หัวเราะเสียจนสำลักโจ๊กเลยเชียวล่ะ

"เหี้ยมาก เป็นกูจะดึงขนหมอยแม่งออกมาเลย" หวังพูดหลังจากดื่มน้ำเพื่อให้หายสำลัก

"นาทีนั้นกูเลยเซ็ง กลับบ้านดีกว่า เบื่อ" คิตตี้ตอบทำหน้าเซ็ง ๆ ความขุ่นข้องใจค่อยคลายหายไปหน่อย ได้ระบายเรื่องบ้าบอไร้สาระอย่างนี้

"แหม ไม่ใช่มีแต่มึงเจอเรื่องแบบนี้หรอก นี่เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง" หวังขยับตัวตั้งท่าจะเล่า

"มึงจำอีเจ๊โบ๊กับอีเจ๊สมศรีได้ป่ะ?" หวังมันถามคิตตี้สะดุ้งนิด ๆ อีเปรตเอ๊ย โลกมันจะกลมอะไรขนาดนั้น กูเจออีผีสองตัวนั่นมะคืนเลยล่ะ แดกขี้กูด้วยค่ะ โลกแม่งกลมชิบหาย

"เออจำได้ อีตุ๊ดตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ อีตัวนึงหน้าเหมือนม้าฟันเหยิน ๆ คืออีเจ๊สมศรีใช่มะ อีกตัวหน้าเหมือนสมเสร็จ หัวตั้ง ๆ จมูกโต ๆ" คิตตี้พูดไปนึกถึงหน้าของอีเจ๊ที่เจอเมื่อคืน บรรยายออกมาเป็นหน้าของสัตว์ซึ่งใกล้เคียง เพราะอีเจ๊สมศรีมันฟันเหยิน ส่วนอีเจ๊โบ๋ตาเล็ก ๆ จมูกแด่น ๆ เหมือนสมเสร็จไม่มีผิด อีหวังฟังแล้วหัวเราะแทบตกเก้าอี้อีกรอบ

"อีผี มึงก็ช่างเปรียบแต่แม่งเหมือนจริง ๆ เอ้าเล่าต่อนะ อีทีนี้กูฟังอีเมืองมันเล่าให้ฟังอีกที พอดี๊พอดีไปเจอกันโดยบังเอิญ อีเมืองมันเล่าให้ฟังว่า อีเจ๊โบ๋กับอีเจ๊สมศรีน่ะ มันชอบไปเที่ยวซาวน่าด้วยกันใช่ไหมเล่า คราวนี้แม่งเสือกนัดกันไปเที่ยวซาวน่าที่นึงแถว ๆ แฮปปี้แลนด์ "

"มีด้วยเหรอวะ?" คิตตี้สงสัย จำไม่ยักได้ว่าแถวนั้นมีสถานที่อโคจรกับเขาด้วย

"กูจะไปรู้เรอะ มันเล่ามาอย่างนี้อย่าขัดสิวะ เดี๋ยวกูลืม เอ้าต่อ มันไปเที่ยวแถวแฮปปี้แลนด์ใช่ไหมเล่า แต่ไหน ๆ จะไป อีสองเจ๊นั่นมันก็ไปเดินห้างที่บางกะปิก่อน แล้วมึงคิดดูห้างเขาใหญ่ชิบหาย เดินหลงแล้วหลงอีก ยังไม่พอเสือกเดินต่อตลาดนัดข้างห้างด้วย แล้วนึกสภาพกะเทยเลือกซื้อของ เดินสิบร้านต่อทุกร้านถามทุกร้าน ไม่ซื้อด้วยนะ สุดท้ายกลับไปซื้อร้านที่หนึ่ง ก็คือแม่งเดินย้อนไปย้อนมากว่าจะได้เสื้อสักตัวเดินจนอ่อนใจ กูเคยไปเดินซื้อของกับอีเจ๊สองตัวกว่าจะเลือกของได้กูแทบจะหลับ" 

"อีผี เดี๋ยวนี้ซื้อในออนไลน์กันหมดแล้ว" คิตตี้เสนอความเห็น

"เออนั่นแหละ สรุปก็คือเดินเยอะมากเดินจนเหนื่อย เดินจนปวดตีน จนตะวันลับขอบฟ้าก็ยังเดินช้อปกันอยู่ ใจเย็นว่าหัวค่ำยังไม่มีคนเที่ยว จนซักสองสามทุ่ม เพราะมันดูหนังกันอีกเรื่อง ทีนี้ก็ไปบุกซาวน่ากันล่ะ" 

"แหมมึงนี่เล่าเหมือนไปเดินกับเขาเนอะ" 

"ขืนไปไอ้เปากระทืบกูไส้แตกแล้วถลกหนังหัวกูแน่ ๆ ขัดจริงมึงนี่เดี๋ยวไม่เล่าต่อซะเลย" หวังบ่นแล้วจิ๊ปาก คิตตี้ก็เลยนั่งแดกโจ๊กรอฟังเรื่องจัญไรต่อ

"พอถึงฤกษ์ยามที่ดี อีทีนี้ทั้งสองตัวก็เดินแต๊ด ๆ ไปซาวน่ากัน เขาว่าอีที่นี่มันเข้าซอยลึก แล้วซอยแม่งก็เปลี่ยว อีเจ๊สมศรีแม่งก็ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ผักก็ไม่แดก ออกกำลังก็ไม่ออก มันเดินมาถึงกลางซอยมันก็บ่นเหนื่อย บ่นปวดตีนมันก็เลยว่า ถ้าอีกอึดใจไม่มีสัญญาณจากสวรรค์ กูกลับละนะอีดอก" 

"แล้วไงเจอมะ?"

"เจอสิ แหมเหมือนสวรรค์ส่งสัญญาณจริง ๆ พอพูดจบปุ๊บ กะเทยสองตัวเดินหัวเราะร่าสวนทางกับมันพอดี อีเจ๊โบ๋ก็เลยสะกิดอีเจ๊สมศรี บอกว่านี่ไงมึงสวรรค์บอกทางแน่แล้ว เดินไปอีกหน่อยก็ถึงอีซาวน่าที่ว่าค่ะ"

"แล้วไงต่อ"

"อีทีนี้ก็ไปอาบน้ำเตรียมตัว อีเจ๊สมศรีมันเห็นว่า เออเนาะ ผู้ชายก็ยังไม่ค่อยมี เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ อีเจ๊สมศรีมันก็เลยหนีเข้าไปในห้องเวิร์ค ปิดประตูลงกลอน กะว่าจะนอนพักสักชั่วโมงนึง มันกะว่าพอตื่นขึ้นมา เดี๋ยวผู้ชายมาเต็ม นอนพักเต็มตาจะได้พร้อมรบเดี๋ยวจะกินผู้ชายสักห้าไม้เป็นอย่างน้อย" 

"เออ ความคิดดีว่ะ มันเหนื่อยจริง ๆ นะมึง" คิตตี้พูด และเมื่อรู้ตัวว่ามีพิรุธ คิตตี้ก็บุ้ยใบ้ปากให้อีหวังมันเล่าต่อ

"คราวนี้อีเจ๊สมศรี แม่งพอได้ที่เหมาะ ๆ แม่งก็สวมวิญญาณสลีปปิ้งบิวตี้ สวมวิญญาณเจ้าหญิงออโรร่า หรือจะเป็นนังสโนวไวท์ก็ไม่รู้แหละ เสือกหลับไปจริง ๆ" 

"ว้ายแล้วมีเจ้าชายมาปลุกด้วยการจูบหรอวะ โรแมนติก" คิตตี้นึกภาพออก หัวเราะกิ๊กกั๊ก

"มีคนมาปลุกจริงมึง แต่ไม่ใช่เจ้าชายนะ เป็นพนักงานร้านคนต่างด้าวอ่ะ แม่งเคาะประตูป๊ก ๆ แล้วก็พูดว่า พี่ค๊าบ พี่ค๊าบ โหะ โมแล้ว ร๊าปิ แล้วค๊าบ" หวังมันพูดไปก็ดัดเสียงเป็นชาวต่างด้าวไปด้วย คิตตี้ฟังแล้วขำแทบขิต หัวเราะจนน้ำตาเล็ดนึกสภาพตุ๊ดฟันเหยินทำผมหน้ามาทำหน้างง ๆ เพราะตื่นมาไม่เจอใครเพราะเขากลับบ้านกันหมดแล้ว



ขับรถไปก็คิดถึงเรื่องที่อีหวังมันเล่า อมยิ้มนิดหน่อย แล้วจึงหยิบชาเขียวปั่นที่ซื้อตอนแวะปั๊มมาดื่ม ปกติคิตตี้จะชอบขับรถเดินทางตอนเช้ามืดเพราะถนนมันโล่งดี แต่เนื่องจากนอนดึกตื่นเช้า กินโจ๊กกินขนมเสร็จ คิตตี้ก็นอนพักหลังกินโจ๊กวันอีกนิดหน่อย สาย ๆ ก็ค่อยอาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถออกมาราว ๆ ตอนเที่ยง แดดแรงจนท้อ ก่นด่าตัวเองว่าไม่น่าออกมาเวลานี้เลย แต่ก็ห่วงบ้านสวน และคิตตี้ก็อยากจะรีบกลับบ้านสวนด้วยเพราะมีบางสิ่งบางอย่างรอคอยคิตตี้อยู่ และคิตตี้ก็อยากจะพบมันใจจดใจจ่อจะแย่

ระหว่างขับรถ กลัวจะเบื่อจนง่วง ก็เลยเปิดยูทูป ฟังฉ่อยหน้าม่านของน้าโย่งน้าพวงและน้านงค์ ซึ่งปกติ คิตตี้ชอบเปิดตอนทำงานช่วงเย็น ๆ กับป้าปู ฟังไปหัวเราะไป คิตตี้ชอบอยู่กับคนแก่ ก็เลยชอบดูชอบฟังอะไรเก่า ๆ แต่ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์จีน คิตตี้ก็เสพเหมือนกันเรียกว่ามีความชอบที่หลากหลาย ยกเว้นเพลงเกาหลี เพราะฟังไม่รู้เรื่อง และที่สำคัญ นักร้องก็เด็กนัก เด็กไปคิตตี้ไม่ชอบ ดาราที่คิตตี้เป็นแฟนคลับจึงเป็นดารานักร้องยุค เก้าศูนย์ เพราะชอบตามป้าปู นั่นเอง

การเป็นแฟนคลับก็แค่ชอบดูชอบฟัง เท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงแฟน คิตตี้หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ขอมีเป็นเด็ดขาด แต่ไม่ใช่ว่าคิตตี้จะไม่เคยมีแฟนนะ มีสิ คิตตี้ออกจะสวย น่ารัก ทำงานเก่งขนาดนี้ เขาคนนั้นคือพี่บอย สุดหล่อรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยม ตอนคิตตี้เข้ามัธยมสี่ พี่บอยอยู่มัธยมหก 

ตามเทียวไล้เทียวขื่อ แต่ตอนนั้นคิตตี้ยังเด็กและเขลานัก ความกลัว ความอาย ทำให้คิตตี้กว่าจะได้เป็นของพี่บอยจริง ๆ ก็คือ ตอนพี่บอยเกือบจะเรียนจบนั่นเชียว

มันเกิดขึ้นตอนพี่บอยกับเพื่อน ๆ ชวนคิตตี้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันนั่นแหละ ไปกันหลายคนเพื่อนพี่บอยขับรถกันไป คิตตี้ปฏิเสธไปแล้ว แต่ไม่แข็งขันนัก เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานหาเงินด้วยตัวเอง

"ไม่ต้องหรอก พี่ออกให้ น้องคิดไปด้วยก็พอ ไปกับพี่นะ" พี่บอยพูดอ้อน ดึงมือของคิตตี้ไปจับเสียแน่น โอ๊ย ส่วนคิตตี้น่ะเรอะ เหงื่อแตกตัวสั่น ก็คนที่ชอบมาจับมือจับไม้ขนาดนั้น คิดแล้วก็ขำในความไร้เดียงสาตอนอายุสิบห้า เรื่องมันก็หลายปีมาแล้วเชียวนะ ถ้าเป็นตอนนี้เรอะ คิตตี้จะเป็นคนลากพี่บอยไปกินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย กินหัวกินหาง กินกลางตลอดตัว

ไปต่างจังหวัดใกล้ ๆ ก็แค่ชลบุรีนี่แหละ เพื่อน ๆ พี่บอยก็มีบางคนที่พาแฟนชะนีไปด้วยเหมือนกัน แต่เป็นนักเรียนกันอยู่ก็ไม่ได้จะมีเงินฟุ่มเฟือยจะเปิดห้องกันคนละคู่ เช่าโรงแรมเล็ก ๆ ซึ่งเอาไว้ซุกหัวนอน แต่จริง ๆ โน่นไปนั่งดีดกีตาร์กันอยู่ริมทะเลโน่น มีอะไรมาขายก็ซื้อมากิน คิตตี้ไม่หิวหรอก ทำหน้าที่แฟน เอาอกเอาใจ คอยเซอร์วิสพี่บอยกับเพื่อน ๆ เขาโน่น 

คิตตี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปได้อย่างไรนะ ยุงก็เยอะ ง่วงก็ง่วง ที่นอนก็ไม่มี พอจะนอนจริง ๆ ต้องนอนกับพื้น ให้ชะนีสองตัวนอนบนเตียง แต่ความรักมันเข้าตาจะทำห่าอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ นอนซุกตัวใกล้กับชายคนรัก พี่บอยเป็นนักฟุตบอล ผิวเข้มตาโตดำขลับ ตัดกับรอยยิ้มมีเสน่ห์เพราะฟันขาวจ๋อง ตัวสูงกว่าคิตตี้แบบกำลังดี ไม่สูงเป็นเปรตเหมือนอีเปาผัวอีหวังมัน รายนั้นคงเคยตีพ่อตีแม่ บาปกรรมเลยทำให้แม่งสูงเกือบ ๆ สองเมตรส่วนอีหวังน่ะร้อยหกสิบกว่า ๆ เดินด้วยกันเหมือนหมากับเสาไฟ

เพื่อน ๆ พี่บอยบ้างก็เมา บ้างก็หลับ เหลือแค่คิตตี้กับพี่บอยที่นอนกอดก่ายกันไปมา ตรงมุมห้องตรงนั้น มันมืดจนแทบจะทำอะไรกันได้หมด แต่สำหรับในหัวใจคิตตี้มันสว่างวาบ และแม้แต่เงาในดวงตาของพี่บอย คิตตี้ก็เหมือนจะและเห็นมันได้ชัดว่ามีคิตตี้อยู่ในนั้น

"ไปในห้องน้ำกัน" พี่บอยกระซิบ แน่นอนคิตตี้ต้องขัดขืน เป็นสาวเป็นนางจะไปทำอะไรก่อนวันวิวาห์หาได้ไม่ แต่ด้วยแรงแห่งความเป็นชายนักกีฬาหุ่นกำยำ คิตตี้จะแข็งขืนยังไง ก็ไม่อาจสู้แรงนักบอลหุ่นล่ำได้อยู่แล้ว กึ่งเดินกึ่งโดนอุ้มจนเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน พี่บอยกอดจูบ และด้วยความไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวเลย กลับมามีสติอีกที ร่างของคิตตี้กับพี่บอยก็เปลือยเปล่า น้ำอุ่น ๆ จากฝักบัว ราดรดจนร่างของคิตตี้แดงฉ่าร้อนรุ่ม ไม่แน่ใจว่าเพราะความอุ่นของสายน้ำหรือเพราะเลือดในตัวมันสูบฉีดจนร้อนผ่าว

พี่บอยกดตัวของคิตตี้ให้คุกเข่าลงที่พื้น ยัดเยียดท่อนเนื้อเข้ามาในโพรงปาก นี่สินะ รสชาติของดำฤษณา คิตตี้เคยศึกษามาบ้างกับเพื่อน ด้วยการดูคลิปโป๊ในอินเทอร์เน็ต พี่บอยหลับตาพริ้ม พร้อมกับทะลวงอาวุธเข้าปากคิตตี้อย่างไม่ปรานีปราศรัย หลายครั้งคิตตี้หายใจไม่ออก จนถึงกับจะสำลัก น้ำตาไหลจนตาแดง แต่พี่บอยก็ไม่ได้ใส่ใจ

"เชี่ย....แม่งเสียวสัส" พี่บอยพูดด้วยอารมณ์คุกรุ่นขั้นสุด ดึงตัวของคิตตี้ขึ้นมา จัดแจงเบาน้ำอุ่น กะเอาให้แค่พอมีเสียง แล้วเขาก็บีบสบู่เหลว ทาอาวุธของตัวเองจนชุ่มโชก แล้วก็ทาที่ประตูหลังของคิตตี้ด้วย  มันเจ็บชะมัด เจ็บจนเหมือนจะตาย แต่มองหน้าหื่น ๆ และสายตาปรารถนา คิตตี้ก็เห็นจะต้องยอมเจ็บปวด คิตตี้รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า นี่จะเป็นการเปิดซิงครั้งแรกของคิตตี้สินะ มันก็ยังดีที่ได้ทำกับคนรัก ไม่สิกับคนที่คิตตี้หลงรัก ก็อย่างน้อยพี่บอยบอกกับคิตตี้อย่างนั้น

อาวุธใหญ่โตค่อย ๆ ชำแรกสอดแทรกเข้ามาในตัวเล็กจ้อยอย่างยากลำบาก คิตตี้เจ็บจนแทบตาย บอกให้พี่บอยหยุดก่อน แต่เขาก็หยุดให้คิตตี้แค่ไม่กี่อึดใจจากนั้นก็ตะบี้ตะบันดันมันเข้ามาจนมิดลำ

"พี่หยุดแปปนึง คิดเจ็บ" คิตตี้หันไปบอก แต่หน้าของอีพี่บอยมันบ่งบอกว่าต่อให้เอารถมาชน เอาปืนมายิง มันก็จะไม่หยุด ร่างกายของคิตตี้สั่นไหว เสียงของเนื้อที่กระทบกระแทกกัน มันดูหยาบคายชอบกล แต่คิตตี้ก็ชอบ แม้ว่ามันจะเจ็บจนแทบตาย จุกจนมวนในท้อง ใช่เวลาอยู่ครู่หนึ่ง พี่บอยก็พูดเสียงดัง

"อ๊ะ จะแตกแล้ว" เขาถอนอาวุธตัวเองออกมา ดันตัวของคิตตี้ให้ลงไปนั่งคุกเข่า มือใหญ่โต ชักอาวุธรุนแรงและน้ำสีขาวข้นก็พุ่งทะลักใส่หน้าของคิตตี้ครั้งแล้วครั้งเล่า มันเหม็นคาวคลุ้ง และคิตตี้รู้สึกถึงความคาบเกี่ยวระหว่างความขยะแขยงกับความยินดี ตาของคิตตี้ไวหลับลงก่อนที่กระสุนลูกแล้วลูกเล่าจะถูกยิงฉีดที่ผิวหน้า นี่ถ้าหลับตาช้ากว่านี้อีกนิด ตาคงบอดเป็นแน่ 

พี่บอยหอบหายใจยาว ๆ ยื่นอาวุธใหญ่ยาวมาแตะที่หน้าคิตตี้เบา ๆ พร้อมกับละเลงน้ำคาวข้นทั่วใบหน้า จากนั้นเขาก็ยังพอมีเมตตาล้างหน้าล้างตัวให้คิตตี้อยู่หรอกนะ

เมื่อแต่งตัวเสร็จ กลับไปนอนอย่างเงียบกริบ ค่อย ๆ ย่องไปราวกับเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น พี่บอยทิ้งตัวนอนและครู่เดียวเขาก็หลับไปจนส่งเสียงกรนเบา ๆ ส่วนคิตตี้นอนตะแคงมองหน้าของชายคนรัก ขยับตัวจนหัวของคิตตี้ไปซุกที่อยู่ซอกรักแร้ จนพี่บอยขยับแขนมาโอบคิตตี้ไว้เบา ๆ มันอบอุ่นชะมัด มันช่างแสนดี แต่พอคิตตี้เคลิ้ม ๆ เพราะเริ่มระบมและปวดเนื้อตัวพี่บอยก็พลิกตัวตะแคงนอนหันหลังให้คิตตี้เสียอย่างนั้น 

แต่อีสาวมากรักก็ยังไม่หมดความพยายาม คิดเสียว่าเสียเนื้อเสียตัวให้เขาแล้ว จะยังไง ต่อไปคิตตี้ก็จะรักจะเป็นของเขาแค่คนเดียว รักเขาเหมือนที่พ่อกับแม่รักกัน เหมือนที่ป้าปูกับน้าเที่ยงที่อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน คิดดังนั้นคิตตี้ก็เอาหน้าผากไปแนบกับแผ่นหลังกว้างหนาของพี่บอยจนเคลิ้มหลับไป 

สาย ๆ ของอีกวัน ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาทีละคน พี่บอยปลุกคิตตี้ให้ไปหาอาหารเช้ากินด้วยกันที่ตลาด แน่ล่ะพี่บอยยังคงน่ารัก เลี้ยงโจ๊กคิตตี้หนึ่งชาม ยังมีแก่ใจหายาแก้ไข้ให้คิตตี้กินด้วย สุภาพบุรุษซะไม่มี  

ตอนขากลับคิตตี้แสนจะทุกข์กายเพราะไข้แดก นี่ขนาดกินยาดักไว้แล้วนะ แต่คิตตี้ก็สุขใจนัก เพราะนั่งเบียดกับพี่บอย พี่บอยกอดคิตตี้ไว้แน่น คิตตี้ไม่เคยเบื่อระยะทางแสนยาวไกลกว่าจะถึงบ้านเลย แม้ว่าคิตตี้กับพี่บอยจะไม่ค่อยได้พูดอะไรกันนัก เพราะพี่บอยสนุกสนานในคุยกับเพื่อน ๆ ของเขามากกว่า แต่คิตตี้ก็ยิ้มมีความสุขที่ได้เห็นพี่บอยยิ้ม เห็นพี่บอยหัวเราะ 

แม่บ่นแทบแย่ว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าให้คิตตี้ไปเที่ยวเลยเพราะเป็นไข้อีกหนึ่งวันเต็ม ๆ คิตตี้เอาแต่นอนยิ้ม นึกถึงความเจ็บปวดที่เจือปนไปด้วยความสุข นึกภาวนาให้มันเจ็บน้อยกว่านี้ แต่นี่มันครั้งแรกนี่นะ ครั้งต่อ ๆ ไป คิตตี้คงชำนาญขึ้นและพี่บอยก็คงเหมือนกัน มันก็คงจะไม่เจ็บอีกแล้ว

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อพี่บอยเรียนจบ การติดต่อพี่บอยก็ยากขึ้นทุกที โทรไปไม่รับ หรือรับก็รีบวางเพราะบอกว่าไม่ว่าง คิตตี้ไม่โง่เขลาขนาดนั้น แม้ว่าจะไม่ต้องปรึกษาใครแต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันฟ้อง คิตตี้ไม่ใช่คนที่จะฟูมฟายหรืออาละวาด นี่สินะที่เขาเรียกว่าโดนฟันแล้วทิ้ง

แต่คิตตี้เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ลับ ๆ ในใจ จนปัจจุบันไม่เคยเล่าให้ใครฟังเรื่องนี้เลยสักคน  คิตตี้จิบชาเขียวปั่นหวานน้อย แน่ล่ะว่ามันขมปร่าแต่เราก็ยังจะดื่มมัน อย่างเอร็ดอร่อย ครั้งแรกของคิตตี้อาจไม่ได้สวยงาม คิตตี้จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ารสจูบหอมหวานของผู้ชายคนแรกมันเป็นยังไง 

ตอนนี้ผ่านศึกเหนือเสือใต้ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านผู้คนมากมาย คิตตี้รู้แล้วว่าไอ้เหี้ยพี่บอยนั้น แสนเห็นแก่ตัว ตะกรุมตะกราม และเซ็กของแม่งโคตรห่วย 

แต่ถ้าคิดอีกแง่ คิตตี้ก็ต้องขอบคุณเขา เพราะเมื่อรู้เสียแล้วว่าเซ็กห่วย ๆ มันเป็นยังไง การมีเซ็กในครั้งต่อมาของคิตตี้ ถ้าใครมีเซ็กแบบนี้ เซ็กที่ไม่ใช่เกิดจากความปรารถนาของคนสองคน เซ็กที่โคตรเห็นแก่ตัว กักขฬะ หยาบคาย คิตตี้ก็จะมีอะไรกับมันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย จนพักหลัง ๆ คิตตี้เก่งกาจถึงขนาดที่แค่โดนจูบแรก คิตตี้ก็พอจะเดาได้เลยว่าเขาคนนั้น มีเซ็กแบบไหน

"อืมเราไม่สะดวกแล้วล่ะ ขอโทษนะ" คิตตี้บอกกับเขาอย่างสุภาพ ยิ้มให้นิดหน่อย และเดินจากมา ประสบการณ์มันสอนเราหลายอย่าง คิตตี้ไม่โทษคนที่เคยทำเหี้ยใส่ เพราะครึ่งหนึ่งของความเหี้ยก็คือตัวคิตตี้เองที่ยอมไปมีอะไรกับเขา 

"ก่อนจะปังก็ต้องพังมาก่อนสินะ" คิตตี้บ่นพึมพำกับตัวเองเบา  ยิ้มที่มุมปาก หักพวงมาลัยเข้าบ้านสวน นี่ป้าปูคงบ่นแย่ทีเดียวแต่ให้บ่นยังไง ก็ต้องมีอาหารอร่อย ๆ ไว้ฝากหลานรัก คิตตี้ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งอีกนิด อยากถึงบ้านสวนให้ไวกว่านี้