มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน

วาสนาของตาตี่ II - 24 ก่อนจะปัง ก็เคยพังมาก่อน 3 โดย Chavaroj @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วาสนาของตาตี่ II

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

วาสนาของตาตี่ II โดย Chavaroj  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน

ผู้แต่ง

Chavaroj

เรื่องย่อ

หวังหรือ สมหวัง หรืออีหวัง และถ้าร้ายสักหน่อยก็คือ อีดอกหวัง สุดแต่ว่าคนที่เรียกจะเป็นใคร ซึ่งเป็นนังเอก เป็นอีตัวต้นเรื่องของ วาสนาของตาตี่ภาคสองนี้


แต่สำหรับผัวเด็กสุดหล่อ จะเรียกหวังว่า "เตง" ซึ่งน่าหมั่นไส้จริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้ผัวเด็กที่ว่าก็ช่างคลั่งรักตามอกตามใจและเปย์สุด ๆ ไม่รู้ว่าอีผีนี่มีอะไรดี 

แต่ถ้าอยากจะรู้ก็ต้องลองมาอ่านกัน เรื่องนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในตลาดอ่อนนุช ซึ่งแน่นอนว่าต้องแซ่บ ต้องเสว และต้องฮา แต่จะขอสัปดนกว่าภาคหนึ่งนิดหน่อยเพราะคนแต่งอยากระบายความอึดอัด

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ความรุนแรง และการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม

ผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปีโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

รักคุณผู้อ่านฝากกดติดตามกดหัวใจกดสติ๊กเกอร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยแต่อย่ากดด่ามานะคะ ไรท์หัวใจอ่อนแอ

สารบัญ

วาสนาของตาตี่ II-1 ตาปลายายแมวและครอบครัวสุขสันต์,วาสนาของตาตี่ II-2 ไอดอล,วาสนาของตาตี่ II-3 เพื่อน ๆ พี่ ๆ,วาสนาของตาตี่ II-4 เพื่อน ๆ พี่ ๆ 2,วาสนาของตาตี่ II-5 เพื่อน ๆ พี่ ๆ 3,วาสนาของตาตี่ II-6 ความฝันความหวัง,วาสนาของตาตี่ II-7 ไอ้ต้าวตาขีด,วาสนาของตาตี่ II-8 เชื่อมจิต เชื่อมใจ,วาสนาของตาตี่ II-9 มันเป็นเรื่องของฮอร์โมน,วาสนาของตาตี่ II-10 ไอ้ความคิดถึง,วาสนาของตาตี่ II-11 Sex Education ,วาสนาของตาตี่ II-12 วันนี้ที่รอคอย,วาสนาของตาตี่ II-13 เสียสาวที่สวนหอม,วาสนาของตาตี่ II-14 Holiday ,วาสนาของตาตี่ II-15 Love Distance ,วาสนาของตาตี่ II-16 แล้วทุกอย่างจะดีเอง สาธุ,วาสนาของตาตี่ II-17 ไอ้ต้าวความสุข,วาสนาของตาตี่ II-18 คิตตี้ กับความลับบริษัท,วาสนาของตาตี่ II-19 ไม่รู้จัก ไม่รู้จักเธอ,วาสนาของตาตี่ II-20 ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ 2,วาสนาของตาตี่ II-21 ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ 3,วาสนาของตาตี่ II-22 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน,วาสนาของตาตี่ II-23 ก่อนจะปังก็เคยพังมาก่อน 2,วาสนาของตาตี่ II-24 ก่อนจะปัง ก็เคยพังมาก่อน 3,วาสนาของตาตี่ II-25 FWB,วาสนาของตาตี่ II-27 FWB 2,วาสนาของตาตี่ II-26 FWB 3,วาสนาของตาตี่ II-28 หนีไม่พ้น,วาสนาของตาตี่ II-30 จุดอิ่มตัว

เนื้อหา

24 ก่อนจะปัง ก็เคยพังมาก่อน 3

โดย Chavaroj

สายลมเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว ลมเหนือที่แสนเย็นสบายพัดมาจากจีน สำหรับใคร ๆ อาจจะชอบใจ ยิ่งหนาวยิ่งดี โดยเฉพาะอีหวัง อีหอยหลอด เดาะใส่เสื้อกันหนาวทั้ง ๆ ที่มันไม่ค่อยหนาวเท่าไรหรอก กลางวันร้อนตับแตก เหมือนเดิม แต่อาจจะดัดจริตมีวันที่อากาศเย็น ๆ วันสองวัน อีหอยนั่นก็รื้อเอาเสื้อกันหนาวมาใส่ดัดจริตชะมัด

"ไม่เห็นจะหนาวเลยอีผี" คิตตี้ด่า เพราะเห็นมันใส่เสื้อรุงรัง

"ก็ไม่หนาวน่ะสิ นี่เมืองไทยนะคะคุณพี่"

"แล้วมึงจะเอาเสื้อหนาวมาใส่ทำไมหนาวกีหรอ?"

"ม่ายช่ายคร่า น้องจะไปวะเคชึ่นที่ญี่ปุ่นกับเปาคร่า"

"หมั่นไส้" คำตอบจากสวรรค์มีเพียงเท่านี้ หวังมันดูมีความสุขนัก คิตตี้ก็ไม่อยากจะขัดคอ ฟังอีหวังมันเพ้ออะไรของมันไป จะไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ คิตตี้ก็ภาวนาว่าขอให้ไปให้สนุกก็แล้วกัน 

เพราะกว่าอีสองตัวจะหาเวลาได้ลงตัว ก็เห็นว่าต้องบุ๊คคิวหาเวลาว่างอยู่เป็นเดือน ๆ อีหวังมันก็งานยุ่งมาก ๆ ตอนนี้ คุณดาราสาวส้มโอ เรียกมันไปเป็นช่างแต่งหน้าประจำตัวกันเลยทีเดียว ด้วยว่าถูกชะตาและชอบฝีมือ นอกจากจะเป็นช่างแต่งหน้าประจำตัวแล้วอีหวังก็เหมือนเลขานุการกลาย ๆ ด้วย ไปไหนก็หนีบอีหวังไปด้วย 

นอกจากงานนี้อีหวังก็ทำเก๋ พอเริ่มดังหน่อย ก็เสือกออกผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ยี่ห้อ "น้องหวัง" ฟังชื่อคล้าย ๆ เมคอัพอาร์ติสอีกคน แต่หวังมันก็ว่าใคร ๆ ก็เรียกมันว่าน้องหวัง แต่สนิทหน่อยก็เรียก "อีหวัง" เขาเรียกอย่างนี้ทั้งวงการไม่ได้ก๊อบปี้ใคร แล้วอีผีนี่ก็ร้าย หลอกใช้ดาราสาวให้เป็นพรีเซนเตอร์โดยที่นางไม่รู้ตัว ก็เล่นไลฟ์ตอนแต่งหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์ของมันด้วย จริง ๆ คุณส้มโอก็รู้แหละ แต่อยากสนับสนุนมันก็เลยถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์บ่อย ๆ 

คนมาเสนอให้ทำของขายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เฮียโจผัวเฮียตี๋ที่ออกผลิตภัณฑ์มากมาย ในชื่อ "ดอกเตอร์โจ" แต่นั่นจะออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพมากหน่อย อยากลองเปิดตลาดเครื่องสำอาง ก็เลยมาดิวกับอีหวังทำพวกเครื่องสำอาง ลิปกลอส ครีมกันแดด และเซรั่มบำรุงผิวตอนก่อนนอน ซึ่งคิตตี้ก็เลยได้อานิสงส์ ได้ของฟรีมาใช้ซึ่งมันก็ใช้ดีจริง ๆ นะ เพราะคิตตี้เป็นคนขี้เกียจแต่ผิวแห้งปากแห้ง เลยได้อานิสงส์เต็ม ๆ 

ส่วนอีเปาผัวเด็กหน้าหมา ไม่ใช่หมาธรรมดา แต่เป็นหมาเซนต์เบอร์นาร์ด เพราะตัวแม่งโตเหลือเกิน หลังจากเรียนจบ ไปทำงานอยู่ฟิตเนสชื่อดังในตำแหน่งเทรนเนอร์ ทำได้เกือบ ๆ ปี ตามประสาคนรวยก็เลยมาเปิดฟิตเนสเองซะเลยคนรวยมันทำอะไรก็ง่ายอย่างนี้แหละ ใช้เงินแก้ปัญหาเอา

ส่วนคิตตี้น่ะเรอะ ก็ขายทุเรียน กับช่วยลุง ๆ ป้า ๆ ทำสวนเหมือนเดิม ยิ่งวันก็ยิ่งรับผิดชอบเรื่องสวนมากขึ้น เชี่ยวชาญขึ้น ก็แทบจะเป็นกำลังหลัก ถึงคิตตี้บอบบางเกินกว่าจะไปทำงานหนัก แต่มีหน้าที่สั่งคนงานให้ทำงานต่าง ๆ แทนตนผลผลิตไม่เน้นปริมาณอีกแล้ว แต่เน้นคุณภาพแบบสุด ๆ ทั้งส่งนอกด้วย ขายปลีกด้วย ซึ่งพักหลัง ๆ คิตตี้ไม่อยากจะเอาผลไม้ไปส่งล้งเท่าไร เพราะโดนกดราคา ขายปลีกได้ราคาได้กำไรมากกว่าเป็นเท่าตัว เรียกว่าเหนื่อยเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ 

ต้องขอบคุณเทคโนโลยี แล้วก็อีหวัง เรื่องมันเกิดขึ้นอีตอนอีหวังมันไลฟ์แต่งหน้าอะไรของมันไป โดยด้านหลังพอเห็นเงาของคิตตี้ ซึ่งกำลังขันแข็งแกะทุเรียน เนื่องจากอีเปามันมาเที่ยวเล่นที่บ้าน อีหวังมันก็เลยอ้อนให้คิตตี้ปอกทุเรียนให้ผัวมันกินซะเลย 

"ทุเรียนเม็ดในยายปราง เคยได้ยินไหม?" คิตตี้ถามซึ่งแน่นอน แม้แต่อีหวังยังไม่เคยได้ยินเลย

"เม็ดในนี่เม็ดอะไรวะ เม็ดแต๊สหรอ?" หวังซึ่งกำลังใช้แปรงปัดแป้งถึงกับต้องหันมาถาม

"ท่าทางจะเม็ดแต๊สอย่างที่มึงว่าแหละ ว่าแต่มึงเคยเห็นหรอว่าอีเม็ดแต๊สนี่มันหน้าตาเป็นยังไง?" คิตตี้ย้อน

"ไม่เค๊ย ไม่เคย อี๋ ว่าแต่กลิ่นมันหอมดีเหมือนกันเนอะ เปาเนอะ" นั่นทีกับผัวล่ะ เนอะแนะอีผี ทีกับกูนี่พูดเหมือนหมาเห่า

"มันก็ทุเรียนนี่แหละ แต่เนื้อมันจะหนา เนื้อละเอียด เม็ดลีบ" คิตตี้อธิบาย ไม่ใช่ว่ารู้เองหรอกนะ ตอนเก็บมาน่ะลุงกุ้งอธิบายให้ฟัง แล้วก็ให้เอามาฝากที่บ้านของคิตตี้กิน และคิตตี้ก็กำลังแกะอยู่ตรงห้องรับแขกข้างล่างนี่แหละ พ่อกับแม่น่ะได้กินคนละเม็ดคิตตี้ก็กินแค่เม็ดเดียว เพราะกินบ่อยเสียแล้ว อีหวังล่อหนึ่งพู และที่เหลือเสร็จอีเปาที่แดกอย่างเอร็ดอร่อย แต่แดกไปบ่นไปเพราะกลัวน้ำตาลขึ้นต้องไปเบิร์นออก

นี่คืออีตัวต้นเรื่อง แฟนคลับเห็นอีเปากับอีหวังมันกินท่าทางน่าอร่อย เลยมีหลายคนถามหาอยากซื้ออยากกิน คิตตี้ก็เลยปิ๊งไอเดีย ไลฟ์ขายทุเรียนซะเลย สองคนพี่น้องแต่ต้องไปไลฟ์ที่เมืองจันท์นะ กึ่งขอร้องกึ่งบังคับให้อีหวังมันช่วยและต้องไปถึงบ้านสวนด้วย งานนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องมีหลังบ้านคอยช่วยดูแล ไหนจะรับออเดอร์ ไหนจะต้องแพคทุเรียน แต่ก็สนุก และลุงกุ้งกับป้าปูก็ดูไปหัวเราะไปเพราะสองพี่น้องที่เถียงกันกวนประสาทกันอยู่ไปมา

กิจวัตรเพิ่มเติมก็คือนอกจากแพคของแล้วก็ต้องไปขนส่ง ที่นี่คิตตี้ก็ออกจะได้รับความสะดวกมากสักหน่อย มิใช่อะไร เป็นเพราะเจ้าของบริษัทขนส่งที่นี่ รู้จักกันดีกับคิตตี้ รู้จักชนิดลึกซึ้งเลยเชียวแหละ 

"เฮียะต้น วันนี้เอาทุเรียนมาส่งอีกแล้ว" คิตตี้ยิ้มหน้าแฉล้ม ถึงจะแต่งตัวรัดกุม เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แถมใส่หมวกปีกอีก เพราะนี่แพคของเสร็จก็รีบมาส่งของทันทีแต่ถึงอย่างนั้น หน้าแฉล้มยามยิ้มหวานของคิตตี้ก็ทำให้เฮียะต้น ยิ้มอย่างยินดี โดยมีคนงานของคิตตี้สองคน ทำหน้าที่ลำเลียงทุเรียนกองโตให้กับขนส่งไป ค่อย ๆ ลำเลียงลงมาจากรถ

"อีกสักพักนึงแหละ เฮียะพักพอดีไปหาอะไรหม่ำกัน" เฮียะต้นพูดและข้าง ๆ บริษัทขนส่งก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบเมืองจันท์โดยแท้ คือใส่กั้ง ใส่เนื้อปลาและของทะเล ไม่มีที่อื่นจะทำอย่างนี้ นี่แหละเสน่ห์ของเมืองจันทบุรีล่ะ

"เดี๋ยวคิดเลี้ยงเฮียะเองนะ" คิตตี้เสนออย่างใจป้ำและเฮียะต้นก็ยิ้มอย่างดีใจ ก็คราวก่อนเฮียะต้นเป็นคนเลี้ยงไปแล้ว ผลัดกันเลี้ยงเป็นเรื่องปกติ และที่เรียกเฮียะ นี่เพราะคนจันท์เขาเรียกพี่ชายว่าเฮียะ กันทั้งนั้นจนถึงรุ่นคุณน้า บางทีก็เรียกเฮียะเหมือนกัน ไม่ได้แอบด่าว่าเหี้ยแต่อย่างใด ใคร ๆ ก็เรียกกันอย่างนี้อย่างป้าปูก็เรียกลุงกุ้ง และเรียกน้าเที่ยงว่า เฮียะกุ้ง เฮียะเที่ยงเหมือนกัน

เฮียะต้นนี่เป็นเจ้าของร้านซื้อลิขสิทธิ์บริษัทขนส่งมาเปิดแฟรนด์ไชน์ และคิตตี้ก็ดูจะเป็นลูกค้าเจ้าใหญ่ เพราะชาวสวนคนอื่นขี้เกียจมาขายยิบ ๆ ย่อย ๆ อย่างนี้ รอทุเรียนสุกได้เวลาก็มีล้งมารับสะดวกกว่าเป็นไหน ๆ แต่คิตตี้น่ะ ไม่ชอบคนเอาเปรียบแถมล้งตอนนี้ก็มีแต่คนจีน ร้ายหน่อยก็เป็นทุนจีนสีเทา ๆ เลยแหละ

"อร่อยเหมือนเดิมเลยเนอะ" คิตตี้พูดและคิตตี้ก็คีบลูกชิ้นหน้าตาน่ากินใส่ชามของเฮียะต้น 

"ขอบคุณครับ" เฮียต้นพูดแล้วก็ยิ้มตาก็มองคิตตี้ด้วยสายตาหวานเชื่อม 

แน่นอนว่าความสัมพันธ์ของคิตตี้กับเฮียะต้นนี้มันไม่ธรรมดา แต่มันอยู่ในเลเวลของ friends with benefit มีใครรู้แค่ไม่กี่คน แต่รู้กันดีคือทั้งสองคนนี่แหละ

จุดเริ่มต้นของการได้รู้จัก ไม่ใช่ตอนมาส่งของแต่อย่างใด มันเกิดจากแอปหาคู่ ซึ่งคิตตี้กับเขาแมชกันก็เลยลองคุย ๆ กันดู คุยกันก่อนที่เฮียต้นจะเปิดบริษัทขนส่งเสียอีก ก็เมืองจันท์มันเล็กกะจิ๊ดเดียว ผู้ชายในเมืองนี้ก็มีอยู่เพียงหยิบมือ แต่มันไม่เหมือนกรุงเทพฯ จะไปรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นเก้ง ยามอยู่เมืองจันท์คิตตี้จึงอดอยากปากแห้งนักไม่มีผู้ชายตกถึงท้อง 

อีแอปหาคู่นี่จริง ๆ คิตตี้ก็เล่นมานานปีดีดักแล้วล่ะ เพียงแต่ตอนอยู่เมืองจันท์ไม่ค่อยได้เล่นเพราะเปิดมาก็มักจะเจอแต่เด็ก ๆ และคนชาวสวนชาวบ้านหน้าตาไม่ตรงสเปค ถ้าจะเปิดแอปหาคู่คิตตี้ก็เลือกจะไปเล่นที่กรุงเทพฯ ยามกลับบ้านมากกว่า ซึ่งคิตตี้ว่ามันลุ้นดี เจอดีก็ดีไป เจอคนเหี้ยไม่ตรงปก คิตตี้ก็เชิดใส่ อีกอย่างที่เป็นอุปสรรคก็คือเรื่องของเวลา เพราะอยู่ในสวนทำงานง่วนทั้งวันว่างอีกทีก็ดึก หัวถึงหมอนก็แทบจะหลับไปในทันที จะเอาเวลาที่ไหนไปล่าผู้ชาย

"อีเหี้ย ในรูปงิ ดาร์ค ทอลแอนด์แฮนซัม เจอตัวจริงกูคิดว่าคุณปู่ที่ไหน กะอยู่แล้วรูปแม่งเบลอ ๆ คงเป็นรูปเมื่อสิบกว่าปีก่อน" คิตตี้บ่นกับอีหวัง อย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อนัดไปเจอกับคุณอาคนหนึ่งแต่แทนที่จะเจอคุณอากลับเป็นคุณปู่ ถึงคิตตี้ชอบคนมีอายุแต่ก็ไม่ใช่อายุคราวปู่คราวตาค่ะ 

วันดีคืนร้าย คิตตี้ที่ไม่มีอะไรทำ ก็เลยลองเปิดแอปเล่น รูปของเฮียะต้นกระเด้งขึ้นมา อ่านประวัติ และดูรูปในโปรไฟล์สี่ห้ารูป คิตตี้ก็แมชเขาทันที แล้วก็ทักไปหาด้วยซะเลยนั่นคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ จีบกันอยู่สักสองสามวันคิตตี้ก็หาเรื่องเข้าไปในตัวเมืองตอนเย็น ๆ ป้าปูบ่นซะไม่มี แต่คิตตี้จะสามสิบอยู่แล้ว ป้าปูพูดเหมือนคิตตี้อายุสิบสองอย่างนั้นแหละ บ่นได้ก็บ่นไป คิตตี้ซะอย่าง ทำหูทวนลมซะเลย

ตอนนั้นเฮียะต้นยังไม่ได้ทำขนส่ง แต่สำเนียงพูดของแกมันไม่ติดความเหน่อของคนจันท์เลย แถมหน้าตาก็ออกตี๋ ๆ สักหน่อย แต่คิตตี้รักอีตรงไรหนวดซึ่งยิ่งทำให้หน้าคม ๆ เข้มขึ้นไปอีก

"เมื่อก่อนเฮียะอยู่กรุงเทพฯ อยู่ตั้งแต่ประถมเลยจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็ทำงาน เมื่อก่อนทำงานออฟฟิศนี่แหละ จนเป็นผู้จัดการอยู่ตั้งหลายปี แต่เจอพิษเศรษฐกิจบริษัทก็ปิดตัวไป เฮียะก็หาอะไรทำก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ไปเรื่อย แล้วก็เบื่อเมือง เลยกลับมาอยู่บ้านเราดีกว่า นี่ก็ว่าจะลองมาเปิดแฟรนด์ไชน์ที่นี่แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเปิดอะไรดี" เฮียะต้นว่า ซึ่งก็มีธุรกิจในหัวอยู่สามสี่อย่างแต่สุดท้ายแกก็เลือกจะเปิดบริษัทขนส่งสีแดง 

เฮียะต้นในวัยสามสิบห้าหยก ๆ สามสิบหกหย่อน ๆ ยังไม่แก่หนำใจคิตตี้เท่าไร แต่ก็ถือว่าวัยนี้ลำหักลำโค่นกำลังพอดี ไม่แก่ไปชนิดตะบันน้ำกินหรือนกเขาไม่แข็ง และไม่เด็กไปชนิดทำตัวงี่เง่าเหมือนอีเปาที่อ้อนเมียเหมือนหมาตัวโต ๆ ซึ่งคิตตี้รำคาญตาเป็นที่สุด

อาจเป็นเพราะคิตตี้เป็นพี่คนโต จิตใต้สำนึกบอกให้คิตตี้ต้องเป็นหลักเป็นที่พึ่งให้ทุก ๆ คนไม่ว่าจะพ่อแม่ ลุงป้าและน้องชาย ลึก ๆในใจคนเราก็อยากมีที่พิงหลัง คิตตี้ก็เลยชอบคนอายุมากกว่า คิตตี้อยากมีใครเอาอกเอาใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กบ้าง และเฮียะต้นก็คือเซฟโซนอีกหนึ่งคน

นัดเดทกินอาหารด้วยกันวันนั้น ใจน่ะคิตตี้ก็อยากจะกินเฮียะต้นไปด้วยซะเลย ก็เฮียะต้นนั้นถึงจะไม่ตรงสเปคของคิตตี้แบบขั้นสุด เพราะแกตัวขาว ๆ ออกจีน ๆ หน่อย ตัวก็ไม่ได้สูงมาก แต่สูงกว่าคิตตี้ละกัน สูงราว ๆ 175 เซนติเมตร หุ่นก็ไม่ได้ผอมโกโรโกโส มีพุงนิด ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับอ้วน ใส่แว่นและไว้หนวดเป็นไร ๆ อย่างที่ว่า ยิ้มอย่างใจดี และเอะอะในบางครั้งอย่างเป็นกันเอง

แต่สิ่งที่ทำให้คิตตี้กับเฮียะต้นตัดสินใจคบหากันในฐานะเพื่อนนอน นั้นมันก็เป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่คิตตี้ไม่รักเฮียะต้นนะ รักแหละ แต่รักในฐานะคู่นอน มันก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ในฐานะคู่นอนเฮียะต้นทำให้คิตตี้พึงพอใจ และเฮียะต้นเองก็ชอบในความน่ารัก ปุ๊กปิ๊กและร้อนร่านของคิตตี้ไม่หยอก

"คืนนี้คิดไปหาเฮียะนะ" 

"ครับ" เฮียต้นรับคำอย่างยินดี ไม่บ่อยที่คิตตี้จะปลีกตัวมาหาเฮียต้นได้ ทั้ง ๆ ที่จากตัวเมืองจนถึงบ้านสวนมันก็แค่สิบกิโลกว่า ๆ 

บ้านของเฮียะต้นเป็นตึกแถวกลางเก่ากลางใหม่ ในตัวเมือง ไม่ถึงกับอยู่ในตลาดเหมือนร้านขนส่ง จึงไม่พลุกพล่าน บ้านของเฮียต้นเป็นตระกูลเก่าแก่ หลาย ๆ คนแยกย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เหลือแค่พ่อแม่ และป้าแก่ ๆ ของเฮียะต้นอีกคนที่ยังอยู่ที่บ้านหลังนี้ ตามประสาคนแก่นอนไว หกโมงทุ่มนึงก็หนีขึ้นเหล่าเต๊งไปหมด ตึกแถวสองคูหา อีกด้าน เฮียะต้นอยู่คนเดียว คิตตี้ขับรถไปจอดที่หน้าบ้าน เฮียะต้นก็เดินหน้าแป้นมารับอย่างยินดี

"คืนนี้นอนค้างไหม?" เฮียะต้นถามและคิตตี้ก็ทำท่าคิดสักครู่ และพยักหน้า จริง ๆ คิตตี้เพิ่งมาจากกรุงเทพฯ กะให้มาถึงเมืองจันท์ตอนเย็นย่ำสักหน่อย นอนค้างบ้านเฮียะต้นแล้วเช้า ๆ ค่อยกลับเข้าบ้านสวน จะได้ไม่เสียงานและป้าปูจะได้ไม่บ่น

เฮียะต้นจูงมือ คิตตี้เข้าไปในบ้าน จริง ๆ แกแทบจะอุ้มเชียวแหละ เมื่อปิดประตูปุ๊บ เฮียะต้นก็กอดคิตตี้แน่น พร้อมกับก้มลงมาจูบเสียแรงเชียว

"เฮียะ...คิดยังไม่ได้อาบน้ำเลย" คิตตี้บ่น

"ไม่อาบก็ไม่เป็นไร ตัวคิดหอมอยู่แล้ว" เฮียะต้นพูดแล้วก็ก้มลงมาหอมมาดอมดมคิตตี้ตามซอกคอและสองแก้ม ไรหนวดทิ่มจนคิตตี้หัวเราะตัวงอ พอรู้ตัว คิตตี้ก็ต้องใช้สองมือแปะที่ใบหน้าเข้ม ให้หยุด ไม่อย่างนั้นหัวเราะเสียงดังเดี๋ยวได้ตื่นลงมาดูกันทั้งบ้าน เพราะคิตตี้เป็นคนบ้าจี้

"แต่คิดเหนียวตัว อยากอาบน้ำก่อน นะคะ น๊าาา" คิตตี้อ้อนทำปากยื่น คิดว่าน่ารักเต็มประดา ถ้าอีหวังเห็นมันคงด่าว่าเป็นเหี้ยอะไรทำปากยื่นเป็นเป็ด แต่เฮียะต้นคงเห็นว่าน่ารักสุด ๆ เพราะยิ้มกว้างและทำหน้าเอ็นดูคนตัวน้อยนี่เหลือแสน

"งั้นเฮียะอาบให้" เฮียะต้นพูดแล้วทั้งสองคนก็เดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอนของเฮียต้น หนุ่มใหญ่ลอกคราบคิตตี้จนเหลือเนื้อตัวเปล่าเปลือย ตัวเขาเองก็เช่นกัน ถึงห้องน้ำจะไม่ได้ติดกับห้องนอน ต้องเดินออกไปหน่อย แต่ตึกนี้เฮียต้นอยู่คนเดียวไม่ต้องกลัวใครมาพบเห็น

เฮียต้นอาบน้ำไปก็ลวนลามคิตตี้ไป โดยเฉพาะก้นเนี่ย ฟอกสบู่ให้นานเป็นพิเศษ และเมื่อเช็ดตัวยังไม่แห้งดีด้วยซ้ำ ก็พากันมานอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงซะแล้ว แอร์เปิดจนเย็นฉ่ำ คิตตี้หนาวจนสะท้านนิด ๆ แต่ในหัวอกมันร้อนรุ่มด้วยไฟราคะ และเฮียะต้นก็สนองให้คิตตี้อย่างถึงอกถึงใจ

อีกอย่างที่ทำให้คิตตี้กับเฮียต้นเป็นขาประจำกันก็เพราะลีลาร่วมรักและงูขนาดใหญ่ที่ถึงอกถึงใจ บางคนลีลาดีแต่งูที่ติดตัวมาคืองูเขียว และเป็นงูเขียวธรรมดาเสียด้วย ไม่ใช่งูเขียวหางไหม้ที่มีพิษร้าย หรือบางคนงูใหญ่แต่ทำกับคิตตี้อย่างตะกรุมตะกราม หรือโคตรไร้ลีลา เอาแต่นอนเฉย คิตตี้ถือนัก ถ้าจะร่วมรักกันก็ต้องเล้าโลมให้คิตตี้พอใจด้วย ต่างคนต่างต้องช่วยกันให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความสุขสิ 

เฮียะต้นนั้นกว่าจะสอดใส่ ก็เล้าโลมจนคิตตี้แทบละลาย หัวนมของคิตตี้เป็นรอยแดงช้ำ เพราะโดนเฮียต้นดูดแล้วดูดอีก แถมข้าง ๆ หน้าอกหน้าใจก็มีรอยฟันกัดเบา ๆ 

"เจ็บมั๊ย?" เฮียะต้นถามอย่างรู้สึกผิด

"ไม่เจ็บหรอก แต่จริง ๆ ก็เจ็บนิดหน่อย" ตกลงเจ็บหรือไม่เจ็บดีวะ

"เฮียมันเขี้ยวอ่ะมันอดใจไม่ไหว คิดน่ากินไปทั้งตัวเลย" เฮียะต้นว่าแล้วก็ใช้ลิ้นลากไล้ไปตามผิวละเอียดนุ่ม ในร่มผ้านั้นคิตตี้ผิวขาวผ่อง แต่ถ้านอกร่มผ้า คิตตี้ซึ่งขี้ร้อน บางครั้งก็ใส่เพียงเสื้อแขนสั้นสีผิวที่แขนจึงเข้มกว่าผิวที่ตัวนิดหน่อย แต่ก้นของคิตตี้นั้นขาวออร่าแน่นอน และยามที่งูยักษ์ตัวมะเมื่อมค่อย ๆ ชำแรกเข้าไปในคูหาสวรรค์ คิตตี้ก็หลับตาพริ้ม บิดตัวเร่า เผยอปากครางเสียงกระเส่า จนเฮียะต้นต้องก้มกายลงมาจูบเพื่อไม่ให้เสียงดังมันเล็ดลอดออกมา

"อย่าครางอย่างนั้นสิครับ เฮียะฟังแล้วมันจะเสร็จ" เฮียะต้นกระซิบ แต่คิตตี้ก็ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ เฮียะต้นก็เลยกัดคิตตี้จนเป็นรอยกัดเพิ่มเสียเลยที่หัวไหล่ 

เฮียะต้นน่ารักถึงขนาดเตรียมถุงยางอนามัยไว้เองทีเดียว ปกติคิตตี้นัดจะไปเจอกับใคร คิตตี้ต้องเป็นฝ่ายเตรียมถุงยางและเจลหล่อลื่น ถ้านับเรื่องนี้ก็นับว่าเฮียะต้นเป็นคนแคร์อีกฝ่ายค่อนข้างมาก แต่ถ้ามองกันอย่างจริง ๆ คิตตี้ก็รู้ว่าเฮียต้นไม่ได้มีคิตตี้คนเดียวแน่ ๆ ก็เหมือนที่คิตตี้มีคนที่เป็น friends with benefit อีกสองสามคนนั่นแหละ แต่อยู่ที่กรุงเทพฯ เคยเหมือนกันที่คิตตี้เห็นเฮียะต้นขับรถไปกับใครเห็นหลังไว ๆ แต่คิตตี้ก็ไม่ได้เจ็บปวดหัวใจหรือหึงแม้แต่น้อย ก็เราตกลงกันแล้วว่าเราจะคบหากันในฐานะนี้คล้าย ๆ กับฐานะของเพื่อน ฐานะของพี่น้อง เพียงแต่เพิ่มความสัมพันธ์กันว่าหลับนอนกันได้ 

และต้องป้องกันด้วย คิตตี้ต่อคำในใจ ตราบใดที่ยังรักสนุกก็ต้องป้องกันตัวเองจากโรคร้าย คิตตี้ไม่ได้ประมาทหรอกน่า 

ถุงยางไซส์ 54 กลิ่นช็อกโกเลตสองชิ้นและแบบขรุขระอีกหนึ่งชิ้น ถูกทิ้งในถังขยะ มีกระดาษทิชชูจำนวนมากนอนเป็นเพื่อนมันอยู่ในนั้น และกลิ่นคาวนิด ๆ ระเหยออกมา บนเตียงมีร่างสองร่างที่นอนก่ายกันอยู่ จนพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงสีส้มเข้ามาเล็กน้อย คิตตี้ก็ขยับตัวตื่นด้วยความเคยชิน

มือของคิตตี้ซุกซนเลื้อยลามลูบไปที่แผ่นท้องนุ่มนิ่ม ไรขนอ่อน ๆ ทำให้จักจี้มือ และเลื่อนไปอีกนิดเดียว ก็สัมผัสกับท่อนเนื้อที่ยังอ่อนนุ่มอยู่ คิตตี้จับมันเบา ๆ ลูบไล้เบา ๆ ไม่นานเท่าใจนึก มันก็ขยายพองก๋า จนเต็มมือเต็มไม้ และคิตตี้ก็ไม่เสียเวลา ก้มลงไปดูดกินจนเต็มปากเต็มคำ สุดท้าย คิตตี้ก็ต้องขึ้นไปนั่งทับมัน ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ๆ จนมันสิ้นฤทธิ์

"เมื่อคืนยังไม่พออีกหรอ ต้องล้างหน้าไก่ด้วย" เฮียะต้นบ่นอย่างไม่จริงจังนัก และหอบเหนื่อย 

"ก็ใครใช้ให้เฮียะต้นน่ารักเล่า" คิตตี้ตอบพร้อมกับยิ้มพราว สายตาเจ้าชู้มองชายตรงหน้า และเขาก็พาคิตตี้ไปอาบน้ำด้วยกัน ครั้นลงมาส่งคิตตี้ที่รถ เขาก็ยังแต่งตัวด้วยชุดนอนคือเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเหมือนเดิม

"เดี๋ยวเฮียะนอนอีกตื่นนึง หมดแรง" เฮียต้นพูดเหมือนจะบ่นแต่ก็ยืนส่งจนคิตตี้ขับรถจากไป คิตตี้ก็ง่วงและหมดเรี่ยวแรงเหมือนกัน ก่อนเข้าบ้านสวนแวะซื้อชาเขียวปั่นแบบเข้มข้นมาดื่ม ขืนมัวทำสโหลสะเหลให้ใครเห็นจะโดนซักเท่านั้น

เมื่อจอดรถตรงที่จอด กลิ่นอาหารหอมฉุยก็มาทักทายเป็นอย่างแรก และเมื่อคิตตี้เดินเข้าไปในบ้าน ป้าปูก็เรียกให้คิตตี้ไปเรียกลุงกุ้งกับน้าเที่ยงมากินข้าวเช้าด้วยกัน กินกันเงียบ ๆ เงียบจนทุกคนผิดสังเกต ก็ปกติคิตตี้ต้องเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ ให้ฟัง แต่วันนี้กลับกินข้าวเช้าเงียบ ๆ ผิดกว่าทุกที

"ไม่สบายหรือเปล่าลูก?" ลุงกุ้งถาม

"เพลีย นิดหน่อยจ๊ะ เดี๋ยวคิดขอนอนพักนิดนึงนะสาย ๆ คิดถึงจะลงสวน" คิตตี้แจ้งและเมื่อทุกคนลงสวนหมดแล้ว คิตตี้ก็หายามากิน และเดินกระย่องกระแย่งไปเข้าห้องนอน หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย จนสาย ๆ มดลูกเข้าอู่ดีแล้ว คิตตี้ก็เดินลงสวนไปสมทบกับทุก ๆ คน เมื่อคืนเฮียต้นจัดหนัก คิตตี้ถูกใจชะมัด เจ็บมดลูกสักหน่อยคิตตี้ก็ยอม จะมีคนที่เยกันแล้วมันปัง มันโฮ่งถึงใจอย่างนี้เจอไม่บ่อย คิตตี้ก็ต้องแกร่งเป็นอีสาวนักสู้ ถามว่าสู้กับงานรึก็ไม่ใช่ สู้กับXวยค่ะคุณขา