มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
ความสัมพันธ์เป็นสิ่งดี แต่บางครั้งมันก็น่าอึดอัด และสำหรับคิตตี้แล้ว ถ้าใครสักคนจะมายุ่มย่ามกับชีวิต ชนิดโทรจิกถามว่าอยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร เมื่อไรจะกลับ อันนี้ก็ต้องขอโบกบือบ๊ายบาย คิตตี้ไม่ชอบคนขี้หึง ไม่ชอบคนงี่เง่า โต ๆ กันแล้ว ให้เกียรติกันในสถานประมาณที่ไม่ทำให้อีกคนอึดอัด ซึ่งคิตตี้เจอคนพวกนี้บ่อย ๆ เสียด้วยสิ
แน่ล่ะ เพราะความสวยความเสว คนย่อมหลงคิตตี้เป็นธรรมดา แต่เซ็กไม่ได้เท่ากับความรัก คิตตี้คิดว่าตัวเองอาจจะมีกรรม ไม่ได้มีแฟนคนแรกแล้วก็คบกันเป็นผัวเมียมายืดยาวแบบอีหวัง คิตตี้เจอคนมาเยอะ และคิตตี้ก็จะไม่ทนกับคนที่คิดตี้คิดว่าไม่เข้าท่าเมื่อเจอกับความประพฤติที่ทำให้คิตตี้ไม่ชอบใจ
เคยเห็นคนมากมายหลายคน ที่ยอมเสียตัวตน ยอมสละความสุข ยอมถูกเอาเปรียบ เพื่อคนที่พร่ำบอกว่า "รัก" เสียนักหนา แต่คิตตี้คิดว่าถ้ามีความสัมพันธ์อย่างมีสติ สักหน่อย ไอ้เรื่องพวกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นให้รำคาญใจ
เฮียะต้นคือหนึ่งในนั้นที่คิตตี้คบกับเขาได้สนิทใจ ไม่อึดอัด ไม่ยุ่งหัวใจ แต่คนที่คิตตี้เคยแอบคิดว่าคิตตี้อาจหลงรักเขาในสักวันก็มีเหมือนกัน แต่อะไรบางอย่างซึ่งจะโทษเขาก็ไม่ได้ทำให้คิตตี้ต้องสร้างกำแพงกั้นหัวใจไว้ประมาณหนึ่ง
อาจารย์เก้า หรือพี่เก้า คืออาจารย์มหาวิทยาลัยโด่งดัง ขึ้นชื่อนักหนาว่าเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนด์ซัม ตรงตามสเปคของคิตตี้ทุกประการ เจอกันเพราะเขามาอุดหนุนทุเรียนของคิตตี้ ในวันหนึ่ง
"กินเยอะระวังอ้วนนะครับ ซื้อกินทุกวันเลย" คิตตี้แซวพี่เก้าเพราะเห็นมาซื้อเกือบทุกวัน
"ก็มันอร่อยครับ น้องเลือกทุเรียนเก่ง แพงหน่อยก็ไม่ว่ากันขอให้ได้กินของดี ๆ เถอะ" พี่เก้าตอบ และความเป็นกันเองของคิตตี้บวกกับความช่างคุยตามประสาคนเป็นครูบาอาจารย์ ทั้งสองรู้จักกันในประมาณหนึ่ง คิตตี้อ่อยเหยื่อ และปลาก็กินเบ็ด จนสนิทกันมากขึ้นทุกที
เริ่มแรกความสัมพันธ์ก็คือมาซื้อของกันบ่อย ๆ บางครั้งพี่เก้าก็จะเหมาซื้อเพื่อเอาไปแจกหรือเอาไปเป็นของฝาก จะให้ดีก็ต้องมีช่องทางติดต่อกัน ก็เลยแลกไลน์กันเสียเลย และเหยื่อของคนชอบกินก็ต้องเอาของกินดี ๆ มาล่อสิจริงไหม
"พี่เก้าครับ คิดเพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพฯ มีมังคุดเอามาฝากด้วย" คิตตี้ส่งข้อความถึงพร้อมกับถ่ายรูปมังคุดลูกโต ๆ ชนิดที่ส่งออก คนไทยตาดำ ๆ ถ้าไม่ใช่ชาวสวนจ้างให้ก็ไม่มีวันได้กินหรอกจะบอกให้
"เกรงใจครับ คิดเงินมาก็ได้" พี่เก้าตอบตามแบบฉบับของแกเพราะแกเป็นคนขี้เกรงใจ ติดจะมากไปสักนิดด้วยซ้ำ มิไยว่าคิตตี้จะยืนยันว่าเอามาเป็นของฝากจริง ๆ และคิตตี้อีตัวร้ายก็รุกถึงขนาดขอโลเคชั่นเพื่อจะเอามังคุดวิเศษไปฝากอาจารย์หนุ่ม
ส่งโลเคชั่นมาให้แล้ว ก็อยู่แถว ๆ สุขุมวิทนี่แหละ เข้าซอยนิดหน่อย คิตตี้คิดว่ามันมีทางลัดซึ่งเดินลัดเลาะไปได้นี่นา ก็เลยเตรียมของไปส่งผู้ชายซะเลย แน่นอนว่ากระเป๋าใบน้อยลายแมวขาวซึ่งบรรจุถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น ได้ถูกพกเอาไปด้วย กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน เริ่มต้นดีก็เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง คิตตี้ถือคตินี้เสมอ จะไปไหนมาไหน ก็พกถุงยางและเจลหล่อลื่นเป็นประจำ เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดถึง โดยเฉพาะอุบัติเหตุรัก
พี่เก้าลงมารับอย่างแสนเกรงใจ แกสุภาพชนิดที่อยู่กับห้องของตัวเอง ยังสวมกางเกงขายาว กับเสื้อโปโลและเอาชายเสื้อใส่ไปในกางเกงซะด้วย
"ไปเที่ยวไหนมาหรอครับ ไหนว่าหยุดวันอาทิตย์?" คิตตี้ถามด้วยเสียงแอ๊บแมนหน่อย ๆ
"เมื่อเช้าไปวัดมาครับ ไปทำบุญ กลับมาก็นอนพักได้ตื่นนึงแล้วก็อ่านหนังสือเตรียมการสอน" พี่เก้าตอบยิ้ม ๆ คนอะไรมันจะคูลแบบนี้ ไอ้ที่จะมอบของแล้วแยกย้ายเรอะอย่าหวัง คิตตี้มีแผนร้าย และสิ่งที่นำมาไม่ใช่มีแค่มังคุดซะเมื่อไร
"มีกระท้อนห่อด้วยครับอร่อยมาก ๆ เนื้อปุยข้างในนี่เบ้อเริ่มเลย เปลือกบางแล้วก็ไม่เปรี้ยวมากด้วย ให้คิดปอกให้ดีกว่า" คิตตี้ว่าและพี่เก้าก็เลยต้องให้คิตตี้ขึ้นไปปอกเปลือกกระท้อนที่บนห้อง
ห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เต็มไปทั้งผนังคือหนังสือมากมายลายตาสมกับเป็นครูบาอาจารย์ และคิตตี้ก็ไม่แปลกใจกับความเนิร์ดของเขาเลยสักนิด อีกด้านมีพระพุทธรูปสวย ๆ เป็นของเก่าบ้างของใหม่บ้างปะปนกันไป
"สวยจัง" คิตตี้เอ่ยชมพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ ซึ่งแกะสลักจากไม้
"พระของพม่าครับ ได้ตอนไปเที่ยวพม่า" พี่เก้าตอบและกุลีกุจอหามีดคม ๆ กับจานมาให้คิตตี้ แต่คิตตี้ก็ยิ้ม และถือวิสาสะ เดินไปตรงครัวด้านข้าง ใช้ชามใบโต ๆ ใส่น้ำและเหยาะเกลือเล็กน้อย ปอกเปลือกกระท้อนแบบไม่เสียดมเสียดาย ก็เราจะกินเนื้อไม่ได้กินเปลือกนี่คะคุณเจ้าขา ปอกเสร็จก็รีบโยนกระท้อนที่ว่าลงไปในชามแช่น้ำเกลือ เพื่อจะได้ทำให้เกลือมันกัดทำให้กระท้อนไม่ดำจนหมดความน่ากิน
"โอ้โห ปุยของมันเยอะจริง ๆ เสียด้วย" พี่เก้าเอ่ยปากชม ก็กระท้อนของคิตตี้ลูกโตเท่าหัวเด็ก ถ้าหล่นใส่หัวใครมีหวังตุยแน่ ๆ ก็คิดดูเอาเถอะ สองลูกก็เกือบกิโลกว่ามันจะลูกโตขนาดไหน
"รอแป๊บนึงนะครับระหว่างนี้กินมังคุดรอไปก่อน" คิตตี้ใช้จริตมารยาหญิง ปอกมังคุดซะสวย เรียงใส่จาน พี่เก้านักกินก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
คิตตี้จำได้ว่าเขานั้นชอบกิน เป็นนักกินคนนึงทีเดียวล่ะ คนเราบางคนก็ชอบเที่ยว บางคนก็ชอบดู แต่พี่เก้าน่าจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มชอบกิน ยิ่งยุคนี้ มีอินฟลู และยูทูปเบอร์ทำคลิปไปกินโน่นกินนี่ พี่เก้าสายกินก็ต้องไปพิสูจน์ ไปตามรอย คิตตี้ออกจะอึ้งเพราะไอ้ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา พี่เก้าเขามาเล่าอวดว่าได้กินข้าวแช่
"ข้าวแช่วังสระปทุมครับ อร่อยมาก" เริ่มต้นเอ่ยชื่นชม แล้วแกก็บรรยายสรรพคุณความพิสดาร ของการประดิดประดอย ฟังแล้วคิตตี้ได้แต่ยิ้ม ๆ ก็เคยกินมันเสียที่ไหนเล่า ปกติกินของอร่อยก็กินแต่ฝีมือของป้าปู คิตตี้ก็เลยขอขิงบ้าง คุยอวดเรื่องก๋วยเตี๋ยวเมืองจันท์ที่ใส่กุ้งหอยปูปลา ใส่กั้งตัวโต ๆ หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อเรียงที่หอมเป็นพิเศษด้วยสมุนไพรวิเศษคือ เร่วหอม
"เคยกินมาหมดแล้วครับ นั่งรถไปเที่ยวนอนค้างคืนนึง" เอากับแกสิ
แดกได้ครึ่งนึง คิตตี้คงไม่รอให้เหยื่อแดกจนอิ่มท้องกาง ไม่อย่างนั้นแผนการที่วางไว้คงพังพินไม่เป็นท่า นังมากมารยาขอเดินไปดูต้นกระบองเพชรที่ระเบียง และแน่นอนว่าเจ้าของห้องก็ต้องตามมาด้วย ทำเป็นชี้ชวนดูดวงดาว ดูท้องฟ้า ดูทางด่วนไกลลิบ และรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่าน บรรยากาศชักจะโรแมนติก อีคิตตี้ตัวดี ทำซบไปในอกชายหนุ่มโดยพลัน
ไม่ต้องมีคำพูดอะไร เพราะในดวงตามันบ่งบอกความนัยได้ทุกสิ่ง คิตตี้เขย่งตีนให้สูงขึ้น ก็พี่เก้าสูงน่าจะร้อยแปดสิบคิตตี้ตัวเท่าลูกหมา ริมฝีปากจูบกันแนบแน่น แลกลิ้นกันอย่างร้อนแรง รสหวานฉ่ำของมังคุด ราชินีของผลไม้คละคลุ้งไปทั่วทั้งโพรงปาก ไม่ต้องแดกละมังคุดมังเคิด แดกอย่างอื่นเถอะค่ะ
ค่อย ๆ ขยับกายอย่างเชื่องช้าหรือคิตตี้โดนอุ้มจนตัวลอยก็ไม่ทราบ รู้ตัวอีกที คิตตี้ก็มานอนทับร่างของพี่เก้าเสียแล้ว และเมื่อเสื้อยืดตัวหลวมถูกถอดออกจนเห็นผิวเนื้อเปล่าเปลือย พี่เก้าก็มองคิตตี้อย่างตะลึงหน่อย ๆ
"เอ่อไปในห้องนอนดีกว่า" คิตตี้พูดตะกุกตะกัก ก็ข้างหลังโซฟาตรงนี้ พระพุทธรูปพากันจ้องคิตตี้อยู่นี่เล่า ยิ่งรูปปั้นกวนอิมเนี๊ยะที่คิตตี้รู้สึกว่าท่านเบะปากใส่คิตตี้ด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ก็เลยต้องย้ายสถานที่ประกอบการ
ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง คิตตี้อดจะแสบจมูกนิด ๆ ด้วยว่าในห้องนอนของอาจารย์หนุ่มคนนี้ก็รายเรียงไปด้วยหนังสือ มีฝุ่นจับนิด ๆ จนเมื่อเปิดแอร์ทำให้คิตตี้แทบจะจามเอาทีเดียว คิตตี้ถอดแว่นตากลม ๆ ของพี่เก้าออก แต่เจ้าตัวก็ขอใส่ไว้
"พี่สายตาสั้นมาก ถ้าถอดแว่นเหมือนคนตาบอดเลยครับ" พี่เก้าว่าใส่ก็ใส่ ก็ดีเหมือนกัน ลุคไอ้ต้าวแว่นมันก็เท่ดีไม่หยอก และตามตำราที่เก้งกวางรุ่นพี่บอกต่อ ๆ กันมาให้ระวังคนใส่แว่นและคนที่ท่าทางมะ ๆ โม ๆ
"ทำไมล่ะคะเจ๊?" คิตตี้ถามปนหัวเราะ
"ก็ไอ้พวกนี้ล่ะหื่นสุด ๆ ค่ะ" อีเจ๊เฉลยและคิตตี้ก็หัวเราะ แต่หัวเราะของคิตตี้นี่ในหัวใจก็บอกว่าขอให้หื่นจริง ๆ เถอะ ของมักของข้อยเด้อ
และทฤษฎีก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ พี่เก้าหนุ่มใต้ผิวเข้มคม จมูกโด่งและริมฝีปากหนา เขาใช้มันคลึงเคล้นไปตามเนื้อตัว คิตตี้อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ และใช้สบู่อาบน้ำของเฮียตี๋ที่ยืนยันว่าหอมติดทนนาน ซึ่งมันก็หอมถูกใจคิตตี้จริง ๆ ด้วยนั่นแหละ และคงถูกใจพี่เก้าที่ใช้ลิ้นเลียไปตามเนื้อตัวหอมกรุ่นของคิตตี้ไม่หยุดเหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้คิตตี้ประทับใจในลำดับต่อมาก็คืองูของพี่เก้า แม่จ๋าพ่อจ๋า เอามาทำไมเยอะแยะ ดำมะเมื่อมเหมือนงูจงอาง มันพองก๋าเหมือนจะขู่ทำร้าย แต่คิตตี้ก็ต้องถึงกับเลียริมฝีปาก มือของคิตตี้จับหมับอย่างชำนาญ ตำราหมองูสอนไว้ จับงูก็ต้องจับที่บริเวณคอของมัน อู้หู แม่เจ้า กำเกือบจะไม่รอบ แต่เมื่อจะก้มลงไปสัมผัสด้วยปลายลิ้น คิตตี้ก็ได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ จริงสิ เขาออกไปธุระปะปังข้างนอกมา ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเสียตัวแบบคิตตี้นี่หว่า
ดังนั้นจะตีตราว่าเขาXวยเหม็นน่ะไม่ได้หรอก คิตตี้มาไม่ถูกจังหวะเอง แต่อีสาวสมองไว ก็กลอกตาตลบหนึ่ง คล้าย ๆ อึ้งย้งในมังกรหยกที่บรรยายว่า กลอกตาตลบหนึ่งก็คิดแผนการได้แปดเก้าประการ คิตตี้คิดได้ประการเดียวนั่นคือต้องไปล้าง แต่จะล้างอย่างไร และพูดอย่างไรให้ไม่เสียน้ำใจกัน
เกิดพูดไปตรง ๆ ว่าพี่เก้าXวยเหม็น ฉวยเขาเสียความมั่นใจหดไปจนไม่ยอมฟื้น ก็ซวยพอดีเท่านั้นคิตตี้ผู้มากประสบการณ์ เปลี่ยนตำแหน่งจากการจะกินงูเป็นจูบริมฝีปากอย่างเร่าร้อนแทน แต่แน่ล่ะมือของคิตตี้ยังเร้ารุกอย่างหนัก รู้สึกได้ด้วยซ้ำว่าที่ส่วนปลายมีน้ำเหนียว ๆ ไหลซึมแสดงว่าเงี่ยนเต็มที่
"ไปอาบน้ำกันได้มั๊ยครับ?" คิตตี้แอ๊บเสียง และพี่เก้าก็ถึงกับอุ้มคิตตี้เข้ากะเอวเลยเชียวล่ะ มารยาหญิง และความตาไว ให้พี่เก้าอาบน้ำล้างสบู่ไปแต่คิตตี้เล็งสบู่ล้างส่วนซ่อนเร้นไวแล้ว โชคดีเป็นกลิ่นเดียวกับที่คิตตี้ชอบซะด้วย บีบอย่างว่องไว แล้วคิตตี้ก็ล้างไอ้อนาคอนด้าหรือไอ้งูบองหลาตัวนั้นจนมันหอมกรุ่น
แน่ใจว่าหอมดีแล้ว คิตตี้ก็ทิ้งกายลงคุกเข่า ดูดอมอย่างรุนแรง สลับจังหวะเนิ่นช้า พี่เก้าได้แต่พริ้มตาเพราะความเสียวเหลือใจ
มั่นอกมั่นใจว่าไม่มีอุปสรรคเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ก็มาต่อที่เตียงนอน แอร์เย็นฉ่ำ และกลิ่นอับร้ายกาจก็หายไปสิ้น คิตตี้นางแมวยั่วสวาท นางเสือดาว นางร้อนร่าน กลับมาอีกแล้ว ยิ่งร่างเล็ก ๆ โดนงูบองหลาชำแรกแทรกตัวเข้ามา คิตตี้ก็แทบจะกรีดร้องดัง ๆ พร้อมกับอุทานในใจว่า กีของตัวเองจะมีสภาพดีเหมือนเดิมหรือไม่ ...กีกูแหกแน่ ๆ แล้วอีเหี้ยยยยย
แต่มือระดับคิตตี้ผู้ตั้งฉายาให้ตัวเองว่า อีคิตตี้ร้อยXวยเสียแล้ว ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่ารูมหัศจรรย์ ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ ๆ กว่ามันจะเข้าไปได้จนหมด พี่เก้าก็ไม่ได้ทำให้คิตตี้ผิดหวัง คนมะ ๆ โม ๆ นี่แหละตัวดี หัวของคิตตี้โยกคลอนจนผมที่เซ็ทไว้ฟูฟ่องเหมือนคนบ้า แต่ช่างมันก่อน ตอนนี้เจ็บปนเสียวจะแย่ คิตตี้พยายามไม่กรีดร้อง แต่พี่เก้าก็ขยับตัวใช้ริมฝีปากงับติ่งหูคิตตี้เบา ๆ และกระซิบว่าให้ร้องดัง ๆ
เขาบอกให้ร้อง คิตตี้ก็ร้อง ร้องเหมือนจะตาย ซึ่งมันก็ใกล้จะตายจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งจุกทั้งเจ็บ และคิตตี้ว่า อวัยวะที่โดนกระแทก น่าจะเป็นตับหรือปอด คงช้ำในแน่ ๆ แต่พี่เก้าที่ใส่แว่นกลมหนาก็ยิ้มร่าอย่างพออกพอใจและยิ่งกระแทกแรงขึ้นไปอีก กระแทกจนหัวของคิตตี้ชนกับหัวเตียงเลยทีเดียว
เสร็จศึกยกแรก คิตตี้ปล่อยให้งูยักษ์ค้างคาไว้อย่างนั้น พี่เก้าก็เอาแต่เลียตามลำคอ ลาดไหล่และจูบคิตตี้หวาน ๆ
"เจ็บมั๊ยครับ?" พี่เก้าถามอย่างอาทร
"เจ็บแต่คิดทนได้" คิตตี้ตอบ และขอบอกไว้เลยใครไม่เคยโดนเปิดซิงอย่ายุ่งกับผู้ชายคนนี้ เพราะมึงจะกลัวการมีเซ็กไปเลย เผลอ ๆ หนีไปบวชชีไม่รู้ด้วย แล้วจะหาว่าแม่ไม่เตือนไม่ได้นะคะ
"อีกรอบได้ไหม?" พี่เก้าตอบและคิตตี้ก็ทำท่าจะปฏิเสธ ซึ่งแน่นอนมันเป็นแค่มารยา เอาถุงยางอนามัยมาหนึ่งกล่อง และคิตตี้ไม่อยากจะเอาของที่เหลือกลับบ้านหรอกค่ะ มันเสียเชิง
ถุงยางสามชิ้น ถูกทิ้งลงถังขยะ พี่เก้ารบเร้าให้คิตตี้นอนค้างด้วยกันอีกคืน คิตตี้ชั่งใจแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไป ขืนนอนค้างด้วย กูอดใจไม่ไหวมีล้างหน้าไก่แน่นอน ตีสองแล้วและคิตตี้ก็เรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับบ้านเลยเชียวล่ะ อนิจจาไอ้ทางที่ไอ้มอเตอร์ไซค์ขับพาคิตตี้มาส่งมันเสือกเป็นทางลัด และทางลัดย่อมไม่เรียบสบาย มดลูกของคิตตี้ซึ่งระบมถูกกระทบกระเทือนจนคิตตี้ได้แต่ก่นด่าและสาปแช่งโคตรเหง้า บรรพบุรุษของไอ้เหี้ยนี่ซ้ำ ๆ ทางดี ๆ ไม่พากูไป แต่ช่างเถอะ จริง ๆ มันเป็นเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ความเจ็บ บวกกับความเกร็ง มันก็เลยดูเหมือนนานชั่วนิจนิรันดร์
เมื่อถึงบ้าน คิตตี้กำลังจะเปิดประตูหน้าบ้าน ก็ให้บังเอิญเจอกับโจทก์เก่า
"แม๊ว" เสียงแมวตัวขาวหน้าสีดำร้องทัก และเหมือนมันจะถามคิตตี้ว่าไปแรดที่ไหนมา ดอกทองไปทั่วเชียวนะมึง
"เสือก ไปไหนก็ไปไป๊" คิตตี้ไล่มัน ทำท่าจะยกตีนเตะแมว อีขวานฟ้า ก็รู้ทันกระโดดแผล็วพ้นตีนอีคนใจชั่วได้ทันแค่เสี้ยววินาที
"อีดอก สาระแน" ดูเอาเถอะคนชั่วด่าแมวก็มีด้วย มันอาจจะแค่มาขออะไรแดกนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เท่านั้น
บ้านเงียบกริบ คิตตี้อาบน้ำมาจากบ้านของพี่เก้าเรียบร้อยแล้ว อีตัวดีเดินไปที่ตู้ยา จะหยิบยาแก้ปวดมากิน และนึกขึ้นมาได้ ถึงยาดองสูตรลี้ลับที่ป้าปูดองเอาไว้ให้
"ใส่สมุนไพรอะไรบ้างจ๊ะป้า?" คิตตี้ถามเมื่อป้าปูประเดสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ใส่ขวดโหลเหล้ากลม แล้วจึงเทเหล้าขาวลงไป
"มีหลายตัวเลยลูก แต่ไอ้ตัวเด็ดก็คืออันนี้" ป้าปูพูดแล้วก็หยิบรากไม้อวบ ๆ สีขาวขุ่น ๆ ขนาดเท่านิ้วก้อยมาให้คิตตี้ได้พิจารณา
"รากสามสิบ หรือเขาเรียกว่าต้นร้อยผัว" ป้าปูเฉลย ฟังชื่อก็พอจะเดาสรรพคุณออก คิตตี้ไม่อยากกินยาแก้ปวดเลยซัดยาสมุนไพรเสียดีกว่า อีกอย่างกินเหล้าจะได้หลับไป ไม่อย่างนั้นระบมตูดนอนไม่หลับแน่ ๆ คิตตี้ล่ะรักยาตำรับนี้นัก เจอศึกเหนือเสือใต้ กระดกยานี้เป๊กสองเป๊ก เช้ามามดลูกก็จะกลับมาเข้าอู่ กระชับเหมือนเป็นสาวพรหมจรรย์ นิ้วก้อยแหย่เข้าไปก็แทบจะไม่ได้เลยเชียวล่ะ
กับพี่เก้านั้น ก็มีสัมพันธ์กันเรื่อยมา ด้วยติดใจในเพศรสเสียแล้ว ถึงขนาดบางที คล้าย ๆ ว่าจะไปเดท เพราะพี่เก้าชวนคิตตี้ไปกินอาหารด้วย แม้ว่ามันจะเป็นอาหารแปลก ๆ หน่อยอย่างร้านอาหารแขกก็เถอะ
"ไม่ใช่ไม่อร่อยนะครับพี่ แต่ปกติคิดเป็นคนกินนิดเดียวก็อิ่ม" คิตตี้กินอย่างละนิดอย่างละหน่อย ปากที่ชินแต่กับอาหารรสจัดจ้าน พอมาลองกินอาหารแขก มันค่อนข้างเค็ม ๆ มัน ๆ เลี่ยน ๆ อย่างคิตตี้น่ะมันต้องกินยำ และคติประจำใจของชาวกินยำก็คือ กฎของยำ คือเปรี้ยวนำเสมอ
แต่พี่เก้าก็กลับกินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ใช่แกลิ้นตะเข้กินอะไรก็ไม่รู้รสหรอกนะ แกกินอะไรก็อร่อยไปหมดนั่นแหละ คิตตี้มองพี่เก้าที่จ้วงเอา ๆ นานแผ่นหนาที่ย่างมาจนหอม จิ้มกับแกงถั่วลูกไก่จืด ๆ เค็ม ๆ กลิ่นแปลก ๆ พี่เก้าก็กินได้กินดี ไอ้หอมเครื่องเทศน่ะมันก็หอมอยู่หรอก แต่คิตตี้ว่าถ้ามันจะแปรเป็นหวานกว่านี้สักนิด หรือมีรสกว่านี้อีกหน่อยเหมือนมัสมั่นนั่นไง คิตตี้ก็จะไม่บ่นเลย แต่ข้าวบาสมาติก ข้าวแขกเม็ดยาว ๆ มันก็หอมดีอยู่หรอก กินเพลิน ๆ คล้าย ๆ ข้าวหอมมะลิ คิตตี้ก็กินมันกับไก่ผัดเครื่องเทศ สารภาพตรง ๆ คิตตี้ขอกินไข่ผัดขิงใส่หมูสามชั้นกับเห็ดหูหนูดีกว่า ยิ่งถ้าป้าปูทำให้ จะใส่เห็ดหูหนูมาก ๆ เพราะรู้ว่าคิตตี้ชอบ เอาอาหารอินเดียทั้งถาดมาแลก คิตตี้ก็ไม่เอาหรอกค่ะ
เจอกันบ่อย ๆ ช่วงที่คิตตี้เอาทุเรียนมาขายเกือบทุกอาทิตย์ ถ้ามาขายคิตตี้ก็จะไลน์ไปบอกพี่เก้าเสมอ แต่ถ้าเป็นช่วงที่ไม่ใช่หน้าทุเรียน คิตตี้ก็จะนาน ๆ กลับมากรุงเทพฯ สักที มันก็เลยจะเป็นช่วงที่คิตตี้กับพี่เก้าห่าง ๆ กันไป
จนปีกลายที่ผ่านมา หน้าทุเรียนมาแล้ว และคิตตี้ก็คิดถึงพี่เก้าเป็นกำลัง ไม่ได้เจอกันจะว่านานก็นาน จะว่าไม่นานก็เหมือนแค่เมื่อวานนี้เพราะแต่ละคนก็มีงานยุ่งขิง คิดตี้ที่มักจะส่งรูปโป๊ หรือรูปตลก ๆ ให้พี่เก้า ก็เลยส่งข้อความว่าวันนี้คิตตี้เอาทุเรียนมาขายอีกแล้ว
"ดีจังครับ คิดถึงจัง" พี่เก้าตอบอย่างว่องไว
"คิดถึงคิดหรือคิดถึงทุเรียน" คิตตี้พิมพ์ตอบกลับไปอย่างว่องไว ดูแง่งอนนิด ๆ ให้ผู้ชายง้อ มารยาชัด ๆ
"ก็คิดถึงทั้งสองอย่างแหละครับ เดี๋ยวเลิกงานแล้วจะไปหานะครับจะไปอุดหนุน" พี่เก้าตอบแล้วก็เงียบไป จริงสินะนี่แกก็คงทำงานอยู่ คิตตี้ก็มัวแต่วุ่นวายเรื่องขายทุเรียน เพราะวันนี้เป็นการกลับมาขายวันแรก ส่งไลน์หาลูกค้าประจำหลายคน และบางคนที่เชื่อใจกันก็สั่งให้ปอกใส่กล่องไว้เลยเท่าไรก็ว่ามาเดี๋ยวจะโอนเงินมาให้แล้วให้ไรด์เดอร์มารับของ
จนพระอาทิตย์เริ่มยอแสง เวลาประมาณนี้นี่ล่ะที่พี่เก้ามักจะมาซื้อของ เพราะเลิกงานมาแกก็ขึ้นรถไฟฟ้ามาเดินซอยนี้ซึ่งอุดมด้วยกับข้าวและของกินต่าง ๆ นานา
ลูกค้ากำลังเยอะแต่พี่เก้าก็มาในที่สุด คิตตี้ยิ้มอย่างดีใจเมื่อได้ยินเสียงของแกทัก แต่เมื่อหันไปมองก็อดจะอึ้งกิมกี่ไปเล็กน้อย ไม่มีอีกแล้วพ่อหนุ่ม ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนด์ซั่มคนนั้น พี่เก้าที่คิตตี้ไม่ได้เจอะเจอไม่กี่เดือน บัดนี้ ร่างสูงร้อยแปดสิบ ได้มีน้ำหนักที่กะด้วยสายตาอีกไม่กี่ขีดก็คงจะครบร้อยโล
"หวัดดีครับพี่ คิดปอกไว้ให้พี่แล้วเลือกเนื้อหนึ่งให้เลยนะ มีแถมด้วย" คิตตี้พูดและยิ้มหวาน พี่เก้าก็รีบจ่ายเงินมือไม้แทบสั่น โชคดีนัก ลูกค้าต่อแถวเป็นพรวน เลยไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก
ปกติพี่เก้าก็เป็นคนขี้เกรงใจอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มีอะไรกันคิตตี้ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ถ้าต่อไป คิตตี้จะไม่ได้ริเริ่มข้อความขอไปมีอะไรกับแกที่บ้าน ไม่รู้แกจะเสียใจหรือเปล่าหนอ
แต่ก็คงไม่หรอก เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พี่เก้าคงพบกับรักแท้ รักในอาหาร แต่เมื่อรักในการกินมากเกินไป หุ่นเลยพังอย่างนี้ คิตตี้นึกสภาพไม่ออก ว่าชายหนุ่มที่เคยมีหุ่นอวบนิด ๆ จะกลายสภาพอย่างนี้ไปได้ และเกิดคิตตี้ใจอ่อน หรือคิดถึงXวยมหึมา และถ้าเขาทับมาบนตัวคิตตี้ อีคิดไม่แบนแต๊ดแต๋หรอกหรอ
เผลอ ๆ Xวยไม่แข็งด้วยซ้ำ ก็อ้วนขนาดนั้น จะไปเอาที่ไหนมาแข็งกันเล่า คิตตี้บ่นเพ้อไปในใจ เสียดายนัก และออกจะเซ็ง ๆ แต่เอาเถอะ เสียหมากไปหนึ่งตัว แต่หมากตัวอื่นคิตตี้ก็ยังมีในโกดังอีกนี่นะ คิตตี้เพียงแต่เสียดายเท่านั้น เสียดายที่คิตตี้ไม่กล้าบอกเขาตรง ๆ ให้เขาลดน้ำหนัก ถ้าจะบอกคิตตี้ก็คงจะถามกับตัวเองเพราะกลัวเขาเสียใจ
"ไม่อ้วนเอาเท่าไร?"