มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
ในที่สุด ไอ้เฮียะเต๋อก็มานอนค้างที่บ้านของคิตตี้จนได้ในที่สุด คิตตี้ไม่เคยปฏิเสธอะไรมันได้เลยสักครั้ง จะว่ามันวาทศิลป์ดี หรือเป็นคนหน้ามึน หรืออาจจะเพราะเฮียะเต๋อมันเป็นลูกคนเล็กโดนตามใจจนสันดานเสียอยากได้เหี้ยอะไรก็ต้องได้ และมันก็ต้องงอแงจนกว่ามันจะได้สิ่งที่มันอยากจนได้อีกเหมือนกัน เห็นมันว่าตั้งแต่เด็กแต่เล็กอยากได้อะไร ป๊ากับม๊าก็ประเคนให้ซะทุกอย่าง
"ตอนเฮียะเกิด ตอนนั้นบ่อพลอยก็ขุดพลอยได้มากกว่าปกติ เรียกว่าปีนั้นปีเดียว ได้พลอยมากกว่าที่ขุดมาห้าปีเลย ป๊ากับม๊าก็เลยคิดว่าเฮียะเป็นตัวเงินตัวทอง เอ่อตัวนำโชคน่ะ ก็เลยชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ อยากได้อะไรก็ได้หมด" เฮียะเต๋ออธิบายเมื่อคิตตี้ประชดว่าทำไมนิสัยไม่ดี
"อ่อ" คิตตี้ตอบสั้น ๆ ในวันนั้นและจะว่ากันตามจริง เฮียะเต๋อก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ยกเว้นเป็นคนขี้โม้ ขี้คุย ขี้อวด แต่ด้วยฐานะของเฮียะเต๋อมันก็สมควรจะทำสิ่งที่ว่าทั้งหมดนั่นแหละ เพราะมันรวยจริง ๆ รวยไม่ใช่เล่น ๆ รวยจนบางครั้งคิตตี้ก็หมั่นไส้เพราะความที่ทำตัวเหมือนจะใช้เงินไม่เป็น และดูเงินทองมันไร้ค่าเสียเหลือเกินเพราะใช้เหละหละ
แต่อีกด้านความใช้เงินไม่เป็นของเฮียะเต๋อ ก็กลายเป็นว่าเงินทองมากมาย เอาไปทุ่มการทำสาธารณประโยชน์ ที่แถว ๆ บ้านของคิตตี้เจริญได้ถึงขนาดนี้ ก็เพราะเฮียะเต๋อรำคาญอยากให้บ้านเมืองมันสะอาดสะอ้าน สว่างไสว พ่อติดไฟให้โดยไม่ต้องใช้งบ อบต. อบจ. อะไรให้ยุ่งยาก กว่าจะอนุมัติ กว่าจะแดกใต้โต๊ะ กว่าจะหักเปอร์เซ็นต์ เฮียะเต๋อจัดการออกเงินส่วนตัวทำเองเลยง่ายดียิ่งวัดวาอารามด้วยแล้วล่ะก็ เงินกว่าค่อนเป็นเงินของบ้านแกเลยเชียว คิตตี้ค่อนขอดในใจว่าตายไปเกิดชาติหน้าเห็นทีจะได้เกิดเป็นลูกเศรษฐีอีก เพราะทำบุญทำทานมาเยอะ
ต้นเหตุที่มาของความรวยจนน่าหมั่นไส้พวกนี้ ก็คืออัญมณีต่าง ๆ นี่เอง แกว่าบ้านของแกทำพลอยขุดพลอยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พลอยเมืองจันท์นั้นได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นพลอยน้ำดี ยิ่งถ้าได้ผ่านการเจียระไนอย่างประณีตด้วยล่ะก็ ราคาก็จะพุ่งจนเราแทบจะไม่อยากคิดว่าจากก้อนหินก้อนเล็ก ๆ จะมีราคาได้ขนาดนั้น
พลอยเนื้อแข็งตระกูลคอรันดัม คือพวกทับทิม ไพลิน เขียวส่อง บุษราคัม และสตาร์ ส่วนพลอยเนื้ออ่อนก็พวก โกเมน เพทาย และนิล
เฮียะเต๋อเคยอธิบายถึงพวกหินสีพวกนี้ให้คิตตี้ฟังแต่คิตตี้ผู้ไม่ประสากับของสวย ๆ งาม ๆ พวกนี้ก็ได้แต่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา คิตตี้เป็นคนทำงานหนัก ถึงหน้าจะสวยหุ่นบอบบางแต่มือของคิตตี้ก็หนาสาก พอ ๆ กับคนสวนทุก ๆ คนจนอีหวังมันด่าแล้วด่าอีก ว่ากันตรง ๆ คิตตี้ไม่ได้เป็นคนรักสวยรักงามหรือสำอางเลยสักนิด ผิดเก้งกวางทั่วไปในสากลโลก
"มือหรืออะไรเนี่ยอีคิด หนังตีนกูยังนุ่มกว่ามือของมึงเลยอีผี" อีหวังมันบ่นแล้วมันก็เอาครีมรกแกะตายในท้องวัวมาทาให้ซะหนา แล้วก็ให้คิตตี้สวมถุงมือพลาสติก แล้วจึงเอาถุงมือผ้านุ่ม ๆ สวมทับอีกรอบ ร้อนมือจะตายห่า
"ทำสปามือซะบ้าง เดี๋ยวใครเขาดูหน้าแล้วมาจับมือจะนึกว่าคนละคน" อีหวังมันค่อนขอด ซึ่งหลังจากทำมือมันก็นุ่มประมาณหนึ่งแต่คิตตี้ก็ไม่ได้ใส่ใจกับกระบวนการพวกนี้ คิตตี้ชอบที่จะลงสวน ปีนป่ายต้นไม้ ขุดดิน ปลูกต้นไม้อะไรของคิตตี้ไปตามเรื่อง เฮียะเต๋อยังเคยถามเมื่อจับมือสาก ๆ ของคิตตี้
"ก็คนทำงานหนักนี่ ไม่ได้นั่งกินนอนกินแบบเฮียะนะ" นั่นคิตตี้ย้อนซะเลย
"เฮียะก็ทำงานหนักนะ เห็นอย่างนี้ บางทีตีสองก็ยังไม่ได้นอน นั่งทำบัญชี นั่งคุมคนงานขนของ" เฮียะเต๋อตัดพ้อ เรียกว่าเป็นงานเหนื่อยใจไม่ใช่งานเหนื่อยกายเหมือนคิตตี้สินะ
อาหารมื้อเย็นแสนอร่อย มีมากมายจนเหลือไว้กินพรุ่งนี้เช้าได้อีกมื้อ และเมื่อออกไปจับปลาจับสัตว์ทะเลกัน ก็มีแค่คิตตี้ เฮียะเต๋อ กับน้าเที่ยง ไม่น่าเชื่อว่า เฮียะเต๋อคนขี้โม้จะชวนน้าเที่ยงคุยจนคิตตี้คิดว่าทั้งชีวิตก็ไม่เคยได้ยินน้าเที่ยงพูดเยอะถึงขนาดนี้ ราว ๆ ห้าทุ่มกว่า ๆ ถึงจะเอาเรือกลับฝั่ง ได้ปลาตัวโต ๆ ปลาหมึก และปูม้าหลายสิบตัวทีเดียว ถึงบ้านเอาเกือบตีหนึ่งทีเดียว
ลุงกุ้งนั้นบ่นว่ากินจนอิ่ม หมดเรี่ยวแรง และป้าปูก็ขี้เกียจออกไปจับปลาเพราะเมื่อคืนก็เพิ่งไปจับมาจึงไม่ได้ออกทะเลมาด้วยกัน น้าเที่ยงจัดการสัตว์ที่จับได้ ส่วนคิตตี้กับเฮียะเต๋อ เข้าห้องอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน กางเกงขาก๊วยสีชมพูแปร๊ดของคิตตี้ซึ่งเฮียะเต๋อยึดเอาไว้ใส่ในวันที่มาขอนอนค้าง ใส่จนยางยืดย้วยแล้วจริง ๆ เฮียะเต๋อก็ชอบที่จะหาข้ออ้างมานอนค้างที่บ้านกับคิตตี้บ่อย ๆ ถ้าไม่มีเก็บผลไม้ ก็หาเรื่องมาเยี่ยมป้าปูเอาโน่นเอานี่มาฝาก คิตตี้รำคาญจะตายเพราะเบื่อคนวอแว รุงรัง
"เปิดแอร์นะเฮียะร้อน" เฮียะเต๋ออ้อน และเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ แม้คิตตี้จะบ่นว่าเปิดทำไม กลางคืนนอนเปิดพัดลมตัวเดียวก็เย็นสบายแต่เฮียะเต๋อผู้แสนสำรวยก็ชินเสียแล้วกับการนอนเย็น ๆ แอร์ตัวนี้เฮียะเต๋อก็เป็นคนซื้อให้ แล้วก็ไอ้เครื่องทำน้ำอุ่นนั่นอีก คิตตี้บ่นจะแย่ไม่ได้เป็นอะไรกันจะมาซื้อให้กันทำไม แต่เฮียะเต๋อผู้อยากทำอะไรกูก็จะทำ รวยซะอย่าง คิตตี้แทบจะไม่เคยเปิดแอร์ หรือใช้ไอ้เครื่องทำน้ำอุ่นนี่เลยด้วยซ้ำ อ้อไม่สิ ถ้าเป็นช่วงอากาศเย็น ๆ จริง ๆ ได้อาบน้ำอุ่น ๆ ก็สบายตัวดีเหมือนกัน
เฮียเต๋อนี่สันดานเสียอาบน้ำก็ชอบอาบน้ำอุ่นจัด ๆ แต่เวลานอนชอบเปิดแอร์เย็นอย่างกับตู้เย็น แล้วก็มุดตัวอยู่ในผ้าห่มหนา ๆ
"มันนอนสบายดี" นี่คือคำตอบ คิตตี้ได้แต่กลอกตาทำปากคว่ำ พอจะทาครีมก่อนนอน เฮียะเต๋อก็อ้อนให้คิตตี้ทาครีมนี่ให้ตัวเองด้วย
"นอนดี ๆ" คิตตี้สั่งเสียงเขียว เฮียะเต๋อนอนหลับตาพริ้ม พอป้ายครีมที่หน้าเสร็จก็เอาหัวมาเกยที่ตักของคิตตี้ นี่แหละหนอลูกคนเล็ก อยากให้คนตามใจ คิตตี้ก็เลยค่อย ๆ ทาเบา ๆ แอบอายแก่ใจหน่อย ๆ เพราะมือของคิตตี้มันสากไปจนถึงนิ้วมือ ไม่รู้ว่าตอนทาครีมที่อีหวังมันสอนให้ใช้ปลายนิ้วกลางกับปลายนิ้วนางนวดเบา ๆ เฮียะเต๋อมันจะแอบคิดว่าคิตตี้เอาข้อศอกทาให้หรือเปล่า ส่วนตัวคิตตี้น่ะเรอะ ถ้าจะทาครีม แปะใส่มือ ถู ๆ แล้วก็ปาดไปที่หน้าสามสี่ทีเป็นอันจบพิธี
"หนูคิด หนูกับเฮียะรู้จักกันมากี่ปีแล้วนะ?" เฮียเต๋อถามไม่รู้คิดยังไงมาถามอย่างนี้กันหนอ
"จำไม่ได้อ่ะ น่าจะหลายปีอยู่นะ" คิตตี้ตอบ และเสตามองไปที่เพดานอย่างใช้ความคิด
ย้อนกลับไปตอนเรียนจบและช่วยพ่อกับแม่ขายผักอย่างเต็มตัว เงินทองตอนนั้นคิตตี้ก็ยังไม่ค่อยจะมีหรอก แต่ความคันนั้นเต็มอัตรา เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งของคิตตี้ชื่ออีเจ๊เดี่ยว ผู้ที่เบิกโลกความเสว ความแซ่บให้คิตตี้ ได้สอนวิธีไปเสว โดยไม่ต้องใช้เงินใช้ทองเหมือนตอนไปเที่ยวซาวน่าเกย์
"มึงอีคิด ไปแอ่วสวนกันคร่า ไปเอ๊าดอร์เสว ๆ คร่าเดี๋ยวเจ๊พาหล่อนไปเบิกเนตรเอง" อีเจ๊เดี่ยวนางว่า และคิตตี้ก็ซักถามเป็นโกลาหน ใจนึงก็อยากไปอีกใจก็กลัว แต่ความเงี่ยนมันชนะ ขนาดอีเจ๊เดี่ยวไปทีไรนางก็ได้ผู้ชายทีนั้น คิตตี้สวยกว่าเป็นกอง ก็ต้องได้ผู้สิ อีเจ๊เดี่ยวก็ล๊อบบี้ซะจนคิตตี้เห็นภาพทีเดียว
อีเจ๊เดี่ยวนางเป็นเก้งตัวสูงผอม หน้าตี๋ ๆ แบบคนญี่ปุ่นสมัยโบราณ อาศัยว่าตัวสูง ๆ ผอม ๆ แต่ไม่ใช่หุ่นดีหรอกนะ ตรงกันข้ามกับคิตตี้ที่ชอบกินผัก อีเจ๊เดี่ยวแดกผักไม่ได้สักอย่าง เคยไปกินอาหารด้วยกัน คิตตี้ได้แต่มองจานอาหารของอีเจ๊เดี่ยวอย่างระอาใจ อย่างหมูแดงเจ้าอร่อย ก็เหมือนข้าวหมูแดงเด็ก มีแต่ข้าว หมูแดง หมูกรอบ ไข่ต้ม ส่วนคิตตี้ขอแตงกวาเพิ่ม และกินแกล้มกับต้นหอมที่เขาปักใส่แก้วไว้ให้กินฟรี ๆ เสียเป็นกอง ๆ อนิจจาเดี๋ยวนี้ไปกินข้าวหมูแดงเจ้าเก่า มีแค่แตงกวาบาง ๆ ใส่มาให้สี่ห้าชิ้นเท่านั้น
"ผักมันแพงโว้ย" เจ้าของร้านบ่น คิตตี้เป็นสะท้านเมื่อได้ยินก็บ้านคิตตี้ขายผักนี่นะ แต่มันก็แพงจริง ๆ นั่นแหละ เกษตรกรปลูกผักน้ำแล้งบ้างน้ำท่วมบ้าง รัฐไม่ช่วยห่าอะไร ช่วยอย่างเดียวคือสวดมนต์ขอให้ฝนตกเมื่อเกิดฝนแล้ง กับขอให้น้ำลดไว ๆ เมื่อมีน้ำท่วมคิตตี้ล่ะเบื่อ ตั้งแต่เด็กจนมีผัวแล้วก็ไม่เห็นการแก้ไขเป็นชิ้นเป็นอันสักที คิตตี้ใช้วิวัฒนาการสารพัดกับสวนของลุงกุ้งจนไม่มีปัญหาเรื่องน้ำขาดน้ำแล้งเลย เพราะมันเป็นสิ่งต้องทำล่ะมั้ง รัฐบาลเขาไม่ได้มาเดือดร้อนด้วยนี่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนตามนั้นค่ะ
กลับมาที่อีเจ๊เดี่ยวที่นัดแนะกับคิตตี้ที่จะพาไปประภาสอุทยานซะแล้ว บอกสิ่งที่ต้องทำและห้ามทำ เช่นต้องเตรียมยากันยุงไปให้ดี ใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมให้ดูเหมือนไปออกกำลังกาย จะได้ดูไม่เด๋อ โทรศัพท์มือถือของมีค่าอย่าเอาไป ฉวยทำตกหรือเจอขโมยขโจร เงินทองแอบซ่อนตามเสื้อผ้าเช่นถุงเท้ารองเท้า เวลาเจอตำรวจให้ทำเฉย ๆ ทำท่าวิ่งเหมือนคนมาออกกำลังกายอย่าทำตัวมีพิรุธ
"ว๊ายมีตำรวจด้วยหรอคะเจ๊?" คิตตี้โวยวาย
"อีดอก มีตำรวจแหละดี หรือมึงอยากจะเจอโจรล่ะอีหอยหลอด" เจ๊เดี่ยวถามกลับคิตตี้ก็เลยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เอาล่ะไปวันแรก ก็คิดซะว่าไปทัศนศึกษาได้ไม่ได้ช่างแม่มัน กูจะเกาะอีเจ๊เดี่ยวเป็นปลิงเลยเชียว
สวนสาธารณะแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องที่เก้งกวางมาเอ๊าท์ดอ คิตตี้เห็นบ่อย ๆ ในแอพ คนใจกล้าหน่อยก็แก้ผ้าแก้ผ่อน คนใจไม่กล้าพอก็ถ่ายรูปแบบงัดอาวุธออกมาพอแว๊บ ๆ ให้ใจสั่น หรือถ้าคนเยอะจริง ๆ อาจเกิดมหกรรมหมู่ นัวเนียจนไม่รู้ว่าอันไหนมืออันไหนตีนอันไหนหำ
นั่งรถจนถึงสวนสาธารณะที่ว่า อีเจ๊เดี่ยวก็เป็นไกด์ที่ดี พาคิตตี้เดินวนรอบ ๆ ชี้ให้ดูตรงนั้นตรงนี้ และจะด้วยการทักถามก่อนที่จะมา คิตตี้เห็นตำรวจแต่ไกล ๆ
"อีเจ๊ หมาต๋าคร่า" คิตตี้หน้าซีดทำท่าจะวิ่งหนี แต่อีเจ๊เดี่ยวมือไวคว้ามือคิตตี้ไว้ทัน
"อีคิดอีดอก หยุด สต๊อป ทำเนียน ๆ ทำเป็นวิ่งเหยาะ ๆ แล้ววิ่งตามเจ๊มาค่ะมึงวิ่งหนีเดี๋ยวพ่อมึงก็คิดว่ามีพิรุธอีห่า" เจ๊เดี่ยวกระซิบกระซาบและทำท่าวิ่งเหยาะ คิตตี้ก็วิ่งตาม คุณตำหนวดยืนเท้ากะเอว เก้งสาวที่เบื้องหน้า คุยกับคุณพ่อซะเสียงดังเถียงกันไม่ยอมแพ้เลยทีเดียว และมีการค้นเนื้อค้นตัวซะด้วยอีเจ๊เดี่ยวอมยิ้มแบบหยาม ๆ จนผ่านอีตำรวจแสนขยัน ตรงพุ่มไม้มืด ๆ เราก็แอบมองตำรวจจับผู้ร้ายอยู่ไกล ๆ
"กูว่าอีเห็ดสดนั่นโดนไถเงินแน่ ๆ" อีเจ๊เดี่ยวว่า ยกหัวไปมาเพื่อปรับองศาการมองเห็นให้ชัดเจน
"ว้ายโดนเรื่องอะไรล่ะคะ?" คิตตี้ถามอย่างเก้งอ่อนต่อโลก
"กูว่ามันต้องเอาสิ่งผิดกฎหมายมา อาจจะเป็นป๊อปเปอร์" เจ๊เดี่ยวคาดเดา และเราก็เห็นอีเก้งนั้นควักเงินให้อีจ่าแก่ ๆ นั่นตั้งหลายใบ
"ทำไมเจ้เดี่ยวรู้?" คิตตี้ถามซึ่งไม่น่าถามเล๊ย
"อีสัสก็กูเคยอ่ะดิ แต่ป๊อปเปอร์ไม่ใช่ของกูนะ กูบัวให้ผู้ชายเสร็จแล้วมันทำตกไว้ จะเก็บเอาไปคืนมันแม่งก็ไม่เจอ เสือกเจอพ่อซะก่อนโดนไปเลยค่ะสามพัน เหี้ยจริง ๆ" เจ๊เดี่ยวเล่าวีรกรรม คิตตี้ในตอนนั้นก็ไม่รู้จักไอ้ป๊อปเปอร์อะไรนั่นหรอก จนโตขึ้นถึงค่อยรู้ แต่คิตตี้ก็จะไม่ยุ่งกับพวกคนดมป๊อปพวกนี้เลย ถ้ารู้ว่าใครดมป๊อปคิตตี้ไม่ยุ่งกับแม่งอีกเด็ดขาด
เดินอยู่เป็นหลายรอบ อีสวนห่านี่ก็กว้างซะเหลือเกิน คิตตี้ซึ่งก็ไม่ได้เป็นคนชอบออกกำลังกายจึงเดินซะเมื่อยตีน
"เจ๊เมื่อยหนูตีนขอพักแปป" คิตตี้บ่นและทิ้งตัวนั่งตรงม้านั่งหิน อีเจ๊เดี่ยวชักสีหน้าเล็กน้อย
"เจ๊ไปหากินแถว ๆ นี้ก่อนก็ได้ขอหนูพักแปปอย่าทิ้งหนูไปไกลนา" คิตตี้บอกอีเจ๊เดี่ยวและหล่อนก็ค่อยมีสีหน้าดีหน่อย ขืนให้อยู่ด้วยกันจะเป็นตัวถ่วงเสียเปล่า ๆ อีเจ๊เดี่ยวรีบเดินไปทางเป้าหมายที่เก้านาฬิกา ผู้ชายตัวสูง ๆ ผอม ๆ ยืนดูดบุหรี่อยู่คิตตี้ไม่สนใจแน่ ๆ แต่อีเจ๊เดี่ยวพิจารณาเห็นว่าหมอนั่นน่าจะงูใหญ่ เหม็นเหมินไม่สน เพราะนางมีขวดน้ำเล็ก ๆ ใส่น้ำไว้เพื่อล้างก่อนกิน เตรียมพร้อมกันขนาดนี้เอากับนางสิ
คิตตี้ที่เมื่อยตีนแทบแย่ มีคนเดินผ่านและมองคิตตี้อย่างมีความหมายหลายต่อหลายคน แต่คิตตี้ที่ตอนนั้นยังละอ่อนนัก และอายเกินกว่าจะสานสัมพันธ์กับใคร จริง ๆ คิดว่าแค่มาดูให้รู้เฉย ๆ และมีบางคนที่ถึงกับใจกล้าเดินมาหาคิตตี้มาชวนคุยเลยทีเดียว แต่คิตตี้คิดว่าอีตานี่ไม่ตรงสเปก จึงตอบเขาไปแบบส่ง ๆ ไม่ได้มีทีท่าสนองไมตรี เขาก็เลยเดินจากไป
"อีผีนั่นไปไหนวะ ได้ผู้ชายแล้วทิ้งน้องทิ้งนุ่งเลยอีห่าราก" คิตตี้บ่นและโชคดีที่ฉีดยากันยุงมาแล้วนะ แต่ถึงอย่างนั้น ยุงก็บินหึ่ง ๆ ข้าง ๆ หัวข้าง ๆ หูจนคิตตี้รำคาญ หันมองซ้ายมองขวาไม่มีใคร มีแต่คนเดินอยู่ไกล ๆ อีทีนี้ชักจะกลัวขึ้นมาเสียแล้ว แต่เป็นการกลัวผีนะ คิตตี้ก็เลยคิดว่าจะทำยังไงให้มันหายกลัวดีหนอ
"ชอบมะ ชอบม๊า รูปร่างหน้าตาอย่างเนี้ยะ ถามหน่อยเถอะพี่ ชอบมะ ชอบม๊า ส่วนสัดอวบอัดอย่างเงี้ยะ ถามหน่อยเถอะ พี่ชอบมะ ชอบม๊า ชอบม๊า
ถ้าชอบก็บ๊อก ไม่ชอบก็บ๊อก ไม่ต้องกลัวร๊อก เรื่องราคงราคา รักกันชอบกัน ไม่ต้องหวั่นเงินตรา ให้รักจริงเถิดจ๊ะ กลัวจะไม่จริง" คิตตี้ร้องเพลงปลุกใจแต่เบา ๆ อย่างน้อยมีเสียงตัวเองเป็นเพื่อนแก้เหงา
"ชอบ"
"อี๋แม่แหกตกหล่น" คิตตี้อุทานเมื่อได้ยินเสียงไอ้บ้าที่ไหนมาตอบที่ข้างหู ตกใจจนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มพอหันหน้าไปมองเจ้าของเสียง ไอ้เปรตนี่ก็เสือกหัวเราะขำคิตตี้เสียอีก
"มาอะไรเงียบ ๆ ตกใจหมด" คิตตี้บ่นและทำท่าจะเดินหนี มะกี้ตกใจจนอุทานเสียงดังเหมือนตะโกน อายเขาจะแย่
"เอ๊าไปไหนล่ะ?" เขาถามและเสือกเดินตามคิตตี้
"ไปหาพี่ พี่พามาแล้วก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว" คิตตี้บ่นและหันซ้ายหันขวายืนเท้าเอว อีห่าเจ๊เดี่ยวแม่งโดนผู้ชายลากไปโทรมถึงไหนแล้วเนี่ยอีเปรต
"เพิ่งเคยมาหรอ?" เขาถามเสียงทุ้ม ๆ และเหน่อนิด ๆ คิตตี้ฟังแล้วเอะใจนี่มันสำเนียงเหน่อแบบคนจันท์หรือคนระยองนี่นา
"ใช่ เฮียล่ะมาบ่อยล่ะสิ" คิตตี้ตอบ หันไปมองเขาอย่างชั่งใจ มองหัวจรดตีน อีตาลุงนี่ก็ท่าทางไม่เลว แม้จะไม่ตรงสเปคคิตตี้นักแต่ก็ต้องถือว่าเป็นคนที่ดูดีคนนึงเลยล่ะ
"เคยมาหนนึง เพื่อนพามา พอดีมาธุระแถวนี้เลยลอง ๆ มาเดินดู" เขาตอบ
คุยกันไปคุยกันมา เสือกกลายเป็นว่าคุยกันถูกคอ คิตตี้ไม่ได้หวังจะมาได้ผัวงานนี้หรอก มันกล้า ๆ กลัว ๆ แต่รู้สึกว่าได้เพื่อนคุยมาหนึ่งคนก็เข้าทีเหมือนกัน ตาลุงนี่คุยเก่ง มีลูกล่อลูกชน ขี้โม้หน่อย ๆ แต่ฟังแล้วได้ขำ ไม่ได้น่าหมั่นไส้ ที่สำคัญบรรยากาศมันเงียบ ๆ มีคนอยู่เป็นเพื่อนอย่างน้อยจะได้ไม่กลัวผี
เดินคุยกับลุงคนนี้จนดึกและคิตตี้ก็คิดว่าอีเจ๊เดี่ยวคงทิ้งคิตตี้ไปกับผู้ชายแล้วแน่ ๆ
"กลับบ้านดีกว่า" คิตตี้บอกเพราะถอดใจเสียแล้ว
"เดี๋ยวเฮียะไปส่ง บ้านไกลไหมล่ะ?"
"คนจันท์หรอ?" คิตตี้ถามเขาและเขาก็ทำหน้าแปลกใจระคนตื่นเต้น
"รู้ได้ไง?"
"ก็นี่ก็คนจันท์เหมือนกัน ป้าเวลาเขาเรียกลุงเขาเรียกเฮียะน่ะ" คิตตี้ตอบ และรู้สึกวางใจอีลุงขึ้นมาอีกโขเลย
"เดี๋ยวเฮียะไปส่ง" เขายังคงยืนยันแม้ว่าคิตตี้จะไม่อยากให้ใครรู้ถึงบ้านช่องห้องหอ แต่เขาก็ยังยืนยันและนี่มันก็ดึกมากแล้ว ถ้าจะกลับก็ต้องแท็กซี่เท่านั้นเอาวะไปก็ไป
"รถเฮียะจอดตรงโน้นแน่ะ" เขาบอกและทำท่าจะเดินนำ แต่พอถึงพุ่มไม้ใบบังเขาก็ดึงมือของคิตตี้มาและกอดคิตตี้เสียแน่น เอาล่ะสิ ท่าทางคืนนี้อีคิดไม่นกแล้วเว้ย
อีตาลุงนี่เตรียมตัวมาอย่างดี เมื่อเขากอดก็รีบจูบ กลิ่นปากเขาหอมเย็นจนคิตตี้รู้สึกประทับใจ มือของคิตตี้ต้องสำรวจสิ่งที่สำคัญที่สุด แม่เจ้า เต็มไม้เต็มมือดีแท้ ๆ เอาล่ะเป็นอันว่าถึงหน้าจะไม่ไทยตามไทป์ที่ชอบ แต่งูดี จนสามารถทดแทนคะแนนทางด้านหน้าตาได้ค่ะ
ตาลุงนั่นปลดซิปกางเกงลง และงูใหญ่ก็ดีดผางลงมาต่อหน้า นี่ขนาดไฟไม่สว่าง คิตตี้เห็นแล้วก็ยังใจสั่น ไม่ใช่แค่ใจสั่น มือตีนก็สั่น ถึงกับขาอ่อนแรง คิตตี้ทิ้งตัวลงคุกเข่าและงูใหญ่ก็ถูกดูดกินโดยฉับพลัน เพราะมันมาอยู่ตรงเบื้องหน้าอย่างเหมาะเหม็ง แม่เจ้าโว้ย คิตตี้อ้าปากจนกว้างที่สุด แต่มันก็เข้ามาได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น แต่คิตตี้จะทำให้ดีที่สุดค่ะ ถึงจะมีสำลักจนน้ำตาไหลในบางครั้ง แต่เหมือนเขาใกล้จะเสร็จ และตาลุงคงไม่อยากเสร็จตอนนี้ก็เลยดึงตัวของคิตตี้มากอดและจูบอีกที จูบแบบแสนหวาน แต่เอ๊ะ...
คิตตี้ตาไว และรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง ตาที่หลับพริ้มเพราะรสจูบลืมขึ้นและพยายามเพ่งมองไปที่ไกล ๆ มีคนวิ่งและเสียงหวีดร้องกรี๊ด ๆ
"เดี๋ยวๆๆๆ" คิตตี้บอกและผละจากการจูบ เขม้นตามองให้ชัดนั่นที่วิ่งมีด้วยกันสามคน อีคนนำหน้าสุด หุ่นอย่างนั้นตัวผอมอย่างนั้น ผมอย่างนั้นมันอีเจ๊เดี่ยวแน่ ๆ ไม่มีผิด แต่ไอ้เวรที่วิ่งตามมานั่นมันใครกันหนอ และอีเจ๊เดี่ยวก็วิ่งมาตรงมาทางคิตตี้ซะด้วย
"ชิบหายละ" ตาลุงอุทานและคิตตี้ก็เกือบจะอุทานออกมาเหมือนกันเพราะไอ้เหี้ยสองตัวที่วิ่งไล่กวดอีเจ๊เดี่ยวมาแม่งถืออีดาบมาด้วย ยาวเฟื้อยเชียวล่ะ
ไม่ต้องบอกอะไรกันให้ยุ่งยาก ทั้งคิตตี้และตาลุงนั่นวิ่งอ้าวใส่เกียร์หมา เสียงอีเจ๊เดี่ยวร้องกรี๊ด ๆ ดังลั่น อีตาลุงยังมีแก่ใจ ตัวของมันใหญ่กว่า กลัวคิตตี้วิ่งตามไม่ทันก็เลยฉุดมือคิตตี้วิ่งมาด้วย
ไม่รู้ว่าฝ่าต้นไม้หรือดงหนามอะไรล่ะ แต่เมื่อมาหยุดที่ข้างรถ เนื้อตัวของคิตตี้เป็นรอยถลอกและเปื้อนเปรอะไปหมด อีตาลุงก็สภาพไม่ต่างกันนัก
"เชี่ยเอ๊ยเหนื่อยชิบหาย" คิตตี้บ่นและทิ้งตัวนั่งยอง ๆ หอบหายใจ แต่เมื่อเงยหน้าไปมองอีตาลุง อุบาทว์ที่สุด งูของอีลุงยังไม่เก็บเข้าไปในกางเกงเลย มันอ่อนยวบแต่ก็ยังใหญ่โตน่าเกรงขาม พอรู้ว่าคิตตี้มองอะไร อีลุงก็รีบเก็บงูเข้ากางเกงอย่างว่องไว
"ไปเถอะกลับบ้านเดี๋ยวเฮียะไปส่ง" เขาบอกและละล่ำละลักรีบเปิดประตู คิตตี้ก็รีบขึ้นรถไปด้วยเหมือนกัน ส่วนอีเจ๊เดี่ยวจะเป็นยังไงก็ไม่รู้แหละ คิตตี้เห็นหลังไว ๆ ว่าตำรวจวิ่งไปทางต้นเสียง นี่แหละ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์โดยแท้
จนรถจอดที่ปากซอยตลาดอ่อนนุช คิตตี้ให้เขารู้ได้แค่นี้แหละ ไม่ขอเบอร์โทร ไม่ขอช่องทางการติดต่ออะไรทั้งนั้น คิตตี้คิดว่าคงจะอีลุงนี่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย อย่าเจอกันอีกเลย ซวยชิบหาย
"ขอบคุณนะคะ" คิตตี้บอกก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถ
"เดี๋ยวก่อนสิ หนูน่ะชื่ออะไร?" ตาลุงนั่นถามคิตตี้คิดว่าไหน ๆ เขาก็มาส่งถึงหน้าบ้าน ตกระกำลำบากมาด้วยกันแค่ชื่อก็ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอก
"ชื่อคิด เรียกคิตตี้ก็ได้"
"ส่วนเฮียะชื่อเต๋อนะ เรียกเฮียะเต๋อก็ได้เหมือนกัน" ตาลุงนั่นตอบและยิ้มพราว
"ขับรถกลับดี ๆ นะคะ" คิตตี้บอกและยืนกดดันให้อีลุงเต๋อขับรถจากไปไว ๆ ไม่มีการสานต่อ ไม่มีการคิดถึงแต่คนเราถ้าจะเจอ แม่งก็ได้เจอกันอีกจนได้ เวรกรรมแท้ ๆ