มีอันเป็นไป มันแซ่บ มันเป็ มันตัวโฮ่ง ที่เขาว่ามีลูกมันกวนตัวมีผัวมันกวนใจ แต่ความสวยมันเป็นอุปสรรคน่ะคุณน้า แต่บางคนก็ชอบ Sugar Daddy อันนี้มันก็เป็นไปได้ แบบบูรณาการ เราก็ไม่ว่ากัน
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,รัก,ตลก,ไทย,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โดย Chavaroj
ตลอดอาทิตย์นี้คิตตี้วุ่นวายยิ่งกว่าขายหมี่ เพราะไหนจะงานในสวน เพราะเข้าหน้าร้อน เริ่มเข้าสู่ฤดูผลไม้อีกแล้ว ทั้งทุเรียน ทั้งมังคุด ระดมคนงานทั้งจากสวนของเราและรับคนทำงานรายวันอีกตั้งสิบกว่าชีวิต เพราะมังคุดมันมากมายเหลือเกิน ทุเรียนนั้นไม่ต้องพูดถึง เก็บเป็นกองสูงเท่าภูเขา ปีนี้เห็นทีจะได้ค่าทุเรียนเป็นล้านกันล่ะ
นั่นคืองานหลัก แต่งานรองลงมาก็คือ งานบุญประจำปีซึ่งบ้านเราจะทำกันในช่วงต้น ๆ เมษายน เนื่องจากเป็นการผนวกเทศกาลเช็งเม้งของพ่อที่มีเชื้อจีน แล้วก็ทำบุญให้กับตาแล้วก็ยายซึ่งเสียในช่วงหน้าร้อนนี้เหมือนกัน ก็เลยเป็นประเพณีของบ้านเราว่าจะทำบุญกันต้นเดือนนี่แหละ อยากจะทำในช่วงสงกรานต์เหมือนชาวบ้านเขาก็กลัวพระติดงาน
จริง ๆ สมัยก่อน ๆ ก็ทำกันมาตั้งแต่เด็ก สาเหตุก็เพราะหวังและคิตตี้ยังเด็ก ว่างก็คือช่วงปิดเทอม ทำไปทำมาก็เลยต้องทำบุญกันทุกปีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
"ปีนี้จัดเล็ก ๆ ก็แล้วกันเนอะ" หวังออกความเห็นซึ่งแน่ล่ะ ระดับป้าปูไอ้เรื่องงานเล็กนี่เห็นจะไม่มีจริง เพราะคนรู้จักของป้าปูและลุงกุ้งน่ะเยอะเหลือเกิน แล้วยังพวกคนงานอีกเล่า ซึ่งคิตตี้ก็ค้านว่าคนงานก็ให้เขามากินอาหารด้วยตอนเที่ยงก็พอทำเลี้ยงเขา แต่ไอ้กินกันจนเมาปลิ้นแบบปีก่อน ๆ เห็นทีจะไม่ยอมกันละงานนี้
"คิด เอิ่มมมมม เปามันจะมาด้วย" หวังซึ่งนั่งมองคิตตี้ปอกทุเรียนนกกระจิบ ลูกเล็ก ๆ สู่กันกินสองคนพี่น้องพูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ
"ก็มาสิ" คิตตี้ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง
"เอ่อไม่ใช่แค่เปาน่ะสิ ครอบครัวเปามันจะมาด้วย" หวังตอบคิตตี้ถึงกับวางมีด
"จะมาก็มาสิ ว่าแต่เขามากันกี่คนล่ะ?" คิตตี้ถามจบก็หันไปปอกทุเรียนต่อ
"ก็มีป๊ากับแม่ของเปามัน อาม่าอีกคน พี่เลี้ยงดูแลอาม่า แล้วก็อาเฮียกับอาเจ๊ของมัน รวมแล้วก็น่าจะ หกคน" หวังมันตอบอย่างเกรงใจเต็มที
"แค่หกคนเอง มาเยอะ ๆ ก็ดี ให้เขามาเที่ยวบ้างอยู่แต่กรุงเทพฯ อุดอู้ตาย จะได้เพิ่มอาหารกลัวแต่กับข้าวจะไม่พอเลี้ยงคนเท่านั้นแหละ" คิตตี้ตอบ และคราวนี้สองพี่น้องก็โจ้ทุเรียนเมล็ดน้อย ๆ กินกันอย่างเอร็ดอร่อย หวังมันโอนเงินค่าช่วยงานมาให้คิตตี้ด้วย ซึ่งมันก็เป็นเงินหลายหมื่นบาท
"โอนมาทำหอกอะไรตั้งเยอะแยะ?" คิตตี้ถาม
"เออน่าเหลือดีกว่าขาด กูว่าเช่าเต็นท์ไปเลย เพื่อนป้าปูน่าจะเยอะ ขืนนั่งกินในบ้านแบบปีกลาย บ้านเละแน่" หวังพูดและคิตตี้ก็คิดไว้แล้ว สองพี่น้องคุยโน่นคุยนี่ นาน ๆ หวังมันจะปลีกตัวมาเที่ยวบ้านสวนได้สักที คืนนี้สองพี่น้องนัดแนะกับน้าเที่ยงและป้าปูจะออกไปจับปลากันในทะเลสักหน่อย ซึ่งป้าปูกับน้าเที่ยงก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดี เพราะนาน ๆ หวังมันจะว่างมา
เมื่อถึงกำหนดงานบุญ คิตตี้แอบดีใจว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้เตรียมสถานที่อะไรไว้พร้อมกว่าปีกลายจึงไม่มีอะไรให้ติดขัด ครอบครัวของไอ้เปาเทรนเนอร์หุ่นหมี ไอ้ต้าวตาขีดของอีหวัง กรี๊ดกร๊าดตื่นเต้นกับบรรยากาศบ้านสวนนักหนา หวังมันดูตื่นแปลก ๆ ไหนว่าสนิทกับครอบครัวของบ้านเปามันไง แต่หวังมันก็เทคแคร์อาม่าของเปาอย่างดี ท่าทางอีเปรตนี่จะวางแผน ตีสนิทเพื่อขอมีส่วนในมรดกเป็นแน่แท้
"บ้านร่มรื่นดีนะครับ" พี่ชายของเปาเดินมาคุยกับคิตตี้ ซึ่งแน่ล่ะ ไอ้เปามันหล่ออย่างกะไอดอลเกาหลี พี่ชายของไอ้เปามันก็ถือว่าหน้าตาดีจัด และคิตตี้ก็ออกจะเขินหน่อย ๆ บาปบุญ คิตตี้ไม่ได้ออกไปแรด ๆ ที่ไหน ไม่ได้กินผู้ชายเลยนับนิ้วแล้วก็สองเดือนทีเดียวนะ
รถที่รับพระสงฆ์จากวัดมาถึงแล้วนำขบวนโดยตาชุมซึ่งเป็นมัคนายกของวัด พูดจากทักทายโอภาปราศรัยกันเสียงดัง นิมนต์พระมาทั้งวัดกันเชียวละ
"เอ๊าเฮียะเต๋อยังไม่ถึงเหรอ?" ตาชุมถามป้าปูซึ่งป้าปูก็หันมามองคิตตี้อีกที
"เฮียะเต๋อคงกำลังมาล่ะมัง" คิตตี้ตอบ ซึ่งมันก็หมายถึงการคาดเดา คิตตี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเฮียะเต๋อจะมางานนี้กับเขาด้วย จำได้เลา ๆ ว่าป้าปูเคยพูดให้เฮียะเต๋อฟังว่าจะจัดงาน แต่คิตตี้ก็ไม่ได้ชวนเฮียะเต๋ออย่างเป็นทางการอะไร ด้วยว่ารู้ว่าเฮียะเต๋องานยุ่งจนแทบกระดิกตัวไม่ได้ ก็สองเดือนที่ผ่านมา ไม่โผล่หน้ามาให้คิตตี้เห็นเลยสักทีนี่นะ
ใกล้เพลเต็มที พระสงฆ์ถูกเชิญให้นั่งประจำที่ พวกผู้ใหญ่ ๆ หน่อยก็ถูกไล่ให้ไปอยู่แถวหน้า ๆ แต่ทุกคนก็หันไปมองด้านนอก ด้วยว่ารถมินิสีแดงแปร๊ดขับมาจอดอย่างเอาแต่ใจจอดเสียเกือบจะทิ่มหัวเข้ามาในบ้าน
"รอด้วย ๆ" เสียงชายวัยเกือบจะกลางคนร้องตะโกน พร้อมกับพาร่างอวบนิด ๆ แบบผู้มีอันจะกิน เสื้อผ้าจัดเต็มคิตตี้เดาว่าคงเป็นเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์ชื่อดังเป็นแน่ คิตตี้ไม่รู้จักหรอก คงต้องถามอีหวังล่ะ เพราะคิตตี้สนแต่เรื่องต้นไม้และผลไม้ คนยกมือไหว้เฮียะเต๋อเป็นฝักถั่ว เฮียะเต๋อผู้มีอิทธิพลก็ยิ้มรับยกมือรับไหว้ แม่เจ้าโว้ย ที่นิ้วแปดนิ้วมีแหวนทองวงโต ๆ ซึ่งประดับด้วยรัตนชาติโต ๆ เหมือนกัน ใครคงอยากจะลากเฮียะเต๋อไปปล้นเอาแหวนจากนิ้วสักวงสองวง
ผู้คนพากันแหวะทางให้เฮียะเต๋อเหมือน โมเสสแหวกทะเลแดง ให้ชาวยิวได้ข้ามผ่านไปพบดินแดนแห่งพันธสัญญา แต่นี่ไม่ใช่ แขกเหรื่อทั้งนั้นแหวกทางให้เฮียะเต๋อเดินเข้าไปทักทายเจ้าภาพ แล้วก็ไหว้พระซึ่งพูดคุยสนิทสนมกันดี แน่ล่ะสิ ก็วัดนี้ต้นตระกูลครอบครัวเฮียะเต๋อเป็นคนสร้างทีเดียว
"นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้วฮิ" เฮียะเต๋อพูดเบา ๆ เมื่อขยับมานั่งทิ้งตัวใกล้ ๆ กับคิตตี้ ซึ่งนั่งเอนตัวพิงกำแพงอยู่
"เฮียะไม่ไปนั่งที่เก้าอี้ดี ๆ" คิตตี้พูดทำหน้าตาเฉย ปรายตาไปที่โซฟาซึ่งจัดไว้ให้พวกแขกผู้ใหญ่หลายตัว
"ไม่เอาจะนั่งกับหนูตรงนี้" เฮียะเต๋อผู้แสนเอาแต่ใจทิ้งตัวนั่งเบียดจนคิตตี้ขมวดคิ้ว
ในเมื่อแขกคนสำคัญก็มาแล้ว พระก็เริ่มทำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ คิตตี้อดจะรำคาญเฮียะเต๋อนิดหน่อยไม่ได้ เพราะยุกยิก ๆ เต็มที ก็ถึงบ้านสวนมันจะเย็นสบาย แต่พ่อเศรษฐีดันล่อเสื้อแบรนด์เนมตัวเก่ง แล้วมันก็เป็นผ้าวูลเนื้อหนา เฮียะเต๋อคงร้อนด้วยคันด้วย เพราะเหงื่อแตกซ่ก นี่ขนาดคิตตี้หาพัดลมตัวน้อย ๆ มาพัดตรง ๆ ให้แล้ว ก็ดูจะไม่ดีกว่าเดิมสักเท่าไร คิตตี้ล่ะขำ
จนพระฉันเพลเสร็จ ยถาสัพพีเป็นที่เรียบร้อย ตาชุมนำคณะพระสงฆ์กลับวัด ถึงคราวของพวกเราจะได้กินเลี้ยงกันต่อ ซึ่งมันวุ่นวายดีจริง ๆ
"อะแฮ่ม ๆ พ่อครับแม่ครับ คือป๊ากับอาม่าของผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา" เปาเดินมานั่งคุกเข่าข้างหน้าพ่อกับแม่ อีซีนนี้มันแสนน่าประทับใจ ตกลงที่ขนกันมาหมดบ้านนี้ก็คือจะมาสู่ขออีหวังให้กับอีเปาอย่างเป็นทางการสินะ หวังมันเอาแต่อมยิ้มหน้าแดงแจ๊ด ส่วนคิตตี้ก็เอาแต่ยิ้มเขินไปกับมัน
อาม่าของเปาพูดคุยสู่ขอกันแบบง่าย ๆ นี่แสดงว่าเตรียมตัวกันมาแล้ว พ่อแม่ก็ตกลงง่ายไปเสียยิ่งกว่า แสดงว่าคงพอจะรู้กันมาอยู่แล้ว แต่ทำไมอีผีนี่ไม่บอกคิตตี้สักหน่อยนะ แต่ก็ช่างเถอะ นี่มันเป็นมงคลนัก และเฮียะเต๋อก็ขมวดคิ้ว ขยับตัวเข้าไปร่วมคุยกับเขาด้วยทันที
"เฮียะจะไปไหน?" คิตตี้ถามแต่เฮียะเต๋อก็ไม่ได้ตอบ จะห้ามก็ไม่ทันเพราะเฮียะเต๋อเดินงุด ๆ ไปนั่งข้าง ๆ ป้าปูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คิตตี้ตกใจแทบแย่นึกว่าเฮียะเต๋อจะทะลึ่งขอคิตตี้แต่งงานอีกคนหนึ่ง
การกลายเป็นว่าเฮียะเต๋อผู้กว้างขวางและร่ำรวย ได้เสนอหน้าจัดงานแต่งงานให้ที่โรงแรมของแก จะเลือกเอาที่เมืองจันท์ก็ได้ ที่กรุงเทพฯ ก็มี แต่คุยกันไปคุยกันมา ก็ขอเลือกจัดงานที่พัทยาเห็นจะเข้าทีกว่า เพราะแขกในงานน่าจะเยอะ ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ก็น่าจะวุ่นวายเกินไป
คิตตี้หนีออกมานั่งกินอาหารนอกบ้านเรื่องพวกนี้คิตตี้คงไปยุ่งไม่ได้ปล่อยให้เขาคุยกันไป คิตตี้นั่งกินข้าวกับพวกคนงาน ผ่านไปครู่ใหญ่ ๆ เฮียะเต๋อก็เดินยิ้มกริ่มออกมา พวกคนงานเห็นเฮียะเต๋อ ซึ่งเดินตรงมาและทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ คิตตี้ ต่างก็พากันขยับตัวหนีกลับไปทำงานต่อกันเป็นโกลาหล
"เฮียะกินขนมจีนไหมเดี๋ยวคิดไปตักให้" คิตตี้ถามแล้วก็เดินไปตักให้คุณชาย เฮียะเต๋อ กินขนมจีนไปก็สูดปากไปด้วยความเผ็ดแต่ก็เอร็ดอร่อย คิตตี้อดสงสารอีเสื้อตัวนี้เสียไม่ได้ท่าทางคงได้รับใช้เฮียะเต๋อแค่หนเดียวเพราะตอนนี้เฮียะเต๋อหน้าแดงแจ๋เหงื่อแตกเต็มหัวจนหัวเปียก ออกไปนี่พ่อคงรีบไปอาบน้ำแล้วกำจัดอีเสื้อตัวนี้เป็นแน่
"เฮียะงานยุ่งมากเลย" เฮียะเต๋อตอบเหมือนรู้ว่าที่คิตตี้ตึง ๆ ด้วยเพราะไม่เจอกันกว่าสองเดือน ข้อความหรือโทรศัพท์อะไรเฮียะจากเฮียะเต๋อนั้นอย่าหวัง เขายุ่งเกินกว่าจะมาใส่ใจเรื่องอะไรพวกนี้
"ก็เห็นเฮียะงานยุ่งตลอดนั่นแหละ" คิตตี้ประชดซะเลย
"ก็มันยุ่งจริง ๆ ถ้ามีหนูมาช่วยงานเฮียะคงจะได้ เผื่อเฮียะจะได้มีเวลาว่างบ้าง" เฮียะเต๋อพูดแล้วก็ทำหน้าเจ้าชู้
"เด็ก ๆ เฮียะเยอะแยะ เลือกเอาสักสามสี่คนก็ได้" คิตตี้ประชดเข้าให้อีก
"บ้าไม่มีแล้วสาบานให้.." เฮียะเต๋อทำท่าจะพูดต่อแต่คิตตี้ก็รีบเอามือปิดปากคนตรงหน้า ขืนให้สาบานไปก็ตายเปล่า
"หนูงอนเหรอ เฮียะงานยุ่งจริง ๆ คิดถึงหนูทุกวัน นี่เสร็จงานแล้วก็ต้องตีรถไปพัทยาต่อเลยนะ" เฮียะเต๋อพูดพร้อมกับยื่นมือมาจับมือของคิตตี้
"เอ๊า แล้วเฮียะจะมาทำไม แค่งานทำบุญเล็ก ๆ เอง" คิตตี้ตัดพ้อ
"ก็เฮียะสัญญาไว้แล้วว่าจะมาเฮียะก็ต้องมาสิ เฮียะเป็นคนรักษาสัญญานะ" เฮียะเต๋อพูดพร้อมกับสูดปากด้วยความเผ็ดไปด้วย ความโรแมนติกเลยลดลงนิดหน่อย
กินอาหารเที่ยงจนเสร็จ คนขับรถของเฮียะเต๋อก็เดินมากดดัน เพราะต้องไปที่อื่นอีกจริง ๆ แต่เฮียะเต๋อก็ไม่ได้ใส่ใจอยากอยู่กับคิตตี้นาน ๆ
"เถ้าแก่ขรับ ได้เวลาแล้วขรับ" คนขับรถของเฮียะเต๋อพูดอย่างเกรงใจ หน้าเหลือสองนิ้ว เฮียะเต๋อหน้ายู่คิ้วขมวดเป็นปมอย่างไม่สบอารมณ์
"เฮียะไปเถอะ มีงานรออยู่" คิตตี้แก้ไขสถานการณ์และเดินนำเฮียะเต๋อไปถึงรถของแกที่ถูกจอดไว้ไม่ไกลมาก ถ้าคิตตี้ไม่พามาก็อย่าหวังว่าอีตานี่จะยอมลุกเลยเชียว
"เฮียะไปทำงานก่อนนะ คิดถึงหนูนะ" เฮียะเต๋อพูดพร้อมกับรูดแหวนออกมาจากนิ้วก้อย สวมเข้าไปที่นิ้วกลางของคิตตี้
"เอาไว้ดูต่างหน้า เวลาเห็นจะได้รู้ว่าเฮียะคิดถึง" เฮียะเต๋อว่าและคิตตี้ก็ผลักตัวของเฮียะเต๋อให้เข้าไปนั่งในรถซึ่งสตาร์ทเครื่องรออยู่แล้ว แอร์เปิดเย็นฉ่ำ ไม่อย่างนั้นเฮียะเต๋อได้มีโมโหอีก จนรถขับลับตาไป คิตตี้ยืนโบกมือส่ง และเมื่อจะเดินกลับอีหวังก็เดินมาเอาแขนคล้องคอ
"แหมได้ของต่างหน้าด้วยวุ๊ย" หวังพูดพร้อมกับยกมือของคิตตี้มาดู ที่นิ้วกลางมีแหวนทองคำประดับด้วยบุษราคัมเม็ดโตเท่าเมล็ดลำไย
"ไม่ได้อยากได้เล๊ย" คิตตี้ตอบสะบัด ๆ และดึงมือของตัวเองออกมาจากมือของอีหวัง ไม่อยากจะบอกว่านี่ไม่ใช่วงแรกและวงสุดท้าย ถ้าคิตตี้มันเห็นกล่องเก็บแหวนซึ่งอีเฮียะเต๋อมันให้ คงตาเหลือกเพราะมีแหวนอยู่ในนั้นยี่สิบกว่าวงเห็นจะได้ แต่คิตตี้ไม่เคยจะใส่เลยขืนใส่ทำงานแล้วเสียหายไปหรือทำหาย คิตตี้จะรู้สึกผิดไม่ใช่น้อย
และแล้วก็ถึงวันแต่งงานของหวัง โรงแรมหรูหราของเฮียเต๋อที่พัทยาถูกจัดอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่ แขกเหรื่อนั้นมากมายเหลือเกิน ใครจะไปคิดว่าอีหวัง เด็กในตลาดอ่อนนุชในวันนั้น ซึ่งเคยวิ่งเล่นแล้วก็หลับใต้แผงผัก จะมีวันนี้กับเขาได้
แขกผู้ใหญ่ซึ่งถูกเชิญมาจากทางญาติของเปา มาทั้งนายทหารและพวกข้าราชการ แต่ไอ้ที่ทำให้งานนี้มีนักข่าวมากับเขาด้วยก็เพราะความเป็นอินฟลูคนดัง เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ และเจ้าของเครื่องสำอางที่ขายดิบขายดี แล้วก็ผู้มีพระคุณที่สุดของหวังคือเจ๊วิเวียนกับสามี ก็มาเป็นเกียรติกับเขาด้วย
มีดาราสาวเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งมาพร้อมกับลูกชายฝาแฝด และในท้องของดาราสาวก็มีอีกลูกอีกหนึ่ง เฮียตี๋กับเฮียโจ พันธมิตรผู้เป็นเบื้องหลังการผลิตเครื่องสำอางก็มา มอบเงินใส่ซองให้อีหวังก้อนโต แต่ที่ทำเอาฮือฮาที่สุดก็คือบรรดาเพื่อน ๆ พี่ ๆ สมัยเรียน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเก้งกวาง แต่งตัวกันสุดชีวิตเหมือนมางานไพรด์มันท์
ตามประสาอินฟลู ทุก ๆ ที่มีคนถ่ายคลิปถ่ายรูปไปด้วย คิตตี้นึกสนุกไปกับงานของอีหวัง แต่เลือกที่จะนั่งกินอาหารอยู่กับครอบครัวคือพ่อแม่ ลุงกุ้งป้าปูและน้าเที่ยงมากกว่า โซนนี้เป็นโซนของพวกผู้ใหญ่ถูกจัดอยู่ในห้องแอร์แยกไว้ต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นป้าปูก็นึกสนุกชวนคิตตี้ไปดูเพื่อน ๆ ของอีหวังซึ่งแต่งตัวกันอย่างกับนางโชว์ มีขนนกมีชุดหางปลามากับเขาด้วย
แต่ตัวอีหวังเองกลับใส่สูทสีขาวทั้งตัว เรียบแต่โก้ เปาเองมันก็สวมสูทสีดำหุ่นนักกีฬาทำให้มันใส่อะไรก็หล่อ ทั้งสองคนยิ้มมากกว่าทุกวัน แน่ล่ะ ก็มันเป็นวันแห่งความสุขนี่นะ คิตตี้มองแล้วก็ได้แต่อมยิ้มดีใจไปกับหวังมันด้วย มองไปทางไหนก็เจอแต่รอยยิ้ม
แต่รอยยิ้มพิเศษที่กำลังตรงมาหาคิตตี้ทำให้คิตตี้ยิ้มมากขึ้นไปอีก เฮียะเต๋อที่ปกติแต่งตัวโอเว่อร์ตลอดเวลา วันนี้กลับมาในชุดสูทสีเทาเข้ม ไม่ใช่เฮียะเต๋อที่คิตตี้รู้จักสักนิด ผมเผ้าก็ทำมาอย่างดีใส่ครีมแต่งผมหวีเสียเรียบกริ๊บ บังเอิญเกินไปแล้ว เพราะคิตตี้ก็ใส่สูทสีเทาเข้มเหมือนกัน ฝีมืออีหวังแน่ ๆ เพราะมันเจ้ากี้เจ้าการให้คิตตี้ไปตัดสูทร้านเดียวกับมัน
"เฮียะหล่อจังวันนี้" คิตตี้เห็นก็ต้องเอ่ยปากชม วันนี้เฮียะเต๋อมันหล่อจริง ๆ อ้อ แหวนที่นิ้วยังอยู่ครบแฮะ ค่อยดูเป็นเฮียะเต๋อหน่อย
งานเลี้ยงเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเย็นย่ำ จากงานที่ค่อนข้างเป็นทางการ ในช่วงของการสวมแหวน ทำเอาคนน้ำตาคลอไปตาม ๆ กัน คิตตี้เห็นพ่อกับแม่ เห็นลุงกุ้งกับป้าหู ที่น้ำตาคลอเบ้า คิตตี้ก็อดจะหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปีติไปกับเขาด้วยไม่ได้เหมือนกัน
จนถึงตอนที่เจ้าบ่าวทั้งสองจูบกัน พวกเราก็เฮกันลั่น คิตตี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้สึกตัวอีกทีคิตตี้ก็โดนเฮียะเต๋อมันกอดจนแน่น แล้วก็หอมแก้มเอาแรง ๆ
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยมาถึง หวังกำลังจะโยนช่อดอกไม้ เก้งกวางกะเทยทั้งนั้นยืนกันให้สลอน ก่อนจะแต่งงานพวกหล่อนต้องมีผัวให้ได้ก่อนค่ะ คิตตี้แอบประชดในใจ และพยายามเดินหนีไปอีกด้านของห้อง แต่เฮียะเต๋อก็ดึงกึ่งลากจนคิตตี้มาอยู่แถวหน้าสุด
"เอาละนะ ใครจะเป็นเจ้าสาวคนต่อไป" หวังพูดออกไมค์ หันหลังเตรียมตัวโยนช่อดอกไม้
"หนึ่ง สอง ส๊าม" ทุกคนนับพร้อมกัน และหวังมันก็ทำท่าจะโยนช่อดอกไม้สุดแรง ท่าทางคงตกถึงกลางห้องโถงเป็นแน่ แต่การก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะหวังมันหันหลังกลับมา เดินถือช่อดอกไม้ แล้วก็เดินตรงมาหาคิตตี้ พร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ช่อโตสีขาว
"รับไว้" หวังพูดพร้อมกับอมยิ้มแต่คิตตี้ก็ไม่ตกใจไม่ทันจะปฏิเสธ ทุกคนร้องกรี๊ดเสียงดังจนคิตตี้แก้วหูแทบแตก
เฮียเต๋อซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง คอยดันคิตตี้ไม่ให้หนี ขยับตัวมายืนอยู่ตรงหน้า คุกเข่าอย่างหล่อลงหนึ่งข้าง ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท หยิบกล่องแหวนออกมา ทันทีที่เปิดกล่องแหวนออก กะเทยก็ร้องกรี๊ดกันเหมือนผีโดนน้ำมนต์ เพราะแหวนเพชรเม็ดโตมาก โตขว้างหัวแตกกันเชียวล่ะ แสงไฟส่องเหมือนซีนในภาพยนตร์ นี่แสดงว่าเตี๊ยมกันมาดีแล้ว
"แต่งงานกับเฮียนะ เฮียะรักหนูคิดนะ" เฮียะเต๋อพูดเสียงสั่น ๆ ท่าทางตื่นเต้นไม่เบา คิตตี้ตกใจช็อกจนอ้าปากค้าง มารู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่อีหวังมากระซิบใกล้ ๆ หู
"ตกลงสิมึง" หวังพูดแล้วก็ดันตัวคิตตี้ให้เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว มือซ้ายของคิตตี้ถูกอีหวังดันจนยกมาอยู่ตรงหน้า เฮียะเต๋อจัดแจงสวมแหวนซึ่งมันเข้ากับนิ้วนางข้างซ้ายของคิตตี้พอดิบพอดีราวกับจับวาง
เสียงกรี๊ดดังอีกรอบ คราวนี้ดังกว่ารอบก่อนอีก คิตตี้ได้แต่อมยิ้มน้ำตาไหลพราก มันทั้งตกใจ ดีใจ ปีติอย่างบอกไม่ถูก เฮียะเต๋อเองก็ยืนน้ำตาคลอเหมือนกัน
"เฮียะรักหนูนะ หนูรักเฮียะมั๊ย?" เฮียะเต๋อกระซิบถามเมื่อกอดกันแนบแน่น
"รัก" คิตตี้ตอบเบาราวกับกระซิบ แต่เสียงเบา ๆ นั้นมันดังในใจของเฮียะเต๋อเหมือนโดนตะโกนใส่หู จริง ๆ คิตตี้อยากจะบอกว่ารักเฮียะเต๋อมาตั้งแต่แรก รักมาตลอด แต่ที่ไม่กล้าสานต่อก็เพราะเฮียะเต๋อ ดูจะยุ่งและให้เวลากับงานมากกว่าจะมาสนใจและใส่ใจกับเรื่องหยุมหยิม คิตตี้คิดว่าแค่ได้เจอกันบ้างแค่นี้คิตตี้ก็พอใจแล้ว แต่ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจริง ๆ
เฮียะเต๋อกอดคิตตี้เสียแน่น หวังก็กอดคิตตี้อีกต่อหนึ่ง จากนั้น พ่อแม่ ป้าปูลุงกุ้ง น้าเที่ยงก็มากอดกันเป็นก้อนกลมอีกที บรรยากาศแบบนี้มันช่างยากจะบรรยายคิตตี้เอาแต่น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด
เสียงเพลงดังสนั่น จากเพลงสากลเพราะ ๆ มาบัดนี้ได้กลายเป็นเพลงลูกทุ่งของแม่ผึ้งเป็นที่เรียบร้อย กะเทยและแขกเหรื่อวัยรุ่นซึ่งเมาได้ที่ พากันเต้นเหมือนลืมตัวลืมตาย
ระเบียงของห้องจัดเลี้ยงทอดยาวออกไปจนมองเห็นผืนทะเล มีแขกบางคนมาพักหูจากเสียงอึกทึก ด้านริมสุดของระเบียงมีคิตตี้ที่ยืนอยู่กับเฮียะเต๋อสองคน
"เฮียะ...เฮียะแน่ใจแล้วเหรอ?" คิตตี้ถามเบา ๆ และมองนิ้วของตัวเองที่สวมแหวนเพชรเม็ดงาม
"ไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้" เฮียะเต๋อตอบยกมือของคิตตี้มาจูบ คิตตี้ที่เคยซุกซน และคิดตามหาความรักมาตลอด จริง ๆ คำตอบของคิตตี้มันอยู่ตรงหน้านี้มาตั้งนานแล้ว แต่คิตตี้เลือกที่จะมองไม่เห็นมันก็แค่นั้นเอง
พลุไฟถูกจุดเพื่อเฉลิมฉลอง แขกเหรื่อในห้องพากันทยอยมาดูพลุที่ระเบียงจนเต็มแน่นไปหมด แต่คิตตี้กับเฮียะเต๋อกลับเดินกลับเข้ามาในงานตรงมุมห้องซึ่งไร้ผู้คน เฮียะเต๋อกอดคิตตี้แนบแน่น และจูบอย่างแสนดูดดื่ม จูบที่คิตตี้คุ้นเคยและเอาแต่เฝ้าหา ต่อไปข้างหน้าคิตตี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมา แต่คิตตี้ก็ภาวนาว่าขอให้ผ่านทั้งเรื่องดีและร้ายไปได้ทั้งหมด
เฮียะเต๋อถอดแหวนจากนิ้วของตัวเองออกมาอีกสี่วง ใส่ที่นิ้วของคิตตี้ ดูแล้วคิตตี้ก็ได้แต่นึกขำ ปกติคิตตี้ไม่ใส่เครื่องประดับสักชิ้น แต่พอใส่เข้าเสียอย่างนี้คิตตี้ก็เห็นว่ามันก็เข้าทีดีเหมือนกัน ก็คิตตี้กำลังจะเป็นลูกสะใภ้เจ้าของเมืองพลอยที่ใหญ่ที่สุดนี่นะ มองแหวนในมือแล้วก็คิดว่า ถ้าอยากได้อะไรเฮียะเต๋อก็คงจะให้จนหมด นี่มันซูการ์แดดดี้ของแทร่