จับจิตจับใจ รักใคร่ นะเมตตา นะหลงใหล นะคร่ำครวญ จงรักกู หลงกู รักกู หลงกู

๕ สัมผัสคืนสยอง - คืนที่ 2 ผ้าสามสีมรณะ โดย MAEWDAMTONEDARK @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ดาร์ค,เรื่องสั้น,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,หลอน,หักมุม,หึงโหด,ฆาตกรรม,ฆาตกรรมหักมุม,คลั่งรัก,ขนหัวลุก,เล่นของ,จบในตอน,แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง,อีโรติก,18+,เรื่องสั้น,ผี,ไสยศาสตร์,แก้แค้น,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

๕ สัมผัสคืนสยอง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ดาร์ค,เรื่องสั้น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,หลอน,หักมุม,หึงโหด,ฆาตกรรม,ฆาตกรรมหักมุม,คลั่งรัก,ขนหัวลุก,เล่นของ,จบในตอน,แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง,อีโรติก,18+,เรื่องสั้น,ผี,ไสยศาสตร์,แก้แค้น,สยองขวัญ

รายละเอียด

จับจิตจับใจ รักใคร่ นะเมตตา นะหลงใหล นะคร่ำครวญ จงรักกู หลงกู รักกู หลงกู

ผู้แต่ง

MAEWDAMTONEDARK

เรื่องย่อ

รายชื่อตอน


รูป | หลอนพระธุดงค์

เขาว่ากันว่า..พระเดินธุดงค์นั้นเป็นคนมีบุญบารมีสูง อย่าขัดอานิสงส์



กลิ่น | ผ้าสามสีมรณะ

เขาว่ากัน..ผ้าสามสีมีไว้ผูกกับต้นไม้เก่าเพื่อบูชาเทวดา นางไม้ และผีสาง อย่าลบหลู่! {ความเชื่อ}



เสียง | เสียงเรียกซ้ำ

เขาว่ากันว่า..ถ้าได้ยินเสียงเรียกชื่อตอนกลางคืน อย่าขานรับ! {ตำนานจริง อิน จัน มั่น คง}



รส | แรงรัก 🔞+

เขาว่ากันว่า..คนเล่นของ อย่าลืมรักษากฎ {ไสยศาสตร์}



สัมผัส | ลิ้มรสรอยสวาท 🔞+

เขาว่ากันว่า..ชาวพุทธควรรักษาศีลห้า โดยเฉพาะศีลข้อสาม อย่าทำ!



#ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์จริงจากคนรอบตัว


©️ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗

ห้ามคัดลอก ปลอมแปลง ดัดแปลง ทำซ้ำ หรือสแกนเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของหนังสือเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม

รวมถึงปกนิยายและภาพประกอบทั้งหมด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผู้ใดกระทำดังกล่าวข้างต้นหรือละเมิดลิขสิทธิ์จะได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย


มีอีบุ๊กแล้วนะครับ

ฝากอุดหนุนและแวะไปให้กำลังใจกันด้วยนะครับ

๕ สัมผัสคืนสยอง or Click





ช่องทางการติดตามแมวดำเจ้าป่า 

Twitter @MaewDamToneDark or Click

Fanpage : MaewDamToneDark or Click

สารบัญ

๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 1 หลอนพระธุดงค์,๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 2 ผ้าสามสีมรณะ,๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 3 เสียงเรียกซ้ำครั้งที่ 1,๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 4 เสียงเรียกซ้ำครั้งที่ 2,๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 5 แรงรัก (18+),๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 6 แรงรัก NC 18+,๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 7 ลิ้มรสรอยสวาท (NC🔞+),๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 8 ลิ้มรสรอยสวาท (NC🔞++),๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 9 ลิ้มรสรอยสวาท (NC🔞+++),๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 10 ลิ้มรสรอยสวาท (NC🔞++++),๕ สัมผัสคืนสยอง-คืนที่ 11 ตอนพิเศษ เสียงเรียกซ้ำ (ออริจินัล)

เนื้อหา

คืนที่ 2 ผ้าสามสีมรณะ

“เดินเร็ว ๆ หน่อยสิ ชมพู่ มัวแต่โอ้เอ้อยู่นั่นแหละ นี่มันใกล้จะตีสองแล้วนะ เรายังเดินไม่ถึงหอพักกันสักที”

พะแพง เด็กสาวร่างบางวัยมหาลัยรีบหันไปตะเบ็งเสียงดุใส่เพื่อนสาวคนสนิทที่กำลังทำตัวอืดอาดเดินตามหลังของเธอ

“โอ๊ย แล้วเธอจะรีบเดินไปไหนล่ะพะแพง”

ชมพู่รีบตอบเสียงแผ่วเพราะเริ่มหมดแรง เธอแสดงท่าทีงอแงใส่เพื่อนสาว พลางขยับมือไปลูบที่หน้าท้องของตัวเอง

“ฉันรีบเดินได้เร็วสุดแค่นี้แหละ เราพึ่งกินจิ้มจุ่มกันมา ท้องฉันยังไม่ทันย่อยดีเลย ขืนให้ฉันจ้ำเท้าเดินเร็วกว่านี้ คงได้อ้วกออกมาเป็นจิ้มจุ่มแน่”

“แล้วใครกันที่มาหิวเอาเวลานี้ แถมยังลากฉันออกมาข้างนอกในเวลาดึกดื่น กว่าจะกินจิ้มจุ่มเสร็จก็กินเวลาไปเกือบจะตีสอง พอกินอิ่ม คิดจะหาแท็กซี่กลับหอก็ดันไม่มีรถคันไหนขับผ่านมาอีก เลยต้องลากสังขารพากันเดินกลับเองเป็นกิโล แถมตอนนี้เรายังเดินไม่ถึงครึ่งทางเลย ไม่รู้จะถึงหอกันกี่โมง”

พะแพงเริ่มบ่นรำพึงรำพันร่ายยาว

“ใครมันจะไปรู้กันล่ะ ว่าเส้นทางถนนฝั่งนี้จะมีรถพลุกพล่านน้อย ฉันก็นึกว่าไม่ไกลจากหอเราเท่าไหร่น่าจะหารถกลับง่าย ถ้ารู้แบบนี้ฉันก็คงชวนแกมากินก่อนเที่ยงคืนแล้วสิ ไม่เสียเวลาเดินกลับมาเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้หรอก เปลี่ยวจะตาย”



ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินตามทางฟุตพาทของถนน ชมพู่ที่เดินตามหลังกลับมองเห็นต้นไม้ทรงขนาดใหญ่ ทั้งยังดูเป็นต้นไม้มีอายุยืนประมาณกว่าร้อยปีตั้งอยู่ข้างทางในซอยเปลี่ยวฝั่งที่เธอและพะแพงกำลังเดินอยู่

เธอเพ่งพินิจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นบางอย่างสะดุดตาตรงหน้า ซึ่งถูกพันเอาไว้รอบลำต้นของต้นไม้ใหญ่

เมื่อเห็นว่าเป็นผ้าสามสีที่ชมพู่เคยเห็นผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยผู้คนมักนิยมผูกเอาไว้กับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อคอยปกปักรักษาผู้คนในละแวก

ซึ่งชมพู่เองก็มีความเชื่ออย่างสนิทใจเพราะถูกปลูกฝังเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก



บรรยากาศรอบตัวที่มืดสนิทและเงียบสงัด มันเงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

เมื่อเธอเริ่มเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า จู่ ๆ ชมพู่กลับได้กลิ่นบางอย่างลอยมา เมื่อพบว่าเป็นกลิ่นควันธูปโชยมาแตะที่จมูก เธอก็รู้สึกขนลุกซู่โดยไม่มีสาเหตุ ทั้งที่อากาศเวลานี้ก็ไม่ได้ร้อนหรือหนาวมากนัก

หญิงสาวรีบยกมือไหว้ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกกลัว เธอกลัวบางอย่างที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พลางอ้อนวอนในใจขอให้ต้นไม้ใหญ่ที่พันด้วยผ้าสามสีช่วยเปิดทางให้เธอเดินกลับหออย่างปลอดภัย

อย่าได้มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับเธอ



หากแต่เมื่อเธอเดินไปต่อ ชมพู่กลับมองเห็นศาลพระภูมิตั้งอยู่ถัดจากต้นไม้ใหญ่ ซึ่งก็ยิ่งทำให้เธอขนลุกซู่มากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่ากลิ่นควันธูปมาจากไหน

ทั้งที่ตอนนี้เป็นยามวิกาล แต่เทียนบนศาลพระภูมิกลับยังคงสว่างไสวพร้อมทั้งอาหารเซ่นไหว้และควันธูปที่ปักตั้งอยู่มากมายลอยคลุ้งส่งกลิ่นไปทั่วรอบบริเวณ

ชมพู่รีบยกมือไหว้อีกรอบพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อเดินให้ทันพะแพง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนของเพื่อนสาวด้วยความกลัว

“พะแพง ตรงนี้มีต้นไม้ผูกผ้าสามสีด้วยอะ แถมยังมีศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ”

ชมพู่พูดพลางเขย่าแขนเพื่อนสาว

“แล้วฉันก็ยังเห็นธูปยังมอดไม่หมด ทั้งที่ตอนนี้จะตีสองแล้ว ฉันว่า..แถวนี้ต้องมีอะไรบางอย่างแน่เลย แกรีบไหว้เร็ว เราจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”



“โอ๊ย ไร้สาระ” พะแพงหันมามองค้อนชมพู่ พลางถอนหายใจด้วยความรำคาญ

“นี่มันยุคไหนกันแล้ว ผีสางเทวดาไม่มีจริงหรอก ถ้าเกิดว่ามันมีจริง ๆ นะ ป่านนี้แกกับฉันคงโดนผีหลอกไปนานแล้วไม่ปล่อยให้ฉันยืนบ่นยาวเหยียดนานขนาดนี้หรอก”

“แกอย่าพูดเรื่องผีสางเวลาอยู่ข้างนอกตอนกลางคืนสิ โบราณเขาถือกันนะ” ชมพู่รีบกล่าวแย้งด้วยน้ำเสียงระแวดระวัง พลางกวาดสายตามองสอดส่องรอบข้างอย่างตื่นตระหนก

“แกนั่นแหละที่เลิกกลัวอะไรที่มันไม่มีอยู่จริงสักที ตั้งแต่ฉันเกิดมานะ ไม่เคยเห็นผีเป็นตัวเป็นตนสักครั้ง แล้วถ้าต้นไม้นี่มันศักดิ์สิทธิ์จริง ป่านนี้คนคงมาขอหวยออกข่าวกันโครม ๆ แล้วมั้ง ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรนอกจากผ้าสามสีมาผูกไว้กับน้ำแดงไม่กี่ขวด มันก็บอกชัดอยู่ละว่าแค่ต้นไม้ธรรมดานี่แหละ คงจะผูกเอาไว้หลอกให้คนกลัว จะได้ไม่ต้องมาเดินเพ่นพ่านยามกลางคืนละมั้ง อาจจะกันพวกคนบ้า คนพเนจรมานอนแถวนี้ก็ได้นะ”

พะแพงกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือรำคาญ “ฉันว่าแกเลิกงมงายคิดแต่เรื่องพวกนี้ แล้วรีบตั้งใจเดินกลับหอเถอะ”

พะแพงสบถก่นด่าเพื่อนสาวไปหลายประโยค ชมพู่จึงไม่กล้ารบเร้าพะแพงอีก เมื่อเห็นว่ามีความคิดด้านความเชื่อแตกต่างกัน



ขณะที่ทั้งสองเริ่มต้นเดินทางต่อ ชมพู่ยังคงรู้สึกกังวลใจและหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

ชมพู่ไม่รู้ว่าเกิดจากการที่เธอพึ่งเสียขวัญจากเรื่องต้นไม้ใหญ่ที่ผูกผ้าสามสีเมื่อครู่ หรือเพราะตัวเธอกำลังฟุ้งซ่านเพราะกำลังเดินทางเปลี่ยวในยามวิกาล

ชมพู่เอาแต่เดินก้มหน้าไม่กล้ากวาดสายตามองโดยรอบ ในขณะที่เธอยังคงจับมือพะแพงแบบไม่ห่างกาย

แต่แล้วชมพู่กลับต้องหยุดชะงัก ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ร่างกายเริ่มสั่นเทาด้วยความกลัวอย่างสุดขีด เมื่อเธอบังเอิญพลันสายตาไปมองดูเงาของพะแพง เพื่อนสาวที่ชมพู่กำลังเดินจับมืออยู่

ชมพู่เริ่มเหงื่อตก ตัวยืนแข็งทื่อ เวลานี้เงาของพะแพงที่เธอเห็นนั้น พบว่ามีเพียงแค่ลำตัวแต่กลับไม่มีเงาหัว ขณะที่ชมพู่ยังคงยืนตัวแข็งทื่อ เลือดสีแดงฉานพร้อมกลิ่นคาวเลือดก็ค่อย ๆ ปรากฎขึ้น

แม้ชมพู่จะเห็นเลือดไหลนองตามพื้นฟุตพาทที่เธอยืนอยู่ แต่เพราะความกลัวสุดขีดทำให้ชมพู่ไม่กล้าขยับตัวไปไหน

ในจังหวะเดียวกัน ชมพู่กลับสะดุ้งเฮือกเมื่อตัวของพะแพงเริ่มชักกระตุกอย่างไร้สาเหตุ ชมพู่กัดริมฝีปากข่มอารมณ์กลัว เธอค่อย ๆ เริ่มต้นรวบรวมความกล้าทั้งหมดหันไปมองพะแพงก่อนจะต้องเบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง

สายไฟตามเสาไฟฟ้าที่ถูกวางห้อยระโยงระยางกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ

และที่สำคัญ..สายไฟยังได้เกี่ยวพันเอาศีรษะของพะแพงดึงขึ้นให้ลอยไปลอยมาห่างจากเหนือใบหน้าชมพู่เพียงไม่ถึงศอก

ดวงตาถลนและลิ้นห้อยจุกปากของพะแพงที่ถูกสายไฟกระตุกและบีบรัดจนขาดอากาศหายใจยังเป็นภาพที่ติดตาของชมพู่

เธอเริ่มกรีดร้องสุดเสียง เมื่อเธอกวาดตามองสายไฟที่ยื่นออกมาเพชฌฆาตเพื่อนสาวคนสนิทของเธอ แต่มันไม่ได้มีเพียงแค่สายไฟ

หากแต่เธอยังพบผ้าสามสีที่ยื่นยาวออกมาจากต้นไม้ใหญ่ที่เธอพึ่งเดินผ่านมาไกลกว่าสองเมตร ผ้าสามสีที่พยายามจับเส้นสายไฟโดยไม่มีท่าทีจะปล่อย 

ราวกับมันเป็นคนดึงสายไฟที่ห้อยระโยงระยางออกมารัดคอพะแพงจนขาดสะบั้นแยกออกจากร่าง จากนั้นก็เลือกที่จะถือเอาไว้พลางกวัดแกว่งไปมาเหมือนคนที่กำลังฟึดฟัดไม่พอใจ

ชมพู่จ้องมองผ้าสามสีอย่างไม่ละสายตา เธอกรีดร้องอย่างคนกำลังจะเสียสติเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทตายต่อหน้า

ชมพู่พยายามสะบัดมือออกจากตัวของพะแพง แต่ทว่า..



พะแพงที่พึ่งเสียชีวิตจากการทรมานอย่างหนัก

มันยากเหลือเกินที่ชมพู่จะแกะนิ้วมือศพออกจาก

มือของเธอได้โดยง่าย