ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ดาร์ค,เรื่องสั้น,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,หลอน,หักมุม,หึงโหด,ฆาตกรรม,ฆาตกรรมหักมุม,คลั่งรัก,ขนหัวลุก,เล่นของ,จบในตอน,แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง,อีโรติก,18+,เรื่องสั้น,ผี,ไสยศาสตร์,แก้แค้น,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จับจิตจับใจ รักใคร่ นะเมตตา นะหลงใหล นะคร่ำครวญ จงรักกู หลงกู รักกู หลงกู
ผู้แต่ง
MAEWDAMTONEDARK
เรื่องย่อ
รายชื่อตอน
รูป | หลอนพระธุดงค์
เขาว่ากันว่า..พระเดินธุดงค์นั้นเป็นคนมีบุญบารมีสูง อย่าขัดอานิสงส์
กลิ่น | ผ้าสามสีมรณะ
เขาว่ากัน..ผ้าสามสีมีไว้ผูกกับต้นไม้เก่าเพื่อบูชาเทวดา นางไม้ และผีสาง อย่าลบหลู่! {ความเชื่อ}
เสียง | เสียงเรียกซ้ำ
เขาว่ากันว่า..ถ้าได้ยินเสียงเรียกชื่อตอนกลางคืน อย่าขานรับ! {ตำนานจริง อิน จัน มั่น คง}
รส | แรงรัก 🔞+
เขาว่ากันว่า..คนเล่นของ อย่าลืมรักษากฎ {ไสยศาสตร์}
สัมผัส | ลิ้มรสรอยสวาท 🔞+
เขาว่ากันว่า..ชาวพุทธควรรักษาศีลห้า โดยเฉพาะศีลข้อสาม อย่าทำ!
#ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์จริงจากคนรอบตัว
©️ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗
ห้ามคัดลอก ปลอมแปลง ดัดแปลง ทำซ้ำ หรือสแกนเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของหนังสือเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม
รวมถึงปกนิยายและภาพประกอบทั้งหมด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผู้ใดกระทำดังกล่าวข้างต้นหรือละเมิดลิขสิทธิ์จะได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย
มีอีบุ๊กแล้วนะครับ
ฝากอุดหนุนและแวะไปให้กำลังใจกันด้วยนะครับ
ช่องทางการติดตามแมวดำเจ้าป่า
Twitter @MaewDamToneDark or Click
Fanpage : MaewDamToneDark or Click
เสียงผิวปากอย่างสุนทรียะในท่วงทำนองของโอ้ เด็กหนุ่มที่พึ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลายดังขึ้น
ในขณะที่มือหนากำยำเอื้อมไปเปิดประตูตู้เก็บของพลางควานหาซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมา เขาพลิกซองบะหมี่เพื่อดูว่าเป็นรสชาติอะไร
เมื่อเห็นว่าเป็นรสต้มยำกุ้ง โอ้ก็ไม่รีรอที่จะรีบหันหลังไปกดปุ่มเพื่อตั้งเวลาอุณหภูมิความร้อนของกาต้มน้ำที่ตั้งอยู่บนเตาไฟฟ้าอัตโนมัติ
ขณะที่รอน้ำเดือด เพื่อไม่ให้เสียเวลา โอ้เลือกเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวโปรดที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์
พลางรีบหยิบเฮดโฟนไร้สายขึ้นมาเตรียมคุยกับเพื่อนในเกมผ่านดิสคอร์ด แล้วกดแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดเพื่อเล่นเกมต่อช่วงที่กดหยุดค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้
“โอ้…”
เสียงทุ้มเย็นเยียบเสียงหนึ่งกล่าวเรียกชื่อดังขึ้นเอื่อย ๆ เข้ามาในโสตประสาท ทำให้โอ้ที่กำลังนั่งใจจดใจจ่ออยู่กับเกมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ถึงกับเผลอขานรับตอบทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ครับ!?”
“…”
เมื่อเขาขานตอบรับ แต่กลับไม่มีใครหรือเสียงใดตอบกลับมา
โอ้แสดงท่าทีประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง เขารีบหันไปกวาดตามองบริเวณรอบบ้านเพื่อตรวจดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขากำลังอยู่บ้านคนเดียวจริง ๆ หรือมีใครเข้ามาในบ้านโดยที่เขาไม่ทันสังเกต
เพราะอาจจะเป็นไปได้ ว่าแม่ของเขาเดินทางกลับมาจากที่ทำงานแล้ว
“แม่!”
โอ้ตะโกนเอ่ยเรียกด้วยสุ้มเสียงกระแทก
“นั่นแม่รึเปล่า?”
“…”
แม้โอ้จะกล่าวตะโกนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ในบ้านของเขากลับยังคงเงียบสนิท ไม่มีเสียงหรือใครปรากฏตัวออกมา
โอ้จึงรู้ได้แน่ชัดทันทีว่าเขานั้นยังคงอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวเวลานี้
หากไม่มีใครอยู่ในบ้าน
แล้วเสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่นี้มาจากไหน !!!
“อะไรวะ หูฝาดเหรอวะเนี่ย”
โอ้กล่าวสบถก่นด่าตนเองอย่างหัวเสีย
[มีอะไรวะ]
หมาก เพื่อนสนิทในเกมเอ่ยถามผ่านเฮดโฟนไร้สาย
“ไม่มีอะไรหรอกมึง กูแค่หูฝาดได้ยินคนเรียกชื่อ”
[เชี่ยยย!]
หมากลากเสียงยาว ด้วยน้ำเสียงกึ่งทีเล่นกึ่งทีจริง
[หลอนสัส]
“หลอนอะไรของมึง ถ้ามึงคิดจะแกล้งกูด้วยมุขผีหลอกเด็กประถม เรื่องที่คนโบราณเขาว่ากันว่า...ถ้าได้ยินคนเรียกชื่อตอนกลางคืน ห้ามทัก! เดี๋ยวผีจะเอาไปอยู่ด้วย มึงไม่ต้องเล่นเลยนะ กูขี้เกียจฟังมุขหลอกเด็กเห่ย ๆ ของมึงแล้ว”
โอ้กล่าวเสียงเข้มแต่ยังแฝงความขำขันเอาไว้
[กูไม่ได้หลอนเรื่องของมึง กูหลอนเรื่องที่กูกำลังอ่านต่างหาก]
หมากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
[กูส่งลิงก์ที่กูพึ่งอ่านให้มึงทางไลน์แล้วนะ มึงลองเอาไปอ่านเองเลย เดี๋ยวหาว่ากูแกล้งมึงอีก]
โอ้ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าฉงน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหมากต้องมีท่าทีตกใจเพียงเพราะแค่อ่านตัวอักษร
ความอยากรู้อยากเห็นทำให้โอ้ต้องรีบกดหยุดเกม พลางเอื้อมมือไปจับโทรศัพท์แล้วกดเปิดอ่านลิงก์ที่หมากพึ่งส่งมา
‘ตำนานเสาหลักเมือง
ว่าด้วยในยุคสมัยอดีตกาล กลับมีเรื่องเล่าสืบขานต่อกันมาเกี่ยวกับเรื่องการฝังหลักเมือง ว่ามีการฝังคนทั้งเป็น เช่น ในหนังสือประวัติภูเก็ต ได้กล่าวถึงการฝังหลักเมืองไว้ตอนหนึ่งว่า
เมื่อท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทรได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว พระยาถลาง (ทองพูน) ได้เป็นเจ้าเมืองถลาง ได้จัดหาสถานที่เพื่อสร้างเมืองใหม่ขึ้น และได้ตกลงให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นที่ตำบลเทพกษัตรี อำเภอถลางในปัจจุบันนี้ โดยเรียกว่า ‘บ้านเมืองใหม่’ เมื่อจัดหาที่ได้แล้ว จึงได้ประกอบพิธีกรรมขึ้น โดยนิมนต์พระภิกษุสงฆ์รวม ๓๒ รูป เจริญพระพุทธมนต์อยู่ ๗ คืน ๗ วัน แล้วจึงให้อำเภอทนายป่าวร้องหาตัวผู้ที่จะมาเป็นแม่หลักเมือง
ผู้ที่จะเป็นแม่หลักเมืองได้ จะต้องเป็นคนที่เรียกกันว่าสี่หูสี่ตา (คือคนที่ตั้งครรภ์นั่นเอง) เพราะเมื่อฝังเสาหลักแล้วก็จะได้วิญญาณถึง ๒ ดวง การป่าวร้องหาตัวแม่หลักเมืองนี้ ได้ประกาศป่าวโห่ร้องไปเรื่อยหมดทุกหมู่บ้านว่า
โอ้เจ้ามั่น โอ้เจ้าคง อยู่ที่ไหนมา ไปประจำที่
ในที่สุดก็มีหญิงท้องแก่ ท้องได้ประมาณแปดเดือนชื่อนางนาค นางนาคได้ขานรับถึง ๓ ครั้ง แล้วติดตามผู้ประกาศไป ครั้นเมื่อไปถึงนางนาคก็กระโดดลงไปในหลุมนั้นทันที ฝาหลุมก็เลื่อนปิด เจ้าพนักก็กลบหลุมฝังเสาหลักเป็นอันเสร็จพิธีการฝังหลักเมือง’
แต่ทว่า..เรื่องเล่านั้น กลับมิได้มีเพียงแค่การฝังหลักเมือง
‘เมื่อมีแม่หลักประตูเมืองผู้เฝ้ามหาปราสาทบ้านเมืองแล้ว พิธีการฝังหลักเมือง สร้างพระนคร สร้างบ้านเมือง จักต้องฝังอาถรรพ์ ๔ ประตูเมือง โดยนำเอาคนที่มีชื่อมงคล ได้แก่ อิน จัน มั่น คง มาฝังลงหลุมทั้งเป็น จึงจะเป็นการศักดิ์สิทธิ์ ให้ดวงวิญญาณเป็นอารักษ์ผีเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่ ป้องกันอริราชศัตรู มิให้มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง
แม้ชื่อมงคลจะสิ้นมลายหายไปตามยุคสมัย ขอเพียงแค่เป็นรุ่นลูกรุ่นหลานบ้านเกิดเมืองนอน พิธีกรรมนี้จะยังคงสืบสานกันต่อไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ดวงวิญญาณบรรพบุรุษจะถวิลหาพลางเอ่ยเรียกชื่อ
คนใดขานรับถึง ๓ ครา
ผู้นั้นจักต้องถูกทหารมาจับตัวไปฝังดิน’
“โอ้…”
เสียงทุ้มเย็นเยียบเสียงหนึ่งกล่าวเรียกชื่อโอ้ดังขึ้นเอื่อย ๆ เข้ามาในโสตประสาทของเขาอีกครั้ง
โอ้สะดุ้งโหยงเมื่อถูกเอ่ยเรียกชื่อ จนเขาเผลอทำโทรศัพท์หลุดมือตกหล่นพื้นพลางดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฉับพลันด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
“เมื่อกี้มึงเรียกชื่อกูใช่มั้ย ไอหมาก”
น้ำเสียงของโอ้เจือไปด้วยความตื่นตระหนก เขาเอ่ยถามเพื่อนสนิทผ่านเฮดโฟนที่ยังคงสวมใส่อยู่
[กูไม่ได้เรียก กูเล่นเกมอยู่]
หมากตอบน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
[เกิดอะไรขึ้นวะ อย่าบอกนะว่ามึงได้ยินเสียงอีกแล้ว]
ตี๊ดดด
ยังไม่ทันที่โอ้จะตอบกลับเพื่อนสนิท เสียงกาต้มน้ำร้อนกลับดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่ออุณหภูมิความร้อนสูงเกินกว่าเกณฑ์กำหนด ส่งผลให้เตาไฟฟ้าเริ่มส่งเสียงแจ้งเตือนตามมาเช่นเดียวกัน
โอ้สะดุ้งโหยงอีกครั้งพลางหายใจกระหืดกระหอบ หัวใจของเขาเต้นเหมือนเสียงกลองเพล
โอ้พยายามสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อตั้งสติ ครั้นเมื่อสติกลับคืนมา เขาก็รีบวิ่งไปกดปิดปุ่มเตาไฟฟ้าทันที
โชคดีที่ไม่มีอะไรเสียหายจากความสะเพร่าของเขา โอ้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะคิดว่าตนเองเกือบจะทำครัวพังเสียแล้ว
“โอ้…”
“มึงมีอะไรมึงก็พูดมา ไม่ต้องมาเรียกชื่อกู”
โอ้กล่าวตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธขึ้งออกมาเบา ๆ แต่ปลายสายกลับนิ่งเงียบสนิท ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ปลายสายตั้งแต่แรก
ทันใดนั้นเอง ใบหน้าบึ้งตึงเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด เมื่อเขาพึ่งนึกขึ้นได้ว่า เวลานี้เด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่ในบริเวณห้องครัว
ซึ่งระยะห่างจากเคาน์เตอร์ครัวไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ มันก็ห่างมากพอที่สัญญาณเชื่อมต่อเฮดโฟนจะถูกตัดขาด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปลายสายจะนิ่งเงียบหายไป
นั่นแปลว่าเสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่ ไม่ใช่เสียงของหมาก และเป็นอีกครั้งที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร!!!