การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
Archetype
การสอบคัดเลือกอาเคไทป์
เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกๆปี ผู้มีความประสงค์ในการเข้ารับทดสอบเพื่อคัดเลือก จะต้องส่งจดหมายยื่นคำร้องในการขอเข้ารับการทดสอบแก่ " สหพันธ์คณะกรรมการควบคุมการสอบอาเคไทป์แห่งภาคพื้น " จัดตั้งโดยประเทศเมเลเดียน แห่งทวีปฝั่งตะวันออก
โดยสหพันธ์จะทำการตรวจสอบผู้ยื่นคำร้อง เพื่อให้ตรงกับเกณฑ์เข้ารับการทดสอบ ดังนี้
1. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 18 ปี (เนื่องด้วยผู้เข้ารับการทดสอบที่ผ่านเกณฑ์แล้วจะต้องแสดงเจตจำนงต่อศิลาอนิม่า (Anima) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการใช้พลังของอาเคไทป์อย่างชัดเจน หากอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนดการแสดงเจตจำนงจะคลุมเครือ ทำให้ยากต่อการแบ่งไทป์มากขึ้น)
2. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องร่างกายสมบูรณ์พร้อม * หากแต่ได้รับการยกเว้นจากสมาคมใดสมาคมหนึ่งในสมาคมของอาเคไทป์ทั้งหก * (สืบเนื่องมาจากอาจเกิดปัญหาในการเข้ารับทำงานในสังกัดสมาคมด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย เว้นแต่ทางสมาคมพิจารณาแล้วจะเห็นชอบให้รับเข้าสังกัดโดยได้รับการยกเว้น)
3. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องทำข้อสอบวัดความรู้โดยเกณฑ์การผ่านคือเกิน 50 คะแนน เป็นการวัดระดับความรู้ความสามารถพื้นฐานโดยข้อสอบปรนัยของทางสหพันธ์
หลังจากผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ทางสหพันธ์จะทำการส่งจดหมายเชิญ ให้เข้ารับการคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี ผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องเดินทางไปยังสนามสอบหลักของทางสหพันธ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใหญ่ใจกลางของทั้งสามทวีป ใกล้กับเมืองนาราน
ภายหลังจากที่กระบวนการทดสอบทั้งหมดเสร็จสิ้น ในขั้นตอนสุดท้ายผู้เข้าสอบที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องแสดงเจตจำนงของตนผ่านทางหินรูนอนิม่า เพื่อแบ่งแยกไทป์ของตน และจะได้รับการคัดเลือกเข้าสู่สมาคมต่างๆ ของอาเคไทป์อย่างเหมาะสม
ณ ห้องประชุมของสถานที่คัดเลือกผู้เข้ารับการทดสอบอาเคไทป์ในปีนั้น หอคอยสูงตระหง่านเห็นเด่นชัดเหนือเมืองนาราน โต๊ะไม้ทรงรีที่มีคณะกรรมการนั่งอยู่ประจำตำแหน่ง บุรุษและสตรีผู้ทรงคุณวุฒิราวหกท่าน
" อะไรกัน ปีนี้สอบผ่านแค่ทีมเดียวเองเหรอ "
กรรมการผู้ดูแลการสอบ ท่านนึงกล่าวกลางที่ประชุม ด้วยความสงสัยในการสอบที่มีผู้ผ่านการคัดเลือกน้อยนิดกว่าปีอื่นๆ
" ตัวเลือกในปีนี้ มันจะน้อยไปรึเปล่า " กรรมการอีกท่านกล่าวเสริม
" ไม่เป็นไรหรอกมั้ง.... เจ้าพวกชนเผ่าทะเลทราย มันเก่งจะตาย แค่หกคนก็ใช้งานได้เหลือๆ " อีกท่านกล่าวถึงเด็กหนุ่มสาวกลุ่มสุดท้าย
ที่สังเกตได้ว่าเป็นผู้ที่มาจากชนเผ่าทะเลทราย เห็นได้ชัดจากลักษณะเฉพาะของชนเผ่าพื้นเมืองนี้ สีผิวที่เข้มและการแต่งกายที่แสดงให้เห็นโดดเด่นต่างจากผู้คนในเมืองทั่วไป เป็นที่ถูกเถียงกันบนโต๊ะประชุมของเหล่า กรรมการผู้ดูแลการคุมสอบในเวลานี้
การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปีที่มีผู้เข้าคัดเลือกกว่าร้อยคน และปีนี้มีเพียง 1 ทีมเท่านั้นที่ผ่านการสอบในขั้นสุดท้าย
ภายหลังจากสิ้นสุดการประชุม เหล่ากรรมการคุมสอบยืนประจัญหน้าเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น เพื่อประกาศผลสอบในขั้นตอนสุดท้าย
ในเงามืดของหอคอย เด็กหนุ่มสาวทั้งหกผู้ผ่านการคัดเลือก ได้จ้องมองมาด้วยแววตาที่มุ่งมั่นและเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
" ยุติการสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี !! "
ประกาศเสียงดังขึ้นจากคณะกรรมการ เป็นอันเสร็จสิ้นการสอบในปีนั้นลง....
ในเวลาต่อมา...
ค่ำคืนหนึ่ง ณ หมู่บ้านวินด์วิล
หมู่บ้านชนบทเล็กๆที่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก สายฝนพรำยามค่ำคืน ความเงียบสงบของหมู่บ้านแห่งนี้ ได้ยินเพียงแค่เสียงกบร้องคลอไปกับหยดน้ำที่ตกลงมา กระทบกับผืนดินและใบหญ้า ฟังดูไพเราะราวกับเสียงเพลงของธรรมชาติ
หญิงผู้หนึ่งสวมผ้าคลุมสีขาวงาช้าง แบกกระเป๋าหนังใบใหญ่สะพายขึ้นหลัง ก้าวฝีเท้าเหยียบย่ำลงพื้นที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนจนสาดกระเซ็น
" ออกเดินทางตอนนี้เลยหรือ เมลิสซา " ชายชราผู้ถือร่มกันฝนเอ่ยทักหญิงสาวเบื้องหน้า เธอกำลังก้าวย่างอย่างช้าๆท่ามกลางฝนโปรยปราย
Melissa (เมลิสซา นักสำรวจแห่งเมดิโอลัน)
อาเคไทป์ : นักสำรวจ ระดับตรา : ทองคำ
" อือ... ฝากดูแลอลันด้วยนะ คุณโจ " เมลิสซาเอ่ย หญิงสาวผู้สวมผ้าคลุมปิดศีรษะมิดชิด และติดเข็มกลัดทองคำ ตราสัญลักษณ์ของนักสำรวจเอาไว้บนปกเสื้อ
" ขนข้าวของไปเยอะขนาดนี้ คงไม่ได้ไปแค่ชั่วครู่ใช่ไหม " คุณตาโจ ชายชรารูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ สวมแว่นตากลม มีหนวดเคราขาวสั้น บุคลิกท่าทางดูใจดี แววตานั้นยิ้มอยู่เสมอ
เฝ้ามองดูตามประสาคนเฒ่าคนแก่ที่เอ็นดูเธอ แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ คุณโจก็เป็นห่วงและรักใคร่เธอและลูกมาก
เมลิสซา หญิงสาวที่มีลูกติดอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มาตั้งแต่อลันที่เป็นบุตรชายยังแบบเบาะ คุณโจเลี้ยงดูพวกเขาราวกับลูกบุญธรรม แม้ว่าเธอเองจะไม่เคยเรียกชายผู้นี้ว่าพ่อก็ตาม แต่ด้วยความรักความผูกพัน เธอให้เกียรติเรียกชายชราผู้นี้ด้วยคำนำหน้าว่า "คุณ" เสมอ และวางตัวอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เรื่อยมา
" ภารกิจครั้งนี้สำคัญมาก คงจะใช้เวลานานกว่าปกติพอสมควร " เมลิสซาหยุดฝีเท้านิ่งไม่ไหวติง ตั้งใจตอบออกมาอย่างแน่วแน่ ท่อนขานั้นมันชะงักราวกับว่าไม่อยากที่จะก้าวเดินต่อ
" เฮ้อ... เมลิสซา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ แต่ก็ขอพูดในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง
อลันกำลังโตขึ้นทุกวัน เขาต้องการคนดูแลและชี้นำเส้นทางชีวิตให้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงจะถึงเวลาคัดเลือกอาเคไทป์แล้ว
ถึงวันนั้นเขาคงจะเป็นนักสำรวจเหมือนกับเธอ คงอยากให้เธอภูมิใจ " คุณตาโจถอนหายใจ และเอ่ยขึ้นเพื่อให้คำแนะนำด้วยความเป็นห่วงในสายสัมพันธ์ของแม่ลูก
" ......... " เธอไม่มีคำพูดใดตอบ แม้ฝืนทนกล้ำกลืนจนน้ำตาซึมคลอเบ้า ภายใต้ผ้าคลุมสีขาวที่ปกปิดครึ่งนึงของใบหน้าเอาไว้ เปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำพร้อมกับฝนที่ตกอยู่ภายในใจ
" มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ภารกิจนี้ " คุณตาโจเอ่ยปากถาม
" สำคัญ.... "
" .......... "
" ไม่ว่ายังไง ฉันต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ชีวิตของทุกคนบนโลกนี้ขึ้นอยู่กับมัน " เมลิสซาเอ่ยขึ้นอย่างแน่วแน่และหนักแน่น แม้นว่าจะต้องแลกมาด้วยการตัดขาดจากบุตรชายของตน จำใจต้องปล่อยมือให้เขาเผชิญกับโลกกว้างเบื้องหน้าด้วยตัวเอง บ่งบอกถึงความสำคัญของภารกิจนี้อย่างเลือกไม่ได้
" คนแก่อย่างฉันคงไม่มีทางรู้ว่าพวกเธอ ทำอะไรกันอยู่ ดึงดันรั้งเธอไว้เห็นทีคงจะไม่ได้
ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขออวยพรให้เธอโชคดี ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ฉันจะดูแลอลันให้เอง " คุณตาโจเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจไม่น้อย แต่ก็ปลอบประโลมเธอด้วยคำพูดที่ตนยึดมั่น พร้อมที่จะดูแลหลานชายบุญธรรมให้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล และยิ้มเพื่อบอกลาอย่างอ่อนโยน
" ขอบคุณนะ คุณโจ " เมลิสซาเดินจากไปท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายในความมืดมิดยามค่ำคืน ไม่แม้จะหันหลังกลับมามอง ถ้าหากว่าหันกลับไปคงจะฝืนทนก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไม่ไหว ยอมทนกลั้นใจมิให้ไหวหวั่นในสิ่งที่ตนนั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว...
หลายปีต่อมา...
ในหมู่บ้านวินด์วิล หมู่บ้านเล็กๆเยื้องไปทางตอนใต้ของเมืองหลวงเมดิโอลัน ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา หน้าผาสูงชันติดกับมหาสมุทร ภูเขาสูงเต็มไปด้วยไม้ใหญ่ ลมจากทะเลที่พัดผ่านแมกไม้ กลิ่นอายของเกลือปนกับเกสรดอกไม้และไอดิน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อวินด์วิล (Windvill) แด่สายลมนำพา
ชนบทที่เงียบสงบและห่างไกล ผู้คนที่อยู่กันอย่างสงบสุขและสันโดษ หมู่บ้านแห่งนี้มีเพียงแค่สาธารณูปโภคพื้นฐานเท่านั้น สถานรักษาพยาบาล ห้องสมุดเล็กๆและบ้านเรือน ไร้ซึ่งแสงสีเสียงดั่งเช่นเมืองใหญ่ แต่ก็มีมนต์สะกดของธรรมชาติอย่างต้องตาต้องใจ
ที่แห่งนี้มีเพียงแค่คนเฒ่าคนแก่อยู่กับอย่างมีไมตรี เนื่องจากมันอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงนัก เหล่าคนหนุ่มสาวที่ส่วนมากจะเข้าคัดเลือกอาเคไทป์ ต่อมาได้เข้ารับตำแหน่ง ทำงานภายใต้สังกัดของสมาคมต่างๆ และย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในเมืองใหญ่ตามสมาคมของตน บัดนี้หมู่บ้านจึงเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยของผู้สูงวัยที่เกษียณแล้วเท่านั้นเอง
ถึงกระนั้นก็ยังคงมีเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนเงาเป็นประกายกับแดดยามเช้า วิ่งอย่างกระตือรือร้น เสียงฝีเท้าดังอย่างกับม้าควบเกือกลงบนผืนดิน ว่องไวซะจนสายตาคนแก่นั้นมองไม่ทัน ในมือถือกระดาษพร้อมด้วยซองจดหมายที่ถูกปิดผนึก โดยตราสัญลักษณ์ของสหพันธ์ ชาวบ้านในเมืองต่างตะโกนถาม และพูดคุยอย่างเอ็นดู
" อ้าว.... จะรีบวิ่งไปไหนหรือ อลัน " ชายชราผู้หนึ่งเอ่ยถามระหว่างทาง
อลัน (Alun) เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีอำพันเปล่งประกายทอแสงสีทอง ผิวพรรณสดใสขาวผุดผ่อง
" จะรีบไปบอกคุณตาคุณยายฮะ ผมได้จดหมายมาแล้ว ไปก่อนนะฮะ " อลันหันหลังทั้งๆที่ยังซอยเท้าอยู่ตอบกลับชายชรา และโบกมือจากไปด้วยความร้อนรน
" โฮ่ๆ มุ่งมั่นจังเลยนะ เด็กๆสมัยนี้ "
อลันรีบวิ่งมาจากที่ทำการไปรษณีย์ประจำหมู่บ้าน จนกระทั่งมาถึงบ้านของตน พลันเปิดประตูเข้ามาเสียงดัง
" สำเร็จแล้วครับ! คุณตาคุณยาย ผมได้มาแล้ว จดหมายเชิญให้เข้ารับ การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี " อลันยิ้มดวยความภูมิใจ หน้าระรื่นแววตาเป็นประกาย ในมือถือซองจดหมายและกระดาษแผ่นหนึ่งที่จ่าหน้าถึงตนเอง
" ไหนขอตาดูหน่อยสิ " คุณตาโตเอ่ยขึ้นพร้อมขยับแว่นตา อลันยื่นจดหมายเชิญในมือให้กับคุณตาดู 74 คะแนนของข้อสอบปรนัย ไม่น้อยเลยสำหรับเด็กจากหมู่บ้านชนบทแห่งนี้
อาจฟังดูเหมือนไม่เท่าเทียม แต่การสอบข้อสอบปรนัยของทางสหพันธ์นั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในความรู้พื้นฐานของอาเคไทป์ ซึ่งจะหาได้จากหนังสือหลายเล่มในห้องสมุดประจำเมืองหลวง
ถึงอย่างไรก็ตามในหมู่บ้านเล็กๆนี้ ก็ยังพอมีหนังสือเก่าๆที่ให้ความรู้แก่อลันได้บ้าง และการสั่งสอนจากแม่ของตน เมลิสซาเธอมักจะกลับมาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิต พืชพันธุ์ และหินแร่อัญมณี ที่นำมาสอนอลันให้รู้จักโลกภายนอกมากขึ้น
การสั่งสอนจากคุณตา ที่คอยพาอลันเข้าป่าไปล่าสัตว์และหาของป่าตามฤดูกาล เทคนิคการเอาชีวิตรอดต่างๆ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้อลันมีความรู้ความสามารถมากเกินตัวยิ่งกว่าเด็กในเมืองเสียอีก
" อลันซะอย่าง หัวดีขนาดนี้แค่ข้อสอบคัดเลือก ทำได้สบายอยู่แล้ว " คุณยายแมรี่เสริม
หญิงชราผู้เป็นภรรยา คุณยายผมหยิกฟูขาวหงอก สวมแว่นตากลมโต ค่อยๆขยับตัวอย่างมีมารยาทราวกุลสตรีผู้ใจดี
" ใช่ไหมครับๆ ต่อจากนี้ผมจะได้เป็นนักสำรวจ แล้วออกเดินทางไปกับคุณแม่ได้สักที " อลันพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ บอกถึงความตั้งใจของตนที่มีมาอย่างช้านาน
" ฮ่าๆ สายเลือดนักสำรวจนี่มันเข้มข้นจริงๆเลยนะ " คุณตาหัวเราะ จนอลันมีท่าทางเขินอายเล็กน้อย ทุกคนต่างยิ้มอย่างมีความสุขกับความสำเร็จก้าวเล็กๆของหลานคนนี้
...หลายวันให้หลัง อลันกำลังจัดสัมภาระต่างๆ เตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง ด้วยสีหน้าและแววตาที่ตั้งใจจริง ทว่าก็เจือปนไปด้วยความเศร้าหมองในใจเล็กน้อย และความตื่นเต้นที่จะได้ออกไปผจญโลกกว้างเพียงลำพัง แต่ไร้ซึ่งเมลิสซาผู้เป็นแม่อยู่เคียงข้างในวันนี้
อลันโผเข้ากอดคุณตาและยาย โน้มตัวเข้าหาใบหน้าซุกเข้าที่หัวไหล่ กลิ่นอายของคนชราที่คุ้นเคย บัดนี้จำต้องจากลา
" ผมไปแล้วนะฮะ คุณตาคุณยายดูแลสุขภาพด้วยนะครับ "
" ขอให้โชคดีผ่านการคัดเลือกให้ได้นะหลานตา " คุณตาพูดพลางเอามือลูบหัวของอลัน
" โชคดีนะจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะ เดี๋ยวแม่หนูก็มาดูแลพวกเราเอง " คุณยายเอ่ยพร้อมกับตบไหล่ของหลานขณะโน้มตัวกอด
" ผมจะผ่านการคัดเลือกให้ได้ เผื่อคุณแม่กลับมาจะได้ดีใจกับพวกเราด้วย -- ไปแล้วนะฮะ " อลันโบกมือลาทั้งสอง พร้อมแบกสัมภาระเล็กๆของตน
ในวินาทีที่จากลานั้น ก็เหมือนเช่นภาพในอดีตที่ตาและยายคู่นี้เคยเห็นบุตรชายของตนจากลาไป ราวกับเวลาพึ่งจะล่วงเลยมาไม่นาน แววตาที่จ้องมองอลันแม้จะเป็นห่วงแต่ก็ไม่อาจห้ามให้เขาออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างที่ตั้งใจได้
ข้างหน้าบ้านบนทางเดินที่ทอดยาวไป มีเด็กผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลถักเปียเส้นใหญ่ ชุดเดรสสีเปลือกไม้ของเธอปลิวไปกับแรงลม ไหวไปพร้อมกับยอดหญ้าในทุ่งกว้าง
เอเลน่า (Elena) เด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียว กับอลัน เด็กในหมู่บ้านที่หาได้ยากนัก พ่อแม่ของเธอเป็นผู้พิทักษ์ ทำงานกับสมาคมผู้พิทักษ์แห่งเมดิโอลัน
อนิจจา... โลกนี้ช่างโหดร้าย ทั้งสองคนเสียชีวิตลงในสงครามเมื่อราวสิบปีก่อน ขณะที่ทำหน้าที่ปกป้องชายแดนของเมเลเดียน ในตอนนั้นเอเลน่ายังเด็กมาก จดจำใบหน้าของพวกเขาได้เพียงแค่ในรูปภาพเท่านั้น
โชคยังดีที่มีญาติของเธอและผู้คนในหมู่บ้านคอยเลี้ยงและดูแลจนเติบใหญ่ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนไม่นานญาติของเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคร้าย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เอเลน่าตั้งใจเอาไว้ว่า จะดูแลคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านทุกคนเหมือนเช่นที่ตนเคยถูกเลี้ยงดูมา
" เอเลน่า " อลันจ้องมองไปยังเด็กสาวที่เป็นเพื่อนคนเดียวของตนในยามนี้
" จะไปแล้วเหรอ อลัน " เอเลน่าเอ่ยปากถาม มือทั้งสองกุมกันไว้ เอี้ยวตัวเบนสายตาลงไปมองพื้น พูดอย่างแผ่วเบาจากน้ำเสียงที่อาลัย
" อืม ใช่แล้วล่ะ คราวหน้าไว้เอเลน่าไปสอบ ฉันก็จะมาส่งเหมือนกันนะ " อลันเอ่ยและยิ้มแก้มปริให้เธอ
" ฉันไม่ไปหรอก! การสอบแบบนั้น ถ้าไปใครจะคอยดูแลคนเฒ่าคนแก่ในเมืองกันละ " เอเลน่าตอบ
" เอเลน่า นี่ใจดีจัง คอยดูแลทุกคนอยู่ตลอดเลย "
" เชอะ " เธอเชิดหน้าใส่ทำหน้างอนนิดๆ เด็กหนุ่มผู้ไม่เข้าใจจิตใจของเด็กสาวเลยสักนิด
" ไปก่อนนะ " อลันค่อยๆเดินผ่านเอเลน่าไปอย่างช้าๆ เธอดึงชายเสื้อของอลันและพูดว่า
" ไม่ว่ายังไงต้องกลับมาที่นี่เสมอนะ อลัน
...สัญญานะ "
" ฉันสัญญา... " สิ้นสุดคำมั่นสัญญาของเด็กทั้งสอง
ท่ามกลางดวงตะวัน และแสงก่อนรุ่งอรุณที่คืบคลานขึ้นในท้องฟ้าทิศตะวันออก แดดอ่อนๆอันอบอุ่น สายลมพัดผ่านอย่างแผ่วเบา เด็กหนุ่มและเด็กสาวต่างร่ำลาจากกันไปด้วยความรู้สึกผูกพัน
อลันมุ่งหน้าออกเดินทางสู่สถานที่สอบของเมืองหลวง เตรียมพร้อมเข้ารับการสอบคัดเลือกที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันนี้ หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไรกันนะ...
ที่ใดมีเจตจำนง ที่นั่นย่อมมีหนทาง...
ทุกคนล้วนมีเส้นทางของตนเอง เพื่อเป้าหมายที่เรานั้นตั้งใจไว้ในอนาคต
แต่แท้จริงแล้วเส้นทางเดินของพวกเรานั้น มาจากเจตจำนงเสรีของเราหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ภาพมายาของเส้นใยแห่งโชคชะตา ที่ถักทอหนทางของผู้คนให้มาบรรจบกัน โดยที่เรานั้นไม่รู้ตัว
เช่นนั้นอะไรคือ เจตจำนงที่แท้จริงของคนเรากันแน่
ขอต้อนรับเข้าสู่การเดินทางของโลกแห่งมนายตนะ
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ
จบตอน.