การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง

เนื้อหา

Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง



Archetype

การสอบคัดเลือกอาเคไทป์

เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกๆปี ผู้มีความประสงค์ในการเข้ารับทดสอบเพื่อคัดเลือก จะต้องส่งจดหมายยื่นคำร้องในการขอเข้ารับการทดสอบแก่ " สหพันธ์คณะกรรมการควบคุมการสอบอาเคไทป์แห่งภาคพื้น " จัดตั้งโดยประเทศเมเลเดียน แห่งทวีปฝั่งตะวันออก 

โดยสหพันธ์จะทำการตรวจสอบผู้ยื่นคำร้อง เพื่อให้ตรงกับเกณฑ์เข้ารับการทดสอบ ดังนี้

1. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 18 ปี (เนื่องด้วยผู้เข้ารับการทดสอบที่ผ่านเกณฑ์แล้วจะต้องแสดงเจตจำนงต่อศิลาอนิม่า (Anima) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการใช้พลังของอาเคไทป์อย่างชัดเจน หากอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนดการแสดงเจตจำนงจะคลุมเครือ ทำให้ยากต่อการแบ่งไทป์มากขึ้น)

2. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องร่างกายสมบูรณ์พร้อม * หากแต่ได้รับการยกเว้นจากสมาคมใดสมาคมหนึ่งในสมาคมของอาเคไทป์ทั้งหก * (สืบเนื่องมาจากอาจเกิดปัญหาในการเข้ารับทำงานในสังกัดสมาคมด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย เว้นแต่ทางสมาคมพิจารณาแล้วจะเห็นชอบให้รับเข้าสังกัดโดยได้รับการยกเว้น) 

3. ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องทำข้อสอบวัดความรู้โดยเกณฑ์การผ่านคือเกิน 50 คะแนน เป็นการวัดระดับความรู้ความสามารถพื้นฐานโดยข้อสอบปรนัยของทางสหพันธ์

หลังจากผ่านเกณฑ์ทั้งหมด ทางสหพันธ์จะทำการส่งจดหมายเชิญ ให้เข้ารับการคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี ผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องเดินทางไปยังสนามสอบหลักของทางสหพันธ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใหญ่ใจกลางของทั้งสามทวีป ใกล้กับเมืองนาราน 

ภายหลังจากที่กระบวนการทดสอบทั้งหมดเสร็จสิ้น ในขั้นตอนสุดท้ายผู้เข้าสอบที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องแสดงเจตจำนงของตนผ่านทางหินรูนอนิม่า เพื่อแบ่งแยกไทป์ของตน และจะได้รับการคัดเลือกเข้าสู่สมาคมต่างๆ ของอาเคไทป์อย่างเหมาะสม


ณ ห้องประชุมของสถานที่คัดเลือกผู้เข้ารับการทดสอบอาเคไทป์ในปีนั้น หอคอยสูงตระหง่านเห็นเด่นชัดเหนือเมืองนาราน โต๊ะไม้ทรงรีที่มีคณะกรรมการนั่งอยู่ประจำตำแหน่ง บุรุษและสตรีผู้ทรงคุณวุฒิราวหกท่าน 

" อะไรกัน ปีนี้สอบผ่านแค่ทีมเดียวเองเหรอ "

กรรมการผู้ดูแลการสอบ ท่านนึงกล่าวกลางที่ประชุม ด้วยความสงสัยในการสอบที่มีผู้ผ่านการคัดเลือกน้อยนิดกว่าปีอื่นๆ 

" ตัวเลือกในปีนี้ มันจะน้อยไปรึเปล่า " กรรมการอีกท่านกล่าวเสริม

" ไม่เป็นไรหรอกมั้ง.... เจ้าพวกชนเผ่าทะเลทราย มันเก่งจะตาย แค่หกคนก็ใช้งานได้เหลือๆ " อีกท่านกล่าวถึงเด็กหนุ่มสาวกลุ่มสุดท้าย

ที่สังเกตได้ว่าเป็นผู้ที่มาจากชนเผ่าทะเลทราย เห็นได้ชัดจากลักษณะเฉพาะของชนเผ่าพื้นเมืองนี้ สีผิวที่เข้มและการแต่งกายที่แสดงให้เห็นโดดเด่นต่างจากผู้คนในเมืองทั่วไป เป็นที่ถูกเถียงกันบนโต๊ะประชุมของเหล่า กรรมการผู้ดูแลการคุมสอบในเวลานี้ 

การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปีที่มีผู้เข้าคัดเลือกกว่าร้อยคน และปีนี้มีเพียง 1 ทีมเท่านั้นที่ผ่านการสอบในขั้นสุดท้าย

ภายหลังจากสิ้นสุดการประชุม เหล่ากรรมการคุมสอบยืนประจัญหน้าเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนั้น เพื่อประกาศผลสอบในขั้นตอนสุดท้าย

 ในเงามืดของหอคอย เด็กหนุ่มสาวทั้งหกผู้ผ่านการคัดเลือก ได้จ้องมองมาด้วยแววตาที่มุ่งมั่นและเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

" ยุติการสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี !! "

ประกาศเสียงดังขึ้นจากคณะกรรมการ เป็นอันเสร็จสิ้นการสอบในปีนั้นลง....




ในเวลาต่อมา...

ค่ำคืนหนึ่ง ณ หมู่บ้านวินด์วิล 

หมู่บ้านชนบทเล็กๆที่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก สายฝนพรำยามค่ำคืน ความเงียบสงบของหมู่บ้านแห่งนี้ ได้ยินเพียงแค่เสียงกบร้องคลอไปกับหยดน้ำที่ตกลงมา กระทบกับผืนดินและใบหญ้า ฟังดูไพเราะราวกับเสียงเพลงของธรรมชาติ

หญิงผู้หนึ่งสวมผ้าคลุมสีขาวงาช้าง แบกกระเป๋าหนังใบใหญ่สะพายขึ้นหลัง ก้าวฝีเท้าเหยียบย่ำลงพื้นที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนจนสาดกระเซ็น

" ออกเดินทางตอนนี้เลยหรือ เมลิสซา " ชายชราผู้ถือร่มกันฝนเอ่ยทักหญิงสาวเบื้องหน้า เธอกำลังก้าวย่างอย่างช้าๆท่ามกลางฝนโปรยปราย 


Melissa (เมลิสซา นักสำรวจแห่งเมดิโอลัน)

อาเคไทป์ : นักสำรวจ ระดับตรา : ทองคำ

" อือ... ฝากดูแลอลันด้วยนะ คุณโจ " เมลิสซาเอ่ย หญิงสาวผู้สวมผ้าคลุมปิดศีรษะมิดชิด และติดเข็มกลัดทองคำ ตราสัญลักษณ์ของนักสำรวจเอาไว้บนปกเสื้อ 

" ขนข้าวของไปเยอะขนาดนี้ คงไม่ได้ไปแค่ชั่วครู่ใช่ไหม " คุณตาโจ ชายชรารูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ สวมแว่นตากลม มีหนวดเคราขาวสั้น บุคลิกท่าทางดูใจดี แววตานั้นยิ้มอยู่เสมอ

เฝ้ามองดูตามประสาคนเฒ่าคนแก่ที่เอ็นดูเธอ แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ คุณโจก็เป็นห่วงและรักใคร่เธอและลูกมาก 

เมลิสซา หญิงสาวที่มีลูกติดอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มาตั้งแต่อลันที่เป็นบุตรชายยังแบบเบาะ คุณโจเลี้ยงดูพวกเขาราวกับลูกบุญธรรม แม้ว่าเธอเองจะไม่เคยเรียกชายผู้นี้ว่าพ่อก็ตาม แต่ด้วยความรักความผูกพัน เธอให้เกียรติเรียกชายชราผู้นี้ด้วยคำนำหน้าว่า "คุณ" เสมอ และวางตัวอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เรื่อยมา

" ภารกิจครั้งนี้สำคัญมาก คงจะใช้เวลานานกว่าปกติพอสมควร " เมลิสซาหยุดฝีเท้านิ่งไม่ไหวติง ตั้งใจตอบออกมาอย่างแน่วแน่ ท่อนขานั้นมันชะงักราวกับว่าไม่อยากที่จะก้าวเดินต่อ 

" เฮ้อ... เมลิสซา ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ แต่ก็ขอพูดในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง 

อลันกำลังโตขึ้นทุกวัน เขาต้องการคนดูแลและชี้นำเส้นทางชีวิตให้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงจะถึงเวลาคัดเลือกอาเคไทป์แล้ว

ถึงวันนั้นเขาคงจะเป็นนักสำรวจเหมือนกับเธอ คงอยากให้เธอภูมิใจ " คุณตาโจถอนหายใจ และเอ่ยขึ้นเพื่อให้คำแนะนำด้วยความเป็นห่วงในสายสัมพันธ์ของแม่ลูก 

" ......... " เธอไม่มีคำพูดใดตอบ แม้ฝืนทนกล้ำกลืนจนน้ำตาซึมคลอเบ้า ภายใต้ผ้าคลุมสีขาวที่ปกปิดครึ่งนึงของใบหน้าเอาไว้ เปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำพร้อมกับฝนที่ตกอยู่ภายในใจ 

" มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ภารกิจนี้ " คุณตาโจเอ่ยปากถาม


" สำคัญ.... " 

" .......... " 

" ไม่ว่ายังไง ฉันต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ชีวิตของทุกคนบนโลกนี้ขึ้นอยู่กับมัน " เมลิสซาเอ่ยขึ้นอย่างแน่วแน่และหนักแน่น แม้นว่าจะต้องแลกมาด้วยการตัดขาดจากบุตรชายของตน จำใจต้องปล่อยมือให้เขาเผชิญกับโลกกว้างเบื้องหน้าด้วยตัวเอง บ่งบอกถึงความสำคัญของภารกิจนี้อย่างเลือกไม่ได้ 

" คนแก่อย่างฉันคงไม่มีทางรู้ว่าพวกเธอ ทำอะไรกันอยู่ ดึงดันรั้งเธอไว้เห็นทีคงจะไม่ได้ 

ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขออวยพรให้เธอโชคดี ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ฉันจะดูแลอลันให้เอง " คุณตาโจเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจไม่น้อย แต่ก็ปลอบประโลมเธอด้วยคำพูดที่ตนยึดมั่น พร้อมที่จะดูแลหลานชายบุญธรรมให้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล และยิ้มเพื่อบอกลาอย่างอ่อนโยน

" ขอบคุณนะ คุณโจ " เมลิสซาเดินจากไปท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายในความมืดมิดยามค่ำคืน ไม่แม้จะหันหลังกลับมามอง ถ้าหากว่าหันกลับไปคงจะฝืนทนก้าวเดินต่อไปข้างหน้าไม่ไหว ยอมทนกลั้นใจมิให้ไหวหวั่นในสิ่งที่ตนนั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว...




หลายปีต่อมา...

ในหมู่บ้านวินด์วิล หมู่บ้านเล็กๆเยื้องไปทางตอนใต้ของเมืองหลวงเมดิโอลัน ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา หน้าผาสูงชันติดกับมหาสมุทร ภูเขาสูงเต็มไปด้วยไม้ใหญ่ ลมจากทะเลที่พัดผ่านแมกไม้ กลิ่นอายของเกลือปนกับเกสรดอกไม้และไอดิน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อวินด์วิล (Windvill) แด่สายลมนำพา 

ชนบทที่เงียบสงบและห่างไกล ผู้คนที่อยู่กันอย่างสงบสุขและสันโดษ หมู่บ้านแห่งนี้มีเพียงแค่สาธารณูปโภคพื้นฐานเท่านั้น สถานรักษาพยาบาล ห้องสมุดเล็กๆและบ้านเรือน ไร้ซึ่งแสงสีเสียงดั่งเช่นเมืองใหญ่ แต่ก็มีมนต์สะกดของธรรมชาติอย่างต้องตาต้องใจ

ที่แห่งนี้มีเพียงแค่คนเฒ่าคนแก่อยู่กับอย่างมีไมตรี เนื่องจากมันอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงนัก เหล่าคนหนุ่มสาวที่ส่วนมากจะเข้าคัดเลือกอาเคไทป์ ต่อมาได้เข้ารับตำแหน่ง ทำงานภายใต้สังกัดของสมาคมต่างๆ และย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในเมืองใหญ่ตามสมาคมของตน บัดนี้หมู่บ้านจึงเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยของผู้สูงวัยที่เกษียณแล้วเท่านั้นเอง

ถึงกระนั้นก็ยังคงมีเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนเงาเป็นประกายกับแดดยามเช้า วิ่งอย่างกระตือรือร้น เสียงฝีเท้าดังอย่างกับม้าควบเกือกลงบนผืนดิน ว่องไวซะจนสายตาคนแก่นั้นมองไม่ทัน ในมือถือกระดาษพร้อมด้วยซองจดหมายที่ถูกปิดผนึก โดยตราสัญลักษณ์ของสหพันธ์ ชาวบ้านในเมืองต่างตะโกนถาม และพูดคุยอย่างเอ็นดู

" อ้าว.... จะรีบวิ่งไปไหนหรือ อลัน " ชายชราผู้หนึ่งเอ่ยถามระหว่างทาง


อลัน (Alun) เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีอำพันเปล่งประกายทอแสงสีทอง ผิวพรรณสดใสขาวผุดผ่อง

" จะรีบไปบอกคุณตาคุณยายฮะ ผมได้จดหมายมาแล้ว ไปก่อนนะฮะ " อลันหันหลังทั้งๆที่ยังซอยเท้าอยู่ตอบกลับชายชรา และโบกมือจากไปด้วยความร้อนรน

" โฮ่ๆ มุ่งมั่นจังเลยนะ เด็กๆสมัยนี้ " 

อลันรีบวิ่งมาจากที่ทำการไปรษณีย์ประจำหมู่บ้าน จนกระทั่งมาถึงบ้านของตน พลันเปิดประตูเข้ามาเสียงดัง

" สำเร็จแล้วครับ! คุณตาคุณยาย ผมได้มาแล้ว จดหมายเชิญให้เข้ารับ การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ประจำปี " อลันยิ้มดวยความภูมิใจ หน้าระรื่นแววตาเป็นประกาย ในมือถือซองจดหมายและกระดาษแผ่นหนึ่งที่จ่าหน้าถึงตนเอง

" ไหนขอตาดูหน่อยสิ " คุณตาโตเอ่ยขึ้นพร้อมขยับแว่นตา อลันยื่นจดหมายเชิญในมือให้กับคุณตาดู 74 คะแนนของข้อสอบปรนัย ไม่น้อยเลยสำหรับเด็กจากหมู่บ้านชนบทแห่งนี้ 

อาจฟังดูเหมือนไม่เท่าเทียม แต่การสอบข้อสอบปรนัยของทางสหพันธ์นั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในความรู้พื้นฐานของอาเคไทป์ ซึ่งจะหาได้จากหนังสือหลายเล่มในห้องสมุดประจำเมืองหลวง 

ถึงอย่างไรก็ตามในหมู่บ้านเล็กๆนี้ ก็ยังพอมีหนังสือเก่าๆที่ให้ความรู้แก่อลันได้บ้าง และการสั่งสอนจากแม่ของตน เมลิสซาเธอมักจะกลับมาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิต พืชพันธุ์ และหินแร่อัญมณี ที่นำมาสอนอลันให้รู้จักโลกภายนอกมากขึ้น 

การสั่งสอนจากคุณตา ที่คอยพาอลันเข้าป่าไปล่าสัตว์และหาของป่าตามฤดูกาล เทคนิคการเอาชีวิตรอดต่างๆ สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้อลันมีความรู้ความสามารถมากเกินตัวยิ่งกว่าเด็กในเมืองเสียอีก 

" อลันซะอย่าง หัวดีขนาดนี้แค่ข้อสอบคัดเลือก ทำได้สบายอยู่แล้ว " คุณยายแมรี่เสริม

หญิงชราผู้เป็นภรรยา คุณยายผมหยิกฟูขาวหงอก สวมแว่นตากลมโต ค่อยๆขยับตัวอย่างมีมารยาทราวกุลสตรีผู้ใจดี

" ใช่ไหมครับๆ ต่อจากนี้ผมจะได้เป็นนักสำรวจ แล้วออกเดินทางไปกับคุณแม่ได้สักที " อลันพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ บอกถึงความตั้งใจของตนที่มีมาอย่างช้านาน

" ฮ่าๆ สายเลือดนักสำรวจนี่มันเข้มข้นจริงๆเลยนะ " คุณตาหัวเราะ จนอลันมีท่าทางเขินอายเล็กน้อย ทุกคนต่างยิ้มอย่างมีความสุขกับความสำเร็จก้าวเล็กๆของหลานคนนี้ 


...หลายวันให้หลัง อลันกำลังจัดสัมภาระต่างๆ เตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง ด้วยสีหน้าและแววตาที่ตั้งใจจริง ทว่าก็เจือปนไปด้วยความเศร้าหมองในใจเล็กน้อย และความตื่นเต้นที่จะได้ออกไปผจญโลกกว้างเพียงลำพัง แต่ไร้ซึ่งเมลิสซาผู้เป็นแม่อยู่เคียงข้างในวันนี้ 

อลันโผเข้ากอดคุณตาและยาย โน้มตัวเข้าหาใบหน้าซุกเข้าที่หัวไหล่ กลิ่นอายของคนชราที่คุ้นเคย บัดนี้จำต้องจากลา

" ผมไปแล้วนะฮะ คุณตาคุณยายดูแลสุขภาพด้วยนะครับ " 

" ขอให้โชคดีผ่านการคัดเลือกให้ได้นะหลานตา " คุณตาพูดพลางเอามือลูบหัวของอลัน

" โชคดีนะจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะ เดี๋ยวแม่หนูก็มาดูแลพวกเราเอง " คุณยายเอ่ยพร้อมกับตบไหล่ของหลานขณะโน้มตัวกอด

" ผมจะผ่านการคัดเลือกให้ได้ เผื่อคุณแม่กลับมาจะได้ดีใจกับพวกเราด้วย -- ไปแล้วนะฮะ " อลันโบกมือลาทั้งสอง พร้อมแบกสัมภาระเล็กๆของตน

ในวินาทีที่จากลานั้น ก็เหมือนเช่นภาพในอดีตที่ตาและยายคู่นี้เคยเห็นบุตรชายของตนจากลาไป ราวกับเวลาพึ่งจะล่วงเลยมาไม่นาน แววตาที่จ้องมองอลันแม้จะเป็นห่วงแต่ก็ไม่อาจห้ามให้เขาออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างที่ตั้งใจได้ 

ข้างหน้าบ้านบนทางเดินที่ทอดยาวไป มีเด็กผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลถักเปียเส้นใหญ่ ชุดเดรสสีเปลือกไม้ของเธอปลิวไปกับแรงลม ไหวไปพร้อมกับยอดหญ้าในทุ่งกว้าง 


เอเลน่า (Elena) เด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียว กับอลัน เด็กในหมู่บ้านที่หาได้ยากนัก พ่อแม่ของเธอเป็นผู้พิทักษ์ ทำงานกับสมาคมผู้พิทักษ์แห่งเมดิโอลัน

อนิจจา... โลกนี้ช่างโหดร้าย ทั้งสองคนเสียชีวิตลงในสงครามเมื่อราวสิบปีก่อน ขณะที่ทำหน้าที่ปกป้องชายแดนของเมเลเดียน ในตอนนั้นเอเลน่ายังเด็กมาก จดจำใบหน้าของพวกเขาได้เพียงแค่ในรูปภาพเท่านั้น 

โชคยังดีที่มีญาติของเธอและผู้คนในหมู่บ้านคอยเลี้ยงและดูแลจนเติบใหญ่ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนไม่นานญาติของเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคร้าย ด้วยเหตุนี้เองทำให้เอเลน่าตั้งใจเอาไว้ว่า จะดูแลคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านทุกคนเหมือนเช่นที่ตนเคยถูกเลี้ยงดูมา 

" เอเลน่า " อลันจ้องมองไปยังเด็กสาวที่เป็นเพื่อนคนเดียวของตนในยามนี้

" จะไปแล้วเหรอ อลัน " เอเลน่าเอ่ยปากถาม มือทั้งสองกุมกันไว้ เอี้ยวตัวเบนสายตาลงไปมองพื้น พูดอย่างแผ่วเบาจากน้ำเสียงที่อาลัย 

" อืม ใช่แล้วล่ะ คราวหน้าไว้เอเลน่าไปสอบ ฉันก็จะมาส่งเหมือนกันนะ " อลันเอ่ยและยิ้มแก้มปริให้เธอ

" ฉันไม่ไปหรอก! การสอบแบบนั้น ถ้าไปใครจะคอยดูแลคนเฒ่าคนแก่ในเมืองกันละ " เอเลน่าตอบ

" เอเลน่า นี่ใจดีจัง คอยดูแลทุกคนอยู่ตลอดเลย "

" เชอะ " เธอเชิดหน้าใส่ทำหน้างอนนิดๆ เด็กหนุ่มผู้ไม่เข้าใจจิตใจของเด็กสาวเลยสักนิด 

" ไปก่อนนะ " อลันค่อยๆเดินผ่านเอเลน่าไปอย่างช้าๆ เธอดึงชายเสื้อของอลันและพูดว่า

" ไม่ว่ายังไงต้องกลับมาที่นี่เสมอนะ อลัน 

...สัญญานะ " 

" ฉันสัญญา... " สิ้นสุดคำมั่นสัญญาของเด็กทั้งสอง

ท่ามกลางดวงตะวัน และแสงก่อนรุ่งอรุณที่คืบคลานขึ้นในท้องฟ้าทิศตะวันออก แดดอ่อนๆอันอบอุ่น สายลมพัดผ่านอย่างแผ่วเบา เด็กหนุ่มและเด็กสาวต่างร่ำลาจากกันไปด้วยความรู้สึกผูกพัน

อลันมุ่งหน้าออกเดินทางสู่สถานที่สอบของเมืองหลวง เตรียมพร้อมเข้ารับการสอบคัดเลือกที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันนี้ หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไรกันนะ...




ที่ใดมีเจตจำนง ที่นั่นย่อมมีหนทาง...

ทุกคนล้วนมีเส้นทางของตนเอง เพื่อเป้าหมายที่เรานั้นตั้งใจไว้ในอนาคต

แต่แท้จริงแล้วเส้นทางเดินของพวกเรานั้น มาจากเจตจำนงเสรีของเราหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ภาพมายาของเส้นใยแห่งโชคชะตา ที่ถักทอหนทางของผู้คนให้มาบรรจบกัน โดยที่เรานั้นไม่รู้ตัว 

เช่นนั้นอะไรคือ เจตจำนงที่แท้จริงของคนเรากันแน่

ขอต้อนรับเข้าสู่การเดินทางของโลกแห่งมนายตนะ 

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ


จบตอน.