การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
เช้าวันใหม่ของเมืองใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้น
ณ เมืองเมดิโอลัน ประเทศเมเลเดียน ทวีปฝั่งตะวันออก (Mediolun Capital City)
ไออุ่นยามเช้า เสียงนกร้องเจี๊ยวจ๊าวที่พึ่งออกจากรัง กลิ่นดินจากคนสวนที่กำลังรดน้ำแปลงดอกไม้อยู่ ละอองหอมหวานคล้ายรสพีชของพันธุ์กุหลาบลอยเตะจมูก และชาเอิร์ลเกรย์รสโปรดของลอร์ดไบรอันหอมอบอวล
เป็นประจำในทุกๆเช้าก่อนเริ่มงาน ลอร์ดไบรอันมักจะมานั่งจิบชาในสวนข้างๆปราสาท ที่อยู่ติดกับสภาตุลาการที่ทำงานของตน
สภาตุลาการมีหน้าที่ในการดูแลควบคุมกฎหมายข้อบังคับต่างๆ บริหารงานด้านการเมืองและกฎหมายทั้งในและนอกประเทศ เป็นสภาเดียวที่อยู่ใกล้กับปราสาทราชวัง ที่องค์ราชาทรงอนุญาตให้ใช้สถานที่ของปราสาทและสวนเพื่อการสันทนาการได้
ลูกรักของกษัตริย์ ผู้คนเรียกสภานี้ด้วยนิยามแบบนั้น ลอร์ดมาเอลคนพ่อนั้น สร้างผลงานเอาไว้ดีเป็นที่วางใจขององค์ราชาแห่งเมดิโอลัน แน่นอนว่าเขาสั่งสอนลูกของตนมาเป็นอย่างดี ลอร์ดไบรอัน มาเอล คนลูกจึงได้รับความวางใจจากกษัตริย์ไม่น้อยไปกว่าพ่อ
ท่านลอร์ดคนนี้มีเชื้อสายขุนนาง ชายหนุ่มวัยกลางคน รูปร่างสันทัด ผิวพรรณขาวผ่องใส ผมเนี๊ยบเรียบเป็นทรง ในชุดสูทที่ตัดมาอย่างเป็นทางการ
Lord Bryan Mael (ลอร์ดไบรอันมาเอล ตุลาการสูงสุดแห่งเมดิโอลัน)
อาเคไทป์ : ผู้ควบคุม ระดับตรา : ทองคำ
ทุกคนต่างให้ความเคารพและยำเกรงในตัวของลอร์ดไบรอัน ด้วยความสามารถอันชาญฉลาดและเก่งกาจในงานของแผ่นดิน ทั้งยังชาติตระกูลดี วางตัวอย่างเหมาะสม เคร่งขรึมน้ำเสียงเยือกเย็นแต่ทุ้มนุ่มนวลราวกับหิมะ
ลอร์ดผู้นี้กำลังนั่งจิบชาฆ่าเวลารอบางอย่างอยู่ นิสัยของเขาไม่ชอบให้ใครมารอตัวเอง มันดูเหมือนเสียมารยาท จึงมักจะมาก่อนเวลาเสมอ
ไม่นานนักสิ่งที่เขากำลังรออยู่ก็มาถึง....
" จะออกเดินทางกันแล้วใช่มั้ย " อัลวินเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยี้ตาพลางเกาหัวแกรกๆไปด้วย
Alwin (อัลวิน ปราชญ์แห่งเมืองหลวงเมดิโอลัน)
อาเคไทป์ : ผู้รอบรู้ ระดับตรา : ทองคำ
ปราชญ์แห่งเมืองหลวง สมญานามนี้ไม่ได้มาง่ายๆ เพราะความรอบรู้ของอัลวิน ทั้งในเรื่องวิทยาการสมัยใหม่และศาสตร์โบราณ พฤกษศาสตร์ ชีววิทยา ธรณีวิทยา ศาสตร์อีกมากมายหลายแขนง เขาจึงดำรงตำแหน่งผู้รอบรู้ตราทองคำ ประธานผู้ดูแลสูงสุดของสมาคมผู้รอบรู้แห่งเมืองหลวง และปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
ชายหนุ่มวัยกลางคน ที่ดูเหมือนจะเป็นอัจฉริยะ รูปร่างสูงโปร่งแต่แข็งแรง สังเกตได้จากกล้ามเนื้อใต้เสื้อสีดำแขนสามส่วนพอดีตัวของเขา คลุมไว้ด้วยโค้ทสีขาวตัวยาวของทางสมาคม และตราสัญลักษณ์ที่ติดไว้อย่างเบี้ยวๆบนโค้ท ทว่าผมเผ้ายาวรุงรังเหมือนมันไม่เคยหวีมาก่อน ปลายผมสีดำแต่โคนกลับเทา เขายังไม่แก่ถึงขนาดที่มันจะหงอก แต่เป็นเพราะพลังบางอย่างของเขาที่ทำให้มันเป็นเช่นนั้น
ขี้เกียจ คือคำนิยามที่ถูกต้องสำหรับอัลวิน ปราชญ์แห่งเมืองหลวง ไฉนถึงเป็นเช่นนั้น อัลวินมักจะเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างมาก พอหมดความสงสัยในสิ่งนั้น เรียนรู้และเข้าใจมันเป็นอย่างดีแล้ว เขาจะเลิกสนใจมันไปโดยปริยาย อะไรก็ตามที่ดึงความสนใจจากชายคนนี้ไปไม่ได้ เขาจะไม่ยุ่งกับมันเด็ดขาด โดยเฉพาะงานที่ต้องทำเป็นประจำในทุกๆวัน เอกสารการสำรวจ วิทยานิพนธ์ที่ต้องตรวจทาน หนังสืออนุมัติสร้างสิ่งต่างๆของทางสมาคม งานที่กองไว้เป็นพะเนิน และเขาก็นอนบนกองกระดาษมันทั้งยังงั้น " ขี้เกียจว้อย " คือคำพูดติดปาก
อัลวินเป็นสิ่งมีชีวิตที่จะลืมตาตื่นขึ้นหลังจากที่ตะวันขึ้นเลยกลางศีรษะไปแล้วเท่านั้น เขาเกลียดการถูกลากออกจากที่นอน ทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ที่นอนด้วยซ้ำ แต่ในวันสำคัญเช่นนี้เขากลับทึ้งเปลือกตาขึ้นแต่เช้าตรู่ และยอมออกมาทำหน้าที่ของตน พร้อมกับอีกหลายคนที่มีภารกิจเดียวกัน
" เป็นถึงปราชญ์แห่งเมืองหลวง ไม่คิดจะแต่งตัวให้สุภาพหน่อยรึ อัลวิน " ลอร์ดไบรอันกล่าวขณะนั่งจิบชา
"แค่นี้ก็ไม่มีเวลาจะนอนอยู่แล้ว หาววว " อัลวินพูดพลางขยี้ตาก้าวเดินอย่างเฉื่อยชา
" ชาหน่อยไหม " ท่านลอร์ดถาม
" กาแฟไม่มีเหรอไง ฉันต้องการคาเฟอีน " อัลวินเหลือบตามองไปทั่วโต๊ะ
" ชาก็มีคาเฟอีน "
" มันไม่ใช่กาแฟ!! " อัลวินเริ่มหงุดหงิดเพราะขาดคาเฟอีน ชายผู้นี้ติดกาแฟอย่างมาก หลังอาหารสามมื้อต่อวัน ไม่นับช่วงของว่าง
" นี่เราจะมาถกกันเรื่องคาเฟอีนหรืออะไร
คาลิน่าอยู่ไหนเนี่ย จะถึงเวลาสอบคัดเลือกแล้วนะ "
อัลวินอาจเป็นคนเดียวที่กล้าถกเถียงประชันเสียงกับลอร์ดไบรอันโดยไม่มีความยำเกรง เขาอยากกวนประสาทลอร์ดไบรอัน ลึกๆแล้วเขาคาดหวังว่าไบรอันคงจะฟิวส์ขาดเข้าสักวัน และขออนุญาตองค์ราชาให้มีหนังสือถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งที่ตัวเขาไม่ได้ต้องการ เห็นได้จากการแต่งกายที่ไร้มารยาท เข็มกลัดก็ติดไว้อย่างประชดประชันไม่ใส่ใจตลอดเวลา
" คาลิน่าคงกำลังไปตรวจสอบ เพื่อเตรียมความพร้อมของสนามสอบที่หนึ่งอยู่ "
" แล้วท่านแม่ทัพของเราล่ะ " อัลวินถาม
" แม็กซ์เวลทำภารกิจตรวจตราชายแดน เสร็จแล้วคงรออยู่ที่สนามสอบ ส่วนเคย์นรออยู่ด้านหน้าตรงนั้น " ลอร์ดไบรอันเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
อัลวินพลางชายตายักคิ้วไปมองด้านนอกของสวน เห็นบุรุษร่างใหญ่ยืนกอดอกรออยู่ นั่นแหละเคย์น ผู้พิทักษ์ เขาเบะปากเล็กน้อยก่อนที่จะกรอกตากลับมา
Káene (เคย์น ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์)
อาเคไทป์ : ผู้พิทักษ์ ระดับตรา : ทองคำ
บุรุษร่างกายสูงใหญ่กำยำ ผิวสีแทนผมสั้น สวมเกราะป้องกัน ติดเข็มกลัดตราสัญลักษณ์ไว้ที่ปกเสื้อโค้ทคอเต่าใต้ชุดเกราะ หน้าตาถมึงทึง
เคย์นนั้นแทบจะตรงกันข้ามกับอัลวิน เขาเป็นคนจริงจังและมีเกียรติ ให้ความเคารพในตัวลอร์ดไบรอันเสมอ เขาภูมิใจกับตำแหน่งที่ได้รับ กษัตริย์ทรงไว้ใจในความภักดีและซื่อสัตย์ของเคย์น เขาปฏิญาณตนว่าจะปกป้ององค์ราชาและรัชทายาทจนกว่าชีวิตจะหาไม่
หน้าที่มาก่อนเสมอ บุรุษจากหมู่บ้านชายฝั่งทะเล ด้วยความสามารถและความอุตสาหะ เขาไต่เต้าจากผู้พิทักษ์ฝึกหัดจนกระทั่งมาได้ถึงระดับนี้ แท้จริงแล้วชายผู้นี้เป็นคนรักสนุก แต่ความรับผิดชอบค้ำคอเขาไว้จึงวางตัวเช่นนี้ ความเหยาะแหยะของอัลวิน ทำให้ทั้งสองไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันเท่าไหร่
แต่ทั้งสามต่างก็เป็นคนที่กษัตริย์แห่งเมดิโอลันไว้ใจ ให้ทำหน้าที่คัดเลือกอาเคไทป์ของเด็กหนุ่มสาว จึงกลายมาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของการสอบในปัจจุบัน
ทว่ามันอาจจะไม่ใช่แค่การสอบคัดเลือกทั่วไป พวกเขากำลังมองหาบางสิ่งที่พิเศษอยู่...
" ไปกันได้แล้วอัลวิน อย่าให้คนอื่นต้องคอย " ชายังไม่ทันหมดแก้ว ลอร์ดไบรอันลุกขึ้นอย่างสุภาพและออกก้าวนำไป
" คร๊าบๆ ท่านลอร์ด " สลอธผู้เฉื่อยชาที่เปลือกตาเปิดอยู่เพียงครึ่งเดียวย่ำเดินตาม
ลมพัดเข้าปะทะหน้า ยังคงได้กลิ่นของทะเลโชยมา รถไฟจากหมู่บ้านวินด์วิลแล่นเลียบหน้าผาชายฝั่ง นอกหน้าต่างนกนางแอ่นกำลังถลาเล่นลมดั่งว่าวลอยสูงเหนือน่านฟ้า
ตายายและเอเลน่ายืนโบกมือลาบนชานชาลารถไฟ เป็นภาพจำติดตาของอลันในวันนี้ " โชคดีนะ อลัน " คำพูดอวยพรที่ส่งกำลังใจให้รู้สึกชื่นมื่น
แต่ก็ไม่วายทำให้หวนนึกถึงวันวานในวัยเด็ก ที่ตนนั้นโบกมือลาแม่ที่จากไปกับขบวนรถไฟหลายต่อหลายครั้งจนนับจำนวนไม่ได้ พลันให้ความรู้สึกเหงาเศร้าสร้อยขึ้นมาทันตา
' ไม่ได้อลัน อย่าวอกแวก ' เด็กหนุ่มพลันนึกขึ้นในใจ กลืนความรู้สึกลงไปอึกใหญ่ยังกับกระเดือกน้ำลาย ครั้งนี้เขาจะต้องทำให้ได้ หากว่าครั้งนี้สอบคัดเลือกไม่ผ่าน จะต้องรอไปอีกหนึ่งปี ซึ่งคงอดทนรอไม่ไหวจึงเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างจริงจัง ณ ปลายสุดขอบฟ้าของมหาสมุทร ด้วยแววตามุ่งมั่นพร้อมก้าวเดินต่อ
ไม่นานนักรถไฟก็ใกล้ถึงสถานีของเมืองสโตนเกท (Stonegate Valley) หมู่บ้านริมผาตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวง ระหว่างเส้นทางไปสู่เมืองนาราน
กลิ่นถ่านหินและโลหะ ลอยมากระตุ้นประสาทสัมผัสความอยากรู้อยากเห็นของอลัน หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ลึกลงไปในช่องหุบเขา บ้านเรือนเรียงรายกันไปตามหน้าผาสูง ปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับมีหินแร่อัญมณีหลายชนิดที่ตกผลึกจากศิลาอนิม่า ผุดขึ้นตามขอบภูเขาไฟเรียงรายกันยังกับยางไม้เรซิ่นหลากสี จมอยู่ใต้ท้องทะเล ยามแสงอาทิตย์สาดส่องลงไปสะท้อน ทำให้ดูสวยงามแปลกตา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Minervol หรือ ปล่องแร่
สโตนเกทนับว่าเป็นแหล่งสัมปทานที่คอยผลิตโลหะและหินแร่ต่างๆส่งให้กับเมดิโอลัน ถึงแม้จะมีอัญมณีอยู่บ้างแต่คุณภาพก็ไม่ดีเท่าฟุกุนิ ที่เป็นเกาะแห่งภูเขาไฟมีกันอยู่หลายลูก
อลันมองจากริมหน้าต่างเห็นวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน แค่เพียงออกจากหมู่บ้านมาไม่ไกล ก็ทำให้เขาตื่นตาตื่นใจขนาดนี้
เด็กหนุ่มพลันเหลือบไปเห็นชายแก่เครายาว สวมกางเกงเอี๊ยมกำลังจุดยาเส้นในไปป์ของเขา จึงโบกมือเป็นการทักทาย ชายแก่ผู้นั้นมองเห็นเด็กหนุ่มที่ตาเป็นประกาย จึงยกนิ้วขึ้นสองนิ้วแตะปลายคิ้วและตวัดมันลง ให้เป็นสัญลักษณ์บอกว่า ' โชคดีไอ้หนู '
นี่คงถึงฤดูกาลคัดเลือกอาเคไทป์แล้ว เช่นเดียวกันที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็มีเด็กหนุ่มสาวหลายคน เตรียมตัวขึ้นรถไฟขบวนนี้ไปยังเมืองนารานเหมือนกับอลัน
เวลาต่อมา ในที่สุดรถไฟก็แล่นผ่านสโตนเกท จนมาถึงจุดหมายปลายทางเมืองนาราน สถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ เมืองนี้คือแหล่งรวมผู้เยี่ยมเยือนจากทุกสารทิศ ทั้งจากเมืองหลวง หมู่บ้านชนบท ทะเลทรายดาคาห์รี ทางใต้จากหมู่บ้านชาวประมง ทางเหนือจากฟาลอนและฟรอนเทีย ความหลากหลายทางวัฒนธรรมจึงมารวมกันอยู่ที่เมืองนี้ที่เดียว
อลันเดินลงจากสถานีได้ไม่นาน ก็ได้กลิ่นหอมของเนยและแป้งสาลี กลิ่นไหม้ของเนื้อบนเตาถ่าน และกลิ่นชาจากชาวตะวันตกที่หอมเข้มข้น ทำเอาน้ำลายสอไม่น้อย ความครึกครื้นของเมืองในช่วงเวลานี้ยิ่งมาก ช่างมีชีวิตชีวาจริงๆ เสียงบรรเลงเพลงดังไปพร้อมกับเสียงเรียกของพ่อค้าแม่ขาย เด็กจากหลายสถานที่บนโลกกำลังมารวมตัวกันจ้อกแจ้กจอแจ
ในช่วงเวลาขณะที่อลันกำลังตื่นเต้นกับหลายสิ่งตรงหน้า ทันใดนั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งพรวดพราด บังเอิญมาชนเข้าอย่างจัง เด็กสาวผมยาวสีฟ้าอ่อนมัดแกละสองข้าง ใส่แว่นหนาเตอะแต่งตัวเรียบร้อยดูดีมีชาติตระกูล เธอมีกลิ่นหอมละมุนฟุ้งติดตัวคล้ายกับปุยนุ่น
" ขอโทษครับ/ขอโทษค่ะ " ทั้งคู่กล่าวขอโทษกันและกัน " ขอโทษนะคะ ฉันต้องรีบไปแล้ว " เด็กผู้หญิงกล่าวแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว อลันยิ้มและโบกมือให้ท่าทางมึนงงหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย
เบื้องหน้าบนถนนเส้นนี้ ที่เด็กผู้หญิงคนนั้นวิ่งไปปรากฏเป็นหอคอยขนาดใหญ่ ตั้งสูงตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากเมืองนาราน ' ที่นั่นคือสนามสอบหรอ ' อลันพลันนึกในใจ ไม่ได้การมัวแต่แวะตลอดทาง ความร้อนรนของเด็กสาวคนนั้นคือข้อบ่งชี้ที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่า กำลังสายแล้ว!
หอคอยแปดเหลี่ยมที่มีฐานกว้างใหญ่และเสาค้ำหลัก สถาปัตยกรรมสไตล์โบราณ สร้างขึ้นจากอิฐ ปูนและคอนกรีต มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ครั้งในอดีตมันเคยเป็นหอคอยสังเกตการณ์ บัดนี้กลายเป็นสถานที่เข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์
ด้วยเหตุนี้อลันจึงมุ่งหน้าเข้าสู่สนามสอบเบื้องหน้า พร้อมกับเด็กหนุ่มสาวอีกหลายคน สู่จุดเริ่มต้นการเดินทางของเหล่าอาเคไทป์
จบตอน.