การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง

เนื้อหา

Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล


" ฮู๊กกกก ฮูกกก.... " 

นักล่ายามราตรีส่งเสียงร้อง หลังเวลาสนธยาผ่านพ้นไปคงถึงเวลาของพวกมัน รัตติกาลอันมืดมิดในบรรยากาศวิเวกแสนสงัด ความเงียบที่ตามมานั้นชวนให้ผวา 

กระนั้นยังคงมีเด็กหนุ่ม ผู้เดินฝ่าเงามืดของค่ำคืน...

" อา.... วันนี้เหนื่อยชะมัด เพราะไอ้กรรมการบ้านั่นแท้ๆ ฉันเลยต้องว่ายน้ำไปกลับตั้งสองรอบ " เคนเนทเดินบ่นพึมพำยามนี้เขาคงยังไม่หลับ ความหนาวเย็นทำให้ต้องเปิดตาตื่นขึ้นมา เดินหาห้องน้ำในยามวิกาล 

ภายในหอคอย เสาหินและกำแพงหน้าตาเหมือนกันยังกับฝาแฝด แทบแยกไม่ออกว่าห้องไหนเป็นห้องไหน จะหลงทางก็ไม่แปลกโดยเฉพาะช่วงสองยามนี้ ความเงียบหนักอึ้งถาโถม เหลือแต่เพียงเสียงของสัตว์ปีกนักล่าที่ส่งเสียงโหยหวนชวนขนหัวลุก 

กลิ่นของความกลัวโชยมา แววตาของพวกมันสุกสว่างในเงามืด จ้องมองมายังสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวตัวอยู่ ตรงระเบียงของหอคอยนี้ มีเพียงเคนเนทเท่านั้นที่เดินหลงทางตามลำพัง ท่ามกลางแสงไฟจากคบเพลิงที่จุดเอาไว้เป็นระยะ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะให้ความสว่างแก่ทางเดินได้เลย ไม่นานพวกมันก็เข้ามาสิงสู่อยู่ในบริเวณระเบียงที่เงียบเชียบ กระตุ้นความหวั่นกลัวของเด็กหนุ่มขึ้นมาในทันควัน

" หึ่ย! ไปๆชิ่วๆ หลอนเว้ย... บรื๋อ... ไอ้พวกนกบ้ามากันทำไมเยอะแยะ " เคนเนทขนลุกซู่ ลมหนาวเย็นวาบซาบซ่านไหลผ่านต้นคอ รัศมีของดวงจันทร์ฉายส่องลงเบื้องหน้า ยามที่เมฆานั้นมิได้บดบัง เปิดเผยตัวตนของบุคคลที่ยืนสงบนิ่งตัวแข็งทื่อ จนทำให้ประสาทสัมผัสของเคนเนทหยุดนิ่งไปชั่วอึดใจหนึ่ง 

' นั่นมันเด็กที่มาจากชนเผ่าที่คนพูดถึงกันนี่? มายืนทำอะไรตรงนี้หว่า ' เคนเนทพลันสังเกตเห็นเด็กหนุ่มผู้นั้น ยืนนิ่งไม่ไหวติง สายตาจับจ้องมองออกนอกระเบียง ไปยังกิ่งก้านของไม้ใหญ่ ที่ปกคลุมด้วยเงาของราตรี 

ความสงสัยชวนให้เคนเนท กวาดสายตามองตามไป ความพร่ามัวถูกบดบังจากร่มไม้ เงาดำตะคุ่มประหนึ่งหมอกควัน พลิ้วไหวเหมือนผ้าไหมลอยกับสายลม ใบไม้ปลิดปลิวไปตามกระแส กระทบกันส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่

ในขณะที่สายตาจดจ่อ เด็กหนุ่มจากชนเผ่าขยับร่างอย่างช้าๆ เอี้ยวตัวใช้ฝ่ามืออ้อมหลัง หมายจะคว้าจับมีดสั้นที่พกเหน็บเอวเอาไว้ 

ไม่ทันจะได้กระพริบตา พยับเมฆหมอกลวงตา อาภรณ์อันดำทมิฬพลิ้วไหวจากยอดไม้ ล่องลอยออกไปประดุจภูตผีเร้นกาย



" พรึ่บ!! " โลหะเย็นเยือกศัสตราวุธมีคม ใบมีดบางเฉียบจ่อเข้าที่คอหอยของคาอิมเด็กจากชนเผ่า บุรุษลึกลับพลันเผยตัว ผ้าคลุมดำทมิฬปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิด ภายใต้ความมืดมิดยามค่ำคืน มันดูราวกับภูติผีใต้ผืนผ้าสีดำเพียงแค่นั้น ร่างกายด้านซ้ายของเขายืนเยื้องไปข้างหลังเด็กหนุ่ม มือขวากำมีดสั้นยกขึ้นระดับคอ จ่อเข้าประชิดหลอดลม โลหิตไหลรินซึมออกมา ความนึกคิดของเขาเลื่อนลอยไปชั่วขณะ สำเหนียกตัวเองแล้วว่า หากขยับแม้เพียงปลายนิ้ว คอคงไม่แคล้วสะบั้น

' เชี่ยอะไรวะนั่น! ฉิบหายแล้ว! ' เคนเนทขาพับทรุดฮวบ อุทานคำโตขึ้นในใจ คลานเสือกสนรนหนีไปหลบหลังเสาในทันใด 

คาอิมยืนนิ่งไม่ไหวติง ปลายนิ้วมือยังไม่ทันจะได้สัมผัสกับด้ามอาวุธที่ตนหมายจะหยิบจับ ร่างกายสั่นเครือ ประสาทสัมผัสรับกลิ่นคาวเลือดใต้คางของตน 

ไม่ทันจะได้พักหายใจหายคอ น้ำเสียงอันเยือกเย็นและแผ่วเบาของชายลึกลับก็เอ่ยขึ้น 

" ถอนตัวจากการสอบซะ... " 

" ขะ... ข้าจำเสียงของท่านได้...

...จามาล " เด็กหนุ่มชนเผ่าบากบั่นปั้นปากพูดออกมา 

ความเงียบงันเข้ากลืนกินเหตุการณ์อันฉับพลัน เสียงหัวใจเต้นดังทะลุปอด ถึงอย่างนั้นมันก็หยุดความอยากรู้อยากเห็นของเคนเนทเอาไว้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจแอบชำเลืองมองดู 

วายุพัดพาทำเอาผ้าคลุมดำทะมึนพลิ้วไหว ภายใต้อาภรณ์ของชายลึกลับ ปรากฏให้เห็นสัญลักษณ์ที่ยากจะลืมเลือน เข็มกลัดรูปดวงตาพื้นหลังรูปเพชรสีดำเงา ' ตราสัญลักษณ์นั่นมันอะไร? ' เคนเนทเบิกตาโพลงด้วยความใคร่รู้ 



" อย่าเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ ข้าขอเตือน 

...คาอิม " สิ้นสุดถ้อยคำ ผ้าคลุมพลิ้วหายไปพร้อมกับบุรุษผู้นี้ กระโจนตัวถอยหลังออกนอกระเบียง เร้นกายหายลับไปกับตา 

เด็กหนุ่มยืนจ้องมอง หมอกควันดำที่จางหายไปต่อหน้า ดึงมือขึ้นลูบคลำลำคอปาดเลือดที่ไหลซิบ ขณะที่เหลือบปลายสายตามายังเสาต้นหนึ่ง ที่เคนเนทนั้นอิงแอบอยู่ หันกลับและเดินจากไปโดยไร้ซึ่งคำเอ่ยใดๆ 

' อุ๊บ ' เคนเนทหลบเข้ากระทันหันฝ่ามือปิดปากเงียบ





วันรุ่งขึ้นช่วงเวลาสาย

" ห๊าวว... " เคนเนทเดินตาโหลขอบตาดำคล้ำ หมดเรี่ยวหมดแรงโซซัดโซเซ เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้หลับได้นอน พรั่นพรึงนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในยามวิกาลนั้น มันจดจำฝั่งใจพร้อมกับความใคร่รู้สงสัยในเรื่องราว ตราสัญลักษณ์ที่ไม่เคยเห็น คืออะไรกันแน่ 

ไหนจะผวาจากเจ้าสัตว์นักล่าตาโต ที่พากันมามืดฟ้ามัวดินเต็มไปหมด หลงทางอยู่ท่ามกลางความมืดและภาพมายาของกำแพงหิน ได้แต่เดินลอยไปลอยมา ท้ายที่สุดก็ลงเอยที่ห้องอาหาร 

" เคนเนท ทางนี้ๆ " กระนั้นก็ยังมีรอยยิ้มจากมิตรสหายใหม่ ที่กำลังโบกมือเรียกเขาอยู่ที่นี่ 

" อ่า.... อลัน คริสตัล ทำอะไรกันอยู่เหรอ " เด็กหนุ่มใต้ตาดำท่าทางอิดโรย พยายามลืมตาตื่นทักทายเพื่อน

" ทานข้าวกันอยู่น่ะ เป็นอะไรหรือเปล่าเคนเนท ท่าทางดูเพลียๆนะ " 

" ก็เล่นออกแรงตั้งเยอะตั้งแต่รอบแรกเลยนี่คะ " เพื่อนทั้งสองทักทายด้วยความเป็นห่วง 

" เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนน่ะ " เคนเนทชำเลืองมองไปเห็นอาหารที่พวกเพื่อนๆกำลังกินกันอยู่ วันนี้ดูแตกต่างไปจากวันแรก " กินอะไรกันน่ะ? " 

" สเต็กเนื้อน่ะ วันนี้ทางสนามสอบเลี้ยงอาหารเรามื้อใหญ่เลยล่ะ " 

สเต็กเนื้อชิ้นใหญ่ สีน้ำตาลเข้มสุกกำลังพอดี หอมกรุ่นพึ่งย่างมาสดๆร้อนๆ น้ำเกรวี่ที่ราดลงบนชิ้นเนื้อช่างหอมละมุน ความอ่อนล้าหายวับไปในพริบตา เด็กหนุ่มตาลุกวาววิ่งกระโจนใส่ซุ้มอาหารที่จัดวางอย่างอลังการอยู่กลางห้องกินข้าว " อู้วว ว้าวว.... สเต็ก! " ตั้งหน้าตักอาหารอย่างขมีขมันไม่เกรงใจใคร เนื้อสเต็กหอมๆ ขนมปังอบใหม่ ผลไม้สด เขานำมาวางเรียงรายบนโต๊ะอาหารต่อหน้าเพื่อนในพริบตาเดียว 

" กะ... จะกินหมดนี่เลยเหรอ เคนเนท " 

" นี่! อย่ากินมูมมามสิคะ " เด็กสาวผู้มีมารยาท เธอนั่งทานอาหารโดยใช้มีดและส้อมอย่างสุภาพ และมีผ้าเช็ดปากวางบนตัก และค่อยๆบรรจงหั่นชิ้นเนื้อทีละน้อย ต้องตกใจพูดโพล่งขึ้นมา เพราะความตะกละตะกลามของเคนเนท ที่กินทุกอย่างไม่ยั้งยังกับพายุโหมกระหน่ำ 

" ก้ออยู่วที่หมู่บานชั้นไม่คอยด้ายกินเนือ กินแต่ปาจนเบื่อแลวว " เด็กหนุ่มพูดทั้งๆที่อาหารเต็มปาก จนฟังดูไม่เหมือนภาษาคนเลยซักกะนิด

" ว่าแต่นี่มันเนื้ออะไรน่ะ? " 

" เนื้อวัวไบซันน่ะ " อลันเอ่ยขึ้น 

" ไบซัน? มันคืออะไร? " เพื่อนๆต่างสงสัย อลันจึงเล่าถึงความพิเศษของวัวชนิดนี้ให้ทั้งคู่ฟัง ขณะที่กินสเต็กกันอย่างเอร็ดอร่อย

ไบซัน เป็นวัวกระทิงที่อาศัยอยู่ตามที่ราบทางตอนเหนือ มีขนาดใหญ่และเชื่องช้า มีขนปกคลุมหนาบริเวณศีรษะของมัน ปัจจุบันประชากรของพวกมันเหลืออยู่ไม่มากนัก เลยมีกฎหมายกำหนดเอาไว้ อนุญาตให้ล่าได้ตามฤดูกาลเท่านั้น แหล่งโปรตีนชั้นดี โภชนาการสูงกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ เนื้อของมันมีไขมันต่ำและรสชาติดีเยี่ยม



" โห... อลันมีความรู้เรื่องสัตว์ป่ามากเลยนะคะ อ่านหนังสือเล่มไหนเหรอ " คริสตัลดูทึ่งในสิ่งที่ตนเองนั้นไม่เคยรู้มาก่อน 

" ผมไม่ค่อยได้อ่านหนังสือหรอกครับ ที่หมู่บ้านมีหนังสืออยู่ไม่กี่เล่มเอง ส่วนมากจะออกไปล่าสัตว์กับคุณตา ท่านสอนเรื่องการล่าสัตว์และเก็บของป่าให้เป็นประจำ " เด็กหนุ่มยิ้มตอบเพื่อนๆ 

" มิน่าล่ะ ถึงได้มีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติเยอะมาก บางอย่างฉันก็ไม่รู้จักเลยนะคะ " 

" คริสตัลชอบอ่านหนังสือเหรอ " 

" ใช่แล้วล่ะค่ะ ที่เมดิโอลันมีห้องสมุดใหญ่โตมากเลย " 

" โห... ผมยังไม่เคยไปเมืองหลวงเลยล่ะ " 

" เอาไว้สอบเสร็จแล้วไปด้วยกันนะคะ ทุกคนต้องไปรายงานตัวอยู่แล้วด้วย " 

" ชั้นก็ไม่เคยปายเหมือนกัน ง่ำๆ... " 

" กินให้เสร็จก่อนสิคะ!! " เด็กสาวโมโหดุขึ้นมาเสียงดัง

ในระหว่างที่ทั้งสามกำลังเพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรส เด็กสาวผู้มีสง่าราศี ลาพิสพี่สาวของคริสตัลบังเอิญเดินผ่านมา จึงเอ่ยทักทายขึ้นแต่ดูเหมือนคำพูดจะไม่ใช่ถ้อยคำที่น่าฟังนัก 

" ไงจ๊ะ น้องสาวที่น่ารัก เพื่อนใหม่ดูเข้ากันดีจังเลยนะ " 

" ทะ... ท่านพี่ " คริสตัลก้มหน้าลงหลบตาพี่สาว 

" ขอให้สนุกกับการสอบนะ ยังไงก็อย่ามาคิดจะแข่งกับทีมของพี่ล่ะ จะเหนื่อยเอาเปล่าๆ " จบประโยคเธอก็เดินเชิดหน้าตัวตรงจากไป

" ใครกันน่ะ ท่าทางน่าหมั่นไส้จริงๆ " เคนเนทหยุดกินอาหารในทันที หน้าตาถมึงทึงไม่พอใจ 

" ท่านพี่ลาพิส... พี่สาวของฉันเองค่ะ " 

" ทำไมต้องเรียกท่านพี่ด้วยอะ ผู้หญิงที่ดูน่าหมั่นไส้แบบนั้นอะ " 

" ที่จริงพวกเราทั้งคู่มาจากตระกูลขุนนางที่เมืองหลวงนะคะ " เด็กสาวเอ่ยอย่างเรียบง่าย 

" หาาา... เด็กเนิร์ดแบบเธอเนี่ยนะ " เคนเนทตาลุกโพลง

" คุณเคนเนท! " เด็กสาวมีท่าทีโมโห 

" ไม่เอาน่าทั้งสองคน " อลันเอ่ยห้ามปรามทั้งคู่ 

" ก็ฉันอยากเป็นผู้รอบรู้นี่คะ เลยต้องอ่านหนังสือเอาไว้เพื่อเป็นความรู้ " 

" อืม... ฉันก็อยากเป็นผู้พิชิต! " เคยเนทพูดอย่างมั่นใจพลางลุกขึ้นชูแขนกำหมัด 

" ทำไมถึงอยากเป็นผู้พิชิตเหรอเคนเนท? " อลันถาม 

" มันดูเท่ดีนะ ได้ออกไปท่องโลกผจญภัยพิชิตทั่วทั้งพื้นดินและมหาสมุทร! " เด็กหนุ่มตอบหน้าระรื่น

" เอ่อคือ... มันฟังดูเหมือนนักสำรวจมากกว่านะครับ " 

" ใช่มันคือหน้าที่ของนักสำรวจนะคะ ผู้พิชิตต้องไปเป็นทหารอยู่ที่ค่ายฝึกของเมดิโอลัน " 

" ห๊าาา! ว่าไงนะ " 

" ดูเหมือนว่าเคนเนทจะเข้าใจผิดไปนะ " 

" ผิดเต็มๆเลยล่ะค่ะ แล้วอลันอยากเป็นอะไรเหรอ " 

" ผมอยากเป็นนักสำรวจน่ะ " อลันยิ้มอย่างสบายใจ 

" เหมือนกับแม่ของอลันใช่ไหม ขอให้สมหวังกันทุกคนนะคะ " คริสตัลยิ้มและให้ความหวังกับเพื่อนๆ 

" หมายความว่าไงอะคริสตัล ถ้าเราสอบผ่านแล้วก็เลือกได้ไม่ใช่เหรอว่าจะเป็นอะไรน่ะ " เคนเนทเกิดมีความสงสัยขึ้นมา 

" มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ " 

คริสตัลเล่าถึงจุดประสงค์ของการสอบคัดเลือก มันไม่ใช่การเลือกด้วยตัวเอง แต่มันคือการคัดเลือกโดยเจตจำนง 

การสอบเป็นเพียงแค่การวัดระดับความสามารถในด้านต่างๆของผู้เข้ารับการทดสอบ หลังจากผ่านพ้นการสอบทั้งสามรอบแล้ว ผู้ที่ผ่านการสอบจะต้องถูกคัดแยกไทป์ที่เหมาะสมกับตนในขั้นตอนสุดท้าย เรียกว่า " การแสดงเจตจำนงต่ออนิม่า " เป็นการแสดงความต้องการที่จะใช้พลัง และทำพันธสัญญากับศิลาอนิม่า 

ในขั้นตอนสุดท้ายนี้เอง ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกที่แสดงเจตจำนงและสร้างพันธะแล้ว จะถูกแบ่งเป็นออกไทป์ต่างๆและคัดแยกไปยังสมาคมที่เหมาะสม 

" ไม่เห็นเข้าใจเลย ถ้าเราอยากเป็นอะไรก็ต้องได้เป็นไทป์นั้นไม่ใช่เหรอไง? " เคนเนทพูดขึ้นอย่างสงสัย 

" มันไม่ง่ายแบบนั้นนะคะ " 

เธออธิบายต่อไปว่า ความต้องการของคนเรานั้นคือความคิดผิวเผินที่ออกมาจากความรู้สึก แต่เจตจำนงที่แท้จริงของคนเรานั้นอยู่ลึกลงไปในจิตใจ มันคือความปรารถนาที่เป็นแก่นแท้ของใจคน 

" ฉันก็ไม่เข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนแบบนั้นหรอกค่ะ " 

" อืม... ผมพอจะเข้าใจบ้างแล้วล่ะ ความต้องการคือความรู้สึกว่าอยากจะเป็นในสิ่งนั้น แต่การแสดงเจตจำนงที่แท้จริง คือการแสดงตัวตนของพวกเราจากภายในออกมา " อลันนั่งไตร่ตรองคิดคำนึง 

" หมายความว่าเราจะโกหกอนิม่า ไม่ได้เหรอ " 

" ใช่แล้วล่ะค่ะ " ทั้งสามต่างเงียบงันจนความวิตกกังวลเข้าครอบงำวงสนทนา 



" แล้วพวกตราสัญลักษณ์ล่ะ... " เคนเนทโพล่งขึ้น 

" ตราสัญลักษณ์จะมีอยู่สามระดับค่ะ " เด็กสาวค่อยๆอธิบาย ถึงตราสัญลักษณ์ของอาเคไทป์ 

ตราประจำตัวของอาเคไทป์นั้น ประกอบด้วยระดับขั้นสามระดับและสัญญาลักษณ์หกรูปแบบ 

รูปแบบทั้งหก ประกอบไปด้วย

ดาบ/ผู้พิชิต - โล่/ผู้พิทักษ์ - หนังสือ/ผู้รอบรู้ 

กล้องส่องทางไกล/นักสำรวจ - ตราชั่ง/ผู้ควบคุม

และ ดวงตา/ผู้เฝ้ามอง 

ระดับขั้นทั้งสาม จะเริ่มจากผู้ฝึกหัด เท่ากับระดับตราทองแดง ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและบรรจุเข้าสมาคมแล้ว จะได้รับตราสัญลักษณ์ทองแดง เรียกว่าอาเคไทป์ฝึกหัด 

ต่อมาคือระดับตราเงิน เป็นระดับที่สูงขึ้นมา หลังจากผ่านการฝึกหัดและได้รับการรับรองจากทางสมาคม ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถเหมาะสม และทำหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดี จะได้รับการเลื่อนขั้นและมอบตราในขั้นถัดมา 

สุดท้ายคือ ระดับตราทองคำระดับสูงที่สุด เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกจากผู้อาวุโสทั้งหลายในสมาคม ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ และถูกรับรองจากทางสหพันธ์ฯแล้วว่าเหมาะสมกับตำแหน่ง ในสมาคมต่างๆจะมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

" ที่จริงกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านก็เป็นระดับตราทองคำนะคะ เช่นเดียวกับคุณอัลวิน " คริสตัลอธิบาย 

" ไม่มีสูงกว่านี้เหรอ หรือแบบอื่นมีอีกไหม... " เคนเนทคิ้วขมวดเป็นปม พลางนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมา เขารู้บางอย่างในใจเพียงแค่ไม่คิดจะเล่ามันออกมา 

" ไม่มีแล้วล่ะค่ะ เคนเนทคิดจะไปสูงถึงระดับไหนกันล่ะ แค่ตราเงินก็ใช้เวลาหลายปีแล้วนะ " เพื่อนทั้งสองต่างมีความแปลกใจในสิ่งที่เคนเนทนั้นเอ่ยถาม แต่ก็ไม่มีใครเอะใจอะไร 



" ตึง.. ♪ ตึง... ♪ ...♪ " 

เสียงนาฬิกายามเที่ยงดังขึ้น 

" เที่ยงแล้วล่ะ ผมว่าพวกเราควรไปรวมตัวกันที่ลานกว้างได้แล้ว "

" งั้นไปกันเถอะค่ะ คุณคาลิน่าคงกำลังรอพวกเราอยู่ " 

" ไปลุยกันเลยพวกเรา " ทั้งสามคนลุกขึ้นพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบในรอบถัดไป หนุ่มสาวทั้งหลายผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก ต่างมารวมตัวกันที่ลานกว้างด้านหน้าของหอคอย 

" สวัสดีจ้า ทุกคนพักผ่อนกันสบายดีไหมคะ " คาลิน่า กรรมการคุมสอบผู้ร่าเริงทักทายทุกคน รอยยิ้มของเธอช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับหลายคนไปได้บ้าง แต่เมื่อรู้ว่าจะต้องรับการทดสอบจากแม่ทัพแม็กซ์เวลในรอบต่อไป แค่คิดก็ทำเอาหน้าเสียกันเลยทีเดียว 

สนามสอบถัดไปอยู่บนที่ราบทางตะวันตกถัดจากหอคอย ซึ่งเป็นชายแดนติดกับดาคาห์รี และยังใกล้กับที่ตั้งของสมาคมผู้พิชิต ที่มีแม่ทัพแม็กซ์เวลเป็นผู้บัญชาการ คาลิน่านำทางให้กับผู้เข้าสอบที่เดินรวมกลุ่มตามๆกันมา 



เคนเนทเดินเอามือทั้งสองผสานไว้ที่ท้ายทอย เดินเหม่อลอยแล้วก็พูดขึ้นว่า " การสอบรอบถัดไปจะเป็นอะไรนะ " 

" น่าจะเป็นการทดสอบของผู้พิชิตนะคะ " 

" คริสตัลรู้ได้ไงเหรอ? " อลันถามขึ้น 

เธอเล่าถึงข้อมูลที่ทางสหพันธ์ได้ให้เอาไว้ว่า การสอบคัดเลือกนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมดสามรอบ ในแต่ละรอบจะมีคณะกรรมการคุมสอบสองคน แบ่งไปตามแต่ละประเภทของอาเคไทป์ รวมทั้งหมดหกไทป์ 

ซึ่งในแต่ละรอบ จะมีการวัดระดับความสามารถของอาเคไทป์อย่างน้อยหนึ่งประเภท รอบที่หนึ่งคือ อาเคไทป์ของผู้รอบรู้และนักสำรวจ จากการคาดคะเนของคริสตัลแล้ว รอบที่สองคือบททดสอบของแม่ทัพแม็กซ์เวล ซึ่งเป็นผู้พิชิต ดังนั้นรอบถัดไปจึงเป็นไปได้ว่าเกี่ยวกับผู้พิชิตอย่างแน่นอน

" ถ้าผู้พิชิตล่ะก็เข้าทางฉันเลย " เคนเนทยิ้มออกมาดูมั่นใจทีเดียว 

" ให้มันจริงเถอะค่ะ " 

ในระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเดินเข้าสู่สนามสอบที่สอง อลันก็สังเกตเห็นว่า พี่สาวของคริสตัลและคนติดตาม กำลังเดินไปเป็นกลุ่มกับเด็กที่มาจากเผ่าควาคู 

เคนเนทก็เห็นเช่นกัน เขาจึงเอ่ยถามขึ้น " ทำไมเด็กชนเผ่านั่นถึงได้เดินอยู่กับพี่สาวคริสตัลล่ะ พวกเขาร่วมทีมกันเหรอไง " เด็กหนุ่มชี้ให้เพื่อนทั้งสองมอง

" ...... " คริสตัลเธอคิดบางอย่างอยู่ในใจ แล้วพูดออกมาว่า " พวกเขาคงตกลงอะไรบางอย่างกันแน่ๆ พี่ลาพิสไม่ใช่คนที่ยอมตามใครง่ายๆ " 

ไม่นานนักคาลิน่าก็นำทางพาทุกคน มาถึงยังจุดหมายปลายทาง ทุ่งหญ้าที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาล เบื้องหน้าไกลออกไปมีเต็นท์จำนวนมากตั้งอยู่เป็นกลุ่ม มันคือค่ายทหารกึ่งถาวรสำหรับกองทัพ ที่ใช้ในการลาดตระเวน 

" ฉันขอส่งทุกคนแต่เพียงเท่านี้นะคะ หมดหน้าที่ของฉันแล้วล่ะ ในบริเวณสนามสอบรอบที่สอง จะมีค่ายทหารและเต็นท์อยู่ ซึ่งแม่ทัพแม็กซ์เวลและมีร่าจะเป็นผู้ดูแลการสอบในรอบนี้นะคะ " 

" ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบน้าา.. " คาลิน่ายิ้มให้กำลังใจและโบกมือลาทุกคน 

" หูวว... กว้างใหญ่ชะมัด " เคนเนทยกมือขึ้นป้องตาสอดส่องดู 

" ตรงนั้นน่าจะเป็นค่ายทหารนะ " 

" น่าจะใช่นะคะ " 

คนอื่นๆก็สังเกตเห็นเช่นกัน เหล่าผู้เข้ารับการทดสอบ เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายกำลังเดินเข้าสู่สนามสอบที่สอง บททดสอบของผู้พิชิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้น 



บุรุษผู้แข็งแรง แม่ทัพแม็กซ์เวลกำลังนั่งรอพวกเขาอยู่ เขานั่งใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางจ้องมองมา พร้อมแสยะยิ้มขึ้นราวกับมีแผนการบางอย่าง 

" มากันแล้วค่ะ ท่านแม็กซ์เวล " ข้างกายของเขา นั่นคือ มีร่า หญิงสาวผู้ติดตราสัญลักษณ์ของผู้เฝ้ามอง 

บททดสอบอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่กันนะ... 


จบตอน.