การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
ผู้แต่ง
1ValD
เรื่องย่อ
Note
นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร)
สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved
ANIMA
A thousand years ago
Anima stone was born in this world
Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.
In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.
The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called
The Six Archetype
เมื่อหลายพันปีก่อน
ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร
มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า
อาเคไทป์ทั้งหก
The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.
Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy?
Welcome to the world of Anima's Stone
จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้
นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์
อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ
Impelle` Anima
" หวิวววว...... "
สายลมพัดรุนแรงตะกุยฝุ่นฟุ้งขึ้นจากพื้นดิน หญ้าอร่ามเหมือนเบียร์มอลต์ตัดกับเขียวขี้ม้า ต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้เล็กที่ขึ้นประปราย ทุ่งหญ้าแพรรีบนพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ ระบบนิเวศของทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นกึ่งทะเลทราย ภูมิอากาศกึ่งแห้งแล้ง ลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ของ "ทุ่งหญ้าสเตปป์"
ณ พื้นที่ของสนามสอบคัดเลือกรอบที่สอง
" ไม่กันเจ้านั่นออกจากสนามสอบจะดีหรือคะ ท่านแม็กซ์เวล " มีร่า หญิงสาวหน้าตาคมคาย ผมสั้นตรงใต้ผ้าคลุมปิดศีรษะ เธอมีแววตาคมกริบของผู้เฝ้ามอง
Mira (มีร่า ผู้เฝ้ามองแห่งกองทัพเมดิโอลัน หนึ่งในคณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เฝ้ามองตราทองคำ)
" ไม่มีมัน นี่ก็ไม่ใช่การล่าน่ะสิ
การสอบรอบแรกมันง่ายเกินไป คงมีเด็กมากมายผ่านการคัดเลือกของอัลวินเข้ามาแน่ " แม็กซ์เวล แม่ทัพผู้บึกบึน คมเข้มคิ้วหนา สวมชุดเกราะเบา มีรอยแผลเป็นบากจากใต้คางด้านซ้ายจนถึงโหนกแก้มเห็นเด่นชัด
Maxswell (แม่ทัพแม็กซ์เวล ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพเมดิโอลัน ผู้พิชิตตราทองคำ)
" รับทราบค่ะ ท่านแม็กซ์เวล "
หญิงสาวสอดส่องสายตาไปยังทุ่งกว้างเบื้องหน้า สถานที่สำหรับการสอบคัดเลือกในรอบที่สอง มีอะไรรอเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้อยู่กันนะ
" หวิวววว........ "
ฤดูใบไม้ร่วง... ความหนาวที่ใกล้เข้ามาแม้จะมีความเย็นของฤดูกาลนี้แต่มันก็สู้ ความร้อนแรงจากแสงอาทิตย์กลางทุ่งกว้างไม่ได้เลย ในระยะทางที่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ความระอุของทุ่งหญ้าก็ทำเอาหลายคนเหงื่อตกอ่อนล้าไปตามๆ กัน
" ที่เอาเนื้อสเต็กมาเลี้ยงพวกเราอย่างดี เพราะรู้ว่าต้องออกแรงหนักใช่ไหมเนี่ย " เคนเนทเดินขาลากหายใจเหนื่อยหอบ ความอดหลับอดนอนส่งผลกับเขาแล้ว
" ผมว่าใกล้ถึงแล้วล่ะ... "
" ให้มาสอบกลางทุ่งหญ้าตอนบ่ายๆ แบบนี้ โหดร้ายมากเลยค่ะ " เพื่อนทั้งสองของเขาก็รู้สึกเหนื่อยล้าไม่ต่างกันเลย
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงจุดหมาย ยังค่ายทหารของแม่ทัพแม็กซ์เวล สายตาทั้งหลายของเหล่าทหารกล้า ล้วนจับจ้องมายังกลุ่มของผู้ที่มารับบททดสอบ
พวกเขาคืออาเคไทป์ผู้พิชิตที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีโดยผู้บังคับบัญชาการ เหล่าทหารแห่งกองทัพของเมดิโอลัน ร่างกายแข็งแรงพร้อมด้วยความมีระเบียบวินัย คือสัญญาณที่บ่งบอกว่า สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่เดินเล่นของพวกเด็กๆ
" ทุกท่านโปรดเชิญทางนี้ " มีร่า หญิงสาวผู้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการดูแลการสอบในรอบนี้
หญิงสาวผู้เฝ้ามองแห่งกองทัพของเมดิโอลัน เป็นมือขวาของแม่ทัพแม็กซ์เวล เป็นผู้เฝ้ามองที่มีความสามารถในการเฝ้าระวังภัย สืบหาข้อมูลอย่างลับๆ แน่นอนว่าเธอมีฝีมือไม่แพ้ผู้ใดในกองทัพนี้
ผู้เฝ้ามองคือ อาเคไทป์ประเภทที่หาได้ยาก และด้วยความสามารถเฉพาะตัว จึงมีความจำเป็นต่อกองทัพอย่างมาก โดยเฉพาะความสามารถในการมองเห็นเฉกเช่นอินทรีที่มีสายตามองได้กว้างไกลและคมชัด เช่นเดียวกับลักษณะนิสัยของมีร่า เธอเป็นคนชัดเจนเฉียบคม และตัดสินใจเด็ดขาด
เบื้องหน้าคือผู้ที่กำลังรอคอยอยู่ แม่ทัพผู้เกรียงไกรกำลังนั่งรออยู่ที่เต็นท์ของเขา ชายผู้แข็งแรงกำยำ ดุดันดูน่าเกรงขาม รอยแผลเป็นใต้คางของเขาทำให้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้น แววตาของผู้พิชิตขั้นสูง ที่จ้องมองมาราวกับกำลังมองดูลูกนกในกำมือ
" อึก..... " อลันกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ พร้อมกับเคนเนทที่กำลังฝืนยิ้มแบบสั่นสู้ ' หึหึ... นี่นะเหรอผู้พิชิตตัวจริง ' เขาคิดในใจ ในขณะที่คริสตัลยืนกุมมือสั่นๆ ของเธอเอาไว้ที่อก
" ไงล่ะเด็กๆ ขอต้อนรับเข้าสู่ค่ายทหารของข้า ที่นี่จะเป็นสนามสอบของพวกเจ้าในวันนี้! " แม็กซ์เวลลุกขึ้น เปล่งเสียงที่ดังกังวานออกมา แรงกดดันมหาศาลเข้าครอบคลุมกดดันทุกคนในทันที
" ไม่ว่าพวกเจ้าจะมาจากแห่งหนใด ตอนนี้พวกเจ้าไม่ได้อยู่ที่บ้านของตนเองอีกต่อไป จงจำเอาไว้ว่าทุกที่บนโลกล้วนเป็นสนามรบ และเบื้องหน้าของพวกเจ้าคือพื้นที่ของนักล่า นี่คือการทดสอบของผู้พิชิต!
บททดสอบของข้านั้นง่ายมาก " เขาพลันยกมือขึ้นและชี้นิ้วออกไปยังทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล
" ไปล่าพวกมันมา! "
ไกลออกไปจากค่ายทหาร กลุ่มของสัตว์ป่าท่ามกลางทุ่งอันร้อนระอุ คือฝูงวัวกระทิงขนาดใหญ่ มันคือช่วงฤดูกาลล่าสัตว์ในเวลานี้ นี่แหละสนามสอบคัดเลือกในรอบที่สอง สนามของผู้ล่า
" พวกเจ้ามีเวลาจนถึงพลบค่ำ!
มีร่า... " แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ ชายตามองมือขวาของเขาให้เป็นสัญญาณในการรับช่วงต่อ และเดินกลับเข้าไปพักผ่อนเช่นเดิม
" นั่นมันตัวอะไรวะนั่น!? " เคนเนทชะเง้อมองด้วยความสงสัย
" มันคือ... วัวกระทิงไบซัน " อลันเหงื่อตกตาลุกวาว
" ไอ้ตัวที่เรากินกันตอนมื้อเที่ยงอะนะ!! "
" หน้าตามันเป็นแบบนี้เองเหรอคะ " เพื่อนทั้งสองต่างตกตะลึงในสิ่งที่ตนไม่เคยพบเห็นมาก่อน
วัวกระทิงไบซัน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ขนของมันเป็นสีน้ำตาลเข้มปกคลุมตั้งแต่ช่วงหัวไปจนถึงกลางลำตัว มีเขาเล็กที่โค้งเข้าหากัน ตัวโตเต็มวัยขนาดสูงถึงสองเมตรและน้ำหนักเกือบหนึ่งตัน
" การทดสอบในรอบนี้คือ การล่าวัวกระทิง
เกณฑ์การให้คะแนน แบ่งออกเป็น
ตัวโตเต็มวัย 100 คะแนน
ตัวขนาดกลาง 60 คะแนน
และลูกวัว 10 คะแนน
แค่เพียงทีมละ 1 ตัวเท่านั้น ทุกคนจัดทีมรวมกลุ่มกันเรียบร้อยแล้วนะ ผลคะแนนจะถูกนับรวมกันทุกคนในทีม ทีมไหนทำการล่าสำเร็จแล้ว ขอให้ยกธงขึ้นเพื่อแจ้งกับทหารในค่าย
ทางเราจะรีบเข้าไปนำวัวกระทิงที่ได้จากการล่านั้น มาทำการนับคะแนนและเก็บไว้เป็นเสบียงต่อไป เชิญใช้อุปกรณ์ในค่ายทหารได้ตามสะดวก " มีร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับผายมือไปยังคลังอาวุธและอุปกรณ์ประจำค่าย
" ล่าวัวกระทิงอะนะ จะทำได้ยังไงกัน " สุ้มเสียงฮือฮาดังขึ้นพร้อมความกังวลของหลายๆ คน
" ทำยังไงกันดีคะ อลัน " คริสตัลหันมองหาเพื่อน
" ผมก็ไม่แน่ใจ ยังไม่เคยล่าสัตว์ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย " เด็กหนุ่มถอดสีหน้าทันควัน
" ฉันเคยนะ " เคนเนทพูดโพล่งขึ้นมา
" อะไรนะ!? โม้หรือเปล่าเนี่ย " น้ำเสียงที่ฟังดูไม่เชื่อคำพูดของเขาซักนิดเดียว ออกมาจากปากของฝูงชน
" เห้ย! อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย! "
' เคนเนทไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ รอบแรกเราเห็นว่าเขาจับปลากระเบนตัวใหญ่พอๆ กับคนมาได้ ' อลันนึกในใจพร้อมกับคิดวางแผนไปด้วย
" ล่าสัตว์ตัวใหญ่จะทำได้ยังไงเหรอคะ "
" ในหมู่บ้านฉันน่ะ ออกล่าปลาทะเลตัวใหญ่กันมาหลายรุ่นแล้ว กับสัตว์บกมันคงไม่ต่างกันหรอก " เคนเนทพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขาไม่ได้พูดเล่น
ชาวทะเลมีประสบการณ์ในการล่าปลาขนาดใหญ่โดยวิถีดั้งเดิม แผนการของเคนเนทคือ การใช้ฉมวกขนาดใหญ่แทงเข้าไปที่เป้าหมายจนกว่าจะหมดแรงลง
" เข้าใจแล้วล่ะ มันเหมือนกับการล่าสัตว์สมัยโบราณ ที่ต้องใช้คนจำนวนมากไล่ต้อนฝูงสัตว์ ต้องร่วมมือกันวางแผนและใช้ความสามัคคีกัน
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้เพียงแค่สามคนในการล่า " อลัน คิดคำนวณถึงความเป็นไปได้และแผนการในการล่าครั้งนี้อย่างถี่ถ้วน
เขาพูดถูกการล่าสัตว์ขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ และน้ำหนักมหาศาลขนาดนั้นต้องอาศัยแรงคนจำนวนมากในการล่า รวมถึงแผนการที่จัดวางไว้เป็นอย่างดี
ในเต็นท์เก็บอุปกรณ์มีสิ่งของที่ใช้ในการล่าและอำนวยความสะดวกมากมายมีด ดาบ หอก และธนู ศาสตราวุธทั้งหลายของผู้พิชิตที่ถูกสร้างขึ้นมา มันแข็งแรงและถูกฝังไว้ด้วยอัญมณีสีแดง ที่ช่วยเสริมพลังให้กับผู้พิชิตในการใช้งาน
แน่นอนว่าเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้ยังคงไม่สามารถที่จะใช้พลังของผู้พิชิตได้ แต่การได้สัมผัสถึงศาสตราวุธของจริง มันคือประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ
" ธงสัญลักษณ์มีอยู่สองสี สีเขียวคือการล่านั้นเสร็จสิ้น สีแดงคือมีอันตรายต้องการความช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ฉันกับหน่วยทหารจะรีบรุดเข้าไปช่วยเหลือโดยไวที่สุด " มีร่าอธิบาย
" เราคงต้องลองดูกันก่อน ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง " อลัน หยิบจับธนูขึ้นมาพร้อมกับเชือกขดหนึ่ง อุปกรณ์ล่าสัตว์ประจำตัวของเขา เช่นเดียวกันเคนเนทหยิบของที่ตัวเองถนัดมือ ในที่นี้มันคือหอกที่ใช้แทนฉมวกจับปลา
" เอาล่ะเว้ย! ทุกคนตามมาเดี๋ยวฉันนำเอง " เคนเนทท่าทางครึกครื้นหน้าระรื่น เขามั่นใจมากทีเดียว
หลายคนที่ยังคงไม่มีแผนการที่แน่นอน ไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจตามออกไปยังทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
' จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย ไม่ไว้ใจเคนเนทเลย ' คริสตัลพร้อมด้วยกล้องส่องทางไกลยืนสังเกตการณ์อยู่นอกค่ายทหาร พร้อมกับอลันที่ยังคงรอดูลาดเลา
แผนการณ์ของเคนเนท คือการไล่ต้อนวัวกระทิงและกระหน่ำปาหอกใส่จนมันหมดแรงและล้มลง คล้ายกับการออกล่าปลาขนาดใหญ่
แต่ไม่ทันไรเคนเนทก็วิ่งปรี่เข้าไป อย่างไม่ยั้งคิดด้วยความคึกคะนองของเขา พร้อมกับอีกหลายคน
" หึ! " คาอิมเด็กหนุ่มชนเผ่ายังคงยืนดูลาดเลาอยู่ พร้อมกับกลุ่มของตนเอง เหมือนเขาจะรู้ถึงสถานการณ์บางอย่างในทุ่งหญ้า จึงไม่ได้รีบร้อนที่จะออกไป
ในขณะที่คริสตัลก็สังหรณ์ใจไม่ดีกับแผนการนี้ ฝูงกระทิงตื่นตกใจและเริ่มตะกุยฝุ่นออกตัววิ่ง พวกมันตัวใหญ่และเชื่องช้า ทำให้การไล่ตามนั้นไม่ยาก
" เนื้ออออ!! ฮ่าๆ ทุกคนเล็งตัวที่อยู่ท้ายฝูง " เคนเนทตะโกนบอกให้ทุกคนเล็งเป้าหมายเดียวกัน ฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มพื้นที่วิสัยทัศน์ถูกบดบัง หอกที่ถูกเขวี้ยงออกไปแทบไม่โดนเป้าหมาย
" โธ่เอ๊ย! ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง " เคนเนทอุทาน พร้อมกับวิ่งตามฝูงกระทิงเพียงลำพัง หลังจากที่ทุกคนหมดแรงและเขวี้ยงอาวุธของตนไปแล้ว เขาเล็งไปที่กระทิงขนาดกลางที่อยู่ท้ายฝูง ความแม่นยำในการปาหอกของเขา ทำให้ปาโดนเป้าหมายเข้าเต็มๆ
" เยี่ยม!! " ความมั่นใจเต็มร้อย พร้อมกระหยิ่มยิ้มย่อง วัวกระทิงร้องขึ้นเสียงดังลั่นทุ่ง " มอออ!! "
ทันใดนั้นเอง ขณะที่เด็กหนุ่มไม่ทันได้คาดคิด บางสิ่งก็ปรากฎตัวออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมคำรามเสียงของนักล่าตัวจริง
" ฮูมมมมม!! " เสือขนาดใหญ่ลำตัวยาวเกือบสองเมตร น้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ขนสั้นกุดสีน้ำตาลแดง มันคือจากัวร์เขี้ยวดาบ นักล่าจากยุคดึกดำบรรพ์ มันมีกรามที่แข็งแรงที่สุดในโลก สมัยโบราณพวกมันถูกเรียกว่า " yaguara " มีความหมายว่า สัตว์ร้ายที่ฆ่าเหยื่อด้วยการกระโจนตะครุบเพียงครั้งเดียว มันใช้วิธีล่าโดยการกัดเหยื่อให้จมเขี้ยว ด้วยเขี้ยวดาบทั้งสองของมัน กัดเพียงครั้งเดียวก็ทะลุกระโหลกของเหยื่อได้ง่ายๆ
ทุ่งหญ้านี้คือพื้นที่ล่าของพวกมัน สนามแห่งนักล่า และมันคือนักล่าสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
เด็กหนุ่มพลันหันไปมองด้วยตาเบิกโพลง หัวใจเต้นรุนแรงเมื่ออยู่ต่อหน้านักล่าตัวจริง เหงื่อไหลไคลย้อย ความประมาทเลิ่นเล่อทำให้เขาตระหนักแล้วว่า มันคืออันตรายถึงชีวิต
" ฉิบหายแล้ว!! " เขาร้องเสียงหลง วิ่งซอยเท้าอย่างไม่คิดชีวิต กระหืดกระหอบหน้าตาตื่น นักล่าแห่งทุ่งกว้างวิ่งไล่ตามทั้งวัวกระทิงและเคนเนทอย่างไม่ลดละ มันได้กลิ่นความกลัวจากเหยื่ออันโอชะของมัน
" เคนเนท!!! " เพื่อนทั้งสองต่างตื่นตกใจ แต่แค่เพียงอึดใจเดียวในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ สายตาอันคมกริบของเธอมองเห็น และตัดสินใจได้ชัดเจน
มีร่า พุ่งกระโจนเข้าไปในทันที คว้าเอาตัวเด็กหนุ่มออกจากจุดอันตรายในสนามของนักล่าอย่างทันควัน
เด็กหนุ่มถูกพาตัวกลับมายังด้านนอกของค่าย ณ จุดที่เพื่อนๆ ของเขารอดูลาดเลากันอยู่
" เธอไม่เป็นไรใช่ไหม " หญิงสาวเปิดเผยผ้าคลุมหน้าของตัวเองออก หน้าตาเธอสวยคมคาย แววตาอันงดงามเปล่งประกาย ทำเอาเคนเนทที่เห็นอย่างนั้น หน้าแดงเพราะความเขินอายขึ้นมาทันที
มีร่า สังเกตสถานการณ์ในทุ่งหญ้าเพื่อดูว่ามีใครเป็นอันตรายอีกหรือไม่ ก่อนที่จะพุ่งจากไปอย่างกะทันหัน
" เคนเนททท!! " เพื่อนที่เป็นห่วงต่างจับตัวเคนเนท ที่ยังคงเคลิบเคลิ้มและตกตะลึงไม่หาย " อา... " สติสัมปชัญญะของเขาเลื่อนลอย ไม่รู้เป็นเพราะว่าตกใจจากเสือที่ไล่ล่า หรือตกตะลึงความสวยของมีร่า
" เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่พูดอะไรเลย "
" เคนเนท บ้ามากเลยค่ะ มุทะลุจริงๆ " คริสตัลผลักตัวเคนเนทให้ได้สติ ด้วยความโมโห
" เหวอ! อะไรอะ ผลักกันทำไม " เขาพึ่งจะได้สติ
" บาดเจ็บหรือเปล่า " อลันสังเกตอาการเพื่อน
" คนแบบนี้ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ หึ! " คริสตัลท่าทางไม่พอใจแถมงอนนิดๆ
ภายหลังจากที่สถานการณ์สงบลง หลายคนที่ออกไปทุ่งหญ้า ต่างกลับมายังค่ายด้วยความวิตกกังวล มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ที่จะให้พวกเขาล่าสัตว์ขนาดใหญ่แบบนั้นด้วยอาวุธและอุปกรณ์เล็กๆ แถมยังมีนักล่าเจ้าถิ่น ที่อันตรายสุดขีดอยู่บนสนาม ในที่สุดเสียงดังโหวดเหวกโวยวาย ก็เริ่มขึ้น
" มีอะไรกัน " แม่ทัพแม็กซ์เวลที่ได้ยินเสียงฮือฮา ก็ก้าวเดินเข้ามาต่อหน้า เหล่าผู้รับการทดสอบที่มาออกันในบริเวณค่าย
นำโดยเคนเนทของเรา " จะบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันโคตรอันตรายเลยนะ ให้พวกเราล่าสัตว์โดยมีไอ้เสือบ้านั่นอยู่ด้วย จงใจฆ่ากันชัดๆ " เขาบ่นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
แม็กซ์เวลเพียงแค่ชายตาเหลือบมอง สุ้มเสียงก็เงียบลงในทันตา เขาเดินออกไปยังนอกค่ายพร้อมกับหอกขนาดใหญ่ของผู้พิชิต แท่งโลหะยาวกว่าสองเมตรที่ปลายแหลมคม ประดับไว้ด้วยอัญมณีสีแดง
" มีร่า " เขาพลันส่งสัญญาณบอกกับมือขวา ให้เริ่มต้นการล่าขึ้นในทันที
" วี๊ดดดดด!! " เสียงผิวปากของเธอดังขึ้น
กลุ่มทหารที่ดูลาดเลา ซุ่มอยู่บริเวณพุ่มไม้ก็ทำการออกไล่ต้อนฝูงวัวกระทิงในทันใด พวกเขาไล่ตามฝูงกระทิงและปาหอกใส่ตัวที่รั้งท้ายฝูง จนได้รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวช้าลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเสร็จสิ้นหน้าที่ก็หลบออกมา ท่ามกลางการจับตามองอย่างไม่ลดละของทุกคน
แม่ทัพแม็กซ์เวลสายตาจับจ้องไม่กระพริบ มือขวาคว้าหอกไว้มั่น ในชั่วพริบตานั้นพลังของผู้พิชิตก็เปล่งแสงออกมาให้เห็นจากอัญมณี แสงสีแดงเรืองรองส่องเป็นประกาย กล้ามเนื้อแขนเป็นมัดๆ ง้างมือเขวี้ยงแท่งโลหะขนาดใหญ่ออกไป มันง่ายเสียยิ่งกว่าปาลูกบอล
แต่พลังของมันรุนแรงยิ่งกว่าปืนใหญ่ รวดเร็วประดุจดั่งสายฟ้า " ฟุ่บบ!! " เสียงของอากาศที่แหวกออกดังสนั่น ความรุนแรงทำเอาฝุ่นละอองจากผืนดินฟุ้งกระจาย ลมพัดตีหน้าจนผมเผ้าของหลายคนกระเซิง สัตว์นักล่าเจ้าถิ่นพลันหลบเลี่ยงหนีอันตรายจากคมหอก หายออกจากทุ่งกว้างไปตามสัญชาตญาณ
นี่น่ะหรือ พลังของผู้พิชิต
" ฉึก!! " ความแม่นยำในการปาหอกนั้น ไม่มีพลาดเป้าเข้าโดนกลางลำตัวของเป้าหมายเต็มเปา " ตึง! " ยักษ์ใหญ่แห่งทุ่งหญ้าล้มลงเสียงดังสนั่น
" มอออ... " สิ้นสุดเสียงสุดท้ายของเหยื่อ เหล่าทหารหาญก็พากันไปขนย้ายวัวกระทิงตัวใหญ่ที่ล้มลง ขึ้นเกวียนนำมันกลับมายังค่าย ต่อหน้าสายตาอันตกตะลึงของทุกคน
" นั่นคือ ตัวอย่าง " แม่ทัพผู้เกรียงไกรเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น ก่อนที่จะหันหลังกลับเข้าไปพักผ่อนเช่นเดิม
" เอายังไงต่อดี อลัน " เพื่อนทั้งสองที่ทำอะไรไม่ถูก กำลังฝากความหวังไว้กับเด็กหนุ่มคนนี้
จบตอน.