การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง

เนื้อหา

Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า


ผู้พิชิต... 

...ชีวิตจักมอบให้แก่ผู้พิชิตเท่านั้น จงอย่ายอมรับสิ่งที่ได้มาจากการยอมแพ้

ถ้าหากเรากำจัดผู้ล่าออกไป ระบบนิเวศทั้งหมดจะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว สมดุลของผู้ล่าและเหยื่อจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 

สำหรับมนุษย์แล้วการล่า อาจหมายถึงการบ่งบอกถึง 'อำนาจ' ของตน มันมีมาอย่างช้านานในทุกยุคทุกสมัย การล่าสัตว์เพื่อความบันเทิง ซึ่งจะแสดงถึงฐานะที่ยิ่งใหญ่ของผู้ล่า 

แต่ในธรรมชาติการล่าคือการหาอาหารของสัตว์นักล่า มันคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบบนิเวศ



อลัน รู้และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาตินี้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมุ่งมั่นมองออกไปนอกทุ่งกว้างอย่างแน่วแน่ สายตาที่จดจ้องไปยังสนามของผู้ล่า พื้นที่แห่งนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด เฉกเช่นโลกใบนี้มันคือความจริงของวัฎจักรตามธรรมชาติ ด้วยมันสมองและสติปัญญาของมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราอยู่เหนือกฎเกณฑ์นี้ 

ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการล่าสัตว์กับตาของเขา สัญชาตญาณของนักล่าที่แอบแฝงอยู่ในตัว ทำให้อลันคิดแผนการขึ้นมาจากการสังเกตสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด ภายในพื้นที่นี้มีผู้ล่าเจ้าถิ่น คือจากัวร์เขี้ยวดาบ การที่จะออกล่าเหยื่อในขณะที่มีมันอยู่ด้วยนั้น จะต้องทำตัวประหนึ่งเป็นผู้ล่าเช่นเดียวกับมัน ตัวอย่างที่แม่ทัพได้แสดงให้เห็น คือการที่มนุษย์เราไม่เข้าไปขวางทางระหว่างผู้ล่าและเหยื่อ

กลุ่มของทหารที่ดักซุ่มรออยู่นั้น ต้องอาศัยอยู่ใต้ลมเพื่อไม่ให้เจ้าถิ่นนั้นได้กลิ่น รอจังหวะที่มันออกไล่ล่าและไล่ต้อนฝูงกระทิง ไปจนกว่าจะเจอเป้าหมายที่เหมาะสม กระทั่งทำการล่าได้สำเร็จ



" ผมสังเกตเห็นว่า รอบนอกของทุ่งกว้างมีบางอย่างตั้งอยู่ เคนเนทเห็นอะไรบ้างไหม " อลันเอ่ยถาม 

" ฉันเห็นเหมือนกับว่า มันจะเป็นเครื่องยิงอะไรซักอย่างที่ตั้งเอาไว้รอบๆเขตแดนของทุ่งหญ้านะ ตรงจุดที่น่าจะเป็นที่สำหรับเฝ้าเวรยาม " เคนเนทตอบ 

" เข้าใจแล้วครับ " 

จุดเฝ้าระวังมีเครื่องมือที่ถูกติดตั้งไว้ มันคือเครื่องยิงธนูหน้าไม้ชนิดหนึ่ง มันใหญ่พอที่จะล้มวัวกระทิงหนึ่งตัวได้เลย จากการบอกเล่าของหลายคนที่เห็นเช่นเดียวกันนั้น อลันจึงสรุปแผนการในการล่าครั้งนี้ขึ้นมา ในบริเวณทุ่งกว้าง จะมีบริเวณที่ติดกับชายแดนซึ่งเป็นช่องแคบ และมีเครื่องยิงธนูถูกติดตั้งเอาไว้หลายเครื่องในจุดนี้เอง 

แผนการคือ การไล่ต้อนวันกระทิงให้เข้าไปสู่จุดที่ใกล้กับเครื่องยิงในช่องแคบมากที่สุด และสามารถจู่โจมเป้าหมายได้สำเร็จ 

กลุ่มของผู้เข้ารับการทดสอบ จึงถูกแบ่งออกเป็นหน่วยต่างๆคือ 

กลุ่มไล่ต้อนเป็นกลุ่มที่ต้องระวังอันตรายจากจากัวร์และคอยหาจังหวะในการไล่เป้าหมายที่เหมาะสมให้เข้าสู้เส้นทางที่วางแผนไว้

กลุ่มสังเกตุการณ์คือ กลุ่มที่คอยสังเกตความเป็นไปของสนามผู้ล่า และเฝ้าระวังความปลอดภัยซึ่งทำงานร่วมกับมีร่า คณะกรรมการผู้คอยเฝ้าดูอยู่พร้อมกับทหารที่ลาดตระเวนอยู่นอกค่าย เผื่อกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด 

กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่คอยประจำอยู่ตามจุดต่างๆของเครื่องยิงธนูหน้าไม้ในเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ และเป็นกลุ่มที่จะปิดจบแผนการณ์ล่าในครั้งนี้

 " พร้อมไหมทุกคน " อลันเอ่ยถามพร้อมกับมองหน้าเหล่าผู้เข้ารับการทดสอบ ที่ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆตามแผนการที่วางเอาไว้ 

" พร้อม! " เคนเนทยื่นมือเข้าหาเพื่อนทั้งสองที่ล้อมวงเข้ามา อลันและคริสตัลต่างวางมือลงบนหลังมือของเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนจับมือประสานกันเพื่อความสามัคคี " พร้อม! " 

" ระวังตัวด้วยนะ ทั้งสองคน " คริสตัลพูดด้วยความเป็นห่วงเด็กหนุ่มทั้งสองที่ต้องเข้าสู่สนามนักล่าในครั้งนี้ เธอเป็นคนที่คอยสังเกตการณ์อยู่บริเวณค่ายในที่สูงของหอเฝ้าระวังด้วยกล้องส่องทางไกล และคอยส่งสัญญาณในการเริ่มต้นออกล่าสัตว์ 

ระหว่างที่ทุกคนกำลังวางแผนกันอยู่นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของลาพิสและคาอิมเท่านั้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ คริสตัลมองเห็นลาพิส พี่สาวของตนเดินกลับมาจากทุ่งหญ้ากว้างด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด เนื้อตัวดูมอมแมม " ไอ้บ้านั่นกล้าดียังไง! มาใช้ฉันทำแบบนี้ " พร้อมด้วยเสียงกร่นด่าของเธอ และเดินจากไปโดยไม่สนใจแผนการของพวกอลันเลย 

' พี่ลาพิส วางแผนอะไรกันอยู่นะ ' คริสตัลนึกขึ้น



ในระหว่างนั้นกลุ่มของผู้ที่ประจำการอยู่ที่เครื่องยิงธนู กำลังเดินเข้าสู่ตำแหน่งของตน อลันเห็นว่าบรู๊คที่เป็นคนติดตามลาพิสนั้น มารออยู่ก่อนแล้วทั้งๆที่ไม่ได้วางแผนนัดแนะกัน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ

ตำแหน่งเครื่องยิง ชูแขนยกนิ้วเป็นสัญญาณให้กับกลุ่มของผู้ไล่ต้อนว่าพร้อมประจำตำแหน่ง 

' ลูกธนูนี่คงยิงได้แค่รอบละครั้งเดียวเท่านั้น ' อลัน คิดคำนวนการเติมลูกดอกธนูเข้าไปใหม่คงใช้เวลานานเกินไป หากฝูงกระทิงวิ่งผ่านตำแหน่งไปคงหมดโอกาส ถ้ายิงพลาด 

กลุ่มไล่ต้อนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มหลักที่คอยไล่ท้ายฝูง และกลุ่มรองที่คอยเปลี่ยนเส้นทางให้เป็นไปตามแผน 

เมื่อทุกกลุ่มเข้าประจำที่แล้ว กลุ่มเฝ้าระวังจะคอยให้สัญญาณในการเริ่มต้น หลังจากที่ผู้ล่าเจ้าถิ่นออกจู่โจมเหยื่อ รอในตำแหน่งเหมาะสมที่ทิศใต้กระแสลม 

สายลมพัดผ่านยอดหญ้าปลิวไสว ผู้ล่าก้าวย่างเดิน สายตาของมันจับจ้องไปที่เป้าหมาย รอจังหวะที่เหมาะสม และแล้วเกมการล่าก็เริ่มต้นขึ้น เสือจากัวร์ออกวิ่งไล่ฝูงวัวกระทิงในขณะนี้ 

กลุ่มผู้เฝ้าระวังจึงยกมือขึ้นให้สัญญาณในทันที 

" พวกเราลุย!! " เคนเนทชูมือขึ้นออกวิ่งนำกลุ่มไล่ต้อน ฝีเท้าของเหล่านักล่าเด็กหนุ่มตะกุยฝุ่นฟุ้งขึ้นมา พวกเขาไล่ตามเสือจากัวร์ไป นักล่าเจ้าถิ่นที่เห็นมนุษย์กลุ่มใหญ่ไล่ตามมา มันจึงหาเป้าหมายของมันและผละตัวออกจากฝูงวัวกระทิง ตามสัญชาตญาณในทันใด

เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการทดสอบทั้งหลาย ดำเนินตามแผนการที่ตั้งใจไว้ 

' เยี่ยม! สำเร็จแน่คราวนี้ ' เคนเนทนึกขึ้นพร้อมด้วยความฮึกเหิม อีกกลุ่มเข้ามาสมทบเพื่อต้อนฝูงกระทิงไปยังเส้นทาง 

เบื้องหน้าหน่วยจู่โจมกำลังเตรียมตัวพร้อม แผนกลยุทธ์นี้ยอดเยี่ยมลงตัวจริงๆ 



แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กหนุ่มผู้ซุ่มโจมตีฝูงวัวกระทิงอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น คาอิมกระโจนขึ้นจากผืนดินที่ใช้พุ่มไม้พรางตัวไว้ ปิดใบหน้าไว้ด้วยผ้าอย่างมิดชิด พร้อมด้วยดาบเล่มยาว 

เข้าจู่โจมวัวกระทิงตัวโตเต็มวัยอย่างฉับพลันทันที " ฉึก! " ดาบยาวแทงเข้ากลางลำคอของกระทิงตัวใหญ่อย่างแม่นยำ เขาถีบตัวออกจากวัวกระทิงเพื่อหลบเลี่ยงอันตรายอย่างว่องไว 

" ฟิ่วว... ฉึก!! " ลูกดอกของเครื่องยิงธนูถูกยิงตามออกมาในทันควัน บรู๊คเล็งยิงได้เข้าเป้า 

วิธีการล่าสัตว์ของชนเผ่าทะเลทราย เป็นวิธีการที่อันตรายมาก ต้องอาศัยผู้ที่มีฝีมือ ว่องไวและความอดทนยอดเยี่ยม ถึงแม้เขาจะเป็นเด็กหนุ่ม แต่คาอิมคือผู้พิชิตที่ฝึกฝนตนเอง จนได้รับการยอมรับจากชนเผ่าควาคู รอยสักบนหัวไหล่นั่นคือเครื่องหมายยืนยัน

" อะไรวะนั่น!! " เคนเนทที่ไล่ต้อนฝูงกระทิงมา ต้องตกใจตาเบิกโพลงขึ้น 

" ตึง!! " ไบซันตัวใหญ่ล้มลงเสียงดังสนั่น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการแตกฝูงเพราะความตื่นตระหนกของทั้งฝูง กระทิงตัวเต็มวัยล้มลงหน้าฝูง ทำให้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของพวกมันพลุ่งพล่าน แต่ละตัวต่างวิ่งเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น 

และเป็นผลให้แผนการที่วางเอาไว้พังพินาศลงในทันทีทันใด

" เวรแล้ว! " เคนเนทอุทานขึ้นเสียงดัง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือวัวกระทิงหลุดฝูงหลายตัวกำลังพุ่งเข้าใส่เครื่องยิงธนูที่มีอลันคอยประจำการอยู่ 

" แย่แล้ว! คุณมีร่าคะ!! " คริสตัลที่จับตาดูสถานการณ์อยู่ตะโกนขอความช่วยเหลือ มีร่าไม่รั้งรอที่จะเข้าสู่สนามเพื่อกู้สถานการณ์อย่างทันท่วงที แต่ระยะทางก็ไกลเกินกว่ามีร่าจะเข้าถึงตัวอลันได้ในทันที

" หลบเร็วเข้า อลัน!! " เคนเนททิ้งอาวุธวิ่งเข้าหาเพื่อนในอึดใจเดียว 



' มีโอกาสเดียวเท่านั้น ' อลันคิดในใจ ความมุ่งมั่นบวกกับสมาธิอันแรงกล้า สัญชาตญาณผู้ล่าในตัวของเขา ปลุกพลังให้กับอัญมณีสีแดงของผู้พิชิตตอบรับ เครื่องยิงธนูที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธให้แก่กองทัพ ติดตั้งอัญมณีสำหรับเสริมพลังในการยิง 

แสงสว่างสีแดงส่องแสงเป็นประกายขึ้น ในพริบตาเดียวนั้น " ฟุ่บ!! " ลูกดอกออกจากร่องยิงด้วยความไวและรุนแรง " ฉึก!! " 

เข้าเป้าอย่างแม่นยำ ลูกธนูโดนเข้ากลางแผ่นอกของกระทิงเต็มๆตรงจุดตาย " ตึง!! " มันกลิ้งคะมำล้มลง

" สำเร็จ! " เด็กหนุ่มยืนขึ้นดีใจ จนไม่ทันได้สังเกตว่ากระทิงที่เหลือกำลังพุ่งตรงมาหาตัวเองในตอนนั้น 

" หลบเร็ว!! " เคนเนทวิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต คว้าเอาตัวอลันเอาไว้ในทันที ทั้งคู่ล้มกลิ้งกระเสือกกระสนพลันเข้าหลบหลังต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนั้น 

วัวกระทิงแตกฝูงวิ่งเข้าชนเครื่องยิงธนูพังเละเทะไม่มีชิ้นดี แผนการที่วางเอาไว้พังทลายลงในพริบตา 



" พวกเธอเป็นอะไรไหม " มีร่าเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ 

" บ้าเอ๊ย! อลัน ทำไมไม่รีบหลบ " เคนเนทอุทานขึ้น 

" ขอโทษครับ ผมตั้งใจมากไปหน่อยจนลืมดูรอบข้าง " 

ธงขอความช่วยเหลือถูกยกขึ้นทั่วสนาม เหล่าทหารและมีร่าต่างเข้าช่วยทุกคน ภายหลังเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น แสงสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง ไปพร้อมกับการทดสอบในรอบที่สอง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บร้ายแรง



และแล้วก็ถึงช่วงพลบค่ำที่ทุกคนมาร่วมตัวกันที่ค่าย เพื่อรอผลการตรวจนับคะแนน 

" ทั้งสองคนเป็นอะไรหรือเปล่า บาดเจ็บตรงไหนไหม " คริสตัลเป็นห่วงเพื่อนเอ่ยถามขึ้น แต่ทว่าเคนเนทไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย ด้วยความเดือดดาล เขาตรงดิ่งเข้าไปกระชากเสื้อของคาอิมในทันที 

" มึงจะฆ่าทุกคนหรือไงวะ!! " เขาแผดเสียงดังจนความเงียบเข้ากลืนกินทุกคน ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำพูดออกมา 

เด็กหนุ่มจากชนเผ่าชำเลืองมองกลับอย่างเยือกเย็น

" ยังจะมองหน้าอีก ขอสักทีเหอะวะ ! " เคนเนทง้างมือขึ้น " เคนเนท!! " เพื่อนทั้งสองพยายามห้ามปราม 



" แกเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า " 

" ว่าไงนะ? " 

" ดูเหมือนว่าพวกแกทุกคนจะเข้าใจอะไรผิดไป นี่คือบททดสอบของผู้พิชิต จุดประสงค์หลักของการเป็นผู้พิชิตคือ พลังที่จะพิชิตทุกสิ่งบนพื้นพิภพนี้ 

ผู้ล่าที่อยู่สูงสุดในห่วงโซ่ไง " 

คาอิมพูดถูก จุดยืนที่แม่ทัพแม็กซ์เวลพยายามจะบอกกับพวกเขาก็คือ การที่จะเป็นผู้พิชิตหมายถึง ผู้ที่แสวงหาพลังเพื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แน่นอนว่าในสนามรบที่เดิมพันด้วยชีวิต ความผิดพลาดหมายถึงจุดจบ ผู้พิชิตที่ไร้ซึ่งพลังจะต้องพบกับความพ่ายแพ้

ไม่ต่างจากนักล่า หากพวกมันพลาดย่อมหมายถึงชีวิต บางครั้งผู้ล่าก็กลายเป็นผู้ถูกล่าได้เช่นกัน เสือจากัวร์ถ้าหากการล่าของมันผิดพลาด โดนจู่โจมกลับโดยวัวกระทิงตัวใหญ่จนมันได้รับบาดเจ็บ การเอาชีวิตรอดของมันจะเป็นไปได้ยากขึ้น มันต้องอดอาหารเป็นอาทิตย์จนกว่าบาดแผลจะหายดีถึงจะออกล่าได้อีกครั้ง เลวร้ายกว่านั้นคือ การบาดเจ็บรุนแรงอาจจะทำให้มันกลายเป็นเหยื่อจากพวกนักล่าซากสัตว์ จำพวกหมาล่าเนื้อหรือแร้ง หรือแม้กระทั่งนักล่าประเภทอื่น 

" ในธรรมชาติ ผู้ล่ามันไม่สนวิธีการหรอกนะ 

 ผู้ล่าก็แค่ต้องล่าให้ได้ ผู้ถูกล่าก็ต้องหนีเอาตัวรอด แล้วพวกแกล่ะ เป็นผู้ล่าหรือเหยื่อกัน " คาอิมพูดด้วยสายตาที่เย็นชาทว่าแฝงด้วยความจริงจัง

" ไอ้บ้านี่... " เคนเนทสะอึกจนเถียงไม่ออก 

" เขาพูดถูกเคนเนท พวกเราต้องเอาตัวรอดให้ได้

ในการล่าสัตว์เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอด นักล่าเองก็เหมือนกัน " 

อลันพูดขึ้น เขาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดี 

" อลัน... "

" เออ! คราวหน้าถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฉันสาบานจะซัดแกให้ร่วงเลย คาอิม! " เคนเนทปล่อยมือจากคาอิม และเดินจากไปด้วยความฉุนเฉียว

" หึ.. " คาอิมเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร 

ไม่แปลกที่เคทเนทจะไม่ชอบหน้าคาอิม ทั้งลักษณะนิสัยที่ตรงกันข้าม และเรื่องราวในอดีต

ครั้งหนึ่งในสงครามที่ผ่านมา พ่อและแม่ของเคนเนท เป็นผู้พิทักษ์ที่เข้าร่วมปกป้องชายแดนเมดิโอลัน และถูกฆ่าตายโดยฝีมือของทหารจากดาคาห์รี ซึ่งก็คือชนเผ่าควาคูในเวลานั้น เขาจึงเกลียดชาวดาคาห์รีและพวกชนเผ่ามาตั้งแต่ยังเด็ก

ผลลัพธ์ของสงครามส่งผลกระทบในแง่ร้ายกับทุกคน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ





ในเวลาต่อมา ก็ถึงช่วงเวลานับผลคะแนน

วัวกระทิงตัวเต็มวัย ตัวที่ใหญ่ที่สุดเป็นของทีมคาอิม 

' ใช้ดาบปักเข้าที่ลำคอ ตรงบริเวณหลอดลม วิธีการเดียวกับพวกเสือ จากนั้นจึงให้พลยิงธนู ยิงซ้ำจนแน่นิ่ง

ฝีมือแบบนี้... เด็กจากชนเผ่ารึ ' แม่ทัพแม็กซ์เวลกำลังตรวจสอบวัวกระทิงตัวนั้น ในแว่บหนึ่งแววตาของเขาก็ดูเศร้าหมองลง พลางคิดคำนึงถึงเรื่องราวบางอย่าง เช่นเดียวกับมีร่าที่มองดูผู้บัญชาการของตน ทั้งสองต่างมีความทรงจำในอดีตที่เกี่ยวกับชนเผ่าควาคู 

' ส่วนตัวนี้ ลูกดอกธนูแทงทะลุคอด้านล่าง เสียบเข้าจุดตายตรงหัวใจ พลยิงแม่นมาก หรือแค่สบจังหวะพอดีกันแน่ ' แม็กซ์เวลสำรวจวัวที่กลุ่มของอลันล่ามาได้



" เอาล่ะ คืนนี้พวกเจ้าคงต้องค้างคืนที่ค่ายของข้า มีร่าจะเป็นคนดูแลพวกเจ้าเอง " แม็กซ์เวลเอ่ยขึ้นเบาๆ เขาดูใจดีขึ้นมาก

" รับทราบค่ะ " มีร่าตอบรับ 



" ตามที่ได้บอกไว้ กระทิงตัวใหญ่เต็มวัย 100 คะแนน ส่วนที่เหลือคือ 60 และลูกกระทิง 10 คะแนน " 

สรุปผลคะแนน 

ทีมคาอิม 100 คะแนน ทีมอลัน 60 คะแนน 

ทีมอื่นๆ 60/10 คะแนนตามลำดับ 



" ทีมที่ล่าไม่ได้ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ถ้าทุกคนเข้าใจดีแล้ว ก็เป็นอันสิ้นสุดการสอบในวันนี้ " 

ทุกคนต่างเหนื่อยล้ามากในวันนี้ หมดแรงซะจนจะอ้าปากยังไม่ไหว เลยไม่มีใครทักท้วงอะไร 

" คืนนี้ทุกคนจะต้องค้างคืนที่นี่ แต่ละทีมเชิญเลือกเต็นท์พักผ่อนได้ตามสะดวก ข้าจะให้ทหารเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้ทุกคน 

หลังจากพักผ่อนกันแล้ว ขอเชิญทุกคนมาร่วมทานอาหารกันที่กองเพลิงกลางค่ายทหาร " มีร่ากล่าวกับทุกคน 



ภายหลังจากที่สิ้นสุดการนับผลคะแนน ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนล้างเนื้อล้างตัว เต็นท์ที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหลับนอนถูกแยกชายและหญิงออกจากกัน

" เฮ้อออ... เหนื่อยชะมัด " เคนเนทบ่นๆ 

" หมดแรงแล้วล่ะ... " อลันเองก็ดูอ่อนเพลีย

" ให้คริสตัลไปพักกับลาพิส จะไม่เป็นไรเหรอ ยัยนั่นอะ... " 

" เคนเนท... " อลันสะกิดเคนเนท 

" อ้าว.. โทษทีลืมไป " 

บรู๊ค เด็กหนุ่มท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม เป็นผู้ติดตามของลาพิส ตอนนี้มาพักอยู่กับพวกอลัน และดูท่าทางซึมๆ 

" สวัสดีครับ นายชื่อ บรู๊ค ใช่ไหม ผมชื่อว่า อลัน นะ " อลันกล่าวทักทาย " ฉันชื่อ เคนเนท " เคนเนทเอ่ยทัก

" สะ.. สวัสดีครับ ผมชื่อว่า บรู๊ค " บรู๊คตอบกลับ 

" เป็นไงมาไงถึงได้มาตามยัยลาพิสได้ " เคนเนทโพล่งขึ้นมา 

" เคนเนท! " อลันพูดดุ



" ไม่เป็นไรหรอกครับ คือว่า.. 

ครอบครัวผมเคยดูแลเป็นข้ารับใช้ให้กับตระกูลเรนนาร์ด ( Rennard ) ตระกูลเรนนาร์ดเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ ครอบครัวผมคอยรับใช้มาหลายชั่วอายุแล้วครับ " บรู๊คเล่า

" นายเลยต้องมาตามยัยลาพิสต้อยๆอะนะ " เคนเนทพูดโพล่ง

 "ไม่ใช่ๆแบบนั้นหรอกครับ ผมอาสามาเอง 

เมื่อสามปีก่อนคุณหนูลาพิสเคยสอบตกการคัดเลือก ในปีนั้นมีแค่ทีมที่มาจากชนเผ่าควาคู เพียงแค่หกคนเท่านั้นที่สอบผ่าน

หลังจากนั้นคุณหนูลาพิส เลยหมดความมั่นใจและกลัวการสอบขึ้นมา ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของคุณหนูที่จะสอบได้ หากว่าคุณหนูสอบไม่ผ่าน ตระกูลเรนนาร์ดจะไม่มีอำนาจทางการเมืองจากทางสมาคมของผู้ควบคุมครับ ผมเลยขออาสามาช่วยให้คุณหนูสอบผ่านครับ " บรู๊คเล่าให้ทั้งสองคนฟัง ท่ามกลางความงงงวยของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการบ้านการเมืองนักหรอก



ตอนนั้นเอง " แก๊งๆๆๆ แก๊งๆๆๆ " เสียงของทหารนายหนึ่ง เคาะเรียกทุกๆคนให้มาร่วมทานอาหารมื้อค่ำ 

" หู้ววว.... เนื้ออออ " เคนเนทดีใจหน้าระรื่น

" เคนเนท ชอบกินเนื้อจริงๆเลย "

" ผมก็ชอบนะ บ้านผมล่าสัตว์กันเป็นประจำ " บรู๊คเอ่ย ครอบครัวของเขาเป็นนักล่าสัตว์ บรู๊คจึงมีฝีมือการยิงธนูและวางกับดักได้อย่างยอดเยี่ยม แผนการที่เขาสร้างขึ้นร่วมกับทีม จึงลุล่วงไปได้ด้วยดีทีเดียว 

" จริงหรอ เอาไว้เราไปล่าสัตว์ด้วยกันมั่งไหม " อลัน พูดชวน " ไปสิครับ " บรู๊คยิ้มตอบ

ทุกคนต่างสนุกสนามเมื่อได้พักผ่อนหย่อนใจ ร่วมทานอาหารค่ำไปด้วยกันรอบๆกองเพลิง พร้อมกับเพลงที่เหล่าทหารต่างร้องเล่นบรรเลง เพลิดเพลินไปกับความสุขเล็กๆในค่ายแห่งนี้ มิตรภาพใหม่ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นในค่ำคืนนี้อีกครั้ง 



ทว่า...

มีร่า ยังคงยืนมองจ้องไปในความมืดมิดนอกค่ายทหาร ไกลออกไปในราตรีอันเงียบสงัด 

ณ จุดเฝ้าเวรยามของทหารนอกค่าย

" แกว๊ก... " 

อีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ไหล่ของนายทหาร ในจุดเฝ้าระวังภัยใกล้กับชายแดน

ทหารนายนั้น หน้าขาวโพลนซีดเผือดแววตาเบิกโพลง นั่งนิ่งเงียบราวกับซากศพ โลหิตไหลซึมออกจากใต้คางของเขา 

ขณะนั้นเองดวงตาของอีกา ก็ดูเปลี่ยนไปราวกับดวงตาของมนุษย์อย่างน่าประหลาด

" เห้ย... เห้ย... ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าเข้าไปไม่ถึงค่ายหรอก โยชิคาซึ (yoshikazu) " อีกาตัวนั้นพูดภาษามนุษย์ออกมาด้วยเสียงแหบแห้งกระด้างปาก 

" อา... อยู่ตรงนี้ข้าก็มองเห็นได้น่า " เขาตอบ

" ขืนเข้าไปใกล้กว่านี้อีกนิด นางได้เห็นเจ้าแน่ " 

" สิ่งที่นางเห็นคงเป็นใบหน้าทหาร ของแม่ทัพผู้เป็นที่รักของนางไง ฮี่ๆ... " เขาขำอย่างน่าสะอิดสะเอียนในลำคอ " มีร่า... มีร่า ข้าชอบใบหน้าของเจ้าซะจริง "

" ข้าให้เจ้ามาดูเจ้าเด็กนั่น เห็นแล้วรึยัง " อีกาพูด 

" ข้าเห็นแล้ว ก็แค่เด็กธรรมดา ไม่เห็นจะมีพลังอะไร " 

" ไหงเป็นงั้นวะ ข้อมูลที่ได้มาผิดหรือไง " 

" จะไปรู้หรือ... แต่ข้ามองไม่ผิดแน่ " 

" เห็นว่าปีนี้มีเด็กชนเผ่าควาคูเข้าสอบด้วยนี่ " 

" เออ... ก็มีอยู่คนนึง "



" อย่างน้อยก็มีข่าวไปรายงานละวะ ข้าไปก่อนล่ะ รีบๆถอยได้แล้ว ก่อนที่นางจะมาเจอพวกเรา " อีกาพูดจบก็พลันบินจากไปในความมืดอันยะเยือกของราตรี

" มีร่า... ฮี่ๆๆ ข้าต้องเอาใบหน้าของเจ้ามาเป็นคอลเลคชั่นของข้าให้ได้ ฮี่ๆๆ... " ทหารนายนั้นค่อยๆลอกเอาผิวหนังใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดออก และเคลื่อนย้ายร่างถอยหลังออกไป เหลือไว้เพียงใบหน้าโชกเลือด เร้นกายหายเข้าสู่เงามืดของสนธยา 

ยามเมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมา เบื้องหลังคือของร่างอันไร้วิญญาณของทหารสองนาย เสียชีวิตนอนจมกองเลือด น่าเวทนาระคนสยดสยองร่างกายนั้นเปลือยเปล่า และใบหน้าที่คว่ำลงบนพื้น เหล่านักล่ายามค่ำคืนเข้ามาสิงสู่บนยอดไม้เพื่อรอเวลาอาหารของมัน 

นักฆ่าจากดาคาห์รี ลอบเข้ามายังชายแดนเพื่อข้อมูลบางอย่าง ผู้ล่ากลุ่มใหม่เข้าสู่กระดานแล้ว


จบตอน.