การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผู้พิชิต...
...ชีวิตจักมอบให้แก่ผู้พิชิตเท่านั้น จงอย่ายอมรับสิ่งที่ได้มาจากการยอมแพ้
ถ้าหากเรากำจัดผู้ล่าออกไป ระบบนิเวศทั้งหมดจะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว สมดุลของผู้ล่าและเหยื่อจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
สำหรับมนุษย์แล้วการล่า อาจหมายถึงการบ่งบอกถึง 'อำนาจ' ของตน มันมีมาอย่างช้านานในทุกยุคทุกสมัย การล่าสัตว์เพื่อความบันเทิง ซึ่งจะแสดงถึงฐานะที่ยิ่งใหญ่ของผู้ล่า
แต่ในธรรมชาติการล่าคือการหาอาหารของสัตว์นักล่า มันคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบบนิเวศ
อลัน รู้และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาตินี้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมุ่งมั่นมองออกไปนอกทุ่งกว้างอย่างแน่วแน่ สายตาที่จดจ้องไปยังสนามของผู้ล่า พื้นที่แห่งนี้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด เฉกเช่นโลกใบนี้มันคือความจริงของวัฎจักรตามธรรมชาติ ด้วยมันสมองและสติปัญญาของมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราอยู่เหนือกฎเกณฑ์นี้
ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการล่าสัตว์กับตาของเขา สัญชาตญาณของนักล่าที่แอบแฝงอยู่ในตัว ทำให้อลันคิดแผนการขึ้นมาจากการสังเกตสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด ภายในพื้นที่นี้มีผู้ล่าเจ้าถิ่น คือจากัวร์เขี้ยวดาบ การที่จะออกล่าเหยื่อในขณะที่มีมันอยู่ด้วยนั้น จะต้องทำตัวประหนึ่งเป็นผู้ล่าเช่นเดียวกับมัน ตัวอย่างที่แม่ทัพได้แสดงให้เห็น คือการที่มนุษย์เราไม่เข้าไปขวางทางระหว่างผู้ล่าและเหยื่อ
กลุ่มของทหารที่ดักซุ่มรออยู่นั้น ต้องอาศัยอยู่ใต้ลมเพื่อไม่ให้เจ้าถิ่นนั้นได้กลิ่น รอจังหวะที่มันออกไล่ล่าและไล่ต้อนฝูงกระทิง ไปจนกว่าจะเจอเป้าหมายที่เหมาะสม กระทั่งทำการล่าได้สำเร็จ
" ผมสังเกตเห็นว่า รอบนอกของทุ่งกว้างมีบางอย่างตั้งอยู่ เคนเนทเห็นอะไรบ้างไหม " อลันเอ่ยถาม
" ฉันเห็นเหมือนกับว่า มันจะเป็นเครื่องยิงอะไรซักอย่างที่ตั้งเอาไว้รอบๆเขตแดนของทุ่งหญ้านะ ตรงจุดที่น่าจะเป็นที่สำหรับเฝ้าเวรยาม " เคนเนทตอบ
" เข้าใจแล้วครับ "
จุดเฝ้าระวังมีเครื่องมือที่ถูกติดตั้งไว้ มันคือเครื่องยิงธนูหน้าไม้ชนิดหนึ่ง มันใหญ่พอที่จะล้มวัวกระทิงหนึ่งตัวได้เลย จากการบอกเล่าของหลายคนที่เห็นเช่นเดียวกันนั้น อลันจึงสรุปแผนการในการล่าครั้งนี้ขึ้นมา ในบริเวณทุ่งกว้าง จะมีบริเวณที่ติดกับชายแดนซึ่งเป็นช่องแคบ และมีเครื่องยิงธนูถูกติดตั้งเอาไว้หลายเครื่องในจุดนี้เอง
แผนการคือ การไล่ต้อนวันกระทิงให้เข้าไปสู่จุดที่ใกล้กับเครื่องยิงในช่องแคบมากที่สุด และสามารถจู่โจมเป้าหมายได้สำเร็จ
กลุ่มของผู้เข้ารับการทดสอบ จึงถูกแบ่งออกเป็นหน่วยต่างๆคือ
กลุ่มไล่ต้อนเป็นกลุ่มที่ต้องระวังอันตรายจากจากัวร์และคอยหาจังหวะในการไล่เป้าหมายที่เหมาะสมให้เข้าสู้เส้นทางที่วางแผนไว้
กลุ่มสังเกตุการณ์คือ กลุ่มที่คอยสังเกตความเป็นไปของสนามผู้ล่า และเฝ้าระวังความปลอดภัยซึ่งทำงานร่วมกับมีร่า คณะกรรมการผู้คอยเฝ้าดูอยู่พร้อมกับทหารที่ลาดตระเวนอยู่นอกค่าย เผื่อกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่คอยประจำอยู่ตามจุดต่างๆของเครื่องยิงธนูหน้าไม้ในเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ และเป็นกลุ่มที่จะปิดจบแผนการณ์ล่าในครั้งนี้
" พร้อมไหมทุกคน " อลันเอ่ยถามพร้อมกับมองหน้าเหล่าผู้เข้ารับการทดสอบ ที่ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆตามแผนการที่วางเอาไว้
" พร้อม! " เคนเนทยื่นมือเข้าหาเพื่อนทั้งสองที่ล้อมวงเข้ามา อลันและคริสตัลต่างวางมือลงบนหลังมือของเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนจับมือประสานกันเพื่อความสามัคคี " พร้อม! "
" ระวังตัวด้วยนะ ทั้งสองคน " คริสตัลพูดด้วยความเป็นห่วงเด็กหนุ่มทั้งสองที่ต้องเข้าสู่สนามนักล่าในครั้งนี้ เธอเป็นคนที่คอยสังเกตการณ์อยู่บริเวณค่ายในที่สูงของหอเฝ้าระวังด้วยกล้องส่องทางไกล และคอยส่งสัญญาณในการเริ่มต้นออกล่าสัตว์
ระหว่างที่ทุกคนกำลังวางแผนกันอยู่นั้น มีเพียงแค่กลุ่มของลาพิสและคาอิมเท่านั้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ คริสตัลมองเห็นลาพิส พี่สาวของตนเดินกลับมาจากทุ่งหญ้ากว้างด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด เนื้อตัวดูมอมแมม " ไอ้บ้านั่นกล้าดียังไง! มาใช้ฉันทำแบบนี้ " พร้อมด้วยเสียงกร่นด่าของเธอ และเดินจากไปโดยไม่สนใจแผนการของพวกอลันเลย
' พี่ลาพิส วางแผนอะไรกันอยู่นะ ' คริสตัลนึกขึ้น
ในระหว่างนั้นกลุ่มของผู้ที่ประจำการอยู่ที่เครื่องยิงธนู กำลังเดินเข้าสู่ตำแหน่งของตน อลันเห็นว่าบรู๊คที่เป็นคนติดตามลาพิสนั้น มารออยู่ก่อนแล้วทั้งๆที่ไม่ได้วางแผนนัดแนะกัน แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
ตำแหน่งเครื่องยิง ชูแขนยกนิ้วเป็นสัญญาณให้กับกลุ่มของผู้ไล่ต้อนว่าพร้อมประจำตำแหน่ง
' ลูกธนูนี่คงยิงได้แค่รอบละครั้งเดียวเท่านั้น ' อลัน คิดคำนวนการเติมลูกดอกธนูเข้าไปใหม่คงใช้เวลานานเกินไป หากฝูงกระทิงวิ่งผ่านตำแหน่งไปคงหมดโอกาส ถ้ายิงพลาด
กลุ่มไล่ต้อนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มหลักที่คอยไล่ท้ายฝูง และกลุ่มรองที่คอยเปลี่ยนเส้นทางให้เป็นไปตามแผน
เมื่อทุกกลุ่มเข้าประจำที่แล้ว กลุ่มเฝ้าระวังจะคอยให้สัญญาณในการเริ่มต้น หลังจากที่ผู้ล่าเจ้าถิ่นออกจู่โจมเหยื่อ รอในตำแหน่งเหมาะสมที่ทิศใต้กระแสลม
สายลมพัดผ่านยอดหญ้าปลิวไสว ผู้ล่าก้าวย่างเดิน สายตาของมันจับจ้องไปที่เป้าหมาย รอจังหวะที่เหมาะสม และแล้วเกมการล่าก็เริ่มต้นขึ้น เสือจากัวร์ออกวิ่งไล่ฝูงวัวกระทิงในขณะนี้
กลุ่มผู้เฝ้าระวังจึงยกมือขึ้นให้สัญญาณในทันที
" พวกเราลุย!! " เคนเนทชูมือขึ้นออกวิ่งนำกลุ่มไล่ต้อน ฝีเท้าของเหล่านักล่าเด็กหนุ่มตะกุยฝุ่นฟุ้งขึ้นมา พวกเขาไล่ตามเสือจากัวร์ไป นักล่าเจ้าถิ่นที่เห็นมนุษย์กลุ่มใหญ่ไล่ตามมา มันจึงหาเป้าหมายของมันและผละตัวออกจากฝูงวัวกระทิง ตามสัญชาตญาณในทันใด
เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการทดสอบทั้งหลาย ดำเนินตามแผนการที่ตั้งใจไว้
' เยี่ยม! สำเร็จแน่คราวนี้ ' เคนเนทนึกขึ้นพร้อมด้วยความฮึกเหิม อีกกลุ่มเข้ามาสมทบเพื่อต้อนฝูงกระทิงไปยังเส้นทาง
เบื้องหน้าหน่วยจู่โจมกำลังเตรียมตัวพร้อม แผนกลยุทธ์นี้ยอดเยี่ยมลงตัวจริงๆ
แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กหนุ่มผู้ซุ่มโจมตีฝูงวัวกระทิงอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น คาอิมกระโจนขึ้นจากผืนดินที่ใช้พุ่มไม้พรางตัวไว้ ปิดใบหน้าไว้ด้วยผ้าอย่างมิดชิด พร้อมด้วยดาบเล่มยาว
เข้าจู่โจมวัวกระทิงตัวโตเต็มวัยอย่างฉับพลันทันที " ฉึก! " ดาบยาวแทงเข้ากลางลำคอของกระทิงตัวใหญ่อย่างแม่นยำ เขาถีบตัวออกจากวัวกระทิงเพื่อหลบเลี่ยงอันตรายอย่างว่องไว
" ฟิ่วว... ฉึก!! " ลูกดอกของเครื่องยิงธนูถูกยิงตามออกมาในทันควัน บรู๊คเล็งยิงได้เข้าเป้า
วิธีการล่าสัตว์ของชนเผ่าทะเลทราย เป็นวิธีการที่อันตรายมาก ต้องอาศัยผู้ที่มีฝีมือ ว่องไวและความอดทนยอดเยี่ยม ถึงแม้เขาจะเป็นเด็กหนุ่ม แต่คาอิมคือผู้พิชิตที่ฝึกฝนตนเอง จนได้รับการยอมรับจากชนเผ่าควาคู รอยสักบนหัวไหล่นั่นคือเครื่องหมายยืนยัน
" อะไรวะนั่น!! " เคนเนทที่ไล่ต้อนฝูงกระทิงมา ต้องตกใจตาเบิกโพลงขึ้น
" ตึง!! " ไบซันตัวใหญ่ล้มลงเสียงดังสนั่น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการแตกฝูงเพราะความตื่นตระหนกของทั้งฝูง กระทิงตัวเต็มวัยล้มลงหน้าฝูง ทำให้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของพวกมันพลุ่งพล่าน แต่ละตัวต่างวิ่งเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น
และเป็นผลให้แผนการที่วางเอาไว้พังพินาศลงในทันทีทันใด
" เวรแล้ว! " เคนเนทอุทานขึ้นเสียงดัง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือวัวกระทิงหลุดฝูงหลายตัวกำลังพุ่งเข้าใส่เครื่องยิงธนูที่มีอลันคอยประจำการอยู่
" แย่แล้ว! คุณมีร่าคะ!! " คริสตัลที่จับตาดูสถานการณ์อยู่ตะโกนขอความช่วยเหลือ มีร่าไม่รั้งรอที่จะเข้าสู่สนามเพื่อกู้สถานการณ์อย่างทันท่วงที แต่ระยะทางก็ไกลเกินกว่ามีร่าจะเข้าถึงตัวอลันได้ในทันที
" หลบเร็วเข้า อลัน!! " เคนเนททิ้งอาวุธวิ่งเข้าหาเพื่อนในอึดใจเดียว
' มีโอกาสเดียวเท่านั้น ' อลันคิดในใจ ความมุ่งมั่นบวกกับสมาธิอันแรงกล้า สัญชาตญาณผู้ล่าในตัวของเขา ปลุกพลังให้กับอัญมณีสีแดงของผู้พิชิตตอบรับ เครื่องยิงธนูที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธให้แก่กองทัพ ติดตั้งอัญมณีสำหรับเสริมพลังในการยิง
แสงสว่างสีแดงส่องแสงเป็นประกายขึ้น ในพริบตาเดียวนั้น " ฟุ่บ!! " ลูกดอกออกจากร่องยิงด้วยความไวและรุนแรง " ฉึก!! "
เข้าเป้าอย่างแม่นยำ ลูกธนูโดนเข้ากลางแผ่นอกของกระทิงเต็มๆตรงจุดตาย " ตึง!! " มันกลิ้งคะมำล้มลง
" สำเร็จ! " เด็กหนุ่มยืนขึ้นดีใจ จนไม่ทันได้สังเกตว่ากระทิงที่เหลือกำลังพุ่งตรงมาหาตัวเองในตอนนั้น
" หลบเร็ว!! " เคนเนทวิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต คว้าเอาตัวอลันเอาไว้ในทันที ทั้งคู่ล้มกลิ้งกระเสือกกระสนพลันเข้าหลบหลังต้นไม้ใหญ่ในบริเวณนั้น
วัวกระทิงแตกฝูงวิ่งเข้าชนเครื่องยิงธนูพังเละเทะไม่มีชิ้นดี แผนการที่วางเอาไว้พังทลายลงในพริบตา
" พวกเธอเป็นอะไรไหม " มีร่าเข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ
" บ้าเอ๊ย! อลัน ทำไมไม่รีบหลบ " เคนเนทอุทานขึ้น
" ขอโทษครับ ผมตั้งใจมากไปหน่อยจนลืมดูรอบข้าง "
ธงขอความช่วยเหลือถูกยกขึ้นทั่วสนาม เหล่าทหารและมีร่าต่างเข้าช่วยทุกคน ภายหลังเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น แสงสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง ไปพร้อมกับการทดสอบในรอบที่สอง โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บร้ายแรง
และแล้วก็ถึงช่วงพลบค่ำที่ทุกคนมาร่วมตัวกันที่ค่าย เพื่อรอผลการตรวจนับคะแนน
" ทั้งสองคนเป็นอะไรหรือเปล่า บาดเจ็บตรงไหนไหม " คริสตัลเป็นห่วงเพื่อนเอ่ยถามขึ้น แต่ทว่าเคนเนทไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยแม้แต่น้อย ด้วยความเดือดดาล เขาตรงดิ่งเข้าไปกระชากเสื้อของคาอิมในทันที
" มึงจะฆ่าทุกคนหรือไงวะ!! " เขาแผดเสียงดังจนความเงียบเข้ากลืนกินทุกคน ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำพูดออกมา
เด็กหนุ่มจากชนเผ่าชำเลืองมองกลับอย่างเยือกเย็น
" ยังจะมองหน้าอีก ขอสักทีเหอะวะ ! " เคนเนทง้างมือขึ้น " เคนเนท!! " เพื่อนทั้งสองพยายามห้ามปราม
" แกเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า "
" ว่าไงนะ? "
" ดูเหมือนว่าพวกแกทุกคนจะเข้าใจอะไรผิดไป นี่คือบททดสอบของผู้พิชิต จุดประสงค์หลักของการเป็นผู้พิชิตคือ พลังที่จะพิชิตทุกสิ่งบนพื้นพิภพนี้
ผู้ล่าที่อยู่สูงสุดในห่วงโซ่ไง "
คาอิมพูดถูก จุดยืนที่แม่ทัพแม็กซ์เวลพยายามจะบอกกับพวกเขาก็คือ การที่จะเป็นผู้พิชิตหมายถึง ผู้ที่แสวงหาพลังเพื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุด แน่นอนว่าในสนามรบที่เดิมพันด้วยชีวิต ความผิดพลาดหมายถึงจุดจบ ผู้พิชิตที่ไร้ซึ่งพลังจะต้องพบกับความพ่ายแพ้
ไม่ต่างจากนักล่า หากพวกมันพลาดย่อมหมายถึงชีวิต บางครั้งผู้ล่าก็กลายเป็นผู้ถูกล่าได้เช่นกัน เสือจากัวร์ถ้าหากการล่าของมันผิดพลาด โดนจู่โจมกลับโดยวัวกระทิงตัวใหญ่จนมันได้รับบาดเจ็บ การเอาชีวิตรอดของมันจะเป็นไปได้ยากขึ้น มันต้องอดอาหารเป็นอาทิตย์จนกว่าบาดแผลจะหายดีถึงจะออกล่าได้อีกครั้ง เลวร้ายกว่านั้นคือ การบาดเจ็บรุนแรงอาจจะทำให้มันกลายเป็นเหยื่อจากพวกนักล่าซากสัตว์ จำพวกหมาล่าเนื้อหรือแร้ง หรือแม้กระทั่งนักล่าประเภทอื่น
" ในธรรมชาติ ผู้ล่ามันไม่สนวิธีการหรอกนะ
ผู้ล่าก็แค่ต้องล่าให้ได้ ผู้ถูกล่าก็ต้องหนีเอาตัวรอด แล้วพวกแกล่ะ เป็นผู้ล่าหรือเหยื่อกัน " คาอิมพูดด้วยสายตาที่เย็นชาทว่าแฝงด้วยความจริงจัง
" ไอ้บ้านี่... " เคนเนทสะอึกจนเถียงไม่ออก
" เขาพูดถูกเคนเนท พวกเราต้องเอาตัวรอดให้ได้
ในการล่าสัตว์เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอด นักล่าเองก็เหมือนกัน "
อลันพูดขึ้น เขาเป็นคนที่เข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดี
" อลัน... "
" เออ! คราวหน้าถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฉันสาบานจะซัดแกให้ร่วงเลย คาอิม! " เคนเนทปล่อยมือจากคาอิม และเดินจากไปด้วยความฉุนเฉียว
" หึ.. " คาอิมเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร
ไม่แปลกที่เคทเนทจะไม่ชอบหน้าคาอิม ทั้งลักษณะนิสัยที่ตรงกันข้าม และเรื่องราวในอดีต
ครั้งหนึ่งในสงครามที่ผ่านมา พ่อและแม่ของเคนเนท เป็นผู้พิทักษ์ที่เข้าร่วมปกป้องชายแดนเมดิโอลัน และถูกฆ่าตายโดยฝีมือของทหารจากดาคาห์รี ซึ่งก็คือชนเผ่าควาคูในเวลานั้น เขาจึงเกลียดชาวดาคาห์รีและพวกชนเผ่ามาตั้งแต่ยังเด็ก
ผลลัพธ์ของสงครามส่งผลกระทบในแง่ร้ายกับทุกคน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ
ในเวลาต่อมา ก็ถึงช่วงเวลานับผลคะแนน
วัวกระทิงตัวเต็มวัย ตัวที่ใหญ่ที่สุดเป็นของทีมคาอิม
' ใช้ดาบปักเข้าที่ลำคอ ตรงบริเวณหลอดลม วิธีการเดียวกับพวกเสือ จากนั้นจึงให้พลยิงธนู ยิงซ้ำจนแน่นิ่ง
ฝีมือแบบนี้... เด็กจากชนเผ่ารึ ' แม่ทัพแม็กซ์เวลกำลังตรวจสอบวัวกระทิงตัวนั้น ในแว่บหนึ่งแววตาของเขาก็ดูเศร้าหมองลง พลางคิดคำนึงถึงเรื่องราวบางอย่าง เช่นเดียวกับมีร่าที่มองดูผู้บัญชาการของตน ทั้งสองต่างมีความทรงจำในอดีตที่เกี่ยวกับชนเผ่าควาคู
' ส่วนตัวนี้ ลูกดอกธนูแทงทะลุคอด้านล่าง เสียบเข้าจุดตายตรงหัวใจ พลยิงแม่นมาก หรือแค่สบจังหวะพอดีกันแน่ ' แม็กซ์เวลสำรวจวัวที่กลุ่มของอลันล่ามาได้
" เอาล่ะ คืนนี้พวกเจ้าคงต้องค้างคืนที่ค่ายของข้า มีร่าจะเป็นคนดูแลพวกเจ้าเอง " แม็กซ์เวลเอ่ยขึ้นเบาๆ เขาดูใจดีขึ้นมาก
" รับทราบค่ะ " มีร่าตอบรับ
" ตามที่ได้บอกไว้ กระทิงตัวใหญ่เต็มวัย 100 คะแนน ส่วนที่เหลือคือ 60 และลูกกระทิง 10 คะแนน "
สรุปผลคะแนน
ทีมคาอิม 100 คะแนน ทีมอลัน 60 คะแนน
ทีมอื่นๆ 60/10 คะแนนตามลำดับ
" ทีมที่ล่าไม่ได้ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ถ้าทุกคนเข้าใจดีแล้ว ก็เป็นอันสิ้นสุดการสอบในวันนี้ "
ทุกคนต่างเหนื่อยล้ามากในวันนี้ หมดแรงซะจนจะอ้าปากยังไม่ไหว เลยไม่มีใครทักท้วงอะไร
" คืนนี้ทุกคนจะต้องค้างคืนที่นี่ แต่ละทีมเชิญเลือกเต็นท์พักผ่อนได้ตามสะดวก ข้าจะให้ทหารเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้ทุกคน
หลังจากพักผ่อนกันแล้ว ขอเชิญทุกคนมาร่วมทานอาหารกันที่กองเพลิงกลางค่ายทหาร " มีร่ากล่าวกับทุกคน
ภายหลังจากที่สิ้นสุดการนับผลคะแนน ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนล้างเนื้อล้างตัว เต็นท์ที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหลับนอนถูกแยกชายและหญิงออกจากกัน
" เฮ้อออ... เหนื่อยชะมัด " เคนเนทบ่นๆ
" หมดแรงแล้วล่ะ... " อลันเองก็ดูอ่อนเพลีย
" ให้คริสตัลไปพักกับลาพิส จะไม่เป็นไรเหรอ ยัยนั่นอะ... "
" เคนเนท... " อลันสะกิดเคนเนท
" อ้าว.. โทษทีลืมไป "
บรู๊ค เด็กหนุ่มท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม เป็นผู้ติดตามของลาพิส ตอนนี้มาพักอยู่กับพวกอลัน และดูท่าทางซึมๆ
" สวัสดีครับ นายชื่อ บรู๊ค ใช่ไหม ผมชื่อว่า อลัน นะ " อลันกล่าวทักทาย " ฉันชื่อ เคนเนท " เคนเนทเอ่ยทัก
" สะ.. สวัสดีครับ ผมชื่อว่า บรู๊ค " บรู๊คตอบกลับ
" เป็นไงมาไงถึงได้มาตามยัยลาพิสได้ " เคนเนทโพล่งขึ้นมา
" เคนเนท! " อลันพูดดุ
" ไม่เป็นไรหรอกครับ คือว่า..
ครอบครัวผมเคยดูแลเป็นข้ารับใช้ให้กับตระกูลเรนนาร์ด ( Rennard ) ตระกูลเรนนาร์ดเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ ครอบครัวผมคอยรับใช้มาหลายชั่วอายุแล้วครับ " บรู๊คเล่า
" นายเลยต้องมาตามยัยลาพิสต้อยๆอะนะ " เคนเนทพูดโพล่ง
"ไม่ใช่ๆแบบนั้นหรอกครับ ผมอาสามาเอง
เมื่อสามปีก่อนคุณหนูลาพิสเคยสอบตกการคัดเลือก ในปีนั้นมีแค่ทีมที่มาจากชนเผ่าควาคู เพียงแค่หกคนเท่านั้นที่สอบผ่าน
หลังจากนั้นคุณหนูลาพิส เลยหมดความมั่นใจและกลัวการสอบขึ้นมา ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของคุณหนูที่จะสอบได้ หากว่าคุณหนูสอบไม่ผ่าน ตระกูลเรนนาร์ดจะไม่มีอำนาจทางการเมืองจากทางสมาคมของผู้ควบคุมครับ ผมเลยขออาสามาช่วยให้คุณหนูสอบผ่านครับ " บรู๊คเล่าให้ทั้งสองคนฟัง ท่ามกลางความงงงวยของทั้งคู่ที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการบ้านการเมืองนักหรอก
ตอนนั้นเอง " แก๊งๆๆๆ แก๊งๆๆๆ " เสียงของทหารนายหนึ่ง เคาะเรียกทุกๆคนให้มาร่วมทานอาหารมื้อค่ำ
" หู้ววว.... เนื้ออออ " เคนเนทดีใจหน้าระรื่น
" เคนเนท ชอบกินเนื้อจริงๆเลย "
" ผมก็ชอบนะ บ้านผมล่าสัตว์กันเป็นประจำ " บรู๊คเอ่ย ครอบครัวของเขาเป็นนักล่าสัตว์ บรู๊คจึงมีฝีมือการยิงธนูและวางกับดักได้อย่างยอดเยี่ยม แผนการที่เขาสร้างขึ้นร่วมกับทีม จึงลุล่วงไปได้ด้วยดีทีเดียว
" จริงหรอ เอาไว้เราไปล่าสัตว์ด้วยกันมั่งไหม " อลัน พูดชวน " ไปสิครับ " บรู๊คยิ้มตอบ
ทุกคนต่างสนุกสนามเมื่อได้พักผ่อนหย่อนใจ ร่วมทานอาหารค่ำไปด้วยกันรอบๆกองเพลิง พร้อมกับเพลงที่เหล่าทหารต่างร้องเล่นบรรเลง เพลิดเพลินไปกับความสุขเล็กๆในค่ายแห่งนี้ มิตรภาพใหม่ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นในค่ำคืนนี้อีกครั้ง
ทว่า...
มีร่า ยังคงยืนมองจ้องไปในความมืดมิดนอกค่ายทหาร ไกลออกไปในราตรีอันเงียบสงัด
ณ จุดเฝ้าเวรยามของทหารนอกค่าย
" แกว๊ก... "
อีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ไหล่ของนายทหาร ในจุดเฝ้าระวังภัยใกล้กับชายแดน
ทหารนายนั้น หน้าขาวโพลนซีดเผือดแววตาเบิกโพลง นั่งนิ่งเงียบราวกับซากศพ โลหิตไหลซึมออกจากใต้คางของเขา
ขณะนั้นเองดวงตาของอีกา ก็ดูเปลี่ยนไปราวกับดวงตาของมนุษย์อย่างน่าประหลาด
" เห้ย... เห้ย... ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าเข้าไปไม่ถึงค่ายหรอก โยชิคาซึ (yoshikazu) " อีกาตัวนั้นพูดภาษามนุษย์ออกมาด้วยเสียงแหบแห้งกระด้างปาก
" อา... อยู่ตรงนี้ข้าก็มองเห็นได้น่า " เขาตอบ
" ขืนเข้าไปใกล้กว่านี้อีกนิด นางได้เห็นเจ้าแน่ "
" สิ่งที่นางเห็นคงเป็นใบหน้าทหาร ของแม่ทัพผู้เป็นที่รักของนางไง ฮี่ๆ... " เขาขำอย่างน่าสะอิดสะเอียนในลำคอ " มีร่า... มีร่า ข้าชอบใบหน้าของเจ้าซะจริง "
" ข้าให้เจ้ามาดูเจ้าเด็กนั่น เห็นแล้วรึยัง " อีกาพูด
" ข้าเห็นแล้ว ก็แค่เด็กธรรมดา ไม่เห็นจะมีพลังอะไร "
" ไหงเป็นงั้นวะ ข้อมูลที่ได้มาผิดหรือไง "
" จะไปรู้หรือ... แต่ข้ามองไม่ผิดแน่ "
" เห็นว่าปีนี้มีเด็กชนเผ่าควาคูเข้าสอบด้วยนี่ "
" เออ... ก็มีอยู่คนนึง "
" อย่างน้อยก็มีข่าวไปรายงานละวะ ข้าไปก่อนล่ะ รีบๆถอยได้แล้ว ก่อนที่นางจะมาเจอพวกเรา " อีกาพูดจบก็พลันบินจากไปในความมืดอันยะเยือกของราตรี
" มีร่า... ฮี่ๆๆ ข้าต้องเอาใบหน้าของเจ้ามาเป็นคอลเลคชั่นของข้าให้ได้ ฮี่ๆๆ... " ทหารนายนั้นค่อยๆลอกเอาผิวหนังใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดออก และเคลื่อนย้ายร่างถอยหลังออกไป เหลือไว้เพียงใบหน้าโชกเลือด เร้นกายหายเข้าสู่เงามืดของสนธยา
ยามเมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมา เบื้องหลังคือของร่างอันไร้วิญญาณของทหารสองนาย เสียชีวิตนอนจมกองเลือด น่าเวทนาระคนสยดสยองร่างกายนั้นเปลือยเปล่า และใบหน้าที่คว่ำลงบนพื้น เหล่านักล่ายามค่ำคืนเข้ามาสิงสู่บนยอดไม้เพื่อรอเวลาอาหารของมัน
นักฆ่าจากดาคาห์รี ลอบเข้ามายังชายแดนเพื่อข้อมูลบางอย่าง ผู้ล่ากลุ่มใหม่เข้าสู่กระดานแล้ว
จบตอน.