การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
ผู้แต่ง
1ValD
เรื่องย่อ
Note
นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร)
สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved
ANIMA
A thousand years ago
Anima stone was born in this world
Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.
In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.
The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called
The Six Archetype
เมื่อหลายพันปีก่อน
ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร
มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า
อาเคไทป์ทั้งหก
The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.
Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy?
Welcome to the world of Anima's Stone
จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้
นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์
อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ
Impelle` Anima
เช้าวันรุ่งขึ้น...
มีร่า คณะกรรมการผู้ควบคุมการสอบ ได้แจ้งว่าการสอบจะเลื่อนออกไปอีก 2-3 วัน เพื่อให้ผู้เข้ารับการทดสอบได้พักผ่อน และรอแจ้งข่าวสารในการสอบรอบสุดท้ายต่อไป ทางค่ายได้เสนอให้ผู้เข้ารับการทดสอบสามารถนำอาวุธหรืออุปกรณ์ติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ในการทดสอบรอบถัดไป ระหว่างการเดินทางกลับสู่หอคอย ทางค่ายได้ส่งทหารหมู่หนึ่งและมีร่ามาร่วมเดินทางในครั้งนี้อีกด้วย
" นี่... ทั้งสองคน คิดว่ามีอะไรแปลกไหมคะ " คริสตัลกระซิบกระซาบถามเพื่อนทั้งสองระหว่างที่เดินทางกลับ พร้อมกับทหารหนึ่งหมู่ที่ดูผิดสังเกต
" แปลกยังไงเหรอ คริสตัล " อลันเอ่ยอย่างสงสัย
" ทั้งสองคนไม่สังเกตเห็นเหรอคะว่า คุณมีร่าส่งพวกเรากลับมาพร้อมกับทหารตั้งหลายคน ตอนขามายังมีแค่คุณคาลิน่าคนเดียวเองที่มาส่ง "
" ก็จริงนะ... "
" แปลกตรงไหนล่ะ คุณมีร่าคนสวยน่ะเขาใจดีจะตาย ฮิๆ " เคนเนทพูดด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
" นั่นสิ คริสตัลอาจจะคิดมากไปเองนะ " อลันยิ้มตอบ
" เฮ้อ... ก็หวังว่าจะไม่มีอะไรนะ " คริสตัลคิ้วขมวดถอนหายใจด้วยความกังวล และดูเหมือนเด็กหนุ่มทั้งสองจะไม่เข้าใจสถานการณ์เอาซะเลย
หลังจากนั้นผู้เข้าสอบทุกคนก็กลับมาพร้อมกันที่หอคอยกลางตามปกติ ด้วยการดูแลความปลอดภัยของทางสหพันธ์ในรอบๆบริเวณอย่างเคร่งครัด
ในห้องประชุมคณะกรรมการ ชั้นบนของหอคอย
" เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ ถึงได้เรียกประชุมด่วนแบบนี้ " คาลิน่าพึ่งเข้ามาถึง เธอจึงเอ่ยถามขึ้นกลางห้องประชุม
" คาลิน่า วันก่อนที่เธอไปส่งพวกเด็กๆ มีอะไรผิดสังเกตหรือเปล่า " อัลวินถามขึ้นอย่างตึงเครียด
" ไม่มีนะคะ หลังจากส่งที่บริเวณชายป่าแล้ว ฉันก็กลับมาเลยไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร "
" ที่รั้วของเขตแดนมีอะไรแจ้งเตือนไหม อัลวิน " เคย์น ผู้พิทักษ์ หนึ่งในคณะกรรมการเอ่ย
" นิ่งสนิท... ไม่มีอะไรผิดปกติ "
รั้วเขตแดนที่ถูกกั้นไว้ด้วย เครื่องเฝ้าระวังความปลอดภัยของทางสมาคมผู้รอบรู้ ไม่มีการแจ้งเตือนความผิดปกติใดๆ เว้นแต่เส้นทางเดินของพวกสัตว์ป่าเท่านั้น ตามข้อมูลที่ได้จากอัลวิน
หัวข้อของการประชุมถูกแจ้งมาโดยมีร่า ผู้เฝ้าสังเกตการณ์ของค่ายทหาร โดยแจ้งเตือนความผิดปกติที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
" มีอะไรกันแน่คะ? " คาลิน่าเธอสงสัยเช่นเดียวกับทุกคน
" รอให้เจ้าตัวมาแจ้งข้อมูลเองเลยดีกว่า " ลอร์ดไบรอัน เท้าคางขึ้นอย่างใจเย็น
ไม่นานมีร่าก็ก้าวเข้าสู่ห้องประชุมอย่างเงียบๆ
" มีศพทหารเสียชีวิตสองนาย " เธอพูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้างๆคาลิน่า
" คุณมีร่า!! ตกใจหมดเลยค่า " คาลิน่าสะดุ้งเฮือก
" เมื่อเช้านี้ ทางเราพบศพทหารตรงบริเวณจุดเฝ้าเวรยามนอกค่ายตรงชายแดน "
" สาเหตุการตายคือ ...? " อัลวินถามขึ้น
" ไม่ทราบแน่ชัด ศพถูกพวกหมาล่าเนื้อกัดกินจนเละเทะ เว้นแต่... "
" เว้นแต่...? "
" ใบหน้าที่หายไป " เธอเอ่ยอย่างเยือกเย็น
" หมายความว่าไงใบหน้าหายไป ถูกพวกหมาล่าเนื้อกินไปด้วยหรือเปล่า " อัลวินถามด้วยความสงสัย
" ไม่น่าใช่ บาดแผลบนใบหน้าไม่ใช่รอยเขี้ยวของสัตว์ มันถูกกรีดและลอกออกอย่างประณีต "
" อึ๋ย สะ... สยดสยองมากเลยค่ะ " คาลิน่าเริ่มหน้าเสียหน้าซีดเผือด
" ฆาตกรรมหรือ? " ลอร์ดไบรอันถามขึ้น
" เป็นการฆาตกรรมที่ผิดปกติมาก ลอกใบหน้าของเหยื่อและจงใจทิ้งศพเอาไว้ " อัลวินสังเกตถึงบางอย่าง
" หรือจะเป็นนักฆ่าของดาคาห์รี " เคย์นเอ่ยขึ้น
" ยังด่วนสรุปไม่ได้นะเคย์น เรื่องแบบนี้มันเคยเกิดเมื่อนานมาแล้ว "
" มีผู้ต้องสงสัยอยู่เพียงคนเดียว " มีร่าเอ่ยและหลับตาลง ท่ามกลางการจ้องมองของทุกคน
" ...... " อัลวินเองก็คิดเช่นเดียวกัน
" มารไร้หน้า " เธอเอ่ย
" อา... ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน นิทานปรัมปราเมื่อหลายสิบปีก่อน ในหมู่เกาะทางตอนใต้ของฟุกุนิ " อัลวินเอ่ยขึ้น
" มันเป็นเรื่องเล่าในหมู่ผู้เฝ้ามอง ไม่มีผู้ใดพบเห็นตัวมันมานานแล้ว " มีร่าเสริม
" นิทานพื้นบ้านของฟุกุนิ ในหมู่เกาะมุโคชิมะ มีเด็กชายคนหนึ่งที่เกิดมาไร้ใบหน้าไม่มีจมูกและริมผีปาก เขาหลงไหลในการชำแหละหนังสัตว์ ด้วยความผิดปกติวิปลาสและความคลั่งไคล้นั้น บุรุษผู้นั้นเลยหันมาชำแหละเอาผิวหนังของมนุษย์ และแล่เอาใบหน้าของผู้คนมาสวมใส่แทนใบหน้าของตน จนกระทั่งกลายเป็นการฆาตกรรมที่น่าหวาดผวาของชาวหมู่เกาะ กระทั่งถูกขนานนามว่า " มารไร้หน้า " อัลวินเล่า
" คะ... คุณอัลวินคะ " คาลิน่าสะกิดแขนอัลวินด้วยความกลัว
" มันแค่เรื่องเล่าน่า... "
" สำหรับสมาคมผู้เฝ้ามองแล้ว มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่า เมื่อหลายสิบปีก่อน มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งผ่านการคัดเลือกจากอาเคไทป์ผู้เฝ้ามอง เด็กหนุ่มผู้นั้นสวมหน้ากากขาวเอาไว้ตลอดเวลา ฝีมือในการใช้มีดของเค้ายอดเยี่ยมมากกว่าคนธรรมดา หลังจากนั้นเด็กหนุ่มผู้นั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่ไม่ได้สังกัดเป็นผู้เฝ้ามองของเมืองใดๆเลย
ผ่านมาอีกหลายปี มีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นอีกหลายศพ ในเมืองชายแดนที่ห่างไกลหลายต่อหลายเมือง ทุกศพถูกเฉือนเอาใบหน้าออก จนกลายเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องที่ถูกจับตามอง และต่อมาก็เงียบหายไปอย่างไร้วี่แววอีกครั้ง จนกระทั่งถึงวันนี้ " มีร่าเล่า
" ตามที่แจ้งมาจุดเกิดเหตุอยู่ตรงบริเวณชายแดนเขตทุ่งหญ้า ไม่ไกลจากสมาคมหลักของผู้พิชิตนัก และอยู่ใกล้กับทะเลทรายตะวันตก " ลอร์ดไบรอันเอ่ย
" ท่านจะบอกว่าการฆาตกรรมนี้ เกี่ยวข้องกับดาคาห์รีหรือลอร์ดไบรอัน " เคย์นถามอย่างตึงเครียด
" ฉันไม่ได้พูดเช่นนั้น "
" ดาคาห์รี เมืองหลวงแห่งทะเลทรายตะวันตก กษัตริย์ผู้กุมอำนาจกองทัพที่โหดเหี้ยมที่สุด
จะพูดแบบนั้นฉันก็ไม่แปลกใจหรอกนะ " อัลวินเอ่ย
" เรายังไม่มีหลักฐานแน่ชัด อย่าพึ่งด่วนสรุป " ลอร์ดไบรอันยั้งความคิดทุกคนเอาไว้
" ในตอนนี้เรายังไม่รู้จุดประสงค์ของฆาตกรแน่ชัด ฉะนั้นข้าอยากให้ทุกคนระวังตัวเอาไว้ก่อน " มีร่าตักเตือน
" คาลิน่า ฉันว่าเธอกับคณะนักสำรวจรีบกลับเมืองหลวงไปก่อนจะดีกว่านะ " อัลวินพูดขึ้น
" ได้ค่ะ... รับทราบ! " เธอตอบแบบเสียงสั่น
" ในหมู่พวกเรา คาลิน่าเป็นคนเดียวที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้มากนัก เกรงว่าจะป้องกันตัวเองไม่ได้หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน คงไม่มีใครคัดค้านนะ "
" ฉันจะให้เคย์น ไปคอยเฝ้าระวังเด็กที่มาเข้ารับการทดสอบ " ลอร์ดไบรอันเสนอ " แล้วนายล่ะอัลวิน ให้ทหารองครักษ์คอยตามระวังภัยให้ไหม "
" หึ่ยยย... ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ชอบให้ใครมาเดินตามต้อยๆทั้งวัน มันน่ารำคาญ " เขาบ่ายเบี่ยงทันที
" ก่อนจะแยกย้ายกันไป ขอให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย ฉันไม่อยากให้ข่าวแพร่กระจายออกไปจนเกิดความแตกตื่น เข้าใจนะ " ลอร์ดไบรอันกล่าว
ทุกคนรับทราบเรื่อง ต่างก็แยกย้ายออกไปทำหน้าที่ของตน ในขณะที่
" เรื่องการสอบรอบสุดท้ายล่ะ ท่านจะว่ายังไง " อัลวินยังคงปรึกษากับลอร์ดไบรอัน
" ฉันคิดเอาไว้แล้ว แต่คงต้องรบกวนนายหน่อยนะ อัลวิน "
" ห๊ะ! ฉันอีกฉันเหรอ " นายสลอธผู้เฉื่อยชา หน้าตาตื่นขึ้นมาทันที
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การสอบในรอบสุดท้ายถูกเลื่อนออกไปอีกหลายวัน และมีการระวังภัยขึ้นอย่างแน่นหนาทั้งในและนอกบริเวณหอคอย รวมถึงค่ายทหารของแม็กซ์เวลที่อยู่ติดกับชายแดนดาคาห์รี
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ลานประลองในถ้ำใต้ดินลึกลับ โดยรอบนั้นมีบัลลังก์ตั้งอยู่ทั้งสี่ทิศ บุรุษผู้นั่งชมการต่อสู้เบื้องหน้าคือกษัตริย์จากนานาประเทศ
บริเวณลานต่อสู้ ปรากฏชายหนุ่มสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
" แกว๊กก... " อีกาบินโฉบลงมาทางด้านหลังบัลลังก์ของกษัตริย์แห่งดาคาห์รี มันกลับกลายร่างเป็นมนุษย์ที่มีขนนกสีดำปกคลุมตัว
" องค์ราชา... ข้ามีข่าวมาแจ้ง " บุรุษผู้มีขนนกปกคลุม ขยับตัวเข้ามาใกล้กับบัลลังก์หนึ่งที่มีกษัตริย์นั่งอยู่ ก้มหัวคุกเข่าลงด้านข้าง และกระซิบบอกข่าวแก่ราชา
" ข้อมูลที่ได้มาไม่ถูกต้องรึ " กษัตริย์เอ่ย
" ขอรับองค์ราชา โยชิคาซึก็ยืนยันเช่นนั้น "
" แล้วเจ้าเด็กควาคูคนนั้น เจ้ารู้ชื่อมันหรือไม่ "
" ขออภัย พวกเราแฝงตัวเข้าไปไม่ถึงตัวค่ายขอรับ " บุรุษเอ่ยพร้อมก้มหัวขออภัย
" ...... เจ้าไปได้แล้ว " กษัตริย์โบกมือให้กับบุรุษผู้นั้น
" แกว๊ก... " บุรุษผู้นั้นพลันกลายร่างกลับเป็นอีกาบินจากไปในถ้ำอันมืดมิด
" ชิ้ง! "
" ฉัวะ.... " เมื่อเสียงของคมดาบสิ้นสุดลง ในลานประลอง รอยฟันบากขนาดใหญ่เกิดขึ้นบนพื้นดิน พร้อมด้วยร่างของบุรุษผู้หนึ่งที่คุกเข่าล้มลง สำลักเลือดออกมาเต็มปาก มีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่กลางลำตัว เลือดไหลอาบเต็มพื้นที่ลานประลอง บนตัวของชายผู้นั้นมีเข็มกลัดตราสัญลักษณ์ดาบสีทองติดอยู่ การประลองนั้นสิ้นสุดลงแล้ว
" ไหนเจ้าว่า จะไม่มีชนเผ่าควาคู เข้ารับการทดสอบอีก มิใช่หรือ... ราคิม (Rahqeem) " กษัตริย์แห่งดาคาห์รีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
บุรุษผู้ที่มีชัยในการประลองนี้ ในมือถือกริชสั้นอาบไปด้วยเลือด เหลือบสายตาหันมามองยังองค์ราชา ด้วยดวงตาอันไร้แววเลื่อนลอย ทว่าเยือกเย็นและแฝงไปด้วยความอาฆาต ประดุจเช่นนักฆ่าผู้ไร้หัวใจ เขาไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใด ที่บนเสื้อบริเวณหน้าอกนั้น ปรากฏให้เห็นเข็มกลัดรูปดาบ ตราสัญลักษณ์เพชรสีดำ
" ......... "
คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัวขึ้น เหตุการณ์ที่ดูคุกรุ่นอยู่ภายใน เบื้องหน้าอันสงบของการสอบคัดเลือกอาเคไทป์ มีบางอย่างที่ถูกเฝ้าจับตามองจากทุกฝ่าย เกิดอะไรขึ้นกับการสอบในครั้งนี้กัน
จบตอน.