การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
ดับแสงดวงตะวัน...
ยามเมื่ออาทิตย์ใกล้อัสดง และแสงสุดท้ายของวันกำลังจะหมดไป
ประกายแสงพลันริบหรี่ลง... เสียงเรียกหาของหัวใจกลับกู่ร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง โอบกอดความฝันเอาไว้อย่างหลงละเมอ ความปรารถนาถูกปิดกั้นไว้ชั่วขณะ ถ้าหากวิ่งผ่าความมืดมิดนี้ไปจะเข้าใกล้ความหวังหรือไม่นะ...
ณ ห้องคัดแยกอาเคไทป์ ชั้นบนสุดของหอคอย
เวลานี้ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า ผู้เข้ารับการคัดเลือกที่ผ่านพ้นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ได้ออกเดินทางกลับไปยังบ้านอันเป็นที่พักพิงของพวกเขา
เหลือแค่เพียงอลันและเพื่อนทั้งสอง ที่ยังรอคอยความหวังสุดท้ายอยู่ และเบื้องหน้าคือเหล่าคณะกรรมการทั้งสี่ เตรียมพร้อมที่จะประกาศเรื่องราวสุดท้ายของการสอบครั้งนี้
ความเงียบหนักอึ้งเข้าทับโถม บรรยากาศตึงเครียดเข้าครอบงำ เงียบเสียจนได้ยินเสียงที่แผ่วเบาที่สุดของร่างกายและหัวใจดวงนั้นที่สัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นเป็นจังหวะ
" เธอชื่อว่า อลัน ใช่ไหม " ลอร์ดไบรอันเอ่ยขึ้นเพื่อยุติความสงบนั้น
" หลังจากที่พวกเราได้พิจารณากันเกี่ยวกับคุณสมบัติทั้งหมดของเธอแล้ว เธอมีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับการคัดเลือกเข้าสู่สมาคมของอาเคไทป์
แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถสร้างพันธะขึ้นกับศิลาอนิม่าได้ จึงไม่สามารถคัดและแบ่งแยกอาเคไทป์ของเธอกับสมาคมใดๆ "
" ฉะนั้น... "
" ......อึก " อลันกลืนน้ำลายและเงียบฟัง ด้วยความตื่นเต้นและผสมปนเปไปด้วยความสับสน
" ฉันจะอนุญาตให้เธอ เข้ารับการฝึกหัดด้วยการเป็น อาเคไทป์ฝึกหัด โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นตรงต่อสมาคมใดๆ เธอสามารถเลือกเข้าร่วมสมาคมใดก็ได้ตามความต้องการของเธอเอง
และหลังจากนี้ภายในเวลาสามปี เธอจะต้องกลับมาเข้ารับการคัดแยกไทป์อีกครั้ง เพื่อแสดงถึงเจตจำนงและสร้างพันธะ ก่อนที่จะถึงเวลาตามเกณฑ์ที่ทางสหพันธ์กำหนดเอาไว้ " ลอร์ดไบรอันกล่าวโดยชัดเจน
" โว้ว! เจ๋งไปเลย อลัน! " เคนเนทตบไหล่เพื่อนดังป้าบ เขาดีใจจนออกนอกหน้า
" จริงเหรอครับ! หมายความว่าผมสามารถฝึกหัดที่สมาคมไหนก็ได้เหรอ " อลันถามอย่างดีใจและตื่นเต้นสุดขีด แววตาเขาเป็นประกายเจิดจรัสขึ้นอีกครั้ง
" ถูกต้อง "
" เยี่ยมไปเลยอลัน! ดีใจด้วยนะ " คริสตัลดีใจ เธอโผเข้ากอดกับอลันอย่างร่าเริง
ทั้งสามคนต่างคึกคักปลาบปลื้มใจ และยินดีไปกับความหวังสุดท้ายของอลันที่ได้การตอบรับ ท่ามกลางรอยยิ้มของพวกเขา และใบหน้าที่อ่อนโยนบ่งบอกถึงความโล่งใจของเหล่าคณะกรรมการ
" สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางคณะกรรมการต้องขอแสดงความเสียใจ ที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ขึ้น
แต่ความจริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะศิลาอนิม่าก้อนนี้ ไม่ใช่ของจริง " ลอร์ดไบรอันเอ่ยเรียบๆพร้อมกับเอามือวางบนศิลาโปร่งแสงก้อนนั้น
" ลอร์ดไบรอัน! ท่าน.... " อัลวินตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจทันที
" ไม่เป็นไร อัลวิน "
" อะไรนะ! หมายความว่าไงเนี่ย!? " เคนเนทมีท่าทีสงสัยจนคิ้วขมวดขึ้น
" นี่พวกเราทุกคน... สร้างพันธะกับศิลาของปลอมขึ้นมาเหรอคะ? " คริสตัลเองก็ดูตกใจและสับสนเช่นเดียวกัน
" มันหมายความว่ายังไงครับ " สีหน้าของอลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง
" พันธะที่ถูกสร้างขึ้น เป็นของจริงแน่นอน
เพียงแต่ศิลาอนิม่าและหินรูนพวกนี้ คือแบบจำลองเพื่อการคัดแยกเท่านั้น " ลอร์ดไบรอันอธิบาย
" หมายความว่า พวกเธอสร้างพันธะขึ้นโดยใช้ศิลาจำลองนี้ส่งต่อพลังไปยังศิลาอนิม่าของจริง " อัลวินพูดเสริม
" ถ้างั้นทำไมไม่ลองให้อลัน สร้างพันธะกับศิลาของจริงเลยล่ะ " เคนเนทและอลันก็โพล่งถามขึ้น
" แล้วศิลาของจริง อยู่ที่ไหนเหรอครับ "
" เป็นไปไม่ได้หรอกเลิกคิดได้เลย ไม่มีใครสามารถสัมผัสกับศิลาอนิม่าของจริงได้แบบตรงๆ " อัลวินตอบ
" ทำไมล่ะ "
" ศิลาอนิม่าทรงพลังมากเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะแตะต้องมันได้ ผู้ใดที่สัมผัสกับมันโดยตรงร่างกายจะสูญสลายกลายเป็นเถ้าธุลี " เขาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
จากคำบอกเล่าของผู้รอบรู้แห่งเมดิโอลัน ทำให้ทั้งสามคนเกิดความเคลือบแคลงใจ และสงสัยถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว
" ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ "
" ทำไมถึงบอกเรื่องนี้กับพวกเราเหรอครับ "
" ใช่ๆถ้างั้นจะบอกพวกเราทำไมล่ะ "
" ที่จริง... เรื่องราวของศิลาอนิม่านั้น ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปได้รับรู้ มีเพียงแค่กษัตริย์ทั้งสี่ประเทศและอาเคไทป์ระดับสูงอย่างตราทองคำเท่านั้น ที่รู้จักตัวตนแท้จริงของศิลา
...ฉันก็ไม่รู้ว่าคนที่บอกพวกเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ใช่ไหม... ลอร์ดไบรอัน " อัลวินเหลือบตาไปและเอ่ยถามตุลาการสูงสุดผู้นั้น
" พวกเธอ... เชื่อในเรื่องโชคชะตาไหม
ไม่มีเหตุอันใด... ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรอก
ถ้าพวกเธออยากรู้ผลของเหตุนั้น ก็จงตามหาเส้นทางของตนเอง " ลอร์ดไบรอันกล่าวอย่างเยือกเย็น แววตาของเขาจ้องมองมา มันดูตั้งมั่นราวกับฝากฝังบางอย่างให้กับเด็กเหล่านี้ไว้
" พูดอะไรของท่านเนี่ย... ดูไม่สมกับเป็นตัวเองเลยนะ " อัลวินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของเขามาก ผู้ชายที่เป็นคนจริงจังและชัดเจนอย่างลอร์ดไบรอัน กลับพูดเรื่องของโชคชะตาที่ไม่อาจจะเข้าใจได้ มันผิดวิสัยของผู้ควบคุมระดับสูงเช่นเขา
" ทางคณะกรรมการ หมดเรื่องที่จะประกาศแล้ว " ...หลังจากนั้นลอร์ดไบรอันก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ
" อะไรกันเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้ว " เคนเนทดูสับสนทันที เด็กหนุ่มคนนี้สมองช้าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแม้แต่คริสตัลเองก็พลันสับสนไปด้วย
" เข้าใจแล้วครับ... ผมจะออกเดินทางเพื่อตามหาเส้นทางของตัวเองให้ได้ " ความมุ่งมั่นเกิดขึ้นในแววตาของอลัน เขายังไม่เลิกล้มความตั้งใจของตน และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
" ขอให้โชคดีแล้วกัน ถ้างั้นวันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ล่ะ " อัลวินกล่าวอวยพรสั้นๆและเดินจากไปพร้อมกับคณะกรรมการคนอื่นๆ
ในระหว่างทางขณะที่เหล่ากรรมการกำลังเดินทางกลับกันนั้น อัลวินเดินตามหลังมีร่าและเขาก็เอ่ยปากขึ้น...
" มีร่า... ขอคุยด้วยได้ไหม "
" ได้สิ มีธุระอะไรกับข้าหรือ " เธอตอบทันที
" ฉันขอร้อง อย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับแม่ทัพแม็กซ์เวลจะได้ไหม "
" ...... " มีร่าเงียบไปชั่วครู่
" ข้าโกหกท่านแม็กซ์เวลไม่ได้ "
" งั้นบอกเฉพาะสิ่งที่เธอเห็น จะได้ไหม... "
" ไม่รับปาก... " เธอปิดการสนทนาและหันหลังเดินจากไปเงียบๆ ผู้เฝ้ามองมิเคยพูดเท็จ มีร่าไม่อาจตกปากรับคำนั้นได้
หลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ
อลัน เคนเนทและคริสตัล ต่างก็เดินทางออกจากหอคอยแห่งนี้ พร้อมกับความผูกพันและรู้สึกใจหายไม่น้อยแม้จะเป็นช่วงเวลาอันสั้น แต่ก็นับว่าเป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากมาย
" เฮ้อ... รู้สึกใจหายเหมือนกันแหะ ที่ต้องจากไปแล้ว " เคนเนทเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก
" นั่นสิคะ พวกเราสนุกกันมากเลยนะ " คริสตัลยิ้ม
" นั่นสิ ถ้าผมไม่เจอกับเคนเนทและคริสตัลก็คงจะเหงาน่าดู " อลันก็เช่นกัน
" จากนี้ไป จะทำยังไงกันต่อดีล่ะ "
" ฉันจะกลับไปที่บ้านก่อนค่ะ พี่ลาพิสคงรออยู่ที่เมืองแล้ว หลังจากนั้นคงไปรายงานตัวที่สมาคมผู้รอบรู้ต่อนะ " คริสตัลบอกกับทั้งสอง
" ผมยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อดี " อลันยังคงดูกังวล
" อืม... คิดมากน่าอลัน เอางี้ไหม ไปเที่ยวหมู่บ้านของฉันสิ " เคนเนทเอ่ยปากชวนเพื่อน
" ฉันจะพานายไปหาคนๆนึง ที่หมู่บ้านของฉัน
ถ้าไปพบกับเธอ รับรองว่านายจะต้องรู้แน่ว่า " โชคชะตา " ที่คณะกรรมการพูดถึงคืออะไร "
" ใครกันเหรอ? เคนเนท "
" แม่เฒ่าตาบอด เป็นนักพยากรณ์ประจำหมู่บ้านฉันเอง "
" จะไว้ใจได้ไหมเนี่ย... เคนเนท " คริสตัลขมวดคิ้วดูสงสัยในตัวเพื่อนทันที
" ไว้ใจได้อยู่แล้วน่าคริสตัล คำพยากรณ์ของแม่เฒ่าน่ะแม่นยำมากเลยนะขอบอก
ว่าไง สนใจจะไปลองดูไหมล่ะอลัน "
" อืม... สนใจสิไม่ว่าจะต้องทำยังไง ผมจะต้องหาวิธีสร้างพันธะให้ได้ " เขาตอบอย่างมุ่งมั่น
" โห... ปล่อยอลันไว้กับเคนเนทสองคน จะไหวไหมเนี่ย เดี๋ยวก็พาอลันเสียคนหรอกค่ะ "
" นี่! คริสตัล เห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย ฉันดูแลเพื่อนดีอยู่แล้วน่า "
" ตกลงเคนเนท ขอผมจะไปหมู่บ้านด้วยคนนะ "
" ก็ตามใจทั้งสองคนนะ ถ้ามาที่เมืองหลวงก็แวะมาหาฉันที่บ้านตระกูลเรนนาร์ดได้เลยนะคะ "
" ได้เลยคริสตัล ไว้พวกเราจะแวะไปนะ " อลันรับคำ
" ถ้างั้นพวกเราแยกกันตรงนี้ล่ะ "
" โชคดีนะทั้งสองคน ดูแลตัวเองด้วยนะคะ " คริสตัลกล่าวคำอำลาและโบกมือให้กับเพื่อนทั้งสอง
" โชคดีนะ คริสตัล "
ทั้งสามคนต่างร่ำลาและแยกย้ายกัน เพื่อออกเดินทางครั้งใหม่ตามเส้นทางของตน แม้ไม่มีคำพูดจับใจอันใดแต่พวกเขาทั้งสามก็ผูกพันกันด้วยสายใยแห่งโชคชะตาที่นำพาทุกคนมาเจอกัน
และเมื่อเส้นทางหนึ่งได้สิ้นสุดลง ประตูบานใหม่กำลังจะถูกเปิดออกแทน หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรกัน...
ณ พื้นที่ปกครองพิเศษส่วนกลาง ตะวันออกเฉียงใต้ของดาคาห์รี
ท้องฟ้าอันมืดมิดภายใต้แสงดาว เสียงสะท้อนของสายลมรุนแรงพัดผ่านเนินทรายอันเวิ้งว้าง บนเนินผาสูงโดดเดี่ยวที่ยื่นออกมานอกทะเล " ผาคร่ำครวญ "
ลมที่พัดผ่านร่องลึกของหุบเหวส่งเสียงดังโหยหวน กอปรกับเสียงของเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าใต้เชิงผา จึงเป็นชื่อที่เรียกขานต่อกันมา
" เป็นอย่างไรบ้าง จามาล... " ชายชราผู้สวมผ้าคลุมเก่าๆสีคราม นั่งอยู่เพียงลำพังริมผาแห่งนี้
ในความมืดของราตรี หมอกควันจางๆก็ปรากฏขึ้น และมาพร้อมกับบุรุษลึกลับผู้สวมผ้าคลุมสีดำ
" ข้าเกรงว่าท่านอาจจะไม่ชอบใจเรื่องที่ข้าจะบอก ท่านอาจารย์ " เขาเอ่ย
" พูดออกมา ข้ารอฟังอยู่ "
" .....เด็กหนุ่มคนนั้นที่ท่านให้จับตามอง เขาไร้ซึ่งพลังและไม่ได้สร้างพันธะกับอนิม่า "
" .....!! " ชายชราพลันเงียบอึ้งไปชั่วขณะ คำบอกเล่าที่เขาไม่คาดคิด ปรมาจารย์ลึกลับผู้นี้ใช้ความนึกคิดลองไตร่ตรองดูอยู่โดยเงียบ
' เป็นไปไม่ได้ ที่บุตรของชายผู้นั้นจะไร้ซึ่งพลัง ' เขานึกตรึกตรอง สีหน้าของชายชราผู้สันโดษไม่เคยจริงจังเช่นนี้มาก่อน และจามาลผู้เป็นลูกศิษย์ก็สังเกตเห็นและรับความรู้สึกนึกคิดของเขาเช่นกัน
" ...ท่านจะทำอย่างไรต่อ "
" ..... " ชายชรายังคงเงียบงัน
ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ ผ้าคลุมเก่าๆพลิ้วไหวไปตามสายลม ผู้เฒ่ามองจ้องตาลูกศิษย์ของเขาแล้วจึงเอ่ยพูด
" ออกเดินทางกันเถอะจามาล
เราจะรอดูว่าโชคชะตาจะนำพาพวกเขาไปทางใด และยามเมื่อถึงเวลาพวกเราจะไปรอคอยบนเส้นทางนั้น "
" ครับ " จามาล ออกเดินทางติดตามอาจารย์ของตนไป พวกเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
และเป็นอีกครา... ที่หมากบนกระดานเริ่มก้าวเดิน
จบพาร์ทที่หนึ่ง.