การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง

เนื้อหา

Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ


ณ ท่าเรือโอกิ แห่งประเทศฟุกุนิ 


เวิ้งน้ำของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่รูปทรงจันทร์เสี้ยว หาดทรายขาวทอดยาวและหน้าผาหินสูงชัน หนึ่งในอ่าวที่งดงามที่สุดในประเทศฟุกุนิ ที่แห่งนี้เป็นท่าเรือหลักในการสัญจรไปมาระหว่างทวีปทางเหนือและหมู่เกาะทางใต้ และยังเป็นเมืองหลักของฟุกุนิที่ใช้แลกเปลี่ยนค้าขายทรัพยากรกับเมดิโอลัน

โดยทางฟุกุนิเอง มีความสัมพันธ์ทางการทูตอันดีและการค้าที่แน่นแฟ้นกับเมดิโอลัน เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดของเกาะฟุกุนิ อยู่ทางทะเลตะวันออกเฉียงใต้ ทอดยาวลงไปจนถึงตอนใต้ของทวีปเมเลเดียน ถึงแม้ฟุกุนิจะห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ แต่เส้นทางเดินเรือที่ใกล้ที่สุด ก็ใกล้กับท่าเรือของเมืองหลวงเมดิโอลัน ทั้งสองประเทศจึงเปรียบเสมือนประเทศพันธมิตรที่มีความสนิทใกล้ชิดกันราวกับพี่น้อง

ในเวลานี้ สมาคมนักสำรวจมีภารกิจขนส่งสินค้าและสำรวจแหล่งหินแร่อัญมณีที่หมู่เกาะของฟุกุนิ คาลิน่า หญิงสาวนักสำรวจตราทองคำกำลังง่วนอยู่กับการขนถ่ายสินค้า วัตถุต่างๆและอัญมณี ที่คณะสำรวจได้ค้นพบในหมู่เกาะที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาไฟ 

เหตุนี้เองจึงทำให้ฟุกุนิอุดมไปด้วยสินทรัพย์ทางธรณีมากมาย ภารกิจของพวกเขาในตอนนี้คือการสำรวจและค้นหาอัญมณีที่ตกผลึกจากศิลาอนิม่า เพื่อนำมาแยกแยะและคัดสรร ก่อนที่จะทำการจัดสรรปันส่วนให้กับเมดิโอลันและฟุกุนิ ตามข้อตกลงร่วมในการสำรวจหาทรัพยากร 

ภายในเมืองท่าที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งพ่อค้าต่างแดน นักสำรวจของแผ่นดินใหญ่ นักเดินทางผจญภัย และชาวบ้านในละแวกนี้ ท่าเรือจึงคับคั่งและวุ่นวายครึกครื้นไปด้วยผู้คนคนมากมาย 

"เร่งมือกันหน่อยนะ ทุกคน " คาลิน่าตะโกนบอกกับคณะสำรวจที่กำลังทำงานกันอย่างขมักเขม้น 

" เราต้องรีบขนของให้ทันกำหนด จะถึงวันปฐมนิเทศปีนี้แล้ว สมาคมฯต้องการอัญมณีในการสร้างอุปกรณ์ให้เด็กใหม่นะ " 

" คุณคาลิน่าครับ... " ชายหนุ่มผู้หนึ่งในคณะสำรวจ ตะโกนเรียกหัวหน้าของตนขึ้น 

" ว่าไงคะ มีอะไรเหรอ " 

" อัญมณีชิ้นนี้ให้คัดแยกไว้กับอะไรดีครับ " เขาเอ่ยถามขณะยื่นอัญมณีก้อนหนึ่งให้

" อัญมณีสีดำ... เหรอ? "

อัญมณีเงาวับสีดำสนิท ขนาดไม่ใหญ่น้ำหนักพอประมาณ มันมืดมิดเสียจนแสงไม่สามารถส่องผ่านมันได้ คาลิน่าหยิบมันขึ้นมาสำรวจมองดูด้วยความสงสัย เธอพึ่งเคยเห็นอัญมณีแบบนี้เป็นครั้งแรก ทั้งๆที่เป็นนักสำรวจระดับสูง เคยค้นพบหินแร่และอัญมณีมาแล้วทุกสีทุกแบบ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เจอกับหินสีดำชนิดนี้ 

" นี่มัน อัญมณีประเภทไหนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย " เธอสำรวจดูทั่วทั้งก้อน พลางเอาแว่นตาของนักสำรวจมาสอดส่องดู แม้จะใช้พลังของนักสำรวจที่มองเห็นถึงพลังงาน แต่กลับไม่เห็นอะไรจากอัญมณีก้อนนี้เลย 

" ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงจะสำรวจเจอมาพร้อมกับอัญมณีชนิดอื่นๆ พึ่งจะสังเกตเห็นตอนที่กำลังแยกประเภทของมัน " ชายหนุ่มตอบ 

" อืมม... เอาไว้ไหนดีล่ะ " คาลิน่าคิ้วขมวดมองซ้ายมองขวาและในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่เพลินๆ เสียงอันสุภาพนุ่มนวลก็ดังขึ้นด้านหลังของเธอ

" ขออภัย... "

" อัญมณีชิ้นนี้ กระผมต้องขอเก็บไว้นะครับ " ชายหนุ่มผู้หนึ่งโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้น

" ว้าย!! " 

" ตกใจหมดเลย คุณ... เป็นใครกันคะ " เธอสะดุ้งเฮือกจนเกือบทำอัญมณีหลุดมือ 

" ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัว...

กระผมชื่อว่า อาซุมะ (azuma) เป็นองครักษ์ของท่านโชกุน ยินดีที่ได้รู้จักครับ " ชายหนุ่มหน้าตาคม ผมยาวมัดผมเรียบร้อย สวมชุดฮากามะสีเข้มเหน็บดาบยาวไว้ที่เอว ดวงตาของเขาเล็กและดูเหมือนตายิ้มอยู่ตลอด ท่าทางสุภาพและเป็นมิตร เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับ

อาซุมะ องครักษ์ของโชกุนแห่งประเทศฟุกุนิ 

อาเคไทป์ : ผู้พิชิต ระดับตรา : ไม่ระบุ


" ขะ... ขอโทษค่ะ อัญมณีชิ้นนี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนและผ่านการจัดสรรนะคะ " คาลิน่าพูดอย่างประหม่า

" กระผมทราบดีครับ... แต่คงต้องขออภัยที่จำเป็นต้องขอยึดอัญมณีชิ้นนี้ไว้ให้กับทางฟุกุนิ ตามคำสั่งของท่านโชกุน " อาซุมะก้มหน้าลงเอ่ยพูดเรียบๆ เขาเงยขึ้นมองมาที่คาลิน่าด้วยแววตาเยือกเย็นแฝงไว้ด้วยความน่ากลัวและความกดดัน

" คะ... ค่ะ ถ้า... เป็นคำสั่งของท่านโชกุน ฉันก็จำเป็นจะต้องทำตาม " เธอตอบเสียงสั่น

" ขอบพระคุณครับ " ถึงแม้ชายผู้นี้จะยิ้มแย้มทั่วทั้งใบหน้า แต่ก็ดูน่ากลัวราวกับจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์

" ค่ะ... " เธอยื่นอัญมณีให้เขาด้วยความกล้าๆกลัวๆ 

หลังจากนั้นองครักษ์ผู้นี้ ก็เดินจากไปอย่างเงียบๆท่ามกลางฝูงชน และคณะสำรวจที่ยังคงขมักเขม้นทำงานกันอยู่

" คนๆนั้นดูน่ากลัวจังเลยครับ คุณคาลิน่า " ชายหนุ่มคณะสำรวจพูดเสียงสั่นขึ้นมา 

" ฉันก็รู้สึกแบบนั้นแหละ...

รีบทำงานกันเถอะ พวกเราจะได้กลับเมดิโอลันกัน " หญิงสาวนักสำรวจรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลังจากแรงกดดันของจิ้งจอกหนุ่มคนนั้น แต่ถึงอย่างนั้นคาลิน่ายังคงสั่งงานและทำหน้าที่ของคณะสำรวจต่อไปจนเสร็จสิ้นภารกิจในท้ายที่สุด




ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น...


ณ หมู่บ้านดาร์ย่าที่อลันและเคนเนทเดินทางมาถึงในช่วงเวลายามเย็น หมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ บ้านเรือนถูกปลูกสร้างด้วยไม้และหลังคามุงกระเบื้อง ขึ้นเรียงรายกันตามริมแม่น้ำจนถึงอ่าวท่าเรือ

แม่น้ำใสสะอาดจนมองเห็นผืนทรายและสาหร่ายหลากสีสันที่ขึ้นอยู่ใต้น้ำ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่คดโค้งเป็นร่มเงาให้แสงลอดผ่านได้เล็กน้อย สะท้อนกับแผ่นน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับ สวยสดงดงามโดยเฉพาะยามเย็นที่ดวงอาทิตย์ทอแสงสีส้ม ลมทะเลพัดโชยเอากลิ่นอายของมัน ผสมกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าได้อย่างลงตัว

อลันตื่นตาตื่นใจมองไปรอบๆขณะก้าวเดินเข้ามา เด็กหนุ่มชื่นชมภาพของหมู่บ้านอันงดงาม และท่ามกลางสายตาที่จับจ้องเขาอยู่ในตอนนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยมีผู้มาเยี่ยมเยียนมากนัก เด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้จึงเป็นที่สนอกสนใจของชาวบ้านมากทีเดียว

" เฮ้! เคนเนท กลับมาแล้วเหรอ " 

" เป็นไงบ้าง เคนเนท " 

" เคนเนท พรุ่งนี้ไปออกเรือไหม " ผู้คนในหมู่บ้านต่างโบกมือพากันทักทายเคนเนทอย่างเป็นมิตร

" ว่าไงๆฉันพึ่งจะกลับมาเอง ขอพาเพื่อนไปพักผ่อนก่อนนะ " เคนเนทโยกมือตอบกลับทักทายทุกคน  

" โอ... พาเพื่อนมาเที่ยวหมู่บ้านด้วย " 

" มีคนคบด้วยเหรอ เคนเนท " 

" เห้ย! เดี๋ยวเหอะ คนอย่างฉันต้องมีคนคบอยู่แล้วล่ะ "  

" โห... ผู้คนในหมู่บ้านนี้ดูเป็นมิตรจัง เคนเนทรู้จักทุกคนหมดเลยเหรอ " อลันเอ่ยถาม

" ก็รู้จักกันเกือบหมดนั่นแหละ หมู่บ้านนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เลยรู้หน้ารู้ใจกันทั้งนั้น "

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินผ่านหมู่บ้าน เคนเนทก็พลางแนะนำให้อลันรู้จักกัยผู้คน พร้อมกับกล่าวคำทักทายอย่างมีมิตรไมตรี เด็กหญิงคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาและกล่าวทักขึ้น

" พี่เคนเนท! " เด็กหญิงตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวสลวยสีดำอมน้ำเงิน เอ่ยขึ้นเสียงดังฟังชัด

" มีน่า พี่กลับมาแล้ว " เคนเนทยิ้มตอบ

" อลัน นี่น้องสาวของฉันเอง มีน่า " 

" สวัสดีครับ ผมชื่ออลัน "  

" สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ มีน่า (Meena) " เด็กหญิงตากลมโตกล่าวทักทายและจ้องมองอลันอย่างฉงนสงสัย

เคนเนทแนะนำน้องสาวของตนให้กับอลัน มีน่าเด็กหญิงตัวเล็ก น้องสาวของเคนเนทอายุน้อยกว่าอลันหลายปี เธอมีอัธยาศัยดีท่าทางเรียบร้อยและร่าเริง จับมือและเขย่ามือกับอลันด้วยรอยยิ้มสดใส 

" พี่เคนเนท พาเพื่อนมาด้วยเหรอ "   

" ใช่ นี่เพื่อนพี่เอง " 

" มีคนคบพี่ด้วยเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย " 

" นี่!! มีน่า ทำไมพูดเหมือนกันหมดเลย ทุกคนเห็นฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย " 

" พี่อลัน อย่าไปเชื่อพี่เคนเนทมากนะ เขาซื่อบื่อจะตายทุกคนในหมู่บ้านรู้กันหมดแหละ " มีน่าเอามือป้องปากกระซิบบอกอลัน พลางเหล่ตามองพี่ชายตัวเอง 

" ฉันได้ยินนะ! " 

" พี่จะพาอลันไปพบกับแม่เฒ่าตาบอด พวกเรามาเรื่องสำคัญหรอก " เคนเนทพูดขึ้นท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง

" แม่เฒ่าไลลา (Lyla) น่ะเหรอ ฉันไปด้วยสิอยากไปฟังนิทานอีก " มีน่าคะยั้นคะยอขอร้องตามประสาเด็ก

" ไม่ได้มีน่า นี่เรื่องจริงจังนะเรื่องของผู้ใหญ่ ฉันไม่ได้จะไปฟังนิทานนะ "

" อะไรกันฉันโตแล้วนะพี่ ให้ฉันไปด้วยสิ " 

" เธอยังไม่โตซะหน่อย อย่าตื้อสิ "  

" ใจร้ายชะมัด หึ... " เด็กหญิงท่าทางกระฟัดกระเฟียด เชิดหน้าไม่พอใจ

" พอเลยๆ เดี๋ยวพี่พาเพื่อนไปพักผ่อนก่อน 

ไปกันเถอะอลัน บ้านฉันอยู่ไม่ไกลหรอก " 

" งั้นไว้เจอกันใหม่นะ มีน่า " อลันยิ้มและโบกมือลา 

" ไว้เจอกันค่ะ บายๆ " เด็กหญิงผู้น่ารักยิ้มให้และตอบกลับอย่างร่าเริง


ทั้งสองคนเดินเรียบริมแม่น้ำมาไม่ไกล จนถึงรอบนอกของหมู่บ้าน เคนเนทชี้ไปยังอาคารไม้หลังหนึ่ง บ้านไม้สองชั้นหลังไม่ใหญ่นัก สร้างไว้ติดกับแม่น้ำชายเลน ล้อมรอบด้วยต้นไม้และธรรมชาติ

" ถึงแล้วนี่บ้านฉันเอง " 

อลันเดินตามเพื่อนเข้ามาในบ้าน ด้านในไม่ได้มีสิ่งของมากมาย มีเพียงแค่อุปกรณ์หาปลา เตียงนอนเก่าๆและของยังชีพทั่วไปเท่านั้น ภายในบ้านนั้นเงียบเหงาไม่มีใครอยู่เลย 

" ไม่มีใครอยู่เลย เคนเนทอยู่คนเดียวเหรอ? " อลันเอ่ยถาม 

" อ๋อ ใช่ฉันอยู่คนเดียวน่ะ น้องสาวฉันอยู่กับญาติ

ส่วนพ่อแม่ ฉันจากไปแล้วล่ะ... " เคนเนทตอบเรียบๆ

" ขะ... ขอโทษที่ถาม "

" ไม่เป็นไรหรอก... พ่อฉันตายในสงครามตั้งแต่ฉันยังเด็ก ส่วนแม่ก็มาป่วยตายหลังจากนั้น... " เคนเนทเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงไว้ด้วยความเศร้า

" ....... " ทำเอาอลันไม่กล้าเอ่ยปากพูด เขามองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง 

" ฉันกับมีน่าเลยต้องดูแลกันมาเองตลอด โชคดีที่ญาติฉันช่วยเลี้ยงมีน่ามาตั้งแต่เล็ก 

เห็นเด็กๆแบบนั้นนะ มีน่ามีความเป็นผู้ใหญ่กว่าฉันอีก ฮะๆ... คงเพราะโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่ละมั้ง " เคนเนทเล่าพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ 

" เคนเนท... " อลันมองเห็นความเหงาเศร้าสร้อยในแววตาของเขาอย่างชัดเจน 

" ตอนเด็กพ่อฉันก็สอนอะไรดีๆหลายอย่าง เขาชอบพูดว่า คนเรามักไม่ยอมรับความจริง แต่ความเป็นจริงนั้น มันไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะต้องยอมรับมัน "

" สุดท้ายฉันก็เลยต้องยอมรับว่า พ่อแม่ฉันจากไปแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่มองย้อนกลับไป " เคนเนทเล่าด้วยความนิ่งเฉยแฝงไปด้วยความเศร้า

" เคนเนท... " 

พ่อของเคนเนทเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากนะ " อลันยิ้มให้กำลังใจเพื่อน

" ขอบใจนะอลัน แต่ไม่ต้องห่วงไปน่า ฉันยังมีพวกนายเป็นเพื่อน แถมยังมีน้องสาวที่จะต้องดูแลอีกด้วย ไปพักผ่อนกันเถอะ คืนนี้ฉันจะพาไปเลี้ยงอาหารที่ร้านในหมู่บ้านเอง " เขายิ้มและตบฝ่ามือเข้าที่อก

เด็กหนุ่มผู้สนุกสนานอยู่เสมอแต่ภายในใจเขาคงเหงาไม่น้อย ภายนอกที่ทุกคนมองเห็นคือเด็กหนุ่มผู้เข้มแข็งและร่าเริง แต่คงผ่านเรื่องราวมากมายที่เจ็บปวดใจไม่น้อย อลันได้แต่ยิ้มและนึกอยู่ภายในใจ 


และในค่ำคืนนี้... เสียงดังครึกครื้นและแสงไฟส่องสว่างอยู่ใจกลางหมู่บ้าน อลันและเคนเนทพากันไปเลี้ยงฉลอง ต้อนรับการสอบผ่านอาเคไทป์กับผู้คนในหมู่บ้านอย่างรื่นเริงสนุกสนาน 

" โอ้ย... จุกชะมัด กินเยอะเกินไปแล้ววันนี้ " 

" ผมก็ไม่ไหวแล้วล่ะ แน่นท้องไปหมด " อลันและเคนเนทต่างพากันเดินโซซัดโซเซกลับมาบ้าน ทั้งคู่กินเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างเต็มอิ่ม 

" ตูม... ครืน... " ขณะที่ทั้งสองมาถึง เสียงของคลื่นน้ำกระทบเข้ากับฝั่งใกล้กันกับบ้านของเคนเนท 

ในยามค่ำคืน สาหร่ายทะเลเรืองแสงเรืองรองสีเขียวและฟ้า ส่องเป็นประกายอยู่ใต้พื้นน้ำ พร้อมกับสัตว์น้ำตัวใหญ่ชนิดหนึ่งที่ว่ายผ่านไปมา 

" นั่นตัวอะไรน่ะ เคนเนท " อลันสัวเกตเห็นจึงชี้ไปยังแม่น้ำ

" อ๋อ นั่นมานาตีไง " เคนเนทเหลือบไปเห็นจึงตอบกลับ

" ตัวใหญ่จัง พวกนี้เหรอที่เคยพูดถึง " 

" ใช่แล้วนั่นแหละวัวทะเล ไม่ต้องกลัวไปพวกมันเป็นมิตรกับมนุษย์ "  

" มีคนว่ายน้ำอยู่กับมานาตีด้วยล่ะ " อลันชี้ไปยังมานาตีตัวเล็กตัวหนึ่งที่กำลังว่ายน้ำไปกับเด็กหญิง

" นั่น... มีน่าน้องสาวฉันไง 

มีน่าาาา!! พี่บอกแล้วไงว่าอย่าลงไปว่ายน้ำตอนกลางคืนมันหนาวนะ " เคนเนทโบกมือตะโกนเรียกน้องสาวตัวเองทันที

เด็กหญิงผมยาวกำลังว่ายน้ำอย่างคล่องแคล่วอยู่กับลูกมานาตีตัวเล็กตัวหนึ่ง ทั้งคู่แหวกว่ายคู่กันไปอย่างสนุกสนาน ไม่นานเธอก็ขึ้นจากน้ำมานั่งยังขอบฝั่ง

" พี่เคนเนท มาดูนี่สิ -- นี่เจ้าโคบี้ มันติดฉันมากเลยล่ะ " มีน่าโผล่ขึ้นมาพลางแนะนำมานาตีตัวหนึ่งให้ทั้งสองคนรู้จัก 

" โคบี้เหรอ ไปเจอมันมาจากไหนน่ะ " 

" ไม่รู้สิ ตอนฉันว่ายน้ำไปเก็บสาหร่ายก็เจอมันอยู่ตัวเดียว เลยเลี้ยงเอาไว้มันเลยติดฉันแจเลย " 

" มีน่าอย่าว่ายน้ำออกไปไกลสิ ตอนกลางคืนน่ะมันอันตราย สาหร่ายเรืองแสงเก็บแค่ตอนช่วงเย็นๆก็พอแล้วนะ " พี่ชายตักเตือนด้วยความเป็นห่วง 

" ไม่เป็นไรหรอก โคบี้ก็อยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดนะ "

ยังพูดคุยกันไม่จบ มีน่าก็กระโจนลงน้ำและว่ายออกไปกับโคบี้อย่างรวดเร็ว 

" เฮ้อ... ไม่ฟังฉันอีกแล้ว น้องสาวฉันนี่ดื้อชะมัด " เคนเนทบ่นพึมพำ

" มีน่า ว่ายน้ำเก่งจัง " อลันเอ่ยขึ้น 

" มีน่าว่ายน้ำเก่งกว่าฉันอีก อย่างกับนางเงือกเลย " 

" แล้วว่ายน้ำกลางคืน ไม่อันตรายเหรอ " 

" แม่น้ำแถวนี้ไม่อันตรายหรอก แต่ถ้าในป่าลึกละก็ อันตรายแน่ๆ แถมในน้ำกลางคืนมันหนาวน่ะ น้องฉันก็ไม่เคยฟังกันเลย... 

นายว่ายน้ำไม่เก่งเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันให้มีน่าสอนให้เอาไหม " เคยเนทเอ่ยปากขึ้น

" เอาสิผมว่ายน้ำไม่แข็งน่ะ กำลังอยากหัดว่ายน้ำเลย "

" เออเกือบลืมไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นๆฉันจะพานายไปเจอแม่เฒ่าด้วยดีไหม " 

" แม่เฒ่าที่พูดถึงอยู่ที่ไหนเหรอ เคนเนท " 

" กระท่อมของแม่เฒ่าอยู่ลึกเข้าไปในป่า ต้องล่องเรือขึ้นไปต้นน้ำน่ะ

พรุ่งนี้ฉันจะพานายนั่งเรือพายขึ้นไป แต่วันนี้นอนพักเอาแรงกันก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้วอิ่ม " พูดจบเคนเนทก็ล้มตัวลงนอนแผ่พุงกางของเขาอย่างสบายอารมณ์

" เหมือนกันเลย ฮะๆๆ " อลันยิ้มตอบพลันทิ้งตัวลงนอน

ทั้งสองคนกินอิ่มและนอนหลับ พักผ่อนอย่างมีความสุขในค่ำคืนที่ผ่านไปอย่างเงียบสงบของหมู่บ้านนี้ 




" ฮูก..... "

ลึกเข้าไปในป่ามีกระท่อมหลังหนึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยว ท่ามกลางแมกไม้รกทึบล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ยามนี้อากาศเย็นลงหมอกไอน้ำลอยบนพื้นผิว ดูวิเวกวังเวงเพียงลำพังในป่าอันเงียบสงัด 

นกร้องยามค่ำคืนเสียงดังไปทั่วผืนป่า บทสวดเสียงแผ่วเบาของหญิงชราผู้หนึ่งฟังดูเหมือนร่ำร้องบทเพลง ต่อหน้าเปลวไฟจากเทียนไขที่กำลังมอดลงอย่างช้าๆ

หญิงเฒ่าหยุดชะงักบทสวดของตนในทันใด กระจกตาอันขุ่นทึบของหญิงชราตาบอด หันไปเหลียวมองบริเวณประตูของกระท่อม มันเปิดออกพร้อมกับหมอกควันดำที่ล่องลอยผ่านบานประตูเข้ามาในยามนี้

" ถ่อสังขารมาหาข้าถึงที่นี่ มีธุระอะไรกับข้า...

จามาล ผู้เฝ้ามองแห่งศิลาทมิฬ " หญิงชราพลันเอ่ยขึ้น 

ในความมืดมิดและเมฆหมอก ปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่งเผยตัวออกจากกลุ่มควัน เขาสวมใส่ผ้าคลุมสีดำก้าวขาเข้ามายังกระท่อมของหญิงชรา

" หากว่าสิ่งที่เจ้าจะเอ่ยออกมา ฟังไม่เข้าหูข้า

ข้าจะให้คนของข้าฆ่าเจ้าในทันทีทันใด " หญิงชราเอ่ยอย่างเรียบๆสีหน้าของเธอดูจริงจังมิได้พูดขู่

บุรุษลึกลับพลันหยุดก้าวเดิน ทิ้งระยะห่างระหว่างทั้งสองคน แสงไฟจากเทียนไขสาดส่องพอให้เห็นลักษณะของเขาชัดเจนขึ้นจากความมืด และที่บนผ้าคลุมสีดำสนิทนั้นก็ปรากฏรูปลักษณ์ของเข็มกลัด รูปดวงตาที่มีพื้นหลังเป็นอัญมณีเพชรดำทมิฬ

" ........ " 

" ข้ามาเรื่อง... จอกแห่งความสัตย์จริง " จามาลเอ่ยพูดอย่างเยือกเย็นด้วยดวงตาที่ไร้ความรู้สึก 


จบตอน.