การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
ณ ท่าเรือโอกิ แห่งประเทศฟุกุนิ
เวิ้งน้ำของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่รูปทรงจันทร์เสี้ยว หาดทรายขาวทอดยาวและหน้าผาหินสูงชัน หนึ่งในอ่าวที่งดงามที่สุดในประเทศฟุกุนิ ที่แห่งนี้เป็นท่าเรือหลักในการสัญจรไปมาระหว่างทวีปทางเหนือและหมู่เกาะทางใต้ และยังเป็นเมืองหลักของฟุกุนิที่ใช้แลกเปลี่ยนค้าขายทรัพยากรกับเมดิโอลัน
โดยทางฟุกุนิเอง มีความสัมพันธ์ทางการทูตอันดีและการค้าที่แน่นแฟ้นกับเมดิโอลัน เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดของเกาะฟุกุนิ อยู่ทางทะเลตะวันออกเฉียงใต้ ทอดยาวลงไปจนถึงตอนใต้ของทวีปเมเลเดียน ถึงแม้ฟุกุนิจะห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ แต่เส้นทางเดินเรือที่ใกล้ที่สุด ก็ใกล้กับท่าเรือของเมืองหลวงเมดิโอลัน ทั้งสองประเทศจึงเปรียบเสมือนประเทศพันธมิตรที่มีความสนิทใกล้ชิดกันราวกับพี่น้อง
ในเวลานี้ สมาคมนักสำรวจมีภารกิจขนส่งสินค้าและสำรวจแหล่งหินแร่อัญมณีที่หมู่เกาะของฟุกุนิ คาลิน่า หญิงสาวนักสำรวจตราทองคำกำลังง่วนอยู่กับการขนถ่ายสินค้า วัตถุต่างๆและอัญมณี ที่คณะสำรวจได้ค้นพบในหมู่เกาะที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาไฟ
เหตุนี้เองจึงทำให้ฟุกุนิอุดมไปด้วยสินทรัพย์ทางธรณีมากมาย ภารกิจของพวกเขาในตอนนี้คือการสำรวจและค้นหาอัญมณีที่ตกผลึกจากศิลาอนิม่า เพื่อนำมาแยกแยะและคัดสรร ก่อนที่จะทำการจัดสรรปันส่วนให้กับเมดิโอลันและฟุกุนิ ตามข้อตกลงร่วมในการสำรวจหาทรัพยากร
ภายในเมืองท่าที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งพ่อค้าต่างแดน นักสำรวจของแผ่นดินใหญ่ นักเดินทางผจญภัย และชาวบ้านในละแวกนี้ ท่าเรือจึงคับคั่งและวุ่นวายครึกครื้นไปด้วยผู้คนคนมากมาย
"เร่งมือกันหน่อยนะ ทุกคน " คาลิน่าตะโกนบอกกับคณะสำรวจที่กำลังทำงานกันอย่างขมักเขม้น
" เราต้องรีบขนของให้ทันกำหนด จะถึงวันปฐมนิเทศปีนี้แล้ว สมาคมฯต้องการอัญมณีในการสร้างอุปกรณ์ให้เด็กใหม่นะ "
" คุณคาลิน่าครับ... " ชายหนุ่มผู้หนึ่งในคณะสำรวจ ตะโกนเรียกหัวหน้าของตนขึ้น
" ว่าไงคะ มีอะไรเหรอ "
" อัญมณีชิ้นนี้ให้คัดแยกไว้กับอะไรดีครับ " เขาเอ่ยถามขณะยื่นอัญมณีก้อนหนึ่งให้
" อัญมณีสีดำ... เหรอ? "
อัญมณีเงาวับสีดำสนิท ขนาดไม่ใหญ่น้ำหนักพอประมาณ มันมืดมิดเสียจนแสงไม่สามารถส่องผ่านมันได้ คาลิน่าหยิบมันขึ้นมาสำรวจมองดูด้วยความสงสัย เธอพึ่งเคยเห็นอัญมณีแบบนี้เป็นครั้งแรก ทั้งๆที่เป็นนักสำรวจระดับสูง เคยค้นพบหินแร่และอัญมณีมาแล้วทุกสีทุกแบบ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เจอกับหินสีดำชนิดนี้
" นี่มัน อัญมณีประเภทไหนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย " เธอสำรวจดูทั่วทั้งก้อน พลางเอาแว่นตาของนักสำรวจมาสอดส่องดู แม้จะใช้พลังของนักสำรวจที่มองเห็นถึงพลังงาน แต่กลับไม่เห็นอะไรจากอัญมณีก้อนนี้เลย
" ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงจะสำรวจเจอมาพร้อมกับอัญมณีชนิดอื่นๆ พึ่งจะสังเกตเห็นตอนที่กำลังแยกประเภทของมัน " ชายหนุ่มตอบ
" อืมม... เอาไว้ไหนดีล่ะ " คาลิน่าคิ้วขมวดมองซ้ายมองขวาและในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่เพลินๆ เสียงอันสุภาพนุ่มนวลก็ดังขึ้นด้านหลังของเธอ
" ขออภัย... "
" อัญมณีชิ้นนี้ กระผมต้องขอเก็บไว้นะครับ " ชายหนุ่มผู้หนึ่งโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้น
" ว้าย!! "
" ตกใจหมดเลย คุณ... เป็นใครกันคะ " เธอสะดุ้งเฮือกจนเกือบทำอัญมณีหลุดมือ
" ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัว...
กระผมชื่อว่า อาซุมะ (azuma) เป็นองครักษ์ของท่านโชกุน ยินดีที่ได้รู้จักครับ " ชายหนุ่มหน้าตาคม ผมยาวมัดผมเรียบร้อย สวมชุดฮากามะสีเข้มเหน็บดาบยาวไว้ที่เอว ดวงตาของเขาเล็กและดูเหมือนตายิ้มอยู่ตลอด ท่าทางสุภาพและเป็นมิตร เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับโค้งคำนับ
อาซุมะ องครักษ์ของโชกุนแห่งประเทศฟุกุนิ
อาเคไทป์ : ผู้พิชิต ระดับตรา : ไม่ระบุ
" ขะ... ขอโทษค่ะ อัญมณีชิ้นนี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนและผ่านการจัดสรรนะคะ " คาลิน่าพูดอย่างประหม่า
" กระผมทราบดีครับ... แต่คงต้องขออภัยที่จำเป็นต้องขอยึดอัญมณีชิ้นนี้ไว้ให้กับทางฟุกุนิ ตามคำสั่งของท่านโชกุน " อาซุมะก้มหน้าลงเอ่ยพูดเรียบๆ เขาเงยขึ้นมองมาที่คาลิน่าด้วยแววตาเยือกเย็นแฝงไว้ด้วยความน่ากลัวและความกดดัน
" คะ... ค่ะ ถ้า... เป็นคำสั่งของท่านโชกุน ฉันก็จำเป็นจะต้องทำตาม " เธอตอบเสียงสั่น
" ขอบพระคุณครับ " ถึงแม้ชายผู้นี้จะยิ้มแย้มทั่วทั้งใบหน้า แต่ก็ดูน่ากลัวราวกับจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์
" ค่ะ... " เธอยื่นอัญมณีให้เขาด้วยความกล้าๆกลัวๆ
หลังจากนั้นองครักษ์ผู้นี้ ก็เดินจากไปอย่างเงียบๆท่ามกลางฝูงชน และคณะสำรวจที่ยังคงขมักเขม้นทำงานกันอยู่
" คนๆนั้นดูน่ากลัวจังเลยครับ คุณคาลิน่า " ชายหนุ่มคณะสำรวจพูดเสียงสั่นขึ้นมา
" ฉันก็รู้สึกแบบนั้นแหละ...
รีบทำงานกันเถอะ พวกเราจะได้กลับเมดิโอลันกัน " หญิงสาวนักสำรวจรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลังจากแรงกดดันของจิ้งจอกหนุ่มคนนั้น แต่ถึงอย่างนั้นคาลิน่ายังคงสั่งงานและทำหน้าที่ของคณะสำรวจต่อไปจนเสร็จสิ้นภารกิจในท้ายที่สุด
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้น...
ณ หมู่บ้านดาร์ย่าที่อลันและเคนเนทเดินทางมาถึงในช่วงเวลายามเย็น หมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ บ้านเรือนถูกปลูกสร้างด้วยไม้และหลังคามุงกระเบื้อง ขึ้นเรียงรายกันตามริมแม่น้ำจนถึงอ่าวท่าเรือ
แม่น้ำใสสะอาดจนมองเห็นผืนทรายและสาหร่ายหลากสีสันที่ขึ้นอยู่ใต้น้ำ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่คดโค้งเป็นร่มเงาให้แสงลอดผ่านได้เล็กน้อย สะท้อนกับแผ่นน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับ สวยสดงดงามโดยเฉพาะยามเย็นที่ดวงอาทิตย์ทอแสงสีส้ม ลมทะเลพัดโชยเอากลิ่นอายของมัน ผสมกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าได้อย่างลงตัว
อลันตื่นตาตื่นใจมองไปรอบๆขณะก้าวเดินเข้ามา เด็กหนุ่มชื่นชมภาพของหมู่บ้านอันงดงาม และท่ามกลางสายตาที่จับจ้องเขาอยู่ในตอนนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยมีผู้มาเยี่ยมเยียนมากนัก เด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้จึงเป็นที่สนอกสนใจของชาวบ้านมากทีเดียว
" เฮ้! เคนเนท กลับมาแล้วเหรอ "
" เป็นไงบ้าง เคนเนท "
" เคนเนท พรุ่งนี้ไปออกเรือไหม " ผู้คนในหมู่บ้านต่างโบกมือพากันทักทายเคนเนทอย่างเป็นมิตร
" ว่าไงๆฉันพึ่งจะกลับมาเอง ขอพาเพื่อนไปพักผ่อนก่อนนะ " เคนเนทโยกมือตอบกลับทักทายทุกคน
" โอ... พาเพื่อนมาเที่ยวหมู่บ้านด้วย "
" มีคนคบด้วยเหรอ เคนเนท "
" เห้ย! เดี๋ยวเหอะ คนอย่างฉันต้องมีคนคบอยู่แล้วล่ะ "
" โห... ผู้คนในหมู่บ้านนี้ดูเป็นมิตรจัง เคนเนทรู้จักทุกคนหมดเลยเหรอ " อลันเอ่ยถาม
" ก็รู้จักกันเกือบหมดนั่นแหละ หมู่บ้านนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เลยรู้หน้ารู้ใจกันทั้งนั้น "
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินผ่านหมู่บ้าน เคนเนทก็พลางแนะนำให้อลันรู้จักกัยผู้คน พร้อมกับกล่าวคำทักทายอย่างมีมิตรไมตรี เด็กหญิงคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาและกล่าวทักขึ้น
" พี่เคนเนท! " เด็กหญิงตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวสลวยสีดำอมน้ำเงิน เอ่ยขึ้นเสียงดังฟังชัด
" มีน่า พี่กลับมาแล้ว " เคนเนทยิ้มตอบ
" อลัน นี่น้องสาวของฉันเอง มีน่า "
" สวัสดีครับ ผมชื่ออลัน "
" สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ มีน่า (Meena) " เด็กหญิงตากลมโตกล่าวทักทายและจ้องมองอลันอย่างฉงนสงสัย
เคนเนทแนะนำน้องสาวของตนให้กับอลัน มีน่าเด็กหญิงตัวเล็ก น้องสาวของเคนเนทอายุน้อยกว่าอลันหลายปี เธอมีอัธยาศัยดีท่าทางเรียบร้อยและร่าเริง จับมือและเขย่ามือกับอลันด้วยรอยยิ้มสดใส
" พี่เคนเนท พาเพื่อนมาด้วยเหรอ "
" ใช่ นี่เพื่อนพี่เอง "
" มีคนคบพี่ด้วยเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย "
" นี่!! มีน่า ทำไมพูดเหมือนกันหมดเลย ทุกคนเห็นฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย "
" พี่อลัน อย่าไปเชื่อพี่เคนเนทมากนะ เขาซื่อบื่อจะตายทุกคนในหมู่บ้านรู้กันหมดแหละ " มีน่าเอามือป้องปากกระซิบบอกอลัน พลางเหล่ตามองพี่ชายตัวเอง
" ฉันได้ยินนะ! "
" พี่จะพาอลันไปพบกับแม่เฒ่าตาบอด พวกเรามาเรื่องสำคัญหรอก " เคนเนทพูดขึ้นท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง
" แม่เฒ่าไลลา (Lyla) น่ะเหรอ ฉันไปด้วยสิอยากไปฟังนิทานอีก " มีน่าคะยั้นคะยอขอร้องตามประสาเด็ก
" ไม่ได้มีน่า นี่เรื่องจริงจังนะเรื่องของผู้ใหญ่ ฉันไม่ได้จะไปฟังนิทานนะ "
" อะไรกันฉันโตแล้วนะพี่ ให้ฉันไปด้วยสิ "
" เธอยังไม่โตซะหน่อย อย่าตื้อสิ "
" ใจร้ายชะมัด หึ... " เด็กหญิงท่าทางกระฟัดกระเฟียด เชิดหน้าไม่พอใจ
" พอเลยๆ เดี๋ยวพี่พาเพื่อนไปพักผ่อนก่อน
ไปกันเถอะอลัน บ้านฉันอยู่ไม่ไกลหรอก "
" งั้นไว้เจอกันใหม่นะ มีน่า " อลันยิ้มและโบกมือลา
" ไว้เจอกันค่ะ บายๆ " เด็กหญิงผู้น่ารักยิ้มให้และตอบกลับอย่างร่าเริง
ทั้งสองคนเดินเรียบริมแม่น้ำมาไม่ไกล จนถึงรอบนอกของหมู่บ้าน เคนเนทชี้ไปยังอาคารไม้หลังหนึ่ง บ้านไม้สองชั้นหลังไม่ใหญ่นัก สร้างไว้ติดกับแม่น้ำชายเลน ล้อมรอบด้วยต้นไม้และธรรมชาติ
" ถึงแล้วนี่บ้านฉันเอง "
อลันเดินตามเพื่อนเข้ามาในบ้าน ด้านในไม่ได้มีสิ่งของมากมาย มีเพียงแค่อุปกรณ์หาปลา เตียงนอนเก่าๆและของยังชีพทั่วไปเท่านั้น ภายในบ้านนั้นเงียบเหงาไม่มีใครอยู่เลย
" ไม่มีใครอยู่เลย เคนเนทอยู่คนเดียวเหรอ? " อลันเอ่ยถาม
" อ๋อ ใช่ฉันอยู่คนเดียวน่ะ น้องสาวฉันอยู่กับญาติ
ส่วนพ่อแม่ ฉันจากไปแล้วล่ะ... " เคนเนทตอบเรียบๆ
" ขะ... ขอโทษที่ถาม "
" ไม่เป็นไรหรอก... พ่อฉันตายในสงครามตั้งแต่ฉันยังเด็ก ส่วนแม่ก็มาป่วยตายหลังจากนั้น... " เคนเนทเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงไว้ด้วยความเศร้า
" ....... " ทำเอาอลันไม่กล้าเอ่ยปากพูด เขามองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
" ฉันกับมีน่าเลยต้องดูแลกันมาเองตลอด โชคดีที่ญาติฉันช่วยเลี้ยงมีน่ามาตั้งแต่เล็ก
เห็นเด็กๆแบบนั้นนะ มีน่ามีความเป็นผู้ใหญ่กว่าฉันอีก ฮะๆ... คงเพราะโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อแม่ละมั้ง " เคนเนทเล่าพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ
" เคนเนท... " อลันมองเห็นความเหงาเศร้าสร้อยในแววตาของเขาอย่างชัดเจน
" ตอนเด็กพ่อฉันก็สอนอะไรดีๆหลายอย่าง เขาชอบพูดว่า คนเรามักไม่ยอมรับความจริง แต่ความเป็นจริงนั้น มันไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะต้องยอมรับมัน "
" สุดท้ายฉันก็เลยต้องยอมรับว่า พ่อแม่ฉันจากไปแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่มองย้อนกลับไป " เคนเนทเล่าด้วยความนิ่งเฉยแฝงไปด้วยความเศร้า
" เคนเนท... "
พ่อของเคนเนทเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากนะ " อลันยิ้มให้กำลังใจเพื่อน
" ขอบใจนะอลัน แต่ไม่ต้องห่วงไปน่า ฉันยังมีพวกนายเป็นเพื่อน แถมยังมีน้องสาวที่จะต้องดูแลอีกด้วย ไปพักผ่อนกันเถอะ คืนนี้ฉันจะพาไปเลี้ยงอาหารที่ร้านในหมู่บ้านเอง " เขายิ้มและตบฝ่ามือเข้าที่อก
เด็กหนุ่มผู้สนุกสนานอยู่เสมอแต่ภายในใจเขาคงเหงาไม่น้อย ภายนอกที่ทุกคนมองเห็นคือเด็กหนุ่มผู้เข้มแข็งและร่าเริง แต่คงผ่านเรื่องราวมากมายที่เจ็บปวดใจไม่น้อย อลันได้แต่ยิ้มและนึกอยู่ภายในใจ
และในค่ำคืนนี้... เสียงดังครึกครื้นและแสงไฟส่องสว่างอยู่ใจกลางหมู่บ้าน อลันและเคนเนทพากันไปเลี้ยงฉลอง ต้อนรับการสอบผ่านอาเคไทป์กับผู้คนในหมู่บ้านอย่างรื่นเริงสนุกสนาน
" โอ้ย... จุกชะมัด กินเยอะเกินไปแล้ววันนี้ "
" ผมก็ไม่ไหวแล้วล่ะ แน่นท้องไปหมด " อลันและเคนเนทต่างพากันเดินโซซัดโซเซกลับมาบ้าน ทั้งคู่กินเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างเต็มอิ่ม
" ตูม... ครืน... " ขณะที่ทั้งสองมาถึง เสียงของคลื่นน้ำกระทบเข้ากับฝั่งใกล้กันกับบ้านของเคนเนท
ในยามค่ำคืน สาหร่ายทะเลเรืองแสงเรืองรองสีเขียวและฟ้า ส่องเป็นประกายอยู่ใต้พื้นน้ำ พร้อมกับสัตว์น้ำตัวใหญ่ชนิดหนึ่งที่ว่ายผ่านไปมา
" นั่นตัวอะไรน่ะ เคนเนท " อลันสัวเกตเห็นจึงชี้ไปยังแม่น้ำ
" อ๋อ นั่นมานาตีไง " เคนเนทเหลือบไปเห็นจึงตอบกลับ
" ตัวใหญ่จัง พวกนี้เหรอที่เคยพูดถึง "
" ใช่แล้วนั่นแหละวัวทะเล ไม่ต้องกลัวไปพวกมันเป็นมิตรกับมนุษย์ "
" มีคนว่ายน้ำอยู่กับมานาตีด้วยล่ะ " อลันชี้ไปยังมานาตีตัวเล็กตัวหนึ่งที่กำลังว่ายน้ำไปกับเด็กหญิง
" นั่น... มีน่าน้องสาวฉันไง
มีน่าาาา!! พี่บอกแล้วไงว่าอย่าลงไปว่ายน้ำตอนกลางคืนมันหนาวนะ " เคนเนทโบกมือตะโกนเรียกน้องสาวตัวเองทันที
เด็กหญิงผมยาวกำลังว่ายน้ำอย่างคล่องแคล่วอยู่กับลูกมานาตีตัวเล็กตัวหนึ่ง ทั้งคู่แหวกว่ายคู่กันไปอย่างสนุกสนาน ไม่นานเธอก็ขึ้นจากน้ำมานั่งยังขอบฝั่ง
" พี่เคนเนท มาดูนี่สิ -- นี่เจ้าโคบี้ มันติดฉันมากเลยล่ะ " มีน่าโผล่ขึ้นมาพลางแนะนำมานาตีตัวหนึ่งให้ทั้งสองคนรู้จัก
" โคบี้เหรอ ไปเจอมันมาจากไหนน่ะ "
" ไม่รู้สิ ตอนฉันว่ายน้ำไปเก็บสาหร่ายก็เจอมันอยู่ตัวเดียว เลยเลี้ยงเอาไว้มันเลยติดฉันแจเลย "
" มีน่าอย่าว่ายน้ำออกไปไกลสิ ตอนกลางคืนน่ะมันอันตราย สาหร่ายเรืองแสงเก็บแค่ตอนช่วงเย็นๆก็พอแล้วนะ " พี่ชายตักเตือนด้วยความเป็นห่วง
" ไม่เป็นไรหรอก โคบี้ก็อยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดนะ "
ยังพูดคุยกันไม่จบ มีน่าก็กระโจนลงน้ำและว่ายออกไปกับโคบี้อย่างรวดเร็ว
" เฮ้อ... ไม่ฟังฉันอีกแล้ว น้องสาวฉันนี่ดื้อชะมัด " เคนเนทบ่นพึมพำ
" มีน่า ว่ายน้ำเก่งจัง " อลันเอ่ยขึ้น
" มีน่าว่ายน้ำเก่งกว่าฉันอีก อย่างกับนางเงือกเลย "
" แล้วว่ายน้ำกลางคืน ไม่อันตรายเหรอ "
" แม่น้ำแถวนี้ไม่อันตรายหรอก แต่ถ้าในป่าลึกละก็ อันตรายแน่ๆ แถมในน้ำกลางคืนมันหนาวน่ะ น้องฉันก็ไม่เคยฟังกันเลย...
นายว่ายน้ำไม่เก่งเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันให้มีน่าสอนให้เอาไหม " เคยเนทเอ่ยปากขึ้น
" เอาสิผมว่ายน้ำไม่แข็งน่ะ กำลังอยากหัดว่ายน้ำเลย "
" เออเกือบลืมไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นๆฉันจะพานายไปเจอแม่เฒ่าด้วยดีไหม "
" แม่เฒ่าที่พูดถึงอยู่ที่ไหนเหรอ เคนเนท "
" กระท่อมของแม่เฒ่าอยู่ลึกเข้าไปในป่า ต้องล่องเรือขึ้นไปต้นน้ำน่ะ
พรุ่งนี้ฉันจะพานายนั่งเรือพายขึ้นไป แต่วันนี้นอนพักเอาแรงกันก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้วอิ่ม " พูดจบเคนเนทก็ล้มตัวลงนอนแผ่พุงกางของเขาอย่างสบายอารมณ์
" เหมือนกันเลย ฮะๆๆ " อลันยิ้มตอบพลันทิ้งตัวลงนอน
ทั้งสองคนกินอิ่มและนอนหลับ พักผ่อนอย่างมีความสุขในค่ำคืนที่ผ่านไปอย่างเงียบสงบของหมู่บ้านนี้
" ฮูก..... "
ลึกเข้าไปในป่ามีกระท่อมหลังหนึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยว ท่ามกลางแมกไม้รกทึบล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ยามนี้อากาศเย็นลงหมอกไอน้ำลอยบนพื้นผิว ดูวิเวกวังเวงเพียงลำพังในป่าอันเงียบสงัด
นกร้องยามค่ำคืนเสียงดังไปทั่วผืนป่า บทสวดเสียงแผ่วเบาของหญิงชราผู้หนึ่งฟังดูเหมือนร่ำร้องบทเพลง ต่อหน้าเปลวไฟจากเทียนไขที่กำลังมอดลงอย่างช้าๆ
หญิงเฒ่าหยุดชะงักบทสวดของตนในทันใด กระจกตาอันขุ่นทึบของหญิงชราตาบอด หันไปเหลียวมองบริเวณประตูของกระท่อม มันเปิดออกพร้อมกับหมอกควันดำที่ล่องลอยผ่านบานประตูเข้ามาในยามนี้
" ถ่อสังขารมาหาข้าถึงที่นี่ มีธุระอะไรกับข้า...
จามาล ผู้เฝ้ามองแห่งศิลาทมิฬ " หญิงชราพลันเอ่ยขึ้น
ในความมืดมิดและเมฆหมอก ปรากฏร่างของบุรุษผู้หนึ่งเผยตัวออกจากกลุ่มควัน เขาสวมใส่ผ้าคลุมสีดำก้าวขาเข้ามายังกระท่อมของหญิงชรา
" หากว่าสิ่งที่เจ้าจะเอ่ยออกมา ฟังไม่เข้าหูข้า
ข้าจะให้คนของข้าฆ่าเจ้าในทันทีทันใด " หญิงชราเอ่ยอย่างเรียบๆสีหน้าของเธอดูจริงจังมิได้พูดขู่
บุรุษลึกลับพลันหยุดก้าวเดิน ทิ้งระยะห่างระหว่างทั้งสองคน แสงไฟจากเทียนไขสาดส่องพอให้เห็นลักษณะของเขาชัดเจนขึ้นจากความมืด และที่บนผ้าคลุมสีดำสนิทนั้นก็ปรากฏรูปลักษณ์ของเข็มกลัด รูปดวงตาที่มีพื้นหลังเป็นอัญมณีเพชรดำทมิฬ
" ........ "
" ข้ามาเรื่อง... จอกแห่งความสัตย์จริง " จามาลเอ่ยพูดอย่างเยือกเย็นด้วยดวงตาที่ไร้ความรู้สึก
จบตอน.