การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
วัฎจักรแห่งชีวิตและสายน้ำนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน น้ำเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ของชีวิต สายน้ำเชื่อมโยงเราเข้ากับทุกสรรพสิ่ง จากท้องฟ้าสู่ผืนดิน จากไม้ใหญ่สู่ใบหญ้า จากลำธารสู่มหาสมุทร จากความปรารถนาสู่จิตวิญญาณ และจากชีวิตสู่ความตาย
เช้าวันรุ่งขึ้น... หมู่บ้านดาร์ย่าเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความเรียบง่าย ชาวบ้านตื่นเช้าออกทะเลหาปลากันตั้งแต่รุ่งสาง หาดทรายขาวสะอาดตัดกับน้ำทะเลสีคราม ยามเมื่อคลื่นลมนั้นเงียบสงบ และความครึกครื้นของวันก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับผู้คน
" หาววว... " เคนเนทและอลันลืมตาตื่นขึ้น ท่ามกลางเสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คนและนกกา แดดยามเช้าส่องสว่างลอดผ่านใบไม้ลงมากระทบกับผืนน้ำดูสดใส และกลิ่นอายทะเลที่คุ้นเคยของหมู่บ้าน
เคนเนทลุกขึ้นขยี้ตาและเรียกเพื่อน วันนี้เขาจะพาอลันเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน และหากิจกรรมต่างๆทำร่วมกัน
เช้านี้พวกเขาเดินเข้ามายังใจกลางหมู่บ้าน ขณะที่ผู้คนกำลังค้าขายปลาและของทะเลที่พวกเขาหามาได้ ทั้งสองมองหาอาหารเช้าอันหอมกรุ่นที่โชยมา ปลาเผาเสียบไม้ย่างกับข้าวห่อใบบัวหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ น้ำผลไม้ผสมน้ำผึ้งสดๆจากป่าก็ไม่เลวเลย
ทั้งสองนั่งลงบนโต๊ะไม้พร้อมกับอาหารเช้าของพวกเขา ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเพลิดเพลินไปกับอาหาร อลันก็เหลือบไปเห็นน้องสาวของเคนเนท ที่อุ้มเอาตะกร้าไม้สานใบหนึ่งมาด้วย เขาพลันโบกมือทักทาย
" สวัสดีค่ะพี่อลัน หลับสบายดีไหม " มีน่าวิ่งเข้ามากล่าวคำทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส
" สวัสดีมีน่า หลับสบายเลยล่ะ ที่นี่อากาศดีมาก " เขายิ้มตอบ
" มีน่า เมื่อคืนไปเก็บสาหร่ายจนดึกอีกแล้วใช่ไหม " เคนเนทเอ่ยปากบ่นเธอแต่เช้า
" ฉันก็เก็บแบบนี้ทุกวันแหละ พี่ขี้บ่นจัง "
" ไม่ได้บ่นสักหน่อย ก็พี่เป็นห่วงกลางคืนมันหนาวนะ "
" มีน่าไปเก็บอะไรมาเหรอเยอะแยะเลย " อลันเอ่ยถามขึ้น เขาสังเกตเห็นบางอย่างเต็มตะกร้าที่เธอหอบหิ้วมา
" สาหร่ายเรืองแสงค่ะ นี่ไง " เธอยิ้มพลันยกตะกร้าให้ดูสาหร่ายสีเขียวและน้ำเงินคล้ำ มันดูทึบไม่มีแสงอะไรออกมาสักนิดเดียว
" สาหร่ายเรืองแสงน่ะอลัน มันเรืองแสงเฉพาะตอนกลางคืน กลางวันมันก็ดูเหมือนสาหร่ายธรรมดาเนี่ยแหละ " เคนเนทเสริม
" ใช่ค่ะ หนูเลยต้องไปเก็บมาตอนกลางคืน เวลาที่มันส่องแสงไง ฮิฮิ "
" เอาไว้ทำอะไรเหรอ "
" ที่หมู่บ้านชาวบ้านจะส่งไปขายกับพ่อค้าในเมืองหลวง เขาเชื่อกันว่าสาหร่ายทะเลชนิดนี้ดูดซับพลังงานของอนิม่าเอาไว้ มันเลยเปล่งแสงออกมาเป็นสีต่างๆ "
" เดี๋ยวหนูจะเอาไปขายในหมู่บ้าน วันนี้เก็บมาได้เยอะเลย " เด็กหญิงตัวเล็กผู้ร่าเริงยิ้มอย่างภูมิใจ พูดจบเธอก็โบกมือลาและอุ้มเอาตะกร้าเดินเข้าไปในตัวหมู่บ้าน
" มีน่า เดี๋ยวมาหาพี่ด้วยนะ " เคนเนทโบกมือตะโกนบอกเธอไล่หลังไป
" ค่าาา "
" มีน่าดูร่าเริงจังเลยนะ " อลันยิ้มขึ้นสบายๆ
" น้องสาวฉันเป็นเด็กร่าเริงน่ะ เธอมองโลกในแง่ดีเสมอหัวดื้อสุดๆไม่ค่อยจะเกรงกลัวอะไร ฉันล่ะเป็นห่วงจริงๆ " เคนเนทหน้านิ่วคิ้วขมวด
เช้านี้พวกเขาเดินชมหมู่บ้านชาวประมง ผู้คนเร่ขายอาหารทะเลสดๆที่จับมาได้ มีปลาแปลกหน้าตาประหลาดมากมายที่อลันไม่เคยเห็นมาก่อน
เคนเนทเดินทักผู้คนไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนรู้จักกันแทบทั้งหมดจริงๆ เขากล่าวคำทักทายไม่ก็หยอกล้อเล่นกับชาวบ้าน เด็กหนุ่มพาเพื่อนเดินเล่นไปทั่วด้วยความคึกคะนอง แล้วเคนเนทก็เข้าไปแกล้งแหย่คุณป้าขายผลไม้
" เคนเนท!! ไอ้เด็กบ้า! " เลยโดนด่าไล่หลังมา อลันก้มหัวขอโทษแทบไม่ทัน " ฮ่าๆ แกล้งคนนี่สนุกดีจริง " เขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด
บ่ายนี้ทั้งคู่นัดแนะว่าจะไปฝึกว่ายน้ำกันที่แม่น้ำข้างบ้านของเคนเนท มีน่ามาเล่นน้ำรออยู่แล้วพร้อมกับเจ้าโคบี้ลูกมานาตีตัวเล็ก
แดดยามบ่ายอุ่นๆ ทำให้ฝูงมานาตีมานอนแช่น้ำอาบแดดกันเต็มไปหมด พวกมันตัวใหญ่เอาการ อลันดูจะกล้าๆกลัวๆตอนลงน้ำ
" ไม่ต้องกลัวพวกมันหรอกอลัน ไม่อันตราย " เคนเนทพูดขึ้น แล้วก็พลันว่ายน้ำไปแกล้งพวกมันเล่น
" พี่เคนเนท! นิสัยเสีย อย่าไปแกล้งพวกมันสิ มันหลับอยู่นะ " มีน่าดุพี่ชาย เธอว่ายน้ำไปลูบตัวพวกมานาตีอย่างแผ่วเบา
สองพี่น้องว่ายน้ำกันได้อย่างคล่องแคล่ว เคนเนทก็ออกจะบ้าพลังไปหน่อยเหวี่ยงแขนทีน้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว ส่วนมีน่านั้นนุ่มนวลแหวกว่ายได้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของสายน้ำ
อลันดำผุดดำว่ายอยู่พักหนึ่ง เด็กหนุ่มว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งจริงๆ เขาไม่ได้ลงน้ำมานานมากแล้ว
" แฮ่กๆ " มีน่าสังเกตเห็นอลันที่เหนื่อยหอบ เด็กหญิงมองเขาด้วยดวงตากลมโต พี่ชายเธอฝากฝังไว้ให้สอนอลันหัดว่ายน้ำให้ดีขึ้น
" พี่อลัน หายใจไม่ถูกจังหวะ "
" แฮ่กๆ ต้องทำยังไงเหรอมีน่า " อลันยังหายใจหอบอยู่ขณะหันมาถาม
" แม่หนูสอนว่า ถ้าอยากว่ายน้ำอย่ากลัวจมน้ำ
พี่อลันกลั้นหายใจแล้วออกแรงว่ายเพราะกลัวจม ต้องหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยลมออกมาทีละนิด จับจังหวะให้เข้ากับกระแสน้ำให้ได้ " เธออธิบายและแหวกว่ายให้ดูเป็นตัวอย่าง เด็กหญิงผมยาวประสานเป็นหนึ่งเดียวกับผืนน้ำ เธอดูเหมือนเงือกน้อยตัวเล็ก
อลันลองทำทีละนิด เด็กหนุ่มสัมผัสถึงการไหลเวียนของน้ำและแหวกว่ายไปด้วยกัน เขาฝึกหายใจให้คล่องขึ้นจนชินกับโลกใต้น้ำ
ใต้แม่น้ำใสมีผืนทรายขาวและสาหร่ายนานาชนิด ฝูงปลาเล็กแหวกว่ายผ่านไป และเหล่ามานาตีที่นินทราอยู่ใต้สายธาร โลกใต้น้ำนั้นน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับอลัน
" นายเก่งขึ้นแล้วนี่! " เคนเนทเอ่ยทักขึ้น เด็กหนุ่มผู้ร่าเริงสนุกกับการว่ายน้ำที่เขาห่างหายมาสักพัก
" ว่ายคล่องขึ้นแล้ว มีน่าสอนเก่งมากเลย " อลันยิ้มตอบ
" มาว่ายแข่งกันไหม "
" ฮะ... ไม่ไหวมั้งเคนเนท "
" พี่อลันจะไปชนะได้ไง มาแข่งกับหนูแทนไหมล่ะ " มีน่าพูดโพล่งขึ้นมาทันที
" อะไรกันมีน่า เดี๋ยวนี้กล้าท้าทายพี่ชายแล้วเหรอ " เคนเนทมองน้องสาวด้วยสายตาหยามเหยียด
" กลัวเหรอ ถ้าหนูชนะพี่ต้องเลิกบ่นด้วย "
" พูดแบบนี้ก็สวยสิ ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว -- อลันนายก็ว่ายตามมานะ ใครถึงปากแม่น้ำก่อนชนะ! "
" ดะ... เดี๋ยวก่อนสิ "
พูดจบทั้งสองพี่น้องก็กระโจนลงน้ำหายลับไปกับตา อลันพยายามว่ายตามไปทันทีแต่ทั้งคู่ก็ไปไกลแล้ว เห็นคลื่นน้ำอยู่ไกลๆกระเซ็นแรงๆนั่นคือเคนเนท ส่วนทางมีน่าหายวับไปกับสายน้ำในพริบตา
จากบ้านของเคนเนทไกลออกไปหลายร้อยเมตร กว่าจะถึงจุดที่เป็นปากแม่น้ำรอยต่อระหว่างทะเล อลันใช้เวลาสักพักก่อนจะว่ายมาถึง ส่วนสองพี่น้องมาถึงนานแล้วยืนเถียงกันอยู่
" แฮ่กๆ ... " อลันนั่งคุกเข่าทั้งสองข้างหายใจเหนื่อยหอบ
" อะไรเนี่ย! มีน่าขี้โกงเปล่าว่ายมาพร้อมกับโคบี้อะ "
" ฉันชนะ " มีน่ายืนกอดอกเชิดหน้าอยู่
" อ้าว... ไหวไหมอลัน "
" แฮ่กๆ ... " อลันยกมือขึ้นเหนือหัว เขาหายใจไม่ทัน
" ว่ายกลับไปอีกทีไหมล่ะ พี่ไม่ยอมหรอก "
" อีกกี่รอบก็เหมือนกันแหละ "
ไม่รู้ว่ายืนเถียงกันอยู่นานแค่ไหนแล้ว แต่สองพี่น้องก็กลับลงน้ำ และแหวกว่ายกลับไปที่บ้านในเส้นทางเดิมอย่างรวดเร็ว
" เดี๋ยว..! ไม่รอกันเลย... " อลันหน้าซีดสองคนนั้นไปแล้วไม่รอ เขาว่ายต่อไม่ไหวแล้วตอนนี้
เขาใช้วิธีนอนแผ่ตัวกลับไปแทน เด็กหนุ่มลอยตัวขึ้นเหนือน้ำ ค่อยๆตีขาเหวี่ยงแขนกลับไปเส้นทางเดิม เขามองท้องฟ้ายามที่ใบหน้าลอยอยู่บนผืนน้ำ ฟ้าครามยามนี้ช่างสดใสและเงียบสงัด การล่องลอยไปกับสายน้ำช่างอิ่มเอมใจและสุนทรีย์ พลันนึกขึ้นในใจว่าถ้าทุกอย่างเงียบสงบและมีความสุขเช่นนี้เหมือนกันทุกวันคงจะดี
...เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาช่วงเย็น ตอนนี้เคนเนทกำลังเตรียมเรือพาย ที่จะพาอลันไปพบกับแม่เฒ่าประจำหมู่บ้าน
" ไปกันเถอะอลัน เรือพร้อมแล้ว " เขาเอ่ยเรียกเพื่อน
เคนเนทพายเรือพาเพื่อนล่องขึ้นไปเหนือแม่น้ำ ป่าข้างทางเริ่มหนาทึบขึ้นเรื่อยๆไร้วี่แววของที่อยู่อาศัย ในระหว่างทางนั้นอลันพลันสังเกตเห็นว่ามีลิงจมูกยาว เกาะอยู่ตามต้นไม้เป็นฝูงเล็กๆ และสังเกตเห็นว่าพวกมันจ้องมองมาอย่างเงียบๆ เขาดูกังวลเล็กน้อยว่าพวกมันจะเป็นอันตราย
" ไม่เป็นไรอลัน เรานั่งเงียบๆไม่ไปรบกวนพวกมัน ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ลิงตัวเมียไม่ดุร้ายหรอก " เคนเนทพูดบอกกับเพื่อนทันทีที่สังเกตเห็น
ไม่นานนัก... เขาก็พาอลันล่องเรือมาถึงยังกระท่อมไม้หลังหนึ่งมีน้ำล้อมรอบ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่าทึบ ดูวังเวงและเงียบเชียบจนน่าขนลุก
" ถึงแล้วล่ะอลัน "
" ทำไมมันดูวังเวงแบบนี้ล่ะ "
" แม่เฒ่าแกชอบอยู่แบบปลีกวิเวกน่ะ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรอก "
" แอ๊ดด.... " เคนเนทเปิดประตูไม้เก่าๆเข้ามา ก็พบกับหญิงชราผู้หนึ่ง นั่งอยู่หน้าเทียนไขในความมืดของกระท่อมแห่งนี้
" ว่าไง... เคนเนท มาหาข้ามีอะไรหรือ " หญิงชราพลันเอ่ยถามในทันควัน
" รู้ได้ไงว่าเป็นฉันเนี่ย! แม่เฒ่าไลลา "
หญิงชราตาบอด ผู้แก่เฒ่าผมสีขาวโพลน มีปานดำบนใบหน้าจนถึงลำคอ นั่งอยู่เงียบๆในกระท่อมไม้เก่า มีเพียงแค่เทียนไขเต็มห้องและก้อนหินแปลกประหลาด
แม่เฒ่าไลลา (Lyla) นักพยากรณ์ประจำหมู่บ้านดาร์ย่า อาเคไทป์ : ไม่ทราบแน่ชัด ระดับตรา : ไม่ระบุ
" ถึงข้าจะตาบอด แต่ก็มองเห็นพลังงานได้ชัดเจน ข้าแยกแยะออกว่าเป็นใคร
และเจ้าพึ่งจะสร้างพันธะ... อืม... ผู้พิทักษ์ เหมาะกับเจ้าดีนะเคนเนท " หญิงชราเอ่ยเรียบๆ
" รู้ถึงขนาดนี้เลย เห็นไหมอลันฉันบอกแล้ว แม่เฒ่าไลลาเป็นนักพยากรณ์ที่เก่งมาก " เคนเนทพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง
" ข้ายังไม่ทันจะได้พยากรณ์อะไรเลย แค่มองเห็นเส้นใยพลังงานของเจ้าเป็นสีเหลืองเท่านั้น "
" นี่เจ้า... มากับใครงั้นหรือ " แม่เฒ่าไลลาเอ่ยถาม
" สะ... สวัสดีครับ ผมชื่อว่า อลัน " อลันเอ่ยทักทายอย่างประหม่า
" ...... "
' นี่น่ะหรือ เด็กที่จามาลพูดถึง ' หญิงชราเงียบไปชั่วครู่ เธอนึกขึ้นถึงคำบอกเล่านั้นและมองมาที่อลันด้วยดวงตาขุ่นมัวของเธอ
" นี่อลัน เพื่อนฉันเอง สอบผ่านการคัดเลือกมาด้วยกันน่ะ แต่ว่า...
อลันไม่มีพลังสร้างพันธะขึ้นมาไม่ได้ เลยอยากให้แม่เฒ่าช่วยหน่อย " เคนเนทเล่า
" จะให้ข้าช่วยอะไรหรือ... "
" ช่วยพยากรณ์ให้ทีว่า อลันจะต้องทำยังไงถึงจะมีเส้นใยพลังงานเหมือนกับคนอื่นๆ พวกเรามีเวลาแค่ 3 ปี ต้องทำให้อลันสร้างพันธะขึ้นมาให้ได้ "
" อืม... " แม่เฒ่าไลลาขยับตัวอย่างช้าๆ เอื้อมไปหยิบกองหินรูปร่างประหลาดมากองหนึ่ง
เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งลงมองดูอย่างใจจดใจจ่อ
" เข้ามาใกล้ๆ ทั้งสองคนนั้นแหละ "
" อืม... " หญิงชราหยิบกองหินนั่น มาวางต่อหน้าของทั้งคู่ " ยื่นมือมาให้ข้า... "
" ครับ... " อลันยังคงดูประหม่าเขาตื่นเต้นเล็กน้อย
แม่เฒ่าไลลาพลันลูบไล้ไปบนฝ่ามือของอลัน ในความมืดนั้นก็เหมือนจะมีแสงสว่างสลัวๆเกิดขึ้น
' ไร้ซึ่งเส้นใยพลังงาน ไม่มีพลังใดๆอยู่ภายในตัว แต่มีบางอย่างอยู่ที่ก้นบึ้ง ช่างน่าแปลกนัก... '
" ....... " หญิงชรายังคงนิ่งเงียบ
" เป็นยังไงบ้างเนี่ยแม่เฒ่า " เคนเนทอดทนรอไม่ไหวจึงเอ่ยปากถามขึ้นมา
" ......... " แม่เฒ่าไลลาไม่เอ่ยคำพูด พลางคิดคำนึงถึงบางอย่างอยู่ภายในใจ เธอโยนกองหินลอยขึ้นในอากาศ มันร่วงหล่นลงมาแล้วกระจัดกระจายออกไปต่อหน้าอลันและเคนเนท
" ชะตาของเจ้าหนุ่มนี่... "
" เป็นไงบ้าง? " เคนเนทคะยั้นคะยอถาม
" ....... "
" ชะตาของเจ้า ถูกลิขิตให้ออกเดินทาง "
" ตามหาสิ่งที่เจ้านั้นทำหายไป "
" หวนคืนสู่ที่ที่มันจากมา "
" และยามเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจำเป็นจะต้องเลือกสองหนทางที่แตกต่างกัน "
" จงถามความปรารถนาในใจของเจ้าเอง "
" ไม่ว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร จิตใจของเจ้าจะหวนคืนสู่ความสงบ "
และนี่คือ คำพยากรณ์จากแม่เฒ่าไลลา
" อะไรเนี่ย...!? ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยแม่เฒ่า พูดให้ชัดกว่านี้ไม่ได้เหรอไง " เคนเนทบ่นอุบขึ้นมาทันที
" ขอบคุณนะครับ... " อลันก้มหัวขอบคุณแม่เฒ่าตอนนี้เขายังคงไม่เข้าใจถึงคำทำนายนี้
" ชะตาของพวกเจ้า คือเส้นทางของพวกเจ้าเอง ข้าไม่อาจชี้นำทางให้แก่พวกเจ้าได้ " เธอตอบ
" ยิ่งพูดยิ่งงง " เคนเนทเริ่มงงพลางเอามือเกาหัว
" เข้ามานี่ เคนเนท... "
" ฮะ... ฉันด้วยเหรอ? " เคนเนทดูแปลกใจ ทั้งๆที่ปกติตัวเองก็ไม่เคยได้คำทำนายอะไร แม่เฒ่าไลลามักจะพูดเสมอว่า หากไร้ซึ่งแสงแห่งโชคชะตา คำพยากรณ์ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป...
" ใช่... เจ้าด้วย " เธอทำเช่นเดียวกันกับที่ทำนายให้อลัน กองหินลอยขึ้นและตกลงสู่พื้น และหญิงชรากำลังพยากรณ์สิ่งที่เห็น
" เคนเนท... "
" ชะตาของเจ้าคือ การปกป้องสิ่งที่เจ้ารัก "
" แต่ในวันข้างหน้า เจ้าจะไม่สามารถปกป้องทุกสิ่งได้ "
" ชะตากรรมช่างโหดร้าย เจ้าจำเป็นจะต้องเลือก "
" ปกป้องเพียงหนึ่งชีวิต... "
" หรือละทิ้งเพียงหนึ่ง เพื่อปกป้องหลายชีวิต "
" ไม่ว่าเจ้าจะเลือกเช่นใด ในท้ายที่สุดเจ้าจะเป็นผู้ที่ยืนเคียงข้างองค์ราชา "
นี่คือ คำพยากรณ์ของเคนเนท
" หมายความว่ายังไง ปกป้องหนึ่งชีวิต " เคนเนทยักคิ้วทำหน้างง เขาหัวทื่อยิ่งทำให้สับสนไปใหญ่
" ข้าบอกแล้ว มันชะตาของพวกเจ้า "
" ไม่เป็นไรหรอกเคนเนท แค่นี้ก็รบกวนแม่เฒ่ามากแล้วล่ะ ผมก็รู้สึกว่าต้องออกเดินทางจนกว่าจะหาหนทางสร้างพันธะขึ้นมาให้ได้ " อลันยิ้มและพูดอย่างหนักแน่น
" ช่างเถอะ แม่เฒ่าคงบอกพวกเราได้เท่านี้แหละ
เอางี้ ลองเล่าเรื่องจอกแห่งความจริง ให้เพื่อนฉันฟังหน่อยสิ " อยู่ๆ เคนเนทพูดโพล่งขึ้นมา
" ....!! " แม่เฒ่าไลลารู้สึกสะกิดใจขึ้นมาทันที ที่เคนเนทสนใจเรื่องจอกโบราณ ตามที่เธอได้สนทนากับผู้มาเยือนเมื่อค่ำคืนนั้น
" นิทานปรัมปรานั่นน่ะเหรอ เจ้าไม่เด็กแล้วนะเคนเนท ยังอยากฟังนิทานอยู่อีก "
" ไม่ใช่น่ะ! ฉันแค่อยากให้อลันรู้ไว้ เผื่อว่าถ้ามันมีอยู่จริง มันอาจจะเป็นสิ่งที่บอกความจริงกับพวกเราได้ " เคนเนทพูดขึ้นอย่างจริงจัง
" ถ้าเจ้ายืนยันเช่นนั้น ข้าก็จะเล่าเรื่องของมันให้ฟัง "
" จอกแห่งความสัตย์จริง "
จบตอน.