การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 31 ความฝันอันยาวนาน

เนื้อหา

Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน


หลายร้อยปีก่อน...

ดินแดนแห่งนี้คือ นครแห่งป่าดงพงไพรและท้องทะเลอันงดงาม มีทั้งพืชพรรณและสัตว์นานาชนิด อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย ทุกชีวิตต่างอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก 

นครทาลาส (Thálas) เมืองแห่งพฤกษาและมหาสมุทร กษัตริย์ของเมืองแห่งนี้ปกครองบ้านเมืองด้วยความโอบอ้อมอารี มีเมตตาธรรมต่อผู้คนและเหล่าสรรพสัตว์ ด้วยความปรีชาของพระองค์ทำให้เกิดการค้าขายทรัพยากรระหว่างเมืองต่างๆขึ้น จนทำให้นครแห่งนี้มั่งคั่งไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย 

...กระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เรือสินค้าจากแดนไกลนำสิ่งของที่ล้ำค่ามาเป็นเครื่องบรรณาการแก่ราชาผู้ทรงธรรม

สิ่งนั้นคือ จอกโบราณ มันมีลักษณะที่สวยงาม สร้างจากโลหะเงินแวววาว แกะสลักไว้ด้วยภาษาเก่าแก่ ฝีมือการสร้างอันประณีตจากช่างผู้ชำนาญ 

พ่อค้านำมันมาถวายให้เป็นเครื่องราชบรรณาการ เพื่อหวังที่จะผูกมิตรไมตรีกับนครแห่งนี้ เล่ากันว่าจอกโบราณใบนี้ มีพลังอำนาจที่จะเปิดเผยความจริงแด่ทุกสรรพสิ่ง 

กษัตริย์ผู้ชาญฉลาดทรงถามไถ่ว่า ทำเช่นไรถึงจะใช้มันเผยความจริงได้ 

พ่อค้าบอกเล่าว่า เพียงแค่นำน้ำบริสุทธิ์ใส่ไว้ในจอกใบนี้และให้ผู้คนดื่มมัน สิ่งที่คนผู้นั้นพูดออกมาหลังจากดื่มน้ำจากจอกใบนี้ไป จะเป็นความจริงทุกประการ 

เช่นนั้นแล้ว กษัตริย์จึงให้ทหารนำน้ำบริสุทธิ์ใส่ลงในจอกโบราณ และทดลองให้พ่อค้าคนนั้นดื่มเข้าไป

ทรงเอ่ยถามขึ้นว่า...

" เจ้านำสิ่งนี้มาถวายเรา ต้องการอะไรตอบแทน " 

พ่อค้าคนนั้นตอบกลับมาว่า 

" ข้าเพียงต้องการมิตรไมตรี และความไว้ใจในตัวข้า เพื่อที่จะได้ค้าขายกับนครแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว " 

" ฮ่าๆๆๆ ยอดเยี่ยมมาก " องค์ราชาทรงพอพระทัยอย่างมาก ดูเหมือนว่าสิ่งที่พ่อค้านั้นพูดออกมาช่างตรงไปตรงมา จอกแห่งความจริงสำแดงพลังของมันออกมา

หลังจากนั้นนครแห่งนี้ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก ด้วยการค้าขายแลกเปลี่ยน อำนาจและความมั่งคั่งนั้นมากมายเหลือล้น

ด้วยพลังจากจอกโบราณ กษัตริย์ทรงให้ชาวเมืองทุกคน ดื่มน้ำและทรงถามไถ่ถึงความจงรักภักดีต่อตนและราชวงศ์ แน่นอนว่าผู้คนต่างจงรักภักดีต่อกษัตริย์ผู้นี้ยิ่ง ด้วยความเป็นอยู่ที่สุขสบาย มีกินมีใช้กันอิ่มหนำสำราญ


อยู่มาวันหนึ่ง... มิตรไมตรีจากต่างแดนได้มาเยือน ทูตจากต่างแดนถูกส่งมายังนครแห่งนี้ ด้วยชื่อเสียงของกษัตริย์ผู้ทรงปรีชาและความรุ่งเรืองของเมือง และด้วยพลังอำนาจของจอกโบราณอันเป็นที่ล่ำลือ

ไม่เว้นแม้แต่คนต่างแดน กษัตริย์ทรงสั่งให้ทูตคนนั้นดื่มน้ำจากจอกโบราณ และทรงถามไถ่ความจริง

" เจ้ามาที่เมืองของเรา ต้องการสิ่งใดหรือ " 

" ข้ามาเพราะ องค์ราชาของข้าต้องการให้ข้ามาสืบหาข้อมูลของจอกแห่งความจริง และเพื่อที่จะหาวิธีครอบครองมัน " ทูตคนนั้นเอ่ย 

" เจ้าว่าไงนะ!? " กษัตริย์มีน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้น

" เจ้ามิได้มาเพราะความภักดีต่อข้า และนครแห่งนี้หรอกหรือ "

" หาไม่... เมืองของเรามิได้ภักดีต่อท่าน ในไม่ช้ากษัตริย์ของเราตั้งใจที่จะบุกเข้ายึดนครแห่งนี้ เพื่อช่วงชิงอำนาจและความมั่งคั่ง " เขาตอบ

" บังอาจ! เหิมเกริมนัก!! "

" ทหาร! นำตัวมันไปขังและประหารมันทิ้ง " ด้วยความโกรธเกรี้ยว องค์ราชาทรงรับสั่งให้ประหารทูตจากต่างแดนคนนี้ในทันที

พลังอำนาจแห่งความจริงถูกเปิดเผย ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปไกล เมืองต่างๆต้องการที่จะครอบครองพลังอำนาจของจอกโบราณ และทรัพสมบัติมากมายของเมืองแห่งนี้ ทำให้นครทาลาสเกิดสงครามสู่รบขึ้นกับหลายเมือง


เมืองที่เคยสงบสุขและสวยงามมาช้านาน กลับเต็มไปด้วยการรบราฆ่าฟันและความโหดร้าย ผู้คนต่างล้มตายกันไม่เว้นทั้งชายและหญิง ทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกสิ่งล้วนพังทลายลงในพริบตาจนหมดสิ้นความรุ่งเรือง 

กษัตริย์ผู้หลงมัวเมาในอำนาจของจอกโบราณ ไม่ยอมให้ใครมาช่วงชิงพลังอำนาจนี้ไปจากตน

ในวาระสุดท้ายของพระองค์ เขาใช้มีดเฉือนแขนของตนเพื่อหลั่งเลือดลงสู่จอกโบราณ และเทมันลงสู่แม่น้ำลำธาร สาปแช่งด้วยจิตใจอาฆาตมาดร้าย

ทรงเอ่ยคำบัญชาว่า

" ข้าขอบัญชาให้ทุกสรรพสิ่งในนครแห่งนี้จงปกป้องดูแลจอกโบราณใบนี้ด้วยชีวิต อย่าให้ผู้ใดได้บังอาจย่างกรายเข้ามาในนคร และได้ครอบครองพลังอำนาจของจอกโบราณนี้ไปตลอดกาล

คำพูดสุดท้ายของกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ ก่อนที่เขาจะสิ้นใจลงไปพร้อมกับนครที่พังทลาย วิบัติด้วยโลหิตและเพลิงแดงฉานชั่วกาลนาน...




และในเวลานี้แม่เฒ่าไลลา ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับทั้งสองคนฟัง 

" นี่แหละ... นิทานจอกแห่งความจริง " 

" เป็นนิทานที่ดูน่ากลัวมากเลยนะครับ " อลันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 

" สนุกดีใช่ไหมล่ะ อลัน " เคนเนทยิ้มหน้าตาเฉย

" แล้วจอกโบราณ มีอยู่จริงหรือเปล่าครับแม่เฒ่า "

" ไม่มีใครรู้หรอก เรื่องราวมันก็นานมาแล้ว แต่ว่านครแห่งนั้นน่ะมีอยู่จริง ตอนนี้เป็นแค่ซากปรักหักพังที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าเท่านั้น " หญิงชราตอบ

" น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ถ้าพวกเราออกตามหาจอกใบนั้น เราอาจจะรู้ความจริงเกี่ยวกับโชคชะตาก็ได้นะ " เคนเนทพูดด้วยความตื่นเต้น

" อย่าได้คิดจะไปตามหามัน ที่นครโบราณ 

...ในใจกลางป่าลึกที่ตั้งของนครแห่งนั้น มีลิงจมูกยาวตัวผู้อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงจำนวนมาก " 

" ลือกันว่าลิงเหล่านั้นโดนคำสาป สั่งให้ปกป้องนครแห่งนั้นมาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่อดีตกาล ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปทำการสำรวจ เพราะความดุร้ายและอันตรายของพวกมัน " 

" กระทั่งปัจจุบันนครแห่งนี้ถึงได้ถูกเรียกว่า...

นครแห่งการลืมเลือน " แม่เฒ่าเล่าด้วยน้ำเสียงดุและแข็งกร้าว


" คะ... ครับ " อลันพยักหน้าตอบด้วยความกลัว 

" โธ่เอ๊ยแม่เฒ่า ฉันรู้น่าว่าในป่าลึกเจ้าลิงพวกนั้นมันอันตราย ก็แค่นิทานที่แต่งขึ้นเพราะกลัวว่าผู้คนจะเข้าไปในป่าลึกแล้วโดนลิงทำร้ายหรือหลงป่า ก็เท่านั้นเอง " เคนเนทพูดขึ้นมาอย่างไม่กลัวเกรง

" ....... " หญิงชราเงียบไปชั่วครู่ 

" นี่ก็เริ่มมืดค่ำแล้ว พวกเจ้ากลับกันไปได้แล้วล่ะ " 

เด็กหนุ่มทั้งสองมองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง พระอาทิตย์เริ่มตกดินและใกล้เวลามืดแล้ว

" ก็ได้ๆฉันจะกลับล่ะ เดี๋ยวมืดแล้วจะเดินทางลำบากเอา กลับกันเถอะอลัน " เคนเนทเบ้ปากทำหน้าเซ็งๆ 

" จะมืดแล้วถ้างั้นพวกเรารีบกลับกันก่อนดีกว่านะ "

" ขอบคุณมากนะครับแม่เฒ่า " 

" ไปละนะ แม่เฒ่า " 

เด็กหนุ่มทั้งสองกล่าวคำลา เดินจากกระท่อมของหญิงชราไปในยามสายัณห์ ทั้งสองคนลงเรือและพายออกแม่น้ำสายเดิมไป กลับไปยังเส้นทางสู่หมู่บ้านดาร์ย่า

" เฮ้อ... สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย " เคนเนท บ่นพึมพำขึ้นมาขณะพายเรือกลับช้าๆ 

" เราเลิกคิดเรื่องจอกโบราณนั่นกันเถอะ มันอาจจะแค่เรื่องเล่าคงไม่มีจริงหรอก " 

แสงสว่างคืบคลานลงยังสุดปลายฟ้า และในค่ำคืนนี้หญิงชรายังคงนั่งลงต่อหน้าเทียนไขและเปลวเพลิงสลัว พลางสวดภาวนาต่อหน้าดวงไฟและเอ่ยถ้อยคำอันเรียบง่ายขึ้น

" หวังว่าเรื่องที่เจ้าบอก จะเป็นความจริงนะ

จามาล...

ไม่เช่นนั้นแล้ว เด็กพวกนี้คงได้ตายแน่ " 




เช้าวันต่อมา... 


เคนเนทนั่งหาวอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลางหมู่บ้าน เช่นเคยเหมือนทุกๆวัน ชาวบ้านต่างค้าขายกันอย่างครึกครื้น ในบรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเอง เด็กหนุ่มทักทายผู้คนที่เดินผ่านไปมา วันนี้ก็เงียบสงบท้องฟ้าสดใส และเต็มไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มของทุกคน

" วันนี้ทำอะไรกันดี อลัน "

" ...... " ไร้ซึ่งคำตอบรับ อลันกำลังนั่งนิ่งเหม่อลอยนึกบางอย่างอยู่ในใจ

" อลัน... "

" อลัน!! " เคนเนทเสียงดังขึ้น 

" ฮะ! อะไรเหรอเคนเนท " 

" นั่งเหม่อใจลอยเลย เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ " 

" ขอโทษที พอดีผมคิดอะไรเพลินๆน่ะ " 

" คิดอะไรน่ะ คิดเรื่องคำทำนายของแม่เฒ่าเมื่อวานอยู่เหรอไง " 

" ใช่... คือ มันก็รู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับคำพยากรณ์ "

" มันทำให้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า เจตจำนงที่แท้จริงของตัวเองคืออะไรกันแน่ " 

" หมายความว่าไง "


" บางทีผมอาจจะไม่ได้อยากออกเดินทางตามหาแม่ก็ได้ หรือบางทีเจตจำนงที่แท้จริงก็คือ การตามหาบางสิ่งที่ทำมันหายไป " อลันบอกเล่าถึงความในใจ 

" แล้วสิ่งที่หายไปมันคืออะไรกันล่ะ " 

" นั่นสิ... ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน "

" นายคิดมากไปแล้วมั้ง บางทีคำพยากรณ์มันอาจจะไม่แม่นยำก็ได้นะ " 

" ..... " 

" เฮ้อ... ช่างมันเถอะ คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆน่า วันนี้ไปออกทะเลนั่งเรือกันดีกว่า " เคนเนทเอ่ยปากชวนเพื่อน

" อืม... ก็ดีนะ " 

" ดีมากงั้นไปกันเถอะ ฮ่าๆ " เคนเนทยิ้มพลางตบบ่าเพื่อน 


ทั้งสองคนออกเดินทางท่องมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลไปกับเรือประมงของคนในหมู่บ้าน สายลมและแสงแดด ท้องทะเลและเกลียวคลื่น นกนางแอ่นบินโผไปในฟ้าสีคราม ผืนน้ำอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทัศนียภาพอันงดงาม ช่วยชำระล้างจิตใจที่ขุ่นมัว ทำให้ทั้งคู่ดูผ่อนคลายขึ้นมาก 

อลันจ้องมองไปยังผืนน้ำของมหาสมุทร ไกลออกไปสุดปลายขอบฟ้า 

" คิดว่าที่ขอบฟ้าจะมีอะไรอยู่ไหม " 

" หือ... ขอบฟ้าเหรอ คงมีเกาะล่ะมั้ง ไม่รู้สิฉันไม่เคยไปไกลกว่าฟุกุนิเลย อยู่ๆก็ถามอะไรขึ้นมาน่ะ " 

" ผมแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังรอผมอยู่น่ะ วันนึงพวกเราจะไปถึงขอบฟ้านั่นไหมนะ " อลันมองออกไปด้วยสายตรงที่มุ่งมั่น จิตใจของเขาสงบนิ่งยามที่คลื่นลมนั้นกระเพื่อมผิวน้ำเป็นจังหวะ 

เคนเนทมองดูเพื่อน เห็นสายตาที่มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ เขายิ้มมุมปากและกอดคอเพื่อนคนเดียวของเขาในยามนี้เอาไว้ 

" ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าพวกเราจะต้องผจญกับอะไร ฉันจะไปกับนายเอง " 

อลันยิ้มตอบ ภายใต้ท้องฟ้ากว้างใหญ่และท้องทะเลอันไพศาล มิตรภาพของเด็กหนุ่มทั้งสองส่องเป็นประกายราวกับแสงจากดวงตะวัน 


เวลาต่อมา... ยามเย็นที่หมู่บ้าน ในระหว่างที่เคนเนทและอลันพึ่งกลับมาจากการล่องเรือ ทั้งคู่เดินผ่านไปยังอาคารไม้หลังหนึ่งไม่ใหญ่มากนัก อลันสังเกตเห็นว่ามีนกเหยี่ยวตัวหนึ่ง เกาะอยู่ที่ราวไม้ข้างอาคารหลังนี้ 

" เฮ้ย... เคนเนท มีจดหมายมาแน่ะ " บุรุษผู้ดูแลการส่งจดหมายและสิ่งของประจำหมู่บ้าน ยื่นซองจดหมายให้กับเด็กหนุ่ม

" โอ... จดหมายอะไรเหรอ " 

" ขอโทษนะครับ ทำไมที่นี่ถึงมีเหยี่ยวเกาะอยู่ตรงนี้เหรอ " อลันเอ่ยถามด้วยความสงสัย

" อ๋อ เจ้าเหยี่ยวนี่เอาไว้ส่งข่าวฉุกเฉินน่ะ นกพวกนี้ถูกฝึกมาให้ส่งจดหมายหรือข้อมูลด่วน เรียกว่า เหยี่ยวสื่อสาร " บุรุษผู้ดูแลจดหมายตอบ

" แบบนี้นี่เองขอบคุณนะครับ " เด็กหนุ่มมองดูด้วยความสนใจใคร่รู้ 

" นี่มันจดหมายเรียกของทางสมาคม " เคนเนทแกะซองออกมาอ่านและเขาก็โพล่งขึ้นมา

" หือ... อะไรเหรอ เคนเนท "

" ทางเมดิโอลัน จะจัดพิธีปฐมนิเทศขึ้นในอีกสามวันน่ะ นี่มันจดหมายเรียกตัว " 

" ปฐมนิเทศ... เขาจะให้พวกเราไปรายงานตัวกันที่สมาคมสินะ " 

" เฮ่ยยย... สมาคมเหรอ แค่นึกถึงหน้าตาลุงนั่นก็ขนลุกแล้ว " เคนเนทบ่นพึมพำ

" ฮะๆจะได้เจอกับคุณเคย์นอีกแล้วสิ " 

" ดีใจอะไรเนี่ยอลัน " 

" เดี๋ยวพวกเราจะได้เข้าสมาคมแล้วไง ไม่ดีเหรอ "

" มันก็ดีอยู่หรอก แต่ไม่อยากเข้าสมาคมผู้พิทักษ์ของตาลุงนั่นเล๊ย " เคนเนทพูดเสียงสูง

" เอาน่า ยังไงพวกเราก็ต้องไปร่วมพิธีก่อนนะ " 

" อืม... ไปก็ไป อีกตั้งสามวันสินะ เดี๋ยวฉันไปดูก่อนว่ารถไฟไปเมดิโอลันออกตอนไหน " 

" เราแวะไปหาคริสตัลก่อนวันปฐมนิเทศดีไหม " 

" หืม... นายอยากไปเหรอ? " 

" ผมอยากแวะไปเยี่ยมบรู๊คด้วยนะ... " อลันพูดเสียงเศร้าๆ 

" ..... " 

" ก็ได้ตามใจนาย ถ้างั้นพวกเราก็ไปพร้อมคริสตัลด้วยเลย " เคนเนทมองหน้าเพื่อนก็รู้ใจ

อลันนั้นเป็นคนอ่อนโยนเขามักจะดูเป็นห่วงคนอื่นอยู่เสมอ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการสอบรอบสุดท้าย ยังไม่มีข่าวสารอะไรจากฝั่งนั้นเลย 


เส้นทางรถไฟจากหมู่บ้านดาร์ย่านั้น เชื่อมต่อกันกับเมืองนารานเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น การที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงเมดิโอลัน จะต้องผ่านทางไปยังสถานีเมืองนารานก่อน ถึงจะเดินทางต่อไปสู่เมืองหลวงได้ ซึ่งใช้ระยะเวลาเกือบทั้งวัน 

" เฮ้... อลัน รถไฟไปสถานีเมืองนาราน ออกพรุ่งนี้เช้านะ จากนั้นพวกเราก็ต่อขบวนถัดไป ไปเมดิโอลันได้เลย "

" ถ้างั้นพรุ่งนี้เรากลับไปเมดิโอลันกันดีกว่า " 

" ว่าแต่นายยังไม่กลับหมู่บ้านเหรอ " 

" อืม... ผมคิดว่าจะกลับหลังจากปฐมนิเทศจบน่ะ เคนเนทอยากลองไปเที่ยวดูบ้างไหม " อลันเอ่ยถาม

" เอาสิ ไว้ฉันไปเที่ยวบ้านนายดูบ้าง " 

" ตกลง ถ้างั้นพรุ่งนี้ออกเดินทางกันเถอะ " 

เด็กหนุ่มทั้งสองนัดแนะกันเพื่อออกเดินทางในวันถัดไป เย็นนี้พวกเขาร่ำลาผู้คนในหมู่บ้าน และมีงานเลี้ยงส่งกันขึ้นอีกครั้ง 

ผู้คนต่างร้องรำทำเพลง ท่ามกลางหมู่บ้านแห่งพงไพรและท้องทะเล งานเลี้ยงสังสรรค์เป็นไปอย่างครึกครื้น และน้องสาวของเคนเนทก็มาร่วมด้วย

มีน่าดูจะติดอลันมากเลย เธอร้อยสร้อยคอมือจากเปลือกหอยให้กับอลันไว้เป็นที่ระลึก 

" พี่อลัน ลองฟังนี่สิ " มีน่าหยิบเปลือกหอยสังข์ยื่นให้กับอลัน 

" อะไรเหรอ " 

" แม่หนูบอกว่า ถ้าเราเอาหูแนบจะได้ยินเสียงของคลื่นทะเล " 

" จริงเหรอ " อลันพลางเอาหูแนบกับเปลือกหอย เสียงที่เขาได้ยินดังเข้าไปในโสตประสาท มันคล้ายกับคลื่นลมที่พัดอย่างสงบ เพียงแค่หลับตาสดับรับฟังก็รับรู้ถึงท้องทะเลได้ 

" ได้ยินจริงด้วยล่ะ! ขอบคุณนะมีน่า " 

" ฮิฮิ ใช่มั้ยล่ะ หนูให้เก็บเอาไว้นะ เผื่อวันไหนคิดถึงที่นี่ก็หยิบมาฟัง " เด็กหญิงตัวเล็กผู้ร่าเริงยิ้มกว้างให้ 

" พี่อลันจะกลับมาอีกไหม " 

" ต้องกลับมาอยู่แล้วล่ะ พี่สัญญาเลย " อลันยิ้มตอบ 

และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ก็ผ่านพ้นไปอย่างมีความสุข พร้อมกับมิตรไมตรีจากทุกคนในหมู่บ้าน 


จงอย่าได้ลืมเลือนวันคืนของพวกเรา ท่ามกลางท้องฟ้าและหมู่ดาวที่พร่างพราว

ถึงแม้ในวันนี้ปลายนิ้วของฉัน จะไม่สามารถเอื้อมไปถึงขอบฟ้ายามค่ำคืนอันแสนไกลโพ้นได้

แต่ถ้าวันหนึ่งฉันสามารถเอื้อมไปถึงมัน จะปลดปล่อยดวงดาวที่ส่องแสงเหล่านั้นให้เป็นอิสระ

อยู่ด้วยเถอะจนกว่าฉันจะหลับตาลง อย่าได้ปล่อยมืออันแสนอ่อนโยนนี้ไป

เหมือนกับตอนที่ฉันหลงทางสมัยเด็กๆ...


จบตอน.