การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะการผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด
เช้าวันใหม่กับการเดินทางของสองหนุ่มอีกครั้ง...
หลังจากงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ผ่านไปเมื่อคืนนี้ อลันและเคนเนทหอบหิ้วสัมภาระมากมาย รวมถึงของฝากและอาหารต่างๆจากผู้คนในหมู่บ้าน เตรียมตัวพร้อมออกเดินทางที่สถานีรถไฟของหมู่บ้าน
ดาร์ย่าหมู่บ้านแห่งท้องทะเลเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีและผู้คนอันเป็นที่รัก ความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากทุกคน ทำให้หนทางอันยาวไกลของการเดินทางนี้ดูเป็นเรื่องง่ายดาย
" อย่าลืมกลับมาเที่ยวอีกนะ พี่อลัน! " มีน่าโบกมือร่ำลาตะโกนบอกเขา ขณะรถไฟขบวนกำลังจะออกเดินทาง
" ไว้พี่กลับมาใหม่นะ " อลันยิ้มตอบและโบกมือลา
" อย่าออกไปว่ายน้ำตอนกลางคืนอีกนะ เดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว " เคนเนทตักเตือนน้องสาวของเขาก่อนออกเดินทางเช่นกัน
เด็กหญิงเชิดหน้ากอดอก ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังคำสั่งพี่ชายของเธอเลย ทำเอาเคนเนทคิ้วขมวดเป็นปม
รถไฟออกเดินทางจากสถานีของหมู่บ้าน มุ่งตรงไปยังเมืองนาราน ก่อนที่ทั้งคู่จะต่อรถขบวนถัดไปสู่เมืองหลวงของดินแดน เมดิโอลันนครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ณ เมืองหลวงเมดิโอลัน เวลาปัจจุบันก่อนเริ่มงานปฐมนิเทศประจำปี
ที่คลังสินค้าของสมาคมนักสำรวจ คาลิน่านักสำรวจผู้ดูแลสมาคม กำลังขนถ่ายสินค้าและทรัพยากรทั้งหมดที่สำรวจมาจากหมู่เกาะฟุกุนิ
" คาลิน่า การสำรวจทรัพยากรคราวนี้เป็นยังไงบ้าง " อัลวินเอ่ยถามขึ้น
นายสลอธคนเดิม วันนี้เขาตื่นแต่เช้าพร้อมกับแก้วกาแฟ มาทำหน้าที่ตรวจสอบทรัพยากรหินแร่และอัญมณีจากสมาคมนักสำรวจด้วยตัวเอง เพื่อนำไปใช้ในการสร้างอุปกรณ์ใช้งานให้กับเหล่าอาเคไทป์รุ่นใหม่ ที่กำลังจะมาเข้าร่วมงานและลงทะเบียนเข้ารับหน้าที่กับทางสมาคมต่างๆในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
" ทรัพยากรคราวนี้ ได้ตรงตามเป้านะคะ "
" ถ้างั้นการสร้างอุปกรณ์รอบนี้ คงไม่ติดปัญหาอะไร "
" คือว่า... ฉันไม่ได้เก็บอัญมณีบางชนิดกลับมาด้วย " คาลิน่าเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
" หือ... อัญมณีอะไร " อัลวินเอ่ยถามขณะซดกาแฟ
" คือทางฟุกุนิ ไม่อนุญาตให้พวกเรานำอัญมณีสีดำ กลับมาที่เมดิโอลันด้วยค่ะ " เธอก้มหน้าก้มตาพูดเบาๆเพราะกลัวโดนดุ
" ว่าไงนะ! อัญมณีสีดำ เป็นอัญมณีประเภทไหน? " เขาวางแก้วกาแฟลงเสียงดัง อัลวินถามด้วยความสงสัยและเสียงแข็ง
" ขะ... ขอโทษค่ะ ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน ยังไม่ทันได้ตรวจสอบดูก็โดนยึดไปแล้ว "
" โดนยึดไปเลยเหรอ ได้ยังไงเนี่ย? "
" ก็ท่านโชกุนสั่งมา ฉันเลยถูกองครักษ์ยึดเอาไปในทันทีเลยค่ะ " เธอเล่าเสียงสั่นๆ
" ...... " อัลวินเงียบไปชั่วครู่ เขายกมือขึ้นจับคางพลางใช้ความคิด นึกบางอย่างขึ้นในใจด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
' อัญมณีสีดำ... จะเกี่ยวข้องกับชายผู้บุกรุกคนนั้นหรือเปล่านะ ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้วแต่การชันสูตรก็ยังไม่พบข้อมูลอะไรของผลึกสีดำที่กัดกินแขนของเขา
' อัญมณีสีดำที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ ทางฟุกุนิเก็บเอาไว้ทำไมกัน เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล
หรือว่าพวกช่างทำอัญมณี จะรู้อะไรที่ทางสมาคมผู้รอบรู้ของเรายังไม่รู้ มันน่าจะต้องเกี่ยวข้องกันแน่ รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย '
" คุณอัลวินคะ... " คาลิน่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ มองดูผู้รอบรู้หนุ่มที่ตอนนี้กำลังคิดจนใจลอยไปไกล
" หือ... อะไร... จะยื่นหน้าเข้ามาทำไมล่ะ! " อัลวินสะดุ้งเฮือก เขาตกใจฟาดมือเขกหัวเธอดังโป๊ก
" โอ๊ย! ขอโทษค่า "
" ไม่เป็นไรช่างมัน เอาไว้ฉันจะไปตรวจสอบทีหลัง "
" เข้าใจแล้วค่ะ อูย... " คาลิน่าพยักหน้าตอบแบบเก้อเขิน เธอลูบหัวบรรเทาความเจ็บ หลังจากที่สลอธหนุ่มของเราเดินจากไปด้วยสีหน้าตึงเครียด จนลืมแก้วกาแฟของเขาไป
" เห็นทีว่าฉันต้องออกโรงไปฟุกุนิเองแล้ว " อัลวินเดินบ่นพึมพำด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมา
บ่ายวันนั้น...
อลันและเคนเนทเดินทางมาถึงยังเมืองหลวงเมดิโอลันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รถไฟจอดที่สถานีนอกตัวเมือง เบื้องหน้าไกลออกไปมองเห็นกำแพงสูงใหญ่ของเมดิโอลันได้อย่างชัดเจน ทั้งสองคนตัดสินใจแวะไปเยี่ยมคริสตัลก่อนที่จะเข้าเมือง และจากคำบอกเล่า บ้านของตระกูลเลนนาร์ดนั้นอยู่เขตชานเมือง ทั้งคู่จึงตัดสินใจถามหาเส้นทางไปยังพื้นที่ของตระกูลนี้ เพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อนของเขา
เด็กหนุ่มทั้งสองสอบถามวิธีการเดินทางจากหัวหน้าสถานีรถไฟ ชายชราผู้ใจดีที่คอยดูแลสถานีของเมืองหลวงมาช้านาน เขาเขียนแผนที่ไปยังบ้านของตระกูลเรนนาร์ดให้กับทั้งสองคนอย่างชัดเจน
การเดินทางไปยังที่ดินของตระกูลนี้ สามารถใช้เส้นทางลำเลียงสินค้า ที่ทางเมืองหลวงใช้ขนส่งสินค้าจากท่าเรือ ผ่านรอบนอกตัวเมืองและขึ้นเหนือไปได้เช่นกัน
เส้นทางนี้มีรถม้าลากเกวียนผ่านไปมามากมาย เห็นแบบนั้นเคนเนทเลยโบกมือเรียก เพื่อขออาศัยผ่านทางไปด้วย ช่วยย่นเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว
" ขอบใจนะลุง! " เคนเนทโบกมือลาพ่อค้าที่พาพวกเขาทั้งสองมาส่ง พร้อมกับอลันที่ก้มหน้าขอบคุณ
" เฮ้อ... ถึงจนได้ "
" ไกลมากเลยนะจากดาร์ย่าอะ "
ทั้งสองมองดูพื้นที่กว้างใหญ่ข้างหน้า ที่มีคฤหาสน์หรูหราตั้งอยู่ไม่ไกล และรั้วเหล็กดัดสวยงามล้อมรอบ ต้นไม้ใหญ่ถูกปลูกไว้เรียงราย พร้อมด้วยไม้ดอกเป็นพุ่มสีสันสดใส
" นั่นบ้านคริสตัลใช่ไหมนะ " เคนเนทชี้ไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่
" คิดว่าใช่นะครับ " อลันมองดูเห็นอยู่ไกลๆ
เด็กหนุ่มทั้งสองมุ่งตรงไปยังประตูเหล็กบานใหญ่ ทางเข้าไปยังคฤหาสน์แห่งนี้ ตราสัญลักษณ์ของตระกูลเห็นเด่นเป็นสง่าบนเหล็กดัดของประตู
" กระผมแฮโรลด์ มีอะไรให้รับใช้มิทราบครับ " ชายสูงวัยผมสั้นสีขาวโพลน ไว้หนวดยาวโค้งตรงปลายเชิ่ดขึ้นกระดกเป็นวง ท่าทางมีระเบียบวินัยใส่สูทแต่งกายเรียบร้อย เขามีชื่อว่า แฮโรลด์ พ่อบ้านประจำตระกูลเรนนาร์ด
" เอ่อ... พวกผมมาหาคริสตัลครับ " อลันเอ่ยพูดอย่างประหม่าเพราะความหรูหราของสถานที่แห่งนี้ และความเรียบร้อยของพ่อบ้านที่ดูเคร่งขรึม
พ่อบ้านจ้องหน้าของทั้งสองคนเขม็ง สายตาเขาดูน่ากล้วเหมือนหมาป่าจ้องจะขย้ำกระต่ายน้อยหลงป่า ทำเอาเคนเนทรู้สึกขนลุกซู่
" เป็นเพื่อนของคุณหนูคริสตัลเหรอครับ "
" ชะ... ใช่ครับ " อลันตอบกล้าๆกลัวๆ
" งั้นเชิญตามกระผมมาทางนี้ครับ " และเขาก็ยิ้มออกมาพร้อมกับผายมือ เชิญเด็กหนุ่มทั้งสองผ่านเข้าประตูเหล็กอันใหญ่โตเข้าไป
" นี่อลัน... ไม่ใช่ว่าพวกเรามาผิดที่ แล้วจะโดนหลอกมาเชือดทิ้งหรอกนะ " เคนเนทกระซิบกระซาบพูดขึ้นมา ขณะพวกเขากำลังเดินผ่านต้นไม้สูงใหญ่ที่เรียงรายกันเต็มสองข้างทางเดิน เงาไม้บดบังแสงแดดยามบ่ายจนอึมครึมไปตลอดเส้นทาง
" ฮึ่ย... ไม่ใช่มั้งเคนเนท พวกเราน่าจะมาถูกที่แล้วนะ "
" พ่อหนุ่มทั้งสอง เชิญพักผ่อนที่สวนด้านหน้าคฤหาสน์ได้ตามสบายเลยนะครับ เดี๋ยวกระผมจะไปแจ้งคุณหนูให้เอง " พ่อบ้านเอ่ยพูดขึ้นข้างหูทั้งสองคน ขณะวางฝ่ามืออันใหญ่โตของเขาลงบนไหล่ทั้งคู่
ทำเอาทั้งอลันและเคนเนทสะดุ้งโหยง เสียวสันหลังวาบไปตามๆกัน แต่ภายหลังจากที่พวกเขาเดินผ่านทางเข้า จนมาถึงสวนบริเวณด้านหน้าแล้ว ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนแปลงไปแทบจะตรงกันข้าม
สวนพฤกษากว้างขวาง เต็มไปด้วยไม้ดอกงดงาม กุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ กลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ที่แย้มบาน และใจกลางของสถานที่แห่งนี้ยังคงมีศาลาสวนทรงแปดเหลี่ยมที่สวยงามตั้งอยู่
เด็กหนุ่มทั้งสองตกตะลึงในความงดงามของสถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของสวนสวย พวกเขานั่งลงที่ศาลาแห่งนั้น
ในขณะที่แม่บ้าน นำถ้วยและกาน้ำชาเซรามิก ลายดอกไม้มาเทเสิร์ฟให้พวกเขา ทั้งคู่นั่งตัวเกร็งจากการปรนนิบัติอย่างผู้ดีมีเกียรติ
และไม่ช้าทั้งสองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาแต่ไกล
" อลัน! เคนเนท! " เด็กหญิงเพื่อนรักของทั้งคู่ ตะโกนเรียกขึ้นเสียงดังฟังชัด
" คริสตัล! " ทั้งสามคนต่างทักทายกันยิ้มแย้มแจ่มใส
" นึกว่าจะไม่มาแล้วล่ะค่ะ " คริสตัลยิ้มแก้มปริ วันนี้คุณหนูคนเล็กของตระกูลแต่งตัวในชุดกระโปรงยาวเรียบร้อย
" ต้องมาอยู่แล้วล่ะ รับปากไว้แล้วนี่ " อลันยิ้มตอบ
" ฉันเป็นคนพามาเองล่ะ กว่าจะถึงที่นี่ได้ " เคนเนทกระหยิ่มยิ้มย่องพูดขึ้น
" ยังเป็นห่วงอยู่เลยว่าเคนเนท จะพาอลันไปทำอะไรแผลงๆ " คริสตัลเหลือบตามองอย่างไม่วางใจ
" ฮะๆ เคนเนทพาไปเที่ยวหมู่บ้านกับให้มีน่าช่วยสอนว่ายน้ำน่ะ ไม่ได้ไปทำอะไรแปลกๆหรอก "
" ไม่เชื่อใจกันเลยนะคริสตัล เห็นฉันเกเรเหรอไง "
ทั้งสามคนนั่งพูดคุยถามไถ่กัน ถึงการเดินทางอันแสนสั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา เสียงดังครึกครื้นสนุกสนานไปทั่วสวน จนเป็นที่สังเกตของเหล่าคนรับใช้
พ่อบ้านของเรายิ้มกรุ่มกริ่ม เขารู้สึกดีใจที่มีเพื่อนมาเยี่ยมคุณหนูคนเล็กของตระกูล
" คุณหนูต้องการอะไรเพิ่มเติม เรียกกระผมได้เลยนะครับ " แฮโรลด์ พ่อบ้านคนเดิมเอ่ยถามขณะนำของว่างมาให้กับทุกคน
" ขอบคุณค่ะ คุณแฮโรลด์ " คริสตัลยิ้มตอบเรียบๆ
" นี่... คริสตัล เธออยู่ที่นี่กับตาลุงเฮี้ยบๆนี่ได้ไงเนี่ย " เคนเนทกระซิบกระซาบ
" หือ... คุณแฮโรลด์น่ะเหรอ เขาเป็นพ่อบ้านมาตั้งแต่ฉันยังเด็กแล้วล่ะ ออกจะดูเจ้าระเบียบก็จริง แต่เป็นคนใจดีมากเลยนะคะ "
" เขาดูเหมือนมีแรงกดดันอะไรบางอย่างเลยนะ พวกผมขนลุกทุกทีที่เขาจ้องเลยล่ะ " อลันพูดเสริม
" เขาเคยเป็นทหารเก่าสมัยช่วงสงคราม แต่ตอนนี้เกษียณแล้ว คุณพ่อเลยรับเข้ามาดูแลตระกูลตั้งแต่สมัยก่อนน่ะ "
" มิน่าล่ะ ถึงรู้สึกขนลุกแปลกๆ "
" ว่าแต่ทั้งสองคนแวะมาเยี่ยม ก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศเหรอ "
" ใช่ๆ พอดีมีจดหมายเรียกตัวส่งไปที่หมู่บ้านเคนเนท พวกเราก็เลยแวะมา แล้วก็...
คิดว่าจะมาเยี่ยมบรู๊คด้วยน่ะ " อลันตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
" บรู๊ค... เหรอคะ " คริสตัลดูเป็นกังวลเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเงียบคิดไปพักหนึ่ง
" บรู๊คเคยบอกว่าอยู่กับบ้านของตระกูลนี้นี่ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น " เคนเนทพูดเสียงแข็งขึ้นมา
" ถ้างั้น... ฉันจะพาทั้งสองคนไปเยี่ยมที่บ้านของเขาเย็นนี้เลยนะคะ " คริสตัลพูดออกมาด้วยเสียงเศร้าๆ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปเตรียมตัวที่บ้านอยู่พักหนึ่ง
เย็นวันนั้น... คริสตัลพาเพื่อนทั้งสองคนเดินผ่านประตูทางด้านหลัง ออกไปยังป่าบริเวณที่ดินของตระกูลเรนนาร์ด ออกไปไม่ไกลจากรั้วเหล็กเท่าไหร่ ก็เห็นกระท่อมไม้เก่าๆหลังหนึ่ง และกองฟืนกับลำธารใสติดกับที่อยู่อาศัย
" สวัสดีค่ะ คุณนายเอเมอร์สัน " คริสตัลกล่าวคำทักทายหญิงซูบผอมคนหนึ่ง
เจ้าของกระท่อมแห่งนี้เธอเป็นแม่ของบรู๊ค ตอนนี้ร่างกายของเธอดูอ่อนแอและเจ็บป่วยไม่แข็งแรง ข้างกายเธอมีเด็กหญิงตัวเล็กวัยไล่เรี่ยกันกับน้องสาวของเคนเนท
" สวัสดีจ้าเอ็มมี่ " เธอกล่าวทักทายเด็กหญิงตัวเล็กคนนี้เช่นกัน
" สวัสดีครับ " ทั้งอลันและเคนเนทต่างเอ่ยคำทักทาย
" สวัสดีค่ะพี่คริสตัล " เอ็มมี่น้องสาวของบรู๊ค เด็กหญิงตัวเล็กท่าทางมอมแมมยิ้มแฉ่งให้กับทุกคน
เอเมอร์สัน (Emerson) แม่ของบรู๊ค และน้องสาวเอ็มมี่ (Emmie)
" คุณหนู ได้ข่าวของบรู๊คแล้วเหรอคะ... " เอเมอร์สัน แม่ของบรู๊คกล่าวด้วยเสียงแหบๆ
" ค่ะ เข้าไปคุยข้างในกันก่อนดีกว่านะคะ วันนี้หนูพาเพื่อนอีกสองคนมาเยี่ยมด้วย " คริสตัลยิ้มตอบ
หลังจากนั้นทุกคนก็เข้ามานั่งในกระท่อมไม้เก่าๆ ข้างในค่อนข้างจะรกและเต็มไปด้วยฝุ่น ทั้งสามคนนั่งลงท่ามกลางความเงียบและความรู้สึกสับสน
" ขอโทษด้วยค่ะคุณหนู ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ต้อนรับเลย... " คุณนายเอเมอร์สันพูดขอโทษขอโพย
" ไม่เป็นไรๆค่ะ อย่าลำบากเลยนะ พวกเราตั้งใจมาเยี่ยมเฉยๆ
นี่เอ็มมี่ พี่เอาตุ๊กตาตัวใหม่มาฝากด้วยนะ " คริสตัลพลางหยิบตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวเล็ก แล้วยื่นให้กับน้องสาวของบรู๊ค
" ขอบคุณค่า " เธอรับเอาไปและกอดมัน ยิ้มอย่างดีใจ
" ได้ข่าวคราวของบรู๊คบ้างไหมคะ " แม่ของเธอเอ่ยถามขึ้น
คริสตัลฝืนยิ้มออกมาและมันดูเศร้าสร้อยในแววตา จนอลันก็สังเกตเห็นได้
" ได้ข่าวมาแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้เขา...
บรู๊คเขาตัดสินใจว่าจะไปฝึกฝนตัวเองกับทางสมาคมผู้พิชิต เลยยังไม่กลับมาที่นี่จนกว่าจะสอบผ่านนะคะ "
" จริงเหรอคะ... ถ้าเป็นแบบนั้นคุณพ่อของคุณหนูจะไม่ว่าเอาเหรอคะ "
" คุณพ่อไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ บรู๊คช่วยให้พี่ลาพิสสอบผ่านแล้วด้วยนะคะ ดีใจกันใหญ่เลยล่ะ
พี่ลาพิสก็เลยอยากให้บรู๊คสอบผ่านบ้าง เลยขออนุญาตคุณพ่อให้บรู๊คแล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ "
" ถะ... ถ้าเป็นแบบนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย " คุณนายเอเมอร์สันยิ้มเล็กๆที่มุมปาก สีหน้าเธอดูโล่งใจขึ้น ถึงอย่างนั้นร่างกายเธอก็สั่นอยู่ตลอดเพราะความเจ็บป่วย
อลันเหลือบมองหน้าทั้งสองคนที่กำลังพูดคุยกัน เขาสังเกตเห็นความเศร้าในแววตาของทั้งคู่
คริสตัลพูดคุยและถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ของพวกเขา ต่างฝ่ายต่างดูเกรงอกเกรงใจกันมาก สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ร่ำลากันไป ด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลายของคุณนายเอเมอร์สันแม่ของบรู๊ค และรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็ก
" โห... บรู๊คไปฝึกเป็นผู้พิชิตจริงดิ เจ๋งชะมัดยาด! ฉันน่าจะไปฝึกบ้าง " เคนเนทเดินเอามือไขว้กันบนหัวพูดขึ้นอย่างสบายใจ
" ...... " คริสตัลเดินเงียบขณะกำลังเดินกลับ
ทั้งคริสตัลและอลันต่างดูเงียบผิดปกติ จนทำให้เคนเนทรู้สึกแปลกใจ
" พวกนายทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ ไหงเดินกันเงียบๆ "
" เมื่อกี้... เรื่องโกหกใช่ไหม คริสตัล " อยู่ๆอลันก็พูดโพล่งขึ้นมา
" ...!! " ทำเอาคริสตัลชะงักตกใจจนหยุดเดิน
" ค่ะ... "
" โกหก? อะไรใครโกหก " เคยเนทมองหน้าทั้งคู่ด้วยความสับสนงงงวย
" เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ครับ " อลันหันมาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
คริสตัลกัดฟันยืนตัวแข็งทื่ออยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับทั้งคู่ฟัง
หลังจากการสอบจบสิ้นไป และเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ทำให้ทางสหพันธ์ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงการกระทำที่ผิดปกติของบรู๊คในตอนนั้น
ถึงแม้ว่าคณะกรรมการและผู้ดูแลการสอบทั้งหมดจะไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลาพิสและบรู๊ค แต่พวกเขาก็เลือกที่จะสอบปากคำทั้งคู่
ในตอนที่บรู๊คได้สติ รู้สึกตัวขึ้นในสถานพยาบาลของเมืองหลวง ก็ถูกผู้ตรวจสอบและเหล่าผู้พิทักษ์เข้ามาสอบปากคำ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูดอะไร
ทางหน่วยแพทย์ เลยขอให้มาสอบปากคำในภายหลังแทน เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อกจากการสูญเสียอวัยวะ และเกรงว่าอาจได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง แขนขวาของเขาถูกรักษาแต่ยังไม่หายดี มันเต็มไปด้วยผ้าพันแผลและเลือดที่ซึมออกมา และอาการของบรู๊คยังดูอ่อนเพลียอยู่มาก
จากนั้นทางผู้ตรวจสอบจึงตัดสินใจ มาสอบปากคำของลาพิสแทน ซึ่งทางลาพิสเองก็ไม่เอ่ยปากบอกอะไรเช่นกัน เธอพูดแค่ว่า " มันเป็นอุบัติเหตุ "
ทำให้ทางผู้ตรวจสอบไม่ติดใจอะไร ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังสงสัยในเรื่องนี้อยู่ก็ตาม เพราะมีเรื่องของเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงวุ่นวายกับเรื่องการก่อการร้ายที่ไม่คาดคิดนั้นมากกว่า
" มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วตอนนี้บรู๊คกับลาพิส เป็นยังไงกันบ้าง " อลันถามอย่างจริงจัง
" พี่ลาพิสไม่เป็นไรแล้วค่ะ ตอนนี้เธอดูเงียบๆและตั้งใจมากกว่าเดิม ก็ใกล้จะถึงพิธีเข้ารับหน้าที่แล้ว "
" ส่วนบรู๊ค... "
" ....? "
" ตอนนี้ยังไม่มีใครพบตัวเขาเลยค่ะ... "
" บรู๊คหายตัวไปเหรอครับ? " อลันคิ้วขมวดขึ้นทันที
" นี่คุยเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย ฉันตามไม่ทันแล้วนะ " เคนเนทแทบควันออกหู สมองเขาทำงานไม่ทัน
" ค่ะ... บรู๊คหายตัวไปจากสถานพยาบาลไม่กี่วันมานี้เอง ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน "
" เพราะอย่างนี้เลยสร้างเรื่องขึ้นมา บอกกับคุณแม่ของบรู๊คใช่ไหม "
" ใช่ค่ะ... แต่ที่บ้านเองก็ไม่มีใครเอะใจ เพราะพี่ลาพิสพูดขึ้นมาว่าไม่ต้องการคนติดตามอีกแล้วหลังจากสอบผ่าน และเธอก็บอกกับคุณพ่อว่าเป็นคนอนุญาตให้บรู๊ค มีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ "
" ลาพิสพูดแบบนั้นเองเลยเหรอ "
" เธอยังให้แฮโรลด์ คอยส่งอาหารและของใช้ต่างๆกับครอบครัวของบรู๊คด้วย "
" ลาพิสใจดีมากเลยนะครับ " อลันยิ้มขึ้นเล็กน้อย
" โห... ไม่คิดว่ายัยนั่นจะเป็นคนดีขนาดนี้เลย "
" นี่เคนเนท! " คริสตัลดุขึ้นมาเสียงดัง
" ก็มันจริงนี่นา "
ทั้งสามคนเดินผ่านเส้นทางกลับ ผ่านป่ายามเย็นใกล้ค่ำกันไปอย่างเงียบๆ บทสนทนากล้ำกลืน ไม่มีใครรู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ
" แล้ว... ทางสหพันธ์จะหาตัวบรู๊คเจอหรือเปล่าครับ ร่างกายแบบนั้นคงใช้ชีวิตลำบากมาก " อลันพูดเสียงแผ่ว
" ฉันก็ยังไม่ได้ข่าวอะไรจากทางนั้นเลยค่ะ ก็หวังว่าเจ้าตัวจะกลับมาเอง "
" วันนี้ทั้งสองคนค้างคืนที่บ้านก็ได้นะคะ นี่เย็นจนใกล้มืดแล้วล่ะ " คริสตัลเอ่ยปากชวนเพื่อนขึ้นมา
" จะดีเหรอครับ "
" ไม่เป็นไรหรอก บ้านฉันมีห้องพักเยอะเลย พักกันได้ตามสบายนะ "
" อืม... ตกลง งั้นพรุ่งนี้จะได้อยู่รอเยี่ยมลาพิสด้วยนะ "
" จะโดนตาลุงนั่นย่องมาทำอะไรหรือเปล่าเนี่ย "
" ฉันจะให้คุณแฮโรลด์หิ้วตัวไปกลางดึกเลยค่ะ "
" นี่คริสตัล! ไม่เป็นห่วงเพื่อนเลยนะ "
" เชอะ!! "
" สองคนนี้เจอกันทีไร ทะเลาะกันทุกทีเลย " อลันเห็นทั้งคู่ทะเลาะงอนกันไปมาเลยหัวเราะชอบใจ
" ฮะๆ " สุดท้ายแล้วอลันกับเคนเนท ก็ตกลงที่จะพักค้างคืนกันในคฤหาสน์ของตระกูลเรนนาร์ด ตามคำเชิญของคริสตัล
แม้ว่าเรื่องราวที่ผ่านมา เป็นบาดแผลที่บอบช้ำทางใจของพวกเขา แต่วันนี้ทั้งสามคนที่มาพบกันพร้อมหน้าก็ยิ้มแย้มขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง...
อาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าลง เมฆสีครามบ่งบอกถึงความเศร้าและฝนหลงฤดูที่กำลังจะโปรยปรายลงในอีกไม่ช้า
ทิศเหนือนอกเขตตัวเมืองของเมดิโอลัน เส้นทางขนส่งสินค้า รถม้ากำลังลากเกวียนสินค้าพลันหยุดชะงัก อาชายกเท้าขึ้นส่งเสียงร้องของมันเบาๆ
" หยุดดด..... " บุรุษผู้กุมบังเหียนหยุดรถม้าของเขาเอาไว้ ขณะมองเห็นบุคคลผู้หนึ่งยืนโบกมือให้
พ่อค้าเจ้าของรถม้า เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วนเหลือบมองลงมายังเส้นทางข้างหน้า ที่มีคนยืนขวางเขาอยู่ตอนนี้
" ต้องการอะไร " เขาเอ่ยถามชายผู้คลุมผ้าปกปิดใบหน้าไว้อย่างมิดชิด
" ขออาศัยรถไปด้วย จะได้ไหม " เขาพลันเปิดผ้าคลุมศีรษะออก เด็กหนุ่มท่าทางอ่อนเพลียมีแววตาที่ เลื่อนลอยจ้องมองพ่อค้าคนนั้นตาเขม็ง
ฝนพรำลงมาเบาๆราวกับร่ำไห้ เม็ดฝนเปียกชุ่มใบหน้าและเส้นผมของเขา พ่อค้าเหลือบไปเห็นว่าใต้ผ้าคลุมตัวของเด็กหนุ่มคนนี้ ทางด้านขวานั้นมันว่างเปล่า
" แขน... ไปโดนอะไรมา "
" ความหลงผิด... " เด็กหนุ่มเอ่ยเรียบๆสายตาของเขาดูเศร้าโศก
" ขึ้นมาเถอะเห็นแก่คนพิการ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ๆ "
" ขอบคุณ " เขาก้มหน้าตอบ และพลันก้าวขาขึ้นเกวียนของพ่อค้า
" นายชื่ออะไร "
" บรู๊ค... "
" จะไปไหนล่ะบรู๊ค "
" ฟาลอน... "
" ฟาลอน... ฉันไปส่งสินค้าอยู่เป็นประจำ ที่นั่นมันเลวร้ายกว่าที่เคยได้ยินมาอีกนะ แน่ใจแล้วหรือว่ายังอยากไป "
" แน่ใจ... ที่นี่... ไม่เหลืออะไรให้ฉันอีกแล้ว " บรู๊คเอ่ยคำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและแววตาที่เศร้าหมอง
" ตามใจ... ไปได้!! " พ่อค้าพลันกระตุกบังเหียนม้า ส่งสัญญาณออกเดินทางขึ้นเหนือไป
ในคืนที่ฟ้ามืดหม่นและฝนโปรยปราย เด็กหนุ่มผู้แตกสลาย ตัดสินใจเลือกเดินในเส้นทางที่มุ่งไปสู่....
ผู้คนต่างแหงนหน้ามองท้องฟ้า ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง หลักฐานแห่งการทรยศซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ต่อหน้าภาพแห่งความทรงจำดึงฉันดำดิ่งลึกลงไป
ความเชื่อของฉันที่มีถูกชะล้างลงด้วยสายฝน และศรัทธาอันมืดบอดก็พังทลายลง
ความรู้สึกหลงผิดพังพินาศไป ถูกจารึกเอาไว้ในโชคชะตาอย่างไร้เหตุผล...
จบตอน.