การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ - Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย,ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ดราม่า,แอคชั่น,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ต่างโลก,เวทมนตร์,แอคชั่น,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ โดย 1ValD @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

การผจญภัยที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจลึกลับของโลกแห่งศิลา และความปราถนาอันยากจะหยั่งถึงของจิตใจมนุษย์

ผู้แต่ง

1ValD

เรื่องย่อ

Note

นิยายเรื่องนี้อ่านฟรีจนจบ จะอัพเดทตอนใหม่ 2-3 วันต่อหนึ่งตอนนะครับ (ถ้าไม่ติดอะไร) 

สำหรับตอนพิเศษจะลงในอีบุ๊คหลังนิยายจบแล้ว และจะทำการ Edit ต้นฉบับครั้งใหญ่ก่อนทำเป็นอีบุ๊ค

คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแฟนตาซี แนวดราม่าผจญภัย อาจจะมีเนื้อหาการบรรยายถึงการต่อสู้และฉากน่ากลัวในบางช่วงบางตอน และโปรดระวังเนื้อหาที่อาจมีความตึงเครียด 

นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ชื่อตัวละคร สถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้นในนิยาย 
นิยายเรื่องนี้เป็นออริจินัลของผู้แต่ง
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ All rights reserved




ANIMA 

A thousand years ago

Anima stone was born in this world

Nobody knows where it came from or how it was born. They express their dominance throughout the world. From the land and sky to the deepest ocean.

In that Era, humanity discovered power. Learn how to use Anima power.

The Six Sages of Origin have various sorts of power. They polished a gemstone made of crystalline anima stone. To utilize their abilities and categorize them into six sorts. Until now, they have called

The Six Archetype



เมื่อหลายพันปีก่อน

ศิลาอนิม่าถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามันมาจากแห่งหนใดหรือกำเนิดขึ้นได้อย่างไร มันสำแดงพลังงานมหาศาลปลดปล่อยออกมา กระจายไปทั่วพื้นพิภพและท้องนภา ยันบาดาลลึกสุดมหาสมุทร

มนุษย์ในยุคนั้นได้ค้นพบขุมพลังและเรียนรู้นำมันมาศึกษา จนกระทั่งสามารถใช้งานแหล่งพลังงานจากศิลาอนิม่า ปราชญ์ทั้งหกผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง ได้เจียระไนอัญมณีจากศิลาอนิม่าที่ตกพลึก เพื่อการใช้งานขุมพลังของมัน และแบ่งแยกรูปแบบของพลังเอาไว้หกประเภทด้วยกัน โดยถูกเรียกขานต่อกันว่า

อาเคไทป์ทั้งหก


The Anima Stone's history is still a mystery today. Though its energy has been harnessed by humans, their true nature remains mostly unknown.
This is a story about the adventures of young boys and girls as they take The Archetype Selection Exam.

Alun. A young boy dreams of becoming an explorer in order to explore a vast world.
And search for his missing mother. What will be the fate of this young boy? 

Welcome to the world of Anima's Stone 

จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เรื่องราวของศิลาอนิม่ายังคงเป็นปริศนา มนุษย์เรียนรู้ที่จะใช้งานพลังงานเหล่านั้น แต่ทว่าก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของมันได้

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหนุ่มสาว ในการเข้ารับการสอบคัดเลือกอาเคไทป์

อลัน เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากเป็นนักสำรวจ เพื่อที่จะออกสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ และเดินทางตามหาแม่ของเขาที่หายตัวไป โชคชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเช่นไร ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของศิลาแห่งมนายตนะ

Impelle` Anima

สารบัญ

Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 1 ลำนำแห่งเจตจำนง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 2 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 3 เพื่อนใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 4 หมากบนกระดาน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 5 คำเตือนจากรัตติกาล,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 6 สนามของผู้ล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 7 ผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-บทนำ แนะนำแผนที่และตราสัญลักษณ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 8 คลื่นใต้น้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 9 เส้นทางที่ไร้การหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 10 ความสามารถเฉพาะตัว,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 11 คำบัญชาของผู้ควบคุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 12 ปะทะผู้พิทักษ์,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 13 ผู้บุกรุก,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 14 จับกุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 15 หลุมศพสองหลุม,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 16 พวกพ้อง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 17 พันธะแห่งโชคชะตา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 18 เจตจำนงของศิลา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 19 บุคคลและการตามหา,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 1 การสอบคัดเลือกอาเคไทป์ บทที่ 20 ความจริง (จบพาร์ทที่หนึ่ง),Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 21 สายลมหวนคืน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 22 อัญมณีสีดำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 23 สายน้ำและคำทำนาย,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 24 นครลืมเลือน,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 25 หลงผิด,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 26 ตื่นขึ้น,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 27 ล่อลวง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 28 ปฐมบทใหม่,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 30 เลือนราง,Impelle` Anima ปรารถนาแห่งมนายตนะ-Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 31 ความฝันอันยาวนาน

เนื้อหา

Part 2 จอกแห่งความสัตย์จริง บทที่ 29 รุกล้ำ


บ่ายวันนั้น... ณ หมู่บ้านดาร์ย่า 

แสงยามบ่ายส่องกระทบพื้นน้ำ คลื่นกระเพื่อมขึ้นเบาๆขณะที่เรือลำเล็กเคลื่อนตัวมา เข้าจอดเทียบท่าที่กระท่อมของแม่เฒ่าไลลา หญิงสาวผู้หนึ่งก้าวเท้าเดินผ่านประตูของกระท่อม

" เรียกพวกเรามาทั้งคู่ มีอะไรให้เรารับใช้เหรอคะแม่เฒ่า " 

" แอนนี่... อาร์ตี้... พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ ข้าจะให้พวกเจ้าเดินทางเข้าไปยังนครลืมเลือน " หญิงชราตาบอดนั่งหันหลังให้พวกเขา ขณะเอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ 


Arty (อาร์ตี้ - อดีตนักสำรวจของเมดิโอลัน) 

อาเคไทป์ : นักสำรวจ ระดับตรา : เงิน (อดีต) 

Annie (แอนนี่ - อดีตผู้พิชิตกองทัพเมดิโอลัน) 

อาเคไทป์ : ผู้พิชิต ระดับตรา : เงิน (อดีต) 

อาร์ตี้และแอนนี่ สองพี่น้องชาวดาร์ย่าเป็นเด็กกำพร้าที่เป็นผลมาจากสงครามระหว่างสองประเทศเมื่อหลายปีก่อน แม่เฒ่าไลลาเลี้ยงดูพวกเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ฝึกฝนจนชำนาญในการเดินป่าและสำรวจพื้นที่ อีกทั้งยังมีฝีมือในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม 

ทั้งคู่จึงเปรียบเสมือนลูกบุญธรรมของแม่เฒ่าไลลา พวกเขารักและภักดีต่อหญิงผู้มีพระคุณคนนี้ ในอดีตทั้งสองคนเคยเป็นอาเคไทป์ที่มีฝีมืออันยอดเยี่ยม แต่พวกเขาก็ตัดสินใจออกจากเมืองหลวงมาคอยดูแลหญิงชราผู้นี้ เพื่อทำภารกิจออกสำรวจ และหาข้อมูลข่าวสารอย่างลับๆ คอยจับตามองความผิดปกติของสถานการณ์ระหว่างชายแดนดาคาห์รี และสืบหาตำนานที่เกี่ยวข้องสมบัติโบราณ

" จะให้พวกเราเข้าไปทำสิ่งใดครับ ที่นั่นพวกเราเคยตรวจดูจนถี่ถ้วนแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไร " อาร์ตี้ ชายหนุ่มนักสำรวจในชุดหนังสีน้ำตาลเข้ม พร้อมด้วยอุปกรณ์เดินป่า หน้าไม้และเชือกบ่วงบาศ 

อาร์ตี้ อดีตนักสำรวจผู้มากฝีมือ มีความสามารถในการเดินป่าและสำรวจเส้นทาง เคยเป็นนักสำรวจตราเงินของเมดิโอลัน ออกเดินทางมาแล้วทั่วทั้งทวีปและหลายหมู่เกาะ 

" ข้าต้องให้พวกเจ้านำทางพาเคนเนทและเพื่อนของเขาไปยังนครลืมเลือน " หญิงชราเอ่ย 

" เคนเนท เจ้านั่นพึ่งจะได้เป็นอาเคไทป์ไม่ใช่เหรอคะ แบบนี้การเข้านครลืมเลือนยิ่งอันตรายไปกันใหญ่ " แอนนี่ หญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมง สวมเสื้อสีดำแขนสั้นที่เต็มไปด้วยซองพกอาวุธ ทั้งมีดสั้น ดาบยาวและอาวุธพกอีกมากมาย

แอนนี่ เธอเป็นอดีตผู้พิชิตแห่งกองทัพเมดิโอลัน หญิงสาวผู้มีฝีมืออันยอดเยี่ยมในการใช้ศาสตราวุธ ทหารเก่าระดับตราเงิน แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของกองทัพ

" ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พาเข้าไปคงไม่ใช่เรื่องยาก ลิงพวกนั้นไม่ทำอันตรายต่อคนที่ไม่มีพลังอนิม่า แต่ตอนนี้ผมเกรงว่าเจ้านั้นคงตกเป้าจู่โจมแน่ๆ " 

" ถ้าเป็นเรื่องที่น้องสาวของเขาหายตัวไป ให้พวกเราเข้าไปตามหาเองดีกว่าไหมคะ " 

" ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็คงไม่ฟังพวกเจ้าหรอก " 

" แล้วเพื่อนของเขาอีกคนที่ท่านว่า... " 

" พาพวกเขาเข้าไปทั้งคู่ " แม่เฒ่าไลลาพูดอย่างหนักแน่น 

" ..... " ทั้งสองคน ต่างก็เงียบและมองหน้ากันด้วยความสงสัย

" ทราบแล้วครับแม่เฒ่า พวกผมจะไปเตรียมตัว " อาร์ตี้พลันพยักหน้ารับปาก และก้มหน้าก้มตาออกไปเงียบๆ พร้อมกับแอนนี่ที่ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่


ขณะที่ทั้งสองเดินตามกันออกมาจากกระท่อมของหญิงชราตาบอด เพื่อกลับไปเตรียมตัวออกเดินทาง 

" ไม่เอะใจอะไรบ้างเลยเหรอ " แอนนี่ก็ถามขึ้น 

" เรื่องเคนเนทน่ะ ไม่... น้องสาวของเขาหายตัวไป ยังไงคนอย่างเขาคงต้องออกไปตามหาอยู่แล้ว " อาร์ตี้ตอบกลับทันที 

" ไม่ใช่เรื่องนั้น... มันน่าแปลกที่ให้พวกเราพาเด็กพวกนั้นเข้าไปในนครลืมเลือน 

ทำไมแม่เฒ่าถึงสงสัยว่ามีน่าจะหายตัวไปที่นครลืมเลือน ทำไมถึงต้องพาทั้งเคนเนทและเพื่อนเขาไปด้วย 

ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เป็นอาเคไทป์ แน่นอนว่าลิงพวกนั้นไวต่อพลังอนิม่า มันต้องเข้าจู่โจมพวกเขาแน่ 

ถ้าเป็นแบบนั้นลำพังฉันคนเดียวช่วยพวกเขาไม่ไหวหรอกนะ มีหวังได้ตายกันหมด " แอนนี่พูดเสียงแข็ง เธอรู้ถึงสถานการณ์ที่อันตรายต่อการเดินทางอย่างชัดเจน ประสบการณ์ของพวกเขานั้น บอกได้ว่าเรื่องนี้มีความเสี่ยงสูงมาก 

" ..... " ชายหนุ่มพี่ชายของเธอเงียบไปชั่วครู่

" อีกเรื่องหนึ่ง... ชายลึกลับที่เข้ามาหาแม่เฒ่าในคืนนั้นเป็นใครกันแน่พวกเราก็ยังไม่รู้ หลังจากนั้นน้องสาวเคนเนทก็หายตัวไปดื้อๆ นายไม่สงสัยอะไรมั่งหรือไง " 

" เธอกำลังสงสัยแม่เฒ่าไลลาอยู่สิ " 

" ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น อาร์ตี้ " 

" บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราต้องรู้ เลิกสงสัยในตัวแม่เฒ่าได้แล้ว ทำสิ่งที่ตัวเองต้องทำก็พอ " 

" ...รู้แล้ว ฉันแค่จะเตือนเอาไว้ " 

สองพี่น้องเดินต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยามเมื่อตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ใต้ผืนป่าอันเขียวขจีนั้นเบื้องหลังภายใต้ความงดงามของมัน อันตรายอันใดที่แฝงตัวอยู่ลึกเข้าไปในพงไพรมืดมิดแห่งนี้ 




หลังจากที่เคนเนทได้รับจดหมายด่วนจากหมู่บ้านของตน ทั้งสองคนก็มุ่งหน้าตรงไปยังสถานีรถไฟ และออกเดินทางไปยังหมู่บ้านดาร์ย่าในบ่ายวันนั้นทันที 

บนขบวนรถไฟ ทั้งสองคนต่างนั่งนิ่งเงียบไม่ปริปากพูดคุยกันเป็นเวลานาน เด็กหนุ่มที่ดูร่าเริงและบางครั้งเขาก็พูดน้ำไหลไฟดับ แต่ตอนนี้เขากลับเงียบขรึมและมีสีหน้าตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา

อลันเองก็เช่นกัน เขามีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเป็นห่วงมีน่าที่หายตัวไปจนเป็นกังวล ถึงอย่างนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนของเขา ที่นั่งนิ่งเงียบจนดูเหมือนเก็บบางอย่างเอาไว้ในใจ สีหน้าแววตาที่สื่อออกมานั้นดูเป็นห่วงน้องสาวตัวเองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

" เราจะไปตามหามีน่ากันยังไงดี " 

" พวกเราคงต้องเข้าไปตามหาในป่า ฉันมีคนรู้จักที่จะพอนำทางให้เราได้ " 

" ใครเหรอ? " 

" เพื่อนสมัยเด็กของฉันเอง อาร์ตี้...

เขาเป็นลูกบุญธรรมของแม่เฒ่าไลลา อายุมากกว่าฉันหลายปีอยู่ พวกเราโตมาด้วยกันน่ะ " 

" ดีเลย ถ้ามีคนช่วยกันเยอะๆ พวกเราจะได้หามีน่าเจอไวๆ " 

" คงมีแต่อาร์ตี้คนเดียวเท่านั้น ที่ยอมช่วยพวกเรา " 

" ทำไมล่ะ คนในหมู่บ้านทุกคนก็ดูใจดีมากเลยนะ พวกเขาต้องช่วยเราตามหามีน่าอยู่แล้วล่ะ "

" คนส่วนมากจะเข้าป่าแค่บริเวณชายเลนใกล้กับแม่น้ำเท่านั้น ในหมู่บ้านฉัน...

ไม่มีใครกล้าเข้าไปในป่าลึก ถึงแม้ว่าพวกเราจะอยู่กับธรรมชาติได้เป็นอย่างดีก็เถอะ การรุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตของพวกลิงอันตรายมาก ความตั้งใจที่จะเข้าไปในถิ่นของพวกมัน เท่ากับว่าเหยียบเข้าไปใกล้ความตาย " เคนเนทเล่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

" ...อึก " อลันกลืนน้ำลายและชักสีหน้าทันที

" ฉันถึงได้บอกว่า อาจจะมีแค่อาร์ตี้เท่านั้นที่จะช่วย เขาเป็นนักสำรวจที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน รู้วิธีเข้าออกป่าได้โดยไม่เป็นอันตราย "

" นายไม่ต้องไปกับฉันก็ได้ มันอันตรายเกินไปฉันไม่อยากให้นายต้องมาเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกเรา " 

" ผมจะไปด้วย! " อลันตอบเสียงแข็ง 

" มีน่าหายตัวไปแบบนี้ จะให้ผมรออยู่เฉยๆได้ยังไง มีน่าและทุกคนใจดีกับผมมาก อย่างน้อยขอให้ผมได้ช่วยอะไรบ้างเถอะ "

" ...... " เคนเนทหลับตาลงคิดอย่างหนัก เขาเห็นสีหน้าและแววตาที่มุ่งมั่นของเพื่อนในยามนี้ ทำให้เขาปฎิเสธความรู้สึกนี้ไม่ได้

" ขอบคุณนะ... อลัน "


เด็กหนุ่มทั้งสองเดินทางมาถึงยังหมู่บ้านดาร์ย่า ในช่วงเย็นวันนั้น หมู่บ้านในขณะนี้ดูเงียบงันและเคร่งเครียด

ชาวบ้านหลายคนต่างจับกลุ่มพูดคุยหารือกัน และเป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่ได้มีเหตุการณ์อันน่าตื่นตระหนกแบบนี้เกิดขึ้น หมู่บ้านอันเงียบสงบและผาสุก อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน นับแต่ช่วงเวลาสงครามในครั้งก่อน แต่บัดนี้ความหวาดผวาจากเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนวิตกกังวล

" นี่... คิดว่าเด็กนั่นยังปลอดภัยดีอยู่ไหม ผ่านมาวันหนึ่งแล้วนะ "

" เด็กผู้หญิงคนนั้นหลงเข้าไปได้ยังไง... " 

" คนในหมู่บ้านเราน่าจะรู้ดีเรื่องป่าลึกนี่นา " 

" หรือว่า... จะเป็นคำสาปอนิม่า " 

ผู้คนต่างซุบซิบนินทาพูดคุยกันเสียงดัง จนแว่วมาเข้าหูของอลัน ทำให้เขาเดินมองซ้ายขวาอย่างหวาดหวั่น 

ในขณะที่เคนเนทนั้นกลับไม่พูดไม่จา ไม่แม้จะกล่าวทักทายใคร เขาตั้งหน้าตั้งตาเดินไปยังบ้านตนเอง เพื่อเตรียมตัวและอุปกรณ์ในการเดินป่าในทันที

เวลานี้แสงอาทิตย์กำลังเลือนรางไป ใกล้จะค่ำมืดเต็มที " จะไปตอนนี้เลยเหรอ " อลันถามขึ้นทันที

" ฉันจะไปดูลาดเลาหาจุดเกิดเหตุก่อน ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น " 

และในเวลานั้นเอง... ที่อาร์ตี้และแอนนี่ได้เดินเข้ามาหาทั้งสองคน พวกเขาเตรียมตัวมาพร้อมสำหรับการเดินทางเข้าป่า 

" มาแล้วหรือเคนเนท " อาร์ตี้ทักขึ้น 

เคนเนทหันไปมองพวกด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่ทั้งสองคนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีราวกับรู้ว่าจะต้องเข้าไปในป่าลึก ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจ

" พวกนายรู้เรื่องกันแล้วใช่ไหม "  

" ใช่ "

" คิดดีแล้วใช่ไหม ที่จะเข้าป่าไปตามหาตัวน้องสาว นายพึ่งจะเป็นอาเคไทป์ คงรู้นะว่าจะเข้าไปเดินเล่นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว " ในขณะที่แอนนี่พูดขึ้นเสียงแข็ง

" น้องสาวฉันหายตัวไปแบบนี้ ให้ตายยังไงฉันก็ต้องไป ฉันรู้ว่ามันเสี่ยงอันตรายแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไปตามหาตัวมีน่าให้เจอ " เขาตอบอย่างหนักแน่น

" แล้วเพื่อนนาย... " 

" ไม่ต้องห่วงอลันยังไม่ได้เป็นอาเคไทป์เต็มตัว เขาไม่มีพลัง " 

" ว่าไงนะ...? " 

ทั้งอาร์ตี้และแอนนี่สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ทั้งสองคนต่างแปลกใจและสงสัยขึ้น พวกเขามองหน้าเหมือนจะรู้ถึงความผิดปกติของเหตุการณ์นี้ในทันใด 

' น่าแปลกมาก ที่เด็กคนนี้ไม่มีพลังอนิม่า ' 


" ขอโทษนะครับ ทำไมถึงบอกว่าอาเคไทป์เข้าไปในป่าไม่ได้ล่ะ " อลันถามอย่างสงสัย 

" คนที่มีพลังอนิม่าในตัวจะเป็นที่ดึงดูดพวกลิงให้เข้ามาจู่โจม พวกมันไวต่อพลังอนิม่ามาก 

นั้นคือสาเหตุที่อาเคไทป์ส่วนใหญ่เลี่ยงที่จะทำการสำรวจป่าแห่งนี้ " อาร์ตี้อธิบาย

" ถ้าแบบนั้นให้ผมช่วยด้วยอีกคน คงไม่เป็นปัญหาใช่ไหมครับ " อลันเอ่ยอย่างมุ่งมันเขาเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น

" จริงอยู่ที่คนที่ไม่ได้เป็นอาเคไทป์ จะเข้าป่าได้โดยไม่ถูกจู่โจม แต่... ถ้าเข้าใกล้เขตนครลืมเลือนอาจจะมีสิ่งที่แย่กว่าพวกลิง " 

" ..... " เคนเนทเหลือบตามองเพื่อนของเขาอย่างเงียบๆ เขาคิดอย่างหนักจนคิ้วขมวด 

" คำสาป... " อาร์ตี้พูดอย่างเยือกเย็น 

" คำสาป? " 

" เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมานานว่า ผู้ใดที่หลงเข้าไปในป่าลึก จะถูกคำสาปล่อลวงให้พวกเขาหลงเข้าไปในเมืองโบราณ 

หายตัวไปอย่างลึกลับไม่มีวันกลับออกมา ไม่มีใครกล้าพูดถึงและไม่มีผู้ใดกล้าออกตามหา ถึงได้เรียกกันว่า นครลืมเลือน... " แววตาของอาร์ตี้เยือกเย็นและสุขุม มันสื่อโดยนัยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องเล่า แต่มันเป็นจริงตามที่ร่ำลือกัน 

" อึก... " อลันถอดสีหน้าอย่างฉับพลัน

" ถ้ามีน่าแค่หลงป่า พวกเราคงจะหาตัวเจอได้ไม่ยาก แต่ถ้า... " 

" พอได้แล้ว!!

" ..... " เสียงตวาดของเคนเนททำให้ทุกคนหยุดชะงัก และสร้างความตึงเครียดขึ้นในทันที เขาหอบหิ้วอุปกรณ์และมุ่งหน้าเดินออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

" เป็นคนของหมู่บ้านนี้น่าจะรู้ดี ถ้าแค่หลงป่าคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้าหลงเข้าไปในนครลืมเลือน พวกฉันคงหมดทางช่วย... " แอนนี่พูดขึ้นอย่างหนักแน่น

อลันเริ่มวิตกอย่างหนัก เขามองตามเพื่อนที่เดินออกไปอย่างเป็นกังวล ในใจได้แต่เฝ้าภาวนาขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับมีน่าเลย


ทั้งสี่คนพากันออกเดินทางลึกเข้าไปในป่า ผ่านแม่น้ำและป่าชายเลนของหมู่บ้านไปยังต้นน้ำ

" ครืนนน... " ฟ้าคำรามดังขึ้นพร้อมกับแสงของวันที่กำลังจะหมดไป ยามนี้ป่าเริ่มดูมืดมิดและวังเวง เสียงของสัตว์นานาชนิดต่างส่งเสียงร้องดังระงมไปทั่ว

" ตรงนี้แหละที่มีร่องรอยของคนผ่านไป " อาร์ตี้พลันชี้ให้ทุกคนสังเกตร่องรอยจางๆ เหมือนใครบางคนขึ้นจากน้ำบริเวณนี้ และก้าวเท้าเดินต่อไปจนพื้นดินดูชื้นแฉะเป็นทาง 

" นั่น... เจ้าโคบี้ใช่ไหม " อลันมองไปยังแม่น้ำในเวลานั้น เขาเห็นลูกมานาตีตัวเล็กที่ว่ายวนไปวนมาดูท่าทางร้อนใจ

" ทำไมมีน่า... ถึงได้เข้าไปในป่ากันนะ เธอไม่ควรขึ้นจากน้ำแล้วเดินเข้าไป " เคนเนทเริ่มกังวลอีกครั้ง 

" น่าแปลก... นี่ยังไม่ถึงเขตนครลืมเลือน " แอนนี่เริ่มสงสัยถึงสถานการณ์

" ช่วยไม่ได้ พวกเราคงต้องรีบแกะรอยตามไป ก่อนที่ฝนจะตกลงมาและลบร่องรอยไปหมด " 

" ข้างหน้าคือเขตของเมืองโบราณแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปลึกกว่านี้ ฉันขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าบุ่มบ่ามทำอะไรโดยไม่คิด

ในเมืองนั้นพวกลิงตัวผู้น่ะ แข็งแรงยิ่งกว่ามนุษย์ พิษของมันร้ายแรงยิ่งกว่าอะไร แค่โดนข่วนหรือกัดเพียงครั้งเดียว พิษจะทำให้เป็นอัมพาตและหัวใจอาจจะหยุดเต้นได้ทันที " อาร์ตี้เตือนถึงสิ่งที่พวกเขาควรระวัง

" ถ้าเจอพวกมันแค่ตัวสองตัวคงไม่มีปัญหา หากมันจู่โจมเข้ามาฉันจะฆ่ามัน พวกนายคอยระวังตัวเองอย่าเข้ามาเกะกะก็แล้วกัน 

ดูท่าทางว่าจะไม่มีฝีมือต่อสู้กันด้วยซ้ำ ฉันไม่มีเวลาไปปกป้องพวกนายหรอกนะ " แอนนี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง 

" ครับ... ผมจะระวัง " 


ฟ้าเริ่มมืดลง... อาร์ตี้หยิบตะเกียงขนาดเล็ก เพื่อใช้ส่องแสงนำทาง เขาเดินตามร่องรอยที่หลงเหลืออยู่เข้าไปลึกขึ้น จนกระทั่งเริ่มมองเห็นซากปรักหักพังของอาคารเก่าๆ 

" เปรี้ยง!! " ฟ้าผ่าขึ้นดังสนั่น แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นในป่าลึกไปชั่วขณะ ฝนเริ่มตกโปรยปรายลงมาท้องฟ้ามืดมิดและอึมครึม ไม่นานมันก็ตกลงมาห่าใหญ่พร้อมกับเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า กลบเสียงของสัตว์ทุกชนิดจนเงียบสงิท มีเพียงแค่เสียงฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมา พร้อมกับมวลน้ำที่ชโลมผืนดินจนชุ่มฉ่ำไปทุกจุด

" ฝนตกจนได้ร่องรอยหายไปหมด... แต่คงไม่ต้องคิดต่อแล้วว่ารอยเท้านั้นไปทางไหน " อาร์ตี้แหงนหน้ามองไปเบื้องหน้าสถานที่ปรักหักพัง มันคือเศษซากที่หลงเหลืออยู่ของนครลืมเลือน... 

" ครืนนน... " 

แอนนี่หยิบมีดพกของเธอออกมา เตรียมพร้อมไว้ในทันที ขณะที่รอบข้างนั้นฝนห่าใหญ่บดบังวิสัยทัศน์เอาไว้เกือบทั้งหมด 

" พวกเรา... รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของพวกมันแล้ว ถึงจะยังไม่มีวี่แววแต่อย่าพึ่งชะล่าใจไป " อาร์ตี้เอ่ยเรียบๆ ขณะที่สายตาจ้องเขม็งเข้าไปยังเมืองโบราณเบื้องหน้าของเขา

" ฝนตกหนักขนาดนี้แค่เดินตามทางยังลำบาก จะเข้าไปได้ยังไง " แอนนี่พูดต่อ

" ผมคิดว่าพอจะมีวิธีนะครับ จะลองใช้อุปกรณ์ของนักสำรวจช่วยดู " อลันเสนอขึ้นมาในตอนนั้น

" เราใช้พลังอนิม่าที่นี่ไม่ได้ แล้วนายไม่มีพลังไม่ใช่เหรอ? " 

" อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ต้องใช้พลังอนิม่าครับ " 

" ยังไงนะ? " ทั้งอาร์ตี้และแอนนี่ต่างสงสัย 

เขาพลันหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง มันคือแว่นตาของนักสำรวจที่ถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างมิดชิด 

อลันสวมมันบนใบหน้าและสอดส่องสายตามองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นว่ามีคลื่นพลังงานจากสิ่งมีชีวิตมากมายทั้งน้อยใหญ่ บ้างก็อยู่รวมกันเป็นกลุ่มบ้างก็อยู่ตัวเดียวหลบฝนเพียงลำพัง

" เป็นไงบ้างอลันเห็นอะไรไหม " เคนเนทเอ่ยถาม 

" ดูเหมือนว่าผมจะเห็นแค่พวกสัตว์ป่านะ คลื่นพลังที่เห็นมันน่าจะเป็นพลังงานจากสิ่งมีชีวิต "

" อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในการสำรวจใช่ไหม " ในขณะที่พวกเขาแอบซุ่มอยู่หลังเศษซากของอาคาร อาร์ตี้ก็เอ่ยถามขึ้น

ทั้งสี่คนค่อยๆหลบเลี่ยงเข้าไปในบริเวณของเมืองโบราณลึกขึ้นเรื่อยๆ เศษซากเสาหินและโครงสร้างของอาคารถูกรากไม้และเถาวัลย์ปกคลุมเอาไว้ มันกระจายไปทั่วพื้นที่ 

" ดับไฟจากตะเกียงซะ... " 

" ระวังตัวไว้ด้วย บริเวณนี้มีลิงจมูกยาวตัวผู้อยู่เยอะ มันอาจจะโผล่มาตอนไหนก็ได้ " แอนนี่พูดเตือนทุกคน

" พวกเราเดินมาไกลขนาดนี้ยังไม่เจออะไรเลย ไปอยู่ที่ไหนกันนะมีน่า " เคนเนทเอ่ยขึ้นอย่างกังวล 

" เดี๋ยวก่อนครับ ผมว่าผมเห็นคลื่นพลังงานขนาดใหญ่พอๆกับคน อยู่ไกลออกไปข้างหน้านั่น " อลันพูดโพล่งขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังระวังตัวกันรอบด้าน 

" ใช่มีน่าหรือเปล่า อลัน! " 

" ครืนนน... " ฟ้าแลบขึ้นจนปรากฏเป็นแสงวาบสว่างไปทั่ว เม็ดฝนเริ่มซาลงไปขณะนี้วิสัยทัศน์เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

" เอ่อ... คลื่นพลังที่ผมมองเห็น กำลังใกล้เข้ามาหาพวกเราแล้วล่ะ " อลันเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย 

" อะไรนะ...!? " 

" เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมจู่ๆก้อนพลังงานมัน... เพิ่มจำนวนมากขึ้นล่ะ " 

" ถอยออกมาจากตรงนั้น เดี๋ยวนี้!! " แอนนี่ตะโกนลั่น 

" ฮูมมม!!! " เสียงคำรามของลิงตัวผู้ฝูงใหญ่ กระโจนออกมาจากเศษซากของนครลืมเลือน สัตว์ป่าขนาดใหญ่ความสูงกว่าสองเมตรจำนวนมากพุ่งตรงเข้ามาในทันที 

" ตูม! " เศษซากและกองหินแตกกระจายออก กระเด็นตามการเคลื่อนไหวของพวกมัน

" ปึก!! " ซากอาคารถล่มลงมา เศษหินขนาดใหญ่กระเด็นมาโดนหัวของอลันเข้าอย่างจัง  

" อลัน!! " เคนเนทตะโกนลั่นพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาเพื่อนในทันที 

" เคนเนท! ถอยออกมา! " อาร์ตี้ตะโกน 

ในขณะนั้น ลิงตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่เคนเนทในทันที แขนที่ยาวของมันฟาดเข้ามาเบื้องหน้าของเขา ทำให้ร่างของเคนเนทกระเด็นถอยกรูดออกไป ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปทั่งตัวจากการจู่โจม 

' อึก! ถ้าไม่มีพลังผู้พิทักษ์แขนคงหักไปแล้วแน่ๆ ' เขานึกขึ้นในขณะนั้น เสียงหัวใจเต้นดังจนแทบจะทะลุออกมา อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านจนเลือดสูบฉีดมากขึ้น ความตื่นตระหนกเข้าครอบงำทันใด

เวลานี้พวกเขาทั้งหมดกำลังเข้าใกล้ความตาย...  

อลันโดนเศษหินเข้าเต็มแรง สลบลงนอนแน่นิ่งอยู่เบื้องหน้าของทุกคน เลือดไหลอาบนองเต็มพื้น สายฝนพรำนำพาโลหิตอันแดงฉานแทรกซึมไปทั่วพื้นดิน

ไม่ช้าฝูงลิงจำนวนมากก็เข้ามาห้อมล้อมพวกเขา แววตาอันดุดันภายใต้ความมืดนั้น นัยน์ตาก็สะท้อนแสงออกมาสีแดงสด คมเขี้ยวเรียวยาวและลมหายใจอันร้อนผ่าวของพวกมันรุนแรงจนระเหยออกมาเป็นไอ 

ทุกคนพร้อมกันหยุดนิ่งไม่ไหวติง ต่างพากันตกตะลึงจนหน้าซีดเซียว

" พวกเราแย่แน่... " แอนนี่กำมีดในมือเอาไว้แน่น

" ทำไมมันถึงได้ออกมามากมายขนาดนี้ " 

" บ้าเอ๊ย... " 


จบตอน.